วสันต์ในห้วงฝัน

วสันต์ในห้วงฝัน

โดย:  อิ่น เยว่  อัปเดตเมื่อครู่นี้
ภาษา: Thai
goodnovel18goodnovel
คะแนนไม่เพียงพอ
18บท
6views
อ่าน
เพิ่มลงในห้องสมุด

Share:  

Report
Overview
Catalog
แสดงความคิดเห็นของคุณในแอพพลิเคชัน

ตำนานคำสาปของตระกูลลู่ที่ส่งต่อกันมาเป็นเวลาหลายชั่วอายุคนได้ก่อให้เกิดความทุกข์ทรมานแก่ลูกหลานของตระกูลลู่อย่างไม่สิ้นสุด โดยเฉพาะความรักซึ่งถูกกำหนดไว้ว่าไม่อาจสมหวังได้ ผู้ใดในตระกูลลู่ที่เกิดความรักมักจะต้องเผชิญกับความเจ็บปวด ความสูญเสีย หรือการพลัดพรากที่ไม่มีทางกลับคืนมา "ลู่หยวนฮวา" หญิงสาวผู้เป็นทายาทคนสุดท้ายของตระกูลลู่ ต้องเผชิญกับชะตากรรมอันโหดร้ายของตระกูลเมื่อนางพบว่าพี่ชายของนาง "ลู่หยาง" หายตัวไปอย่างลึกลับในการรบกับแคว้นศัตรู ด้วยความหวังที่จะตามหาพี่ชาย ลู่หยวนฮวาพยายามหลบหนีออกจากจวนที่ถูกกักขังด้วยพลังของมารดา และได้ร่วมเดินทางกับ "จางชิงหยวน" แม่ทัพหนุ่มผู้ซึ่งมีความหลังที่ฝังใจ ระหว่างการเดินทาง ความสัมพันธ์ระหว่างลู่หยวนฮวาและจางชิงหยวนค่อย ๆ พัฒนา แม้ว่าจางชิงหยวนจะเต็มไปด้วยความแค้นที่ฝังลึกจากการสูญเสียคนรักเก่าไปในสงคราม แต่เขากลับค่อย ๆ เปิดใจและยอมรับความรักที่มีต่อลู่หยวนฮวา เมื่อความจริงเกี่ยวกับคำสาปและชาติกำเนิดของลู่หยวนฮวาถูกเปิดเผย จางชิงหยวนจะยังคงรักนางอยู่อีกไหม ความรักของลู่หยวนฮวาจะสมหวังได้หรือไม่

ดูเพิ่มเติม
วสันต์ในห้วงฝัน Novels Online Free PDF Download

Latest chapter

Interesting books of the same period

ความคิดเห็น

ไม่มีความคิดเห็น
18

บทนำ

ตำนานคำสาปของตระกูลลู่เป็นเรื่องเล่าที่ถูกส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นมานานหลายศตวรรษ เรื่องราวของคำสาปนี้เริ่มต้นจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อหลายร้อยปีก่อน โดยมีบรรพบุรุษของตระกูลลู่ชื่อว่า “ลู่เฉินหยวน” ผู้เคยรับใช้แคว้นต้าหยางอย่างซื่อสัตย์ แต่กลับกลายเป็นบุรุษผู้ที่ก่อการทรยศต่อแคว้นและแผ่นดินที่เขาเคยปกป้องในเวลานั้น ลู่เฉินหยวนเป็นกุนซือคนสำคัญของกองทัพต้าหยาง ไม่มีใครคาดคิดว่าเขาจะกลายเป็นไส้ศึกที่นำความหายนะมาสู่แคว้นของตนเองความทรยศของเขานำไปสู่ความพ่ายแพ้ครั้งยิ่งใหญ่ของแคว้นต้าหยาง กองทัพของต้าหยางถูกทำลายล้างและเหล่าทหารนับพันต้องสูญเสียชีวิตในการรบหลังจากการพ่ายแพ้ครั้งนั้น ผู้คนในแคว้นต้าหยางต่างโศกเศร้าและเคียดแค้นต่อการทรยศของลู่เฉินหยวน เหล่าทหารและครอบครัวที่สูญเสียคนรักและผู้เป็นที่พึ่งต่างสาปแช่งเขาและตระกูลลู่ ความแค้นที่เกิดจากการสูญเสียผู้เป็นที่รักในสงครามครั้งนั้นนำมาซึ่ง คำสาปแห่งความรักที่จะติดตามลูกหลานของตระกูลลู่ไปชั่วกาลนานคำสาปนี้กล่าวไว้ว่า "ผู้ใดในตระกูลลู่ที่เกิดมีความรัก ย่อมต้องเผชิญชะตากรรมอันโหดร้าย" หากไม่สูญเสียคนรักด้วยความตาย ก็ต้องมีเหตุให้พลัดพ
Read More

