นีรนิลหลุบสายตามองริมฝีปากเขาเมื่อรู้สึกว่าอีกฝ่ายจับจ้องอยู่ที่ริมฝีปากของเธอ การกอดรัดของเขานั้นมันแรงขึ้นมากกว่าเดิมที่เป็นอยู่นี้ มือน้อยรีบดันหน้าอกของเขาเอาไว้ ในใจเริ่มสับสนกับการกระทำของเขานี้
“อื้อ ปล่อยนะคะ คุณกำลังจะทำอะไร” คนตัวเล็กถามเขาอีกครั้ง เนติกายกยิ้มมุมปาก แขนเรียวรัดเจ้าหล่อนมากยิ่งขั้น
“นี่คุณ มากอดฉันทำไมคะเนี่ย จะพูดอะไรก็ไม่พูด ยืนจ้องหน้าอยู่ได้”
“คิดจะปั่นหัวฉันเล่นอย่างนั้นเหรอ หืม” เนติกาเค้นเสียงต่ำพลางก้มหน้าลงมาใกล้
“ปั่นหัวอะไรคะ ฉันไม่รู้เรื่องสักหน่อย อื้อ ปล่อยนะฉันอึดอัด อ๊ะ” คนตัวเล็กเริ่มดิ้น
“คบกับคุณหมอแล้วยังมาทำเหมือนกับว่าอยากได้ฉันอีก นิสัยไม่เคยเปลี่ยนเลยนะ”
“อื้อ อย่ามาว่าฉันนะ ใครกันแน่ที่เลิกกันไปไม่กี่เดือนก็มีใหม่ ทุกวันนี้ยังกินเด็กอีกต่างหาก” นีรนิลเชิดหน้าต่อว่าเขาบ้าง เธอจ้องตาเขากลับอย่างเอาเรื่อง
“ก็ยังดีกว่าคนที่บอกว่าชอบลิ้นแล้วกินดุ้นหน้าตาเฉย”
“บ้า หยาบคาย คุณจะไปไหนมันก็เรื่องของคุณ เราไม่เกี่ยวข้องกันแล้ว จะทำอะไรก็เรื่องของคุณ อ๊ะ ปล่อยสิ อื้อ” นีรนิลต่อว่าเขาผลักเขาสารพัด
“หึ ไม่ปล่อย "
"คนบ้า คนหยาบคาย"
"ใครจะนุ่มนวลเหมือนคุณหมอ ลิ้นเขาคงนุ่มหน้าดูซิ” เนติกาไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงได้พาลขนาดนี้ เพียงแค่เจ้าหล่อนหายไปไม่มาสนใจดูแลมันทำให้เธอหงุดหงิดหัวใจเป็นบ้า
นีรนิลเมื่อได้ฟังแล้วก็นึกฉุน นี่มันเรื่องอะไรของเขาทำไมถึงมาว่าเธอแล้วก็ดูถูกเธอแบบนี้
“ใช่ค่ะ นุ่มมาก นุ่มกว่าคนแถวนี้หลายทะ อ๊ะ อุ๊บ อื้อ....” นีรนิลยังพูดไม่ทันจบ จู่ๆ เสียงนั้นก็ขาดหายไปเพราะปากของเขากดเข้ามาประกบปิดอย่างหนักหน่วง ดวงตาหวานเบิกกว้างพลางดันร่างของเขาออกห่าง แต่ทว่ากลับถูกรัดแล้วรวบเข้าหาจนแนบแน่น เขาจูบเธออย่างหนักหน่วงจนเธอเริ่มหายใจไม่ออก ใบหน้าสวยพยายามเบนหนี แต่เขาก็ไม่เปิดโอกาสให้เธอได้งับอากาศเข้าปอดนั้น
“อื้อ จุ๊บ อื้อ อื้อ” เนติกาครางอย่างขัดใจ เมื่อคนตัวเล็กไม่ได้จูบง่ายๆ เหมือนวันนั้น ตอนนี้ทั้งดิ้นทั้งผลัก แถมไม่ยอมเปิดปากให้ลิ้นเธอเข้าไปด้วย แบบนี้ฌะอต้องเอาชนะเจ้าหล่อนให้จงได้ หญิงสาวคิดพลางเคลื่อนมือเข้าหาก้อนเนื้อด้านหน้าแล้วออกแรงบีบมันอย่างจัง
“อ๊ะ อุ๊ย! จุ๊บ อื้อ อื้อ” นีรนิลสะดุ้งโหยง พร้อมกับเจ็บจี๊ดตรงหน้าอกอิ่มของเธอนี้ เขาบีบมันอย่างแรงแถมตอนนี้ยังเคล้นมันไปมาทั้งสองข้าง ดวงตาหวานค่อยๆ หรี่ลงเมื่อรับรู้ได้ถึงลิ้นร้ายของเขาที่เข้าไปกวาดต้อนในโพรงปากของเธอนี้ ภาพของวันหวานที่แสนหวานแล่นเข้าสมอง ร่างนุ่มเริ่มจูบตอบเขาตามสัญชาติญาณ
เนติกายกยิ้มมุมปาก หญิงสาวค่อยๆ อาศัยจังหวะที่เจ้าหล่อนเผลอดันร่างนั้นเข้าไปแนบชิดผนังห้อง มือข้างหนึ่งเริ่มลูบไล้ไปตามแผ่นหลังความนุ่มนิ่มจากเรือนร่างสวยทำให้เธอรู้สึกเพลิดเพลิน
“จุ๊บ! อื้ม จุ๊บ อื้ม อ่าส์” เสียงครางกระเส่าดังอยู่ในลำคอของผู้กองสาวผู้มากประสบการณ์ ความหวานจากข้างในทำให้หัวใจเธออิ่มเอม ลิ้นเล็กกวาดควานไปทั่วทุกซอกทุกมุม พลางตวัดปลายลิ้นนุ่มทักทายอย่างโหยหา เธอบดริมฝีปากเคล้าลงอย่างหนักหน่วงสลับกับแผ่วเบา เสียงนุ่มหวานที่ครางออกมาด้วยความรู้สึกหลากหลายนั้น
