แชร์

บทที่ ๓ ครอบครัว

ผู้เขียน: C
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-22 13:26:50

หนูนาเดินตัวลีบตามหลังแม่ต้อย ๆ ดวงหน้างดงามที่ใครเห็นเป็นต้องตกหลุมเสน่ห์ในยามนี้ดูเจี๊ยมเจี้ยมไร้ความดื้อด้านเหมือนเคย

“แม่จ๋า อย่าตีน้องเลยนะ”

“พ่อช้างไม่ต้องขอร้องแทนน้อง อย่างไรวันนี้หนูนาก็ต้องถูกทำโทษ”

“แต่ว่า..”

“พี่ช้าง ไม่เป็นไร หนูนาทำผิด คนทำผิดก็ต้องถูกตี”

ราชันเบือนหน้าหนี ตัวเขานั้นไม่ใจกล้าพอให้ลงไม้ลงมือกับลูก หากทำผิดอย่างมากก็แค่ตักเตือน แต่ใบบัวนั้นไม่ใช่ ถ้าเป็นความผิดเพียงเล็กน้อยเหมือนเคย อย่างมากก็แค่ให้อดข้าวเย็นหรือไม่ก็กักบริเวณสักวันสองวัน แต่ครานี้ความผิดของหนูนาใหญ่หลวงเกินไป ใบบัวไม่อาจปล่อยให้เลยตามเลยได้

“ปื๊ด ไปหยิบหวายมาให้แม่”

หนุ่มน้อยเจ้าของชื่อปื๊ดน้ำตาไหลพราก ๆ ทั้งกลัวแม่ใบบัว ทั้งสงสารพี่หนูนาจับใจ โทษครั้งนี้ปื๊ดโดนกักบริเวณ และหนูนาต้องถูกตี แต่แม่ใบบัวไม่เคยลงโทษพวกเราหนักแบบนี้มาก่อน ต่อให้ดื้อด้านแค่ไหนก็ไม่เคยตีลูกสักแปะ

“ตะ แต่ว่า แม่ใบบัวจ๋า”

“ปื๊ด แม่บอกให้ไปหยิบหวายมาให้แม่”

“แม่ใบบัว..”

“ไปเถอะปื๊ด”

หนูนาพยักหน้าเบา ๆ หนุ่มน้อยยกมือขึ้นปาดน้ำตาป้อย ๆ ก่อนจะคลานไปที่ห้องเก็บของ หยิบเอาหวายที่ไม่เคยถูกใช้งานเลยสักครั้งออกมา ปื๊ดยื่นหวายให้แม่ใบบัวทั้งน้ำตาที่นองเต็มหน้า

“ใบบัว พี่ว่า..”

“พี่ราชันไม่ต้องเข้าข้างลูก” เสียงหวานเฉียบขาดจนคนเป็นทนายรีบหุบปากฉับ “หากวันนี้ใบบัวไม่ทำโทษ หนูนาก็จะไม่สำนึก ไม่รู้ว่าตัวเองทำผิดร้ายแรงแค่ไหน พวกเราตามใจเด็กคนนี้มากเกินไป.. เกินไปจริง ๆ”

“แม่จ๋า แต่เรื่องนี้น้องไม่ผิดนะ น้องถูกคนชั่ววางยา”

“หากไม่ซุกซนหนีเที่ยวโดยไม่บอกพ่อกับแม่ก่อนจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นหรือ? พ่อช้างตอบแม่ที”

“หนู.. หนู” ช้างอึกอัก เรื่องนี้เขาเองก็ไม่รู้ว่าจะแก้ตัวให้น้องยังไงดี ในเมื่อสิ่งที่แม่พูดมามันถูกทุกคำ

แต่ถึงอย่างนั้นหัวใจคนเป็นพี่มันก็ทนไม่ได้อยู่ดี ช้างทนเห็นน้องรักถูกทำโทษด้วยการเฆี่ยนตีไม่ได้ เพราะตั้งแต่เล็กจนโตไม่เคยมีใครถูกแม่ตีมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นช้างเอง หนูนา หรือแม้แต่ปื๊ด ถูกพ่อราชันตียิ่งไม่เคย ใบบัวและราชันเลี้ยงลูกด้วยเหตุผลมากกว่ากำลัง ให้ลูก ๆ ได้เรียนรู้กันเองว่าสิ่งใดผิด สิ่งใดถูก จนบางครั้งก็กลายเป็นการตามใจจนเคยตัว

พ่อกับแม่ไม่เคยต่อว่าแม้ช้างจะเป็นนักเลง ไม่เคยต่อว่าแม้หนูนาจะแก่นแก้วเกินหญิง ไม่เคยรังเกียจที่ปื๊ดอ้อนแอ้นไม่สมชาย ขอเพียงอย่างเดียว อย่าทำให้ตัวเองต้องเดือดร้อนก็เป็นพอ

ครั้งนี้มันเกินไป เกินไปจริง ๆ

มือที่ถือหวายสั่นระริก ใบบัวไม่อยากคิดเลยว่าถ้าหากหนูนาเจอคนไม่ดี ถูกรังแกทำร้ายจนย่อยยับจนเสียผู้เสียคน หากเป็นเช่นนั้นเธอจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้อย่างไร

“ถ้าอย่างนั้นแม่ก็ตีหนูด้วยเถอะจ้ะ”

“พ่อช้าง!”

ใบบัวเบิกตากว้าง เมื่อลูกชายคนโตทรุดตัวลงข้างน้องสาว เอ่ยร้องขอให้แม่ตีด้วยดวงตาเด็ดเดี่ยวแน่วแน่

ถ้าจะเจ็บก็ต้องเจ็บด้วยกัน ช้างไม่อยากให้น้องต้องเจ็บคนเดียว และเขาหวังเหลือเกินว่าถ้าแม่ตีเขาด้วยแล้ว น้องจะได้รับโทษน้อยลง

หนูนาตัวแค่นี้เอง ถึงภายนอกจะดูเข้มแข็ง ทว่าร่างกายยังคงเป็นหญิง ผิวพรรณอ่อนใสและบอบบางเหมือนแก้ว โดนตีเพียงครั้งเดียวคงแตกจนได้เลือด ช้างทนไม่ได้หรอก เขาทนเห็นน้องเป็นแบบนั้นโดยที่ตนเองได้แต่ยืนมองไม่ได้

“ฮึก แม่ใบบัวตีหนูด้วยนะจ๊ะ”

“ปื๊ด!”

ไม่ใช่แค่ช้าง แต่เด็กหนุ่มรูปร่างอ้อนแอ้นก็ทิ้งตัวลงข้างหนูนา แม้จะร้องไห้จนตัวโยนแต่กลับไม่มีท่าทีจะเปลี่ยนใจ

“พี่ช้าง! ปื๊ด! ไม่เอา อย่าทำแบบนี้ ลุกออกไปให้หมดเลย ไปสิ” หนูนาส่ายหน้า เรื่องนี้เธอผิด เธอยอมถูกตีคนเดียว พี่และน้องไม่ควรถูกตีด้วยแบบนี้

“ไม่! ถ้าแม่จะตีน้อง แม่ก็ต้องตีพี่ด้วย”

“ปื๊ดเองก็ผิด ปื๊ดไม่ได้ห้ามพี่หนูนาให้ดี ทั้งยังปล่อยให้พี่อยู่ในห้องน้ำคนเดียวอีก หากพี่หนูนาจะถูกตีปื๊ดก็ต้องถูกตีด้วย”

“พี่ช้าง.. ปิ๊ด”

จากที่ตอนแรกไม่มีน้ำตาสักหยด ในตอนนี้คนที่ทำผิดมหันต์เริ่มร้องไห้ออกมา หนูนาโอบกอดทั้งพี่และน้องเอาไว้ พากันร้องไห้สะอึกสะอื้นเหมือนเด็ก ๆ

ใบบัวมองภาพสามพี่น้องที่กอดกันกลมด้วยความรู้สึกที่พูดไม่ถูก จะว่าดีใจที่เห็นพี่น้องรักกันก็พูดได้ไม่เต็มปาก เพราะยังโกรธเคืองที่ลูกดื้อด้านจนเกิดเรื่องขึ้น ทั้งยังมีพี่น้องคอยให้ท้ายแบบนี้อีก

“ใบบัว”

“มีอะไรพี่ราชัน” ใบบัวไม่รู้เลยว่าตัวเองเสียงแข็งจนอดีตจอมโจรสะดุ้งโหยง “อยากถูกใบบัวตีด้วยหรือ ถ้าอยากก็นั่งลง ใบบัวจะตีทั้งพ่อทั้งลูกนี่แหละ”

ราชันหน้าเสีย เขารักลูกก็จริง แต่ถ้าต้องถูกเมียตี..

ไม่เอาดีกว่า

“พี่แค่อยากเตือนใบบัวว่าอย่าตีลูกแรงเลยนะ เดี๋ยวจะปวดแขนเอาได้”

พ่อช่วยได้เท่านี้แหละลูกเอ้ย..

ใบบัวเลิกสนใจผัว เธอหันกลับไปมองลูกทั้งสามที่ยังกอดกันกลม แม้ว่าเด็ก ๆ จะพากันนั่งคุกเข่าร้องไห้ใบบัวก็ไม่ใจอ่อน อยากโดนตีกันนักเธอก็จะจัดให้อย่างเท่าเทียม

“ใครอยากโดนก่อน”

“หนูจ้ะ” พี่คนโตเสียสละทันที ช้างลุกขึ้นยืนทั้ง ๆ ที่น้อง ๆ พากันฉุดแขนให้นั่งลง

“พี่ช้าง ให้หนูนาก่อน หนูนาคือคนผิดนะ”

“ให้แม่ตีพี่ก่อน ตีพี่แล้วแม่จะได้มีแรงน้อยลง หนูนากับปื๊ดจะได้ไม่เจ็บมาก”

“โธ่.. พี่ช้าง”

ร่างสูงเหมือนยักษ์เดินออกมาตรงหน้า ช้างหันข้างให้ใบบัว กอดอก หลับตาลงรอรับความเจ็บปวดที่ก้น..

เพียะ!

“อึก!”

“ต่อไปใคร”

ช้างเดินกลับไปนั่ง ส่วนหนูนาลุกขึ้นมาแทนที่ ใบบัวมองลูกสาวที่แสนดื้อดึง ก่อนจะฟาดหวายลงบนก้นเต็มแรง

เพียะ!

“ต่อไป”

ปื๊ดลุกขึ้นมาอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ ดูจากพี่ ๆ แล้วแม่ใบบัวคงไม่ได้ออมแรงสักนิด เพราะขนาดช้างยังนั่งไม่ติดพื้น ส่วนหนูนาน้ำตาซึมออกมาอีกระลอกใหญ่

“หันมาปื๊ด”

“แม่ใบบัวจ๋า”

“มีอะไร”

“หนูรักแม่ใบบัวนะ”

หัวใจของคนเป็นแม่อ่อนยวบ ใบบัวจ้องมองหน้าตาหมดจดของเด็กหนุ่มนิ่ง ๆ ปื๊ดมีหน้าตาน่ารัก ผิวขาวน่าถนอม ตัวพอ ๆ กันกับหนูนาแต่นิสัยอ่อนหวานกว่า เธอรู้ว่าลูกคนเล็กที่รับมาเลี้ยงชอบพอผู้ชายหาใช่ผู้หญิง แต่แล้วอย่างไร ในเมื่อไม่ได้ฆ่าใครตายก็ไม่ใช่เรื่องผิด

“แม่ก็รักลูกทุก ๆ คน เพราะรัก.. ถึงได้สั่งสอน”

เพียะ!

ช้างประคองปื๊ดกลับไปนั่งเพราะเด็กหนุ่มเจ็บจนถึงขั้นทรุดฮวบ เมื่อทำโทษลูก ๆ เสร็จใบบัวก็รีบโยนไม้หวายออกไปไกล ๆ ก่อนจะทรุดตัวนั่งโอบกอดลูก ๆ ทั้งสามแล้วร้องไห้ออกมาปานจะขาดใจ

ตีลูกที่รักกว่าชีวิต มันเจ็บยิ่งกว่าตีตัวเองไม่รู้กี่เท่า คล้ายกับฟาดหวายลงกลางหัวใจซ้ำ ๆ ใบบัวไม่ได้อยากทำแบบนี้เลยสักนิด ตีลูกไม่ใช่ความสุขของคนเป็นแม่ ลูกเจ็บ แม่เจ็บยิ่งกว่าพันหมื่นล้านเท่า แต่ถ้าไม่ทำ ลูกก็จะทำให้ตัวเองต้องอยู่ในอันตรายอีก

หวายนี้จะเป็นเครื่องเตือนใจเด็ก ๆ ว่าเมื่อใดที่คิดจะทำผิดอีก ให้รู้ไว้ว่าแม่คนนี้จะเจ็บปวดยิ่งกว่าเป็นร้อยเท่าพันเท่า

“แม่ขอโทษนะลูก ฮึก”

“แม่ไม่ผิดเลย หนูนาดื้อเอง”

“แม่ตีเพราะแม่รัก หนูรู้”

“หนูไม่เจ็บเลยแม่ใบบัว ไม่เจ็บเลย ฮึก”

ราชันมองภาพตรงหน้าด้วยรอยยิ้ม ทนายคนเก่งลอบเช็ดน้ำตาที่หางตาเงียบ ๆ เขารู้ดีว่าใบบัวรักลูกสุดหัวฝจ ลูกเองก็รักใบบัวมาก และพี่น้องทั้งสามนั้นรักกันเพียงใด ไม่มีใครโกรธที่ถูกใบบัวตี และใบบัวเองก็โกรธลูก ๆ ได้ไม่นาน อีกเดี๋ยวก็คงรีบลงไปที่ครัว เตรียมอาหารที่ลูกชอบมาง้อ

สุดท้ายแล้วไม่ว่าอย่างไรครอบครัวก็คือครอบครัว ราชันนึกขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่างที่ส่งใบบัวมาให้เขา ส่งลูกทั้งสามมาเพิ่มสีสันให้บ้านหลังนี้ เกือบสามสิบปีก่อนเขาไม่เคยนึกอยากมีครอบครัวเลย ไม่คิดจะรักตัวเองด้วยซ้ำ แต่ในวันนี้เขาต้องการจะมีชีวิตที่ยืนยาว เฝ้ามองลูกเมียแบบนี้ไปจนกว่าจะหมดลมหายใจ

.

.

(ศิลาล้อแม่เล่นหรือ แหม.. ล้อกันแบบนี้แม่ไม่ตลกเลยนะจ๊ะ)

“คุณแม่ครับ ผมไม่ได้ล้อเล่น”

(ยังอีก แม่บอกแล้วว่า..)

“ผมกำลังจะแต่งงานครับ อาทิตย์หน้า”

(ศิลา!)

ปลายสายเริ่มเสียงแข็ง ศิลาได้ยินเสียงลมหายใจฟืดฟาด คล้ายกับกำลังระงับความโกรธของแม่บังเกิดเกล้า

คนที่ศิลากำลังพูดสายด้วยคือคุณหญิงแจ่มจันทร์ แม่แท้ ๆ ของสารวัตรศิลา ภรรยาหลวงของพลตำรวจเอกศักดิ์ พ่อแท้ ๆ ของเขา

(แม่ไม่ตลกนะ) คุณหญิงแจ่มจันทร์พยายามบังคับเสียงให้มั่นคง (ลูกเต้าเหล่าใคร ตระกูลไหน พ่อเป็นข้าราชการชั้นไหน แม่เป็นคุณหญิงหรือเปล่า หรือว่า..)

