คนบางคนมีค่าไว้พียงแค่มอง เราไม่มีสิทธิ์เป็นเจ้าของ ดั่งกระต่ายที่หมายพระจันทร์ คนบางคนมีค่าสูงส่ง แต่ตีคุณค่าของตนเองไว้ต่ำต้อย ทั้งๆ ที่บริสุทธิ์งดงามดั่งน้ำค้าง คนบางคนซื๋อตรงต่อใจตนเอง ดั่งพระอาทิตย์ที่มอบแสงสว่าง และความอบอุ่นเท่าเทียมกัน
ดูเพิ่มเติมพวกเรากลับมาถึงในเย็นวันเสาร์ สุดสัปดาห์นี้ไม่มีกิจกรรมอะไร ผมเลยกลับบ้านเพราะมีอะไรหลายอย่างให้ทำ ไม่ว่าจะเป็นเอาผ้าไปซักที่บ้าน ไปรับแว่นสายตาที่สั่งตัดเอาไว้ และที่สำคัญคือ ไปซื้อของขวัญวันเกิดให้เจฟที่ตลาดสดชั้น 2 เดินดูสินค้ากิฟต์ช็อป การเลือกซื้อของขวัญวันเกิดให้เจฟเป็นโจทย์ยากเหมือนกัน ผมถูกใจกับตุ๊กตาหมีสีฟ้าขนาดน่ากอดที่อยู่ในกรงไม้ หลังจากต่อรองราคากับแม่ค้าจนเป็นที่น่าพอใจแล้วซื้อมันมา ผมให้พี่นุมาส่งที่หอพักมหาวิทยาลัยเกือบๆ 7 โมงเช้าเท่าที่ผมทั่วบริเวณหอทุกหอเงียบเชียบกว่าครั้งอื่นๆ ทั้งๆ ที่มันควรจะมีความเคลื่อนไหวบ้างเพราะวันนี้เป็นวันจันทร์ วันเริ่มต้นการเรียนในสัปดาห์ ผมเข้าห้อง 5413 ก็พบความผิดปกติคือ มดไม่อยู่แต่บนโต๊ะของเขามีถ้วยกระเบื้องบรรจุบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ยังรับประทานไม่หมดทิ้งไว้จนอืดและบูด ผมพลาดอะไรบางอย่างไปหรือเปล่า ถ้ามีกิจกรรมวิ่งออกกำลังกายตอนเช้า ผมก็คงจะเห็นตามทางที่ผ่านมา ความสงสัยนี้ผมจะต้องหาคำตอบให้ได้ ผมจึงนึกถึงเจฟเลยไปหาเขาที่ห้อง 5401 ผมเคาะประตูเรียกคนในห้องได้สั
“ก้มหน้า... ก้มหน้าลงเดี๋ยวนี้” เสียงขู่ตะคอกยังคงดังต่อเนื่อง ผมตกใจจนตัวสั่นราวกับหมูที่มาถึงโรงเชือดเพียงแค่เห็นประตูทางเข้าก็ตกใจกลัวจนอุจจาระหดตดหายแล้ว “แต่ละคนเข้ามาอยู่นี่ เอาแต่หนุกกับหรอยลูกเดียว ไม่สาไหรเลย เห็นรุ่นพี่ก็ไม่ไหว้ เห็นอาจารย์ก็ไม่ไหว้ ที่แรงหว่านั้นคือเห็นพระรูปพระบิดาก็ไม่แสดงเคารพเจริญแล้ว” พวกปีหนึ่งโดนตำหนิด้วยสำเนียงภาษาท้องถิ่น ทำให้ผมนึกย้อนถึงตนเอง มันก็เป็นอย่างที่เขาว่าจริงๆ ผมคงจะต้องปรับปรุงตนเอง เสียงว๊ากโหวกเหวกดังลั่นห้องประชุมอย่างต่อเนื่อง พอผมนั่งก้มหน้านานเลือดเริ่มไปเลี้ยงสมองไม่ทันผลลัพธ์คือผมเวียนศีรษะ หน้ามืด “แบงค์ไหวมั้ย?” พี่หมอแฟนหนุ่มของพี่กระดิ่งเข้ามาถาม อันที่จริงแล้วพี่แกชื่อต้า แต่เพื่อนๆ แกลงความเห็นกันว่าแก่หน้าตากระเดียดไปทางพิมพ์นิยมของนักศึกษาแพทย์จึงเรียกว่าหมอมาตลอด พอหลังจากที่ได้คุยกันแล้ว แกตั้งใจจะเรียนหมอนั่นแห
ปลายเดือนพฤษภาคม... วันที่ผมย้ายเข้าหอพักภายในมหาวิทยาลัยเป็นวันอาทิตย์ที่อากาศแจ่มใส ผู้ที่มาส่งผมก็พี่ชายเจ้าเก่าหน้าเดิม ขับรถมาส่งตามเคย หอพักของมหาวิทยาลัยตั้งอยู่ตรงเชิงเขาท่าเพชร ก่อนอื่นผมไปติดต่อรับกุญแจห้องพักที่สำนักงานหอพักตรงหอ 2 เพื่อนๆ นักศึกษาทั้งชายและหญิงที่มีภูมิลำเนาไกลๆ เดินทางมาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว บรรยากาศบริเวณหอพักทั้ง 5 