รสาดิ้นขลุกขลักเธอทั้งผลักทั้งดึงเพื่อให้เขาปล่อยปากจากการจูบเธอนี้ แต่ดูเหมือนว่าคนตัวสูงกว่าจะไม่ยอมปล่อยง่ายๆ เหมือนลิ้นร้ายของเขาพยายามสอดแทรกเพื่อเปิดปากอิ่มของเธอเข้าไปข้างในริมฝีปากนี้ เธอไม่ยอมให้เขาจูบเธอเหมือนเมื่อวันก่อนเป็นแน่ แค่ครั้งเดียวมันก็เกินพอแล้ว รสาคิดพลางดึงเสื้อของเขาแน่น“อื้อ....” นายครางอย่างขัดใจ เมื่ออีกฝ่ายไม่ยอมให้ความร่วมมือ ความนุ่มนิ่มของปากอิ่มทำให้เธอคิดถึงความหวานจากข้างในนั้น ทีแรกก็แค่อยากจะปิดปากเจ้าหล่อนไม่ให้ส่งเสียง แต่พอได้สัมผัสแล้วมันทำให้เธออยากลิ้มรสความหวานจากข้างในโพรงปากนี้ หญิงสาวค่อยๆ สอดมือเข้าท้ายทอยของเจ้าหล่อน พลางสอดมืออีกข้างเคลื่อนเข้าก้อนเนื้อตรงหน้าอย่างถือวิสาสะ“อ๊ะ อื้อ อะ อุ๊บ จุ๊บ อื้อ อ่าส์” รสารีบร้องห้ามเมื่อเมื่อเขาสอดมือเข้าใต้สาบเสื้อแล้วบีบหน้าอกเธออย่างแรง แต่เธอไม่รู้เลยว่าการกระทำเช่นนั้นมันทำให้เขาอาศัยจังหวะเผลอส่งแทรกเจ้าลิ้นร้ายเข้าไปข้างในโพรงปากเธอทันที รสารีบถดลิ้นเล็กหนี แต่พื้นที่ข้างในปากอิ่มของเธอนี้มันก็ไม่ได้กว้างเหมือนลานจอดรถ เขาไล่ตามต้อนเธอจนมุม และตอนนี้เขากำลังตวัดปลายลิ้นมายังเธอนี้“อื้อ
รสาตกใจที่เห็นว่ามันไม่ใช่แค่ฝัน แล้วเธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงกัน เธอจำได้ว่าเธอถูกเขาจูบอยู่ที่ห้องน้ำในผับนั้น มารู้ตัวอีกทีก็อยู่ที่นี่แล้ว แถมเขายังทำการถือวิสาสะกับเนื้อตัวเธออีก ทุกอย่างมันคือฝีมือของเขาอย่างนั้นสินะ ทไม่อย่างนั้นเนื้อตัวของเธอไม่ล่อนจ้อนขนาดนี้ สิ่งที่เธอฝันนั้นแสดงว่ามันไม่ได้เป็นเพียงแค่ฝัน เขาจูบเธอจริงเข้าเล็มเลียเนื้อตัวของเธอจริง แถมตอนนี้เขากำลังจะขืนใจเธออีกด้วย รสาตกใจรีบดิ้นหนีปากของเขา“อื้อ จุ๊บ จ๊วบอื้อ” นายครางอย่างขัดใจเมื่อคนด้านล่างดิ้นรนขัดขืนอยู่อย่างนั้น ร่างสูงเหลือบตามองใบหน้าของอีกฝ่าย สายตาสบเข้าอย่างจัง คนตัวสูงกว่ากดร่างของตัวเองลงไปแนบแน่น พร้อมกับบดริมฝีปากลงเคล้าเจ้าหล่อนอย่างหนักหน่วง มือข้างหนึ่งเอื้อมไปไปถูไถลกลีบเนื้อสวยก่อนจะค่อยๆ กรีดลงไปใจกลางสาวแล้วสะกิดติ่งเนื้อหยุ่นเต่งตึงนั้นไปมา“อ๊ะ อ๊ะ อื้อ นาย อุ๊บ อือ” รสาสะดุ้งกายเบาๆ ตามจังหวะการสะกิดของเขานั้น ร่างน้อยร้อนวูบวาบขึ้นตามจังหวะการสัมผัสของเขา ใช่ว่าเธอจะไร้เดียวสา พอจะรู้ว่าตรงส่วนนั้นมันไวต่อความรู้สึกมากมายขนาดไหน เธอเสียวสยิวเป็นที่สุดเขาทำให้ขนกายของเธอลุกซู่อย่างเ
