Share

บทที่ ๑ ท้าดวล

Author: C
last update Last Updated: 2024-11-22 13:24:53

เรื่องทั้งหมดมันเกิดขึ้นในค่ำคืนนั้น..

“พี่หนูนา แอบเข้าเมืองแบบนี้ไม่กลัวแม่ใบบัวดุหรือ”

“เอ๊ะ!” คนถูกถามเท้าสะเอว ตาเขียวปั๊ด “ถ้าเอ็งกลัวนักก็กลับไปไอ้ปื๊ด เสียเวลาข้า”

“โธ่พี่หนูนา ปื๊ดก็แค่เป็นห่วง” ปื๊ดหัวหด ไม่กล้าต่อปากต่อคำเพราะกลัวถูกเบิ๊ดกะโหลกยุบ ไม่ก็ถูกทิ้งไว้ข้างทาง

หนูนาชี้หน้าน้องชายจอมขลาด ปื๊ดเกิดช้ากว่าเธอแค่ปีเดียว เป็นเด็กผู้ชายตัวเล็ก และมีดวงหน้าหน้าอ่อนหวานเหมือนเด็กผู้หญิง หนูนาไปเจอปื๊ดถูกเด็กผู้ชายรุมรังแกเพราะรูปร่างอ้อนแอ้น เพราะความเป็นคนดีในส่วนลึกจึงช่วยมันไว้ ไม่คิดว่าเลยว่ามันจะซึ้งใจจนผันตัวมาเป็นลูกน้องเดินตามตูดต้อย ๆ แบบนี้

แม่ใบบัวกับพ่อราชันเห็นเข้าก็เอ็นดู ทั้งสองรับปื๊ดเป็นลูกบุญธรรม หลังจากนั้นหนูนาก็มีน้องชายเพิ่มเข้ามา

“แม่ไม่รู้หรอกถ้าเอ็งไม่บอก ป่านนี้แม่นอนไปแล้ว กว่าจะตื่นก็คงตีสี่ตีห้า เวลานั้นเอ็งกับข้าคงกลับไปนอนตีพุงแล้ว”

“ปื๊ดไม่บอกหรอกจ้ะ”

เพราะถ้าขืนบอก ก็คงไม่แคล้วถูกทำโทษที่หนีเที่ยวแบบนี้ แม่ใบบัวบอกเสมอว่าถ้าหากทำผิดด้วยกันก็ต้องโดนทั้งคู่ ไม่สนว่าใครเริ่มใครตาม ใครลูกในไส้ใครลูกบุญธรรม หากทำผิดจะโดนลงโทษอย่างเท่าเทียม

ข้อหาหนีออกจากบ้านกลางค่ำกลางคืนแบบนี้โทษเบาที่สุดคือถูกดุ หนักหน่อยก็ถูกกักบริเวณเป็นอาทิตย์ หรือไม่ก็ต้องอดกินข้าวฝีมือแม่ใบบัวเป็นเดือน ซึ่งข้อหลังเป็นข้อที่ปื๊ดกลัวที่สุด

“ดี” หนูนากอดอก ยิ้มกริ่มอย่างพึงพอใจ “อย่างนั้นก็เงียบปาก เรารีบเที่ยวแล้วรีบกลับคงไม่มีอะไร”

หนูนา คะนึงนิจ ลูกสาวคนสุดท้องของทนายราชันและหมอสมุนไพรใบบัว น้องสาวของช้างหรือคชสาร นักเลงใหญ่ที่วัน ๆ ไม่เคยทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันนอกจากมีเรื่องกับเขาไปทั่ว หนูนาเกิดหลังพี่ชายหกปีกว่า ๆ แต่กลับสนิทสนมเหมือนวัยเดียวกัน

หนูนาติดพี่ชายมาก เพราะช้างคอยสอนศิลปะการต่อสู้ให้น้องสาวตั้งแต่เด็ก ๆ แม้หนูนาจะตัวเล็กเหมือนแม่ ใบหน้าสะสวยอย่างที่หนุ่มใดมาเห็นเป็นต้องตกหลุมรักทุกราย ทว่านิสัยของคนสวยนั้นไม่ตรงปกเอาเสียเลย

ทั้งห่าม ปากจัด เตะต่อยไม่เป็นรองใคร ยิงหนังสติ๊กและปืนแม่น ใช้ดาบได้คล่อง เรื่องขี่ม้าก็นับว่าขั้นครูเพราะหัดมาตั้งแต่เด็ก ๆ

หนูนาเก่งกาจรอบด้านในวัยเพียงยี่สิบปี แต่กลับเก่งในเรื่องที่ผู้หญิงไม่ควรเก่ง ส่วนเรื่องที่ผู้หญิงควรเก่งนั้นเข้าขั้นติดลบ

งานบ้านงานเรือนทำไม่เป็น กับข้าวกับปลาก็ฝีมือย่ำแย่ เย็บปักถักร้อยไม่ต้องพูดถึง แค่ใส่ด้ายยังทำไม่ได้

ใบบัวกับราชันปลงแล้วว่าหนูนาคงออกเรือนไม่ได้ ผู้หญิงที่มีนิสัยเหมือนม้าดีดกะโหลก ทำอะไรไม่เป็นแบบนี้บ้านไหนจะต้อนรับ

“อยากกินยาดอง!”

ดวงตาลูกกวางที่ถอดแบบแม่มาเป๊ะ ๆ ทว่าเจ้าเล่ห์กว่าหลายเท่าลุกวาวเมื่อเห็นซุ้มยาดอง ในนั้นมีกลุ่มชายฉกรรจ์นั่งดวลยาดองกันหลายคน เห็นแล้วหนูนาก็เกิดเปรี้ยวปากขึ้นมา

อยากลองว่ายาดองในเมืองจะอร่อยเท่ายาดองที่หมู่บ้านหรือเปล่า

“พี่หนูนา ไม่เอานะ” ปื๊ดส่ายหน้ายิก ๆ ซุ้มยาดองมีแต่คนน่ากลัว ถึงพี่หนูนาจะเก่งกาจแต่ก็ตัวเล็กจิ๊ดเดียว ส่วนปื๊ดยิ่งแล้วใหญ่ มันก็ผอมแห้งแบบนี้จะดูแลหนูนาได้ยังไง

“ขี้ขลาดก็อยู่ตรงนี้แหละ”

หนูนาไม่ฟังคำห้ามของน้อง ร่างเล็กสะบัดแขนจากคนตาขาว เดินดุ่ม ๆ ไปที่ซุ้มยาดองก่อนจะวางเงินลงไป

“ลุง ขอแรงที่สุดมาสองเป๊ก”

เสียงของผู้หญิงทำให้กลุ่มชายฉกรรจ์หันมามองด้วยความสนใจ ใบหน้าที่งดงามกว่าใครที่เคยพบเจอทำให้หนุ่มกลัดมันตาวาว

ช่างเป็นผู้หญิงสวยจนหาที่ติแทบไม่เจอ เรือนกายเล็กกระทัดรัดไม่สูงไม่เตี้ยเกินไป ไม่อ้วนและไม่ผอมกำลังพอดี เส้นผมดำยาวตรงถึงกลางหลัง ผิวขาวผุดผาดอมชมพูทั้งตัว ดวงหน้าหวานซึ้งสวยสะกด ดวงตาสุกสกาวแวววาวราวกับดวงตาของลูกกวาง คิ้วโก่งเรียว จมูกโด่งรั้น ริมฝีปากอวบอิ่มสีสด และพวงแก้มขาวอมชมพูระเรื่ออย่างเป็นธรรมชาติ

สวยกว่าใครที่เคยเจอ คนสวยแบบนี้ไปหลบอยู่ที่ไหนมาตั้งนานนม

“น้องสาวจ๊ะ” ผู้กล้าคนแรกเดินเข้ามาใกล้ เพราะมั่นใจว่ารูปร่างหน้าตาของตนเองคงทำให้คนสวยสนใจไม่น้อย “มาคนเดียวหรือจ๊ะ มานั่งกับพี่ไหม”

“ไม่ล่ะ เหม็นสาบ”

“ทำไมถึงได้ปากดีแบบนี้ พี่อยากรู้นักว่าปากดี ๆ แบบนี้จะหวานแค่ไหน” แม้จะรู้สึกขุ่นเคือง ทว่าความสวยของหนูนาก็ทำให้ชายฉกรรจ์กัดฟันทน คอยดูเถิด ปากดี ๆ แบบนี้จะจับทำเมียเสียให้เข็ด