“คุณแม่ครับ หนูนาเป็นลูกของทนายอาสาและหมอสมุนไพรพื้นบ้านที่เก่งที่สุดในอำเภอครับ”

(แค่นี้?)

“แค่นี้ครับ”

(ศิลาต้องล้อแม่เล่นแน่ ๆ) คุณหญิงแจ่มจันทร์ไม่อยากจะเชื่อว่าเรื่องที่ได้ยินจะเป็นเรื่องจริง (ลูกกำลังจะบอกแม่ว่า.. ลูกไม่ยอมหมั้นกับหนูพราวฟ้า ลูกสาวคนเดียวของท่านรัฐมนตรีพิสุทธิ์ แต่กลับจะแต่งงานกับเด็กที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้า ชื่ออะไรนะ หนูนาอย่างนั้นหรือ? แค่ชื่อก็ไม่น่าฟังแล้ว)

“เธอชื่อจริงว่าคะนึงนิจครับ แต่นั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญ คุณแม่ครับ หนูนาเธอไม่ได้ไร้หัวนอนปลายเท้า เธอมีพ่อมีแม่ คุณพ่อเธอเป็นทนายที่เก่งกาจ คุณแม่ก็เป็นหมอยาที่เชี่ยวชาญสมุนไพรไม่มีใครเทียบได้ แค่นี้มันยังไม่พออีกหรือครับ”

(ไม่พอ ทนายแล้วอย่างไร หมอสมุนไพรแล้วอย่างไร มีอะไรสู้ลูกสาวคนเดียวของรัฐมนตรีได้)

“คุณแม่..”

(ผู้หญิงคนนั้นเกื้อหนุนอะไรลูกได้บ้างศิลา หน้าที่การงาน ฐานะทางสังคม แค่แม่ฟังที่ลูกพูดแม่ก็รู้แล้วว่าเทียบไม่ได้เลยกับหนูพราวฟ้า หนูพราวฟ้าทำให้ลูกเป็นพลตำรวจเอกเหมือนพ่อได้ ความฝันของลูกไม่ใช่หรือ ศิลาคิดให้ดี ๆ นะลูก)

“ไม่ครับ ผมไม่อยากเป็นเหมือนคุณพ่อแล้ว ผมอยากไต่เต้าด้วยความสามารถของตัวเอง ไม่ใช่ยอมรับลูกสาวลับ ๆ ของรัฐมนตรีมาเป็นบ้านน้อย แลกกับตำแหน่งใหญ่โตที่ทำให้คุณแม่ต้องเสียใจ”

(ศิลา!!)

“ที่ผมโทรมาบอกเพราะผมไม่ต้องการทำอะไรข้ามหน้าข้ามตาคุณแม่ ถ้าคุณแม่อยากมางานอาทิตย์หน้าผมก็ยินดีครับ แต่ถ้าไม่มาก็ไม่เป็นไร ไว้ผมจะพาภรรยาไปแนะนำตัวกับคุณแม่เอง”

(ไม่ต้องพามา ที่นี่ไม่ต้อนรับสะใภ้ที่แม่ไม่ยอมรับ)

“คุณแม่..” ศิลาถอนหายใจ รู้อยู่แล้วว่าไม่ง่าย แต่เขาก็อดเหนื่อยไม่ได้อยู่ดี

(แล้วลูกจะต้องเสียใจที่ตัดสินใจแบบนี้)

ปลายสายวางไปแล้ว สารวัตรหนุ่มถอนหายใจอีกครั้งก่อนจะวางโทรศัพท์ลงบ้าง ไม่ผิดจากที่คิดไว้เลยสักนิด แม่ไม่ยอมรับภรรยาของเขา อ้างแต่เรื่องเดิม ๆ ที่ศิลาไม่อยากฟัง

ตั้งแต่เล็กจนโตศิลามีความฝันว่าอยากเป็นตำรวจมาตลอด เพราะเขาเกิดมาในครอบครัวตำรวจ ปู่ พ่อ ลุง ทุกคนล้วนเป็นตำรวจทั้งนั้น เขามีความฝันที่ยิ่งใหญ่ว่าอยากรับใช้ประชาชน ช่วยเหลือทุกคนอย่างเท่าเทียม ทั้งชีวิตเอาแต่วิ่งตามความฝันจนไม่เคยสนใจอาชีพอื่น เขามุ่งมั่นจนสอบติด ทำผลงานต่าง ๆ มากมายจนเลื่อนขั้นขึ้นมาเป็นสารวัตรได้ด้วยตัวเอง

เมื่อก่อน ความฝันสูงสุดของศิลาคือการได้เป็นพลตำรวจเอกเหมือนพ่อ แต่นั่นมันก็แค่อดีต หลังจากรู้ว่าตำแหน่งที่พ่อได้มานั้นต้องแลกกับอะไรบ้าง เขาก็ไม่สนใจมันอีก

ในช่วงที่เขาได้รู้ความลับเน่าเฟะนั้น แม่ก็เริ่มพาหญิงสาวคนหนึ่งมาให้ศิลารู้จัก คอยย้ำเตือนว่าผู้หญิงคนนี้จะช่วยทำให้เป้าหมายของเขาเป็นจริงได้ นั่นทำให้ศิลายิ่งรู้สึกสะอิดสะเอียนเหลือเกิน เขารีบทำเรื่องขอย้ายตัวเองจากเมืองหลวงมาที่นี่โดยไม่บอกใครจนกว่าจะได้รับอนุมัติ เมื่อมีคำสั่งลงมาแล้วแม่ก็ไม่สามารถขัดขวางเขาได้อีกต่อไป อำเภอเล็ก ๆ ที่ไม่ได้เจริญมากเป็นสถานที่ที่ศิลาเลือก

ใครจะไปคิด ว่าที่นี่จะกลายเป็นที่ ๆ เขาได้มีภรรยาเป็นตัวเป็นตนโดยไม่ได้ตั้งใจ..

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เมียสารวัตร NC-20   บทที่ ๔ คุณนายสารวัตร

    เวลาตีสามของวันที่แสนธรรมดา ลูกสาวคนเดียวของทนายราชันถูกปลุกขึ้นมาอาบน้ำเย็น ๆ ที่กว่าหนูนาจะยอมอาบได้ก็เล่นเอาปื๊ดแทบขาดใจ จากนั้นร่างเล็กก็ถูกพามาที่กระจกบานใหญ่ ปื๊ดกดไหล่ทั้งสองข้างให้หนูนานั่งลงตรงนั้น“ฮ๊าววววว”“พี่หนูนา หาวปากกว้างน่าเกลียด” ปื๊ดถึงกับรับไม่ได้ มีอย่างที่ไหนโตเป็นสาวอายุยี่สิบปี จนวันนี้จะแต่งงานออกเรือนแล้วยังหาวปากกว้างแบบนี้“ก็คนมันง่วง ง่วง! ง่วง! ง่วง! ง่วง! ได้ยินไหมวะว่าข้าง่วง!! อยากนอนต่อ ได้ยินไหม!!”“ได้ยินแล้วจ้า ๆ แต่วันนี้เป็นวันแต่งงานของพี่กับสารวัตรศิลานะ ต้องรีบแต่งหน้าแต่งตัว ไม่อย่างนั้นจะไม่ทันฤกษ์ทันยาม”“ก็ช่างมันสิ”“พี่หนูนา!”“ทำไมเล่า!”“ทะเลาะอะไรกันแต่เช้า”เสียงเย็น ๆ เอ่ยขึ้นเพื่อห้ามศึกน้ำลายของคนสองคน บานประตูไม้สักถูกเปิดออกกว้าง คนที่ก้าวเข้ามาเป็นคนแรกคือใบบัว ตามด้วยป้ามะลิ และพี่สาวคนสวยอย่างพี่เอื้อ“แล้วนั่นพี่ช้างเข้ามาทำไม” หนูนาถามคนที่เดินเข้ามาเป็นคนสุดท้าย ถึงจะรู้อยู่แล้วว่าพี่ชายเข้ามาในห้องทำไม แต่ก็อดแกล้งไม่ได้เอาแต่เดินตามพี่เอื้อต้อย ๆ ตามจีบตั้งแต่พี่เอื้ออายุสิบแปดจนป่านนี้ก็ยังจีบไม่ติด แต่ก็สมควรแล้ว พ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-25
  • เมียสารวัตร NC-20   บทที่ ๕ คืนเข้าหอ

    “หนักนิดเบาหน่อยก็ให้อภัยกันนะลูก”ไม่ให้อภัยหรอก จะเรื่องขี้ปะติ๋วหรือเรื่องใหญ่ก็ไม่ให้อภัยทั้งนั้น“มีชีวิตคู่ที่ยืนยาว ถือไม้เท้ายอดทอง กระบองยอดเพชร”ใครเขาจะอยากมีชีวิตคู่ยืนยาวกับตำรวจกัน“มีหลานให้แม่อุ้มเร็ว ๆ มีลูกเต็มบ้าน มีหลานเต็มเมืองนะ”ถ้าแม่อยากมีหลาน ไปสู่ขอพี่เอื้อให้พี่ช้างยังจะง่ายกว่า“เจ้าสาว เอาแต่ขมุบขมิบปากไม่หยุด นินทาแม่หรือ”“โธ่แม่จ๋า ลูกที่ไหนจะนินทาแม่” หนูนารีบประจบ ออดอ้อนจนใบบัวใจอ่อนยวบ “หนูนาแค่ขอบคุณแม่ที่อวยพรต่างหาก”“ขอบคุณแล้วก็ฟังด้วยนะ จากนี้ไปลูกไม่ใช่เด็กสาวตัวเปล่าที่จะซุกซนเอาแต่ใจได้แล้ว ทำอะไรนึกถึงหน้าสารวัตรเขาบ้าง อย่างไรผัวเราก็เป็นถึงนายตำรวจยศสูง อย่าทำให้ผัวขายขี้หน้า”อีกแล้วทั้งย่าอ่อนและแม่ใบบัวเอาแต่ย้ำให้เธอระวังกิริยาเพราะมีผัวเป็นถึงนายตำรวจยศใหญ่ ไม่รู้จะอะไรนักหนากับยศถาบรรดาศักดิ์จอมปลอมพวกนั้น ไม่ใช่ตำรวจพวกนี้หรือที่เคยเกือบทำลายหมู่บ้านกอบัวจนไม่เหลือซาก เคยเกือบฆ่าพ่อของเธอ เคยเกือบฆ่าลุงสอง และเคยเกือบฆ่าชาวบ้านที่บริสุทธิ์ ไม่ใช่ตำรวจพวกนี้หรือที่ใช้อำนาจรีดไถเงินทองจากชาวบ้าน สร้างความเดือดร้อนจนพ่อเธอต้องกลายเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-25
  • เมียสารวัตร NC-20   บทที่ ๖ กิจกรรมข้าวใหม่ปลามัน

    หนูนาไม่ได้พูดอะไรสักคำระหว่างเดินทางไปบ้านใหม่ ดวงตาลูกกวางมองข้างทางที่ต้องผ่านป่าเขารกทึบ ถนนดินแดงฝุ่นคลุ้งและเป็นหลุมเป็นบ่อ แต่เมื่อเข้าตัวเมืองถนนกลับลาดยางเรียบสะอาด รอบข้างแม้จะมีต้นไม้เยอะ แต่ก็ไม่ได้รกชัฏน่ากลัวเหมือนเส้นทางที่ผ่านมาความเจริญยังคงเข้าไม่ถึงหมู่บ้านของเธอ แม้ความจริงแล้วระยะทางระหว่างหมู่บ้านกับตัวเมืองไม่ได้ไกลกันมากนัก ไม่อยากจะคิดเลยว่าหมู่บ้านที่อยู่ไกลกว่านี้จะเป็นยังไง อาจจะไม่มีไฟฟ้าใช้เลยด้วยซ้ำโชคดีของหมู่บ้านกอบัวที่มีลุงสองดูแล ลุงสองพยายามทำทุกทางเพื่อพัฒนาความเป็นอยู่ของชาวบ้าน สรรหาอาชีพใหม่ ๆ ให้ชาวบ้านทำ งบที่ได้มาไม่มีแม้แต่แดงเดียวที่ลุงสองเก็บไว้เอง ที่จริงแล้วมันไม่ใช่เรื่องที่ยิ่งใหญ่อะไรเลย แต่ที่ชาวบ้านชื่นชมการกระทำของลุงสองก็เพราะข้าราชการส่วนมากมักจะโกงกิน เงินงบประมาณกว่าจะมาถึงชาวบ้านตาดำ ๆ ไม่รู้ถูกกินไปเท่าไหร่ หลายหมู่บ้านที่มีผู้นำไม่ดีถึงได้ใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก ไม่มีทางได้ลืมตาอ้าปาก“ถึงแล้ว”เสียงทุ้มปลุกให้หนูนาตื่นขึ้นจากภวังค์ เธอมัวแต่คิดถึงเรื่องหมู่บ้านจนไม่รู้ตัวเลยว่ามาถึงบ้านใหม่แล้ว ดวงตากวางกวาดมองไปทั่วด้วยคว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-26
  • เมียสารวัตร NC-20   บทที่ ๗ เสน่ห์ปลายจวัก

    เพียงแค่พระอาทิตย์ตกดิน บรรยากาศรอบข้างก็มืดสนิทไม่ต่างกับหมู่บ้านที่จากมา เสียงจิ้งรีดเรไรชวนกันร้องระงมไปทั่วบริเวณ สลับกับเสียงซู่ซ่าและเสียงตะหลิวกระทบกับกระทะที่ดังออกมาจากในครัวเป็นระยะ กลิ่นอาหารหอม ๆ ลอยไปทั่วชวนให้น้ำลายสอ หนูนาที่นั่งทำงานบนชั้นสองของบ้านจำต้องทิ้งงาน แล้วเดินทำจมูกฟุดฟิดลงไปที่ครัว“ทำอะไรอะนายศาลาวัด”“สปาเก็ตตี้ขี้เมา คุณรู้จักไหม”ศิลาตอบโดยไม่ได้หันกลับไปมอง ใช้ชีวิตร่วมกันได้ไม่ถึงวันเขาก็ชินเสียแล้ว บ้านพักที่เคยเงียบเหงามีใครบางคนเดินไปมา มีเสียงเล็ก ๆ ที่เอ่ยถามว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ก็ไม่ได้แย่เท่าไหร่“รู้จัก เคยเห็นรูปแต่ไม่เคยลองกิน” หนูนาชะโงกหน้ามองสิ่งที่อยู่ในกระทะ หน้าตาเหมือนในหนังสือที่เคยเห็นไม่มีผิด “ทำไมนายทำอาหารฝรั่งเป็น”“ที่จริงแล้วมันทำง่ายมากนะ”“เหอะ จะเยาะเย้ยที่ฉันทำของง่าย ๆ ที่นายว่าไม่เป็นใช่ไหม”“ผมไม่ได้คิดแบบนั้น คนเราไม่จำเป็นต้องทำเป็นทุกอย่างก็ได้ ทุกคนล้วนมีเรื่องถนัดที่แตกต่างกัน”ศิลาพูดพลางคีบเส้นสปาเก็ตตี้เหนียวนุ่มใส่จานทั้งสองใบ หนูนาลอบกลืนน้ำลายลงคอ ดวงตากวางจ้องมองอาหารที่ไม่เคยลิ้มรสด้วยความสนใจ กลิ่นหอม ๆ แล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-26
  • เมียสารวัตร NC-20   บทที่ ๘ นอนนอกห้อง!

    แกรก.....แกรก“คิดไม่ออกแล้ว!”กระดาษถูกขยำเป็นก้อนกลมแล้วโยนทิ้งเป็นแผ่นที่สิบ หนูนาปลายตามองเศษซากที่ทิ้งขว้างเองกับมือด้วยสายตาว่างเปล่าเฮ้อ..ร่างเล็กลุกจากเก้าอี้ทำงานและเดินลงไปที่ครัว หม้อที่เคยมีข้าวต้มเต็มแน่นบัดนี้แทบไม่เหลือแม้แต่น้ำสักหยด ผ่านมาแค่ครึ่งวันเสบียงของเธอก็หมดเกลี้ยงแล้ว ศาลาวัดไม่ได้บอกว่าจะออกไปหาของกินได้ยังไง ของสดที่มีติดครัวช่างไร้ประโยชน์เมื่อหนูนาทำกับข้าวไม่เป็น“จะกลับมาตอนไหนนะศาลาวัด”ด้วยหน้าที่การงานของหนูนาทำให้เมื่อก่อนเธอมักจะลืมกินข้าวอยู่บ่อยครั้ง แต่ตอนอยู่ที่บ้านจะมีปื๊ด พี่ช้าง และแม่คอยหาของกินมาให้ เมื่อต้องแยกตัวออกมาใช้ชีวิตเองทำให้เธอปรับตัวไม่ทัน ไม่มีคนเตรียมอาหารไว้ให้ทุกมื้อ แต่กระเพาะมันดันเคยชินกับการได้กินอาหารตรงเวลา“หิวอ่าา”ในตอนที่กำลังร้องโอดโอยอยู่นั้น หูก็พลันได้ยินเสียงเครื่องยนต์วิ่งเข้ามาใกล้ หนูนาหูผึ่ง รีบวิ่งจากครัวออกไปที่หน้าบ้านทันที“ศาลา.. พี่ช้าง! ปื๊ด!”“หนูนา!”ช้างตะโกนเรียกน้องด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม ทิ้งรถให้ปื๊ดเป็นคนจอดแล้ววิ่งหน้าตั้งเข้าบ้านน้องเขยโดยไม่รอฟังคำอนุญาต“หนูนา! หนูนาของพี่”หมับสองพี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-26
  • เมียสารวัตร NC-20   บทที่ ๙ ปฏิรูปสารวัตร

    หนูนาไม่ได้ล้อเล่นศิลามองตามร่างเล็ก ๆ ที่เดินผ่านเขาลงไปเข้าห้องน้ำ ไม่กี่อึดใจก็เดินกลับมาทางเดิม ดวงตากวางคู่นั้นไม่มองมาทางเขาแม้แต่น้อย เมื่อทำธุระเสร็จก็กลับเข้าห้องนอนไป เหมือนว่าผู้ชายตัวโต ๆ อย่างศิลาเป็นแค่อากาศธาตุแปะ!ยุงตัวโตถูกตบจนเลือดสาดตายคาแขน และเลือดนั่นก็ไม่ใช่เลือดใครเลย.. สารวัตรหนุ่มมองผิวที่ขึ้นเป็นตุ่มแดงแทบจะทันทีแล้วถอนหายใจ เขานอนบริจาคเลือดให้ยุงมาค่อนคืนแล้ว เนื้อตัวเริ่มมีตุ่มแดงขึ้นหลายจุด ศิลานอนกอดอก มองเพดานอย่างปลงตก เสียงวี่ ๆ ของยุงก่อกวนจนเขานอนไม่หลับเชื่อแล้วว่ายุงน่ากลัวกว่าเสือ แต่เขามั่นใจว่าหนูนาน่ากลัวกว่ายุงแน่ ๆประตูห้องนอนเปิดออกอีกครั้งในชั่วโมงต่อมา แล้วก็เหมือนเดิม หนูนาทำแค่เดินผ่านไปเข้าห้องน้ำ แล้วเดินกลับเข้าห้องนอนโดยไม่เหลียวแลสามีที่นอนตบยุงกลางบ้านแม้แต่หางตาหมดหวังให้หนูนาใจอ่อน คืนนี้คงต้องนอนตากยุงจนกว่าจะเช้าครั้งนี้ศิลาจำได้ขึ้นใจเลยทีเดียว ว่าตัวเองแต่งงานและมีภรรยาแล้ว ไม่มีทางหลงลืมอีกเป็นครั้งที่สองเด็ดขาดศิลาตื่นแต่เช้า.. เรียกว่าไม่ได้นอนเลยน่าจะถูกต้องกว่า ดวงตาคู่คมดูอิดโรยอย่างเห็นได้ชัด เขาลุกขึ้นบิดตัว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-26
  • เมียสารวัตร NC-20   บทที่ ๑๐ ศาลาวัดคนเท่

    ร่างเล็กในชุดกางเกงขายาวเอวสูงสีครีม สวมเสื้อเชิ้ตสีเข้มแขนยาวถึงข้อมือ สะพายกระเป๋าหนังใบเล็ก ๆ สีน้ำตาลเข้ม เส้นผมดำขลับยาวเคลียบ่า ใบหน้าอ่อนใสแต่งแต้มด้วยสีชมพูบาง ๆ ที่เกิดจากอากาศร้อน เดินเคียงข้างนายตำรวจท่าทางองอาจในชุดเครื่องแบบเต็มยศ อินทรธนูบนบ่าแสดงถึงยศถาบรรดาศักดิ์ที่ไม่ได้ด้อยไปกว่าใคร“อะไรน้าา”หนูนาทำท่านึกอยู่สักพัก ก่อนจะร้องอ๋อเสียงใส ยิ้มกว้างจนตาหยี“สเต็ก! ใช่ ฉันอยากกินสเต็ก นายทำเป็นใช่ไหม”ศิลาพยักหน้ารับทันที ส่งผลให้คนข้าง ๆ ยิ้มร่ากว่าเดิม“ดี ๆ งั้นวันนี้กินสเต็กกัน แต่นายเลือกของนะ ฉันเลือกไม่เป็นหรอก”“ได้ เดี๋ยวผมจัดการเอง”“ดีมากค่ะ สา..” หนูนาแกล้งลากเสียงยาว ดวงตาลูกกวางพราวระยับเป็นประกายวิบวับ “สามี”“แค่ก!”สารวัตรหนุ่มไอจนหน้าแดง สำลักน้ำลายตัวเองเพราะคิดไม่ถึงว่าหนูนาจะเย้ากันแบบนี้ เมื่อหันไปมองรอบข้างก็พบกับสายตาหยอกล้อของแม่ค้าพ่อค้าที่ได้ยินเต็มสองหู ก็เสียงหนูนาเบาเสียเมื่อไหร่“นายหน้าแดงแปร๊ดเลย”“หนูนา”“ขา สามี”ศิลาเลิกให้ความสนใจภรรยาจอมซน นับจากวันที่ปรับความเข้าใจกันความสัมพันธ์ของเขากับหนูนาก็ดีขึ้น เราสนิทกันมากขึ้น คุยกันมากขึ้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-26
  • เมียสารวัตร NC-20   บทที่ ๑๑ ตัวแสบของสารวัตร