นายเหลือบสายตามองเบื้องหน้าในระหว่างนั้นก็ค่อยๆ จรดริมฝีปากพรหมจูบเนินเนื้ออิ่มของเจ้าหล่อนด้วยความแผ่วเบา ปลายนิ้วยาวทั้งสามยังคงแช่มันอยู่ตรงช่อทางรัก เมื่อเห็นสีใสที่ไหลเยิ้มออกมานั้นเธอจึงเบาใจลงบ้าง กล้ามเนื้อหยุ่นที่เริ่มปรับตัวนั้นมันทำให้นายแอบอมยิ้ม“อื้อ ตอดดีจัง จุ๊บ อื้ม จุ๊บ อื้อ” นายเปรยระหว่างนั้นก็พรมจูบลงกับเนินเนื้ออิ่มของเจ้าหล่อน ลิ้นร้อนแอบตวัดปุ่มเนื้อหยุ่นที่บวมเป่งเบาๆ“อ๊ะ คุณ อ๊ะ อื้อ อ่าส์” รสาเงยหน้าร้องบอกเขา หญิงสาวส่ายหน้าไปมาเบาๆ สะโพกสวยบิดเร้าอยู่อย่างนั้น หัวใจของเธอเต้นระทึกเมื่อรู้สึกถึงสิ่งที่ค้างคาอยู่ตรงร่องสวยของเธอนั้นเริ่มขยับไปมา หญิงสาวถึงกลับต้องเลียริมฝีปากที่แห้งผาก มือทั้งสอข้างกำผ้าปูที่นอนแน่น“อื้ม จุ๊บ อื้อ คนดี แบบนี้แหล่ะค่ะ แบบนี้ อื้ม จ๊วบ อือ” เมื่อเห็นว่าร่างน้อยเลิกเกร็งร่างกายนั้นแล้ว นายจึงเปรยออกมาพร้อมกับการเล้าโลมขึ้นสุด เธอห่อปากดูดดึงติ่งเนื้อนุ่มนิ่มของเจ้าหล่อนไปมา หยดน้ำหวานที่เคลือบอยู่ถูกตวัดปาดเลียลงลำคอ นายจึงค่อยๆ ขยับข้อมือตัวเองออกอย่างช้าๆ จากนั้นก็ดันมันเข้าไปใหม่ด้วยความแผ่วเบา“อื้อ อ๊ะ อ๊ะ อื้อ คุณ อื้อ
เนติกาอมยิ้มเมื่อเห็นความฉ่ำเยิ้มของดอกไม้งามตรงหน้า กลีบของมันแม้จะช้ำจากการเข้าหอเมื่อคืนอยู่บ้าง แต่ความสวยยังคงเป็นเช่นเดิม ดวงตาคมจ้องมองมันด้วยความปรารถนา หญิงสาวค่อยๆ กรีดปลายนิ้วลงไปเพื่อขอดูความฉ่ำข้างในนั้น“อื้อ...ตะ ตัว” เมื่อรู้สึกถึงการแยกออกจากกันนั้น เจ้าของความหวานฉ่ำจึงร้องครางขึ้น หญิงสาวผงกหัวมองผู้เป็นสามี ที่ตอนนี้กำลังซุกซนจนเกินไปเสียแล้ว“หืม ที่รัก จุ๊บ อื้อ อ่าส์” เนติกาเงยหน้าขานรับเสียงหวาน ขณะที่ริมฝีปากนุ่มก็จุมพิตอยู่กับเนินเนื้ออิ่มตรงหน้านั้น เธอใช้นิ้วที่ยวที่สุดสะกิดปุ่มด้านบนไปมาเบาๆ“มัน สะ เสียว ตัวอย่าเขี่ย อื้อ อ่าส์” หัวใจของนีรนิลเต้นระทึก เมื่อกลีบเนื้อสวยถูกแบะออกขณะที่นิ้วร้ายยังเล่นซนจนเธอหัวใจจะวาย เขาทำแบบนี้รู้ไหมว่าน้ำเธอกำลังไหลออกจนหมดตัวแล้ว“ไม่เขี่ยแล้วเลียได้ไหม อื้อ แพล่บ อื้ม อร่อยจัง แพล่บๆ” เนติกาเปรยระหว่างปาดลิ้นร้อนไปตรงปุ่มนั้น พลับดูดซับน้ำหวานแล้วกลืนกินลงคอ ไม่อยากจะบอกเลยว่าน้ำตาลก้อนนี้หวานล้ำจนเธอหลงใหล กลิ่นสาบสาวที่โชยแตะปลายจมูกมันปลุกอารมณ์ดิบข้างในร่างกายของเธอเป็นอย่างดี คิดแล้วก็ห่อปากงาบงับเจ้าเนื้อหยุ่นสีช