หนูนาไม่ใคร่ใส่ใจคำพูดนั้น มือเล็กกระดกยาดองเข้าคอที่เดียวหมดแก้ว เพียงแค่ลิ้นได้สัมผัสรสชาติใบหน้างดงามตราตรึงก็บิดเบ้ทันที

แหวะ ไม่เห็นอร่อย นี่แรงที่สุดแล้วหรือ จืดชืดเหมือนน้ำเปล่า กินแล้วไม่เห็นรู้สึกอะไรสักอย่าง ยาดองที่หมู่บ้านเธออร่อยกว่าไม่รู้กี่เท่า

“เอาอีกหรือไม่หนู”

“ไม่ล่ะลุง” หนูนาโบกมือปฏิเสธ ขืนให้กระดกอีกคงได้ขย้อนออกมาตรงนี้ ถึงจะแก่นแก้วแต่เธอก็ไม่ได้ไร้มารยาท

“เดี๋ยวสิคนสวย”

ในตอนที่ร่างเล็กลุกขึ้นเพื่อไปเดินเล่นในงานต่อนั้น ฝ่ามือหยาบกร้านก็คว้าข้อมือเธออย่างไร้มารยาท ฉุดรั้งไม่ให้เธอจากไป

“จะรีบไปไหน ไม่อยากอยู่สนุกกับพวกพี่หรือ”

“ไม่ บอกแล้วว่าเหม็นสาบ” หนูนาไม่ได้โกหก แต่เธอได้กลิ่นสาบจริง ๆ ทั้งกลิ่นเหงื่อทั้งกลิ่นยาดอง

และเพราะเป็นคนพูดตรงถึงได้พูดออกไปแบบไม่ไว้หน้า อีกอย่าง ฝั่งนั้นก็รุ่มร่ามกับเธอก่อน

คนฟังนึกโกรธ มือหยาบกร้านบีบแขนเรียวเล็กจนเป็นรอยแดงเถือก

“สองรอบแล้วนะที่ว่าพี่แบบนี้ อยากโดนดีหรือ”

“หยุดไร้สาระได้แล้ว ปล่อย”

หนูนามีสีหน้าเรียบเฉยไร้ความหวาดกลัว เธอสะบัดแขนหนี แรงของหญิงสาวตัวเล็กมีมากจนอีกฝ่ายตะลึงงัน พลางคิดหาวิธีเอาชนะผู้หญิงปากดี เพราะใช้กำลังคงไม่ได้ผล แถมของสวย ๆ งาม ๆ จะชอกช้ำจนหมดค่าหมดราคาเสียก่อน

“เดี๋ยวก่อน”

“อะไรอี๊ก!” หนูนาหน้าหันใบหน้าบึ้งตึงกลับไปมอง หงุดหงิดเต็มทนกับพวกที่พูดไม่รู้เรื่อง

“พี่เห็นน้องกินยาดอง แรงขนาดนั้นยังกระดกได้สบาย ๆ ท่าทางคงจะเก่งใช่เล่น อย่างนั้นดวลกับพี่สักยกได้หรือไม่ ใครเมาก่อนคนนั้นแพ้ หากน้องชนะพี่จะไม่วุ่นวายอีก”

หนูนากรอกตาอย่างเอือมระอา กับอีแค่แข่งกินยาดอง พวกมันคงไม่รู้จักหนูนาคอทองแดง ที่ลงแข่งกี่ครั้งก็ไม่เคยแพ้ ขนาดพี่ช้างเธอยังล้มมาแล้ว เรื่องฝีมือเธอไม่ได้กลัวสักนิด แต่สิ่งที่ทำให้ลังเล ก็คงไม่พ้นรสชาติที่เหมือนน้ำล้างมือนั่น

และที่สำคัญ เธอไม่จำเป็นต้องทำอะไรไร้สาระแบบนี้เลย เสียเวลาเที่ยวเล่นเปล่า ๆ

“ไม่ล่ะ ฉันไม่จำเป็นต้องแข่งกับใคร”

“กลัวหรือ” อีกฝ่ายไม่ยอมแพ้ “พี่คงเข้าใจผิดไปเองว่าน้องเก่ง ที่แท้ก็แค่ผู้หญิงทั่วไป”

“ผู้หญิงแล้วทำไม!” หนูนาตาวาว ตะคอกถามด้วยความไม่พอใจ

ผู้หญิงแล้วยังไง หนักหัวใครที่ไหน!

“ก็อ่อนแอ ขี้แพ้อย่างไรเล่า”

ดวงตากวางวาวโรจน์ด้วยความไม่พอใจ เกลียด.. เกลียดที่สุด เธอชิงชังสังคมชายเป็นใหญ่มาแต่ไหนแต่ไร สังคมที่มองว่าผู้หญิงจะต้องเป็นเพศที่อ่อนแอกว่าผู้ชายเสมอ หรือไม่ก็เป็นเพศที่มีค่าแค่ให้กำเนิดลูก

อ่อนแอ? เพศที่ต้องอุ้มท้องเด็กคนหนึ่งเป็นเวลาเก้าเดือน ทนเจ็บปางตายตอนคลอด แบบนี้เรียกว่าอ่อนแอได้หรือ?

“ตกลง!” หนูนารับคำท้า แค่ยาดองจืด ๆ กินสิบไหก็ไม่เมาหรอก

จะได้รู้กันว่าผู้หญิงไม่ใช่เพศที่ใครจะมาข่มเหงได้

“ดี” ชายตรงหน้ายิ้มเจ้าเล่ห์ “เฮ้ยพวกมึง! ไปเตรียมยาดองให้กูกับน้องสาวคนสวยสิวะ”

“จ้ะพี่!”

.

.

ปื๊ดยืนมองพี่สาวที่นั่งประจันหน้ากับชายฉกรรจ์ด้วยสายตาเป็นกังวล ทั้งคู่จ้องตากันไม่กระพริบ กระดกยาดองแก้วแล้วแก้วเล่าลงคอไม่มีทีท่าว่าจะเมามาย ไหที่หนึ่ง.. ไหที่สอง.. จนกระทั่งเข้าไหที่สามก็เริ่มมีชาวบ้านเข้ามาวางเงินพนัน และส่วนมากก็ไม่พ้นพนันเข้าข้างผู้ชาย เพราะมั่นใจว่าผู้หญิงคงไม่มีทางชนะได้

นั่นยิ่งทำให้หนูนาเดือดดาล

“เอามาอีก!”

ไหที่ห้าถูกวางลงตรงหน้า ทว่าครานี้แทนที่ผู้ชายตรงหน้าจะกินด้วยกัน มันกลับสั่งให้ลูกน้องเอายาดองอีกไหมาวางแทน

“รอบนี้คนละไหเลยดีกว่า”

หนูนาหรี่ตาลง เธอมองไหตัวเองสลับกับไหของอีกฝ่าย ก่อนจะทำการสับเปลี่ยนอย่างรวดเร็วโดยที่ไม่มีใครห้ามทัน

“ทำไมต้องทำหน้าแบบนั้นด้วยเล่า ยาดองนี่ยังไงก็เหมือน ๆ กัน สลับไหกันคงไม่เป็นไร ใช่ไหม?”

หนูนารอบคอบเสมอ เธอไม่รู้ว่าคนตรงหน้าจะมีกลโกงอะไรบ้าง กันไว้ย่อมดีกว่าแก้

อีกฝ่ายเถียงไม่ออก การประลองดำเนินต่อไปอย่างเข้มข้น หนูนากระดกยาดองเข้าปากเรื่อย ๆ เธอยังคงไร้ความรู้สึกเมามายแม้กระเพาะจะเต็มไปด้วยน้ำเมา

“ดูเหมือนอีหนูนั่นจะไม่เมาง่าย ๆ เลยว่ะ แต่ไอ้สักมันเริ่มตาแดงแล้ว เราลงพนันผิดข้างหรือเปล่าวะ”

“เฮ้ย เป็นไปไม่ได้หรอกที่ผู้หญิงจะชนะ มึงคอยดู เดี๋ยวอีหนูมันก็ยอมแพ้”

เสียงพูดคุยของชาวบ้านยิ่งทำให้หนูนาไม่พอใจ หญิงสาวทุบโต๊ะเสียงดัง ก่อนจะยกไหยาดองขึ้น กรอกน้ำเมาลงคอจนหมดโดยไม่ใช้แก้วให้เสียเวลา

ชาวบ้านอ้าปากค้าง รวมถึงฝ่ายที่เข้ามาท้าประลองด้วย หนูนามองใบหน้าดิบเถื่อนของอีกฝ่าย พลางยักคิ้วขึ้นอย่างผู้ชนะ

“จะยอมแพ้ได้หรือยะ.. อึก!”

