“ไม่รู้แต่หากข้าเดาไม่ผิด หว่านหนิงฮองเฮารู้ดีว่าอี้หลิวไมได้ไร้เดียงสาอ่อนหวานน่ารักอย่างที่เห็นเป็นแน่”หว่านหนิงยิ้ม“หว่านหนิงแค่อยากเห็นว่าฝ่าบาทจะจัดการกับนางอย่างไรมากกว่า เสี่ยวกู้เล่าเรื่องราวทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้หว่านหนิงฟังจนหมดแม้กระทั่งคำพูดของฝ่าบาทในตอนนั้นทำให้หว่านหนิงรู้ว่าไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนฝ่าบาท ไม่เคยเปลี่ยนแปลง”“ต่อจากนี้รอเพียงหลงหลง จะรู้ใจตัวเท่านั้น”“หลงหลงมีส่วนคล้ายฝ่าบาทอย่างที่สุด ส่วนหลางหลางแม้ปากแข็งไม่เท่าหลงหลงแต่เรื่องเสียสละไม่ยอมแพ้กัน”“ฝ่าบาท ยังเหลืออิงอันให้เป็นตัวเลือก สำหรับหลางหลาง อิงอันอ่อนหวานน่ารักอีกทั้งกิริยาเรียบร้อยไม่พูดมากและยังมีความอดทนต่อหลางหลางได้ดีไม่น้อย คนเช่นนี้จึงจะกำราบหลางหลาง อยู่มัด”“เห็นทีข้าต้องส่งสาสน์ให้ลี่เจินฮ่องเต้เสด็จเยือนแคว้นจ้าวเสียที หลังจากที่ไม่ได้ กลับมาที่นี่เสียนานปี”หว่านหนิงยิ้ม หากใครสักคนที่จะจัดการ หลางหลางได้ก็คงเป็นอิงอันอย่างแน่นอน ภาพความทรงจำเก่าๆ“อิงอัน ข้าดีกับเจ้าเพราะหวังว่าเสด็จอาจะนำของฝากมาให้ข้า มากหน่อย”ร่างกระจ้อยร่อยพูดตามตรงแต่อิงอันกลับไม่แยแส อิงอันมองหลางหลางก่
"องค์ชายแฝดพี่ จิงฮวนมีเรื่องอยากถาม"ยืนประจันหน้ากับลี่หลง ที่ยืนใช้กรรไกรแต่งกิ่งตัดกิ่งบอนไซ หน้าตาเฉย“ข้ากับเจ้า ..เราสองคน อย่าได้ข้องแวะกันเลย”ลี่หลงพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย“ทำไม”ตอแยไม่เลิก“ไม่มีสิ่งใดที่ต้องอธิบายกับเจ้า”จิงฮวนขมวดคิ้ว“องค์ชายแฝดพี่จงเกลียดจงชังอะไรจิงฮวนนักหนา แค่อยากถามว่าวันนั้น ที่จิงฮวนติดในห้องลับองค์ชายแฝดพี่เป็นคนไปพบจิงฮวนใช่หรือไม่”ในความทรงจำ ที่เลือนรางเหมือนครึ่งหลับครึ่งตื่นนั้นเอง จิงฮวนเหมือนกับเห็นร่างสูงของลี่หลง เดินจากไป มันรบกวนจิตใจจิงฮวนไม่น้อย องค์ชายแฝดพี่ ...จำได้ติดตาแต่พอตื่นมา กลายเป็นแฝดน้องเช่นนั้นหรือจิงฮวนคิดว่าดูไม่ผิดไปอย่างแน่นอน แล้วจะคำเรียกว่าจิงฮวนน้อย...ที่มีเพียงลี่หลงที่มักจะเรียกจิงฮวนแบบนี้หลางหลาง ไปเอาคำพูดแบบนี้ มาจากหลงหลงแน่นอน“ไม่.. ข้าเห็นปิงปิงวิ่งอยู่ที่ หน้าตำหนักร้อยดาว แล้วก็เห็นลี่หลางเดินเข้าไปในห้องลับจึงอุ้มขันทีปิงปิงไปนอนเจ้าก็รู้ว่าขัาไม่สนใจผู้ใด นอกจากขันทีปิงปิง”จิงฮวนเหล่ตามอง พูดมากผิดปกติ แสดงว่าโกหกหลบตาต่ำแสดงว่าพูดไม่จริง“ดี เช่นนั้นจิงฮวนเห็นทีจะต้องยกสุราอาหารไปคารวะองค์ชายแฝดน้องเสี