นีรนิลรู้สึกดีขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก เธอเริ่มโอนอ่อนผ่อนตามทุกการกระทำของเขา หญิงสาวเงยหน้าส่งเสียงครางพลางเอียงลำคอเข้าหาใบหน้าของเขาอย่างลืมตัว มือข้างหนึ่งกอดคอเขาไว้แน่นเมื่อรับรู้ได้ถึงการจูบลากไล้ไปตามลำคอขาว อารมณ์ดิบจากก้นบึ้งหัวใจนั้นทำลังเตลิด ร่างสวยเบียดเข้าหาเขาอัตโนมัติ เธอรู้สึกเหมือนใบหน้าเขาเคลื่อนลงต่ำมาเรื่อยๆ แถมกระดุมชุดพยาบาลกำลังถูกปลดออกทีละเม็ดๆนั้น หญิงสาวกำลังเคลิบเคลิ้มจนลืมไปเลยว่าห้องนี้เป็นห้องพักของคนไข้ และเมื่อนึกขึ้นได้คนตัวเล็กก็สะดุ้งตื่นจากภวังก์แล้วรีบตะปบมือของเขาเอาไว้ ซึ่งตอนนี้มันกำลังใต้ล้วงเข้าไปใต้กระโปรงชุดพยาบาลของเธอนี้
“อ๊ะ! มะ ไม่ได้นะ อื้อ” คนตัวเล็กรีบร้องห้ามพลางดันร่างของเขาออกห่าง มือข้างหนึ่ึงก็จับมือของเขาเอาไว้ซึ่งมันเข้าใกล้เนินเนื้อสวยของเธอไม่ถึงคืบ เนติกาผละใบหน้าออกจากลำคอเขา สายตาหวานหรี่มองเจ้าหล่อนอย่างไม่เข้าใจ
“ทำไมเหรอ กลัวหมอนพจับได้เหรอ” เนติกากัดฟันถาม
“มะ ไม่ใช่สักหน่อย อื้อ ปล่อยก่อนค่ะ อ๊ะ” นีรนิลกำลังจะอธิบายเรื่องของหมอนพให้เขาฟัง แต่ดูเหมือนเขาไม่อยากจะฟังเธอพูดเท่าไหร่นัก เขาจับข้อมือของเธอทั้งสองข้างที่ดันร่างเขาอยู่นั้นขึ้นไว้เหนือศีรษะ จากนั้นสายตาเข้มก็ถูกส่งมาให้
“ไหน แล้วไอที่ใช่มันคืออะไร หึ”
“คือว่าฉันกับหมอนะ....อื้อ”
ก๊อกๆๆๆ! ยังไม่ทันที่จะเอ่ยคำใด เสียงเคาะเรียกก็ดังจากด้านนอก นีรนิลรีบดึงมือเธอออกจากการเกาะกุมของเขาอย่างแรงแล้วปรับเปลี่ยนให้ทีท่าเป็นปกติมากที่สุด หญิงสาวเหลือบมองว่าเป็นใคร หัวใจก็รู้สึกเจ็บแปล่บๆ เมื่อเห็นว่าเป้นคนของเขา โชคดีที่เขากับเธอนั้นหลบมุมจากประตู ไม่เช่นนั้นนักศึกษานั่นคงได้เห็นว่าเขาทำหื่นใส่หญิงอื่นเป็นแน่
“พี่เนขา ไหนบอกว่ามาหาที่ชาร์ตแบตไงคะ ทำไมช้าจัง อ้าวคุณพยาบาลคนสวยก็อยู่ด้วย”
“เอ่อๆ สวัสดีค่ะ ฉันแค่มาเช็คความเรียบร้อยค่ะ” นีรนิลรีบแก้ตัว เธอกลัวว่าเธอเองจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ทั้งคู่ทะเลาะกัน
“อ่อเหรอค่ะ ว่าแต่วันนี้คุณพยาบาลออกเวรกี่โมงคะ รสาอยากชวนคุณไปทานข้าวที่บ้าน”
“เอ่อๆ ไม่ดีกว่าค่ะ ขอบคุณสำหรับน้ำใจนะคะ”
“ไปสิคะ คุณหมอนพก็ไปด้วยนะคะ คุณพ่ออยากเลี้ยงต้อนรับพี่เนค่ะ แล้วก็ขอบคุณคุณหมอกับคุณพยาบาลที่ดูแลพี่เนอย่างดี”
“เอ่อๆ ไม่ดีกว่าค่ะ ฉันไม่ค่อยสะดวกขับรถกลางคืน” หญิงสาวบอกไปอย่างนั้น แท้จริงแล้ว เธอไม่อยากไปเห็นภาพบาดตาบาดใจของเขากับคุณต่างหาก หญิงสาวคิดในใจ
“อ้าว ก็คุณหมอไงคะ คุณหมอขับรถไปส่ง”
“เอ่อๆ ..”
“ไม่เป็นไรหรอกน้องรสา อย่าทำให้คุณน้ำตาลลำบากใจเลย” เนติกาเหลือบมองคนตัวเล็กกรายๆ
“คุณพยาบาลคนสวยนี่ชื่อน้ำตาลหรือคะ สมชื่อจังค่ะ หน้าคุณหวานเหมือนน้ำตาลเลย” รสายิ้มกว้าง พลางมองใบหน้าของผู้หญิงสวยข้างๆ นึกแปลกใจที่พี่เนรู้จักชื่อของเขาได้ยังไงกัน ปกติพี่เนจะไม่ค่อยสนใจเรื่องส่วนตัวของใครทั้งนั้น
“อ่อค่ะ ขอบคุณนะคะ”
“ค่ะ ถ้าอย่างนั้นวันหน้ารสาจะให้พี่เนมารับนะคะ พี่เนขับรถกลางคืนเก่งมากเลย”
“รสา พูดมากจัง ไปค่ะ ไหนจะมารับพี่กลับบ้านไง” เนติกาเปลี่ยนเรื่องคุยทันที หลังจากที่สายตายังชำเรืองมองร่างน้อยนั้น นึกหยุดหงิดที่รสามาขัดจังหวะ
“อ่อก็ได้ค่ะๆ งั้นพวกเราขอตัวก่อนนะคะ เดี๋ยวคนแถวนี้จะดุเอา” รสาพูดพลางซบหน้ากับไหล่ของเขา ซึ่งนีรนิลยิ้มให้ด้วยใบหน้าเรียบ แต่ใครจะไปรู้ว่าหัวใจของเธอเหมือนถูกบีบจนเจ็บอยู่ตอนนี้
“ค่ะ สวัสดีค่ะ ขอให้ระมัดระวังตัวด้วยนะคะ อย่าทำอะไรที่อันตรายอีกนะคะ” นีรนิลมองหน้าเขานิ่ง
“ค่ะ ขอบคุณค่ะ”
หลังจากนั้นทั้งหมดก็แยกย้าย เนติกากลับไปพักที่บ้านรสาก่อน เพราะพ่อของรสาคือผู้บังคับบัญชาของเธอ แล้วเธอก็สนิทสนมกับบ้านของรสามาก หากกลับไปบ้านพักทหารเกรงว่าเธอจะทำงานจนเจ็บแผลอีก ตกเย็นที่บ้านรสาจัดงานเลี้ยงเล็กๆ เพื่อรับขวัญการกลับมาของเธอ ซึ่งในใจเธอแอบหวังลึกๆ อยากให้คนเมื่อตอนบ่ายนั้นมาด้วย
