เนติกาคิดว่านีรนิลคือรักเดียวของเธอ แต่แล้วโลกทั้งใบก็ถล่มลงมา ครั้งนั้นทำให้เธอคิดว่าความรักมันไม่มีอยู่จริง ชาตินี้จะไม่ขอเจอหน้าคนหลอกลวงอีก...แต่มันก็เหมือนกับฟ้ากลั่นแกล้งเราต้องมาพบกันอีกครั้ง..
ดูเพิ่มเติมนีรนิลนั่งรถกลับมากับเขา ใบหน้าสวยเรียบนิ่งพลางหันมองไปทางอื่น สมองของเธอตอนนี้พยายามบอกตัวเองว่าให้ไปเอาปี๊บมาคลุมหัว หรือไม่ก็เอาจุ่มลงถังน้ำข้างทางไปเลยยิ่งดี ไปหลงเคลิ้มกับการกระทำของเขาแถมได้น้ำเสียด้วย ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหนแล้ว หญิงสาวเลือกที่จะเงียบไม่เอ่ยคำใดให้เขาแอบหัวเราะเยาะได้อีก แล้วนี่เธอจะเอาหน้าไปสู้เขาได้ยังไงกันตืดๆๆๆ!! เสียงนั้นดังขึ้น เนติกาหันไปกดปุ่มรับสายซึ่งเป็นบูทูชที่เชื่อมไว้กับในรถ“ฮัลโหล! พี่เนคะ ถึงไหนแล้วคะ” เสียงเจื้อยแจ้วดังขึ้น เนติกาเหลือบมองคนที่นั่งข้างคนขับแล้วตอบเสียงเรียบ“มีอะไรเหรอน้องรสา”“ก็รสาเห็นพี่เนไปนานนี่คะ รสามีเรื่องจะปรึกษาพี่เนค่ะ เรื่องสำคัญมาก อีกอย่างก็คิดถึงพี่เนด้วย พี่เนไปนอนโรงพยาบาลได้หลายวัน รสาเหง๊าเหงา” น้ำเสียงออดอ้อนนั้นทำเอาคนนั่งข้างๆ รู้สึกหมั่นไส้“หืม คิดถึงเป็นด้วยเหรอคะ” เนติกาแกล้งเย้าตอบ“เป็นสิคะ อยากนอนกอดพี่เนจะแย่แล้ว”“อื้อ แค่นี้นะพี่ขับรถอยู่” เมื่อเห็นว่ารสาพูดเยอะไป หญิงสาวจึงตัดบท แอบชำเรืองคนที่นั่งเงียบอยู่ข้างๆ นี่หากว่าเป็นเมื่อก่อนมีสาวโทรมาแบบนี้ เธอถูกบิดเนื้อเขียวเป็นแน่ ตอนนั้นคือคลั่งร
นีรนิลพยายามเบนกายหนี แต่ตอนนี้มันติดอยู่กับกำแพงบ้านของนายพลนี้เสียแล้ว แถมข้างซ้ายยังเป็นต้นไม้บ้านี้อีก คนตัวเล็กเริ่มหงุดหงิดตัวเองที่พอดื่มเหล้าแล้วเรี่ยวแรงไปไหนหมด เนติกาบดจูบอย่างหนักหน่วง มือข้างหนึ่งดันเจ้าหล่อนจนชิดกำแพง ส่วนอีกข้างก็สอดเข้าท้ายทอยให้แหงนเงยขึ้น ลิ้นร้อนพยายามสอดเข้าริมฝีปากเล็กอวบอิ่ม ความหวานของมันเธอรู้ดีว่ามันหวานมากมายขนาดไหน แต่ทว่าตอนนี้มันรู้สึกว่าเข้าไปชิมยากจัง“อื้อ ...” เสียงครางอย่างขัดใจดังขึ้น พลางลิ้นร้ายค่อยๆ สอดเพื่อเปิดปาก