หอคึกคักคลาคล่ำด้วยผู้คน ผมเซ็นชื่อแล้วรับกุญแจห้อง ผมได้กุญแจห้องหมายเลข 2310 หอพักชายไม่ต้องเดินไปไกล เพราะหอพัก 2 อันเป็นที่ตั้งของสำนักงานหอพักยังเป็นหอพักชายอีกด้วย “ไม่มีอะไรแล้วใช่ไหม? พี่จะกลับแล้วนะ” พี่นุบอกกับผม หลังจากที่เขาวางตะกร้าใส่เสื้อผ้าของผมลงพื้นในห้อง “ครับ” ผมเดินลงไปส่งพี่นุตรงลานจอดรถ ผมเห็นว่ามีซุ้มขายขนมขบเคี้ยวและเครื่องดื่มของชมรมอาสาพัฒนาตั้งอยู่เลยลองไปประเดิมอุดหนุนสักหน่อย “เอาอะไรดีจ๊ะ” พี่ผู้หญิงผมซอยสั้นเอ่ยทักผม นอกเหนือจากเธอแล้ว ยังมีเพื่อนๆ ของเธออีก 4 คนเป็นผู้ชาย 1 หญิง 3 คน “ชาเขียวรสมะนาวหนึ่งกล่องครับ” “มาใหม่ล่ะซี อยู่สา
เด็กหนุ่มคนหนึ่งในชุดนักศึกษาเสื้อเชิ้ตแขนสั้นติดกระดุมเสื้อดึงคอ ผูกเนกไทสีน้ำเงินเข้มปักเข็มตราสัญลักษณ์มหาวิทยาลัย กางเกงสแลคสีดำ รองเท้าคัทชูสีดำขัดเงามันเลื่อม กำลังเดินขึ้นเขาเพราะตรงเชิงเขามีหอพักตั้งอยู่ จู่ๆ ฝนกระหน่ำตกลงมา “แย่จัง” เขาบ่นแล้วรีบวิ่งขึ้นเขา ปี๊นๆ เสียงแตรรถจักรยานยนต์ดังไล่หลังมา ทำให้เขาหยุดดู ใครกันหนอ เห็นหน้าไม่ชัดเลยใส่หมวกกันน็อคเต็มใบ “ไปกับเรา” เสียงหนุ่มแวนซ์ปริศนาใส่เสื้อโปโลปักตราสัญลักษณ์มหาวิทยาลัยสีม่วงจอดรถจักรยานยนต์ทิ้งไว้ข้างทางแล้วคว้ามือเขาวิ่งนำพาไปสถานที่แห่งหนึ่ง เป็นศาลาสองชั้น ชั้นล่างมีห้องเล็กๆ ปิดตายไว้ “นี่มันอะไรกัน” เด็กหนุ่มรู้สึกงุนงงไปหมดแล้ว ชายหนุ่มที่นำพาเขามาที่แห่งนี้ถอดหมวกันน็อคออก ชายหนุ่มแปลกหน้าที่เขาไม่เคยเห็นหน้าค่าตามาก่อน ถามว่าหน้าตาดีไหมก็ตอบว่าพาไปวัดตอนสายๆ ควงได้ไม่อายพระเณรหรอกหนา หน้าตาบ่งบอกว่ามีเชื้อจีนแต่ผิวพรรณไม่ขาวจั๊วะ แต่ก็ไม่ได้ดำคล้ำ หน้าตาพิมพ์นี้เรียกว่าหน้าหยก ยังกับดาราฮ่องกง “กูรักมึงนะแบงค์” ห
เด็กหนุ่มคนหนึ่งในชุดนักศึกษาเสื้อเชิ้ตแขนสั้นติดกระดุมเสื้อดึงคอ ผูกเนกไทสีน้ำเงินเข้มปักเข็มตราสัญลักษณ์มหาวิทยาลัย กางเกงสแลคสีดำ รองเท้าคัทชูสีดำขัดเงามันเลื่อม กำลังเดินขึ้นเขาเพราะตรงเชิงเขามีหอพักตั้งอยู่ จู่ๆ ฝนกระหน่ำตกลงมา “แย่จัง” เขาบ่นแล้วรีบวิ่งขึ้นเขา ปี๊นๆ เสียงแตรรถจักรยานยนต์ดังไล่หลังมา ทำให้เขาหยุดดู ใครกันหนอ เห็นหน้าไม่ชัดเลยใส่หมวกกันน็อคเต็มใบ “ไปกับเรา” เสียงหนุ่มแวนซ์ปริศนาใส่เสื้อโปโลปักตราสัญลักษณ์มหาวิทยาลัยสีม่วงจอดรถจักรยานยนต์ทิ้งไว้ข้างทางแล้วคว้ามือเขาวิ่งนำพาไปสถานที่แห่งหนึ่ง เป็นศาลาสองชั้น ชั้นล่างมีห้องเล็กๆ ปิดตายไว้ “นี่มันอะไรกัน” เด็กหนุ่มรู้สึกงุนงงไปหมดแล้ว ชายหนุ่มที่นำพาเขามาที่แห่งนี้ถอดหมวกันน็อคออก ชายหนุ่มแปลกหน้าที่เขาไม่เคยเห็นหน้าค่าตามาก่อน ถามว่าหน้าตาดีไหมก็ตอบว่าพาไปวัดตอนสายๆ ควงได้ไม่อายพระเณรหรอกหนา หน้าตาบ่งบอกว่ามีเชื้อจีนแต่ผิวพรรณไม่ขาวจั๊วะ แต่ก็ไม่ได้ดำคล้ำ หน้าตาพิมพ์นี้เรียกว่าหน้าหยก ยังกับดาราฮ่องกง “กูรักมึงนะแบงค์” ห
ความคิดเห็น