เธอก็แค่ตัวแทน ที่ถูกเขายกมาวางในตำแหน่ง...เมีย ความรัก ความเจ็บปวด ความโกรธเกรี้ยว ความอาฆาต เกิดขึ้นกับมนุษย์เสมอๆ ไม่ว่าจะยากดีมีจนต่างก็ต้องเจอกับบททดสอบเหล่านี้ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือวิชญ์นักธุระกิจผู้มีหน้ามีตาในสังคม เพราะจู่ๆ เขาก็ถูกคนรักหักหลังได้อย่างเลือดเย็น โดยเธออาศัยความไว้เนื้อเชื่อใจที่เขามีให้ เพราะแค้นเขาจึงต้องเอาคืน ด้วยการให้มารีญาน้องสาวของอดีตคนรักมาเป็นตัวแทนที่ต้องทำทุกๆ อย่างให้เหมือนกับพี่สาว แม้กระทั่งเรื่องบนเตียง
Lihat lebih banyak“เออๆ ไม่ต้องพูดแล้ว”“ครับ” ภูมิเอ่ยรับแล้วยืนรอเจ้านายกลับเข้าห้องไปจัดการธุระส่วนตัว ซึ่งวันนี้ดูเร็วเป็นพิเศษเพราะเวลาประชุมกระชั้นชิดเข้ามาแล้วนั่นเองแต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังให้ภูมิไปตามมารีญามาพบ เพราะเธอต้องส่งเขาไปทำงานเหมือนที่เคยทำ แม้จะอยากหลบหน้าเขาแต่มารีญาก็คิดว่าคงทำแบบนั้นได้ไม่ตลอด ทางเดียวคือทำตัวให้เป็นปกติและปล่อยให้เรื่องเมื่อคืนผ่านไปพร้อมน้ำตา“คุณวิชญ์เรียกฉันหรือคะ” มารีญาเอ่ยถามขึ้น ทั้งๆ ที่ตอนนี้เธอไม่กล้ามองหน้าวิชญ์ด้วยซ้ำ“ใช่...เพราะฉันกำลังจะไปทำงานแล้ว”“ค่ะ”“ค่ะก็เข้ามาใกล้ๆ สิ จะยืนห่างแบบนั้นทำไม” เมื่อได้ยินวิชญ์พูดแบบนี้ มารีญาจึงต้องขยับเข้าไปใกล้เขามากขึ้น และเมื่อมากพอวิชญ์ก็รวบตัวเธอเข้าไปกอดจากนั้นก็บดขยี้จูบลงมาปิดกั้นคำประท้วงจูบจากวิชญ์ทำให้มารีญาตกใจจนสตั้นไปหลายวินาที พอตั้งสติได้ก็ผลักไสชายหนุ่มให้ออกห่าง แต่ยิ่งเธอผลักเขาก็ยิ่งเพิ่มแรงจูบมา
“เราจะไปอยู่ที่ไหนกันพศิน” แก้วกาญที่จู่ๆ ก็ต้องหอบหิ้วเงินสดเครื่องเพชร รวมไปถึงข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวออกจากบ้านมาอย่างฉุกละหุกเพื่อหนีคนของวิชญ์เอ่ยถามขึ้น “ห้องเช่าครับ”“ห้องเช่าเหรอ ฉันอยู่ที่แบบนั้นไม่ได้หรอกนะ” คำปฏิเสธของแก้วกาญทำให้พศินที่หันหลังให้อยู่ถึงกับชักสีหน้าไม่พอใจออกมา“แต่ตอนนี้เราไม่มีทางเลือกแล้ว คุณไม่เห็นหรือไงว่าคนของคุณวิชญ์ตามหาเราทั้งคู่เจอ ป่านนี้คงป้วนเปี้ยนอยู่เต็มเวียงจันทน์ ขืนอยู่ในที่ที่หาได้ง่ายๆ พวกมันก็เจอเรากันพอดี”“แล้วคลีนิคของเราละ” แก้วกาญเอ่ยถามถึงคลีนิคเสริมความงามที่เธอลงเงินทุนไปอย่างมากมาย เพราะนั่นคือความหวังใหม่ของเธอนั่นเอง “เรื่องนั้นคุณไม่ต้องเป็นห่วง ผมจัดการเรียบร้อยแล้ว”“จัดการยังไง”“ก็ใช้เงินยัดคนท้องถิ่นให้เก็บเรื่องเราไว้เป็นความลับก่อน แต่คนพวกนั้นก็อยากได้เงินเพิ่ม ซึ่งผมเองก็เกรงใจที่ต้องมาขอคุณบ่อยๆ” พศินเล่นบนเศร้าเล่าความเท็จได้อย่างแนบเนียน ทั้งๆ ที่เวลาหน้าหน้าสิ่วหน้าขวาน แต่เขาก็ยังหาทางสูบเงินมาจากแก้วกาญจนได้ “ทำไมถึงพูดเหมือนเราเป็นคนอื่นคนไกลแบบนั้นละพศิน” พอเห็นพศินเศร้าแก้วกาญก็พลอยใจไม่ดีตามไปด้วย “ก
มือหนาที่อุ่นร้อนของวิชญ์เองก็กำลังฟอนเฟ้นบีบคลึงหน้าอกของมารีญาไปด้วย ยิ่งทำให้เธอตื่นตัวและความตื่นตัวนั้นก็ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นความอ่อนระทวย “ลืมตาขึ้นมองฉันสิ” วิชญ์ที่เวลานี้ละความสนใจจากกุหลาบดอกสวยของมารีญาชั่วคราว ขยับตัวขึ้นมากระซิบบอกเธอ ซึ่งมารีญาก็ทำตามราวกับถูกมนต์สะกดจากนั้นเขาก็มอบจูบให้เธออีกครั้งพร้อมกับบดเบียดสะโพกสอบเข้าหาอย่างตั้งใจ แกนกายของเขาที่เวลานี้ขยายใหญ่เสียดสีไปมาอยู่แถวๆ หน้าขาของ มารีญา บางจังหวะมันก็ขยับมาเสียดสีกับความสาวของเธออย่างเชื้อเชิญให้คล้อยตามเสียงครางกระหึ่มดังมาจากวิชญ์ นั่นทำให้มารีญารู้สึกแปลกใจเพราะไม่คิดว่าเขาจะทรมานเช่นเดียวกับเธอ แต่ความแปลกใจก็ถูกเปลี่ยนเป็นว่างเปล่า เมื่อถูกวิชญ์ล่อหลอกด้วยรสเสน่หาอันไม่คุ้นชินจนเตลิดวิชญ์จัดการถอดอันเดอร์แวร์ออกแล้วคว้ามือของมารีญาไว้ จากนั้นก็นำทางให้เธอได้สัมผัสกับแกนกายของเขาเป็นครั้งแรก มารีญาตกใจก่อนจะดึงมือตัวเองกลับแต่ก็ถูกวิชญ์รั้งเอาไว้แล้วเสียก่อน“ลองจับมันดูสิ...อืม” ท้ายประโยคคือเสียงครางของชายหนุ่ม วิชญ์เป่าลมออกปากหนักๆ อย่างทรมาน เพราะเพียงแค่ฝ่ามือนุ่มของมารีญาลูบไล้ไปมาบนแกนกายข
