สนมที่แม้แต่ชื่อฮ่องเต้ยังจำไม่ได้ แต่รสพิศวาสคืนแรกคืนเดียวของนางช่างตรึงใจ เจียงซินเฟยสนมที่ถูกลืมฝ่าบาทผู้ที่วันๆสนใจแต่เรื่องในราชสำนักไม่ใช่คืนเหน็บหนาวของฮ่องเต้แต่เป็นเพราะแววตาเศร้าสร้อยของนาง
View Moreจางหลงบ้วนน้ำชาทิ้งก่อนจะลุกจากแท่นนอน เสี่ยวซานลงไปนอนแทนที่ทันที ใช้ผ้าห่มคลุมร่างจนมิดเหมือนกำลังหลับสนิทจางหลงเปลี่ยนอาภรณ์เป็นชุดขันที เร้นกายออกมายืนแทนที่เสี่ยวซานซูจินกลับมาอีกครั้ง จางหลงก้มหน้าประสานมือแต่ไม่เอ่ยคำใด“ฝ่าบาทหลับไปแล้วใช่หรือไม่”พยักหน้าก่อนจะผายมือเชิญ“เจ้าไปนอนได้แล้ววันนี้ข้านำสนมคนใหม่มาถวายตัวปรนนิบัติฝ่าบาท เรื่องในห้องบรรทมให้เป็นหน้าที่ของสนมเซียงอี๋”จางหลงพยักหน้าประสานมือก่อนจะหลบออกมา ประตูถูกเปิดออกช้าๆ“เซียงอี๋ เจ้าปรนนิบัติฝ่าบาทให้ดีพรุ่งนี้เช้า ข้าตกรางวัลให้อย่างงามเข้าไปได้แล้ว”“ฮองเฮา เซียงอี๋..เอ่อๆๆ ”“ไม่ต้องกลัวสิ่งใด ฝ่าบาทแต่เดิมก็ ...ไม่เคยสนใจอะไรอยู่แล้วเจ้าเพียงแต่ทำให้ฝ่าบาทลืมเจียงซินเฟยได้…. ก็พอ”จางหลงส่ายหน้าช้าๆ ก่อนจะก้าวขาออกจากตำหนักไปยังตำหนักเย็นตำหนักเย็น“เขาเป็นผู้เดียวที่ข้าไว้ใจและรักดุจลูกในไส้ แต่ในตอนนั้นข้าถูกฮองเฮาลงทัณฑ์เพราะโดนกล่าวหาว่าปรุงยาให้กับจางหลงจนเป็นเหตุให้อยู่qไท่จือในตอนนั้นทรงพระประชวรหนัก ด้วยจางหลงมีพลานามัยอ่อนแออยู่เป็นทุนเดิม ข้ารักเขาเพียงนั้นพวกเจ้าคิดว่าข้าจะปรุงยาพิษให้เขาหรื
“ฝ่าบาทปล่อยซินเฟยไปเสียเรื่องราวที่ผ่านมาอย่าได้ถือว่าเป็นบุญคุณความแค้น และรู้สึกผิดในเมื่อซินเฟยก็เพียงสนมปลายแถว ฝ่าบาทเองมีเรื่องอื่นมากมายที่สำคัญกว่าการเอาใจสนมเพียงนางเดียว เช่นนั้นปล่อยซินเฟยไปเสีย”“เจ้ายังโกรธข้าอยู่เช่นนั้นหรือ” แววตาหม่นเศร้า“ซินเฟย ไม่อยากโง่งมอีกต่อไปแล้ว ปล่อยซินเฟยไปเสีย” กัดฟันพูดจางหลงคลายอ้อมแขนออก“บางเรื่องเจ้าหาเข้าใจไม่ ข้าจะรออยู่ที่นี่จนกว่าเจ้าจะหายโกรธ ข้าพร้อมจะรอเจ้าเสมอ”ซินเฟยขยับตัวอย่างลำบากออกจากตรงนั้นไป จางหลงกลืนน้ำลายลงคอยากเย็นทำไมใจหายเช่นนี้ เพราะเหตุใดกัน“ฝ่าบาทฝ่าบาท เหตุใดต้องใส่ใจนางเพียงนั้นแค่เพียงสนมปลายแถวเช่นนางว่าหากนางไม่เต็มใจที่จะอยู่ ซูจินยินดีหาสนมนางใหม่ที่งดงามอ่อนช้อยกว่านางมากนัก”ซินเฟย หยุดเดินเมื่อได้ยินซูจินพูดถึงซินเฟยต่อหน้าจางหลง“ข้าไม่ได้ต้องการสนมคนใหม่ ข้าเพียงแต่รู้สึกว่า ทำไมเมื่อนางจะไปใจข้าถึงได้เจ็บปวดเช่นนี้” เผลอพูดความในใจในเมื่อตอนนี้หมดหนทางเสียแล้วเขารู้สึกอย่างนั้นจริงๆ“ฝ่าบาทซูจินเห็นใจฝ่าบาทเหลือเกิน ซูจินสัญญาจะทำทุกวิถีทางให้นางกลับมา”น้ำเสียงอ่อนโยนแสดงความเห็นใจอย่างเต็มที
ไทฮองไทเฮา สาวเท้ายังตำหนักฮ่องเต้ ซินเฟยพยายามลุกจากแท่นนอนเพื่อถวายพระพรฮองเฮา“ไม่ต้องมากพิธี เจ้าบาดเจ็บอยู่”ซินเฟยยิ้มอ่อนหวานด้วยความซาบซึ้งใจ“เข้าใจว่าเจ้าเจ็บซ้ำมามาก แต่เป็นเพราะฮ่องเต้ตอนนั้นไม่เคยรู้ว่าเจ้าจะมีลูก ต่อไปตั้งใจปรนนิบัติฮ่องเต้ข้าเชื่อว่าเจ้ายังมีโอกาสอีกมากที่จะตั้งครรภ์อีกครั้ง”ซินเฟยได้แต่ยิ้มเศร้าๆ ในเมื่อตัดสินใจแล้วว่าจะกลับไปตั้งหลักที่ตำหนักเย็นเสียก่อน“ข้ารู้ดีว่ากว่าจะผ่านมันมาได้เหนื่อยยากเพียงใด แต่เมื่อฮ่องเต้ตั้งใจจะทำเพื่อเจ้า ต่อจากนี้เห็นทีว่าเจ้าจะต้องมองฮ่องเต้เสียใหม่ได้แล้ว”เหมือนกับเข้ามานั่งในใจของซินเฟยพูดปลอบใจและตักเตือนไปพร้อมกันทั้งๆที่ซินเฟยไม่ได้เอ่ยปากสักคำ ไทฮองไทเฮาดีเพียงนี้ ซินเฟยอดที่จะปลาบปลื้มเสียไม่ได้ตั้งแต่ตอนเข้ามาคัดตัวนางในมีไทฮองไทเฮาเท่านั้น ที่คอยให้การชี้แนะในเรื่องต่างๆในวังหลวงจนซินเฟยได้รับการแต่งตั้งเป็นสนมนับว่าทุกอย่างล้วนเป็นไทฮองไทเฮาที่คอยอยู่เบื้องหลัง“ซิยเฟยขอบพระทัยไทฮองไทเฮา ซินเฟยจะจำคำสั่งสอนของไทฮองไทเฮาให้ขึ้นใจ”“เจ้าก็ยังนอบน้อมเช่นเดิม เช่นนี้จึงเหมาะที่จะคอยปรนนิบัติฝ่าบาทไม่เหมือน…”หย
“รอให้หมอหลวงมาดูอาการอีกทีตอนนี้เจ้าพึ่งจะฟื้นขึ้นมาหากเป็นอะไรไปอยู่ที่ตำหนักเย็น ข้าคงไม่อาจดูแลเจ้า”ซินเฟยหลับตาไล่หยาดน้ำตาที่ไหลรินก่อนจะหันหลังให้จางหลงเเกรงว่าเสียงสะอื้นจะเล็ดลอดออกไปให้เขาได้ยิน“ข้าส่งคนแจ้งข่าวกับย่าหนานว่าเจ้าฟื้นแล้วเพื่อนางจะได้ไม่ต้องห่วง”“ฝ่าบาทหม่อมฉันอยากกลับไปที่ตำหนักเย็น”คำพูดหนักแน่นจริงจัง จางหลงถอนหายใจ นางยังโกรธเขาอยู่ ก็ไม่น่าแปลกกับสิ่งที่เขาให้นางเผชิญเพียงลำพังตลอดหลายเดือนมานี้“เอาไว้หมอหลวงมาดูอาการเจ้าข้าสัญญาว่าจะไม่รั้งเจ้าไว้…..”