เมื่อพี่น้องสองสาวต่างมารดา มีปัญหาที่ต้องปะทะปะทังกันตลอด ความที่ต่างคนต่างไม่ยอมกัน การเอาชนะคะคานระหว่างเธอทั้งสอง จึงเริ่มขึ้น โดยมี “เขา” เป็นหมากบนกระดาน ให้เธอทั้งสองใช้ต่อสู้ชิงไหวชิงพริบ ทว่าปัญหามิได้อยู่ที่เธอทั้งสอง ว่าใครจะฉลาดกว่า ใครจะเหนือกว่า ใครจะแพ้ และใครจะชนะ แต่ปัญหามันอยู่ที่ “หมาก” บนกระดานนั่นต่างหาก! ยิ่งเมื่อเธอทั้งสองนั้นอ่อนต่อโลก อ่อนต่อประสบการณ์ชีวิต และที่สำคัญ อ่อนต่อความรัก เธอจึงไม่รู้ว่า พลานุภาพแห่งความรักนั้น มันรุนแรงและอำมหิตกว่าพลานุภาพแห่งความแค้นยิ่งนัก!
Lihat lebih banyak“พูดมีเลศนัย”“ผมได้กลับเข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ ตำแหน่งที่โรงแรม...”อานิกออกชื่อโรงแรมใหญ่ริมแม่น้ำแห่งหนึ่งให้อุรวีทำตาโต แล้วหล่อนก็มีกิริยายินดีจนเห็นได้ชัด“ดีซิ ที่นั่นมีห้องอาหารที่อาหารอร่อยเยอะ”“เป็นงั้นไป ผมนึกว่าเพราะผมได้เข้ากรุงเทพฯ เสียอีก ที่ทำให้วีดีใจ”เขาตัดพ้อ แล้วหลังจากนั้นระหว่างรออาหารมาเสิร์ฟ ก็เป็นการคุยกันเรื่องสารทุกข์สุกดิบต่างๆ แต่ก่อนจะได้อิ่มกับอาหาร อุรวีได้อิ่มกับคำหวานจากปากของอานิก จนหัวใจของหล่อนพลอยเบิกบานไปหมด“ไปดิ้นต่อหน่อยดีไหม...จะได้ขยับแข้งขยับขา...ไม่อ้วนดีด้วย”“ขอโทรฯ กลับบ้านก่อนนะ...เดี๋ยวคุณยายกับคุณป้าจะเป็นห่วง”อานิกขอตัวไปเข้าห้องน้ำเมื่ออุรวีแยกไปโทรศัพท์ หล่อนแจ้งข่าวให้คุณยายได้รู้ก่อนว่าจะไปไหน แล้วจะกลับบ้านเวลาประมาณเท่าใด เผื่อว่าท่านจะได้ไม่ห่วง พอวางโทรศัพท์ลงหันกลับมา...ก็เกือบจะชนกับผู้ชายคนหนึ่งที่เดินเข้ามาด้วยท่าทางเหมือนจะใช้โทรศัพท์ด้วยเหมือนกัน“ขอโทษครับ”ได้ยินน้ำเสียงของเขา แต่ยังมองไม่เห็นหน้า อุรวีได้แต่อุทานอยู่ในใจว่า ผู้ชายคนนี้สูงจัง จนต้องแหงนหน้าขึ้นมอง แล้วพอเห็นดวงหน้านั้น หล่อนก็ไม่ได้แสดงความประหลาดใจ
“ผู้ชายมีอดีตไม่สะอาดนัก ไม่ไหวล่ะค่ะ ขี้เกียจเอามาให้คนเขาพูดถึงลับหลัง เรื่องของนายคนนี้ดิฉันได้ยินมาหนาหูนัก สารพัดเลยที่ฟังแทบไม่ได้ โดยเฉพาะเรื่องผู้หญิง...”“แต่ยายอ้นไม่ใช่คนโง่”“ค่ะ แกไม่โง่ แต่แกไม่ค่อยระมัดระวังตัวเอง คบหากับผู้ชายคนไหน แกก็วางความสนิทสนมลงไปหมด คนไม่เข้าใจก็นึกว่าแกเป็นสาวเปรี้ยวจี๊ด เล่นง่าย ทำให้ชื่อเสียงของแกพลอยเหม็นเน่า ราคาตกหมด”“ถ้าตัวแกไม่เสื่อมเสียซะอย่างก็ช่างเถอะ ผมไม่ถือสาเรื่องที่แกเป็นสาวเปรี้ยว...ดีกว่ามีลูกสาวหงิมๆ นะ ผมไม่ชอบคนหงิมๆ ซึมๆ ชอบอย่างที่คล่องแคล่วปรู๊ดปร๊าดมากกว่า”“แต่นายอัมพุก็มีเมียแล้วไม่ใช่หรือคะ”“ถ้าเมียมี แล้วทำไมเมียไม่มาด้วย”“คุณก็...พูดเป็นเล่นไปได้ ดิฉันก็หนักใจนะคะ ไม่อยากให้ยายอ้นไปยุ่งเกี่ยวกับผัวใคร...” เธอสะดุดไปเล็กน้อย ก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงปร่าๆ“กลัวจะมีคนพูดกันได้ว่าแม่ลูกซ้ำรอยกัน คือชอบผัวเขา...”คุณอาร์มดึงร่างของภรรยาเข้ามาใกล้ สวมกอดเธอเอาไว้หลวมๆ ในวงแขน“ตอนนี้ไม่มีปัญหาอะไรนี่นา คุณเป็นเมียเดียวของผม...มีทะเบียนสมรสถูกต้อง แล้วเรื่องอ้น...ผมไม่เชื่อว่าแกจะทำอะไรร้ายๆ แบบนั้น ถ้าอัมพุมีเมียเป็นต