แต่อีกฝ่ายก็เม้มแน่นและพยายามเบี่ยงหน้าหนี ร่างโปร่งไม่รอช้าที่จะเคลื่อนมือไม้นั้นไปจัดการสิ่งที่กระตุ้นให้มันเปิดปากออกมา มือข้างหนึ่งเคลื่อนเข้ากอบกุมก้อนเนื้อกมข้างหนึ่งแล้วบีบคลึงมันอย่างหนักหน่วง“อ๊ะ! อุ๊บ อื้อ” ร่างน้อยสะดุ้งโหยงพร้อมส่งเสียงร้อง เพราะเนื้อนุ่มถูกเขาขยำอย่างแรงจนรู้สึกเจ็บจี๊ดตรงฐานไตที่แข็งขืนนั้น เธอจึงเพลี่ยงพล้ำให้กับเจ้าลิ้นร้อนของเขาที่สอดเข้ามาในอุ้งปากเธออย่างรวดเร็ว และตอนนี้มันได้ถือวิสาสะคิดว่าทั้งโพรงปากนี้เป็นของตัวเองเสียแล้ว มันเกี่ยวกวัดกวาดควานไปทั่ว ไม่เว้นแม้กระพุ้งแก้ม“อื้ม จ
นีรนิลนั่งมองคนตรงหน้าด้วยแววตาเศร้าหมอง ภาพของเขากับคนรักทำให้เธออกหักซ้ำแล้วซ้ำเล่า มันจะหวานเกินไปหรือเปล่าหญิงสาวคิดแล้วเมินหน้าหนี"น้ำหวานทานนี่สิครับ""ขอบคุณค่ะคุณหมอ" นีรนิลทำหน้าไม่ค่อยสู้ดีนัก เพราะสิ่งที่หมอนพตักให้คือยำซึ่งมีหอมใหญ่กับผักชี เพราะเธอเกลียดผักทั้งสองชนิดนี้เป็นที่สุดแต่เธอรับเพราะความเกรงใจ คนตัวเล็กตักเฉพาะเนื้อสัตว์"หืม ยำนี้น่ากินอ่ะ "เนติการีบหยิบจานเอามาวางตรงหน้า แล้วเอาปลาสามรสไปวางแทน นีรนิลช้อนสายตามองหน้าเขา แอบยิ้มในใจที่มีคนเอาออกไปจากตรงหน้าเธอนั้น"อื้อ พี่เนอ่ะ ชอบกินผักก็ไม่บอก" รสามองเพื่อนรุ่นพี่ที่สนิทแล้วอมยิ้ม"กินผักอร่อยจะตายไป" ร่างโปร่งแอบเหน็บ"อื้อ ดื่มกันหน่อยครับ เอ้า ยินดีต้อนรับผู้กองเนกลับมาอีกครั้งครับ" พ่อของรสาเอ่ยพร้อมยกแก้วขึ้นนำ หลังจากนั้นทุกคนก็ร่วมกันยกแก้วร่วมยินดีที่เนติกาหายป่วยเกร่ง!!"น้ำตาลทานอีกนิดได้นะครับ พรุ่งนี้หยุดด้วย เดี๋ยวผมไปส่งครับ” สายตากรุ่มกริ่มของหมอนพไม่บอกก็รู้ว่าเขาคิดยังไง ทำเอาคนที่แอบฟังทุกการกระทำนั้นหงุดหงิดหัวใจเหลือเกิน“จะดีหรอคะเมาแล้วจะยุ่งนะคะ” ประโยคนั้นเนติกา หันไปมองอย่างฉับพลั