คำพูดหายไปในลำคอ ใจหายอย่างที่สุดแต่ไม่อาจบอกนางว่าเขาไม่อยากให้นางจากไป เขากับนางจะสิ้นวาสนากัน แค่นี้เช่นนั้นหรือ ในเมื่อเขาสัญญากับย่าหนานว่าจะไม่ย่างกรายไปที่ตำหนักเย็นอีกแล้วหากจะให้นางออกมานางจะยอมทำตามบัญชาเขาหรือไม่ในเมื่อความสัมพันธ์ของเขาและซินเฟยช่างเปราะบางหากเขากดดันนางโดยอาศัย อำนาจใจมือ แล้วหากนางหนีเขาไปเล่าเขาจะทำอย่างไร ไหนจะคนผู้นั้นที่ไม่ทราบที่มาที่ไปคนนั้นผู้ที่ห่วงใยนางเกินใคร เมื่อเขามองสายตาของคนผู้นั้นออกว่ามีนางในใจไม่ต่างจากเขา ลุกขึ้นเดินจากไปซินเฟยหลับตาลงช้าๆ พยายามไล่ค
ตำหนักเย็น“จางจางหลง คารวะย่าหนาน”ย่าหนาน ยิ้มเพียงบางๆ แต่ผินหน้าไปเสียทางอื่นไม่อยากจะมองหน้า จางหลง“ไม่อ้อมค้อมมีเรื่องใดร้อนรนจึงมาถึงนี่”แต่เดิม จางหลงเป็นองค์ชายที่พูดน้อยแม้ย่าหนานจะเลี้ยงดูเขามาแต่แทบจะอ่านใจเขาไม่ออกด้วยซ้ำไป“จางหลงมีเรื่องรบกวน ท่านแม่นม”“ฝ่าบาท ไม่จำเป็นต้องมาเองฐานะสูงส่ง เรียกให้ข้าไปพบจึงจะง่ายกว่า ว่ามาต้องการสิ่งใด”“ซินเฟย”หันหน้ามอง จางหลงเต็มตา“นางหายออกจากที่นี่ไปตั้งแต่เมื่อวานตอนเช้า นางอยู่กับฝ่าบาทหรือไร”“ย่าหนาน นางแต่เดิมเป็นสนมของข้า”“หึ หึ สนมที่ถูกโบยปางตายแล้วถูกจับมาโยนทิ้งไว้ที่นี่”“ย่าหนาน ท่านอย่าเพิ่งเอาเรื่องในอดีตมาคิดบัญชีกับข้าตอนนี้นางเป็นตายเท่ากันยาบำรุงเลือดเสด็จย่าบอกว่า ย่าหนานมียาดีชนิดนี้เจียดให้ ข้านำไปป้อนนางบรรเทาอาการบาดเจ็บ”“อย่างไรเสียฝ่าบาทก็คิดว่าย่าหนานใจดำอยู่แล้ว เรื่องที่ไม่ให้ยาจึงไม่เกินความคาดหมาย”จางหลงทิ้งตัวลงคุกเข่ากับพื้น“ย่าหนาน แม่นมท่านละความเคียดแค้นเห็นแก่นางสักครั้ง”ย่าหนานตกตะลึงในเมื่อเป็นฮ่องเต้ผู้สูงส่งกับยอมคุกเข่าง่ายดายเพียงนี้เชียวหรือ เผลอยกมือฉุดจางหลงให้ลุกขึ้น“ฝ่าบาทอย่
จิวซัวกัดฟันจนเป็นสันนูน จางหลงบีบคั้นเขาเพียงนี้เชียวหรือ จางหลงกับซินเฟยมีความสัมพันธ์ใดกันแน่ จึงต้องการตัวซินเฟยถึงเพียงนี้ ในเมื่อเขาเห็นว่านางอาศัยอยู่ในตำหนักเย็นใช้ชีวิตลำเค็ญเยี่ยงสนมที่ทำความผิดร้ายแรง หรือว่าจางหลงยังหวงก้างตามนิสัย ฮ่องเต้ทั่วไป“ยาสมานแผลนำมันมาให้ข้าข้า