คนนึงที่รักมาโดยตลอดแต่ไม่อาจบอกใครได้...ส่วนอีกคนที่ไม่ได้รักและไม่มีทางรัก~จนความสัมพันธ์เริ่มเดินไปถึงจุดเลวร้ายทุกนาที
Lihat lebih banyakช่วงเย็น_ "พี่รินระวังสะดุดหินนะคะ เมื่อกี้พิพิมพึ่งโยนก้อนหินมาทางนี้" เพชรพลอยรีบเอ่ยเตือน ยามเห็นคนท้องก้าวเท้ามาทางสวนข้างบ้าน เธอเกรงว่าอาจเกิดอุบัติเหตุแล้วกระทบแก่ทารกในครรภ์ ยิ่งดูเท่าไหร่ก็ยิ่งเห็นพี่ชายหวงแหนนัก"พี่ซื้อของเล่นมาฝากพิพิมด้วยนะ แต่มาคลินเอาไปไว้ไหนไม่รู้" ก่อนกลับเข้ามาบ้าน เธอบังคับให้สามีหนุ่มพาแวะห้างสรรพสินค้า เลือกซื้อตุ๊กตาบาร์บี้ดั่งที่เด็กหญิงชอบเล่น"ไม่ต้องเดินไปซื้อให้เหนื่อยหรอกริน เธอท้องอยู่นะ เดี๋ยวไอคลินมาบ่นอีก" เอเดนเอ่ยบอก เขาพึ่งวิ่งไล่จับลูกสาววัยเกือบสองขวบ ใบหน้ายังมีเม็ดเหงื่อไหล แต่ภรรยาสาวดันอมยิ้มชอบใจ"คลินไม่บ่นเลย แค่โดนรินบังคับเอง เพื่อหลานหน่ะเดน" รินเซ่รีบพุ่งไปบีบแก้มป่องๆของพิพิม เปรียบเสมือนดวงใจของเอเดนและเพชรพลอย จนเธออยากให้ถึงวันที่คลอดบุตรเร็วๆ อยากรู้ว่ามาคลินจะตื่นเต้นขนาดไหน"ปะป้า..อะอิน...ขะขาา" แต่แล้วเสียงเด็กหญิงก็รีบเรียกชื่อ เพราะรินเซ่ชอบเล่นกับเธอมาตั้งแต่เกิด พยามยืดแขนป้อมๆเขาหาผู้เป็นป้า แต่เอเดนล็อคไว้ไม่อยากให้คนท้องต้องแบกรับน้ำหนักเยอะ"ป้ารินมีน้องอยู่นะพิพิม ป้ารินอุ้มเด็กอ้วนไม่ไหวหรอก" เพชรพลอย
หนึ่งปีผ่านไป_บริษัท Makin Group"สามีบอกให้เลิกไปถ่ายแบบได้แล้วไงครับ...คุณรินเซ่" น้ำเสียงเข้มของสามีหนุ่มกำชับบอก ขณะเคลียร์งานเซ็นต์เอกสารสำคัญบนโต๊ะ หลังได้รับตำแหน่งประธานบริษัทเต็มตัว ปล่อยบิดาให้พักผ่อนช่วยน้องสาวเลี้ยงหลานอยู่บ้านเขาวางแผนแล้วว่าให้ภรรยาสาวลาวงการ เพราะพึ่งทราบว่าเธอตั้งครรภ์อ่อนๆอยู่ แต่โชคดีที่ยังไม่ถึงขั้นมีอาการแพ้ใดใด"คลินคะ....