5 ปีก่อนร่างของสองสาวสวยกำลังนอนกอดกันกลมภายในห้องชุดสุดหรู กลางเมืองกรุง สองสาวดาวคณะนิติศาสตร์ อย่าง เนติกา (เน) ไพลีรัตน์ และพยาบาลศาสตร์ อย่าง นีรนิล (น้ำตาล) วีระพงษ์ ทั้งคู่อายุ 21 ปีเท่ากัน เข้าเรียนพร้อมกัน และพบรักกันตอนรับน้อง จึงย้ายมาอยู่ด้วยกันที่คอนโด ความรักสุกงอมจนปีเดินทางมาถึงปีสี่นี้ เนติการค่อยๆ ลืมตาอย่างช้าๆ เหลือบมองร่างเล็กแล้วอมยิ้ม หญิงสาวขยับเข้าไปหาแล้วกดปลายจมูกที่แก้มใสอย่างแผ่วเบา“จุ๊บ! รักตัวนะคะ” เนติกาเปรยเบาๆ ข้างแก้มใส หัวใจชุ่มฉ่ำไปด้วยความรัก เธอคลอเคลียปลายจมูกกับพวงแก้มใสไปตามลำคอ ทำให้ร่างน้อยกว่ารู้สึกตัว“อื้อ ตัว ทำอะไรคะเนี่ย อื้อ” นีรนิลปรือตามองร่างสูง เธออมยิ้มออกมาพลางเอียงไปอีกทาง พร้อมกับมือน้อยที่พยายามเอื้อมไปกอดร่างสูงของคนรัก“ก็เค้าปลุกตัวไง เช้าแล้วค่ะไปเรียนได้แล้ว” น้ำเสียงแหบพร่าเอ่ย พร้อมกับขยับร่างขึ้นแล้วเปลี่ยนจากตะกองกอดเป็นค่อมใบหน้าเจ้าหล่อนเอาไว้ นีรนิลอมยิ้มแล้วแกล้งมองค้อน“แน่ใจนะคะว่าปลุกให้ไปเรียน ไมได้ปลุกทำอย่างอื่น” นีรนิลยกมือดันหน้าอกของอีกฝ่ายเอาไว้ สายตาช้อนขึ้น พลางใช้มืออีกข้างเกาะที่บ่าของเขาเอาไว้เนต
นีรนิลส่งข้อความอธิบายเรื่องทั้งหมดและเธออ่านแล้วยิ่งทำให้เธอเจ็บปวด ตอนนี้หัวใจของเธอเหมือนกับถูกกระชากออกมาแล้วขยี้ด้วยฝ่าเท้าของอีกฝ่าย ความรู้สึกดีๆ ตอนนี้มันสลายไปเพราะอีกฝ่ายหลอกลวง ทั้งๆ ที่เธอจริงใจ ตลอด 4 ปีมันไม่มีความหมายอีกแล้ว เนติการู้สึกเจ็บปวด เธอกลับไปเก็บข้าวของตอนที่นีรนิลไม่อยู่ แล้วทิ้งโน้ตเอาไว้พร้อมกับแหวานแทนใจที่เราเคยแลกกัน หลังจากวันนั้น เนติกาก็ไม่กลับเข้ามาที่ห้องอีก เธอหลบหน้านีรนิลแล้วทิ้งข้อความเอาไว้“ขอให้ตัวโชคดี” ประโยคนั้นทำให้คนอ่านถึงกับปล่อยโฮ“ตัว…ฮือออ เค้าขอโทษ ฮือๆ” นีรนิลหยิบข้อความนั้นขึ้นมาอ่านทีไร น้ำตาเธอไหลทุกครั้ง เธอพยายามตามหาเขาทุกที่ และก็เพิ่งรู้ว่าเขาทำเรื่องขอจบไปแล้ว เธอเช็ครายชื่อรับปริญญาเขาก็ไม่ประสงค์ที่จะรับมันด้วย แล้วเธอจะไปตามเขาได้ที่ไหน คนตัวเล็กปล่อยน้ำใสๆ ให้ไหลออกมาอย่างพลั่งพลู“น้ำตาล! เธออยู่ที่ห้องหรือเปล่า” เสียงเรียกนั้นดังมาจากด้านนอก เมื่อจำได้ว่าเป็นใครคนตัวเล็กจึงวิ่งไปเปิดประตู“อื้อ..ริน อึก มีอะไรเหรอ”“นี่ร้องไห้อีกแล้วเหรอ เนไปเกือบครึ่งปีแล้วนะ ตัดใจเหอะน้ำตาล”“อึก อือ มันยากนะริน ฮือๆ” เมื่อพูดถู
"พยาบาลคะๆ คนไข้มาแล้วค่ะ" เสียงผู้ช่วยพยาบาลเรียก ระหว่างนั้นนีรนิลรีบวิ่งเข้าไปยังห้องฉุกเฉินอย่างเคยชินคนตัวเล็กมองร่างสูงของหญิงสาวที่ถูกหามขึ้นเตียงเธอตกใจกับเลือดจำนวนมากที่อยู่บนตัวบริเวณหน้าอกด้านซ้าย ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยสีดำจากเขม่าถ่าน คาดว่าน่าจะพลางตัวเวลาไปจับยาเสพติด"คุณพยาบาลห้ามเลือดก่อน