"นี่หนูนาหรือม้าดีดกระโหลก" "ไม่ได้ดีดแค่กระโหลกนะ ฉันดีดไข่ตำรวจแตกได้ด้วย อยากลองไหมล่ะคุณศาลาวัด"
ดูเพิ่มเติมหนูนาเดินตัวลีบตามหลังแม่ต้อย ๆ ดวงหน้างดงามที่ใครเห็นเป็นต้องตกหลุมเสน่ห์ในยามนี้ดูเจี๊ยมเจี้ยมไร้ความดื้อด้านเหมือนเคย“แม่จ๋า อย่าตีน้องเลยนะ”“พ่อช้างไม่ต้องขอร้องแทนน้อง อย่างไรวันนี้หนูนาก็ต้องถูกทำโทษ”“แต่ว่า..”“พี่ช้าง ไม่เป็นไร หนูนาทำผิด คนทำผิดก็ต้องถูกตี”ราชันเบือนหน้าหนี ตัวเขานั้นไม่ใจกล้าพอให้ลงไม้ลงมือกับลูก หากทำผิดอย่างมากก็แค่ตักเตือน แต่ใบบัวนั้นไม่ใช่ ถ้าเป็นความผิดเพียงเล็กน้อยเหมือนเคย อย่างมากก็แค่ให้อดข้าวเย็นหรือไม่ก็กักบริเวณสักวันสองวัน แต่ครานี้ความผิดของหนูนาใหญ่หลวงเกินไป ใบบัวไม่อาจปล่อยให้เลยตามเลยได้“ปื๊ด ไปหยิบหวายมาให้แม่”หนุ่มน้อยเจ้าของชื่อปื๊ดน้ำตาไหลพราก ๆ ทั้งกลัวแม่ใบบัว ทั้งสงสารพี่หนูนาจับใจ โทษครั้งนี้ปื๊ดโดนกักบริเวณ และหนูนาต้องถูกตี แต่แม่ใบบัวไม่เคยลงโทษพวกเราหนักแบบนี้มาก่อน ต่อให้ดื้อด้านแค่ไหนก็ไม่เคยตีลูกสักแปะ“ตะ แต่ว่า แม่ใบบัวจ๋า”“ปื๊ด แม่บอกให้ไปหยิบหวายมาให้แม่”“แม่ใบบัว..”“ไปเถอะปื๊ด”หนูนาพยักหน้าเบา ๆ หนุ่มน้อยยกมือขึ้นปาดน้ำตาป้อย ๆ ก่อนจะคลานไปที่ห้องเก็บของ หยิบเอาหวายที่ไม่เคยถูกใช้งานเลยสักครั้งออกมา ปื๊ดยื่นหว
เรือนหลังใหญ่เกิดความวุ่นวายขึ้นเมื่อลูกสาวคนเล็กหายออกจากบ้านไปทั้งคืนจรดเช้า เท่านั้นไม่พอ ลูกบุญธรรมที่สนิทกับหนูนายังคลานเข่าเข้ามาหาทั้งน้ำตา แล้วสารภาพออกมาตรง ๆ ว่าเมื่อคืนทั้งคู่พากันไปเที่ยวในเมืองโดยที่ไม่ได้บอกกล่าวใครและที่เลวร้ายกว่านั้น หนูนาหายตัวไปทั้ง ๆ ที่โดนยาปลุกกำหนัดจนแทบสิ้นสติ“พ่อราชันจ๋า แม่ใบบัวจ๋า พี่ช้างจ๋า ปื๊ดขอโทษ ฮือ ปื๊ดผิดไปแล้ว ฮึก ปื๊ดพยายามห้ามแล้ว แต่.. แต่ว่า ฮึก”ราชันพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ ลูกของเขา เขาเลี้ยงมากับมือ เหตุใดจะไม่รู้ว่าหนูนานั้นดื้อด้านเพียงใดหนูนาเป็นเด็กที่ดื้อเกินหญิง เพราะเป็นทั้งลูกสาวและลูกคนเล็กจึงถูกเลี้ยงดูอย่างตามใจทั้งจากแม่และพี่ชาย