“มาค่ะคนป่วยมาทานข้าวมื่อพิเศษกันค่ะ”
“แกก็พูดเกินไปรสา”
“ไม่จริงหรอคะคุณพ่อ มือนี้เลี้ยงต้อนรับพี่เน แถมยังมีแขกมาร่วมด้วยอีก แท่นแท๊น”
“คุณหมอนพกับพี่น้ำตาลค่า” ภาพนั้นทำให้เนติการู้สึกดีใจ แต่ที่แอบไม่พอใจคือการใกล้ชิดสนิทสนมของเจ้าหล่อนกับหมอนพนั้น แหวะ อยากจะอ๊วก เนติกาคิดในใจเมื่อเห็นภาพของหมอเดินคอยตามติดน้ำตาลไม่ห่าง งานนี้เธอจะทำให้หมอนพเข็ดไปเลยคอยดู หญิงสาวคิดอย่างร้ายกาจ...>>>
นีรนิลนั่งมองคนตรงหน้าด้วยแววตาเศร้าหมอง ภาพของเขากับคนรักทำให้เธออกหักซ้ำแล้วซ้ำเล่า มันจะหวานเกินไปหรือเปล่าหญิงสาวคิดแล้วเมินหน้าหนี"น้ำหวานทานนี่สิครับ""ขอบคุณค่ะคุณหมอ" นีรนิลทำหน้าไม่ค่อยสู้ดีนัก เพราะสิ่งที่หมอนพตักให้คือยำซึ่งมีหอมใหญ่กับผักชี เพราะเธอเกลียดผักทั้งสองชนิดนี้เป็นที่สุดแต่เธอรับเพราะความเกรงใจ คนตัวเล็กตักเฉพาะเนื้อสัตว์"หืม ยำนี้น่ากินอ่ะ "เนติการีบหยิบจานเอามาวางตรงหน้า แล้วเอาปลาสามรสไปวางแทน นีรนิลช้อนสายตามองหน้าเขา แอบยิ้มในใจที่มีคนเอาออกไปจากตรงหน้าเธอนั้น"อื้อ พี่เนอ่ะ ชอบกินผักก็ไม่บอก" รสามองเพื่อนรุ่นพี่ที่สนิทแล้วอมยิ้ม"กินผักอร่อยจะตายไป" ร่างโปร่งแอบเหน็บ"อื้อ ดื่มกันหน่อยครับ เอ้า ยินดีต้อนรับผู้กองเนกลับมาอีกครั้งครับ" พ่อของรสาเอ่ยพร้อมยกแก้วขึ้นนำ หลังจากนั้นทุกคนก็ร่วมกันยกแก้วร่วมยินดีที่เนติกาหายป่วยเกร่ง!!"น้ำตาลทานอีกนิดได้นะครับ พรุ่งนี้หยุดด้วย เดี๋ยวผมไปส่งครับ” สายตากรุ่มกริ่มของหมอนพไม่บอกก็รู้ว่าเขาคิดยังไง ทำเอาคนที่แอบฟังทุกการกระทำนั้นหงุดหงิดหัวใจเหลือเกิน“จะดีหรอคะเมาแล้วจะยุ่งนะคะ” ประโยคนั้นเนติกา หันไปมองอย่างฉับพลั
นีรนิลพยายามเบนกายหนี แต่ตอนนี้มันติดอยู่กับกำแพงบ้านของนายพลนี้เสียแล้ว แถมข้างซ้ายยังเป็นต้นไม้บ้านี้อีก คนตัวเล็กเริ่มหงุดหงิดตัวเองที่พอดื่มเหล้าแล้วเรี่ยวแรงไปไหนหมด เนติกาบดจูบอย่างหนักหน่วง มือข้างหนึ่งดันเจ้าหล่อนจนชิดกำแพง ส่วนอีกข้างก็สอดเข้าท้ายทอยให้แหงนเงยขึ้น ลิ้นร้อนพยายามสอดเข้าริมฝีปากเล็กอวบอิ่ม ความหวานของมันเธอรู้ดีว่ามันหวานมากมายขนาดไหน แต่ทว่าตอนนี้มันรู้สึกว่าเข้าไปชิมยากจัง“อื้อ ...” เสียงครางอย่างขัดใจดังขึ้น พลางลิ้นร้ายค่อยๆ สอดเพื่อเปิดปาก แต่อีกฝ่ายก็เม้มแน่นและพยายามเบี่ยงหน้าหนี ร่างโปร่งไม่รอช้าที่จะเคลื่อนมือไม้นั้นไปจัดการสิ่งที่กระตุ้นให้มันเปิดปากออกมา มือข้างหนึ่งเคลื่อนเข้ากอบกุมก้อนเนื้อกมข้างหนึ่งแล้วบีบคลึงมันอย่างหนักหน่วง“อ๊ะ! อุ๊บ อื้อ” ร่างน้อยสะดุ้งโหยงพร้อมส่งเสียงร้อง เพราะเนื้อนุ่มถูกเขาขยำอย่างแรงจนรู้สึกเจ็บจี๊ดตรงฐานไตที่แข็งขืนนั้น เธอจึงเพลี่ยงพล้ำให้กับเจ้าลิ้นร้อนของเขาที่สอดเข้ามาในอุ้งปากเธออย่างรวดเร็ว และตอนนี้มันได้ถือวิสาสะคิดว่าทั้งโพรงปากนี้เป็นของตัวเองเสียแล้ว มันเกี่ยวกวัดกวาดควานไปทั่ว ไม่เว้นแม้กระพุ้งแก้ม“อื้ม จ
นีรนิลนั่งรถกลับมากับเขา ใบหน้าสวยเรียบนิ่งพลางหันมองไปทางอื่น สมองของเธอตอนนี้พยายามบอกตัวเองว่าให้ไปเอาปี๊บมาคลุมหัว หรือไม่ก็เอาจุ่มลงถังน้ำข้างทางไปเลยยิ่งดี ไปหลงเคลิ้มกับการกระทำของเขาแถมได้น้ำเสียด้วย ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหนแล้ว หญิงสาวเลือกที่จะเงียบไม่เอ่ยคำใดให้เขาแอบหัวเราะเยาะได้อีก แล้วนี่เธอจะเอาหน้าไปสู้เขาได้ยังไงกันตืดๆๆๆ!! เสียงนั้นดังขึ้น เนติกาหันไปกดปุ่มรับสายซึ่งเป็นบูทูชที่เชื่อมไว้กับในรถ“ฮัลโหล! พี่เนคะ ถึงไหนแล้วคะ” เสียงเจื้อยแจ้วดังขึ้น