เสร็จแล้วสั่งเตรียมห้องผ่าตัด""ห้องเรียบร้อยแล้วค่ะคุณหมอ""คนไข้มีญาติหรือเปล่า" คุณหมอเอ่ยถามเดี๋ยวดิฉันออกไปสอบถามให้ค่ะ""ว่าแต่ชื่อคนไข้อยู่ไหนเนี่ย" คนตัวเล็กมองหาแผ่นชาร์จเพื่อดูรายชื่อคนไข้"รายชื่อยังไม่มาเลยค่ะ" เสียงผู้ช่วยพยาบาลเอ่ย“ไม่เป็นไรเดี๋ยวฉันออกไปจัดการเอง เธออยู่นี่นะ" นิรนิลสั่งผู้ช่วยพยาบาลเสียงเรียบพร้อมรีบเดินออกไปด้านนอกเพื่อหาญาติเซ็นเอกสาร“ขอโทษค่ะใครเป็นญาติคนไข้ที่ถูกยิงเมื่อกี้คะ. เสียงหวานตะโกนเรียกพลางมองหาร่างทหารหญิงทั้งสองเดินเข้ามา“เขาไม่มีญาติค่ะแต่พวกเราเป็นเพื่อนร่วมงานสามารถเซ็นเอกสารได้ค่ะ”“แต่ว่า....” นิรนิลทำท่าลังเล“จัดการเถอะค่ะคุณพยาบาลเพราะว่าผู้กองมีแกไม่มีญาติ”ประโยคนั้นทำให้เธอสะดุดหูชื่อเหมือนแฟนเก่าเราเลยแฮะเนรมินพยักหน้า
เนติกาเหลือบมองร่างเล็กในชุดพยาบาลสีขาวสะอาดนั้น แววตาไหววูบขึ้นมาเมื่อนึกถึงอดีต ตอนนั้นเจ้าหล่อนกำลังจะหมั้นนี่นา แล้วทำไมตอนนี้ถึงมาอยู่ที่นี่ได้ หรือว่าย้ายตามสามีมาอยู่ที่นี่ ร่างโปร่งคิดไปไกลสารพัด“อ้าวตื่นแล้วเหรอตัว” ด้วยความเคยชิน นีรนิลจึงเอ่ยพลางรีบเข้ามาประคอง“เอ่อๆ ไม่ต้องหรอก ฉันลุกเองได้” นีรนิลหน้าชาเกือบทันที หญิงสาวทำหน้าไม่ถูก แต่เธอก็พยายามปรับสีหน้าให้มันเป็นปกติให้มากที่สุด“ตัวหิวอะไรไหม ข้าวต้มที่โรงพยาบาลคงไม่ถูกปากตัวเท่าไหร่”“ไม่หิว แล้วก็ไม่อยากกินด้วย ฉันอยากอยู่คนเดียว” เนติกาเบนหน้าหนีสายตานั้นเธอไม่อยากมองหน้าอีกฝ่ายมากนัก มันรู้สึกเจ็บแปล๊บๆ ตรงหัวใจของเธอ“อ่อ แต่ว่าตัวยังลุกขึ้นไม่ถนัดนะ ให้เค้าอยู่ดูแลน่ะดีแล้ว” เสียงหวานเอ่ยด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม เธอพยายามไม่ใส่ใจกับการกระทำที่สุดแสนจะหมางเมินของอีกฝ่ายนั้น“ไม่ต้องหรอก คุณไปทำงานของคุณเถอะ”“เอ่อๆ” นีรนิลทำหน้าไม่ถูก นี่เป็นครั้งที่ร้อยแล้วมั๊งที่เขาออกปากไล่เธอแบบนี้ ตั้งแต่เมื่อวานเลยก็ว่าได้“แล้วก็เลิกเรียกว่าตัวด้วย เราไม่ได้รู้จักกัน” เนติกามองออกไปนอกหน้าต่าง ประโยคที่แสนทิ่มแทงหัวใจคนฟังนั้
เนติกาอมยิ้มเมื่อเห็นความฉ่ำเยิ้มของดอกไม้งามตรงหน้า กลีบของมันแม้จะช้ำจากการเข้าหอเมื่อคืนอยู่บ้าง แต่ความสวยยังคงเป็นเช่นเดิม ดวงตาคมจ้องมองมันด้วยความปรารถนา หญิงสาวค่อยๆ กรีดปลายนิ้วลงไปเพื่อขอดูความฉ่ำข้างในนั้น“อื้อ...