เรื่องราวความอบอุ่นยัง ยัง ไม่จบลงในเมื่อ องค์ชายแฝดผู้ซึ่งอุปนิสัยแตกต่างกันสุดขั้ว จะมาโลดแล่นโดยฝีมือสร้างสรรค์ของจันทร์ส่องแสงอีกครั้ง เรื่องราวต่อจาก นี้จะเป็นเช่นไร จะสุขเศร้าและอบอุ่นใจแค่ไหน เตรียมน้ำตา และรอยยิ้มไว้ให้พร้อม ความรักหาบังคับได้ไม่ แต่ความผูกพันมีค่าเกินกว่าจะทำลายมัน อย่าเสียน้ำตาหากเราต้องพรากจากกัน แต่จงยิ้มรับ และเฝ้ารอว่าสักวันเราจะมาพบกันอีกครั้ง
Lihat lebih banyak“ทำไมข้าไม่เคยรู้เรื่องนี้”“ป้าหญิงบอกว่าหากให้องค์ชายทั้งสองรู้ก็จะดูไม่ออกว่าองค์ชายคนไหน ที่พร้อมจะแต่งกับอิงอันเพราะต่างคนต่างก็ต้องคิดว่าอิงอันเป็นสมบัติก็จะแย่งชิงกันมิสู้ให้ทั้งสององค์ชายมีสิทธิ์เลือกจะได้รู้ใจตัวเอง”“แล้วจิงฮวนเล่า”“จิงฮวนป้าหญิงบอกว่าองค์ชายแฝดพี่ลี่หลงมีท่าทีสนใจนางตั้งแต่ยังเยาว์ จึงส่งสาสน์ให้นางกลับมาที่นี่อีกครั้ง เพื่อจะดูว่าองค์ชายแฝดพี่จะมีท่าทีเปลี่ยนไปหรือไม่ สุดท้ายแล้วหนึ่งเดียวในหัวใจขององค์ชายแฝดพี่ก็คือจิงฮวน ป้าหญิงมองการณ์ไกลเสมอ”"ข้าแต่เดิมก็มีเจ้าเพียงคนเดียวในใจเช่นกัน""แต่ก็ยังชอบเล่นสนุก ดีนะที่อิงอันไม่แต่งกับองค์ชายชนเผ่า"“แล้วการคัดเลือกราชบุตรเขยทำไมถึงถูกจัดขึ้น”“ก็เพราะความดื้อรั้นขององค์ชายแฝดน้องอย่างไรเล่า และเป็นเพราะให้ความเป็นธรรมกับองค์ชายชนเผ่าผู้นั้นด้วย หากปฏิเสํธเขาไปเลยก็เกรงว่าความสัมพันธ์จะสั่นคลอน ป้าหญิงจึงขอให้ทุกคนช่วยแสดงละครเพื่อแก้ไขความขัดแย้งให้แคว้นเหว่ยกับชนเผ่า จะได้ช่วยให้องค์ชายแฝดน้องได้สำนึกอีกด้วย โดยเฉพาะองค์ชายจิงฉือที่ต้องเสียสละมากกว่าผู้ใด”“หมายความว่าอย่างไร”งงเป็นไก่ตาแตก“ก็หมายความว่า
น้ำเสียงเศร้าสร้อยจริงจังลี่หลางอมยิ้มหัวใจพองโต หันกลับมาซ้อนร่างบางไว้ในอ้อมแขนพาเดินเข้าหายเข้าไปในห้อง หันหลังมาปิดประตูห้องเสียมิดชิด อิงอันซบหน้าลงบนอกกว้าง ปล่อยให้ลี่หลางพาไปที่แท่นนอนหนา วางร่างบางลงบนแท่นนอน ทอดกายลงทาบทับ ประทับริมฝีปากลงไปอย่างอ่อนโยนลิ้นอุ่นซอกซอนล้วงลึกจนอีกคนเผลอส่งเสียงร้องครางออกมาเบาๆ มือใหญ่ปลอดแกะอาภรณ์ออกอย่างนุ่มนวลร่างขาวเนียนถูกบดเบียดด้วยร่างใหญ่ แสงเทียนในห้องค่อยๆ มอดดับลง ลี่หลางใช้มือใหญ่สอดประสานกับมือบางของอิงอัน พรมจูบไปทั่วร่างเนียนตั้งใจให้อีกคน ดิ้นรนถอยหนีด้วยความกระสันแต่ทว่ายิ่งดิ้นยิ่งปลุกเร้าอารมณ์“องค์ชายแฝดน้อง ท่านจะทำอะไร”อิงอันเปล่งเสียงแผ่วเบาเหมือนกำลังละเมอ“ข้ากำลังจะ ทำในสิ่งที่ใจปรารถนามานาน แล้วก็ทำให้ตัวเองไปอาจทิ้งเจ้าไปได้อย่างไรเล่า”อิงอันอมยิ้มเป็นสุขเมื่ออีกฝ่ายลูบไล้แผ่วเบาบนเรือนร่างเปลือยเปล่าอย่างถะนุถนอม พรมจูบไปทั่วร่างเนียนทุกอณูเนื้อ อิงอันบิดตัวไปมาลี่หลางยิ้มเป็นสุขจะมีใครรู้ไหมหนอ ว่าการคัดเลือกราชบุตรเขยไม่สำคัญอีกต่อไปแล้วแม้จะผิดทำนองคลองธรรมไปบ้างแต่ทว่าเขาก็ไม่อาจหักห้ามใจในเมื่อร่างบาง ใต้ร
อิงอันยืนเหม่อมองไปบนฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวนับพัน เงาดำของลี่หลางค่อยๆ เดินลัดเลาะมาที่ระเบียงที่อิงอันยืนอยู่ “อิงอัน ข้ามาลา”ก่อนหน้านั้น“ข้าเคยหายไปนางไม่เคยถามถึงหรือสงสัยแม้สักนิดว่าไม่มีลี่หลางคนนี้อยู่ที่นั่นเหมือนกับลี่หลางไม่มีตัวตน”“ครั้งนี้ไม่เหมือนกัน ตอนนั้นที่เจ้าทำ เป็นข้าก็ไม่สนใจถามถึงเช่นกัน ในเมื่อตอนนั้นเจ้าไม่จำเป็นต้องไป ตอนนี้เจ้าเพียงแต่แสดงให้นางเห็นว่าที่จะไปมีเหตุผลและกล่าวลานางด้วยความจริงใจ ไม่ได้อยู่ๆ ก็หายไป น้องรองเจ้าไม่อยากรู้ใจนางไม่อยากเห็นว่านางห่วงใยเจ้าหรือไร”“แต่ ข้ากลัวว่านางจะทำเหมือนที่ผ่านมา”“ข้าเชื่อเหลือเกินว่าอิงอันตอนนี้เห็นใจเจ้าอย่างที่สุด และเพื่อเป็นการพิสูจน์ว่านาง มีใจให้กับจิงฉือหรือเปล่า ก็ต้องลองดูหากนางมีใจให้จิงฉือนางจะไม่อาวรณ์เจ้าแม้แต่น้อยแต่ถ้าหากนาง ไม่มีใจให้จิงฉือนางคงจะกลัวเจ้าหนีไปจริงๆ ”“จะดีหรือพี่ใหญ่”“เราทั้งหมดหวังดี หากอิงอันไม่สนใจเจ้าข้าเชื่อว่าเสด็จแม่มีแผนสำรองไว้ให้แล้วเพียงแค่เจ้าเข้าคัดเลือกตัวราชบุตรเขยจนกระทั่งทุกอย่างลุล่วงไปเสด็จแม่ไม่มีทางปล่อยให้ใครต้องเดียวดาย”ลี่หลงเชื่อมั่นใจหว่านหนิงเพร