“ไม่สบายหรือคะ”น้ำเสียงอ่อนหวานเต็มเปี่ยมไปด้วยความห่วงใยนั้น ทำให้เขาปรือเปลือกตาขึ้นมอง แล้วก็เห็นดวงหน้ากลมอิ่มเปล่งปลั่งแบบคนที่มีความสุขสมบูรณ์กับชีวิตเต็มเปี่ยม มืออูมหนาไปด้วยเนื้อแตะอังที่หน้าผากของเขา“ตัวไม่ร้อนนี่คะ ทำไมท่าทางเหมือนหมดอาลัย...”คุณนพมาศนั่งลง ทำให้เขาพลอยขยับตัวขึ้นมานั่งให้ดูดีขึ้น ยกมือลูบหน้าตัวเองไล่เรื่อยลงมาจากหน้าผากจนกระทั่งถึงปลายคาง ก่อนจะลดมือลง“รู้สึกเพลียๆ”“เรื่องงานอีกซิคะ”“วันนี้ผมเจอยายวี...”“อ้อ...”เธอพึมพำเบาๆ รับรู้เงียบๆคุณนพมาศไม่เคยแสดงท่าทีปราศจากความเป็นมิตรกับลูกเลี้ยง แต่ในเวลาเดียวกัน เธอก็ไม่อาจจะทำตัวเป็นเสมือนแม่ของอุรวีได้สนิทใจ เพราะตั้งแต่เยาว์วัยแล้วที่อุรวีมีท่าทางเฉยชาแบบคนแปลกหน้ามาตลอด“ไปที่บริษัทนั่นเอง...”คุณอาร์มมีกิจการค้าอยู่หลายแห่ง เขาสร้างตัวเป็นปึกแผ่นได้ในช่วงชีวิตเดียว และกิจการหนึ่งที่คุณนพมาศพยายามลืมๆ ว่าไม่มีก็คือบริษัทออกแบบนั่น เพราะอุรวีทำงานที่นั่น เธอสดับตรับฟังความสามารถของอุรวีทีไรก็ยอกแปลบอยู่ในอก เพราะอายุรุ่นราวคราวเดียวกันกับอันธิกา แต่อุรวีได้เรื่องได้ราวมากกว่าอันธิกาไม่ได้เป็นโล้เป
“ไหนว่างานยุ่ง”“อยู่ๆ หัวก็มึนตื้อเฉยๆ สงสัยจะเพราะอีตาอัมพุนั่นแหละ...ตะกี้วีก็เจอที่หน้าห้อง ท่าทางแกขวางโลกดีนะ...อย่างนี้แหละมันน่าจะทำให้หัวปั่นซะเลย”“จะทำอะไร”“อ้าว...” หล่อนร้องเสียงแหลม ตาพราวระยับ “คนไม่ชอบหน้ากัน เขาทำยังไงต่อกันล่ะคะ”“ทุกทีเห็นวีเป็นคนมีมิตรจิตกับคนมาใหม่”“กับคนนี้เห็นจะต้องยกเว้นกระมังคะ วีเพิ่งเชื่อเดี๋ยวนี้เองแหละว่าทำไมที่บางคนเขาถึงพูดว่า ถ้าหากไม่ชอบหน้าก็ไม่ต้องไปหาเหตุผล ไม่ชอบก็คือไม่ชอบ พอเห็นหน้าแล้วก็ไม่ชอบเลย”“เขาหล่อนะ” สุนิสาแกล้งท้วงอุรวีทำหน้าเบ้“หล่อก็หล่อซิ”“ทุกทีเห็นว่าเป็นหนุ่มหล่อ เธอก็เนื้อเต้นแล้ว”“เก็บหมอนี่ไว้เถอะค่ะ วีไม่อยากจะยุ่งด้วย...แต่จะให้อยู่เฉยๆ ก็คงจะไม่ยอมเหมือนกัน ขอให้ได้ทำให้หัวปั่นก่อนเถอะ...”“อย่าลืมนะว่าเขาเป็นคนมีฝีมือ...อย่าทำให้เขาอยู่ไม่ได้ ดูเหมือนว่าจะต้องจ่ายแพงมาก ถึงได้ตัวเขามา”อุรวีเบะปากออกนิดๆ“เงินน่ะ คุณสา...ถ้าใจถึงซะอย่าง ทุ่มเข้าไป หน้าไหนมันก็สยบทั้งนั้น จะเอาดีเลิศกว่าหมอนี่ก็คงจะมี แล้วกะแค่ช่างถ่ายรูป...มือแน่มาจากไหนกันเชียว มีอีกถมเถไป”“ไปถามลูกสาวท่านประธานใหญ่แล้วกัน”“ต๊าย...