ใช้มันกับนางไม่แน่คืนนี้นางอาจจะได้สติ”ขือจื้อส่งยาในมือให้กับจิวซัว“ฝ่าบาท ยาสมานแผลนี้แค่เพียงบรรเทานางต้องได้รับการรักษาอย่างแเร่งด่วนไม่เช่นนั้นอาการบาดเจ็บอาจลุกลาม”จิวซัวหลับตาถอนหายใจช้าๆหน้าประตูวังร่างบอบบางที่นอนไร้สติถูกวางไว้ในเกี้ยว ทหารสองสามนายห้อมล้อมก่อนที่จะมีคนตะโกนขึ้นดังๆ“รายงานฝ่าบาทโดยเร็ว แม่นางที่ฝ่าบาทต้องการตัวบัดนี้มาถึงแล้ว”หมอหลวงถือหลวมยาวิ่ง มาที่เกี้ยวทันทีเหมือนรอท่าอยู่ก่อนแล้ว จางหลงสาวเท้าลงมาจากหน้ามุขตรงไปยังหน้าประตูวังจางหลงถลาเข้าไปยังเกี้ยว แหวกเหล่าทหารและหมอหลวงเข้าไปอย่างรีบร้อน ซ้อนร่างบางมาอุ้มไว้ก่อนจะหันหลังกลับเข้าไปในตำหนัก จิวซัวลอบมองจากข้างกำแพงถอนหายใจด้วยความโล่งอกร่างบางถูกวางลงบนแท่นนอนในตำหนักใหญ่ หมอหลวงทั้งหมดในวังหลวงห้อมล้อมซินเฟย จางหลง
“หลานจำเรื่องราวเกี่ยวกับนางได้เพียงน้อยนิด”แววตาเศร้าสร้อยตื่นกลัวกับกิริยาอ่อนหวาน ร่างอ่อนระทวยในอ้อมแขนไม่มีคำพูดใดหลุดออกจากปากนางเมื่อเขาทาบทับอยู่บนร่างเปลือยมีแต่ดวงตาเศร้าสร้อยยอมจำนนต่อเขาก็เท่านั้น“นำนางกลับมา นางรับโทษถูกโบยถึงร้อยไม้ หญิงรูปร่างบอบบางคงตายไปตั้งแต่ยังไม่ทันได้ห้าสิบไม้ด้วยซ้ำไปเจ้าไม่สงสัยหรือไรว่านางกัดฟันทนเพื่ออะไรหากไม่ใช่เพื่อรักษาชีวิตเลือดเนื้อเชื้อไขของฮ่องเต้อย่างสุดชีวิต เพราะนางถูกสอนมาให้เป็นของฮ่องเต้ทั้งยามหลับและยามตื่น นางจึงพยายามที่จะเยื้อชีวิตลูกของนางให้ถึงที่สุดหากเป็นลูกขององครักษ์ต่ำชั้นผู้นั้นเหตุใดนางจะต้องการให้เขามีชีวิตอยู่อีกในเมื่อพ่อของเขาถูกประหารไปแล้ว”จางหลงเงยหน้ามองท้องฟ้าก่อนจะหลับตาลงช้าๆจิวซัวหอบร่างไร้สติยัง กระท่อมไม้ไผ่ไม่ไกลจากลำธารนัก เลือดยังไหลไม่หยุดเขาวางร่างบางลงก่อนจะค่อยๆ ดึงลูกศรออกจากอกข้างซ้ายของซินเฟยเหงื่อหยดรินเต็มในหน้านาทีแห่งความเป็นความตาย หากผิดพลาดเพียงนิดเดียวลูกดอกทำลายหัวใจของซินเฟยเสียแล้วแม้แต่หมอเทวดาก็ไม่สามารถช่วยนางได้ ค่อยๆบรรจงดึงลูกดอกออกจากบาดแผล ซินเฟยหลับตานิ่งใบหน้าซีดเผือ