เนติกาเหลือบมองคนที่นั่งข้างคนขับแล้วตอบเสียงเรียบ“มีอะไรเหรอน้องรสา”“ก็รสาเห็นพี่เนไปนานนี่คะ รสามีเรื่องจะปรึกษาพี่เนค่ะ เรื่องสำคัญมาก อีกอย่างก็คิดถึงพี่เนด้วย พี่เนไปนอนโรงพยาบาลได้หลายวัน รสาเหง๊าเหงา” น้ำเสียงออดอ้อนนั้นทำเอาคนนั่งข้างๆ รู้สึกหมั่นไส้“หืม คิดถึงเป็นด้วยเหรอคะ” เนติกาแกล้งเย้าตอบ“เป็นสิคะ อยากนอนกอดพี่เนจะแย่แล้ว”“อื้อ แค่นี้นะพี่ขับรถอยู่” เมื่อเห็นว่ารสาพูดเยอะไป หญิงสาวจึงตัดบท แอบชำเรืองคนที่นั่งเงียบอยู่ข้างๆ นี่หากว่าเป็นเมื่อก่อนมีสาวโทรมาแบบนี้ เธอถูกบิดเนื้อเขียวเป็นแน่ ตอนนั้นคือคลั่งร
5 ปีก่อนร่างของสองสาวสวยกำลังนอนกอดกันกลมภายในห้องชุดสุดหรู กลางเมืองกรุง สองสาวดาวคณะนิติศาสตร์ อย่าง เนติกา (เน) ไพลีรัตน์ และพยาบาลศาสตร์ อย่าง นีรนิล (น้ำตาล) วีระพงษ์ ทั้งคู่อายุ 21 ปีเท่ากัน เข้าเรียนพร้อมกัน และพบรักกันตอนรับน้อง จึงย้ายมาอยู่ด้วยกันที่คอนโด ความรักสุกงอมจนปีเดินทางมาถึงปีสี่นี้ เนติการค่อยๆ ลืมตาอย่างช้าๆ เหลือบมองร่างเล็กแล้วอมยิ้ม หญิงสาวขยับเข้าไปหาแล้วกดปลายจมูกที่แก้มใสอย่างแผ่วเบา“จุ๊บ! รักตัวนะคะ” เนติกาเปรยเบาๆ ข้างแก้มใส หัวใจชุ่มฉ่ำไปด้วยความรัก เธอคลอเคลียปลายจมูกกับพวงแก้มใสไปตามลำคอ ทำให้ร่างน้อยกว่ารู้สึกตัว“อื้อ ตัว ทำอะไรคะเนี่ย อื้อ” นีรนิลปรือตามองร่างสูง เธออมยิ้มออกมาพลางเอียงไปอีกทาง พร้อมกับมือน้อยที่พยายามเอื้อมไปกอดร่างสูงของคนรัก“ก็เค้าปลุกตัวไง เช้าแล้วค่ะไปเรียนได้แล้ว” น้ำเสียงแหบพร่าเอ่ย พร้อมกับขยับร่างขึ้นแล้วเปลี่ยนจากตะกองกอดเป็นค่อมใบหน้าเจ้าหล่อนเอาไว้ นีรนิลอมยิ้มแล้วแกล้งมองค้อน“แน่ใจนะคะว่าปลุกให้ไปเรียน ไมได้ปลุกทำอย่างอื่น” นีรนิลยกมือดันหน้าอกของอีกฝ่ายเอาไว้ สายตาช้อนขึ้น พลางใช้มืออีกข้างเกาะที่บ่าของเขาเอาไว้เนต
นีรนิลส่งข้อความอธิบายเรื่องทั้งหมดและเธออ่านแล้วยิ่งทำให้เธอเจ็บปวด ตอนนี้หัวใจของเธอเหมือนกับถูกกระชากออกมาแล้วขยี้ด้วยฝ่าเท้าของอีกฝ่าย ความรู้สึกดีๆ ตอนนี้มันสลายไปเพราะอีกฝ่ายหลอกลวง ทั้งๆ ที่เธอจริงใจ ตลอด 4 ปีมันไม่มีความหมายอีกแล้ว เนติการู้สึกเจ็บปวด เธอกลับไปเก็บข้าวของตอนที่นีรนิลไม่อยู่ แล้วทิ้งโน้ตเอาไว้พร้อมกับแหวานแทนใจที่เราเคยแลกกัน หลังจากวันนั้น เนติกาก็ไม่กลับเข้ามาที่ห้องอีก เธอหลบหน้านีรนิลแล้วทิ้งข้อความเอาไว้“ขอให้ตัวโชคดี” ประโยคนั้นทำให้คนอ่านถึงกับปล่อยโฮ“ตัว…ฮือออ เค้าขอโทษ ฮือๆ” นีรนิลหยิบข้อความนั้นขึ้นมาอ่านทีไร น้ำตาเธอไหลทุกครั้ง เธอพยายามตามหาเขาทุกที่ และก็เพิ่งรู้ว่าเขาทำเรื่องขอจบไปแล้ว เธอเช็ครายชื่อรับปริญญาเขาก็ไม่ประสงค์ที่จะรับมันด้วย แล้วเธอจะไปตามเขาได้ที่ไหน คนตัวเล็กปล่อยน้ำใสๆ ให้ไหลออกมาอย่างพลั่งพลู“น้ำตาล! เธออยู่ที่ห้องหรือเปล่า” เสียงเรียกนั้นดังมาจากด้านนอก เมื่อจำได้ว่าเป็นใครคนตัวเล็กจึงวิ่งไปเปิดประตู“อื้อ..ริน อึก มีอะไรเหรอ”“นี่ร้องไห้อีกแล้วเหรอ เนไปเกือบครึ่งปีแล้วนะ ตัดใจเหอะน้ำตาล”“อึก อือ มันยากนะริน ฮือๆ” เมื่อพูดถู