โทรศัพท์กรีดเสียงระรัวขึ้น ในท่ามกลางความเงียบ เสียงนั่นก็ทำให้ถึงกับสะดุ้งได้เหมือนกัน อุรวีเอื้อมมือแหวกๆ กองกระดาษและกองผ้าที่สุมอยู่บนโต๊ะเบื้องหน้าออกไป คว้ากระบอกโทรศัพท์ขึ้นมาวางแนบไว้กับซอกคอ กรอกเสียงลงไป มือก็ร่างแบบเสื้อต่ออย่างขะมักเขม้น“ค่ะ...วีพูดค่ะ”เสียงปลายสายอู้อี้จนเกือบจะไม่ได้ยิน “ไม่ได้ยินเลยค่ะ” หล่อนบอกไป “ค่ะ ได้ยินแล้ว...อ้าว...นิก หรอกรึ...ถึงว่าซิเสียงคุ้นๆ”หล่อนหัวเราะออกมา วางดินสอลง เอนหลังพิงกับพนัก...“ลงมากรุงเทพฯ ตั้งแต่เมื่อไหร่ ว่าไงนะ กินข้าวเย็นนี้เหรอ ได้ซิ ได้...แต่ต้องเย็นๆ มากหน่อยนะ...งานยุ่ง นี่ก็งานเต็มโต๊ะเลย จะมารับไหม...จะให้ไปเองเหรอ ที่ไหน...จ้ะ...จ้ะ...”หล่อนรับรู้ในที่นัดหมายแล้วก็ก้มหน้าทำงานต่อไปเรื่อยๆ นี่เพิ่งจะสิบเอ็ดโมงเท่านั้นเอง“วี...”ประตูห้องเปิดเข้ามา แล้วเจ้าของเสียงก็เดินเข้ามาอย่างกระฉับกระเฉง เป็นหญิงสาวใหญ่ อายุสี่สิบเศษๆ แต่ยังทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ“เห็นช่างภาพคนใหม่ของเราหรือยัง เขาเพิ่งมารับงานถ่ายแบบคราวนี้เอง โอ้โฮ...พี่งี้เห็นแล้วน้ำลายจะหกซะให้ได้ หล่อเฟี้ยวเลย พวกสาวๆ กำลังกรี๊ดกร๊าดกันใหญ่...”อุร
โทรศัพท์กรีดเสียงระรัวขึ้น ในท่ามกลางความเงียบ เสียงนั่นก็ทำให้ถึงกับสะดุ้งได้เหมือนกัน อุรวีเอื้อมมือแหวกๆ กองกระดาษและกองผ้าที่สุมอยู่บนโต๊ะเบื้องหน้าออกไป คว้ากระบอกโทรศัพท์ขึ้นมาวางแนบไว้กับซอกคอ กรอกเสียงลงไป มือก็ร่างแบบเสื้อต่ออย่างขะมักเขม้น“ค่ะ...วีพูดค่ะ”เสียงปลายสายอู้อี้จนเกือบจะไม่ได้ยิน “ไม่ได้ยินเลยค่ะ” หล่อนบอกไป “ค่ะ ได้ยินแล้ว...อ้าว...นิก หรอกรึ...ถึงว่าซิเสียงคุ้นๆ”หล่อนหัวเราะออกมา วางดินสอลง เอนหลังพิงกับพนัก...“ลงมากรุงเทพฯ ตั้งแต่เมื่อไหร่ ว่าไงนะ กินข้าวเย็นนี้เหรอ ได้ซิ ได้...แต่ต้องเย็นๆ มากหน่อยนะ...งานยุ่ง นี่ก็งานเต็มโต๊ะเลย จะมารับไหม...จะให้ไปเองเหรอ ที่ไหน...จ้ะ...จ้ะ...”หล่อนรับรู้ในที่นัดหมายแล้วก็ก้มหน้าทำงานต่อไปเรื่อยๆ นี่เพิ่งจะสิบเอ็ดโมงเท่านั้นเอง“วี...”ประตูห้องเปิดเข้ามา แล้วเจ้าของเสียงก็เดินเข้ามาอย่างกระฉับกระเฉง เป็นหญิงสาวใหญ่ อายุสี่สิบเศษๆ แต่ยังทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ“เห็นช่างภาพคนใหม่ของเราหรือยัง เขาเพิ่งมารับงานถ่ายแบบคราวนี้เอง โอ้โฮ...พี่งี้เห็นแล้วน้ำลายจะหกซะให้ได้ หล่อเฟี้ยวเลย พวกสาวๆ กำลังกรี๊ดกร๊าดกันใหญ่...”อุร...
Komen