เมื่อพันธนาการเริ่มสั่นคลอน

ภายในหอบรรพชนอันเงียบสงัดของตระกูลลู่ แสงเทียนริบหรี่สะท้อนแสงวูบไหว เผยให้เห็นเงาร่างระหงของหญิงสาวผู้หนึ่งลู่หยวนฮวา ยืนอยู่ท่ามกลางกลิ่นธูปหอมที่อบอวลในอากาศ ชุดอาภรณ์สีม่วงอ่อนปักลายดอกเหมยกุ้ยสวยงามโอบล้อมร่างกายของนางด้วยความละมุนละไม ดวงตาสีนิลคู่งามจับจ้องไปยังแท่นบูชาบรรพบุรุษตรงหน้า แสงไฟจากเปลวเทียนอันอ่อนโยนสะท้อนให้เห็นใบหน้าที่งดงามของนาง แต่กลับแฝงด้วยความโศกเศร้าอย่างลึกล้ำเสียงธูปไหม้ดังเบาๆ ในห้องบูชา แต่มันไม่ได้ทำให้หัวใจของลู่หยวนฮวาสงบ ย้อนกลับไปนึกถึงวันที่ทุกอย่างยังคงสดใส วันเวลาที่เต็มไปด้วยความสุขและความอบอุ่นในครอบครัว วันที่นางและพี่ชายยังคงใช้เวลาร่วมกันในสวนดอกไม้หลังจวนตระกูลลู่ เสียงหัวเราะและคำพูดอ่อนโยนยังคงดังอยู่ในความทรงจำของนางในวัยสิบสี่หนาว ลู่หยวนฮวานั่งเล่นอยู่บนม้านั่งหินในสวนดอกไม้ สายลมพัดผ่านใบหน้าของนางพร้อมกับกลีบดอกไม้ที่โปรยปรายลงมา นางยิ้มรับกับความสวยงามของโลกใบนี้โดยไม่รู้ถึงความมืดมนที่กำลังจะมาถึง นางมีความสุข และหัวใจของนางเต็มไปด้วยความหวัง“ฮวาเอ๋อร์ เจ้ามานั่งทำอะไรอยู่ตรงนี้?” เสียงทุ้มนุ่มของลู่หยางดังขึ้นจากด้านหลัง นาง
Read More

ก้าวแรก

ภายในอาณาเขตของจวนตระกูลลู่ในค่ำคืนอันเงียบสงัด แสงเทียนริบหรี่สะท้อนเงาร่างของ "ลู่หยวนฮวา" หญิงสาวผู้ไม่เคยยอมแพ้ต่อโชคชะตา นางยืนอยู่ในชุดอาภรณ์สีม่วงอ่อนปักลายดอกเหมยกุ้ย ดวงตาสีนิลคู่งามของนางจับจ้องไปยังม่านอาคมสีม่วงที่ปกคลุมจวนมานาน ซึ่งขณะนี้กำลังแสดงสัญญาณการปริแตกผนึกนี้เคยเป็นเกราะป้องกันที่มารดาของนางสร้างขึ้น แต่บัดนี้ มันกลับกลายเป็นพันธนาการที่กักขังนางไว้ไม่ให้ออกจากจวนลู่หยวนฮวาเดินเข้าไปใกล้ผนึก ความดื้อรั้นที่เป็นลักษณะเด่นของนางตั้งแต่เด็กทำให้นางไม่ยอมปล่อยโอกาสนี้หลุดลอยไป หัวใจของนางเต้นแรงขึ้น นางสัมผัสได้ว่าผนึกที่เคยแน่นหนากำลังจะพังทลายลง ซึ่งนั่นหมายความว่านางอาจจะสามารถออกจากจวนนี้ไปตามหาพี่ชาย "ลู่หยาง" ที่หายสาบสูญไปได้"ผนึกของท่านแม่กำลังอ่อนลงแล้ว..." ลู่หยวนฮวาพึมพำ น้ำเสียงของนางสะท้อนถึงความมุ่งมั่นที่เต็มเปี่ยม นัยน์ตาสีนิลของหญิงสาวทอประกายด้วยความดื้อรั้นและความแน่วแน่ในขณะที่หญิงสาวยื่นมือสัมผัสผนึกนั้น สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ภาพนิมิตที่หายไปนานกลับพุ่งเข้ามาในสมองของนาง นิมิตนั้นชัดเจนเกินกว่าความฝัน มันเหมือนกับว่าพลังวิเศษที่นางสืบทอ
Read More