"พยาบาลคะๆ คนไข้มาแล้วค่ะ" เสียงผู้ช่วยพยาบาลเรียก ระหว่างนั้นนีรนิลรีบวิ่งเข้าไปยังห้องฉุกเฉินอย่างเคยชินคนตัวเล็กมองร่างสูงของหญิงสาวที่ถูกหามขึ้นเตียงเธอตกใจกับเลือดจำนวนมากที่อยู่บนตัวบริเวณหน้าอกด้านซ้าย ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยสีดำจากเขม่าถ่าน คาดว่าน่าจะพลางตัวเวลาไปจับยาเสพติด"คุณพยาบาลห้ามเลือดก่อน เสร็จแล้วสั่งเตรียมห้องผ่าตัด""ห้องเรียบร้อยแล้วค่ะคุณหมอ""คนไข้มีญาติหรือเปล่า" คุณหมอเอ่ยถามเดี๋ยวดิฉันออกไปสอบถามให้ค่ะ""ว่าแต่ชื่อคนไข้อยู่ไหนเนี่ย" คนตัวเล็กมองหาแผ่นชาร์จเพื่อดูรายชื่อคนไข้"รายชื่อยังไม่มาเลยค่ะ" เสียงผู้ช่วยพยาบาลเอ่ย“ไม่เป็นไรเดี๋ยวฉันออกไปจัดการเอง เธออยู่นี่นะ" นิรนิลสั่งผู้ช่วยพยาบาลเสียงเรียบพร้อมรีบเดินออกไปด้านนอกเพื่อหาญาติเซ็นเอกสาร“ขอโทษค่ะใครเป็นญาติคนไข้ที่ถูกยิงเมื่อกี้คะ. เสียงหวานตะโกนเรียกพลางมองหาร่างทหารหญิงทั้งสองเดินเข้ามา“เขาไม่มีญาติค่ะแต่พวกเราเป็นเพื่อนร่วมงานสามารถเซ็นเอกสารได้ค่ะ”“แต่ว่า....” นิรนิลทำท่าลังเล“จัดการเถอะค่ะคุณพยาบาลเพราะว่าผู้กองมีแกไม่มีญาติ”ประโยคนั้นทำให้เธอสะดุดหูชื่อเหมือนแฟนเก่าเราเลยแฮะเนรมินพยักหน้า
เนติกาเหลือบมองร่างเล็กในชุดพยาบาลสีขาวสะอาดนั้น แววตาไหววูบขึ้นมาเมื่อนึกถึงอดีต ตอนนั้นเจ้าหล่อนกำลังจะหมั้นนี่นา แล้วทำไมตอนนี้ถึงมาอยู่ที่นี่ได้ หรือว่าย้ายตามสามีมาอยู่ที่นี่ ร่างโปร่งคิดไปไกลสารพัด“อ้าวตื่นแล้วเหรอตัว” ด้วยความเคยชิน นีรนิลจึงเอ่ยพลางรีบเข้ามาประคอง“เอ่อๆ ไม่ต้องหรอก ฉันลุกเองได้” นีรนิลหน้าชาเกือบทันที หญิงสาวทำหน้าไม่ถูก แต่เธอก็พยายามปรับสีหน้าให้มันเป็นปกติให้มากที่สุด“ตัวหิวอะไรไหม ข้าวต้มที่โรงพยาบาลคงไม่ถูกปากตัวเท่าไหร่”“ไม่หิว แล้วก็ไม่อยากกินด้วย ฉันอยากอยู่คนเดียว” เนติกาเบนหน้าหนีสายตานั้นเธอไม่อยากมองหน้าอีกฝ่ายมากนัก มันรู้สึกเจ็บแปล๊บๆ ตรงหัวใจของเธอ“อ่อ แต่ว่าตัวยังลุกขึ้นไม่ถนัดนะ ให้เค้าอยู่ดูแลน่ะดีแล้ว” เสียงหวานเอ่ยด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม เธอพยายามไม่ใส่ใจกับการกระทำที่สุดแสนจะหมางเมินของอีกฝ่ายนั้น“ไม่ต้องหรอก คุณไปทำงานของคุณเถอะ”“เอ่อๆ” นีรนิลทำหน้าไม่ถูก นี่เป็นครั้งที่ร้อยแล้วมั๊งที่เขาออกปากไล่เธอแบบนี้ ตั้งแต่เมื่อวานเลยก็ว่าได้“แล้วก็เลิกเรียกว่าตัวด้วย เราไม่ได้รู้จักกัน” เนติกามองออกไปนอกหน้าต่าง ประโยคที่แสนทิ่มแทงหัวใจคนฟังนั้
เนติกาเผลอมองริมฝีปากอิ่มอย่างลืมตัว หัวใจของเธอเต้นระทึก ดวงตาหวานหรี่ลงจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของกันและกัน ความรู้สึกบางอย่างปรากฏในหัวใจนั้น ดวงตาหวานยังคงกวาดมองดวงหน้าใสนั้นนิ่ง นีรนิลอาศัยช่วงนั้นหันไปมองยาที่อยู่ในถาด แอบยิ้มแล้วค่อยๆ เอื้อมไปหยิบมันมา“ตัว!” หญิงสาวแกล้งเรียกเราเสียงเบาหวิว เนติกาเลิกคิ้วเชิงคำถามอย่างลืมตัว“หืม...อ๊ะ นี่...อุ๊บ อื้อ อื้อ อือ”เนติกาลืมตัวขานรับเสียงหวาน ดวงตากลมเบิกกว้างเมื่อจู่ๆ คนใต้ร่างของเธอก็นำบางอย่างมายัดใส่ปากเธอ เมื่อรู้ว่ามันคือยาเธอรีบจะบ้านทิ้ง แต่ทว่ามันก็ถูกสกัดกั้นด้วยริมฝาปากนุ่มของอีกฝ่ายที่ผงกหัวขึ้นมาฉกลงอย่างจังหนักหน่วง มือข้างหนึ่งก็กอดคอของเขาเอาไว้แน่น ส่วนอีกข้างก็กอดรัดร่างของเธอเอาไว้ เธอหายใจไม่ออกจนต้องกลืนเจ้าสิ่งนั้นลงไป“จู๊บ บ๊ะ!! อื้อ เธอทำอะไรของเธอเนี่ย แฮกๆๆๆ”เนติการีบผละร่างออกจากการกดทับร่างของคนตัวเล็กขึ้นแล้วจับคอตัวเอง“เอ้า ดื่มน้ำก่อนค่ะ..อื้อ เร็วๆ ซิ” นีรนิลทำหน้าตาไขสือ เธอไม่ยี่ระกับสายตาคมดุนั้น หญิงสาวรีบส่งน้ำให้เขาดื่มอย่างรวดเร็ว นึกขันเมื่อเห็นสีหน้าตกใจนั้น เนติกาหรี่ตามองอีกฝ่ายแล้วนึกฉุน