    นายดาบลุกขึ้นยืนตรง ทำความเคารพนายที่เพิ่งลงจากสถานีไปได้ไม่ถึงชั่วโมงด้วยสีหน้างุนงง ทว่าเมื่อเห็นร่างผอมแห้งที่นายหิ้วมาด้วยก็เริ่มจะเข้าใจ ว่าเพราะอะไรสารวัตรที่เลิกงานไปแล้วถึงได้กลับมาอีกครั้ง“สา.. เฮ้ย!” ดาบคมอุทานลั่น ดวงตาเบิกกว้างเหมือนเห็นผี “เอ็ง มะ.. มาได้อย่างไร!”“ว่ายังไงดาบ ไม่เจอนานตีนกาขึ้นมาอีกเส้นหนึ่งแล้วนะ”“เด็กนี่!” ดาบคมชี้หน้าสวย ๆ ที่คุ้นเคย ปลายนิ้วสั่นระริกด้วยความโมโหเจอเด็กคนนี้ทีไรทำเอาดาบแก่ ๆ อย่างเขาไมเกรนขึ้นได้ทุกที อย่าได้หลงระเริงกับใบหน้าสวยหวานน่ารักนั่นเชียว เพราะนิสัยที่แท้จริงต่างจากหน้าตาเหมือนหน้ามือกับหลังเท้า!“สารวัตรครับ ยายเด็กนี่ไปก่อเรื่องอะไรมาอีก ผมว่าจับนอนคุกสักคืนให้สำนึกน่าจะดี”“ดาบ! วันนี้ฉันไม่ได้ผิดนะ”“ใครเชื่อเอ็งก็ออกลูกเป็นหมูแล้ว!” ดาบคมต่อล้อต่อเถียงกับเด็กรุ่นลูกคอเป็นเอ็น “ไปนอนสำนึกในคุกสักคืนแล้วค่อยกลับบ้าน พี่ชายหรือทนายจะมารับล่ะ หรือไม่มีใครอยากมารับเพราะเอือมระอาเต็มทน”“ดาบ!”“พอก่อน ทั้งคู่เลย”ศิลาที่ยืนฟังมานานยกมือห้าม ดาบคมเมื่อนายปรามก็มีท่าทางอ่อนลง กระแอมไอเล็กน้อยแล้วขยับมายืนตรง เมื่อครู่ตกใจแล้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-26

บทล่าสุด

  • เมียสารวัตร NC-20   ปัจฉิมบท

    “ไม่เปลี่ยนใจแน่หรือ สารวัตร”ปฐพีถามด้วยความเสียดายซ้ำแล้วซ้ำเล่า ด้วยหวังว่าคำตอบของคนตรงหน้าจะเปลี่ยนไป“ไม่ครับ”แต่ไม่เลย...ผู้กำกับถอนหายใจเฮือกใหญ่ เขาคงเปลี่ยนใจศิลาไม่ได้อีกแล้ว ได้แต่ยอมรับความจริงว่ากำลังจะสูญเสียลูกน้องฝีมือดีไปอีกคนความรักฉันท์ชู้สาวไม่หลงเหลืออยู่แล้ว แต่ปฐพียอมรับโดยไม่อายว่ามีศิลาอยู่เขาทำงานได้ง่ายขึ้น ตลอดเวลากว่าแปดปีที่ผ่านมาศิลาสร้างผลงานเอาไว้มากมาย ถ้าหากอีกฝ่ายยอมรับ คงเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งได้ไม่ยากแต่ศิลาปฏิเสธเสียงแข็งเสมอมา ชายหนุ่มไม่ได้ต้องการตำแหน่งอะไรทั้งนั้น เขาแค่อยากทำงานตรงนี้ให้เต็มที่ ช่วยเหลือประชาชนอย่างสุดกำลัง ก่อนที่จะอำลาวงการตำรวจในสักวันหนึ่งแล้ววันนี้ก็มาถึงจนได้ปฐพีมองซองสีขาวตรงหน้า เขาไม่อยากหยิบมันขึ้นมาดูเลย เพราะรู้ดีว่าด้านในคืออะไร“ผู้กำกับอนุมัติเถอะครับ”“สารวัตรศิลา”“ผมไม่ได้ไปไหนนี่ครับ เมื่อไหร่ที่ผู้กำกับต้องการตัว ขอแค่บอก...ผมพร้อมจะช่วยเหลือเสมอ”ปฐพีเริ่มยิ้มออกมาได้ จริงอย่างที่ศิลาพูด ชายหนุ่มไม่ได้หายไปไหน เพราะอย่างไรสิ่งที่ศิลารักก็คือการได้ช่วยเหลือประชาชน เพียงแค่หลังจากนี้จะไม่ได้ทำมันใน

  • เมียสารวัตร NC-20   บทที่ ๔๐ โชคดี NC-20

    “ลูกหลับแล้วเหรอศาลาวัด”“อืม” ศิลารับคำสั้น ๆ ระหว่างที่แทรกตัวเข้าไปในผ้าห่มผืนเดียวกับภรรยา “คุณก็รีบนอนได้แล้ว วันนี้เลี้ยงลูกทั้งวันคงเหนื่อยน่าดู”“ไม่เลย ไม่เหนื่อยสักนิด”ไม่พูดเปล่า หนูนายังยืนยันว่าตัวเองไม่เหนื่อยด้วยการไต่มือเข้าไปในกางเกงนอนอีกฝ่าย ดวงตากวางแพรวพราวอย่างคนแสนเจ้าเล่ห์“หนูนา”“หืม”“คุณ อืม”ศิลาหลุดครางออกมาแผ่วเบา ร่างกายเขาตื่นตัวทันทีที่ถูกมือนุ่มนวดคลึงอย่างชำนาญ หนูนารู้ดีว่าแตะต้องส่วนไหนแล้วจะทำให้เขาทนไม่ไหว มือน้อย ๆ ขยับอย่างเอาใจจนกระทั่งความเป็นชายเหยียดขยายใหญ่เต็มมือ“ศาลาวัด เราไม่ได้ทำมาสักพักแล้วนะ”“คุณเลี้ยงลูก ผมกลัวว่าคุณจะเหนื่อยเกินไป”“ฉันพูดตอนไหนว่าเหนื่อย” หนูนาเลิกคิ้วขึ้นสูง ในขณะที่มือนุ่มคอยปลุกปั้นสิ่งที่อยู่ในมือไม่หยุด“อา ปละ เปล่า ไม่ได้พูด อืม”“ไม่ได้พูดก็แปลว่าไม่เหนื่อย ลูก ๆ ไม่ได้เลี้ยงยากเลย แถมปื๊ดกับแม่ก็คอยช่วยตลอด ฉันสบายจะตายไป”“แต่ยังไงมันก็ยังหนักเกินไปอยู่ดี” ศิลาแย้ง “เรามีลูกตั้งสี่คน ผมรู้ว่าคุณเหนื่อย คุณแค่ไม่ยอมรับความจริง”ศิลาอยากกอดหนูนาจะแย่ เขาเพิ่งอายุแค่สามสิบห้าปี ร่างกายยังแข็งแรงและมีควา