รินพักก็ได้ แต่ต้องรีบกลับบ้านกันนะ รินคิดถึงน้องพิพิมจะแย่แล้ว" น้ำเสียงหวานออดอ้อนบอก เธอเองก็เริ่มติดลูกสาวของเพชรพลอย ช่วยดูแลประหนึ่งลูกตัวเอง ร่างอรชรยังสวยสมบูรณ์แม่ตั้งครรภ์อยู่ ตรงไปนั่งบนตักแกร่งยียวน ลูบคลำตรงเป้าตุงหยอกล้อ"แน่ใจนะว่าอยากกลับบ้านเพราะคิดถึงหลาน" ใบหน้าคมคายอมยิ้มอย่างรู้ทัน เมียรักเริ่มมีอารมณ์หื่นกามตั้งแต่รู้ว่าตัวเองท้อง และเขาก็ชอบด้วยที่ได้ปรนเปรอเธอทุกคืน ฝ่ามือหนาเริ่มล้วงเข้าใต้กระโปรงทรงเอสีครีม แหวกเพนตี้ตัวจิ๋วก่อนส่งนิ้วยาว ทักทายกลีบดอกไม้งาม"คะคลิน..." ดั่งอารมณ์ตอบสนองรวดเร็ว คนท้องรีบหันข้างวางใบหน้าสวยใส่ซอกคอหนา น้ำเสียงกระเซ้าเรียกสามี ทำอีกฝ่ายมีความต้องการตาม"ในห้องทำงานผมก็ค
ช่วงค่ำ_ "ขอบใจนะที่เดนยอมดูกล้องวงจรปิดคืนนั้น" น้ำเสียงหวานของคนที่ยังรู้สึกว่ามีตราบาปได้ละลายหายไป ยามอดีตคนรักได้พูดคุยดีกับเธอ พร้อมยอมรับว่าตัวเองนั่นแหละ ที่ไม่ยอมฟังคำอธิบายบ้าง"เราขอโทษนะสำหรับเรื่องในอดีต ถ้ารู้ว่ามันกล้าวางยาเธอกับไอคลิน ฉันตามไปฆ่ามันตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว" เอเดนพูดน้ำเสียงเบา เขายังมองเห็นเธอเป็นคนเดิม แต่ไม่ใช่ฐานะคนรัก เพราะตอนนี้เขารักเพชรพลอยจนสุดหัวใจแล้ว ถ้าตอนนั้นเขาลดทิฐิลงสักเล็กน้อย คงไม่เสียเวลาทำลายความผูกพันธ์ระหว่างเพื่อนไป ป่านนี้คงหาอะไรสนุกทำร่วมกันนานแล้ว"ไปเป็นไรเลยเดน ตอนนี้เรากับคลินก็รักกันจริงๆด้วยแหละ ต้องขอบใจคืนนั้นเหมือนกัน แค่รู้ว่าเดนไม่โกรธกันก็พอแล้ว" หัวใจดวงน้อยสั่นไหวยามพูดถึงแฟนหนุ่ม เธอพยามมองหาเขาอยู่แต่ไม่รู้ทำอะไร เผื่อหันมาเจอเธอนั่งคุยกับเอเดน จะทำตัวหวงก้างเป็นเรื่องใหญ่อีก ทว่าในทางกลับกัน เขาแอบยืนยิ้มอยู่ระยะใกล้หลังต้นไม้ใหญ่ กับคำพูดของรินเซ่ที่ทำลายความสับสนของเขาลงให้กระจ่างสักที และหลังจบเรื่องคาลาสไป เขากับเอเดนจึงไร้ปัญหาแต่เพียงหยั่งเชิงไว้แกล้งกันสนุกก็พอ"ดีใจนะที่เธอกับไอคลินรักกัน" เอเดนบอกจากใ