พูดไม่ทันจบ ใบหน้าสวยสดของหนูนาก็บิดเบี้ยว เธองอตัวลงเล็กน้อย ร่างกายร้อนผ่าวเหมือนโดนสุมไฟ เหงื่อกาฬไหลอาบใบหน้าทั้ง ๆ ที่อากาศยามดึกค่อนข้างเย็น

มันไม่ใช่อาการเมา ไม่ใช่..

กึก

“จะไปไหนหรือน้องสาว”

“เยี่ยว” เธอตอบเรียบ ๆ ไม่ยอมแสดงอาการแปลก ๆ ออกมาแม้ร่างกายจะร้อนรุ่มแค่ไหน “พักสักครู่ ขอไปปลดทุกข์ก่อน เดี๋ยวมา”

“อย่านานนะ พี่รออยู่”

หนูนาไม่ได้ตอบอะไร เธอเดินดุ่ม ๆ ผ่านปื๊ดไปที่ห้องน้ำ แต่แทนที่หนูนาจะเข้าห้องน้ำใกล้งานตามปกติ เธอกลับเดินเลยไปยังห้องน้ำที่ไกลกว่ามากและไม่ค่อยมีใครใช้จนโดนทิ้งร้าง โดยที่มีปื๊ดรีบวิ่งตามมาติด ๆ ด้วยความเป็นห่วง

"แฮ่ก! อึก!!"

“พี่หนูนา!”

เมื่อพ้นสายตาผู้คนหนูนาก็หมดแรงควบคุมตัวเองทันที ร่างน้อยแทบทรุดลงไปกองกับพื้น โชคดีที่ปื๊ดไหวตัวทันรีบเข้ามาช่วยพยุง เธอจึงไม่ต้องนอนกับพื้นสกปรกแบบนี้

“พี่หนูนา เป็นอะไร ทำไมตัวร้อนแบบนี้”

“ปื๊ด อึก”

“จ๊ะ? พี่หนูนาเจ็บป่วยตรงไหน”

“ข้า อึก! ขะ ข้าโดนยาปลุก” เธอตอบเสียงกระท่อนกระแท่น พยายามห้ามใจอย่างหนักไม่ให้ดึงปื๊ดเข้ามากอดจูบคลายความกำหนัด

มันร้อน ร้อนจนแทบทนไม่ไหว หนูนาต้องการใครสักคนมาช่วยคลายความร้อนนี้

“อะไรนะ!”

“จะ เจ็บใจนัก อึก ทั้ง ๆ ที่ระวังตัว อื้อ ดีแล้วแท้ ๆ”

สติที่พร่าเลือนลงทุกทียังมีความคับแค้นใจเด่นชัด หนูนาไม่คิดเลยว่าจะพลาดให้กับลูกไม้ตื้น ๆ แบบนี้

“ละ แล้วเราควรทำยังไงดีจ๊ะ”

“ข้าต้องซ่อนตัวอยู่ในนี้ พวกมันคงไม่คิดว่า.. อึก ข้าจะเข้าห้องน้ำร้างแบบนี้ อื้อ ทำไมร้อนแบบนี้นะ!”

หนูนานึกอยากดึงทึ้งเสื้อผ้าออกให้หมด ร่างกายเล็ก ๆ สั่นระริกอย่างน่าสงสารเพราะฤทธิ์ยา สติที่มีก็เริ่มน้อยลงทุกที

“พี่หนูนา ไหวไหมจ๊ะ”

“เอ็งออกไปก่อน อื้อ ข้าขออยู่คนเดียวสักพัก ไปตามคนที่ไว้ใจได้มาช่วย อึก ที”

“แต่ว่า..”

“ไป!” หนูนาตะคอก ทว่าเสียงที่เปล่งออกมามันช่างแหบพร่าและแผ่วเบา “รีบไป ก่อนที่เอ็งจะได้ข้าเป็นเมีย”

ปื๊ดได้ยินแบบนั้นก็รีบปล่อยมือจากร่างร้อนผ่าวโดยไม่ต้องบอกซ้ำสอง

“จ้ะ! ฉันจะไปเดี๋ยวนี้ พี่หนูนาอดทนนะ ฉันจะรีบกลับมา”

“อืม ปะ ไป รีบไป”

ปื๊ดรีบแจ้นออกจากห้องน้ำไปทันที มันชะงักกึกเมื่อเห็นกลุ่มชายฉกรรจ์ยืนดักรอหน้าห้องน้ำใกล้กับงาน จริงอย่างที่พี่หนูนาว่า พวกมันไม่คิดว่าหนูนาเข้าห้องน้ำร้างถึงได้ไปรอกันที่นั่น

เด็กหนุ่มพยายามทำตัวให้เล็กที่สุดเท่าที่จะทำได้ พลางตัวไม่ให้คนพวกนั้นมองเห็น เมื่อพ้นจุดอันตรายมันก็รีบวิ่งไปโรงพยาบาลที่อยู่ไม่ไกลนัก เพื่อตามหมอและพยาบาลมาช่วยหนูนาที่อาการกำลังย่ำแย่

.

.

ทางด้านของหนูนา ร่างเล็กวักน้ำขึ้นล้างหน้าจนเปียกปอนไปครึ่งตัว ทว่าอาการร้อนระอุข้างในมันกลับไม่หายไป หญิงสาวสบถคำหยาบคายออกมา ยาที่พวกนั้นใส่แรงกว่าที่คิด ไม่รู้ว่าผิดพลาดที่ตรงไหนเธอถึงได้พลาดท่าแบบนี้

แกรก..

จู่ ๆ ประตูห้องน้ำก็ถูกเปิดออก หนูนาหัวใจหล่นวูบเพราะคิดว่าเป็นคนพวกนั้นที่ตามมาถึงที่นี่ แต่ก็ไม่รู้ว่าโชคดีหรือโชคร้ายที่ไม่ใช่..

ร่างที่ยืนอยู่ตรงหน้าเป็นคนที่หนูนาไม่คิดว่าจะได้เจอกันในสถานการณ์แบบนี้ ใบหน้าหล่อคมเข้มที่นึกหมั่นไส้ตั้งแต่แรกเจอเธอคุ้นเคยดี อีกฝ่ายอยู่ในชุดลำลองธรรมดา ทว่าข้างกายยังคงเหน็บปืนพกติดตัวไว้ตามประสาตำรวจอวดเบ่ง

“ที่นี่ห้องน้ำร้าง” น้ำเสียงของอีกฝ่ายราบเรียบ ไม่ได้มีท่าทีตื่นตกใจเมื่อเจอผู้หญิงคนนี้ในห้องน้ำรกร้างที่ไม่มีใครอยากเข้า “ไม่คิดว่าคุณจะสร้างปัญหาแม้กระทั่งในห้องน้ำ”

“ไอ้! อื้อ”

คนเก่งที่ตั้งท่าจะชี้นิ้วด่าทรุดตัวลงกับพื้นอย่างหมดท่า ความเสียดเสียวแล่นผ่านท้องน้อยลงไปที่จุดอ่อนไหวทำให้ขาเรียวอ่อนแรง เหงื่อมากมายไหลทะลักท่วมผิวกายขาวผ่อง เธอขบกัดกลีบปากอิ่มเพื่อสะกดกลั้นเสียงครางน่าอับอาย

“คุณ! เป็นอะไรไป”

ถึงไม่ถูกกัน แต่ศิลาก็รีบพุ่งตัวเข้าไปช่วยเหลือหนูนาทันที โดยที่ไม่รู้เลยว่าดวงตากวางคู่นั้นฉ่ำเยิ้มเพียงใดเมื่อถูกมืออุ่น ๆ สัมผัสร่างกาย

ลืมไปหมดแล้วว่าตัวเองไม่ชอบคน ๆ นี้มากแค่ไหน ตอนนี้หนูนาต้องการเพียงร่างกายแข็งแกร่งของสารวัตรศิลา เพื่อใช้ตอบสนองความต้องการอันมากมายของตัวเอง

“อึก..”

เธอต้องการเขา ต้องการคน ๆ นี้

ตอนนี้

เดี๋ยวนี้

อย่างอื่นช่างมัน

“สารวัตร..”

น้ำเสียงแหบพร่าหวานจับใจ แปลกประหลาดจนนายตำรวจหนุ่มเลิกคิ้วสูง แต่ศิลาคิดในแง่ดีว่าบางทีตัวแสบตรงหน้าอาจจะเลิกทำตัวมีปัญหาแล้วก็ได้

“ครับ”

“ช่วยหน่อย”

“คุณจะให้ผมช่วยอะไร”

“พาฉัน อึก ออกไปจากที่นี่ที อา นะคะ

Related chapters

  • เมียสารวัตร NC-20   บทที่ ๒ แต่งงาน

    เรือนหลังใหญ่เกิดความวุ่นวายขึ้นเมื่อลูกสาวคนเล็กหายออกจากบ้านไปทั้งคืนจรดเช้า เท่านั้นไม่พอ ลูกบุญธรรมที่สนิทกับหนูนายังคลานเข่าเข้ามาหาทั้งน้ำตา แล้วสารภาพออกมาตรง ๆ ว่าเมื่อคืนทั้งคู่พากันไปเที่ยวในเมืองโดยที่ไม่ได้บอกกล่าวใครและที่เลวร้ายกว่านั้น หนูนาหายตัวไปทั้ง ๆ ที่โดนยาปลุกกำหนัดจนแทบสิ้นสติ“พ่อราชันจ๋า แม่ใบบัวจ๋า พี่ช้างจ๋า ปื๊ดขอโทษ ฮือ ปื๊ดผิดไปแล้ว ฮึก ปื๊ดพยายามห้ามแล้ว แต่.. แต่ว่า ฮึก”ราชันพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ ลูกของเขา เขาเลี้ยงมากับมือ เหตุใดจะไม่รู้ว่าหนูนานั้นดื้อด้านเพียงใดหนูนาเป็นเด็กที่ดื้อเกินหญิง เพราะเป็นทั้งลูกสาวและลูกคนเล็กจึงถูกเลี้ยงดูอย่างตามใจทั้งจากแม่และพี่ชาย ไม่ว่าจะอยากได้อะไรก็ต้องได้ ราชันเองก็ไม่กล้าต่อว่าใคร เพราะเขาเองก็ตามใจหนูนาไม่น้อย“ทำอย่างไรดี”ใบบัวสะอื้นไห้กับอกผัวโดยที่มีราชันคอยลูบหลังปลอบประโลม เธอจะไม่กังวลเลยหากหนูนามีสติครบถ้วน เพราะฝีมือการต่อยตีของลูกสาวเป็นรองเพียงลูกชายเท่านั้น แต่ในยามที่ถูกยานรกครอบงำสติ หนูนาไม่มีทางต้านทานมันได้ เธอได้แต่ภาวนาให้ลูกสาวโชคดี ไม่ถูกย่ำยีจนย่อยยับเพราะถ้าหากเป็นเช่นนั้นจริง.. ใบบั

    Last Updated : 2024-11-22
  • เมียสารวัตร NC-20   บทที่ ๓ ครอบครัว

    หนูนาเดินตัวลีบตามหลังแม่ต้อย ๆ ดวงหน้างดงามที่ใครเห็นเป็นต้องตกหลุมเสน่ห์ในยามนี้ดูเจี๊ยมเจี้ยมไร้ความดื้อด้านเหมือนเคย“แม่จ๋า อย่าตีน้องเลยนะ”“พ่อช้างไม่ต้องขอร้องแทนน้อง อย่างไรวันนี้หนูนาก็ต้องถูกทำโทษ”“แต่ว่า..”“พี่ช้าง ไม่เป็นไร หนูนาทำผิด คนทำผิดก็ต้องถูกตี”ราชันเบือนหน้าหนี ตัวเขานั้นไม่ใจกล้าพอให้ลงไม้ลงมือกับลูก หากทำผิดอย่างมากก็แค่ตักเตือน แต่ใบบัวนั้นไม่ใช่ ถ้าเป็นความผิดเพียงเล็กน้อยเหมือนเคย อย่างมากก็แค่ให้อดข้าวเย็นหรือไม่ก็กักบริเวณสักวันสองวัน แต่ครานี้ความผิดของหนูนาใหญ่หลวงเกินไป ใบบัวไม่อาจปล่อยให้เลยตามเลยได้“ปื๊ด ไปหยิบหวายมาให้แม่”หนุ่มน้อยเจ้าของชื่อปื๊ดน้ำตาไหลพราก ๆ ทั้งกลัวแม่ใบบัว ทั้งสงสารพี่หนูนาจับใจ โทษครั้งนี้ปื๊ดโดนกักบริเวณ และหนูนาต้องถูกตี แต่แม่ใบบัวไม่เคยลงโทษพวกเราหนักแบบนี้มาก่อน ต่อให้ดื้อด้านแค่ไหนก็ไม่เคยตีลูกสักแปะ“ตะ แต่ว่า แม่ใบบัวจ๋า”“ปื๊ด แม่บอกให้ไปหยิบหวายมาให้แม่”“แม่ใบบัว..”“ไปเถอะปื๊ด”หนูนาพยักหน้าเบา ๆ หนุ่มน้อยยกมือขึ้นปาดน้ำตาป้อย ๆ ก่อนจะคลานไปที่ห้องเก็บของ หยิบเอาหวายที่ไม่เคยถูกใช้งานเลยสักครั้งออกมา ปื๊ดยื่นหว

    Last Updated : 2024-11-22
  • เมียสารวัตร NC-20   บทที่ ๔ คุณนายสารวัตร

    เวลาตีสามของวันที่แสนธรรมดา ลูกสาวคนเดียวของทนายราชันถูกปลุกขึ้นมาอาบน้ำเย็น ๆ ที่กว่าหนูนาจะยอมอาบได้ก็เล่นเอาปื๊ดแทบขาดใจ จากนั้นร่างเล็กก็ถูกพามาที่กระจกบานใหญ่ ปื๊ดกดไหล่ทั้งสองข้างให้หนูนานั่งลงตรงนั้น“ฮ๊าววววว”“พี่หนูนา หาวปากกว้างน่าเกลียด” ปื๊ดถึงกับรับไม่ได้ มีอย่างที่ไหนโตเป็นสาวอายุยี่สิบปี จนวันนี้จะแต่งงานออกเรือนแล้วยังหาวปากกว้างแบบนี้“ก็คนมันง่วง ง่วง! ง่วง! ง่วง! ง่วง! ได้ยินไหมวะว่าข้าง่วง!! อยากนอนต่อ ได้ยินไหม!!”“ได้ยินแล้วจ้า ๆ แต่วันนี้เป็นวันแต่งงานของพี่กับสารวัตรศิลานะ ต้องรีบแต่งหน้าแต่งตัว ไม่อย่างนั้นจะไม่ทันฤกษ์ทันยาม”“ก็ช่างมันสิ”“พี่หนูนา!”“ทำไมเล่า!”“ทะเลาะอะไรกันแต่เช้า”เสียงเย็น ๆ เอ่ยขึ้นเพื่อห้ามศึกน้ำลายของคนสองคน บานประตูไม้สักถูกเปิดออกกว้าง คนที่ก้าวเข้ามาเป็นคนแรกคือใบบัว ตามด้วยป้ามะลิ และพี่สาวคนสวยอย่างพี่เอื้อ“แล้วนั่นพี่ช้างเข้ามาทำไม” หนูนาถามคนที่เดินเข้ามาเป็นคนสุดท้าย ถึงจะรู้อยู่แล้วว่าพี่ชายเข้ามาในห้องทำไม แต่ก็อดแกล้งไม่ได้เอาแต่เดินตามพี่เอื้อต้อย ๆ ตามจีบตั้งแต่พี่เอื้ออายุสิบแปดจนป่านนี้ก็ยังจีบไม่ติด แต่ก็สมควรแล้ว พ