  • เมียสารวัตร NC-20   บทที่ ๓๙ สมาชิกใหม่

    ศิลาเหมือนกลายเป็นคนละคน จากที่เคยสุขุมกลายเป็นหนูติดจั่นที่เอาแต่เดินไปเดินมาอย่างร้อนรน หนูนาถูกส่งเข้าห้องคลอดทันทีที่มาถึงโรงพยาบาล เพราะหมอบอกว่าเธอพร้อมคลอดแล้วปากมดลูกเปิดพร้อมสำหรับให้กำเนิด ทว่าเข้าไปเป็นชั่วโมงแล้วประตูบานนั้นก็ยังปิดสนิท ศิลาไม่รู้ว่าการทำคลอดต้องใช้เวลานานแค่ไหน แต่เพราะไม่รู้เขาถึงได้จิตตกแบบนี้“หนูนา คุณจะต้องปลอดภัย”ตอนที่นั่งรถมาท่าทางของเธอดูเจ็บปวดมาก เสียงกรีดร้องทรมานน่าสงสารจับใจ หนูนาที่ปกติร้องไห้ยากร่ำไห้ออกมาเพราะเจ็บจนแทบทนไม่ไหว ศิลาแทบขาดใจ หากเลือกได้เขาอยากเป็นคนที่เจ็บเอง“ศิลา ศิลาลูก”คุณหญิงแจ่มจันทร์ที่เพิ่งมาถึงรีบวิ่งเข้าไปหาลูกชาย หัวใจหล่นวูบไปกองที่ปลายเท้าเมื่อเห็นว่าศิลากำลังร้องไห้“ศิลา! เกิดอะไรขึ้น ร้องไห้ทำไม หนูนาเป็นอะไร!”“หนูนาเป็นอะไรหรือพ่อศิลา”ใบบัวที่ตามมาติด ๆ ร้องถามย้ำ ท่าทางไม่สู้ดีของลูกเขยทำให้หัวใจคนเป็นแม่แทบขาดรอน ๆ แม้ว่าสมัยนี้การคลอดจะปลอดภัยว่าสมัยเธอมาก แต่คนที่เคยผ่านความเจ็บปวดมาก่อนย่อมรู้ดีว่ามันทรมานเพียงใด“ผม ฮึก ผม” ศิลาสะอื้น เขารีบรวบรวมสติ ก่อนที่เรื่องราวมันจะไปกันใหญ่ “หนูนาไม่ได้เป็

  • เมียสารวัตร NC-20   บทที่ ๓๘ บทสรุป

    ศิลานั่งฟังคำตัดสินของศาลอย่างเงียบสงบ วันนี้เป็นวันนัดตัดสินคดีค้ายาเสพติดของนายเจตน์ หลังจากผ่านมาเกือบปี คดีที่ใหญ่ที่สุดในอำเภอก็ถึงเวลาถูกพิพากษานายเจตน์ให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี และซัดทอดไปถึงตัวการใหญ่ที่กรุงเทพฯ ทำให้ตำรวจทำงานได้ง่ายขึ้น และจับพ่อค้ารายใหญ่ได้ในที่สุด เพราะเหตุผลนี้ทำให้โทษของนายเจตน์ลดน้อยลง จากประหารชีวิตเป็นติดคุกตลอดชีวิต ก่อนจะถูกลดให้เหลือจำคุกสี่สิบปี แต่ถึงอย่างนั้นระยะเวลาสี่สิบปีในคุก ก็แทบไม่ต่างจากทั้งชีวิตที่เหลืออยู่“นายเจตน์”หลังคำตัดสินสิ้นสุดลง นายเจตน์ไม่ได้ยื่นอุทธรณ์และยินดีรับโทษที่ศาลชั้นต้นตัดสิน อดีตมือขวาของพ่อค้ายาจึงถูกกุมตัวอย่างแน่นหนา เพื่อเตรียมรับโทษทัณฑ์จากสิ่งที่ตัวเองได้กระทำ นายเจตน์มีสีหน้าไม่ยินดียินร้าย ดวงตาเหม่อลอยอย่างคนที่ปลงตกกับทุกอย่าง“นายเจตน์”เจตน์ไม่ได้ยินแม้แต่เสียงเรียกใกล้ ๆ ศิลามองหน้าหนูนา คนเป็นสามีเห็นความกังวลในดวงตากวางคู่นั้น“นายเจตน์” หนูนาส่งเสียงเรียกอีกครั้ง ครั้งนี้นายเจตน์ยอมหันมาสบสายตา ทว่าดวงตาคู่นั้นว่างเปล่าไร้แววจนน่าใจหายหนูนากลัวเหลือเกินว่านายเจตน์จะหาทางจบชีวิตตัวเองสักวัน เพร

  • เมียสารวัตร NC-20   บทที่ ๓๗ บ้านใหม่

    “ศาลาวัด!”“หนูนา ผมบอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าวิ่ง” คิ้วเข้มขมวดฉับ เมื่อเห็นร่างที่เริ่มอวบอิ่มของภรรยาวิ่งเหยาะ ๆ เข้ามาหา “ไหนคุณบอกว่าจะไม่ดื้อกับผมเรื่องนี้”“ก็ฉันลืมตัว มันไม่ชินนี่นา”“คุณท้องห้าเดือนแล้วนะ ถึงไม่ชินก็ต้องชิน ถ้าล้มขึ้นมาทั้งคุณและลูกจะเป็นอันตราย” ศิลาดุเสียงเข้ม เรื่องอื่นเขายอมได้เสมอ ยกเว้นเรื่องนี้หนูนาเป็นคนที่อยู่ไม่นิ่ง เธอชอบทำนู่นทำนี่ไปเรื่อย ศิลาไม่เคยบังคับหรือทำเหมือนหนูนาเป็นคนพิการ เขาขอแค่ต้องระวัง แต่ดูเหมือนว่าหนูนาจะรับปากไปอย่างนั้น เพราะเกือบทุกวันเขาต้องมานั่งปวดหัวกับพฤติกรรมที่ไม่เหมือนคนท้องของภรรยายิ่งท้องใหญ่กว่าปกติแบบนี้เขายิ่งเป็นกังวล“นายทำอะไรอยู่” หนูนาแสร้งเปลี่ยนเรื่องเนียน ๆ ชะโงกหน้ามองบ้านหลังใหม่ที่มีคนเดินไปมาพลุกพล่าน“คุมคนงานให้เอาของเข้าบ้าน”“อีกไม่นานก็จะได้ย้ายเข้าบ้านใหม่แล้วสินะ”ทั้งคู่มองบ้านใหม่หลังใหญ่ด้วยความพึงพอใจ นับว่าผู้รับเหมาทำงานได้ดีทีเดียว บ้านหลังนี้เป็นบ้านแนวผสมสผานระหว่างไทยและยุโรปอย่างลงตัว เพราะศิลาเคยไปเรียนที่แถบนั้น เขาชื่นชอบบ้านแนวยุโรปมาก ส่วนหนูนาแม้จะไม่เคยไป แต่เธอก็ชอบดูรูปภาพของต

  • เมียสารวัตร NC-20   บทที่ ๓๖ ปรับความเข้าใจ

    “ฉันอยากอยู่คนเดียว”พูดแค่นั้นก็ทิ้งตัวลงนอน แล้วหันหลังให้คนที่ไม่ยอมออกไปเหมือนคนอื่นทันทีอยากอยู่ก็อยู่ไป เธอไม่สนใจเสียอย่าง“ฉันมีเรื่องอยากคุยกับเธอ”“.....”“ฉันรู้ว่าเธอได้ยิน ดังนั้นฉันจะพูดต่อไป” คุณหญิงแจ่มจันทร์กระแอมไอเล็กน้อย ก่อนจะเริ่มพูดเรื่องที่ติดค้างอยู่ในใจมาเนิ่นนาน “สามีฉัน พ่อของศิลาเขามีภรรยาน้อย”หนูนาที่ตอนแรกไม่คิดสนใจหูผึ่งทันที แต่ยังคงรักษาท่าทางเมินเฉยเอาไว้ คุณหญิงที่ผ่านโลกมามากพอจะมองออกว่าเด็กคนนี้กำลังตั้งใจฟัง จึงค่อย ๆ ถ่ายทอดเรื่องราวที่ไม่เคยเล่าให้ใครฟังมาก่อนอย่างหมดเปลือก“แต่ก่อนฉันเป็นแค่ลูกของแม่ค้าธรรมดา คุณศักดิ์ พ่อของศิลาเขาเป็นลูกค้าประจำ เขาเกี้ยวฉัน ตามเทียวไล้เทียวขื่อจนฉันใจอ่อนและตกหลุมรักเขา พวกเรารักกันมาก ไม่เคยทะเลาะบอกแว้ง เป็นคู่รักที่ใคร ๆ ต่างก็พากันอิจฉา และในที่สุดพวกเราก็ตกลงปลงใจแต่งงานกัน ฉันคาดหวังว่าการแต่งงานจะเป็นเหมือนในนิยาย ที่พวกเราจะได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขตลอดไป”คุณหญิงเงียบไปสักพัก ก่อนจะเริ่มพูดต่อ“แต่ชีวิตจริงมันไม่ใช่นิยาย คุณศักดิ์เติบโตมาในตระกูลตำรวจ พ่อของเขา พี่น้องของเขาล้วนเป็นตำ