“อะ...อ้ายยย” แม้จะมีมือปิดปากอยู่ แต่เสียงครางของมารีญาก็ดังชัดเจน มันกระตุ้นอารมณ์ของวิชญ์จนลุกโชนได้ดี เขาจึงตอบแทนเธอด้วยแรงดูดจากปากหนักๆ จนมารีญาแอ่นอกขึ้นรับอย่างลืมตัว ใบหน้าสวยเหยเกทรมาน ภายในร่างกายปั่นป่วนจนยากจะอธิบายความร้อนจากเหล้าที่ดื่มเพื่อหวังมอมตัวเองกลับสู้ไม่ได้เมื่อเทียบกับความร้อนที่ถูกจุดโดยวิชญ์ ทั้งๆ ที่เธอมอมเหล้าตัวเองเพื่อไม่ให้รู้สึกอะไรแล้วแท้ๆ แต่ทำไมถึงไม่เป็นอย่างที่คิดสักนิด ทั้งรอยจูบทั้งรอยสัมผัสจากวิชญ์กลับตราตรึงอยู่ในความรู้สึก ตราตรึงอยู่ในทุกอณูของร่างกายและลมหายใจที่สะท้านขึ้นลงด้วยไฟปรารถนาที่ไม่คุ้นเคย แต่เธอกลับอยากได้รับมันอีกซ้ำแล้วซ้ำเล่า เธอกำลังถูกวิชญ์มอมเมาด้วยเหล้าที่เรียกว่าความปรารถนาดีกรีของมันร้อนแรงจนอะไรบนโลกใบนี้ก็เทียบเคียงไม่ได้ มันทำให้เธอพ่ายแพ้และโหยหาเขา ซึ่ง มารีญาก็สื่อออกมาจากแววตาที่เธอกำลังมองวิชญ์ ชายหนุ่มยิ้มมุมปากเพราะรู้ว่าเวลานี้มารีญาคงไม่แสดงอาการต่อต้านอะไรเขาได้อีก แต่ทว่าทำไมเขาถึงรู้สึกห่วงรวมถึงไม่อยากให้เธอหวาดกลัวสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นนั่นทำให้วิชญ์เปลี่ยนท่าทีมาอ่อนโยนกับมารีญามากขึ้น แต่ดูเหมือนจ
เขาไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่มหรือเสนอตัวก่อน หากเหตุการณ์จบลงก็คงถือว่าเป็นผู้ถูกกระทำจากมารีญามากกว่า ฉะนั้นเธอควรต้องรับผิดชอบเขาไม่ใช่ให้เขาไปรับผิดชอบเธอวิชญ์พลิกตัวขึ้นไปอยู่ด้านบนแล้วกดร่างบางที่สั่นสะท้านของมารีญาให้อยู่ในอ้อมกอด ชายหนุ่มจัดการถอดเสื้อนอนออกแล้วโยนไปอีกทาง ปล่อยให้มารีญาตะลึงแล้วเพ่งมองรูปร่างท่อนบนอยู่ไม่กี่วินาทีก็โผเข้าไปหาเธอและมอบจูบให้อีกครั้ง บางจังหวะที่ความกลัวก่อตัว มารีญาก็ผลักไสวิชญ์บ้างด้วยการใช้กำปั้นน้อยๆ ทุบแผงอกของชายหนุ่มสลับออกแรงผลักให้เขาออกห่าง แต่กลับถูกชายหนุ่มมอบจูบให้อย่างร้อนแรงจนเธอแทบหายใจไม่ทัน ไหนจะมือไม้ของเขาทั้งสองข้างที่ป้วนเปี้ยนลูบไล้ร่างกายเธออย่างเป็นเจ้าของ“ขะ...คุณวิชญ์”“อะไร” น้ำเสียงแหบพร่าด้วยอารมณ์ปรารถนาของวิชญ์เอ่ยดังขึ้น ซึ่งคนที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้ได้ก็คือมารีญา “คุณยังไม่รับปากฉันว่าจะปล่อยพี่แก้วไป”“พรุ่งนี้ฉันจะรับปาก” เอ่ยบอกเสร็จวิชญ์ก็ซุกไซ้กึ่งปากกึ่งจมูกลงไปตรงซอกคอของมารีญา สัมผัสจากเขาทำให้เธอขนลุกซู่อย่างเสียวซ่าน แต่ก็พยายามใจแข็งผลักไสชายหนุ่มออก เพราะมองว่าวิชญ์ไม่ทำตามที่พูด “ถ้างั้นฉันจะกลับห้อง แล