หลายวันต่อมา_ "คุณพ่อค่อยๆเดินนะคะ ถ้าล้มขึ้นมานี่แย่เลย" รินเซ่พูดบอก ตอนช่วยประคองทศพลมานั่งหน้าทีวี มีมาคลินช่วยอยู่ข้างๆ หลังท่านออกจากโรงพยาบาลแต่ร่างกายยังต้องพักฟื้นอยู่ เพราะป่วยด้วยโรคมะเร็งระยะลุกลาม"พ่อไม่เป็นขนาดนั้นหรอก แต่พวกเราไปเตรียมสวนไว้นะ พ่อชวนพลอยมากินบาบีคิวกับเราเย็นนี้" ผู้เป็นบิดาบอก หลังจากออกจากโรงพยาบาล ก็ดูเหมือนว่าพี่น้องคู่นี้จะเริ่มกันดีแล้ว ส่วนรินเซ่เองก็แวะมาบ้านท่านบ่อยขึ้น จนอยากจับจองเป็นสะใภ้เต็มทน"ครับ""งั้นคุณพ่อต้องนอนพักนะคะ กว่าจะเย็นต้องง่วงแน่ๆเลย" หญิงสาวบอกอย่างเป็นห่วง เธอเป็นคนช่วยป้าแม่บ้านจัดยาให้ท่านตอนเที่ยง เลยทราบดีว่าฤทธิ์ยาต้องทำให้ง่วงนอนมาก"พ่อจะนอนพักก็ได้ ถ้าได้หนูรินมาดูแลอยู่บ้านเราตลอด คงจะดีไม่น้อยเนอะตาคลินว่าไหม?" แต่ผู้เป็นพ่อวกกลับมาทางลูกชาย ท่านรู้ว่าพูดถูกใจเขาขนาดไหน"นั่นสิครับคุณพ่อ เอาแบบจัดพิธีใหญ่ๆ ด้วยนะครับ" น้ำเสียงเข้มยิ่งพูดเสริม พอเห็นคนตัวเล็กมีสีหน้าเขินอาย เขายิ่งหมั่นเขี้ยวอยากบีบแก้มเนียนซ้ำ"พอเลยคลิน ให้คุณพ่อนอนพักก่อน ไปช่วยรินเตรียมบาบีคิวกันดีกว่านะ อ้อ...หนังสือเล่มนั้นเรายังอ่านไม่จ
เวลาต่อมา_ แค่เพียงไม่นานดี น้องสาวต่างมารดาก็มาพร้อมอดีตเพื่อนชาย ที่เขาตราหน้าว่าเป็นศัตรู มาคลินรีบลุกยืนจากเก้าอี้จ้องมอง เขาเคยสั่งห้ามน้องสาวไม่ให้ยุ่งกับมันด้วยซ้ำไป"ไอเดน!/พี่คลิน" มาคลินส่งเสียงดัง อย่างไม่พอใจกับการกระทำของน้องสาวแบบนี้ ซึ่งเอเดนไม่ได้สะทกสะท้านตีหน้านิ่งราวเย้าเย้ยกัน"พามันมาด้วยทำไม?" น้ำเสียงเข้มยังถามต่อ จ้องใบหน้าน้องสาวอย่างเอาเรื่อง ในเวลายากลำบากของครอบครัว เธอดันดึงมือศัตรูเข้ามาเกี่ยวข้อง จนเขารู้สึกโมโหเป็นไหนๆ"พลอยจำเป็นต้องติดรถเขามา มันมีเรื่องฉุกเฉินหน่ะค่ะ คุณพ่อเป็นยังไงบ้างคะ" เพชรพลอยพยามจะเอื้อมมือไปจับกับพี่ชายทว่าเขาชักกับทันที เหตุใดเธอแสร้งไม่สนใจคำสั่งของเขาบ้าง"ไอระยำ!" แต่เอเดนขบฟันกรามพูด"มึงสิไอเวร!" เรื่องอะไรที่เขาจะต้องยอมอีกฝ่ายด้วย มาคลินยกมือชี้หน้าด่ากลับทันที เขาไม่ชอบจริงๆที่มายุ่งกับน้องสาว"ถ้าจะกัดกันไปข้างนอกนะคะ อย่าให้พลอยต้องดุนะ" น้องสาวสบัดตัวถอยหลัง เธอไม่ยืนคั่นกลางห้ามใครตอนนี้ มือบางกรีดนิ้วชี้ไปทางประตูบานเลื่อน สื่อความหมายว่าไล่จริงจังไม่แคร์สายตาใคร นับเป็นครั้งแรกที่เธอโมโหจนน่ากลัว ทำชายบุรุษสองค