นีรนิลหลุบสายตามองริมฝีปากเขาเมื่อรู้สึกว่าอีกฝ่ายจับจ้องอยู่ที่ริมฝีปากของเธอ การกอดรัดของเขานั้นมันแรงขึ้นมากกว่าเดิมที่เป็นอยู่นี้ มือน้อยรีบดันหน้าอกของเขาเอาไว้ ในใจเริ่มสับสนกับการกระทำของเขานี้“อื้อ ปล่อยนะคะ คุณกำลังจะทำอะไร” คนตัวเล็กถามเขาอีกครั้ง เนติกายกยิ้มมุมปาก แขนเรียวรัดเจ้าหล่อนมากยิ่งขั้น“นี่คุณ มากอดฉันทำไมคะเนี่ย จะพูดอะไรก็ไม่พูด ยืนจ้องหน้าอยู่ได้”“คิดจะปั่นหัวฉันเล่นอย่างนั้นเหรอ หืม” เนติกาเค้นเสียงต่ำพลางก้มหน้าลงมาใกล้“ปั่นหัวอะไรคะ ฉันไม่รู้เรื่องสักหน่อย อื้อ ปล่อยนะฉันอึดอัด อ๊ะ” คนตัวเล็กเริ่มดิ้น“คบกับคุณหมอแล้วยังมาทำเหมือนกับว่าอยากได้ฉันอีก นิสัยไม่เคยเปลี่ยนเลยนะ”“อื้อ อย่ามาว่าฉันนะ ใครกันแน่ที่เลิกกันไปไม่กี่เดือนก็มีใหม่ ทุกวันนี้ยังกินเด็กอีกต่างหาก” นีรนิลเชิดหน้าต่อว่าเขาบ้าง เธอจ้องตาเขากลับอย่างเอาเรื่อง“ก็ยังดีกว่าคนที่บอกว่าชอบลิ้นแล้วกินดุ้นหน้าตาเฉย”“บ้า หยาบคาย คุณจะไปไหนมันก็เรื่องของคุณ เราไม่เกี่ยวข้องกันแล้ว จะทำอะไรก็เรื่องของคุณ อ๊ะ ปล่อยสิ อื้อ” นีรนิลต่อว่าเขาผลักเขาสารพัด“หึ ไม่ปล่อย ""คนบ้า คนหยาบคาย""ใครจะนุ่มนวลเห
นีรนิลมาแอบมองคนถือดีที่ตอนนี้บอกว่าจะรับประทานอาหารเอง คิ้วเรียวขมวดนิ่วหน้าอย่างไม่พอใจ ทำไมเขาถึงได้ดื้อได้ใจอย่างนี้นะ จะทานเองได้ยังไงกัน แขนข้างที่ใช้งานได้นั้นมันไม่ใช่ข้างถนัดของเขา แล้วมันก็ยังไม่ค่อยปกติด้วย ภาพที่เห็นทำให้เธอต้องส่ายหัวอย่างเอือมระอา แบบนี้คงไม่ได้ทานยาแน่แกร่ก! คนตัวเล็กรีบเปิดประตูเข้าไปข้างในทันทีโดยไม่ต้องเคาะส่งสัญญาณตามมารยาท“อื้อ ...มาค่ะ เดี๋ยวเค้าป้อนให้เอง” หญิงสาวรีบขยับโต๊ะเลื่อนที่วางถาดอาหาร มาวางอยู่ตรงหน้าของเขา“ไม่ต้อง..ฉันกินเองได้” เนติกาจ้องหน้าอีกฝ่ายเสียงเข้ม ในใจนึกรำคาญตัวเองที่ทำอะไรไม่ค่อยถนัดนั้น“กินเองได้ยังไงล่ะคะ ดูสิ ถามว่า..ได้สักคำหรือยัง” หญิงสาวนิ่วหน้าตำหนิเขา เมื่ออีกฝ่ายเบนหน้าหนี เธอก็อมยิ้ม เพราะรู้ว่าคงเถียงไม่ออกนั่นเอง“อืมก็ได้ ป้อนเร็วๆ ด้วย หิวจะแย่แล้ว” ประโยคที่ได้ยินทำให้นีรนิลอมยิ้ม นีรนิลจัดการดึงข้าวต้มหมูของโปรดของเขาเอามาถือ ก่อนจะค่อยๆ ตักชั้นบนสุดใส่ปากเขาอย่างเบามือเนติการู้สึกดีเมื่อมีอะไรลงท้องเสียทีหลังจากที่ป้ำตักใส่ปากอย่างยากลำบาก ทุกการกระทำนั้นทำให้นีรนิลดีใจ นี่เป็นครั้งแรกในรอบ ห้าหกปีท