“เธอไม่น่าจะถามฉันแค่คำถามเดียวหรอกมั้ง...ใช่ไหม” มารีญาไม่ตอบอะไร เธอนั่งจ้องแก้วบรั่นดีอยู่นาน ก่อนจะคว้ามาถือไว้แล้วเริ่ม...ดื่มรสชาติของมันทั้งคมและบาดคอไม่ได้อร่อยสักนิด คิ้วสวยขมวดกันเป็นปมก่อนจะกลืนบรั่นดีรสชาติไม่ได้เรื่องลงคอ ไม่เข้าใจว่าใครต่อใครทำไมถึงชอบดื่มมันนัก เพราะนอกจากรสชาติจะแย่แล้วยังส่งผลเสียต่อสุขภาพอีก แต่ถึงจะไม่ชอบแต่มารีญาก็ฝืนดื่มไปจนหมดแก้ว นั่นทำให้เธอรู้สึกร้อนไปทั้งตัว“ฉันดื่มหมดแล้ว คราวนี้คุณจะตอบคำถามมาได้หรือยังว่าตอนนี้พี่แก้วอยู่ที่ไหน”“เวียงจันทน์”“ก็อยู่ที่เดิมที่คุณเคยบอกฉันนี่”“ใช่...แต่คราวนี้ฉันรู้ลึกกว่านั้น รู้ว่าพี่สาวอยู่กบกานอยู่ที่บ้านหลังไหน ซอยอะไร เข้าออกบ้านกี่โมง แต่ละวันไปที่ไหนมาบ้าง” วิชญ์ยิ้มพอใจกับระดับความจำของมารีญา ก่อนจะพูดเกินจริงไปนิดๆ หน่อยๆ เพื่อบีบคั้นเธอ ก่อนจะยกแก้วบรั่นดีขึ้นดื่มด้วยท่าทางสบายๆ ในขณะที่มารีญาเองก็กำลังตกใจกับสิ่งที่ได้รู้และเธอมีคำถามจะถามเขาต่อ จึงหยิบขวดบรั่นดีมารินใส่แก้วในปริมาณที่วิชญ์รินให้ดู จากนั้นก็ดื่มด้วยท่าทางไม่ชอบทันที ซึ่งพอวางแก้วลงคำถามที่สองก็ออกจากปากเธอ“ตอนนี้พี่แก้วยังส
“ตอนนี้มันพาคุณแก้วไปซ่อนตัวที่อื่นแล้วครับ” นั่นเพราะกมลตามไปจนถึงบ้านเช่าของทั้งสองคน แต่ทว่ากลับเจอเพียงความว่างเปล่า “บัดซบ”“ผมขอโทษครับเจ้านาย” กมลเอ่ยขอโทษตรงๆ เพราะเขาก็อยากทำผลงานให้เจ้านายพอใจเช่นเดียวกัน แต่ความพลาดแค่นิดเดียวกลับทำให้อีกฝ่ายรู้ตัว “ตามหาสองคนนั้นให้พบ ถ้าไม่พบพวกนายก็อย่ากลับมาให้ฉันเห็นหน้าอีก ไป”“ครับ” เอ่ยรับคำเสร็จกมลก็วางสายไปแล้วแยกย้ายกันไปทำงาน ในขณะที่วิชญ์ก็หัวเสียจนต้องหาบหรั่นดีมาดื่มดับอารมณ์โกรธ ชายหนุ่มกระดกบรั่นดีชั้นเลิศที่สั่งนำเข้ามาจากฝรั่งเศสลงคอราวกับนั่นเป็นน้ำเปล่า