“ข้า ไม่อาจขัดบัญชา”“ก็ใช่ล่ะสิองค์ชายแฝดพี่เคยจะขัดบัญชาด้วยหรือ อีกทั้งสีหน้าท่าทาง แม้จะไม่เคยแสดงออก อีกทั้งคำพูดก็ยังไม่เคยมีคำหวาน ทั้งหน้าตาและคำพูดเหมือนกันสิ้นดี เช่นนั้นก็แล้วแต่ท่านเถอะ”สะบัดตัวเดินหนีขันทีปิงปิงวิ่งมาจากไหนเข้าขว้างจิงฮวนที่กำลังจะก้าวขาลัมคะมำ ลี่หลงคว้าเอวบางไว้แน่น ร่างบางนอนหงายในอ้อมแขนแข็งแรงตาสบตาคมนิ่งลี่หลงกับหลบตา ไม่กล้าสบตาจิงฮวน“อย่าปล่อยมือนะ”จิงฮวนรีบพูดขึ้นก่อนที่ลี่หลงจะเผลอปล่อยมือให้จิงฮวนลงไปคลุกฝุ่นในตำหนักร้อยดาวลี่หลงใช้วิธีหลับตาด้วยความเขินอาย แทนการปล่อยมือ จิงฮวนถอนใจ ก่อนจะยันกายลุกขึ้นยืนตัวตรง“ลืมตาได้แล้วองค์ชายหลงหลง”เดินวนรอบ ตัวของลี่หลง“เจ้าเห็นหรือยังว่า ข้า ...ไม่กล้าแม้แต่จะสบตา”“เฮ้อ ก็ได้จิงฮวนยินดีอยู่จนกว่า หญิงงามอี้หลิวผู้นั้นจะจากไป”รอยยิ้มกว้างเปิดเผยอย่างที่จิงฮวนไม่เคยเห็นมาก่อน จิงฮวนตะลึงงันกับความสดใสและเปิดเผยนั้น ใครกันจะมีรอยยิ้มที่น่ามองเช่นนี้ หากไม่ใช่ลี่หลงจิงฮวน เดินนำเพียงสองสามก้าวก่อนที่ร่างบางจะล้มทั้งยืน คราวนี้ลี่หลงรับได้อีกตามเคย“โอ๊ย ทำไมข้าเป็นแบบนี้น้ำแกงนั่นมีปัญหา โอ๊ยไม่ไหวแล
อี้หลิวเดินถือชามน้ำแกงกลับมาอีกรอบ จิงฮวนนั่งมองท่าทีการเดินของอี้หลิวที่จงใจให้เป็นคนอ่อนช้อยก่อนหน้านั้น“ทำไมข้าต้องกลัว ทำไมต้องเคี้ยวน้ำแกงไปอีกรอบ” พูดกับสาวใช้ข้างกายด้วยความหงุดหงิด“คุณหนู หากเป็นเช่นนั้นนับว่าองค์หญิงสามเป็นฝ่ายชนะ คุณหนูต้องทำตนเป็นคนใสซื่อเพื่อชนะใจองค์ชาย ลี่หลง”“ไม่อยาก คนพ่อน่าสนใจกว่า บางอย่างในตัวฝ่าบาท ทำเอาใจข้าสั่นไหวยิ่งยามที่มองฮองเฮาด้วยความรักใคร่ เห็นทีข้าต้องจัดการขั้นเด็ดขาดเสียแล้ว”“คุณหนูอย่าวู่วามเจ้าค่ะ ของแบบนี้เห็นทีต้องค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป ฝ่าบาท แม้จะดูว่ารักใคร่ฮองเฮาเกินใคร แต่เวลาผ่านไปเนิ่นนาน การร่วมเรียงเคียงหมอนนานเข้าจะจืดจาง”“ใจเย็น จริงสิแหวกหญ้าให้งูตื่น ต่อไปเห็นทีต้องสู้ศึกสองด้าน หากข้าหย่อนเบ็ดไปปลาตัวไหนติดก่อนก็นับว่าไม่เลวทีเดียว แต่จะว่าไปคงเป็นฝ่าบาทเป็นแน่ที่หวั่นไหวส่วนองค์ชายจอมทึ่มนั่นนะหรือ แม้แต่สบตายังไม่อาจกระทำ ข้าหากจะต้องใช้ชีวิตกับคนเฉยชาเช่นนั้นคงเห็นทีจะต้องขอไปบวชชีเสียจะดีกว่า”สาวใช้หัวเราะคิกคัก ยกถ้วยน้ำแกงมาถือไว้ ก่อนจะเดินตามอี้หลิวมายังตำหนักร้อยดาว พอใกล้จะถึงตำหนักร้อยดาวก็ส่งถ้วยน้ำแกงใ
