“ผู้หญิงนี่เอามาทำอะไรได้บ้างเล่า...ถ้าไม่จับลงนอนหงายแล้วเราอยู่ข้างบนน่ะ ฮึ...นายบอกฉันทีเถอะ...หรือนายจะให้ฉันเอาแม่คนนั้นมานั่งไว้บนแท่นปูผ้าขาวลาดกราบวันละสามเวลา จะได้เจริญกับตัวเอง” คำพูดอย่างผยอง ดูหมิ่นนี้ ออกจากปากเขา ภิไธย หนุ่มเข้าขั้นเศรษฐี ปากร้าย เอ่ยถึงผู้หญิง ช่างไม่น่ารัก ส่วนเธอ เกนเกด คือผู้หญิงคนนั้น คนที่มีงาน นางรำ เป็นอาชีพ เธอรับงานรำตามแต่คนจ้าง งานที่เป็นเงิน เธอมีสโสแกนว่า ไม่ใช่แค่เพียงอาชีพ แต่คือลมหายใจ เธอมองงาน เป็นลมหายใจ!!! และเพราะต้องรักษาลมหายใจทั้งของตัวเองและญาติผู้ใหญ่รวมถึงคนรักที่บาดเจ็บสาหัสมาจากสงครามชายแดน ทำให้เธอรับการว่าจ้างจาก ชนา ไปรำอวยพรวันเกิดให้กับภิไธย จุดเริ่มต้นของมนตรา ที่สอนบทเรียนให้ชายหนุ่มผู้หยิ่งผยองยอมรับว่าหัวใจที่มีขนาดก้อนเนื้อเท่ากำปั้นนั้นสำคัญเพียงใด เธอขายศิลปะการร่ายรำ สมคำว่า นางรำ แต่เธอไม่มีวันขายหัวใจ ที่มันหมายรวมถึงคำว่าศักดิ์ศรี พบกับเธอ เกนเกด สาวสวย หัวใจทระนง ใน นางรำ
Lihat lebih banyak“คุณไธยอยากพบคุณ...”เกนเกดมองหน้าระวีเขม็ง เหมือนจะค้นหาอะไรบางอย่างจากเขาแต่หล่อนก็ไม่ได้พบสิ่งใดเลย“เขาจะขอโทษดิฉัน หรืออยากเสนอราคาใหม่ล่ะคะ” เกนเกดถามเยาะๆ “เห็นทีจะไม่ไปเหยียบบ้านนั้นอีกแล้วค่ะ เหมือนตัวเองเป็นผู้หญิงชั้นต่ำดูถูกเหยียดหยามกันเกินไป ดิฉันก็เป็นคนเท่าๆ กับเขา”สุพัตราจับมือของเกนเกดมาบีบเบาๆ พร้อมกับพูดเสียงอ่อนโยน“คุณไธยเขาเป็นคนขวานผ่าซากแบบนั้นเสมอ บางครั้งก็ถึงบ้าระห่ำ”ได้ยินเสียงระวีกระแอมกระไอในคอเบาๆ แต่สุพัตราไม่ฟังเสียงเขาเลย“เขาอาจจะแสดงกิริยาไม่สุภาพไปบ้าง แต่จริงๆ แล้วเขาเป็นสุภาพบุรุษคนหนึ่งนะคะ พอไปทบทวนดูแล้วอาจจะเสียใจก็ได้ เพราะถ้าเขาโกรธเคืองที่อยู่ๆ คุณเกดโผล่เข้าไปคืนนั้น เขาน่าจะโกรธคุณแมวมากกว่า...” เมื่อเห็นสีหน้าเกนเกดแสดงความงุนงงกับชื่อนั้น สุพัตราจึงรีบเอ่ยต่อ “ก็คุณชนานั่นแหละค่ะ...ไม่ใช่คนอื่นไกลที่ไหน”เกนเกดไม่ได้แสดงความคิดเห็นแต่อย่างใดทั้งสิ้นหล่อนยังนั่งปิดปากเงียบ“ผมอยากจะเชิญในนามคุณไธยไปที่บ้าน”“ขอบคุณค่ะที่จะเชิญ...แต่เห็นจะไม่ไป...”“วิทยุ พาน กับรองเท้า สามอย่างนั่นยังอยู่ที่บ้านนะครับ”“ถ้าจะกรุณาเพราะก็เป็นของที่มี