แม้มันจะบาดภายในลำคอจนหน้ายู่ แต่ทว่ากลับไม่ได้ทำให้เขาหยุดดื่มแต่อย่างใดจู่ๆ ใบหน้าของมารีญาก็ผุดเข้ามาในความคิด ก่อนที่วิชญ์จะเดินถือแก้วบรั่นดีทรงสวยตรงไปยังห้องนอนของเธอ ดูเหมือนเวลานี้ความไม่พอใจทำลายเหตุผลที่เคยมีไปอย่างสิ้นเชิง ก๊อก ก๊อก ก๊อก“เปิดประตู” เจ้าของเพนต์เฮาส์เอ่ยบอกคนที่อยู่ข้างในเสียงดังลั่น ส่งผลให้มารีญาที่ยังไม่นอนเกิดอาการลนลาน สองจิตสองใจว่าจะแกล้งหลับหรือออกไปเปิดประตูให้วิชญ์ สุดท้ายก็เลือกอย่างหลัง“คุณวิชญ์”“นอนหรือยัง”“ยังค่ะ”“งั้นออ
“ของมันร้อน สุดท้ายก็ต้องเอาออกมาขายกินสินะ” วิชญ์ยิ้มเหยียดอย่างนึกสมเพชแก้วกาญ เพราะไม่ทันไรก็ขายเครื่องเพชรที่เขาซื้อให้กินเสียแล้ว“คนของเราที่เวียงจันทน์สืบที่อยู่ของสองนั้นเจอหรือยัง”“ยังครับเจ้านาย แต่ผมขอเวลาครึ่งเดือนน่าจะได้ข่าวครับ”“ฉันให้เวลาตามที่นายขอกมล หลังจากนี้ถ้ามีอะไรคืบหน้า รายงานตรงกับฉันได้เลย” แม้จะอยากรู้ที่อยู่ของแก้วกาญและพศินเดี๋ยวนี้ แต่วิชญ์ก็เข้าใจการทำงานว่าทุกอย่างมันมีขั้นตอน ต่อให้เขาจะใจร้อนแค่ไหนก็คงต้องรอสักหน่อย “ครับเจ้านาย” เอ่ยรับคำเสร็จกมลก็วางสายแล้วไปทำงานของตัวเองต่อ ในขณะที่วิชญ์นั่งนิ่งๆ เพราะกำลังใช้ความคิดว่าเขาจะทำยังให้แก้วกาญโผล่หางออกมาเพราะหลังจากนี้เขาจะทำให้เธอคลานกลับมาขอความเมตตา หลังจากนี้เขาจะทำให้เธอเป็นฝ่ายตามหาตัวเขากลับบ้าง แค่คิดก็รู้สึกสนุกอย่างบอกไม่ถูก จากนั้นก็เดินไปยังห้องนอนของมารีญาก๊อก ก๊อก ก๊อก“เปิดประตูหน่อย” น้ำเสียงห้วนๆ ของเจ้าของเพนต์เฮาส์เอ่ยบอก นั่นทำให้คนที่อยู่ในห้องแม่บ้านต้องออกมาเปิดประตูให้อย่างเลี่ยงไม่ได้ “คุณวิชญ์”“ฉันมีข่าวพี่สาวเธอมาบอก”“ข่าวพี่แก้วหรือคะ” ประโยคที่ได้ยินสร้างความดีใจ
“ได้ข่าวที่ทำให้ฉันอารมณ์ดีขึ้นหรือยังกมล” เสียงทุ้มที่แฝงไว้ซึ่งอำนาจของวิชญ์เอ่ยถามกับลูกน้องที่เขาส่งไปตามสืบหาที่อยู่ของแก้วกาญ เพราะวันนี้ครบกำหนดเส้นตายที่เขาให้ไว้“ครับ”“ว่ามาสิ” คำตอบจากกมลทำให้อารมณ์หม่นๆ จากเหตุการณ์เมื่อคืนของวิชญ์ดีขึ้นเล็กน้อย ตั้งแต่ใช้กำลังปล้นจูบจากมารีญามาครองเขาก็รู้สึกไม่สบายใจแปลกๆ นั่นเพราะชีวิตเขาไม่เคยต้องปล้นจูบหรืออะไรทำนองนี้จากผู้หญิงคนไหนมาก่อน แต่ในเมื่อเธอพยศเขาก็ต้องปราม มันก็ถูกต้องแล้ว “ผมตามสืบจนพบว่าจุดสุดท้ายที่คุณแก้วกับพศินอยู่คือหนองคายครับเจ้านาย”“หนองคายเหรอ”“ครับ...