ตำหนัก ฮองเฮาลี่หยางยกมือขึ้นกอดรอบเอวบาง“จะมีใครที่ข้าอยากจะอยู่ใกล้ตลอดไปอย่างนี้”“ฝ่าบาทพูดเกินจริง”“ลี่หยางมีวันนี้ได้เพราะ ฮองเฮาคนนี้”ตำหนักจันทรา "หลี่หลงหลี่หลาง ถวายพระพรเสด็จปู่”“จิงฮวน ถวายพระพรเสด็จปู๋”“กว่าจะมามาได้ ต้องให้รอเสียนาน องค์หญิงสามก็เหมือนกันตั้งแต่แวะมา ส่งเครื่องบรรณากาวันนั้นก็หายไปเลย“วันนี้เป็นจิงฮวน ที่ชวนเราสองคนมาถวายพระพรเสด็จปู่”“ดีดีดี ลี่หลงได้ข่าวว่าแม่ของเจ้าส่งบุตรีใต้เท้าไฉ่เข้ามาทำความคุ้นเคยกับลี่หลงนางเป็นอย่างไรบ้าง”“นางแวะเวียนส่งเครื่องเสวยที่ตำหนักร้อยดาวเป็นประจำ ลี่หลางพูดขึ้นแทนลี่หลง”“ดี ดี เจ้ารองอยากจะมีคนคอยเอาใจเหมือนเจ้าใหญ่ไหม”“ดีเลยเสด็จปู๋ หลานอยากมีคนคอยเอาใจเหมือนพี่ใหญ่”“555 ลี่หลางของปู่เหมาะที่จะมีคู่ครองได้เสียที องค์หญิงสามก็สนิทสนมคุ้นเคยกับเจ้าแฝดไม่น้อยจะรังเกียจไหมหากว่าจะแต่งเข้าตระกูลลี่”จิงฮวนยิ้มกว้าง ลี่หลางเหลือบตามองลี่หลงที่ยังคงนิ่ง“เสด็จปู่มีเมตตาจิงฮวนไม่อาจปฏิเสธได้”“หลาน...หลาน”ลี่หลางตะกุกตะกัก“อย่าบอกนะว่าเจ้ารังเกียจ องค์หญิงสาม”พูดเพื่อให้ ลี่หลางปฏิเสธแบบมัดมือชก“คือ ไม่ ไม่หลาน
“ฮองเฮาเป็นยอดหญิงเข้าใจทุกอย่างได้ดี อี้หลิวขอบพระทัยที่ให้โอกาส”“ข้าเข้าใจแล้ว ข้าไม่เหนี่ยวรั้งเจ้า อิงไถร่างหนังสือให้แม่นางอี้หลิวลงชื่อยินยอมว่าถอนตัวเองไม่ได้ถูกใครบังคับ เรื่องที่นางไม่ขอแต่งเข้าเป็นชายาขององค์ชายใหญ่”อิงไถ ลากกระดาษมาวางเตรียมฝนหมึก“ เจ้ายินดีที่จะลงชื่อหรือไม่แม่นางอี้หลิว”อี้หลิวยิ้ม อ่อนหวานแต่ภายในรอยยิ้มนั้น ซ่อนความดีใจไว้จนมิด“อี้หลิวยินดีอย่างยิ่ง ไม่ว่าต่อแต่นี้จะเกิดอะไรขึ้น อี้หลิวก็ตัดสินใจเพียงลำพัง”หว่านหนิงยิ้มบางๆตำหนักจันทรา“ในที่สุดสิ่งที่ข้ารอคอยก็มาถึงเร็วอย่างไม่น่าเชื่อฝ่าบาท เช่นไรถึงจะใจแข็งได้นาน และเรื่องถอนบัญชาของฮองเฮาก็ง่ายดายอย่างไม่น่าเชื่อ”“ข้าน้อยคิดไว้ไม่ผิดเจ้าค่ะคุณหนู บุรุษเช่นไรถึงจะต้านทานความงามของคุณหนูได้ในเมื่อคุณหนูงดงามอ่อนหวานเช่นนี้ ฮองเฮาก็เป็นคนขี้สงสาร เพียงคุณหนูแสดงละครเพียงเล็กน้อยฮองเฮาก็อดใจอ่อนไม่ได้”“ข้าสะกดกั้นความดีใจไว้แทบไม่ไหวเมื่อฮองเฮายินยอม ล้มเลิกบัญชาของนางต่อไปข้าไม่ต้องฝืนใจตัวเองอีกแล้ว”“คุณหนูเรื่องนี้ เห็นทีจะให้ฮองเฮาทราบไม่ได้ รอวันที่ฝ่าบาทแต่งตั้งคุณหนูเป็นสนมเมื่อไหร่เมื่อนั
ตำหนักฮ่องเต้อี้หลิว ย่อตัวด้วยท่าทีชดช้อยที่สุด อาภรณ์สีสวยสดใส เหมือนกับตั้งใจให้บังเกิดความมงคลในสิ่งที่ตั้งใจจะทำในวันนี้“อี้หลิว..