“เกนเกด”ชื่อของนางรำคนนั้น...ระวีถอนใจออกมาเฮือกใหญ่เมื่อควานคว้าหาตัวหญิงสาวที่ภิไธยปรารถนาจนพบตัวเข้าที่นี่ หลังจากสุ่มไปหลายต่อหลายแห่งที่มีการแสดงศิลปะแบบไทยทอดสายตามองท่ารำกรีดกรายสวยงามของหล่อน แล้วเขาก็พบว่าท่ามกลางแสงไฟกระจ่าง เกนเกดเป็นผู้หญิงสวยคนหนึ่งเมื่อเต็มเครื่องทรง ทำให้ระวีอยากรู้เวลาที่หล่อนถอดเครื่องออกหมดรวมทั้งเครื่องสำอางที่ลงไว้เข้มจัดบนใบหน้านั่นด้วย อยากเห็นดวงหน้าที่แท้จริง...เมื่อการแสดงในชุดนี้จบลง เขาก็เห็นเกนเกดเข้าไปทางด้านหลังเวที ไม่รู้ว่าหล่อนยังมีการแสดงชุดอื่นอีกหรือไม่ ระวีจึงยังนั่งอยู่ที่เดิม...ตรงหน้าเขาคือชุดอาหารที่แทบจะไม่ได้พร่อง เพราะเขาไม่สู้จะคุ้นลิ้นกับอาหารไทยรสออกหวานนำมากกว่ารสอื่น...เพื่อนหญิงของเขาตรงหน้าต่างหากที่ทำท่าเอร็ดอร่อยเหลือเกิน“มีอะไรหรือ วี” สายตาของสุพัตรายังว่องไวเหมือนเคย แม้จะไม่ได้พูดในตอนแรกที่เห็นเขาแสดงกิริยาทอดถอนใจ... “หรือว่าเกิดปิ๊งกับคนสวยนั่น...”“ผมตามหาตัวเธออยู่”สุพัตราชะงักไปเล็กน้อย มือจับช้อนยกค้าง ก่อนจะปรับให้เข้าสู่ปกติโดยเร็ว“ไม่ใช่เพื่อตัวเอง” เหมือนเขาแก้ตัวต่ออย่างร้อนรนพอประมาณ เพราะจนเป
เรื่องอะไร?เกนเกดขับรถเข้าบ้านในตอนเที่ยงคืนเศษๆ ไปแล้ว หล่อนมีคิวการแสดงประจำที่ร้านอาหารไทยแห่งหนึ่งซึ่งหรูหราติดอันดับของสถานที่ที่มีการแสดงศิลปะแบบไทยๆ หลังจากออกมาจากบ้านของภิไธยแล้ว...เมคอัพยังไม่ได้ล้างจากใบหน้าแต่เกนเกิดเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดธรรมดาแล้ว“แม่เกดรึ...”เสียงสั่นเครือทักขึ้น ทำให้หญิงสาวเงยหน้าขึ้นแล้วก็หิ้วรองเท้าขึ้นมาด้วย“คุณยายยังไม่นอนอีกหรือคะ...”“ยายลงมากินน้ำ...คอแห้ง หลับไปพักหนึ่งแล้วล่ะ...”เกนเกดเดินออกมาสู่แสงสว่างตรงเชิงบันได สีหน้าสีตาของหล่อนเป็นปกติ ไม่มีความเหน็ดเหนื่อยอยู่เลย ทั้งที่ก็มีหล่อนคนเดียวที่เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในบ้านไม้เก่าๆ หลังนี้ เพื่อเลี้ยงตัวเองแล้วยังจะคนแก่อีกสามคน ที่เป็นเหมือนภาระ...ไม่ใช่เท่านั้นภาระที่หนักอึ้งของเกนเกดอีกคนหนึ่งยังนอนไม่รู้สึกรู้สมอยู่ในโรงพยาบาลนอนเป็นเจ้าชายนิทรามานานปีแล้วและคงจะไม่มีวันฟื้นกลับคืนตื่นมาได้อีกนางกลืนน้ำลายลงในลำคออย่างฝืดๆ น้ำตาเหมือนจะรื้นขึ้นมาเองเมื่อเดินเข้ามาใกล้แตะแขนของหลานสาวเพียงเบามือพร้อมกับเยงถามปลอบประโลม“กินอะไรมาหรือยังล่ะนี่...”“เรียบร้อยแล้วค่ะ ที่ร้านเค้าใจดี เร