ถลาเข้าหาซินเฟยจับจ้องที่ใบหน้างามด้วยสายตาครุ่นคิด แต่กับถูกจิวซัวซัดฝ่ามือเข้าใส่“ถอยไปห่างๆนาง เจ้าทำนางบาดเจ็บ”องครักษ์และเสี่ยวซานต่างรีบมาพยุงจางหลง“จับตัวไว้ อย่าให้หนีไปได้เขาทำร้ายฝ่าบาท”จิวซัวไม่ได้สนใจสิ่งใดซ้อนร่างบางของซินเฟยไว้ในอ้อมแขนก่อนจะสาวเท้าไปยังม้าของจางหลงที่ยืนคอยอยู่”องครักษ์ เก้เก้กังๆ ไม่กล้าเข้าไปจับตัว“จับตัวมันไว้”เสี่ยวซานตะโกนสั่ง จางหลงกับโบกมือห้าม จิวซัวพาซินเฟยขึ้นคร่อมบนม้า กระตุกบังเหียนจากไปอย่างรวดเร็ว“ฝ่าบาทเกิดอะไรขึ้น”“ข้า เผลอทำร้ายนาง”“นาง”“นางคือคนที่ข้าพบมือคืน” น้ำเสียงแสดงออกถึงความไม่มั่นใจ“เป็นนางจริงๆ ใช่หรือไม่ หากเป็นนางจริงๆ ฝ่าบาทตามหานาง ด้วยจุดประสงค์บางอย่างแล้วเช่นไรจึงจะปล่อยให้นางหลุดมือไปง่ายดาย”เสี่ยวซานถามเสียดายโอกาสที่พบซินเฟยของจางหลง เริ่มจะเห็นเค้าลางบางอย่างที่กำลังจะบังเกิดความวุ่นวาย“ส่งคนสะกดรอยตาม แล้วพานางกลับมา”สั่งเสียงดังลั่น ทหารองครักษ์รีบวิ่งกันจ้าละหวั่นตำหนักไทฮองไทเฮา“เสด็จย่า สนมนางนั้น ที่เคยถูกโบยถึงร้อยทีแล้วถูกส่งตัวไปยังตำหนักเย็นที่เสด็จย่าเคยบอกหลานนางชื่อว่าอะไร”จางหลงถามข
“ฝ่าบาท นางเป็นใคร เหตุใดต้องใส่ใจด้วยคงเป็นนางในหอซักล้างที่มีมากมายหลายนาง”“พรุ่งนี้พานางมาพบข้า”พูดเพียงแค่นั้นแล้วสาวเท้าจากไปทันทีในห้วงฝัน ซินเฟยดิ้นรนเพียงพองาม ไม่ได้ปัดป้องทั้งๆ ที่อยากจะกรีดร้องความเจ็บปวดในครั้งแรก กับคนที่ไม่คุ้นเคยไร้ซึ่งความรักความผูกพัน“รอข้า อย่าเพิ่งไปไหน ข้ายังไม่อิ่มหนำกับเจ้าเลย”เช้าสดใส“ซินเฟยที่หอซักล้างเกิดความโกลาหลขึ้นแต่เช้า เจ้าอย่าเพิ่งไปรอจนกว่าทหารองครักษ์พวกนั้นจากไปข้าไม่รู้ว่าเขามาทำไมคล้ายมาตามหาคนแต่ไม่รู้ว่าเป็นใคร ฉะนั้นทางที่ดีอยู่ที่นี่จนกว่าพวกนั้นจะกลับไป”อาวุโสย่าหนานเอ่ยปากเมื่อเห็นว่าซินเฟยกำลังจะไปที่นั่น เพื่อไปเก็บเศษผ้าเก่าๆ ที่ขาดวิ่นจนไม่เป็นที่ต้องการมาเย็บอาภรณ์ไว้สวมใส่“คงมีใครที่จะต้องถูกลงทัณฑ์อย่างแน่นอน “ซินเฟยเชื่ออาวุโส เช่นนั้นไว้ค่อยไปวันอื่นวันนี้ออกไปนอกเขตวังหลวง หาเก็บสมุนไพรและอาจตกปลาที่ริมลำธารเผื่อจะได้ปลามาทำอาหารในตอนเย็น”อาวุโสย่าหนานพยักหน้าขึ้นลง“เจ้าลำบากหรือไม่”ซินเฟยส่ายหน้าไปมา“ซินเฟยแต่เดิมอยู่นอกวังก็ใช้ชีวิตเช่นนี้ไม่ได้ลำบากอะไร อาวุโสอย่าได้กังวล”ซินเฟยเดินออกจากตำหนักเย็
Comments