ตะ ตัว” เมื่อรู้สึกถึงการแยกออกจากกันนั้น เจ้าของความหวานฉ่ำจึงร้องครางขึ้น หญิงสาวผงกหัวมองผู้เป็นสามี ที่ตอนนี้กำลังซุกซนจนเกินไปเสียแล้ว“หืม ที่รัก จุ๊บ อื้อ อ่าส์” เนติกาเงยหน้าขานรับเสียงหวาน ขณะที่ริมฝีปากนุ่มก็จุมพิตอยู่กับเนินเนื้ออิ่มตรงหน้านั้น เธอใช้นิ้วที่ยวที่สุดสะกิดปุ่มด้านบนไปมาเบาๆ“มัน สะ เสียว ตัวอย่าเขี่ย อื้อ อ่าส์” หัวใจของนีรนิลเต้นระทึก เมื่อกลีบเนื้อสวยถูกแบะออกขณะที่นิ้วร้ายยังเล่นซนจนเธอหัวใจจะวาย เขาทำแบบนี้รู้ไหมว่าน้ำเธอกำลังไหลออกจนหมดตัวแล้ว“ไม่เขี่ยแล้วเลียได้ไหม อื้อ แพล่บ อื้ม อร่อยจัง แพล่บๆ” เนติกาเปรยระหว่างปาดลิ้นร้อนไปตรงปุ่มนั้น พลับดูดซับน้ำหวานแล้วกลืนกินลงคอ ไม่อยากจะบอกเลยว่าน้ำตาลก้อนนี้หวานล้ำจนเธอหลงใหล กลิ่นสาบสาวที่โชยแตะปลายจมูกมันปลุกอารมณ์ดิบข้างในร่างกายของเธอเป็นอย่างดี คิดแล้วก็ห่อปากงาบงับเจ้าเนื้อหยุ่นสีช
นายเหลือบสายตามองเบื้องหน้าในระหว่างนั้นก็ค่อยๆ จรดริมฝีปากพรหมจูบเนินเนื้ออิ่มของเจ้าหล่อนด้วยความแผ่วเบา ปลายนิ้วยาวทั้งสามยังคงแช่มันอยู่ตรงช่อทางรัก เมื่อเห็นสีใสที่ไหลเยิ้มออกมานั้นเธอจึงเบาใจลงบ้าง กล้ามเนื้อหยุ่นที่เริ่มปรับตัวนั้นมันทำให้นายแอบอมยิ้ม“อื้อ ตอดดีจัง จุ๊บ อื้ม จุ๊บ อื้อ” นายเปรยระหว่างนั้นก็พรมจูบลงกับเนินเนื้ออิ่มของเจ้าหล่อน ลิ้นร้อนแอบตวัดปุ่มเนื้อหยุ่นที่บวมเป่งเบาๆ“อ๊ะ คุณ อ๊ะ อื้อ อ่าส์” รสาเงยหน้าร้องบอกเขา หญิงสาวส่ายหน้าไปมาเบาๆ สะโพกสวยบิดเร้าอยู่อย่างนั้น หัวใจของเธอเต้นระทึกเมื่อรู้สึกถึงสิ่งที่ค้างคาอยู่ตรงร่องสวยของเธอนั้นเริ่มขยับไปมา หญิงสาวถึงกลับต้องเลียริมฝีปากที่แห้งผาก มือทั้งสอข้างกำผ้าปูที่นอนแน่น“อื้ม จุ๊บ อื้อ คนดี แบบนี้แหล่ะค่ะ แบบนี้ อื้ม จ๊วบ อือ” เมื่อเห็นว่าร่างน้อยเลิกเกร็งร่างกายนั้นแล้ว นายจึงเปรยออกมาพร้อมกับการเล้าโลมขึ้นสุด เธอห่อปากดูดดึงติ่งเนื้อนุ่มนิ่มของเจ้าหล่อนไปมา หยดน้ำหวานที่เคลือบอยู่ถูกตวัดปาดเลียลงลำคอ นายจึงค่อยๆ ขยับข้อมือตัวเองออกอย่างช้าๆ จากนั้นก็ดันมันเข้าไปใหม่ด้วยความแผ่วเบา“อื้อ อ๊ะ อ๊ะ อื้อ คุณ อื้อ
รสาตกใจที่เห็นว่ามันไม่ใช่แค่ฝัน แล้วเธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงกัน เธอจำได้ว่าเธอถูกเขาจูบอยู่ที่ห้องน้ำในผับนั้น มารู้ตัวอีกทีก็อยู่ที่นี่แล้ว แถมเขายังทำการถือวิสาสะกับเนื้อตัวเธออีก ทุกอย่างมันคือฝีมือของเขาอย่างนั้นสินะ ทไม่อย่างนั้นเนื้อตัวของเธอไม่ล่อนจ้อนขนาดนี้ สิ่งที่เธอฝันนั้นแสดงว่ามันไม่ได้เป็นเพียงแค่ฝัน เขาจูบเธอจริงเข้าเล็มเลียเนื้อตัวของเธอจริง แถมตอนนี้เขากำลังจะขืนใจเธออีกด้วย รสาตกใจรีบดิ้นหนีปากของเขา“อื้อ จุ๊บ จ๊วบอื้อ” นายครางอย่างขัดใจเมื่อคนด้านล่างดิ้นรนขัดขืนอยู่อย่างนั้น ร่างสูงเหลือบตามองใบหน้าของอีกฝ่าย สายตาสบเข้าอย่างจัง คนตัวสูงกว่ากดร่างของตัวเองลงไปแนบแน่น