วันต่อมา_บริษัท Makin Group "คุณมาคลินครับ นี่คือแฟ้มเอกสารสรุปการประชุม ช่วงที่คุณคลินไม่อยู่ครับ" เลขาคนสนิทรีบถือแฟ้มเอกสารเข้ารายงาน ภายในห้องทำงานท่านรองประธาน แม้ว่าจะส่งผ่านทางอีเมล์ ไปให้เจ้านายอ่านอยู่รอบ แต่เพื่อแน่ชัดจึงอยากนำฉบับจริงให้ดูอีกครั้ง"อืม ทำไมฝ่ายจัดซื้อไม่สั่งพักงานคนทำผิด หรือคำสั่งของฉันไม่มีผลแล้ว" ขณะเอื้อมไปหยิบแฟ้มเอกสารมาเปิดอ่าน เขาพึ่งนึกได้ตอนเข้าบริษัท เมื่อเช้าตรู่พบว่าฟรานตอกบัตรทำงานแล้ว ทั้งที่เพิ่งจะสั่งพักงานไปได้เดือนเดียวเอง"คุณฟรานแจ้งกับหัวหน้าว่า คุณมาคลินอนุญาตให้กลับมาทำงานแล้วครับ ทางหัวหน้าเลยไม่กล้าขัดเผื่อเป็นคำสั่งของคุณมาคลินครับ""นั่นก็เท่ากับว่า ถ้าใครอ้างชื่อหรืออ้างว่ารู้จักฉัน แปลว่าจะไม่โดนโทษหรอกเหรอ?" รองประธานจงใจใช้ประโยคเชิงตำหนิ ถ้ามีใครเอาชื่อเขามาอ้างไปซะหมด ระบบการทำงานจะเป็นเช่นไร ไม่ต้องแบ่งกฏระเบียบให้ยุ่งยากดีกว่าไหม"ขอโทษครับ" เมฆก้มหน้าเอ่ยบอก"ไปจัดการที่ฉันสั่ง แล้วเรื่องนี้เดี๋ยวฉันจัดการเอง" เขาพึ่งนึกอะไรได้ ต่อให้คนอื่นไปจัดการเรื่องของฟรานแทนก็คงจะอ้างเหตุผลเดิมซ้ำๆ เพราะเขาเคยสนิมสนม ถึงขั้นชวนลง
หลายวันต่อมา_ "วันนี้เราจะทำอะไรกินหรอริน ฉันหิวจะแย่แล้ว" คนตัวสูงพุ่งมาสวมกอดร่างอรชรจากด้านหลัง ขณะเธอทำอาหารมื้อง่ายๆในช่วงเย็น ส่วนบุพการีของเธอแวะไปอออกงานราตรี เลยเหลือเพียงสองคนในบ้านเท่านั้น"กินข้าวผัดกันไง ฉันทำเป็นไม่กี่อย่าง นายลืมหรือเปล่าคะคุณมาคลิน" เธอเคยบอกเขาไปแล้วหรือว่าอีกฝ่ายลืม แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่ใช่ปัญหาเลย"สงสัยอ่านงานหนักไปหน่อย งั้นให้ฉันช่วยนะ" ฝ่ามือหนาละออกจากร่างอรชร ไปช่วยตักข้าวสวยใส่ถ้วยไว้ด้านข้าง หยิบผักรวมนิดหน่อยเลือกปะปนเสริมโภชนาการ พอเขามาอยู่สถานที่ห่างไกลบริษัทนานๆ เลยต้องกระตือรือร้นเรื่องงานอ่านเกือบข้ามคืน จะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของประธานคนเดียวคงไม่ไหว อายุท่านมากแล้วควรใกล้วางมือ"ถ้านายยุ่งอยากกลับไปก่อนไหมคลิน ฉันว่าไม่ดีหรอก ถ้ารองประธานมาเที่ยวนานนับเดือนขนาดนี้ ลูกน้องนายจะอยู่ยังไงกัน" คนตัวเล็กเอ่ยบอก เธอก็รู้สึกผิดเช่นกันไม่น่ารั้งเขาไว้ด้วยวิธีนี้เธอเลย"แต่ฉันห่วงเธอนะริน เดี๋ยวออกไปเที่ยวอีกใครจะดูแล" ขณะยืนด้านข้างร่างอรชร ใบหน้าสากเกยไหล่มนมองดูกระทะเช่นกัน คอยช่วยหยิบซอสเครื่องปรุงเติม กลิ่นหอมอ่อนๆเรียกอาการหิวได้ดี"
บ้านรินเซ่ "นายมาคนเดียวเหรอ?" คนตัวเล็กเอ่ยถาม ตอนที่รถยนต์ของเธอจอดอยู่หน้าบ้านตัวเองเสียแล้ว เธอโยนกุญแจและบอกทางให้มาคลินรู้ เพราะไม่อยากให้ชายหนุ่มไปหาโรงแรมที่พักกลางดึก ค่อยนอนบ้านเธอสักคืนจะเป็นไรไป"อืม ว่างงานแล้วเลยรีบมาจัดการคนบางคนซะหน่อย ช่วงนี้ดื้อสุดเลย" คนตัวสูงรีบดับเครื่องยนต์ก้าวขาลงตามร่างอรชร เธอถูกฤทธิ์แอลกอฮอล์เข้าสิง แต่ยังคงแสร้งยืนตัวตรงคงกลัวเขาเอ็ดดุ"ใครหรอดื้อ เราไม่ได้ดื้อนะคลิน" เธอรีบหันกลับมาบอก ขณะไขกุญแจเข้าบ้านอย่างเบาๆ เกรงว่าจะทำบุพการีตื่นแล้วถูกต่อว่าเช่นเคย"อ้อ..เหรอ" ท่าทีของคนตัวเล็กทำให้เขาต้องเบาเสียงลง กระตุกยิ้มมุมอย่างหมั่นเขี้ยว จนฝ่ามือหนาต้องฟาดใส่สะโพกมน แม่คุณเล่นทำเหมือนโจรย่องเข้าบ้านทั้งที่ของตัวเอง"นาย!!เงียบเลยนะ ถ้าแม่ตื่นนายไปนอนโรงแรมเลย" น้ำเสียงหวานแห้วใส่ พร้อมส่งดวงตาถมึงจ้องมอง ก่อนจับข้อมือใหญ่จูงเขาขึ้นบ้านข้างบน"ทำเหมือนฉันแอบย่องขึ้นบ้าน ไปหาลูกสาวท่านเลยเนอะ" ครั้งนึงตอนสมัยมหาลัยทั้งมาคลินและเอเดนเคยมาพักที่นี่ ช่วงเธอเรียนซัมเมอร์แล้วพวกเขาแวะมาเที่ยว แต่ได้นอนอีกห้องสำหรับแขกพิเศษเท่านั้น"ฉันลากนายขึ้นมาต
ประเทศอังกฤษ@ Werry Lounge"มันก็หลายเดือนแล้วนะยู ไม่คิดจะกลับไทยบ้างเหรอไง ไอยังอยากไปกินอาหารที่นู้นเลยนะ" คริสเพื่อนนายแบบเอ่ยถาม เขามาเที่ยวเล่นเป็นเพื่อนรินเซ่เกือบทุกคืน ยังไม่รวมบรรดาคนในแวดวงการเดียวกัน เรียกได้ว่าพบเจอเธอทุกวันเลย"กลับไปทำไมล่ะ ที่นู้นไม่ได้น่าตื่นเต้นแบบนี้ซะหน่อย" ขณะร่างอรชรเต้นคลอเคลียกับบรรดาเพื่อนเบาๆ เธอจับแก้วไวน์ยกจิบลิ้มรสชาติมัน กาลเวลามันช่วยให้ลืมใครบางคนได้จริงๆ ยิ่งเวลาออกเที่ยวกลางคืนยังไม่นึกถึงเลย"เรียบร้อยแล้วริน ไอไปบอกเขาแล้วนะว่ารินไม่มีแฟน เต้นสวยๆไปเลยจ้า เดี๋ยวต้องเดินมาหาแน่" หนึ่งในเพื่อนนางแบบพูด พวกเธอชอบดูเวลารินเซ่บริหารเสน่ห์ แล้วมารวมเงินพนันกันว่าใครจะเลี้ยงค่าเครื่องดื่มคืนนี้"บอกแค่โต๊ะเดียวพอนะ คืนนี้กลับดึกไม่ได้แด๊ดดุแล้ว" คนบอกยิ้มพอใจ เหมือนกับกลุ่มชายแปลกหน้ากำลังจ้องมายังเธอ ร่างอรชรรีบสะบัดผมสลวย เชิดใบหน้าขึ้นเล็กน้อยสร้างองศาให้ดูมีมิติ"ยูยังโดนแด๊ดดุเลย ไอนี่สิบ้านมัมจะไม่ได้เข้ายูแล้ว ออกเที่ยวทุกคืนขนาดนี้" คริสพูด เขาก็แอบเล็งสาวอีกโต๊ะนึงด้วย ยิ่งค่ำคืนนี้เน้นโชว์หุ่นนายแบบ เลยเลือกใส่เพียงเสื้อเชิ้ตตั
ผับ ADEN "เอ้า...ชนแก้วกันดิว่ะ" มาคลินส่งเสียงบอกอย่างครึกครื้น เมื่อวันที่รอคอย ของทุกคนมาถึง นั่นก็คือการเลี้ยงฉลองรับปริญญาเรียนจบจากมหาวิทยาลัยชื่อดัง เขาและเอเดนรวมถึงรินเซ่ทั้งสามคนต่างยกแก้วเครื่องดื่มชนฉลอง ความสัมพันธ์สนิทกันตั้งแต่สมัยรั้วมัธยม จึงทำให้พวกเขาผูกพันธ์กัน ปานพี่น้องร่วมสายเลือด "เดนอย่ากินเยอะสิ เดี๋ยวขับรถไปส่งรินไม่ไหวนะ" รินเซ่เอ่ยบอกกับแฟนหนุ่ม พลางเอื้อมมือรั้งแขนแกร่งไว้ ท่ามกลางดวงตาคมของมาคลินชำเรืองมอง พร้อมซ่อนข้อความบางอย่างในใจแกร่งเธอตกลงคบกับเอเดนได้ไม่ถึงสองปีดีด้วยซ้ำ เพราะความสนิทสนมกันเนิ่นนาน จึงเกิดความรู้สึกรักกันและกัน ส่วนมาคลินคือเพื่อนชายแสนดีในกลุ่มคนนึง คอยดูแลเธอเรื่องเรียนเสมอมา "ไม่ต้องห่วงเดนหรอก นู้น..ดูไอคลินดิขนาดมันไม่ค่อยเที่ยวยังไม่เห็นเมาเลย" เอเดนพูดบอก เขาเป็นถึงเจ้าของผับจะคออ่อนก่อนคนอื่นได้ไง"ก็คนละคนกันไหมล่ะ" นางแบบสาวพึมพำราวน้อยใจเพียงไม่ถึงนาที ก็ฉีกยิ้มกว้าง จับแก้วตัวเองกระดกตามแม้ไม่ใช่คนคอแข็งเท่าไหร่นัก ไม่อยากให้ดูแตกต่างเพื่อนฝูง"เออดี...แมร่งเมาให้หมด แล้วมึงสั่งลูกน้องด้วยนะไอเดน ส่ง...
Komen