ถวายพระพรฝ่าบาท วันนี้ครบกำหนดวันที่สามแล้ว”ลี่หยางยิ้มบางๆ“แต่เดิมข้าตั้งใจให้เจ้า ทบทวนและรู้สึกผิดชอบชั่วดีในสิ่งที่ไม่บังควร”“ฝ่าบาท เป็นฝ่าบาทที่ให้ความหวัง อี้หลิว”“อี้หลิว เจ้าไม่ไตร่ตรอง ตลอดเวลาที่ข้านั่งบนบัลลังก์และแต่งฮองเฮาเข้ามาเป็นเวลาหลายปี ไม่เคยมีสักครั้งที่ข้าคิดจะนอกใจฮองเฮาหรือยกเลิกกฎมณเพียรบาลที่ข้าตั้งขึ้นเอง ไม่ใช่ข้ากลัวว่าจะกลืนน้ำลายตัวเอง แต่หว่านหนิงเป็นสิ่งมีค่ายิ่งกว่าสิ่งใดที่ไม่อยากจะเสียไปและนางเป็นหญิงเดียวที่อยู่ในใจ สิ่งเดียวที่จะตอบแทนนางได้ก็คือการ ไม่นอกใจนอกกายนางให้เจ็บซ้ำ ข้าคิดว่าคนฉลาดอย่างเจ้าจะใช้เวลาไตร่ตรอง และคิดให้ถ้วนถี่ บุรุษทุกคนล้วนมีคำหลอกลวง ว่ารักว่าต้องการ แต่สำหรับข้าคำหลอกลวงของข้ามีไว้สำหรับคนที่ ตั้งใจทำให้ข้าเปลี่ยนใจจากฮองเฮา ข้าหลอกลวงเจ้าเพื่อให้เจ้าไตร่ตรองคำหลอกลวงนั้น แต่เจ้ากับฝืนทำในสิ่งที่ไม่บังควรเดิมทีเรื่องนี้อาจไม่ต้องพูดกัน ข้าอาจไม่กล่าวโทษเจ้าหากเจ้ารู้ว่าสิ่งที่ทำมัน
“ไฉ่ก้านยักยอกเงินในคลังหลวง และปกปิดเรื่องชั่วช้า ไฉ่อี้หลิวทำความผิดใหญ่หลวงลบหลู่เบื้องสูง อีกทั้งยังไม่เจียมตัวสร้างความร้าวฉานมักใหญ่ใฝ่สูง เป็นภัยต่อราชสำนักโทษถึงประหาร แต่ด้วยฮองเฮาทรงมีพระเมตตาละเว้นโทษตายแต่โทษเป็นยังอยู่ ให้ส่งไปยังชายแดนทำงานหนักตลอดชีวิต” หว่านหนิงถอนหายใจช้าๆ“ความจริงเจ้าพยายามทำทุกวิถีทางที่จะช่วยอี้หลิว แต่เป็นนางที่จมดิ่งไม่อาจฉุดรั้งขึ้นมาได้”“พ่อผิดใช่ลูกจะผิด ความจริงคดียักยอกเงินหลวง หลายปีมานี้ได้เงินไปไม่น้อยแต่หว่านหนิงเห็นว่า คนเราบางครั้งแค่เพียงหลงผิดเดินทางที่ผิดไปก็เท่านั้น หากมีใครชี้แนะอาจจะกลับมายังทางที่ดีได้หวังให้สำนึกผิดกลับใจ หากอี้หลิว แต่งเป็นชายาหลงหลง บางทีทุกอย่างอาจดีขึ้นแต่ผิดคาด นางเองก็ทะเยอทะยานไม่แพ้ พ่อของนาง”“เป็นบางคนเท่านั้นหว่านหนิง ข้าคิดเสมอว่าข้าไม่อาจช่วยใครได้ทั้งหมด จึงเลือกช่วยได้เฉพาะบางคน”“เหมือนที่ฝ่าบาทเคยบอกหว่านหนิงมาตลอด”“ข้าบอกเจ้ามาตลอดและรักเจ้ามาตลอด โอบแขนรอบเอว รั้ง ร่างบางมาเผชิญหน้า“ข้าสงสัยไม่น้อยเจ้ารู้ได้อย่างไรว่าอี้หลิวเข้ามาเพื่อข้า”หว่านหนิงยิ้มเจ้าเล่ห์“หว่านหนิงมิใช่เด็กสาว มองแ
ฉี่กวนลี่อ้าปากค้างอิงอันกระโดดตัวลอย ลี่หลงยืนยิ้ม ฝานกงกง พยักหน้าไปมาไม่เสียทีที่หลายวันมานี้ลี่หลางมาฝึกกระบี่ที่ตำหนักเมฆาในทุกเย็น เขาเองก็ถ่ายทอดเคล็ดวิชาและการหลบหลีกให้ไปไม่น้อยเช่นกัน ลี่หลางหันไปยิ้มให้ฝานกงกงลี่เจิน ปรบมือหัวเราะร่วน“ดีดีดี เหมาะสมที่สุดแล้ว”เสี่ยวโถวออกวิ่งไปยัง ตำหนักใหญ่เพื่อรายงานเรื่องน่ายินดีให้หว่านหนิงและลี่หยางทันที“องค์ชายรองสุดยอดเสียจริงเพียงพลิกฝ่ามือก็สามารถเอาชนะองค์ชายจิงฉือผู้เก่งกาจ กระหม่อมนี้ยืนจังงังเลยทีเดียวไม่คิดไม่ฝันว่าองค์ชายรองผู้ที่ไม่ได้เรื่องที่สุดจะ สามารถเอาชนะองค์ชายจิงฉือผู้เก่งกาจได้อย่างง่ายดาย”หว่านหนิงอมยิ้มลี่หยางยิ้มกว้างยิ่งกว่า“แล้วอิงอันเล่ามีท่าทีเช่นไร”หว่านหนิงถามขึ้น“องค์หญิง กระโดดตัวลอย ความจริงอาจเป็นเพราะกระบี่ของฝานกงกงเป็นแน่แท้ที่ทำให้องค์ชายชนะการคัดเลือกในครั้งนี้”ลีหยาง ยิ้ม“กระบี่ของฝานกงกง ถูกตีขึ้นโดยฝานกงกง ในใต้หล้านี้หาผู้ที่ตีกระบี่ได้น้ำหนักดีเหมาะมือเช่นฝานกงกงคงยาก ข้าเองก็ได้มาไว้ข้างกายหนึ่งเล่ม ของลี่หลงอีกหนึ่งเล่ม หลายวันมานี่คงตรากตรำตีกระบี่ให้ลี่หลางอย่างแน่นอน”หว่านหนิงเลิ
ลี่หยางสวมกอดหว่านหนิงจากด้านหลัง ใช้คางเกยที่ไหล่บางเบาๆ“กำลังกังวลเรื่องเจ้าแฝดอยู่ใช่หรือไม่”“การจะสั่งสอนพวกเขา เป็นงานที่หนักไม่น้อยลี่หลางสร้างความหนักใจให้กับหว่านหนิงด้วยเขามักจะพลิกแพลงสถานะการณ์ด้วยตัวเองตลอดมา หรือไม่ก็เป็นลี่หลงที่มักจะให้ข้อคิดเสียจน ลี่หลางหาทางเอาตัวรอดในแบบของเขา”“เจ้ากับลี่หลางมีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน นั่นก็คือรักที่มั่นคงลี่หลางมักจะแสดงออกในแบบของเขาแต่ข้าเชื่อเหลือเกินว่าด้วยเนื้อแท้ของลี่หลางมิใช่คนที่ชั่วช้าอะไรเขาเพียงแต่ยังไม่โต เพราะการที่เสด็จพ่อเลี้ยงดูเขามาด้วยความตามใจผิดกับลี่หลงที่มีฝานกงกงคอยดูแล เจ้าแม้จะช่วยได้ไม่มากก็ช่วยลี่หลางได้ไม่น้อยหลังจากเรื่องในครั้งนี้ข้าคิดว่าเขาจะโตขึ้นและมองทุกอย่างในแบบที่เราต้องการ ลี่เจินตั้งใจสละราชสมบัติเพื่อให้ราชบุตรเขยหรือลี่หลาง ได้ขึ้นนั่งบัลลังก์หากเขายังคิดไม่ได้ บัลลังก์ก็ยังคงต้องเป็นของลี่เจินต่อไปครั้งนี้จึงนับว่าเป็นบททดสอบลี่หลาง”“หว่านหนิงเกรงว่าลี่หลางจะทำเสียเรื่องอีกครั้ง”“เจ้ากังวลเกินไปแล้วบอกหลายครั้งแล้วว่าทิ้งเรื่องราวเหล่านั้นไว้ข้างนอก” พลิกร่างบางมาเผชิญหน้า ก้มลงบดริมฝีป
“ทำไมข้าไม่เคยรู้เรื่องนี้”“ป้าหญิงบอกว่าหากให้องค์ชายทั้งสองรู้ก็จะดูไม่ออกว่าองค์ชายคนไหน ที่พร้อมจะแต่งกับอิงอันเพราะต่างคนต่างก็ต้องคิดว่าอิงอันเป็นสมบัติก็จะแย่งชิงกันมิสู้ให้ทั้งสององค์ชายมีสิทธิ์เลือกจะได้รู้ใจตัวเอง”“แล้วจิงฮวนเล่า”“จิงฮวนป้าหญิงบอกว่าองค์ชายแฝดพี่ลี่หลงมีท่าทีสนใจนางตั้งแต่ยังเยาว์ จึงส่งสาสน์ให้นางกลับมาที่นี่อีกครั้ง เพื่อจะดูว่าองค์ชายแฝดพี่จะมีท่าทีเปลี่ยนไปหรือไม่ สุดท้ายแล้วหนึ่งเดียวในหัวใจขององค์ชายแฝดพี่ก็คือจิงฮวน ป้าหญิงมองการณ์ไกลเสมอ”"ข้าแต่เดิมก็มีเจ้าเพียงคนเดียวในใจเช่นกัน""แต่ก็ยังชอบเล่นสนุก