“ถึงเวลาตัดสินแล้วว่าใครจะเป็นผู้ที่แม่นธนูที่สุด”เสียงของลี่เจินประกาศดังๆ คนทั้งคู่ยืนหันหน้าเข้าหา เป้าธนูที่อยู่ห่างออกไปจนไม่น่าเชื่อว่าจะมีผู้ใดสามารถยิงธนูไปถึงได้ องค์ชายท่านข่านรูปร่างสูงใหญ่เหมือนคนทางใต้ทั่วไปแต่เป็นคนทางเหนือได้อย่างไม่น่าเชื่อ กล้ามเนื้อแขนขาเป็นมัดๆ กำลังวังชานับว่าไม่น้อย จิงฉือยิ้มมุมปากเมื่ออีกคนส่งสายตาท้าทายมาที่เขา องค์ชายท่านข่านเหนี่ยวคันศรจนโก้งจนงอก่อนอย่างไม่รอช้าลูกดอกพุ่งออกไปสู่เป้าหมายสุดแรง ลูกดอกพุ่งสู่เป้าหมายเป็นเส้นตรงแต่ระยะทางที่ไกลทำให้ลูกดอกหมดกำลังทำท่าจะไปไม่ถึงเป้าหมายโค้งงอไม่ขนานกับพื้นดิน หลายคนแทบจะหยุดหายใจ จิงฉือปล่อยลูกดอกของตัวเองพุ่งเข้าใส่ ลูกดอกขององค์ชายท่านข่านเสียบลูกดอกขององค์ชายต้านเอ่อแน่น ด้วยแรงมหาศาลของการเหนี่ยวคันศรส่งผลให้ลูกดอกฉีกออกและถูกผลักเข้าหาตรงกลางเป้าไกลแสนไกลนั้นเสียบแน่นอยู่กลางเป้าสีแดง เสียงอื้ออึงพร้อมกับคำสรรเสริญอิงอันลุกขึ้นยืนปรบมือชื่นชมฝีมือการยิงธนูของจิงฉือ ลี่หลางปาคันธนูทิ้ง“องค์ชายจิงฉือเป็นฝ่ายชนะ”ลี่เจินประกาศก้อง ลี่หลางเดินออกจากการประลอง อิงอันหันซ้ายหันขวามองหาลี่หลางแต่ก
“การประลองในรอบนี้ องค์ชายจิงฉือแห่งแคว้นหานเป็นผู้ได้รับชัยชนะ”เสียงปรบมือโห่ร้องดังกึกก้องอิงอัน ปรับสีหน้าให้เป็นปกติ ยิ้มหวานรับเอากำไลจากมือของจิงฉือมาสวมลงบนแขนของตัวเอง“ในรอบบ่ายจะมีการประลองเกิดขึ้นอีกรอบ ให้ทุกท่านไปเตรียมตัวให้พร้อม”หว่านหนิงเดินลงจากบัลลังก์ ตรงไปที่ลี่หลางนอนอยู่เอื้อมมือบางฉุดมือของลี่หลางขึ้นเหมือนเช่นที่เคยทำทุกครั้งยามเขาล้มลง“หลางหลาง”“เสด็จแม่”น้ำเสียงผิดหวังเศร้าสร้อย“ยังมีการประลองอีกหลายด่าน ให้เจ้าแสดงความสามารถ เรื่องแค่นี้หลางหลางของแม่ไม่น่าจะย่อท้อ”“ลูกไร้สามารถเพิ่งจะรู้ตอนนี้เองว่า การเที่ยวเล่นสนุกสนานไม่อาจช่วยให้ลูกเก่งกล้าหากจะเอาชนะผู้อื่นได้เพื่ออิงอันจะต้องฝึกปรือให้มากกว่านี้”หว่านหนิงยิ้มบางๆ“เจ้าคิดได้แล้ว ต่อจากนี้อาศัยแค่ความจริงใจและพยายามเท่านั้น หากทำมันอย่างดีที่สุดแม้จะไม่ชนะการประลองแต่ก็ชนะใจอิงอันและสายตาผู้คน หากเจ้าย่อท้อ ใจไม่สู้ก็ปล่อยให้อิงอันได้เคียงคู่กับคนที่เหมาะสมกับนางเสีย ถือเสียว่าไร้วาสนาต่อกันอิงอันเป็นองค์หญิงคนเดียวของแคว้นเหว่ยมากมายผู้คนหมายปอง การที่ได้ คู่ครองที่ดี จึงนับว่าเหมาะสมกับนาง หากหล