ไม่ว่าจะอยากได้อะไรก็ต้องได้ ราชันเองก็ไม่กล้าต่อว่าใคร เพราะเขาเองก็ตามใจหนูนาไม่น้อย“ทำอย่างไรดี”ใบบัวสะอื้นไห้กับอกผัวโดยที่มีราชันคอยลูบหลังปลอบประโลม เธอจะไม่กังวลเลยหากหนูนามีสติครบถ้วน เพราะฝีมือการต่อยตีของลูกสาวเป็นรองเพียงลูกชายเท่านั้น แต่ในยามที่ถูกยานรกครอบงำสติ หนูนาไม่มีทางต้านทานมันได้ เธอได้แต่ภาวนาให้ลูกสาวโชคดี ไม่ถูกย่ำยีจนย่อยยับเพราะถ้าหากเป็นเช่นนั้นจริง.. ใบบั
เรื่องทั้งหมดมันเกิดขึ้นในค่ำคืนนั้น..“พี่หนูนา แอบเข้าเมืองแบบนี้ไม่กลัวแม่ใบบัวดุหรือ”“เอ๊ะ!” คนถูกถามเท้าสะเอว ตาเขียวปั๊ด “ถ้าเอ็งกลัวนักก็กลับไปไอ้ปื๊ด เสียเวลาข้า”“โธ่พี่หนูนา ปื๊ดก็แค่เป็นห่วง” ปื๊ดหัวหด ไม่กล้าต่อปากต่อคำเพราะกลัวถูกเบิ๊ดกะโหลกยุบ ไม่ก็ถูกทิ้งไว้ข้างทางหนูนาชี้หน้าน้องชายจอมขลาด ปื๊ดเกิดช้ากว่าเธอแค่ปีเดียว เป็นเด็กผู้ชายตัวเล็ก และมีดวงหน้าหน้าอ่อนหวานเหมือนเด็กผู้หญิง หนูนาไปเจอปื๊ดถูกเด็กผู้ชายรุมรังแกเพราะรูปร่างอ้อนแอ้น เพราะความเป็นคนดีในส่วนลึกจึงช่วยมันไว้ ไม่คิดว่าเลยว่ามันจะซึ้งใจจนผันตัวมาเป็นลูกน้องเดินตามตูดต้อย ๆ แบบนี้แม่ใบบัวกับพ่อราชันเห็นเข้าก็เอ็นดู ทั้งสองรับปื๊ดเป็นลูกบุญธรรม หลังจากนั้นหนูนาก็มีน้องชายเพิ่มเข้ามา“แม่ไม่รู้หรอกถ้าเอ็งไม่บอก ป่านนี้แม่นอนไปแล้ว กว่าจะตื่นก็คงตีสี่ตีห้า เวลานั้นเอ็งกับข้าคงกลับไปนอนตีพุงแล้ว”“ปื๊ดไม่บอกหรอกจ้ะ”เพราะถ้าขืนบอก ก็คงไม่แคล้วถูกทำโทษที่หนีเที่ยวแบบนี้ แม่ใบบัวบอกเสมอว่าถ้าหากทำผิดด้วยกันก็ต้องโดนทั้งคู่ ไม่สนว่าใครเริ่มใครตาม ใครลูกในไส้ใครลูกบุญธรรม หากทำผิดจะโดนลงโทษอย่างเท่าเทียมข้อหา
“อื้ม..”ร่างขาวผ่องเล็กกะทัดรัด ที่มีผ้าห่มคลุมไว้อย่างหมิ่นเหม่ขยับกายอย่างเกียจคร้าน คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันเพราะแสบตาจากแสงแดดที่สาดส่องเข้ามา นึกสงสัยว่าปื๊ดมันเปิดหน้าต่างทำไม เธอยังนอนไม่อิ่มเลย“ปื๊ด ทำไมไม่ปิดหน้าต่าง ไปปิดเดี๋ยวนี้ ข้าจะนอน”เสียงแหบแห้งร้องสั่งน้องชาย ที่ปกติมักจะปูฟูกนอนข้างเตียงและตื่นก่อนเสมอผ่านไปสักพักหน้าต่างก็ยังไม่ถูกปิดลง ไม่มีแม้แต่เสียงขยับกายจากคนที่นอนร่วมห้อง ทำให้คนที่นอนไม่เต็มอิ่มเริ่มหงุดหงิด“ไอ้ปื๊ด!”