พร้อมกับบดริมฝีปากลงเคล้าเจ้าหล่อนอย่างหนักหน่วง มือข้างหนึ่งเอื้อมไปไปถูไถลกลีบเนื้อสวยก่อนจะค่อยๆ กรีดลงไปใจกลางสาวแล้วสะกิดติ่งเนื้อหยุ่นเต่งตึงนั้นไปมา“อ๊ะ อ๊ะ อื้อ นาย อุ๊บ อือ” รสาสะดุ้งกายเบาๆ ตามจังหวะการสะกิดของเขานั้น ร่างน้อยร้อนวูบวาบขึ้นตามจังหวะการสัมผัสของเขา ใช่ว่าเธอจะไร้เดียวสา พอจะรู้ว่าตรงส่วนนั้นมันไวต่อความรู้สึกมากมายขนาดไหน เธอเสียวสยิวเป็นที่สุดเขาทำให้ขนกายของเธอลุกซู่อย่างเ
รสาดิ้นขลุกขลักเธอทั้งผลักทั้งดึงเพื่อให้เขาปล่อยปากจากการจูบเธอนี้ แต่ดูเหมือนว่าคนตัวสูงกว่าจะไม่ยอมปล่อยง่ายๆ เหมือนลิ้นร้ายของเขาพยายามสอดแทรกเพื่อเปิดปากอิ่มของเธอเข้าไปข้างในริมฝีปากนี้ เธอไม่ยอมให้เขาจูบเธอเหมือนเมื่อวันก่อนเป็นแน่ แค่ครั้งเดียวมันก็เกินพอแล้ว รสาคิดพลางดึงเสื้อของเขาแน่น“อื้อ....” นายครางอย่างขัดใจ เมื่ออีกฝ่ายไม่ยอมให้ความร่วมมือ ความนุ่มนิ่มของปากอิ่มทำให้เธอคิดถึงความหวานจากข้างในนั้น ทีแรกก็แค่อยากจะปิดปากเจ้าหล่อนไม่ให้ส่งเสียง แต่พอได้สัมผัสแล้วมันทำให้เธออยากลิ้มรสความหวานจากข้างในโพรงปากนี้ หญิงสาวค่อยๆ สอดมือเข้าท้ายทอยของเจ้าหล่อน พลางสอดมืออีกข้างเคลื่อนเข้าก้อนเนื้อตรงหน้าอย่างถือวิสาสะ“อ๊ะ อื้อ อะ อุ๊บ จุ๊บ อื้อ อ่าส์” รสารีบร้องห้ามเมื่อเมื่อเขาสอดมือเข้าใต้สาบเสื้อแล้วบีบหน้าอกเธออย่างแรง แต่เธอไม่รู้เลยว่าการกระทำเช่นนั้นมันทำให้เขาอาศัยจังหวะเผลอส่งแทรกเจ้าลิ้นร้ายเข้าไปข้างในโพรงปากเธอทันที รสารีบถดลิ้นเล็กหนี แต่พื้นที่ข้างในปากอิ่มของเธอนี้มันก็ไม่ได้กว้างเหมือนลานจอดรถ เขาไล่ตามต้อนเธอจนมุม และตอนนี้เขากำลังตวัดปลายลิ้นมายังเธอนี้“อื้อ
นีรนิลหน้าร้อนผ่าวเมื่อร่างสวยขาวโพลนทอดยาวอยู่บนเตียงนุ่ม คนตัวเล็กนอนหอบตัวโยงหลังจากที่เรามีความสุขกันไปรอบหนึ่งแล้ว ร่างสูงของเขายังคงขึ้นค่อมอยู่ด้านบน มือทั้งสอข้างยังยันอยู่กับเตียงนุ่มอยู่อย่างนั้น คนตัวเล็กหน้าแดงจัดพลางอมยิ้มออกมาเมื่อนึกถึงลีลารักของเขา กลีบเนื้อนุ่มก็ร้อนขึ้นมาเลยก็ว่าได้ สายตาหวานเยิ้มมองเรือนร่างของเขาแล้วเอื้อมมือไปลูบไล้เนื้อตัวของเขาไปมาเบาๆ เนติกาเงยหน้าส่งเสียงครางเมื่อฝ่ามือร้อนสัมผัสเรือนร่าง“อื้อ....อาส์” เสียงหวานครางเบาๆ เมื่อฝ่ามือร้อนแสนนุ่มนิ่มนั้นสัมผัสเรือนร่างโปร่งของตนนั้น ร่างสูงโน้มลงไปใกล้ สายตาหวานเยิ้ม นีรนิลอมยิ้มปรือตาหวานเยิ้ม เธอไต่ปลายนิ้วไปกอบกุมอยู่กับเต้าเต่งของเขา“นุ่มมือจังค่ะ อื้อ” เสียงหวานของคนด้านล่างเอ่ย พลางเคล้นไปมาเบาๆ เนติกาหน้าร้อนผ่าวหญิงสาวเบียดร่างน้อยลงไปหาเจ้าหล่อนอีกแล้วคลายยิ้มออกมา“อื้อ มือตัวก็นุ่มจังค่ะ อ่าส์ รู้สึกดีจังเลย” ร่างโปร่งหลับตาเงยหน้าคราง นีรนิลอมยิ้ม ทุกครั้งที่เธอสัมผัสเขาๆ ก็จะร้องแบบนี้ บิดกายส่ายไปมาแบบนี้ ซึ่งมันปลุกเร้าความต้องการข้างในขึ้นมาทุกขณะ นีรนิลใช้ปลายนิ้วยาวสะกิดไปมาเบา