  • เมียสารวัตร NC-20   บทที่ ๓๕ น้อยใจ

    คนท้องถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลหลังจากทุกอย่างจบลง แม้ว่าหนูนาจะปฏิเสธเสียงแข็งว่าตนเองไม่ได้เป็นอะไร ไม่ได้เจ็บตรงไหนแม้แต่นิดเดียว แต่ศิลาไม่คิดฟัง เขายื่นคำขาดว่ายังไงหนูนาก็ต้องไปให้หมอตรวจอย่างละเอียด เขาถึงจะสบายใจได้“คุณท้องผมก็ได้รู้เป็นคนสุดท้าย ตอนนี้ผมแค่อยากได้ความสบายใจ คุณก็ให้ผมไม่ได้”คำพูดตัดพ้อของสารวัตรหนุ่มทำเอาหนูนาไปไม่เป็น สุดท้ายเธอก็จำต้องยอม เพราะตัวเองมีชนักติดหลังอันเบอเร่อ พอตรวจเสร็จศิลาก็ร้องขอกึ่งบังคับให้เธอนอนที่โรงพยาบาลสักคืนหนูนายอมสามีแต่โดยดี เพราะรู้ว่าที่ศิลาวิตกแบบนี้ก็เป็นเพราะตัวเธอเองที่เก็บงำเรื่องลูกเอาไว้ ทั้งยังเอาตัวเองไปเสี่ยงแบบนั้น ถึงจะปลอดภัยแต่หัวอกคนเป็นพ่อคงไม่หายกังวลง่าย ๆสารวัตรหนุ่มเป็นคนอยู่เฝ้าภรรยา เขาให้หนูนานอนห้องพิเศษที่มีราคาสูง เพราะญาติจะสามารถอยู่เฝ้าได้ หลังจากราชันกลับบ้านไป ทั้งห้องจึงเหลือเพียงสองสามีภรรยาตามลำพัง ส่วนญาติ ๆ ตกลงกันว่าจะตามมาเยี่ยมพรุ่งนี้ เพราะต้องการให้สองคนที่เจอเรื่องหนัก ๆ มาได้พักสักคืนที่สำคัญ ราชันพอจะมองออกว่าลูกเขยกำลังน้อยใจที่หนูนาปิดบังเรื่องท้อง เขาอยากให้ทั้งคู่ได้ใช้เวลาปรับควา

  • เมียสารวัตร NC-20   บทที่ ๓๔ จบแล้วจริง ๆ

    “ใครบอกพวกมึงว่ามันจบแล้ว” ดวงหน้าสวยยังคงนิ่งสงบ แม้จะได้ยินเสียงกระซิบแหบพร่าพร้อมกับบางอย่างที่สัมผัสกับแผ่นหลัง ไม่ต้องหันไปมองก็รู้ว่ามันคืออะไร เสียงกริ๊กเบา ๆ แทบฉุดลมหายใจของศิลาให้หลุดปลิว“มึงถอยออกไปไอ้ตำรวจ” เสียงดุดันออกคำสั่ง “พวกมึงก็อย่าเสนอหน้าเข้ามาใกล้ ไม่อย่างนั้นอีนี่ไส้ไหลแน่”“คุณ...คือ”“นายเจตน์” คนที่ตอบไม่ใช่เจ้าของชื่อ แต่เป็นหนูนาที่ยังคงรักษาสีหน้าเรียบนิ่งไว้ได้ “มือขวาของดาบคม”ดวงตาคมสั่นไหวเล็กน้อย ก่อนจะกลับมามั่นคงเหมือนเดิม หนูนาที่ถูกจี้ตัวไม่มีท่าทีหวาดกลัว เขาเองก็ไม่ควรแสดงอาการอะไรออกไป เพราะนั่นจะยิ่งทำให้คนร้ายได้ใจ“กูบอกให้ถอยออกไป!!! อย่าคิดว่ากูไม่กล้ายิง”“ไม่เป็นไร นายถอยออกไปก่อนนะสารวัตร”“ออกไป!!!”“รู้แล้ว รู้แล้ว”ศิลายกมือทั้งสองข้างขึ้นสูง เขายอมถอยห่างแต่โดยดี แม้แต่ราชันเองก็ไม่กล้าเสี่ยง ทั้งหมดถอยออกมาพอประมาณ จดจ้องมองหนูนาที่ถูกจับเป็นตัวประกันไม่วางตา“พวกมึงทำให้นายกูต้องตาย!!” น้ำเสียงของเจตน์เต็มไปด้วยความโกรธแค้นและสะเทือนใจ “พวกมึงมันชั่ว!”“แล้วพวกค้ายาเรียกว่าคนดีได้เหรอ” ราชันถามเสียงเรียบ “กี่คนแล้วที่ต้องตายเพร

  • เมียสารวัตร NC-20   บทที่ ๓๓ คลั่ง (เนื้อหารุนแรง)

    ไม่เจ็บศิลาไม่รู้สึกว่ามีส่วนไหนในร่างกายที่เจ็บปวด เขารีบลืมตาขึ้น มองสำรวจร่างกายที่ปกติของตัวเอง ก่อนที่ดวงตาคมจะเบิกโพลง เมื่อเห็นว่าร่างท้วมของนายดาบล้มลงพร้อมกับเลือดที่ไหลนองออกมาจากศีรษะ“ดาบคม!!”“เหี้ยเอ้ย!! ทำไมมันถึงได้โง่ขนาดนี้วะ!! มาถึงขนาดนี้แต่เสือกฆ่าตัวตาย กระจอกฉิบหาย”หมวดก้องสบถด่า ไม่ได้มีท่าทีเสียอกเสียใจแม้แต่น้อย ที่คนที่ตนเองเรียกว่านายเลือกจบชีวิตตัวเองลงอย่างน่าอนาถแบบนี้คมไม่ได้หันปืนเข้าหาศิลา เขายกมันขึ้นจ่อที่ขมับของตัวเอง แล้วลั่นไกโดยไร้ซึ่งท่าทีลังเลใด ๆปิดฉากพ่อค้ายาในคราบนายตำรวจ ด้วยเลือดเนื้อและลมหายใจ“พาดาบคมไปโรงพยาบาล!” ศิลาออกคำสั่งเสียงสั่น “เร็วสิหมวดก้อง พาดาบคมไปหาหมอ!!”“หุบปาก!!” หมวดก้องยกปืนขึ้นจ่อขมับชื้นเหงื่อ “มันเสือกกระจอกเอง อยากตายนักก็ปล่อยให้มันตายสมใจ”“แกมันสัตว์นรก นั่นคนที่แกเรียกว่านายไม่ใช่เหรอ!”ผลัวะ!“กูไม่ได้ใจดีเหมือนไอ้คมจะโว้ย! ยังไงวันนี้มึงก็ต้องตาย ยังจะเสือกปากดีอีก อยากศพไม่สวยเหรอวะ”ศิลาถูกถีบจนกลิ้งไปกับพื้น ไม่ทันได้ลุกก็ถูกเตะเข้าที่ซี่โครงอีกหลายต่อหลายครั้งจนกระอักเลือดออกมากองโต“อีกอย่างนะ ถึงไ

DMCA.com Protection Status