นีรนิลนั่งรถกลับมากับเขา ใบหน้าสวยเรียบนิ่งพลางหันมองไปทางอื่น สมองของเธอตอนนี้พยายามบอกตัวเองว่าให้ไปเอาปี๊บมาคลุมหัว หรือไม่ก็เอาจุ่มลงถังน้ำข้างทางไปเลยยิ่งดี ไปหลงเคลิ้มกับการกระทำของเขาแถมได้น้ำเสียด้วย ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหนแล้ว หญิงสาวเลือกที่จะเงียบไม่เอ่ยคำใดให้เขาแอบหัวเราะเยาะได้อีก แล้วนี่เธอจะเอาหน้าไปสู้เขาได้ยังไงกันตืดๆๆๆ!! เสียงนั้นดังขึ้น เนติกาหันไปกดปุ่มรับสายซึ่งเป็นบูทูชที่เชื่อมไว้กับในรถ“ฮัลโหล! พี่เนคะ ถึงไหนแล้วคะ” เสียงเจื้อยแจ้วดังขึ้น เนติกาเหลือบมองคนที่นั่งข้างคนขับแล้วตอบเสียงเรียบ“มีอะไรเหรอน้องรสา”“ก็รสาเห็นพี่เนไปนานนี่คะ รสามีเรื่องจะปรึกษาพี่เนค่ะ เรื่องสำคัญมาก อีกอย่างก็คิดถึงพี่เนด้วย พี่เนไปนอนโรงพยาบาลได้หลายวัน รสาเหง๊าเหงา” น้ำเสียงออดอ้อนนั้นทำเอาคนนั่งข้างๆ รู้สึกหมั่นไส้“หืม คิดถึงเป็นด้วยเหรอคะ” เนติกาแกล้งเย้าตอบ“เป็นสิคะ อยากนอนกอดพี่เนจะแย่แล้ว”“อื้อ แค่นี้นะพี่ขับรถอยู่” เมื่อเห็นว่ารสาพูดเยอะไป หญิงสาวจึงตัดบท แอบชำเรืองคนที่นั่งเงียบอยู่ข้างๆ นี่หากว่าเป็นเมื่อก่อนมีสาวโทรมาแบบนี้ เธอถูกบิดเนื้อเขียวเป็นแน่ ตอนนั้นคือคลั่งร
นีรนิลพยายามเบนกายหนี แต่ตอนนี้มันติดอยู่กับกำแพงบ้านของนายพลนี้เสียแล้ว แถมข้างซ้ายยังเป็นต้นไม้บ้านี้อีก คนตัวเล็กเริ่มหงุดหงิดตัวเองที่พอดื่มเหล้าแล้วเรี่ยวแรงไปไหนหมด เนติกาบดจูบอย่างหนักหน่วง มือข้างหนึ่งดันเจ้าหล่อนจนชิดกำแพง ส่วนอีกข้างก็สอดเข้าท้ายทอยให้แหงนเงยขึ้น ลิ้นร้อนพยายามสอดเข้าริมฝีปากเล็กอวบอิ่ม ความหวานของมันเธอรู้ดีว่ามันหวานมากมายขนาดไหน แต่ทว่าตอนนี้มันรู้สึกว่าเข้าไปชิมยากจัง“อื้อ ...” เสียงครางอย่างขัดใจดังขึ้น พลางลิ้นร้ายค่อยๆ สอดเพื่อเปิดปาก แต่อีกฝ่ายก็เม้มแน่นและพยายามเบี่ยงหน้าหนี ร่างโปร่งไม่รอช้าที่จะเคลื่อนมือไม้นั้นไปจัดการสิ่งที่กระตุ้นให้มันเปิดปากออกมา มือข้างหนึ่งเคลื่อนเข้ากอบกุมก้อนเนื้อกมข้างหนึ่งแล้วบีบคลึงมันอย่างหนักหน่วง“อ๊ะ! อุ๊บ อื้อ” ร่างน้อยสะดุ้งโหยงพร้อมส่งเสียงร้อง เพราะเนื้อนุ่มถูกเขาขยำอย่างแรงจนรู้สึกเจ็บจี๊ดตรงฐานไตที่แข็งขืนนั้น เธอจึงเพลี่ยงพล้ำให้กับเจ้าลิ้นร้อนของเขาที่สอดเข้ามาในอุ้งปากเธออย่างรวดเร็ว และตอนนี้มันได้ถือวิสาสะคิดว่าทั้งโพรงปากนี้เป็นของตัวเองเสียแล้ว มันเกี่ยวกวัดกวาดควานไปทั่ว ไม่เว้นแม้กระพุ้งแก้ม“อื้ม จ
นีรนิลนั่งมองคนตรงหน้าด้วยแววตาเศร้าหมอง ภาพของเขากับคนรักทำให้เธออกหักซ้ำแล้วซ้ำเล่า มันจะหวานเกินไปหรือเปล่าหญิงสาวคิดแล้วเมินหน้าหนี"น้ำหวานทานนี่สิครับ""ขอบคุณค่ะคุณหมอ" นีรนิลทำหน้าไม่ค่อยสู้ดีนัก เพราะสิ่งที่หมอนพตักให้คือยำซึ่งมีหอมใหญ่กับผักชี เพราะเธอเกลียดผักทั้งสองชนิดนี้เป็นที่สุดแต่เธอรับเพราะความเกรงใจ คนตัวเล็กตักเฉพาะเนื้อสัตว์"หืม ยำนี้น่ากินอ่ะ "เนติการีบหยิบจานเอามาวางตรงหน้า แล้วเอาปลาสามรสไปวางแทน นีรนิลช้อนสายตามองหน้าเขา แอบยิ้มในใจที่มีคนเอาออกไปจากตรงหน้าเธอนั้น"อื้อ พี่เนอ่ะ ชอบกินผักก็ไม่บอก" รสามองเพื่อนรุ่นพี่ที่สนิทแล้วอมยิ้ม"กินผักอร่อยจะตายไป" ร่างโปร่งแอบเหน็บ"อื้อ ดื่มกันหน่อยครับ เอ้า ยินดีต้อนรับผู้กองเนกลับมาอีกครั้งครับ" พ่อของรสาเอ่ยพร้อมยกแก้วขึ้นนำ หลังจากนั้นทุกคนก็ร่วมกันยกแก้วร่วมยินดีที่เนติกาหายป่วยเกร่ง!!"น้ำตาลทานอีกนิดได้นะครับ พรุ่งนี้หยุดด้วย เดี๋ยวผมไปส่งครับ” สายตากรุ่มกริ่มของหมอนพไม่บอกก็รู้ว่าเขาคิดยังไง ทำเอาคนที่แอบฟังทุกการกระทำนั้นหงุดหงิดหัวใจเหลือเกิน“จะดีหรอคะเมาแล้วจะยุ่งนะคะ” ประโยคนั้นเนติกา หันไปมองอย่างฉับพลั