เนติกาเผลอมองริมฝีปากอิ่มอย่างลืมตัว หัวใจของเธอเต้นระทึก ดวงตาหวานหรี่ลงจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของกันและกัน ความรู้สึกบางอย่างปรากฏในหัวใจนั้น ดวงตาหวานยังคงกวาดมองดวงหน้าใสนั้นนิ่ง นีรนิลอาศัยช่วงนั้นหันไปมองยาที่อยู่ในถาด แอบยิ้มแล้วค่อยๆ เอื้อมไปหยิบมันมา“ตัว!” หญิงสาวแกล้งเรียกเราเสียงเบาหวิว เนติกาเลิกคิ้วเชิงคำถามอย่างลืมตัว“หืม...อ๊ะ นี่...อุ๊บ อื้อ อื้อ อือ”เนติกาลืมตัวขานรับเสียงหวาน ดวงตากลมเบิกกว้างเมื่อจู่ๆ คนใต้ร่างของเธอก็นำบางอย่างมายัดใส่ปากเธอ เมื่อรู้ว่ามันคือยาเธอรีบจะบ้านทิ้ง แต่ทว่ามันก็ถูกสกัดกั้นด้วยริมฝาปากนุ่มของอีกฝ่ายที่ผงกหัวขึ้นมาฉกลงอย่างจังหนักหน่วง มือข้างหนึ่งก็กอดคอของเขาเอาไว้แน่น ส่วนอีกข้างก็กอดรัดร่างของเธอเอาไว้ เธอหายใจไม่ออกจนต้องกลืนเจ้าสิ่งนั้นลงไป“จู๊บ บ๊ะ!! อื้อ เธอทำอะไรของเธอเนี่ย แฮกๆๆๆ”เนติการีบผละร่างออกจากการกดทับร่างของคนตัวเล็กขึ้นแล้วจับคอตัวเอง“เอ้า ดื่มน้ำก่อนค่ะ..อื้อ เร็วๆ ซิ” นีรนิลทำหน้าตาไขสือ เธอไม่ยี่ระกับสายตาคมดุนั้น หญิงสาวรีบส่งน้ำให้เขาดื่มอย่างรวดเร็ว นึกขันเมื่อเห็นสีหน้าตกใจนั้น เนติกาหรี่ตามองอีกฝ่ายแล้วนึกฉุน
เนติกาเหลือบมองร่างเล็กในชุดพยาบาลสีขาวสะอาดนั้น แววตาไหววูบขึ้นมาเมื่อนึกถึงอดีต ตอนนั้นเจ้าหล่อนกำลังจะหมั้นนี่นา แล้วทำไมตอนนี้ถึงมาอยู่ที่นี่ได้ หรือว่าย้ายตามสามีมาอยู่ที่นี่ ร่างโปร่งคิดไปไกลสารพัด“อ้าวตื่นแล้วเหรอตัว” ด้วยความเคยชิน นีรนิลจึงเอ่ยพลางรีบเข้ามาประคอง“เอ่อๆ ไม่ต้องหรอก ฉันลุกเองได้” นีรนิลหน้าชาเกือบทันที หญิงสาวทำหน้าไม่ถูก แต่เธอก็พยายามปรับสีหน้าให้มันเป็นปกติให้มากที่สุด“ตัวหิวอะไรไหม ข้าวต้มที่โรงพยาบาลคงไม่ถูกปากตัวเท่าไหร่”“ไม่หิว แล้วก็ไม่อยากกินด้วย ฉันอยากอยู่คนเดียว” เนติกาเบนหน้าหนีสายตานั้นเธอไม่อยากมองหน้าอีกฝ่ายมากนัก มันรู้สึกเจ็บแปล๊บๆ ตรงหัวใจของเธอ“อ่อ แต่ว่าตัวยังลุกขึ้นไม่ถนัดนะ ให้เค้าอยู่ดูแลน่ะดีแล้ว” เสียงหวานเอ่ยด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม เธอพยายามไม่ใส่ใจกับการกระทำที่สุดแสนจะหมางเมินของอีกฝ่ายนั้น“ไม่ต้องหรอก คุณไปทำงานของคุณเถอะ”“เอ่อๆ” นีรนิลทำหน้าไม่ถูก นี่เป็นครั้งที่ร้อยแล้วมั๊งที่เขาออกปากไล่เธอแบบนี้ ตั้งแต่เมื่อวานเลยก็ว่าได้“แล้วก็เลิกเรียกว่าตัวด้วย เราไม่ได้รู้จักกัน” เนติกามองออกไปนอกหน้าต่าง ประโยคที่แสนทิ่มแทงหัวใจคนฟังนั้
"พยาบาลคะๆ คนไข้มาแล้วค่ะ" เสียงผู้ช่วยพยาบาลเรียก ระหว่างนั้นนีรนิลรีบวิ่งเข้าไปยังห้องฉุกเฉินอย่างเคยชินคนตัวเล็กมองร่างสูงของหญิงสาวที่ถูกหามขึ้นเตียงเธอตกใจกับเลือดจำนวนมากที่อยู่บนตัวบริเวณหน้าอกด้านซ้าย ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยสีดำจากเขม่าถ่าน คาดว่าน่าจะพลางตัวเวลาไปจับยาเสพติด"คุณพยาบาลห้ามเลือดก่อน เสร็จแล้วสั่งเตรียมห้องผ่าตัด""ห้องเรียบร้อยแล้วค่ะคุณหมอ""คนไข้มีญาติหรือเปล่า" คุณหมอเอ่ยถามเดี๋ยวดิฉันออกไปสอบถามให้ค่ะ""ว่าแต่ชื่อคนไข้อยู่ไหนเนี่ย" คนตัวเล็กมองหาแผ่นชาร์จเพื่อดูรายชื่อคนไข้"รายชื่อยังไม่มาเลยค่ะ" เสียงผู้ช่วยพยาบาลเอ่ย“ไม่เป็นไรเดี๋ยวฉันออกไปจัดการเอง เธออยู่นี่นะ" นิรนิลสั่งผู้ช่วยพยาบาลเสียงเรียบพร้อมรีบเดินออกไปด้านนอกเพื่อหาญาติเซ็นเอกสาร“ขอโทษค่ะใครเป็นญาติคนไข้ที่ถูกยิงเมื่อกี้คะ. เสียงหวานตะโกนเรียกพลางมองหาร่างทหารหญิงทั้งสองเดินเข้ามา“เขาไม่มีญาติค่ะแต่พวกเราเป็นเพื่อนร่วมงานสามารถเซ็นเอกสารได้ค่ะ”“แต่ว่า....” นิรนิลทำท่าลังเล“จัดการเถอะค่ะคุณพยาบาลเพราะว่าผู้กองมีแกไม่มีญาติ”ประโยคนั้นทำให้เธอสะดุดหูชื่อเหมือนแฟนเก่าเราเลยแฮะเนรมินพยักหน้า
นีรนิลส่งข้อความอธิบายเรื่องทั้งหมดและเธออ่านแล้วยิ่งทำให้เธอเจ็บปวด ตอนนี้หัวใจของเธอเหมือนกับถูกกระชากออกมาแล้วขยี้ด้วยฝ่าเท้าของอีกฝ่าย ความรู้สึกดีๆ ตอนนี้มันสลายไปเพราะอีกฝ่ายหลอกลวง ทั้งๆ ที่เธอจริงใจ ตลอด 4 ปีมันไม่มีความหมายอีกแล้ว เนติการู้สึกเจ็บปวด เธอกลับไปเก็บข้าวของตอนที่นีรนิลไม่อยู่ แล้วทิ้งโน้ตเอาไว้พร้อมกับแหวานแทนใจที่เราเคยแลกกัน หลังจากวันนั้น เนติกาก็ไม่กลับเข้ามาที่ห้องอีก เธอหลบหน้านีรนิลแล้วทิ้งข้อความเอาไว้“ขอให้ตัวโชคดี” ประโยคนั้นทำให้คนอ่านถึงกับปล่อยโฮ“ตัว…ฮือออ เค้าขอโทษ ฮือๆ” นีรนิลหยิบข้อความนั้นขึ้นมาอ่านทีไร น้ำตาเธอไหลทุกครั้ง เธอพยายามตามหาเขาทุกที่ และก็เพิ่งรู้ว่าเขาทำเรื่องขอจบไปแล้ว เธอเช็ครายชื่อรับปริญญาเขาก็ไม่ประสงค์ที่จะรับมันด้วย แล้วเธอจะไปตามเขาได้ที่ไหน คนตัวเล็กปล่อยน้ำใสๆ ให้ไหลออกมาอย่างพลั่งพลู“น้ำตาล! เธออยู่ที่ห้องหรือเปล่า” เสียงเรียกนั้นดังมาจากด้านนอก เมื่อจำได้ว่าเป็นใครคนตัวเล็กจึงวิ่งไปเปิดประตู“อื้อ..ริน อึก มีอะไรเหรอ”“นี่ร้องไห้อีกแล้วเหรอ เนไปเกือบครึ่งปีแล้วนะ ตัดใจเหอะน้ำตาล”“อึก อือ มันยากนะริน ฮือๆ” เมื่อพูดถู
5 ปีก่อนร่างของสองสาวสวยกำลังนอนกอดกันกลมภายในห้องชุดสุดหรู กลางเมืองกรุง สองสาวดาวคณะนิติศาสตร์ อย่าง เนติกา (เน) ไพลีรัตน์ และพยาบาลศาสตร์ อย่าง นีรนิล (น้ำตาล) วีระพงษ์ ทั้งคู่อายุ 21 ปีเท่ากัน เข้าเรียนพร้อมกัน และพบรักกันตอนรับน้อง จึงย้ายมาอยู่ด้วยกันที่คอนโด ความรักสุกงอมจนปีเดินทางมาถึงปีสี่นี้ เนติการค่อยๆ ลืมตาอย่างช้าๆ เหลือบมองร่างเล็กแล้วอมยิ้ม หญิงสาวขยับเข้าไปหาแล้วกดปลายจมูกที่แก้มใสอย่างแผ่วเบา“จุ๊บ! รักตัวนะคะ” เนติกาเปรยเบาๆ ข้างแก้มใส หัวใจชุ่มฉ่ำไปด้วยความรัก เธอคลอเคลียปลายจมูกกับพวงแก้มใสไปตามลำคอ ทำให้ร่างน้อยกว่ารู้สึกตัว“อื้อ ตัว ทำอะไรคะเนี่ย อื้อ” นีรนิลปรือตามองร่างสูง เธออมยิ้มออกมาพลางเอียงไปอีกทาง พร้อมกับมือน้อยที่พยายามเอื้อมไปกอดร่างสูงของคนรัก“ก็เค้าปลุกตัวไง เช้าแล้วค่ะไปเรียนได้แล้ว” น้ำเสียงแหบพร่าเอ่ย พร้อมกับขยับร่างขึ้นแล้วเปลี่ยนจากตะกองกอดเป็นค่อมใบหน้าเจ้าหล่อนเอาไว้ นีรนิลอมยิ้มแล้วแกล้งมองค้อน“แน่ใจนะคะว่าปลุกให้ไปเรียน ไมได้ปลุกทำอย่างอื่น” นีรนิลยกมือดันหน้าอกของอีกฝ่ายเอาไว้ สายตาช้อนขึ้น พลางใช้มืออีกข้างเกาะที่บ่าของเขาเอาไว้เนต...
ความคิดเห็น