ตำหนักเมฆาของ ฉี่กวนลี่“เสด็จปู่เสด็จอาต้องดีใจอย่างแน่นอนหากเสด็จปู่ให้ความสำคัญกับการคัดเลือกราชบุตรเขยให้กับท่านอา”“เจ้าคิดเช่นนั้นหรือ”ทิ้งตัวลงนอนบนตักของฉี่กวนลี่หยิบองุ่นในพวงมาเคี้ยว พร้อมกับพยักหน้ายิ้มหวานจนตาหยี“เช่นนั้นปู่ก็คิดว่า เป็นเรื่องที่ดีฝานกงกง ตามลี่เจินพบข้าที่ตำหนัก”ฝานกงกงส่ายหน้าไปมา“เกรงว่าจะไม่เหมาะ”ฉี่กวนลี่ ขมวดคิ้ว“เพราะเหตุใด”“การแทรกแซงไม่ว่าจะเป็นด้านใดก็ไม่อาจ ฮ่องเต้ลี่เจินแม้จะเป็นองค์ชายของพระองค์มาก่อนแต่ทว่าตอนนี้เป็นถึงฮ่องเต้ของแคว้นเหว่ย เรื่องที่ต้องตัดสินใจเพียงลำพัง พระองค์เข้าไปแทรกแซงจึงไม่เหมาะ”ลี่หลางเบ้ปาก“ซือฟุท่านเอาเวลามาฝึกวรยุทธ์ให้ข้าจะดีกว่าเรื่องนี้ให้เสด็จปู่ตัดสินใจเอง”ฝานกงกงยิ้มบางๆ“องค์ชายแฝดน้อง หากจะคิดเรื่องการที่ให้เสด็จปู่เป็นคนคัดเลือก ราชบุตรเขยแล้วเห็นแก่ความเป็นปู่หลาน องค์ชายคิดผิดไปเสียแล้ว เสด็จปู่นับว่าเป็นผู้ที่เที่ยงตรงคนหนึ่งทีเดียว เรื่องแบบนี้ท่านจะไม่ประเมินเสด็จปู่ต่ำไปหน่อยหรือไร”พูดเพื่อให้ฉี่กวนลี่ นั้นคิดได้มิได้ตั้งใจหักหน้าลี่หลาง“ฝานกงกงท่านช่างรู้ใจข้านัก แน่นอนเรื่องแบบนี้ข้าฉี่กวนลี่
“ขอโทษ”จิงฉือกล่าวได้เพียงเท่านั้น ทาบทับร่างลงบนร่างบาง ล้วงมือสัมผัสผิวเนื้อร้อนผะผ่าวแต่ทว่านุ่มเนียนให้ความรู้สึกรัญจวนใจ ริมฝีปากบดเบียดปากอวบอิ่ม เหมือนหิวกระหาย หงเอ่อกลับเผยอริมฝีปากรับรสจูบ ร่างอ่อนระทวยในอ้อมแขนแข็งแรงกลับได้ระบายความร้อนจากพิษไข้ เมื่อร่างใหญเปลือยเปล่าทาบทับส่งผ่านความเย็นในอณุเนื้อของเขาให้กับหงเอ่อ พิษไข้จึงค่อยๆบรรเทาลงไปจิงฉือไม่อาจหักห้ามใจเขาเองใช่ว่าจะไม่เคย แต่เขายอมอดได้เสียนมนานต่างหาก ทุกครั้งที่ไปรบกว่าจะได้กลับมาในเมืองในแต่ละครั้งเรื่องแบบนี้ มีเพียงบุรุษเท่านั้นจึงจะเข้าใจ หงเอ่อ จิกเล็บลงบนแผ่นหลังเปลือยเปล่าของจิงฉือแน่นเมื่อพายุโหมกระหน่ำซ้ำซัดจนร่างเล็กสะท้อนขึ้นลง ดวงตาหลี่ปรือ ริมฝีปากถูกบดเบียดอย่างบ้าคลั่งก่อนที่ทุกอย่างจะสงบลง หงเอ่อซบหน้าลงบนอกกว้างของจิงฉือ หลับใหลในอ้อมแขน แข็งแรงที่กอดรัด และเฝ้าจุมพิตที่ริมฝีปากซ้ำๆ ด้วยแรงเสน่หา ตำหนักใหญ่“องค์หญิงหงเอ่อและองค์ชายจิงฉือ หายออกไปจากวังหลวงพร้อมกันทหารเลี้ยงม้าบอกไว้อย่างนั้น”หว่านหนิงถอนหายใจ จิงฉือไม่ไช่คนเหลวไหล หากไม่เกิดเหตุอะไรขึ้นเขาต้องกลับมา“ส่งองครักษ์ออกตามหาให้ทั
จิงฉือคว้ากระบี่และคันธนูมา ถือไว้ก่อนจะเดิน ไปทางด้านหลังของวังหลวงที่เป็นโรงเลี้ยงม้า พูดกับคนเลี่ยงม้าสองสามคำก่อนจะ ได้ม้าสีหมอกท่าทีองอาจมาหนึ่งตัวเขา กระโดดขึ้นบนหลังม้า กำลังจะกระตุกบังเหียน หงเอ่อกับกระตุกบังเหียนควบม้าแซงหน้าเขาไปเหมือนจะท้าประลองความเร็วกับเขา จิงฉือกระตุกบังเหียนใช้เท้ากระทุ้งสีข้างม้าให้ตามไปแผ่นหลัง ของหงเอ่อสะท้อนขึ้นลง บนหลังม้าจิงฉือเผลอมองด้วยความชื่นชม นางช่างสง่างามบนหลังม้า ออกนอกเขตวังหลวงหงเอ่อ ยังพาม้าวิงไปไม่ปหยุดจิงฉือตามไปติดๆ ลึกเข้าไปในป่าไม่หนาทึบ อยู่ๆม้าของหงเอ่อที่วิ่งอยู่ก็ยกขาหน้า ขึ้นด้วยความตกใจหันหลังพาหงเอ่อวิ่งเข้าป่าลึก “เหวออยู่นิ่งๆๆๆ”หงเอ่อตกใจไม่น้อยแต่ก็พยายามบังคับบังเหียนแต่ม้ากับควบตะบึงเมื่อโดนกรงเล็บของเจ้าหมีที่พุ่งตัวตามตะปบเข้าที่สีข้าง เบื้องหน้าจิงฉือมองเห็นหมีตัวใหญ่ยืนกางเล็บอยู่ในพุ่มไม้มือไวเท่าความคิดเหนี่ยวคันธนูอย่างรวดเร็วด้วยแรงทั้งหมดลูกศรพุ่งเข้าเป้าแต่เจ้ามีร้ายกับตะปบม้าสีหมอกของเขาจนตัวของจิงฉือ ร่วงลงจากหลังม้า แล้ววิ่งหนีเข้าป่าไป ดีที่เขาระวังตัวจึงทะยานพลิกตัวลงมาได้อย่างนุ่มนวลไม่บาดเจ็บตรง
ใกล้วันคัดเลือกราชบุตรเขยของแค้วนเหว่ย จิงฉือเดินทอดน่องยังอุทยานของแคว้นจ้าว ตั้งใจไปคุยเรื่องแผนการในวันคัดเลือกราชบุตรเขยกับหว่านหนิงอีกครั้ง ร่างคุ้นตาในอาภรณ์ของแค้วนจ้าวสวยสระคราญ หะแรกคิดว่ากำลังชมดอกไม้ แต่เมื่อมองไปนางกำลัง