ดีนะที่อิงอันไม่แต่งกับองค์ชายชนเผ่า"“แล้วการคัดเลือกราชบุตรเขยทำไมถึงถูกจัดขึ้น”“ก็เพราะความดื้อรั้นขององค์ชายแฝดน้องอย่างไรเล่า และเป็นเพราะให้ความเป็นธรรมกับองค์ชายชนเผ่าผู้นั้นด้วย หากปฏิเสํธเขาไปเลยก็เกรงว่าความสัมพันธ์จะสั่นคลอน ป้าหญิงจึงขอให้ทุกคนช่วยแสดงละครเพื่อแก้ไขความขัดแย้งให้แคว้นเหว่ยกับชนเผ่า จะได้ช่วยให้องค์ชายแฝดน้องได้สำนึกอีกด้วย โดยเฉพาะองค์ชายจิงฉือที่ต้องเสียสละมากกว่าผู้ใด”“หมายความว่าอย่างไร”งงเป็นไก่ตาแตก“ก็หมายความว่า
น้ำเสียงเศร้าสร้อยจริงจังลี่หลางอมยิ้มหัวใจพองโต หันกลับมาซ้อนร่างบางไว้ในอ้อมแขนพาเดินเข้าหายเข้าไปในห้อง หันหลังมาปิดประตูห้องเสียมิดชิด อิงอันซบหน้าลงบนอกกว้าง ปล่อยให้ลี่หลางพาไปที่แท่นนอนหนา วางร่างบางลงบนแท่นนอน ทอดกายลงทาบทับ ประทับริมฝีปากลงไปอย่างอ่อนโยนลิ้นอุ่นซอกซอนล้วงลึกจนอีกคนเผลอส่งเสียงร้องครางออกมาเบาๆ มือใหญ่ปลอดแกะอาภรณ์ออกอย่างนุ่มนวลร่างขาวเนียนถูกบดเบียดด้วยร่างใหญ่ แสงเทียนในห้องค่อยๆ มอดดับลง ลี่หลางใช้มือใหญ่สอดประสานกับมือบางของอิงอัน พรมจูบไปทั่วร่างเนียนตั้งใจให้อีกคน ดิ้นรนถอยหนีด้วยความกระสันแต่ทว่ายิ่งดิ้นยิ่งปลุกเร้าอารมณ์“องค์ชายแฝดน้อง ท่านจะทำอะไร”อิงอันเปล่งเสียงแผ่วเบาเหมือนกำลังละเมอ“ข้ากำลังจะ ทำในสิ่งที่ใจปรารถนามานาน แล้วก็ทำให้ตัวเองไปอาจทิ้งเจ้าไปได้อย่างไรเล่า”อิงอันอมยิ้มเป็นสุขเมื่ออีกฝ่ายลูบไล้แผ่วเบาบนเรือนร่างเปลือยเปล่าอย่างถะนุถนอม พรมจูบไปทั่วร่างเนียนทุกอณูเนื้อ อิงอันบิดตัวไปมาลี่หลางยิ้มเป็นสุขจะมีใครรู้ไหมหนอ ว่าการคัดเลือกราชบุตรเขยไม่สำคัญอีกต่อไปแล้วแม้จะผิดทำนองคลองธรรมไปบ้างแต่ทว่าเขาก็ไม่อาจหักห้ามใจในเมื่อร่างบาง ใต้ร
อิงอันยืนเหม่อมองไปบนฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวนับพัน เงาดำของลี่หลางค่อยๆ เดินลัดเลาะมาที่ระเบียงที่อิงอันยืนอยู่ “อิงอัน ข้ามาลา”ก่อนหน้านั้น“ข้าเคยหายไปนางไม่เคยถามถึงหรือสงสัยแม้สักนิดว่าไม่มีลี่หลางคนนี้อยู่ที่นั่นเหมือนกับลี่หลางไม่มีตัวตน”“ครั้งนี้ไม่เหมือนกัน ตอนนั้นที่เจ้าทำ เป็นข้าก็ไม่สนใจถามถึงเช่นกัน ในเมื่อตอนนั้นเจ้าไม่จำเป็นต้องไป ตอนนี้เจ้าเพียงแต่แสดงให้นางเห็นว่าที่จะไปมีเหตุผลและกล่าวลานางด้วยความจริงใจ ไม่ได้อยู่ๆ ก็หายไป น้องรองเจ้าไม่อยากรู้ใจนางไม่อยากเห็นว่านางห่วงใยเจ้าหรือไร”“แต่ ข้ากลัวว่านางจะทำเหมือนที่ผ่านมา”“ข้าเชื่อเหลือเกินว่าอิงอันตอนนี้เห็นใจเจ้าอย่างที่สุด และเพื่อเป็นการพิสูจน์ว่านาง มีใจให้กับจิงฉือหรือเปล่า ก็ต้องลองดูหากนางมีใจให้จิงฉือนางจะไม่อาวรณ์เจ้าแม้แต่น้อยแต่ถ้าหากนาง ไม่มีใจให้จิงฉือนางคงจะกลัวเจ้าหนีไปจริงๆ ”“จะดีหรือพี่ใหญ่”“เราทั้งหมดหวังดี หากอิงอันไม่สนใจเจ้าข้าเชื่อว่าเสด็จแม่มีแผนสำรองไว้ให้แล้วเพียงแค่เจ้าเข้าคัดเลือกตัวราชบุตรเขยจนกระทั่งทุกอย่างลุล่วงไปเสด็จแม่ไม่มีทางปล่อยให้ใครต้องเดียวดาย”ลี่หลงเชื่อมั่นใจหว่านหนิงเพร