บาดแผลที่ไม่อาจลืม

ท้องฟ้าเหนือกองทัพต้าหยางยังคงแต้มด้วยสีหม่นของเมฆหมอกที่ลอยคลุมราวกับเงาแห่งความอึมครึมภายในใจของใครบางคน แม้ว่าการเดินทัพของกองทัพกล้าจะเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและเสียงแห่งความภาคภูมิใจ แต่สำหรับแม่ทัพใหญ่ “จางชิงหยวน” แล้วนั้นความรู้สึกของเขากลับไม่ได้สะท้อนภาพแห่งชัยชนะนั้นเลยจางชิงหยวนขี่ม้าสูงสง่านำหน้าเหล่าทหารที่กลับมาจากการยึดครองหัวเมืองทางตะวันออก ทหารแต่ละคนดูมีความสุขและโล่งใจที่สามารถกลับมาเยือนบ้านเมืองได้อีกครั้งหลังจากการสู้รบอันยาวนาน เสียงพูดคุยและรอยยิ้มที่แสดงถึงความปลอดภัยทำให้บรรยากาศดูสดใส แต่จางชิงหยวนกลับไม่มีความรู้สึกร่วมใดๆ กับพวกเขาเลยสักนิดดวงตาสีน้ำตาลอ่อนของแม่ทัพหนุ่มทอดมองออกไปยังเส้นขอบฟ้าไกล ท่ามกลางหมอกหนาที่ปกคลุมแผ่นดินเบื้องหน้า แต่สิ่งที่เขาเห็นไม่ใช่ความยินดีใดๆ หากแต่เป็นภาพจำในอดีตที่กัดกินจิตใจของเขามานานถึงสามปี ภาพของเพลิงสงคราม เสียงกรีดร้อง ความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ที่ไม่มีวันหวนคืน และใบหน้าของคนรักที่ไม่อาจลืมเลือนไปได้สามปีก่อน...ควันไฟพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า เสียงโห่ร้องของศัตรูจากแคว้นเสียนหู่ดังกลบเสียงลมและเสียงฟ้าร้องรอบๆ พวกมันบุ
Read More