เนติกายืนมองร่างร่างบางในชุดราตรีสีครีมยาวกรอมพื้นด้วยแววตาปลื้มปริ่ม ใบหน้าสวยหวานของคนตรงหน้าทำให้เธอรู้สึกภูมิใจ เมียใครทำไมสวยขนาดนี้ คนตัวสูงคิดพลางอมยิ้มก่อนจะก้มลงไปจับมือเรียวสวยนั้นขึ้นมากุมไว้ สายตามองคนตรงหน้าหวานเยิ้ม“รู้ไหม ว่าวันนี้ตัวสวยมากเลยนะคะ”“อื้อ ตัวก็สวยค่ะ สวยจนจำไม่ได้เลยคะ”เสียงหวานเอ่ยพลางกุมมือเขาตอบ เธอยิ้มหวานให้คนตรงหน้า คนที่กำลังเป็นคู่วิวาห์กับเธออยู่ตอนนี้ เธอไม่คิดเลยว่าจะมีวันนี้ วันที่เธอจะได้แต่งงานกับเขา คนที่หนีเธอไปและเลิกกันเมื่อห้าปีก่อนนั้น มันเหมือนฝันเลยก็ว่าได้“อื้อ ว่าแต่ตอนนี้เมียพร้อมหรือยังคะ” เธออมยิ้มใส่ตาหวานคู่ที่ระยิบระยับนั้น นีรนิลมองตามเขาไปยังประตูโบสถ์ที่ปิดสนิทนั้นแล้วพยักหน้า“พร้อมตั้งแต่เกิดแล้วค่ะ” เจ้าหล่อนเย้าคนตัวสูงเล่น เนติกาอมยิ้มก่อนจะจับหัวเจ้าหล่อนแล้วโยกเบาๆ“อื้อ อ่ะจ๊ะ ไปกันค่ะ”“อื้อ...” นีรนิลพยักหน้าเบาๆ จากนั้นทั้งสองสามก็พากันเดินจูงมือเข้าสู่ประตูวิวาห์ ทันทีที่บานประตูเปิดออกเสียงปรบมือก็ดังเกรียวกราวพร้อมกับเสียงชื่นชมยินดีที่ดังขึ้น ทั้งคู่มองหน้ากันแล้วยิ้มหวานให้กัน มือสองมือกุมกันแน่น แน่นชน
นีรนิลยืนมองนิ้วนางข้างซ้ายของตัวเองแล้วอมยิ้ม หัวใจดวงน้อยรู้สึกอิ่มเอมอย่างบอกไม่ถูก เธอไม่คิดว่าเขาจะขอเธอแต่งงานในวันเปิดตัวว่าเราคบกันแบบนี้ ซึ่งทุกคนก็ตกใจและเซอร์ไพรซ์มาก ไม่รู้ว่าไปคบกันตอนไหนแล้วก็มาขอแต่งงานกันเลย เขาต้องเล่าสตอรี่ทั้งหมด แล้วทุกคนก็ถึงบางอ้อ เธอถูกเพื่อนๆ ล้อเลียนกันใหญ่ เรื่องที่อาสาดูแลคนไข้ตอนที่เขาถูกยิงครั้งแรก เธอเกือบจะเอาปี๊บคลุมหัว แต่จะทำยังไงได้ ก็ตอนนั้นเธออยากเข้าใกล้เขานี่นา คนตัวเล็กคิดแล้วยิ้มออกมาคนเดียวหมับ“อุ๊ย!”ร่างน้อยสะดุ้ง เมื่อถูกสวมกอดจากด้านหลัง เธอเหลียวหน้าไปมองเสี้ยวหน้าคมแล้วยิ้มออกมา“คิดอะไรอยู่เหรอจ๊ะเมียจ๋า” เนติกาเอ่ยเสียงหวานพลางเกลี่ยปลายจมูกกับแก้วใสของเจ้าหล่อนไปมาเบาๆ“ปะ เปล่าค่ะ”“แน๊ เปล่าได้ยังไงคะ เห็นยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่นี่ไง หรือว่าคิดถึงใครอีก”เนติกาจับร่างน้อยให้รีบหันมามองตน สายตาคมจ้องมาอย่างเอาเรื่อง“อื้อ ปะ เปล่าค่ะ เค้าแค่คิดถึงเรื่องของเราน่ะ” นีรนิลต้องรีบบอกเขาเมื่อเห็นว่าคนตัวสูงเริ่มจะเข้าใจผิด“เรื่องของเรา เรื่องอะไรเหรอคะ” ร่างสูงชะโงกหน้าลงไปปาสายตากรุ้มกริ่มเป็นที่สุด นีรนิลอมยิ้มแล้วรีบดัน