    Last Updated : 2024-11-25
  • เมียสารวัตร NC-20   บทที่ ๕ คืนเข้าหอ

    “หนักนิดเบาหน่อยก็ให้อภัยกันนะลูก”ไม่ให้อภัยหรอก จะเรื่องขี้ปะติ๋วหรือเรื่องใหญ่ก็ไม่ให้อภัยทั้งนั้น“มีชีวิตคู่ที่ยืนยาว ถือไม้เท้ายอดทอง กระบองยอดเพชร”ใครเขาจะอยากมีชีวิตคู่ยืนยาวกับตำรวจกัน“มีหลานให้แม่อุ้มเร็ว ๆ มีลูกเต็มบ้าน มีหลานเต็มเมืองนะ”ถ้าแม่อยากมีหลาน ไปสู่ขอพี่เอื้อให้พี่ช้างยังจะง่ายกว่า“เจ้าสาว เอาแต่ขมุบขมิบปากไม่หยุด นินทาแม่หรือ”“โธ่แม่จ๋า ลูกที่ไหนจะนินทาแม่” หนูนารีบประจบ ออดอ้อนจนใบบัวใจอ่อนยวบ “หนูนาแค่ขอบคุณแม่ที่อวยพรต่างหาก”“ขอบคุณแล้วก็ฟังด้วยนะ จากนี้ไปลูกไม่ใช่เด็กสาวตัวเปล่าที่จะซุกซนเอาแต่ใจได้แล้ว ทำอะไรนึกถึงหน้าสารวัตรเขาบ้าง อย่างไรผัวเราก็เป็นถึงนายตำรวจยศสูง อย่าทำให้ผัวขายขี้หน้า”อีกแล้วทั้งย่าอ่อนและแม่ใบบัวเอาแต่ย้ำให้เธอระวังกิริยาเพราะมีผัวเป็นถึงนายตำรวจยศใหญ่ ไม่รู้จะอะไรนักหนากับยศถาบรรดาศักดิ์จอมปลอมพวกนั้น ไม่ใช่ตำรวจพวกนี้หรือที่เคยเกือบทำลายหมู่บ้านกอบัวจนไม่เหลือซาก เคยเกือบฆ่าพ่อของเธอ เคยเกือบฆ่าลุงสอง และเคยเกือบฆ่าชาวบ้านที่บริสุทธิ์ ไม่ใช่ตำรวจพวกนี้หรือที่ใช้อำนาจรีดไถเงินทองจากชาวบ้าน สร้างความเดือดร้อนจนพ่อเธอต้องกลายเ

    Last Updated : 2024-11-25
  • เมียสารวัตร NC-20   บทที่ ๖ กิจกรรมข้าวใหม่ปลามัน

    หนูนาไม่ได้พูดอะไรสักคำระหว่างเดินทางไปบ้านใหม่ ดวงตาลูกกวางมองข้างทางที่ต้องผ่านป่าเขารกทึบ ถนนดินแดงฝุ่นคลุ้งและเป็นหลุมเป็นบ่อ แต่เมื่อเข้าตัวเมืองถนนกลับลาดยางเรียบสะอาด รอบข้างแม้จะมีต้นไม้เยอะ แต่ก็ไม่ได้รกชัฏน่ากลัวเหมือนเส้นทางที่ผ่านมาความเจริญยังคงเข้าไม่ถึงหมู่บ้านของเธอ แม้ความจริงแล้วระยะทางระหว่างหมู่บ้านกับตัวเมืองไม่ได้ไกลกันมากนัก ไม่อยากจะคิดเลยว่าหมู่บ้านที่อยู่ไกลกว่านี้จะเป็นยังไง อาจจะไม่มีไฟฟ้าใช้เลยด้วยซ้ำโชคดีของหมู่บ้านกอบัวที่มีลุงสองดูแล ลุงสองพยายามทำทุกทางเพื่อพัฒนาความเป็นอยู่ของชาวบ้าน สรรหาอาชีพใหม่ ๆ ให้ชาวบ้านทำ งบที่ได้มาไม่มีแม้แต่แดงเดียวที่ลุงสองเก็บไว้เอง ที่จริงแล้วมันไม่ใช่เรื่องที่ยิ่งใหญ่อะไรเลย แต่ที่ชาวบ้านชื่นชมการกระทำของลุงสองก็เพราะข้าราชการส่วนมากมักจะโกงกิน เงินงบประมาณกว่าจะมาถึงชาวบ้านตาดำ ๆ ไม่รู้ถูกกินไปเท่าไหร่ หลายหมู่บ้านที่มีผู้นำไม่ดีถึงได้ใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก ไม่มีทางได้ลืมตาอ้าปาก“ถึงแล้ว”เสียงทุ้มปลุกให้หนูนาตื่นขึ้นจากภวังค์ เธอมัวแต่คิดถึงเรื่องหมู่บ้านจนไม่รู้ตัวเลยว่ามาถึงบ้านใหม่แล้ว ดวงตากวางกวาดมองไปทั่วด้วยคว

    Last Updated : 2024-11-26
  • เมียสารวัตร NC-20   บทที่ ๗ เสน่ห์ปลายจวัก

    เพียงแค่พระอาทิตย์ตกดิน บรรยากาศรอบข้างก็มืดสนิทไม่ต่างกับหมู่บ้านที่จากมา เสียงจิ้งรีดเรไรชวนกันร้องระงมไปทั่วบริเวณ สลับกับเสียงซู่ซ่าและเสียงตะหลิวกระทบกับกระทะที่ดังออกมาจากในครัวเป็นระยะ กลิ่นอาหารหอม ๆ ลอยไปทั่วชวนให้น้ำลายสอ หนูนาที่นั่งทำงานบนชั้นสองของบ้านจำต้องทิ้งงาน แล้วเดินทำจมูกฟุดฟิดลงไปที่ครัว“ทำอะไรอะนายศาลาวัด”“สปาเก็ตตี้ขี้เมา คุณรู้จักไหม”ศิลาตอบโดยไม่ได้หันกลับไปมอง ใช้ชีวิตร่วมกันได้ไม่ถึงวันเขาก็ชินเสียแล้ว บ้านพักที่เคยเงียบเหงามีใครบางคนเดินไปมา มีเสียงเล็ก ๆ ที่เอ่ยถามว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ก็ไม่ได้แย่เท่าไหร่“รู้จัก เคยเห็นรูปแต่ไม่เคยลองกิน” หนูนาชะโงกหน้ามองสิ่งที่อยู่ในกระทะ หน้าตาเหมือนในหนังสือที่เคยเห็นไม่มีผิด “ทำไมนายทำอาหารฝรั่งเป็น”“ที่จริงแล้วมันทำง่ายมากนะ”“เหอะ จะเยาะเย้ยที่ฉันทำของง่าย ๆ ที่นายว่าไม่เป็นใช่ไหม”“ผมไม่ได้คิดแบบนั้น คนเราไม่จำเป็นต้องทำเป็นทุกอย่างก็ได้ ทุกคนล้วนมีเรื่องถนัดที่แตกต่างกัน”ศิลาพูดพลางคีบเส้นสปาเก็ตตี้เหนียวนุ่มใส่จานทั้งสองใบ หนูนาลอบกลืนน้ำลายลงคอ ดวงตากวางจ้องมองอาหารที่ไม่เคยลิ้มรสด้วยความสนใจ กลิ่นหอม ๆ แล

    Last Updated : 2024-11-26
  • เมียสารวัตร NC-20   บทที่ ๘ นอนนอกห้อง!