“อืม”“บอกให้ไปปิดหน้าต่าง!”“ปิดเองสิ”เสียงของปื๊ดใกล้ใบหูจนรู้สึกจั๊กกะจี้ ไม่ทันได้ตั้งข้อสงสัยว่าทำไมคนที่มีศักดิ์เป็นน้องชายถึงได้ขึ้นมานอนข้าง ๆ กัน เอวคอดก็ถูกรวบกอดแนบแน่น“เฮ้ย!!!”ผลั่ก!โครม!!“อั่ก!”ร่างน้อยผุดลุกขึ้นนั่ง ขาเรียวกระตุกไปก่อนความคิด ฝ่าเท้าเล็ก ๆ กระทุ้งถีบคนที่บังอาจขึ้นมานอนบนเตียงเดียวกัน ทั้งยังบังอาจมาโอบกอดอย่างอุกอาจด้วยความโมโห“ขึ้นมานอนเตียงข้าทำไมวะไอ้ปื๊ด!!” ดวงตากลมเบิกกว้างเมื่อรู้สึกถึงความวูบโหวงแปลก ๆ เมื่อก้มมองดูก็รู้ถึงสาเหตุว่าทำไม.. "ไอ้ปื๊ด.. นะ นี่ นี่เอ็ง..”หัวใจดวงน้อยกระตุกวูบ ความผิ
“อื้ม..”ร่างขาวผ่องเล็กกะทัดรัด ที่มีผ้าห่มคลุมไว้อย่างหมิ่นเหม่ขยับกายอย่างเกียจคร้าน คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันเพราะแสบตาจากแสงแดดที่สาดส่องเข้ามา นึกสงสัยว่าปื๊ดมันเปิดหน้าต่างทำไม เธอยังนอนไม่อิ่มเลย“ปื๊ด ทำไมไม่ปิดหน้าต่าง ไปปิดเดี๋ยวนี้ ข้าจะนอน”เสียงแหบแห้งร้องสั่งน้องชาย ที่ปกติมักจะปูฟูกนอนข้างเตียงและตื่นก่อนเสมอผ่านไปสักพักหน้าต่างก็ยังไม่ถูกปิดลง ไม่มีแม้แต่เสียงขยับกายจากคนที่นอนร่วมห้อง ทำให้คนที่นอนไม่เต็มอิ่มเริ่มหงุดหงิด“ไอ้ปื๊ด!”“อืม”“บอกให้ไปปิดหน้าต่าง!”“ปิดเองสิ”เสียงของปื๊ดใกล้ใบหูจนรู้สึกจั๊กกะจี้ ไม่ทันได้ตั้งข้อสงสัยว่าทำไมคนที่มีศักดิ์เป็นน้องชายถึงได้ขึ้นมานอนข้าง ๆ กัน เอวคอดก็ถูกรวบกอดแนบแน่น“เฮ้ย!!!”ผลั่ก!โครม!!“อั่ก!”ร่างน้อยผุดลุกขึ้นนั่ง ขาเรียวกระตุกไปก่อนความคิด ฝ่าเท้าเล็ก ๆ กระทุ้งถีบคนที่บังอาจขึ้นมานอนบนเตียงเดียวกัน ทั้งยังบังอาจมาโอบกอดอย่างอุกอาจด้วยความโมโห“ขึ้นมานอนเตียงข้าทำไมวะไอ้ปื๊ด!!” ดวงตากลมเบิกกว้างเมื่อรู้สึกถึงความวูบโหวงแปลก ๆ เมื่อก้มมองดูก็รู้ถึงสาเหตุว่าทำไม.. "ไอ้ปื๊ด.. นะ นี่ นี่เอ็ง..”หัวใจดวงน้อยกระตุกวูบ ความผิ
ความคิดเห็น