“ถึงเวลาตัดสินแล้วว่าใครจะเป็นผู้ที่แม่นธนูที่สุด”เสียงของลี่เจินประกาศดังๆ คนทั้งคู่ยืนหันหน้าเข้าหา เป้าธนูที่อยู่ห่างออกไปจนไม่น่าเชื่อว่าจะมีผู้ใดสามารถยิงธนูไปถึงได้ องค์ชายท่านข่านรูปร่างสูงใหญ่เหมือนคนทางใต้ทั่วไปแต่เป็นคนทางเหนือได้อย่างไม่น่าเชื่อ กล้ามเนื้อแขนขาเป็นมัดๆ กำลังวังชานับว่าไม่น้อย จิงฉือยิ้มมุมปากเมื่ออีกคนส่งสายตาท้าทายมาที่เขา องค์ชายท่านข่านเหนี่ยวคันศรจนโก้งจนงอก่อนอย่างไม่รอช้าลูกดอกพุ่งออกไปสู่เป้าหมายสุดแรง ลูกดอกพุ่งสู่เป้าหมายเป็นเส้นตรงแต่ระยะทางที่ไกลทำให้ลูกดอกหมดกำลังทำท่าจะไปไม่ถึงเป้าหมายโค้งงอไม่ขนานกับพื้นดิน หลายคนแทบจะหยุดหายใจ จิงฉือปล่อยลูกดอกของตัวเองพุ่งเข้าใส่ ลูกดอกขององค์ชายท่านข่านเสียบลูกดอกขององค์ชายต้านเอ่อแน่น ด้วยแรงมหาศาลของการเหนี่ยวคันศรส่งผลให้ลูกดอกฉีกออกและถูกผลักเข้าหาตรงกลางเป้าไกลแสนไกลนั้นเสียบแน่นอยู่กลางเป้าสีแดง เสียงอื้ออึงพร้อมกับคำสรรเสริญอิงอันลุกขึ้นยืนปรบมือชื่นชมฝีมือการยิงธนูของจิงฉือ ลี่หลางปาคันธนูทิ้ง“องค์ชายจิงฉือเป็นฝ่ายชนะ”ลี่เจินประกาศก้อง ลี่หลางเดินออกจากการประลอง อิงอันหันซ้ายหันขวามองหาลี่หลางแต่ก
“การประลองในรอบนี้ องค์ชายจิงฉือแห่งแคว้นหานเป็นผู้ได้รับชัยชนะ”เสียงปรบมือโห่ร้องดังกึกก้องอิงอัน ปรับสีหน้าให้เป็นปกติ ยิ้มหวานรับเอากำไลจากมือของจิงฉือมาสวมลงบนแขนของตัวเอง“ในรอบบ่ายจะมีการประลองเกิดขึ้นอีกรอบ ให้ทุกท่านไปเตรียมตัวให้พร้อม”หว่านหนิงเดินลงจากบัลลังก์ ตรงไปที่ลี่หลางนอนอยู่เอื้อมมือบางฉุดมือของลี่หลางขึ้นเหมือนเช่นที่เคยทำทุกครั้งยามเขาล้มลง“หลางหลาง”“เสด็จแม่”น้ำเสียงผิดหวังเศร้าสร้อย“ยังมีการประลองอีกหลายด่าน ให้เจ้าแสดงความสามารถ เรื่องแค่นี้หลางหลางของแม่ไม่น่าจะย่อท้อ”“ลูกไร้สามารถเพิ่งจะรู้ตอนนี้เองว่า การเที่ยวเล่นสนุกสนานไม่อาจช่วยให้ลูกเก่งกล้าหากจะเอาชนะผู้อื่นได้เพื่ออิงอันจะต้องฝึกปรือให้มากกว่านี้”หว่านหนิงยิ้มบางๆ“เจ้าคิดได้แล้ว ต่อจากนี้อาศัยแค่ความจริงใจและพยายามเท่านั้น หากทำมันอย่างดีที่สุดแม้จะไม่ชนะการประลองแต่ก็ชนะใจอิงอันและสายตาผู้คน หากเจ้าย่อท้อ ใจไม่สู้ก็ปล่อยให้อิงอันได้เคียงคู่กับคนที่เหมาะสมกับนางเสีย ถือเสียว่าไร้วาสนาต่อกันอิงอันเป็นองค์หญิงคนเดียวของแคว้นเหว่ยมากมายผู้คนหมายปอง การที่ได้ คู่ครองที่ดี จึงนับว่าเหมาะสมกับนาง หากหล