    แกรก.....แกรก“คิดไม่ออกแล้ว!”กระดาษถูกขยำเป็นก้อนกลมแล้วโยนทิ้งเป็นแผ่นที่สิบ หนูนาปลายตามองเศษซากที่ทิ้งขว้างเองกับมือด้วยสายตาว่างเปล่าเฮ้อ..ร่างเล็กลุกจากเก้าอี้ทำงานและเดินลงไปที่ครัว หม้อที่เคยมีข้าวต้มเต็มแน่นบัดนี้แทบไม่เหลือแม้แต่น้ำสักหยด ผ่านมาแค่ครึ่งวันเสบียงของเธอก็หมดเกลี้ยงแล้ว ศาลาวัดไม่ได้บอกว่าจะออกไปหาของกินได้ยังไง ของสดที่มีติดครัวช่างไร้ประโยชน์เมื่อหนูนาทำกับข้าวไม่เป็น“จะกลับมาตอนไหนนะศาลาวัด”ด้วยหน้าที่การงานของหนูนาทำให้เมื่อก่อนเธอมักจะลืมกินข้าวอยู่บ่อยครั้ง แต่ตอนอยู่ที่บ้านจะมีปื๊ด พี่ช้าง และแม่คอยหาของกินมาให้ เมื่อต้องแยกตัวออกมาใช้ชีวิตเองทำให้เธอปรับตัวไม่ทัน ไม่มีคนเตรียมอาหารไว้ให้ทุกมื้อ แต่กระเพาะมันดันเคยชินกับการได้กินอาหารตรงเวลา“หิวอ่าา”ในตอนที่กำลังร้องโอดโอยอยู่นั้น หูก็พลันได้ยินเสียงเครื่องยนต์วิ่งเข้ามาใกล้ หนูนาหูผึ่ง รีบวิ่งจากครัวออกไปที่หน้าบ้านทันที“ศาลา.. พี่ช้าง! ปื๊ด!”“หนูนา!”ช้างตะโกนเรียกน้องด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม ทิ้งรถให้ปื๊ดเป็นคนจอดแล้ววิ่งหน้าตั้งเข้าบ้านน้องเขยโดยไม่รอฟังคำอนุญาต“หนูนา! หนูนาของพี่”หมับสองพี

    Last Updated : 2024-11-26
  • เมียสารวัตร NC-20   บทที่ ๙ ปฏิรูปสารวัตร

    หนูนาไม่ได้ล้อเล่นศิลามองตามร่างเล็ก ๆ ที่เดินผ่านเขาลงไปเข้าห้องน้ำ ไม่กี่อึดใจก็เดินกลับมาทางเดิม ดวงตากวางคู่นั้นไม่มองมาทางเขาแม้แต่น้อย เมื่อทำธุระเสร็จก็กลับเข้าห้องนอนไป เหมือนว่าผู้ชายตัวโต ๆ อย่างศิลาเป็นแค่อากาศธาตุแปะ!ยุงตัวโตถูกตบจนเลือดสาดตายคาแขน และเลือดนั่นก็ไม่ใช่เลือดใครเลย.. สารวัตรหนุ่มมองผิวที่ขึ้นเป็นตุ่มแดงแทบจะทันทีแล้วถอนหายใจ เขานอนบริจาคเลือดให้ยุงมาค่อนคืนแล้ว เนื้อตัวเริ่มมีตุ่มแดงขึ้นหลายจุด ศิลานอนกอดอก มองเพดานอย่างปลงตก เสียงวี่ ๆ ของยุงก่อกวนจนเขานอนไม่หลับเชื่อแล้วว่ายุงน่ากลัวกว่าเสือ แต่เขามั่นใจว่าหนูนาน่ากลัวกว่ายุงแน่ ๆประตูห้องนอนเปิดออกอีกครั้งในชั่วโมงต่อมา แล้วก็เหมือนเดิม หนูนาทำแค่เดินผ่านไปเข้าห้องน้ำ แล้วเดินกลับเข้าห้องนอนโดยไม่เหลียวแลสามีที่นอนตบยุงกลางบ้านแม้แต่หางตาหมดหวังให้หนูนาใจอ่อน คืนนี้คงต้องนอนตากยุงจนกว่าจะเช้าครั้งนี้ศิลาจำได้ขึ้นใจเลยทีเดียว ว่าตัวเองแต่งงานและมีภรรยาแล้ว ไม่มีทางหลงลืมอีกเป็นครั้งที่สองเด็ดขาดศิลาตื่นแต่เช้า.. เรียกว่าไม่ได้นอนเลยน่าจะถูกต้องกว่า ดวงตาคู่คมดูอิดโรยอย่างเห็นได้ชัด เขาลุกขึ้นบิดตัว

    Last Updated : 2024-11-26

Latest chapter

  • เมียสารวัตร NC-20   ปัจฉิมบท

    “ไม่เปลี่ยนใจแน่หรือ สารวัตร”ปฐพีถามด้วยความเสียดายซ้ำแล้วซ้ำเล่า ด้วยหวังว่าคำตอบของคนตรงหน้าจะเปลี่ยนไป“ไม่ครับ”แต่ไม่เลย...ผู้กำกับถอนหายใจเฮือกใหญ่ เขาคงเปลี่ยนใจศิลาไม่ได้อีกแล้ว ได้แต่ยอมรับความจริงว่ากำลังจะสูญเสียลูกน้องฝีมือดีไปอีกคนความรักฉันท์ชู้สาวไม่หลงเหลืออยู่แล้ว แต่ปฐพียอมรับโดยไม่อายว่ามีศิลาอยู่เขาทำงานได้ง่ายขึ้น ตลอดเวลากว่าแปดปีที่ผ่านมาศิลาสร้างผลงานเอาไว้มากมาย ถ้าหากอีกฝ่ายยอมรับ คงเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งได้ไม่ยากแต่ศิลาปฏิเสธเสียงแข็งเสมอมา ชายหนุ่มไม่ได้ต้องการตำแหน่งอะไรทั้งนั้น เขาแค่อยากทำงานตรงนี้ให้เต็มที่ ช่วยเหลือประชาชนอย่างสุดกำลัง ก่อนที่จะอำลาวงการตำรวจในสักวันหนึ่งแล้ววันนี้ก็มาถึงจนได้ปฐพีมองซองสีขาวตรงหน้า เขาไม่อยากหยิบมันขึ้นมาดูเลย เพราะรู้ดีว่าด้านในคืออะไร“ผู้กำกับอนุมัติเถอะครับ”“สารวัตรศิลา”“ผมไม่ได้ไปไหนนี่ครับ เมื่อไหร่ที่ผู้กำกับต้องการตัว ขอแค่บอก...ผมพร้อมจะช่วยเหลือเสมอ”ปฐพีเริ่มยิ้มออกมาได้ จริงอย่างที่ศิลาพูด ชายหนุ่มไม่ได้หายไปไหน เพราะอย่างไรสิ่งที่ศิลารักก็คือการได้ช่วยเหลือประชาชน เพียงแค่หลังจากนี้จะไม่ได้ทำมันใน

  • เมียสารวัตร NC-20   บทที่ ๔๐ โชคดี NC-20

    “ลูกหลับแล้วเหรอศาลาวัด”“อืม” ศิลารับคำสั้น ๆ ระหว่างที่แทรกตัวเข้าไปในผ้าห่มผืนเดียวกับภรรยา “คุณก็รีบนอนได้แล้ว วันนี้เลี้ยงลูกทั้งวันคงเหนื่อยน่าดู”“ไม่เลย ไม่เหนื่อยสักนิด”ไม่พูดเปล่า หนูนายังยืนยันว่าตัวเองไม่เหนื่อยด้วยการไต่มือเข้าไปในกางเกงนอนอีกฝ่าย ดวงตากวางแพรวพราวอย่างคนแสนเจ้าเล่ห์“หนูนา”“หืม”“คุณ อืม”ศิลาหลุดครางออกมาแผ่วเบา ร่างกายเขาตื่นตัวทันทีที่ถูกมือนุ่มนวดคลึงอย่างชำนาญ หนูนารู้ดีว่าแตะต้องส่วนไหนแล้วจะทำให้เขาทนไม่ไหว มือน้อย ๆ ขยับอย่างเอาใจจนกระทั่งความเป็นชายเหยียดขยายใหญ่เต็มมือ“ศาลาวัด เราไม่ได้ทำมาสักพักแล้วนะ”“คุณเลี้ยงลูก ผมกลัวว่าคุณจะเหนื่อยเกินไป”“ฉันพูดตอนไหนว่าเหนื่อย” หนูนาเลิกคิ้วขึ้นสูง ในขณะที่มือนุ่มคอยปลุกปั้นสิ่งที่อยู่ในมือไม่หยุด“อา ปละ เปล่า ไม่ได้พูด อืม”“ไม่ได้พูดก็แปลว่าไม่เหนื่อย ลูก ๆ ไม่ได้เลี้ยงยากเลย แถมปื๊ดกับแม่ก็คอยช่วยตลอด ฉันสบายจะตายไป”“แต่ยังไงมันก็ยังหนักเกินไปอยู่ดี” ศิลาแย้ง “เรามีลูกตั้งสี่คน ผมรู้ว่าคุณเหนื่อย คุณแค่ไม่ยอมรับความจริง”ศิลาอยากกอดหนูนาจะแย่ เขาเพิ่งอายุแค่สามสิบห้าปี ร่างกายยังแข็งแรงและมีควา