นีรนิลหลุบสายตามองริมฝีปากเขาเมื่อรู้สึกว่าอีกฝ่ายจับจ้องอยู่ที่ริมฝีปากของเธอ การกอดรัดของเขานั้นมันแรงขึ้นมากกว่าเดิมที่เป็นอยู่นี้ มือน้อยรีบดันหน้าอกของเขาเอาไว้ ในใจเริ่มสับสนกับการกระทำของเขานี้“อื้อ ปล่อยนะคะ คุณกำลังจะทำอะไร” คนตัวเล็กถามเขาอีกครั้ง เนติกายกยิ้มมุมปาก แขนเรียวรัดเจ้าหล่อนมากยิ่งขั้น“นี่คุณ มากอดฉันทำไมคะเนี่ย จะพูดอะไรก็ไม่พูด ยืนจ้องหน้าอยู่ได้”“คิดจะปั่นหัวฉันเล่นอย่างนั้นเหรอ หืม” เนติกาเค้นเสียงต่ำพลางก้มหน้าลงมาใกล้“ปั่นหัวอะไรคะ ฉันไม่รู้เรื่องสักหน่อย อื้อ ปล่อยนะฉันอึดอัด อ๊ะ” คนตัวเล็กเริ่มดิ้น“คบกับคุณหมอแล้วยังมาทำเหมือนกับว่าอยากได้ฉันอีก นิสัยไม่เคยเปลี่ยนเลยนะ”“อื้อ อย่ามาว่าฉันนะ ใครกันแน่ที่เลิกกันไปไม่กี่เดือนก็มีใหม่ ทุกวันนี้ยังกินเด็กอีกต่างหาก” นีรนิลเชิดหน้าต่อว่าเขาบ้าง เธอจ้องตาเขากลับอย่างเอาเรื่อง“ก็ยังดีกว่าคนที่บอกว่าชอบลิ้นแล้วกินดุ้นหน้าตาเฉย”“บ้า หยาบคาย คุณจะไปไหนมันก็เรื่องของคุณ เราไม่เกี่ยวข้องกันแล้ว จะทำอะไรก็เรื่องของคุณ อ๊ะ ปล่อยสิ อื้อ” นีรนิลต่อว่าเขาผลักเขาสารพัด“หึ ไม่ปล่อย ""คนบ้า คนหยาบคาย""ใครจะนุ่มนวลเห
นีรนิลมาแอบมองคนถือดีที่ตอนนี้บอกว่าจะรับประทานอาหารเอง คิ้วเรียวขมวดนิ่วหน้าอย่างไม่พอใจ ทำไมเขาถึงได้ดื้อได้ใจอย่างนี้นะ จะทานเองได้ยังไงกัน แขนข้างที่ใช้งานได้นั้นมันไม่ใช่ข้างถนัดของเขา แล้วมันก็ยังไม่ค่อยปกติด้วย ภาพที่เห็นทำให้เธอต้องส่ายหัวอย่างเอือมระอา แบบนี้คงไม่ได้ทานยาแน่แกร่ก! คนตัวเล็กรีบเปิดประตูเข้าไปข้างในทันทีโดยไม่ต้องเคาะส่งสัญญาณตามมารยาท“อื้อ ...มาค่ะ เดี๋ยวเค้าป้อนให้เอง” หญิงสาวรีบขยับโต๊ะเลื่อนที่วางถาดอาหาร มาวางอยู่ตรงหน้าของเขา“ไม่ต้อง..ฉันกินเองได้” เนติกาจ้องหน้าอีกฝ่ายเสียงเข้ม ในใจนึกรำคาญตัวเองที่ทำอะไรไม่ค่อยถนัดนั้น“กินเองได้ยังไงล่ะคะ ดูสิ ถามว่า..ได้สักคำหรือยัง” หญิงสาวนิ่วหน้าตำหนิเขา เมื่ออีกฝ่ายเบนหน้าหนี เธอก็อมยิ้ม เพราะรู้ว่าคงเถียงไม่ออกนั่นเอง“อืมก็ได้ ป้อนเร็วๆ ด้วย หิวจะแย่แล้ว” ประโยคที่ได้ยินทำให้นีรนิลอมยิ้ม นีรนิลจัดการดึงข้าวต้มหมูของโปรดของเขาเอามาถือ ก่อนจะค่อยๆ ตักชั้นบนสุดใส่ปากเขาอย่างเบามือเนติการู้สึกดีเมื่อมีอะไรลงท้องเสียทีหลังจากที่ป้ำตักใส่ปากอย่างยากลำบาก ทุกการกระทำนั้นทำให้นีรนิลดีใจ นี่เป็นครั้งแรกในรอบ ห้าหกปีท
เนติกาเผลอมองริมฝีปากอิ่มอย่างลืมตัว หัวใจของเธอเต้นระทึก ดวงตาหวานหรี่ลงจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของกันและกัน ความรู้สึกบางอย่างปรากฏในหัวใจนั้น ดวงตาหวานยังคงกวาดมองดวงหน้าใสนั้นนิ่ง นีรนิลอาศัยช่วงนั้นหันไปมองยาที่อยู่ในถาด แอบยิ้มแล้วค่อยๆ เอื้อมไปหยิบมันมา“ตัว!” หญิงสาวแกล้งเรียกเราเสียงเบาหวิว เนติกาเลิกคิ้วเชิงคำถามอย่างลืมตัว“หืม...อ๊ะ นี่...อุ๊บ อื้อ อื้อ อือ”เนติกาลืมตัวขานรับเสียงหวาน ดวงตากลมเบิกกว้างเมื่อจู่ๆ คนใต้ร่างของเธอก็นำบางอย่างมายัดใส่ปากเธอ เมื่อรู้ว่ามันคือยาเธอรีบจะบ้านทิ้ง แต่ทว่ามันก็ถูกสกัดกั้นด้วยริมฝาปากนุ่มของอีกฝ่ายที่ผงกหัวขึ้นมาฉกลงอย่างจังหนักหน่วง มือข้างหนึ่งก็กอดคอของเขาเอาไว้แน่น ส่วนอีกข้างก็กอดรัดร่างของเธอเอาไว้ เธอหายใจไม่ออกจนต้องกลืนเจ้าสิ่งนั้นลงไป“จู๊บ บ๊ะ!! อื้อ เธอทำอะไรของเธอเนี่ย แฮกๆๆๆ”เนติการีบผละร่างออกจากการกดทับร่างของคนตัวเล็กขึ้นแล้วจับคอตัวเอง“เอ้า ดื่มน้ำก่อนค่ะ..อื้อ เร็วๆ ซิ” นีรนิลทำหน้าตาไขสือ เธอไม่ยี่ระกับสายตาคมดุนั้น หญิงสาวรีบส่งน้ำให้เขาดื่มอย่างรวดเร็ว นึกขันเมื่อเห็นสีหน้าตกใจนั้น เนติกาหรี่ตามองอีกฝ่ายแล้วนึกฉุน