ตำหนักเมฆาของ ฉี่กวนลี่“เสด็จปู่เสด็จอาต้องดีใจอย่างแน่นอนหากเสด็จปู่ให้ความสำคัญกับการคัดเลือกราชบุตรเขยให้กับท่านอา”“เจ้าคิดเช่นนั้นหรือ”ทิ้งตัวลงนอนบนตักของฉี่กวนลี่หยิบองุ่นในพวงมาเคี้ยว พร้อมกับพยักหน้ายิ้มหวานจนตาหยี“เช่นนั้นปู่ก็คิดว่า เป็นเรื่องที่ดีฝานกงกง ตามลี่เจินพบข้าที่ตำหนัก”ฝานกงกงส่ายหน้าไปมา“เกรงว่าจะไม่เหมาะ”ฉี่กวนลี่ ขมวดคิ้ว“เพราะเหตุใด”“การแทรกแซงไม่ว่าจะเป็นด้านใดก็ไม่อาจ ฮ่องเต้ลี่เจินแม้จะเป็นองค์ชายของพระองค์มาก่อนแต่ทว่าตอนนี้เป็นถึงฮ่องเต้ของแคว้นเหว่ย เรื่องที่ต้องตัดสินใจเพียงลำพัง พระองค์เข้าไปแทรกแซงจึงไม่เหมาะ”ลี่หลางเบ้ปาก“ซือฟุท่านเอาเวลามาฝึกวรยุทธ์ให้ข้าจะดีกว่าเรื่องนี้ให้เสด็จปู่ตัดสินใจเอง”ฝานกงกงยิ้มบางๆ“องค์ชายแฝดน้อง หากจะคิดเรื่องการที่ให้เสด็จปู่เป็นคนคัดเลือก ราชบุตรเขยแล้วเห็นแก่ความเป็นปู่หลาน องค์ชายคิดผิดไปเสียแล้ว เสด็จปู่นับว่าเป็นผู้ที่เที่ยงตรงคนหนึ่งทีเดียว เรื่องแบบนี้ท่านจะไม่ประเมินเสด็จปู่ต่ำไปหน่อยหรือไร”พูดเพื่อให้ฉี่กวนลี่ นั้นคิดได้มิได้ตั้งใจหักหน้าลี่หลาง“ฝานกงกงท่านช่างรู้ใจข้านัก แน่นอนเรื่องแบบนี้ข้าฉี่กวนลี่
“ขอโทษ”จิงฉือกล่าวได้เพียงเท่านั้น ทาบทับร่างลงบนร่างบาง ล้วงมือสัมผัสผิวเนื้อร้อนผะผ่าวแต่ทว่านุ่มเนียนให้ความรู้สึกรัญจวนใจ ริมฝีปากบดเบียดปากอวบอิ่ม เหมือนหิวกระหาย หงเอ่อกลับเผยอริมฝีปากรับรสจูบ ร่างอ่อนระทวยในอ้อมแขนแข็งแรงกลับได้ระบายความร้อนจากพิษไข้ เมื่อร่างใหญเปลือยเปล่าทาบทับส่งผ่านความเย็นในอณุเนื้อของเขาให้กับหงเอ่อ พิษไข้จึงค่อยๆบรรเทาลงไปจิงฉือไม่อาจหักห้ามใจเขาเองใช่ว่าจะไม่เคย แต่เขายอมอดได้เสียนมนานต่างหาก ทุกครั้งที่ไปรบกว่าจะได้กลับมาในเมืองในแต่ละครั้งเรื่องแบบนี้ มีเพียงบุรุษเท่านั้นจึงจะเข้าใจ หงเอ่อ จิกเล็บลงบนแผ่นหลังเปลือยเปล่าของจิงฉือแน่นเมื่อพายุโหมกระหน่ำซ้ำซัดจนร่างเล็กสะท้อนขึ้นลง ดวงตาหลี่ปรือ ริมฝีปากถูกบดเบียดอย่างบ้าคลั่งก่อนที่ทุกอย่างจะสงบลง หงเอ่อซบหน้าลงบนอกกว้างของจิงฉือ หลับใหลในอ้อมแขน แข็งแรงที่กอดรัด และเฝ้าจุมพิตที่ริมฝีปากซ้ำๆ ด้วยแรงเสน่หา ตำหนักใหญ่“องค์หญิงหงเอ่อและองค์ชายจิงฉือ หายออกไปจากวังหลวงพร้อมกันทหารเลี้ยงม้าบอกไว้อย่างนั้น”หว่านหนิงถอนหายใจ จิงฉือไม่ไช่คนเหลวไหล หากไม่เกิดเหตุอะไรขึ้นเขาต้องกลับมา“ส่งองครักษ์ออกตามหาให้ทั