บี้เจ้านอนตัวร้ายที่กำลังกัดกินดอกฉาฮวา“เจ้ากำลังทำอะไร”หงเอ่อผินหน้ามามองเบิกตากว้าง“เจ้าสายสร้อยเจ้ามาทำอะไรที่วังหลวงแห่งนี้”สายตาสงสัย“ข้า มาเพื่อคัดเลือกราชบุตรเขย”หงเอ่อพยักหน้าไปมาก่อนจะเดินวนรอบตัวจิงฉือ“หน้าตาก็ดี รูปร่างก็องอาจไม่ได้ขี้เหร่เหมือนพี่ใหญ่ข้าเสียหน่อย เหตุใดต้องพาตัวเองมาทำเรื่องแบบนี้ด้วย”จิงฉือยิ้ม“หญิงงามเช่นเจ้าก็ไม่น่ากล้าเข้าไปในหอนางโลมอีกทั้งไม่น่าจะกล้าฆ่าหนอนผีเสื้อพวกนี้”“หญิงแคว้นเหนือแต่ละคน ล้วนห้าวหาญมิได้ปลวกเปียกเมือนผู้คนที่นี่”“ห้าวหาญ”จิงฉืออดขำไม่ได้“เจ้าขำอะไรพวกเราแคว้นเหนือพูดจริงทำจริงมิได้ปากอย่างใจอย่าง รักก็บอกรักไม่รักก็ไม่เคยบอกว่าชอบ”“ ข้าขำเพราะไม่เคยเห็นว่าหญิงงามคนไหนจะมีกิริยาเช่นเจ้า แคว้นหานแคว้นจ้าวหรือแคว้นเหว่ยหญิงงามล้วนอ่อนหวานงดงามไม่จำเป็นต้องห้าวหาญ”“ข้าเบื่อที่จะคุยกับเจ้าแล้
ลี่หลงก้าวขายาวๆ ยังตำหนักร้อยดาว ใบหน้าหล่อเหลารูปร่างสูงชะลูดขายาว ใน ชุดสีขาวขลิบทอง ผมยาวถูกรวบเรียบร้อย หาใช่ฝีมือของขันทีไม่แต่กลับเป็นฝีมือของเขาเองที่บรรจงใช้เวลาในยามรุ่งอรุณรวบผมเสียเรียบแปล้ ด้วยความเป็นคนเจ้าระเบียบและพิถีพิถัน ทว่าดวงตาเฉกเช่นดวงตาโศกสลดของลี่หยางในวัยหนุ่มตำหนักร้อยดาวที่นั่นแต่เดิมเป็นที่ที่เขาวิ่งเล่นมาช้านาน บัดนี้กับร้างไร้ผู้คนอย่างจริงจังทว่ากลับยังคงถูกดูแลทำนุบำรุงให้ยังคงความงดงามอยู่เหมือนเดิมด้วยเสด็จแม่ฮองเฮาหว่านหนิง มักจะพูดเสมอว่าที่แห่งนี้มีเรื่องราวดีดีเกิดขึ้นมากมายเกินกว่าที่จะปล่อยให้พุพังทิ้งไปลี่หลงใช้เวลาเนิ่นนานในแต่ละวันที่นี่ องค์ชายรองลี่หลางยังฝึกวรยุทธ์อยู่กับคนของฝานกงกงไม่ตามเขาออกมา“พี่ใหญ่ ฝานกงกงนี่สุดยอดเสียจริง เก่งเกินใคร น้องเพิ่งรู้ว่าฝานกงกงฝึกวรยุทธ์ให้พี่ใหญ่จนสำเร็จไปแล้ว น้องมัวแต่เล่นสนุก กว่าจะตามพี่ใหญ่ทันคงอีกนาน”ลี่หลางยิ้มกว้างร่างสูงชะลูด พอๆกับลี่หยางฮ่องเต้ แต่ทว่าใบหน้ากับละม้ายไปทางหว่านหนิงแม้จะเป็นฝาแฝดก็ตามอาจเป็นเพราะลี่หลงเฉยชาเหมือนลี่หยางนั่นเองจึงแบ่งแยกกันชัดเจน ลี่หลางนั้นกิริยาปราดเป...
Komen