เนติกาเหลือบมองร่างเล็กในชุดพยาบาลสีขาวสะอาดนั้น แววตาไหววูบขึ้นมาเมื่อนึกถึงอดีต ตอนนั้นเจ้าหล่อนกำลังจะหมั้นนี่นา แล้วทำไมตอนนี้ถึงมาอยู่ที่นี่ได้ หรือว่าย้ายตามสามีมาอยู่ที่นี่ ร่างโปร่งคิดไปไกลสารพัด“อ้าวตื่นแล้วเหรอตัว” ด้วยความเคยชิน นีรนิลจึงเอ่ยพลางรีบเข้ามาประคอง“เอ่อๆ ไม่ต้องหรอก ฉันลุกเองได้” นีรนิลหน้าชาเกือบทันที หญิงสาวทำหน้าไม่ถูก แต่เธอก็พยายามปรับสีหน้าให้มันเป็นปกติให้มากที่สุด“ตัวหิวอะไรไหม ข้าวต้มที่โรงพยาบาลคงไม่ถูกปากตัวเท่าไหร่”“ไม่หิว แล้วก็ไม่อยากกินด้วย ฉันอยากอยู่คนเดียว” เนติกาเบนหน้าหนีสายตานั้นเธอไม่อยากมองหน้าอีกฝ่ายมากนัก มันรู้สึกเจ็บแปล๊บๆ ตรงหัวใจของเธอ“อ่อ แต่ว่าตัวยังลุกขึ้นไม่ถนัดนะ ให้เค้าอยู่ดูแลน่ะดีแล้ว” เสียงหวานเอ่ยด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม เธอพยายามไม่ใส่ใจกับการกระทำที่สุดแสนจะหมางเมินของอีกฝ่ายนั้น“ไม่ต้องหรอก คุณไปทำงานของคุณเถอะ”“เอ่อๆ” นีรนิลทำหน้าไม่ถูก นี่เป็นครั้งที่ร้อยแล้วมั๊งที่เขาออกปากไล่เธอแบบนี้ ตั้งแต่เมื่อวานเลยก็ว่าได้“แล้วก็เลิกเรียกว่าตัวด้วย เราไม่ได้รู้จักกัน” เนติกามองออกไปนอกหน้าต่าง ประโยคที่แสนทิ่มแทงหัวใจคนฟังนั้
"พยาบาลคะๆ คนไข้มาแล้วค่ะ" เสียงผู้ช่วยพยาบาลเรียก ระหว่างนั้นนีรนิลรีบวิ่งเข้าไปยังห้องฉุกเฉินอย่างเคยชินคนตัวเล็กมองร่างสูงของหญิงสาวที่ถูกหามขึ้นเตียงเธอตกใจกับเลือดจำนวนมากที่อยู่บนตัวบริเวณหน้าอกด้านซ้าย ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยสีดำจากเขม่าถ่าน คาดว่าน่าจะพลางตัวเวลาไปจับยาเสพติด"คุณพยาบาลห้ามเลือดก่อน เสร็จแล้วสั่งเตรียมห้องผ่าตัด""ห้องเรียบร้อยแล้วค่ะคุณหมอ""คนไข้มีญาติหรือเปล่า" คุณหมอเอ่ยถามเดี๋ยวดิฉันออกไปสอบถามให้ค่ะ""ว่าแต่ชื่อคนไข้อยู่ไหนเนี่ย" คนตัวเล็กมองหาแผ่นชาร์จเพื่อดูรายชื่อคนไข้"รายชื่อยังไม่มาเลยค่ะ" เสียงผู้ช่วยพยาบาลเอ่ย“ไม่เป็นไรเดี๋ยวฉันออกไปจัดการเอง เธออยู่นี่นะ" นิรนิลสั่งผู้ช่วยพยาบาลเสียงเรียบพร้อมรีบเดินออกไปด้านนอกเพื่อหาญาติเซ็นเอกสาร“ขอโทษค่ะใครเป็นญาติคนไข้ที่ถูกยิงเมื่อกี้คะ. เสียงหวานตะโกนเรียกพลางมองหาร่างทหารหญิงทั้งสองเดินเข้ามา“เขาไม่มีญาติค่ะแต่พวกเราเป็นเพื่อนร่วมงานสามารถเซ็นเอกสารได้ค่ะ”“แต่ว่า....” นิรนิลทำท่าลังเล“จัดการเถอะค่ะคุณพยาบาลเพราะว่าผู้กองมีแกไม่มีญาติ”ประโยคนั้นทำให้เธอสะดุดหูชื่อเหมือนแฟนเก่าเราเลยแฮะเนรมินพยักหน้า
นีรนิลส่งข้อความอธิบายเรื่องทั้งหมดและเธออ่านแล้วยิ่งทำให้เธอเจ็บปวด ตอนนี้หัวใจของเธอเหมือนกับถูกกระชากออกมาแล้วขยี้ด้วยฝ่าเท้าของอีกฝ่าย ความรู้สึกดีๆ ตอนนี้มันสลายไปเพราะอีกฝ่ายหลอกลวง ทั้งๆ ที่เธอจริงใจ ตลอด 4 ปีมันไม่มีความหมายอีกแล้ว เนติการู้สึกเจ็บปวด เธอกลับไปเก็บข้าวของตอนที่นีรนิลไม่อยู่ แล้วทิ้งโน้ตเอาไว้พร้อมกับแหวานแทนใจที่เราเคยแลกกัน หลังจากวันนั้น เนติกาก็ไม่กลับเข้ามาที่ห้องอีก เธอหลบหน้านีรนิลแล้วทิ้งข้อความเอาไว้“ขอให้ตัวโชคดี” ประโยคนั้นทำให้คนอ่านถึงกับปล่อยโฮ“ตัว…ฮือออ เค้าขอโทษ ฮือๆ” นีรนิลหยิบข้อความนั้นขึ้นมาอ่านทีไร น้ำตาเธอไหลทุกครั้ง เธอพยายามตามหาเขาทุกที่ และก็เพิ่งรู้ว่าเขาทำเรื่องขอจบไปแล้ว เธอเช็ครายชื่อรับปริญญาเขาก็ไม่ประสงค์ที่จะรับมันด้วย แล้วเธอจะไปตามเขาได้ที่ไหน คนตัวเล็กปล่อยน้ำใสๆ ให้ไหลออกมาอย่างพลั่งพลู“น้ำตาล! เธออยู่ที่ห้องหรือเปล่า” เสียงเรียกนั้นดังมาจากด้านนอก เมื่อจำได้ว่าเป็นใครคนตัวเล็กจึงวิ่งไปเปิดประตู“อื้อ..ริน อึก มีอะไรเหรอ”“นี่ร้องไห้อีกแล้วเหรอ เนไปเกือบครึ่งปีแล้วนะ ตัดใจเหอะน้ำตาล”“อึก อือ มันยากนะริน ฮือๆ” เมื่อพูดถู