ตกเย็นบ้านของเนติกาเต็มไปด้วยบรรดาเพื่อนพ้องน้องพี่ที่สนิทสนมกัน ทั้งหมดมาร่วมงานเพื่อแสดงความยินดีและเลี้ยงรับขวัญที่นิติกาหายจากอาการป่วยทุกครั้งที่เขาได้รับบาดเจ็บและหายทุกคนในหน่วยงานก็จะมาเลี้ยงรับขวัญเขาไม่ที่ใดก็ที่หนึ่งแต่วันนี้เป็นวันที่พิเศษมากกว่าวันอื่น“ตัวไม่ต้องทำมากหรอกให้เด็กช่วยทำก็ได้” ร่างสูงเอยทางสายตามองคนรักที่ง่วนอยู่กับการจัดผลไม้นีรนิลหันมายิ้มให้เขาก่อนจะเอยด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล“เด็กๆ เขาก็ยุ่งค่ะ ตัวดูสิ” หญิงสาวมองไปยังกลุ่มคนงานที่พามาช่วยเขาจัดบ้านทำอาหาร“ก็ปล่อยให้เขาทำไปตัว ไปอาบน้ำอาบได้แล้วค่ะ”“ทำไมเหรอคะ เหม็นเหรอ” สายตาตำหนิจ้องมองเขาอย่างเอาเรื่องใบหน้าสวยแยกเขี้ยวคล้ายจะกินเลือดกินเนื้อคนถูกดุอมยิ้มก่อนจะเดินเข้าไปหาแล้วรวบเอวบางเอาไว้หลวมๆ“เหม็นที่ไหนคะ เมียออกจะหอม” ร่างสูงเอ่ยอย่างเอาใจ มือไม้ก็เกลี่ยไปที่ผมยุ่งเหยิงของคนตัวเล็กด้วยความเอ็นดู นีรนนิลอมยิ้มเธอเห็นเขาแสดงความรักออกมาแบบนี้มันก็ยิ่งทำให้หัวใจของเธอพองโต“จริงหรือเปล่าคะ”ฟอดดดด!!! อื้อ จริงสิคะ ขนาดเหงื่อมากขนาดนี้ยังหอมเลย”เนติกาเอ่ยทันทีที่ถอดปลายจมูกออกมาจากแก้มใสของเจ้าหล่
เนติกายืนมองร่างน้อยตรงหน้าแล้วอมยิ้ม เธอไม่คิดเลยว่าจะกลับมาเห็นภาพนี้อีกครั้ง เพราะตอนนั้นที่เราเลิกกันเมื่อห้าปีก่อน เธอก็ไม่ได้รับข่าวคราวของเจ้าหล่อน และไม่คิดที่จะอยากรู้ข่าวของเจ้าหล่อนด้วย เพราะทุกครั้งที่มีใครมาสะกิด มันทำให้เธอเจ็บปางตายเกือบเดือน แต่หารู้ไม่ว่าเธอได้พลาดสิ่งดีๆ ไปหลายอย่าง เธอพลาดโอกาสที่จะได้รู้ข่าวว่าเจ้าหล่อนไม่ได้เข้าพิธีหมั้น แล้วไม่ได้แต่งงานกับคนที่แม่ของเธอเลือกให้ด้วย เธอพลาดโอกาสที่จะรับรู้ว่าเจ้าหล่อนรักเธอมากมายขนาดไหน เพราะตลอดเวลาห้าปีที่เลิกกันนั้นเจ้าหล่อนไม่เคยมีแฟนเลยแม้แต่น้อย หากรู้แบบนั้น เธอเองคงไม่ต้องมาเจ็บปวดใจอยู่ก่อนหน้านี้ ร่างโปร่งคิดแล้วส่ายหน้าไปมา ต่อไปนี้เธอจะไม่ให้พลาดโอกาสใดๆ อีกแล้ว เธอเสียเวลามามากแล้ว เธอจะต้องใช้ทุกวินาทีให้มีค่านั้น ไวเท่าความคิด ร่างสูงค่อยๆ เดินเข้าไปซ้อนหลังคนตัวเล็กแล้วเอื้อมมือโอบกอดอีกฝ่ายอย่างเบามือพรืดดด!!“อ๊ะ!ตัว ตื่นแล้วเหรอคะ” คนตัวเล็กเอ่ยพลางง่วนมืออยู่กับการตักเครื่องปรุงข้าวต้มลงไปนั้น“เมียไม่อยู่ เลยตื่นเร็วอ๊ะ’ คนตัวสูงด้านหลังเอ่ยน้ำเสียงอุ่น พลางกดปลายจมูกกับแก้มใสของอีกฝ่ายแผ่วเ