การเผชิญหน้า

ลู่หยวนฮวาก้าวเดินไปตามเส้นทางเล็ก ๆ ที่เลียบไปกับแนวป่าทึบ ความเงียบสงัดของป่าโอบล้อมนางราวกับกำแพงที่หนาทึบ ต้นไม้สูงใหญ่ที่แผ่กิ่งก้านสาขาปกคลุมท้องฟ้าเหนือศีรษะ ปิดกั้นแสงอาทิตย์ให้เลือนลางรางจากท้องฟ้าสีครึ้ม ทำให้ป่าแห่งนี้ดูมืดสลัวไปทุกทิศทาง ทว่าบรรยากาศนี้กลับทำให้นางรู้สึกสงบใจ รู้สึกปลอดภัยเมื่ออยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่ไม่มีกฎเกณฑ์ของมนุษย์มาคอยขีดเส้นไว้การตัดสินใจเดินทางเลี่ยงเมืองหมิงอี้ในครั้งนี้เป็นสิ่งที่ลู่หยวนฮวาคิดมาอย่างรอบคอบ ในเมืองหมิงอี้เป็นที่รู้กันว่าตระกูลลู่ของนางถูกกล่าวขานถึงตำนานคำสาปที่เล่นงานพวกเขามาอย่างยาวนานชาวเมืองหวาดกลัวตระกูลลู่ เพราะเชื่อว่าสายเลือดของพวกเขานำพาความหายนะและโชคร้ายไปทุกหนแห่งความเชื่อเหล่านั้นไม่ได้เป็นเพียงคำลือแต่อย่างใด หญิงสาวที่เกิดในตระกูลลู่เมื่อแต่งงานออกไปก็ไม่เคยมีใครพบความสุขได้ยืนยาว พวกนางมักจะนำความตายมาสู่คนรักเสมอ คล้ายกับดวงชะตากินสามี ไม่ว่าจะเป็นโรคภัย ภัยธรรมชาติ หรืออุบัติเหตุ หากใครได้เป็นคู่ครองกับคนตระกูลลู่ ชีวิตก็มักจะจบลงอย่างน่าสลด นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมชาวเมืองหมิงอี้ถึงรังเกียจและหวาดกลัวนางยิ่งนัก
Read More

ค่ายหมิงอี้

ในป่าที่เงียบสงบ ลมเบาๆ พัดผ่าน ใบไม้พลิ้วไหวส่งเสียงกรอบแกรบคล้ายเป็นเสียงกระซิบของป่า ลู่หยวนฮวาหายใจเข้าลึก เสียงของสายลมและธรรมชาติรอบข้างค่อยๆ คลายความตึงเครียดในใจนางลงเล็กน้อย แต่ก็เพียงชั่วครู่นางรู้ดีว่าสถานการณ์ของตนในตอนนี้ไม่อาจวางใจอะไรได้ขณะที่นางยืนอยู่ท่ามกลางทหารที่เพิ่งล้อมเข้ามา เสียงพลทหารคนหนึ่งเอ่ยชื่อ "ท่านแม่ทัพจางชิงหยวน!"หัวใจของลู่หยวนฮวาเต้นแรงขึ้นอีกครั้ง ความทรงจำเกี่ยวกับพี่ชายของนางผุดขึ้นมาในทันที“จางชิงหยวน...” ชื่อนี้ชัดเจนในความทรงจำของนาง เขาคือเจ้านายของลู่หยาง พี่ชายของนางซึ่งหายตัวอย่างเป็นปริษนาไปเมื่อสามปีก่อนนางขยับตัวเล็กน้อย ดวงตาที่เคยเฉื่อยชาเมื่อครู่กลับเปล่งประกายขึ้น นางมองไปที่จางชิงหยวนอย่างละเอียดอีกครั้ง เขาดูเงียบขรึมและเยือกเย็น ราวกับว่าเขาคือคนที่ควบคุมทุกอย่างรอบตัวได้อย่างสมบูรณ์แบบ ความสงสัยผุดขึ้นในใจของลู่หยวนฮวา ว่าชายคนนี้มีบทบาทอะไรหรือไม่ในการหายตัวไปของพี่ชายของนางลู่หยวนฮวาแสร้งแสดงท่าทีนอบน้อมทันที นางค่อยๆ ก้มศีรษะเล็กน้อย“ท่านแม่ทัพ ข้าไม่มีสิ่งใดจะตอบแทนบุญคุณที่ท่านช่วยชีวิตข้าไว้ แต่ข้าขออนุญาตติดตามท่านไ
Read More