  • เมียสารวัตร NC-20   บทที่ ๓๙ สมาชิกใหม่

    ศิลาเหมือนกลายเป็นคนละคน จากที่เคยสุขุมกลายเป็นหนูติดจั่นที่เอาแต่เดินไปเดินมาอย่างร้อนรน หนูนาถูกส่งเข้าห้องคลอดทันทีที่มาถึงโรงพยาบาล เพราะหมอบอกว่าเธอพร้อมคลอดแล้วปากมดลูกเปิดพร้อมสำหรับให้กำเนิด ทว่าเข้าไปเป็นชั่วโมงแล้วประตูบานนั้นก็ยังปิดสนิท ศิลาไม่รู้ว่าการทำคลอดต้องใช้เวลานานแค่ไหน แต่เพราะไม่รู้เขาถึงได้จิตตกแบบนี้“หนูนา คุณจะต้องปลอดภัย”ตอนที่นั่งรถมาท่าทางของเธอดูเจ็บปวดมาก เสียงกรีดร้องทรมานน่าสงสารจับใจ หนูนาที่ปกติร้องไห้ยากร่ำไห้ออกมาเพราะเจ็บจนแทบทนไม่ไหว ศิลาแทบขาดใจ หากเลือกได้เขาอยากเป็นคนที่เจ็บเอง“ศิลา ศิลาลูก”คุณหญิงแจ่มจันทร์ที่เพิ่งมาถึงรีบวิ่งเข้าไปหาลูกชาย หัวใจหล่นวูบไปกองที่ปลายเท้าเมื่อเห็นว่าศิลากำลังร้องไห้“ศิลา! เกิดอะไรขึ้น ร้องไห้ทำไม หนูนาเป็นอะไร!”“หนูนาเป็นอะไรหรือพ่อศิลา”ใบบัวที่ตามมาติด ๆ ร้องถามย้ำ ท่าทางไม่สู้ดีของลูกเขยทำให้หัวใจคนเป็นแม่แทบขาดรอน ๆ แม้ว่าสมัยนี้การคลอดจะปลอดภัยว่าสมัยเธอมาก แต่คนที่เคยผ่านความเจ็บปวดมาก่อนย่อมรู้ดีว่ามันทรมานเพียงใด“ผม ฮึก ผม” ศิลาสะอื้น เขารีบรวบรวมสติ ก่อนที่เรื่องราวมันจะไปกันใหญ่ “หนูนาไม่ได้เป็

  • เมียสารวัตร NC-20   บทที่ ๓๘ บทสรุป

    ศิลานั่งฟังคำตัดสินของศาลอย่างเงียบสงบ วันนี้เป็นวันนัดตัดสินคดีค้ายาเสพติดของนายเจตน์ หลังจากผ่านมาเกือบปี คดีที่ใหญ่ที่สุดในอำเภอก็ถึงเวลาถูกพิพากษานายเจตน์ให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี และซัดทอดไปถึงตัวการใหญ่ที่กรุงเทพฯ ทำให้ตำรวจทำงานได้ง่ายขึ้น และจับพ่อค้ารายใหญ่ได้ในที่สุด เพราะเหตุผลนี้ทำให้โทษของนายเจตน์ลดน้อยลง จากประหารชีวิตเป็นติดคุกตลอดชีวิต ก่อนจะถูกลดให้เหลือจำคุกสี่สิบปี แต่ถึงอย่างนั้นระยะเวลาสี่สิบปีในคุก ก็แทบไม่ต่างจากทั้งชีวิตที่เหลืออยู่“นายเจตน์”หลังคำตัดสินสิ้นสุดลง นายเจตน์ไม่ได้ยื่นอุทธรณ์และยินดีรับโทษที่ศาลชั้นต้นตัดสิน อดีตมือขวาของพ่อค้ายาจึงถูกกุมตัวอย่างแน่นหนา เพื่อเตรียมรับโทษทัณฑ์จากสิ่งที่ตัวเองได้กระทำ นายเจตน์มีสีหน้าไม่ยินดียินร้าย ดวงตาเหม่อลอยอย่างคนที่ปลงตกกับทุกอย่าง“นายเจตน์”เจตน์ไม่ได้ยินแม้แต่เสียงเรียกใกล้ ๆ ศิลามองหน้าหนูนา คนเป็นสามีเห็นความกังวลในดวงตากวางคู่นั้น“นายเจตน์” หนูนาส่งเสียงเรียกอีกครั้ง ครั้งนี้นายเจตน์ยอมหันมาสบสายตา ทว่าดวงตาคู่นั้นว่างเปล่าไร้แววจนน่าใจหายหนูนากลัวเหลือเกินว่านายเจตน์จะหาทางจบชีวิตตัวเองสักวัน เพร

  • เมียสารวัตร NC-20   บทที่ ๓๗ บ้านใหม่

    “ศาลาวัด!”“หนูนา ผมบอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าวิ่ง” คิ้วเข้มขมวดฉับ เมื่อเห็นร่างที่เริ่มอวบอิ่มของภรรยาวิ่งเหยาะ ๆ เข้ามาหา “ไหนคุณบอกว่าจะไม่ดื้อกับผมเรื่องนี้”“ก็ฉันลืมตัว มันไม่ชินนี่นา”“คุณท้องห้าเดือนแล้วนะ ถึงไม่ชินก็ต้องชิน ถ้าล้มขึ้นมาทั้งคุณและลูกจะเป็นอันตราย” ศิลาดุเสียงเข้ม เรื่องอื่นเขายอมได้เสมอ ยกเว้นเรื่องนี้หนูนาเป็นคนที่อยู่ไม่นิ่ง เธอชอบทำนู่นทำนี่ไปเรื่อย ศิลาไม่เคยบังคับหรือทำเหมือนหนูนาเป็นคนพิการ เขาขอแค่ต้องระวัง แต่ดูเหมือนว่าหนูนาจะรับปากไปอย่างนั้น เพราะเกือบทุกวันเขาต้องมานั่งปวดหัวกับพฤติกรรมที่ไม่เหมือนคนท้องของภรรยายิ่งท้องใหญ่กว่าปกติแบบนี้เขายิ่งเป็นกังวล“นายทำอะไรอยู่” หนูนาแสร้งเปลี่ยนเรื่องเนียน ๆ ชะโงกหน้ามองบ้านหลังใหม่ที่มีคนเดินไปมาพลุกพล่าน“คุมคนงานให้เอาของเข้าบ้าน”“อีกไม่นานก็จะได้ย้ายเข้าบ้านใหม่แล้วสินะ”ทั้งคู่มองบ้านใหม่หลังใหญ่ด้วยความพึงพอใจ นับว่าผู้รับเหมาทำงานได้ดีทีเดียว บ้านหลังนี้เป็นบ้านแนวผสมสผานระหว่างไทยและยุโรปอย่างลงตัว เพราะศิลาเคยไปเรียนที่แถบนั้น เขาชื่นชอบบ้านแนวยุโรปมาก ส่วนหนูนาแม้จะไม่เคยไป แต่เธอก็ชอบดูรูปภาพของต