เสียงเขาร้องโอดโอยอย่างบอกให้รู้ว่าเจ็บจริงๆ ไม่ใช่เสแสร้ง นั่นพอจะทำให้สิ่งที่เดือดปุดๆ ในอกของหล่อนคลายลงบ้างเล็กน้อย“จำไว้แล้วกันว่าอย่าพูดแบบนี้กับฉันอีก”เขาสะบัดเท้าไปมา นัยน์ตาวาวจ้าด้วยความโกรธ แล้วในขณะเดียวกันก็นึกประหลาดใจที่ผู้หญิงคนนี้มองเขาอย่างไม่แยแส สำหรับผู้ชายที่เคยคิดว่าตัวเองเลอเลิศสุดแสน ผู้หญิงเห็นเป็นต้องจับตามองด้วยแววตาชื่นชม บางครั้งมองจนเหลียวหลัง ปรารถนาในตัวเขาอย่างเปิดเผย แล้วนี่กะแค่นางรำคนหนึ่ง ที่ภิไธยเห็นว่าต่ำต้อยกว่าเขาจนเปรียบเทียบไม่ได้ หล่อนมองเขาด้วยแววตาจงชังรังเกียจเสียด้วยซ้ำ ทำให้เขาสุดจะทนเขากัดฟันข่มความเจ็บปวดให้พ้นไป สาวเท้าเข้าไปใกล้ ขบฟันแน่นส่งเสียงลอดออกมา“หล่อนจะมากเกินไปแล้ว หล่อนทำร้ายฉัน”เหมือนลืมตัวไปชั่วขณะหนึ่ง ภิไธยจับบ่าบอบบางนั้นเขย่าแรงๆ พานกะไหล่ในมือหล่อนปลิวหวือไปอีกทิศทางหนึ่ง แล้วหล่อนก็สั่นเทิ้มด้วยแรงเขย่าอย่างไม่ปรานีปราศรัยสักนิดนั่น“ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนกล้าดีกับฉันอย่างนี้...”มือข้างหนึ่งปล่อยออกจากบ่าเงื้อขึ้นสูง หมายดวงหน้าที่ลงเมคอัพไว้เข้มจัดนั่น ดวงตาของเกนเกดขยายกว้างขึ้น บอกถึงความตกใจ แล้วสัญชาตญาณ
นางรำ2มันอะไรกันเรื่องบ้าอันใดที่เกิดขึ้นตรงหน้าเขา พอประตูด้านหน้าเปิดเข้ามาเขาก็เห็นสีทองพร่างพรายขึ้นมาก่อนในแสงสลัวๆ ของห้องนี้...แล้วจึงรวมกันเห็นเป็นร่างอ้อนแอ้นในชุดนางรำ หล่อนมาผิดงานแน่ๆ เพราะเขาไม่ได้เชื้อเชิญหรือจ้างวานหล่อนเลย เสียงต่างๆ ในห้องเงียบกริบไปพักหนึ่ง ก่อนจะดังแซดขึ้นมาทำนองว่าหล่อนเป็นใครมาจากไหน และจะมาทำอะไร“ระวี...” เขาเรียกชายหนุ่มรุ่นน้องที่เป็นกึ่งๆ ญาติด้วยเสียงอันบอกถึงอำนาจอย่างเต็มที่ “เกิดอะไรขึ้น”“คุณชนาส่งมาเป็นของขวัญวันเกิดคุณค่ะ”เกนเกดตอบเสียเอง หล่อนหันมาพยักหน้าน้อยๆ เป็นอาณัติสัญญาณให้กับระวี แววตาหยาดเยิ้มคู่นั้นเหมือนจะสะกดให้ระวีงงงัน ยอมทำตามที่หล่อนสั่งโดยดีลั่นทำให้ภิไธยสั่นเทิ้มไปทั้งกายก็ว่าได้แต่เสียงเพลงเจื้อยแจ้วขึ้นมาก่อน แล้วแม่สาวนั่นก็ออกท่าร่ายรำอย่างสวยงาม พร้อมกับสองหูของเขาได้ยินเสียงวิจารณ์เบื้องหลัง“อื้อฮือ...นางรำคนนี้สวยเฉียบ...ใส่เครื่องได้สวย ชักอยากจะเห็นเวลาถอดเครื่องทรงออกแล้วซิ”หล่อนวาดแขนเยื้องย่างไปตามลีลาเพลง ซึ่งทำให้ภิไธยปวดศีรษะมากกว่าอย่างอื่นตั้งแต่ชื่อของชนาที่หลุดออกมาให้ได้ยินแล้วที่ทำให้เขารู