เงาในความมืด

ลู่หยวนฮวาค่อยๆ เริ่มรู้สึกถึงความสงสัยที่กัดกร่อนในใจหลังจากที่ได้ยินชื่อของ “ลู่หยาง” หลุดออกจากปากของพลทหารคนหนึ่ง ทันทีที่ทหารผู้นั้นเอ่ยชื่อนี้ เขาก็รีบปิดปากเงียบเหมือนรู้สึกได้ถึงความผิดพลาด ลู่หยวนฮวาเงี่ยหูฟัง แสร้งทำเป็นไม่ได้สนใจ แต่ทว่าในใจของนางกลับเต็มไปด้วยคำถามมากมาย"ลู่หยาง...พี่ใหญ่" นางพึมพำเบาๆ ชื่อนี้ไม่ใช่ใครอื่น นอกจากพี่ชายเพียงคนเดียวที่นางตามหามาตลอด และบัดนี้ นางอาจจะพบร่องรอยของเขาอยู่ที่ค่ายทหารนี้ก็เป็นได้ หญิงสาวตัดสินใจแน่วแน่ทันทีว่าจะต้องสืบหาเรื่องราวนี้ด้วยตัวเองบรรยากาศในป่ายามวิกาลเงียบงัน มีเพียงเสียงลมพัดใบไม้ไหวที่แว่ว ความมืดมิดกลืนกินทุกสิ่งรอบตัว ลู่หยวนฮวาก้าวเดินเบาๆ ระวังไม่ให้เกิดเสียงฝีเท้ากระทบกับพื้นดินที่เต็มไปด้วยกิ่งไม้และใบไม้แห้ง นางรู้ดีว่าการถูกจับได้ในตอนนี้อาจเป็นจุดจบของแผนการที่วางไว้ความมืดที่แผ่ปกคลุมทำให้ทุกก้าวเดินเป็นไปอย่างเชื่องช้าและรัดกุม เสียงหายใจของนางค่อยๆ ถี่ขึ้นพร้อมกับความตึงเครียดที่เพิ่มมากขึ้นทุกขณะ หัวใจของนางเต้นแรงราวกับจะหลุดออกจากอก นางจับจ้องไปข้างหน้า พยายามฟังเสียงเล็กๆ ที่อาจบ่งบอกถึงการมาถึงข
Read More

หากเราร่วมมือกัน

จางชิงหยวนยืนนิ่งอยู่ในกระโจม สายตาคมกริบจ้องมองไปยังลู่หยวนฮวาที่นั่งอยู่ตรงหน้า นางไม่ได้หลบสายตาเขาเลยสักนิด ในใจของจางชิงหยวนยังคงมีความไม่แน่ใจ เพราะประสบการณ์ในสนามรบนั้นหล่อหลอมให้เขาระมัดระวัง ทำให้ความเชื่อใจนั้นเป็นสิ่งที่หาได้ยากสำหรับจางชิงหยวน“ข้าจะให้คนคอยจับตาดูเจ้า อย่าคิดที่จะหักหลังข้าละกองทัพของต้าหยาง ไม่เช่นนั้นแล้วจุดจบของเข้าคงจะไม่สวยเท่าไหร่ ลู่หยวนฮวา” เขากล่าวในใจหลังจากปล่อยลู่หยวนฮวากลับไปทำงานที่ครัวเขาสั่งให้ตวนหลี่และจิ่งซื่อ พลทหารคนสนิทของเขาคอยจับตาดูการกระทำทุกอย่างของลู่หยวนฮวาอย่างใกล้ชิดแต่ถึงกระนั้น จางชิงหยวนเองก็ยังไม่ละสายตาจากนาง เขามักจะสังเกตการกระทำของนางอย่างเงียบๆ มองหาพฤติกรรมสุมเสี่ยงที่อาจจะทำให้หญิงสาวหลุดพิรุธ หรือเผยให้เห็นความลับที่นางปกปิดเอาไว้ลู่หยวนฮวาพยายามทำตัวให้เป็นปกติเหมือนทุกวัน พยายามที่จะไม่แสดงออกถึงความกังวล แต่ในใจลึกๆ นางก็รู้สึกอึดอัดกับสถานการณ์เช่นนี้ นางไม่อาจพูดความจริงได้ เพราะหากจางชิงหยวนรู้ว่านางเป็นน้องสาวของลู่หยาง พี่ชายที่หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยนางเกรงว่าตนเองและพี่ชายอาจจะตกอยู่ในอันตรายได้ ได้
Read More