แถวๆ สะพานมิตรภาพไทย-ลาว ซึ่งเป็นจุดที่สามารถข้ามไปเวียงจันทน์ได้ ถ้าผมเดาไม่ผิดตอนนี้ทั้งสองคนคงข้ามฝั่งไปแล้ว”“ฉลาดหาที่ซ่อนตัว นายส่งคนส่วนหนึ่งข้ามไปสืบข่าวที่ฝั่งลาวดูหน่อย” วิชญ์ยิ้มมุมปากออกมาอย่างพอใจกับข่าวที่ได้รู้ แต่นัยต์ตากลับดูแข็งกระด้างจากไฟของความโกรธเกรี้ยวที่ถูกคนรักหักหลัง“ครับเจ้านาย”“พวกนายทำดีมาก ส่วนนั่นคือเงินค่าเหนื่อยบางส่วน รับไปสิ” เมื่อวิชญ์เอ่ยบอกเสร็จ ภูมิก็ยื่นซองสีน้ำตาลที่ภายในมีเงินสดปึกใหญ่ให้กมลเป็นค่าเหนื่อยพิเศษ “ขอบค
ความรัก มักจะก่อให้เกิดความสุข ความยินดี หากรักนั้นได้เจอคนดีๆ ที่ศีลเสมอกัน คอยเกื้อกูลกัน แต่บางครั้งความรักที่อยู่บนพื้นฐานของความไว้เนื้อเชื่อใจกลับได้รับสิ่งตอบแทนเป็นความเจ็บปวด จนเปลี่ยนความรักให้เป็นความโกรธเกรี้ยว ความอาฆาตที่ถูกคนรักแทงข้างหลัง สิ่งเหล่านี้มักจะเกิดขึ้นกับมนุษย์เสมอๆ ไม่ว่าจะยากดีมีจนต่างก็ต้องเจอกับบททดสอบเหล่านี้ หนึ่งในนั้นคือนักธุรกิจหนุ่มที่ชื่อว่าวิชญ์ ในโลกของธุรกิจเขาไม่มีคำว่าแพ้ แต่เมื่อหลายวันก่อนเขากลับต้องมาแพ้ให้กับผู้หญิงใกล้ตัว ทั้งๆ ที่เขาพยายามให้โอกาสหวังว่าเธอจะปรับปรุงตัว แต่ทว่าผลที่ได้มากลับยิ่งเลวร้าย การถูกหักหลังจากผู้หญิงที่เขามั่นใจว่ารักจนวาดฝันอนาคตไว้ร่วมกัน คนที่เขาได้มอบความรักให้เธอและดูแลเธออย่างดีมาตลอด อยากได้อะไรแค่เอ่ยปากเขาก็หามาให้ แต่สุดท้ายเธอกลับเปลี่ยนความรักที่เขามีเป็นความแค้นที่ไม่มีวันให้อภัย จึงเจ็บเสียยิ่งกว่าเจ็บ“งานที่สั่งไปถึงไหนแล้ว” น้ำเสียงห้วนๆ ของวิชญ์ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ทำงานแต่ทว่าหันหลังให้ลูกน้อง เอ่ยถามความคืบหน้าในงานที่เขาได้สั่งออกไปเมื่อหลายวันก่อน วันที่เขาพบเจอกับเรื่องที่ไม่คาดคิดว่าจะ...
Komen