ข้อมูลเกี่ยวกับนางรำเขียน ลงนิตยสารดรุณี ช่วงปี2523-2524 ตีพิมพ์รวมเล่มกับ สนพ.โชคชัยเทเวศร์ปี 2524(คนเขียนอายุ 23-24ปีที่เขียน)เคยเป็นละครวิทยุ คณะนีลิกานนท์เคยเป็นละครทีวี ช่อง3 ในช่วง ร้อยรสบทละครนำแสดงโดย ออฟ อภิชาติ พัววิมล และ นุ่น สินิทรา บุณยศักดิ์ผ่านมา 39 จะ 40 ปี จึงหยิบขึ้นมาทำอีบุ๊คอีกครั้งหนึ่ง เพราะมั่นใจในรสแซบของเรื่อง และการปะทะกันของเธอกับเขาเกนเกด นางรำ ผู้บอกว่าไม่ใช่เพียงแค่อาชีพแต่คือลมหายใจอาริตา-----------------------------------------“ผู้หญิงนี่เอามาทำอะไรได้บ้างเล่า...ถ้าไม่จับลงนอนหงายแล้วเราอยู่ข้างบนน่ะ ฮึ...นายบอกฉันทีเถอะ...หรือนายจะให้ฉันเอาแม่คนนั้นมานั่งไว้บนแท่นปูผ้าขาวลาดกราบวันละสามเวลา จะได้เจริญกับตัวเอง”คำพูดอย่างผยอง ดูหมิ่นนี้ ออกจากปากเขาภิไธย หนุ่มเข้าขั้นเศรษฐี ปากร้าย เอ่ยถึงผู้หญิง ช่างไม่น่ารักส่วนเธอ เกนเกด คือผู้หญิงคนนั้น คนที่มีงาน นางรำ เป็นอาชีพเธอรับงานรำตามแต่คนจ้าง งานที่เป็นเงิน เธอมีสโสแกนว่าไม่ใช่แค่เพียงอาชีพ แต่คือลมหายใจเธอมองงาน เป็นลมหายใจ!!!และเพราะต้องรักษาลมหายใจทั้งของตัวเองและญาติผู้ใหญ่รวม
ข้อมูลเกี่ยวกับนางรำเขียน ลงนิตยสารดรุณี ช่วงปี2523-2524 ตีพิมพ์รวมเล่มกับ สนพ.โชคชัยเทเวศร์ปี 2524(คนเขียนอายุ 23-24ปีที่เขียน)เคยเป็นละครวิทยุ คณะนีลิกานนท์เคยเป็นละครทีวี ช่อง3 ในช่วง ร้อยรสบทละครนำแสดงโดย ออฟ อภิชาติ พัววิมล และ นุ่น สินิทรา บุณยศักดิ์ผ่านมา 39 จะ 40 ปี จึงหยิบขึ้นมาทำอีบุ๊คอีกครั้งหนึ่ง เพราะมั่นใจในรสแซบของเรื่อง และการปะทะกันของเธอกับเขาเกนเกด นางรำ ผู้บอกว่าไม่ใช่เพียงแค่อาชีพแต่คือลมหายใจอาริตา-----------------------------------------“ผู้หญิงนี่เอามาทำอะไรได้บ้างเล่า...ถ้าไม่จับลงนอนหงายแล้วเราอยู่ข้างบนน่ะ ฮึ...นายบอกฉันทีเถอะ...หรือนายจะให้ฉันเอาแม่คนนั้นมานั่งไว้บนแท่นปูผ้าขาวลาดกราบวันละสามเวลา จะได้เจริญกับตัวเอง”คำพูดอย่างผยอง ดูหมิ่นนี้ ออกจากปากเขาภิไธย หนุ่มเข้าขั้นเศรษฐี ปากร้าย เอ่ยถึงผู้หญิง ช่างไม่น่ารักส่วนเธอ เกนเกด คือผู้หญิงคนนั้น คนที่มีงาน นางรำ เป็นอาชีพเธอรับงานรำตามแต่คนจ้าง งานที่เป็นเงิน เธอมีสโสแกนว่าไม่ใช่แค่เพียงอาชีพ แต่คือลมหายใจเธอมองงาน เป็นลมหายใจ!!!และเพราะต้องรักษาลมหายใจทั้งของตัวเองและญาติผู้ใหญ่รวม...
Komen