หมู่บ้านชาวนา

หลังจากเหตุการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นอย่างไม่คาดฝัน ค่ายทหารหมิงอี้ต้องเผชิญกับความเสียหายหลายจุด เสบียงอาหารที่เคยมีสำรองไว้กลับลดลงอย่างรวดเร็ว ไม่เพียงแต่เส้นทางการขนส่งถูกทำลาย น้ำท่วมยังสร้างความเสียหายต่อการกักเก็บเสบียงจนเกิดปัญหาใหญ่ลู่หยวนฮวาเดินสำรวจไปรอบค่าย สายตาของนางมองเห็นความเหนื่อยล้าของทหารที่ต่างก็ทำงานอย่างหนักในการซ่อมแซมค่าย บรรยากาศรอบตัวเต็มไปด้วยความเงียบงันและตึงเครียด เสียงพูดคุยที่เคยคึกคักกลับเหลือเพียงการกระซิบเบาๆ เมื่อเผชิญกับความกังวลเรื่องเสบียงอาหารที่ลดน้อยลงทุกที ทหารแต่ละคนแสดงออกถึงความกังวลที่ซ่อนอยู่ลึกๆ ทั้งเรื่องอาหารและความอยู่รอดหญิงสาวรู้ว่าหากเสบียงหมดลงในช่วงที่ถนนหนทางยังขาด ค่ายทหารแห่งนี้อาจจะไม่สามารถรับมือกับสถานการณ์เลวร้ายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้ด้วยความที่เป็นคนท้องที่ ถึงแม้จะไม่มีโอกาสได้เข้าไปในตัวเมืองแต่นางก็รู้จักแหล่งเสบียงของเมืองดี นางตัดสินใจอาสาออกเดินทางไปยังหมู่บ้านชาวนาที่อยู่ไม่ไกลจากค่าย โดยหวังว่าจะสามารถติดต่อซื้อเสบียงหรือของใช้ที่จำเป็นจากชาวบ้านได้“ข้าจะขออนุญาตท่านแม่ทัพออกเดินทางไปหมู่บ้านชาวนาที่อยู่ไม่ไก
Read More

สายฝนแห่งโชคชะตา 1/2

หลังจากการเดินทางอันยากลำบากข้ามแม่น้ำ ในที่สุดลู่หยวนฮวาและจางชิงหยวนก็เดินทางมาถึงหมู่บ้านชาวนาที่อยู่ไม่ไกลจากค่าย แม้ภายนอกหมู่บ้านจะดูเงียบสงบ แต่เมื่อเดินลึกเข้าไป ความเงียบสงบที่น่าจะมีกลับถูกทำลายด้วยเสียงไอแห้งๆ ดังมาจากบ้านหลังหนึ่ง ตามด้วยเสียงไอที่ดังขึ้นจากอีกหลายบ้าน“ดูเหมือนชาวบ้านที่นี่จะป่วยกันหนัก” ลู่หยวนฮวากล่าวเสียงเบา พร้อมกวาดตามองชาวบ้านที่นอนซมอยู่บนเตียง ผิวซีดเซียว ตัวร้อนจัด และไออย่างรุนแรง“เป็นเพราะแหล่งน้ำสกปรก” ชายชราคนหนึ่งเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา แต่หนักแน่นด้วยความทุกข์ใจ “น้ำที่ใช้การเกษตรถูกปนเปื้อนจากพายุ น้ำท่วมที่ไหลผ่านพาเอาโคลนและสิ่งสกปรกมาด้วย ข้าไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร พวกท่านข้าขอร้องหล่ะ ช่วยพวกเราด้วยเถิด ให้ทำอะไรข้าก็ยอม”“ข้าจะช่วยพวกท่านเอง ข้าได้นำสมุนไพรมาด้วย หวังว่ามันจะช่วยบรรเทาอาการของพวกท่านได้” ลู่หยวนฮวากล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจังและกระตือรือร้น จากนั้นนางก็รีบตรงไปดูอาการของชาวบ้านที่ป่วย โดยไม่รอช้าสายตาสีน้ำตาลคมเข้มจับจ้องไปยังหญิงสาวที่คุกเข่าอยู่ข้างเตียงของเด็กคนหนึ่ง เด็กน้อยนอนตัวร้อนจัด ไอแห้งๆ อย่างน่าสงสาร นางรี
Read More
DMCA.com Protection Status