  • เมียสารวัตร NC-20   บทที่ ๓๖ ปรับความเข้าใจ

    “ฉันอยากอยู่คนเดียว”พูดแค่นั้นก็ทิ้งตัวลงนอน แล้วหันหลังให้คนที่ไม่ยอมออกไปเหมือนคนอื่นทันทีอยากอยู่ก็อยู่ไป เธอไม่สนใจเสียอย่าง“ฉันมีเรื่องอยากคุยกับเธอ”“.....”“ฉันรู้ว่าเธอได้ยิน ดังนั้นฉันจะพูดต่อไป” คุณหญิงแจ่มจันทร์กระแอมไอเล็กน้อย ก่อนจะเริ่มพูดเรื่องที่ติดค้างอยู่ในใจมาเนิ่นนาน “สามีฉัน พ่อของศิลาเขามีภรรยาน้อย”หนูนาที่ตอนแรกไม่คิดสนใจหูผึ่งทันที แต่ยังคงรักษาท่าทางเมินเฉยเอาไว้ คุณหญิงที่ผ่านโลกมามากพอจะมองออกว่าเด็กคนนี้กำลังตั้งใจฟัง จึงค่อย ๆ ถ่ายทอดเรื่องราวที่ไม่เคยเล่าให้ใครฟังมาก่อนอย่างหมดเปลือก“แต่ก่อนฉันเป็นแค่ลูกของแม่ค้าธรรมดา คุณศักดิ์ พ่อของศิลาเขาเป็นลูกค้าประจำ เขาเกี้ยวฉัน ตามเทียวไล้เทียวขื่อจนฉันใจอ่อนและตกหลุมรักเขา พวกเรารักกันมาก ไม่เคยทะเลาะบอกแว้ง เป็นคู่รักที่ใคร ๆ ต่างก็พากันอิจฉา และในที่สุดพวกเราก็ตกลงปลงใจแต่งงานกัน ฉันคาดหวังว่าการแต่งงานจะเป็นเหมือนในนิยาย ที่พวกเราจะได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขตลอดไป”คุณหญิงเงียบไปสักพัก ก่อนจะเริ่มพูดต่อ“แต่ชีวิตจริงมันไม่ใช่นิยาย คุณศักดิ์เติบโตมาในตระกูลตำรวจ พ่อของเขา พี่น้องของเขาล้วนเป็นตำ

  • เมียสารวัตร NC-20   บทที่ ๓๕ น้อยใจ

    คนท้องถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลหลังจากทุกอย่างจบลง แม้ว่าหนูนาจะปฏิเสธเสียงแข็งว่าตนเองไม่ได้เป็นอะไร ไม่ได้เจ็บตรงไหนแม้แต่นิดเดียว แต่ศิลาไม่คิดฟัง เขายื่นคำขาดว่ายังไงหนูนาก็ต้องไปให้หมอตรวจอย่างละเอียด เขาถึงจะสบายใจได้“คุณท้องผมก็ได้รู้เป็นคนสุดท้าย ตอนนี้ผมแค่อยากได้ความสบายใจ คุณก็ให้ผมไม่ได้”คำพูดตัดพ้อของสารวัตรหนุ่มทำเอาหนูนาไปไม่เป็น สุดท้ายเธอก็จำต้องยอม เพราะตัวเองมีชนักติดหลังอันเบอเร่อ พอตรวจเสร็จศิลาก็ร้องขอกึ่งบังคับให้เธอนอนที่โรงพยาบาลสักคืนหนูนายอมสามีแต่โดยดี เพราะรู้ว่าที่ศิลาวิตกแบบนี้ก็เป็นเพราะตัวเธอเองที่เก็บงำเรื่องลูกเอาไว้ ทั้งยังเอาตัวเองไปเสี่ยงแบบนั้น ถึงจะปลอดภัยแต่หัวอกคนเป็นพ่อคงไม่หายกังวลง่าย ๆสารวัตรหนุ่มเป็นคนอยู่เฝ้าภรรยา เขาให้หนูนานอนห้องพิเศษที่มีราคาสูง เพราะญาติจะสามารถอยู่เฝ้าได้ หลังจากราชันกลับบ้านไป ทั้งห้องจึงเหลือเพียงสองสามีภรรยาตามลำพัง ส่วนญาติ ๆ ตกลงกันว่าจะตามมาเยี่ยมพรุ่งนี้ เพราะต้องการให้สองคนที่เจอเรื่องหนัก ๆ มาได้พักสักคืนที่สำคัญ ราชันพอจะมองออกว่าลูกเขยกำลังน้อยใจที่หนูนาปิดบังเรื่องท้อง เขาอยากให้ทั้งคู่ได้ใช้เวลาปรับควา

  • เมียสารวัตร NC-20   บทที่ ๓๔ จบแล้วจริง ๆ

    “ใครบอกพวกมึงว่ามันจบแล้ว” ดวงหน้าสวยยังคงนิ่งสงบ แม้จะได้ยินเสียงกระซิบแหบพร่าพร้อมกับบางอย่างที่สัมผัสกับแผ่นหลัง ไม่ต้องหันไปมองก็รู้ว่ามันคืออะไร เสียงกริ๊กเบา ๆ แทบฉุดลมหายใจของศิลาให้หลุดปลิว“มึงถอยออกไปไอ้ตำรวจ” เสียงดุดันออกคำสั่ง “พวกมึงก็อย่าเสนอหน้าเข้ามาใกล้ ไม่อย่างนั้นอีนี่ไส้ไหลแน่”“คุณ...คือ”“นายเจตน์” คนที่ตอบไม่ใช่เจ้าของชื่อ แต่เป็นหนูนาที่ยังคงรักษาสีหน้าเรียบนิ่งไว้ได้ “มือขวาของดาบคม”ดวงตาคมสั่นไหวเล็กน้อย ก่อนจะกลับมามั่นคงเหมือนเดิม หนูนาที่ถูกจี้ตัวไม่มีท่าทีหวาดกลัว เขาเองก็ไม่ควรแสดงอาการอะไรออกไป เพราะนั่นจะยิ่งทำให้คนร้ายได้ใจ“กูบอกให้ถอยออกไป!!! อย่าคิดว่ากูไม่กล้ายิง”“ไม่เป็นไร นายถอยออกไปก่อนนะสารวัตร”“ออกไป!!!”“รู้แล้ว รู้แล้ว”ศิลายกมือทั้งสองข้างขึ้นสูง เขายอมถอยห่างแต่โดยดี แม้แต่ราชันเองก็ไม่กล้าเสี่ยง ทั้งหมดถอยออกมาพอประมาณ จดจ้องมองหนูนาที่ถูกจับเป็นตัวประกันไม่วางตา“พวกมึงทำให้นายกูต้องตาย!!” น้ำเสียงของเจตน์เต็มไปด้วยความโกรธแค้นและสะเทือนใจ “พวกมึงมันชั่ว!”“แล้วพวกค้ายาเรียกว่าคนดีได้เหรอ” ราชันถามเสียงเรียบ “กี่คนแล้วที่ต้องตายเพร

  • เมียสารวัตร NC-20   บทที่ ๓๓ คลั่ง (เนื้อหารุนแรง)

    ไม่เจ็บศิลาไม่รู้สึกว่ามีส่วนไหนในร่างกายที่เจ็บปวด เขารีบลืมตาขึ้น มองสำรวจร่างกายที่ปกติของตัวเอง ก่อนที่ดวงตาคมจะเบิกโพลง เมื่อเห็นว่าร่างท้วมของนายดาบล้มลงพร้อมกับเลือดที่ไหลนองออกมาจากศีรษะ“ดาบคม!!”“เหี้ยเอ้ย!! ทำไมมันถึงได้โง่ขนาดนี้วะ!! มาถึงขนาดนี้แต่เสือกฆ่าตัวตาย กระจอกฉิบหาย”หมวดก้องสบถด่า ไม่ได้มีท่าทีเสียอกเสียใจแม้แต่น้อย ที่คนที่ตนเองเรียกว่านายเลือกจบชีวิตตัวเองลงอย่างน่าอนาถแบบนี้คมไม่ได้หันปืนเข้าหาศิลา เขายกมันขึ้นจ่อที่ขมับของตัวเอง แล้วลั่นไกโดยไร้ซึ่งท่าทีลังเลใด ๆปิดฉากพ่อค้ายาในคราบนายตำรวจ ด้วยเลือดเนื้อและลมหายใจ“พาดาบคมไปโรงพยาบาล!” ศิลาออกคำสั่งเสียงสั่น “เร็วสิหมวดก้อง พาดาบคมไปหาหมอ!!”“หุบปาก!!” หมวดก้องยกปืนขึ้นจ่อขมับชื้นเหงื่อ “มันเสือกกระจอกเอง อยากตายนักก็ปล่อยให้มันตายสมใจ”“แกมันสัตว์นรก นั่นคนที่แกเรียกว่านายไม่ใช่เหรอ!”ผลัวะ!“กูไม่ได้ใจดีเหมือนไอ้คมจะโว้ย! ยังไงวันนี้มึงก็ต้องตาย ยังจะเสือกปากดีอีก อยากศพไม่สวยเหรอวะ”ศิลาถูกถีบจนกลิ้งไปกับพื้น ไม่ทันได้ลุกก็ถูกเตะเข้าที่ซี่โครงอีกหลายต่อหลายครั้งจนกระอักเลือดออกมากองโต“อีกอย่างนะ ถึงไ

DMCA.com Protection Status