Share

หากเราร่วมมือกัน

จางชิงหยวนยืนนิ่งอยู่ในกระโจม สายตาคมกริบจ้องมองไปยังลู่หยวนฮวาที่นั่งอยู่ตรงหน้า นางไม่ได้หลบสายตาเขาเลยสักนิด ในใจของจางชิงหยวนยังคงมีความไม่แน่ใจ เพราะประสบการณ์ในสนามรบนั้นหล่อหลอมให้เขาระมัดระวัง ทำให้ความเชื่อใจนั้นเป็นสิ่งที่หาได้ยากสำหรับจางชิงหยวน

“ข้าจะให้คนคอยจับตาดูเจ้า อย่าคิดที่จะหักหลังข้าละกองทัพของต้าหยาง ไม่เช่นนั้นแล้วจุดจบของเข้าคงจะไม่สวยเท่าไหร่ ลู่หยวนฮวา” เขากล่าวในใจหลังจากปล่อยลู่หยวนฮวากลับไปทำงานที่ครัว

เขาสั่งให้ตวนหลี่และจิ่งซื่อ พลทหารคนสนิทของเขาคอยจับตาดูการกระทำทุกอย่างของลู่หยวนฮวาอย่างใกล้ชิด

แต่ถึงกระนั้น จางชิงหยวนเองก็ยังไม่ละสายตาจากนาง เขามักจะสังเกตการกระทำของนางอย่างเงียบๆ มองหาพฤติกรรมสุมเสี่ยงที่อาจจะทำให้หญิงสาวหลุดพิรุธ หรือเผยให้เห็นความลับที่นางปกปิดเอาไว้

ลู่หยวนฮวาพยายามทำตัวให้เป็นปกติเหมือนทุกวัน พยายามที่จะไม่แสดงออกถึงความกังวล แต่ในใจลึกๆ นางก็รู้สึกอึดอัดกับสถานการณ์เช่นนี้ นางไม่อาจพูดความจริงได้ เพราะหากจางชิงหยวนรู้ว่านางเป็นน้องสาวของลู่หยาง พี่ชายที่หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย

นางเกรงว่าตนเองและพี่ชายอาจจะตกอยู่ในอันตรายได้ ได้แต่สาบานในใจว่าจะไม่เข้าใกล้เขา พยายามตีตัวออกห่างให้มากที่สุดเพื่อที่จะรักษาความลับของตน

แต่แล้วในวันหนึ่ง เมฆดำทะมึนก่อตัวขึ้นอย่างน่ากลัว แม้ว่าปกติแล้วเมืองหมิงอี้จะตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มีภูมิอากาศหนาวเย็นและมีลมพัดอยู่ตลอดเวลา แต่มันกลับไม่เคยมีพายุหนักขนาดนี้มาก่อน

เสียงฟ้าร้องดังกึกก้องไปทั่วราวกับมีอาเพศ หยดน้ำฝนเริ่มตกลงมาในปริมาณที่มากขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นพายุฝนที่โหมกระหน่ำ

ลู่หยวนฮวาเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าจากหน้าต่างเล็กๆ ของโรงครัว นางเห็นฝนที่ตกหนักจนมองแทบไม่เห็นทัศนียภาพโดยรอบ ความกังวลเริ่มก่อตัวขึ้นในใจ เพราะรู้ดีว่าหากฝนยังคงตกหนักต่อไป ค่ายทหารที่ตั้งอยู่ระหว่างเทือกเขานี้อาจประสบปัญหาน้ำท่วมและอาจเกิดดินถล่มได้

เสียงร้องตะโกนของทหารดังขึ้นในขณะที่พายุฝนยังคงกระหน่ำอย่างรุนแรง ค่ายทหารหมิงอี้เริ่มเกิดความโกลาหล ทหารวิ่งวุ่นไปทั่วเพื่อเตรียมรับมือกับภัยพิบัติที่ไม่คาดคิด คำสั่งถูกส่งต่อไปยังทหารทุกนายให้เตรียมการป้องกันความเสียหายและหาที่กำบังจากพายุรุนแรงนี้

ลู่หยวนฮวามองเห็นทหารหลายคนที่ได้รับบาดเจ็บจากการเคลื่อนย้ายสิ่งของหนักๆ และการจัดการกับสถานการณ์ฉุกเฉิน หญิงสาวรู้สึกถึงความเดือดร้อนของทหารเหล่านั้น แต่ถึงแม้ว่านางจะเป็นเพียงผู้ช่วยพ่อครัวในค่ายทหาร แต่ความรักพวกพ้องกลับทำให้นางตัดสินใจทำสิ่งที่เสี่ยง หญิงสาวมุ่งตรงไปยังจุดที่ทหารบาดเจ็บนอนอยู่

"ข้าต้องไปช่วยพวกเขา!" ในตอนนี้ลู่หยวนฮวาไม่ได้ใส่ใจกับความปลอดภัยของตัวเอง นางเพียงคิดถึงการช่วยเหลือผู้อื่นเท่านั้น

เสียงฟ้าร้องดังก้องขึ้นอีกครั้ง ตามด้วยเสียงกรีดร้องของทหารที่ได้รับบาดเจ็บ นางมองเห็นพวกเขากำลังดิ้นรนอยู่ท่ามกลางโคลนและเศษซากที่ลอยอยู่ในน้ำที่เริ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ แม้จะถูกลมฝนกระหน่ำ นางก็ไม่คิดจะหยุด ด้วยรู้ดีว่าทุกนาทีมีค่า ทหารที่ได้รับบาดเจ็บเหล่านั้นอาจจะไม่มีทางรอดหากไม่เร่งรีบไปให้ถึง

ในจังหวะนั้น นางมองเห็นชายผู้หนึ่งกำลังถูกทับด้วยซากไม้ที่ถล่มลงมา ลู่หยวนฮวาเร่งฝีเท้าขึ้นอีกครั้ง สายน้ำเย็นเฉียบที่ไหลบ่าไปตามขาลากเอาโคลนสีน้ำตาลหมุนวนอย่างอันตราย นางก้มลงย่อตัวไปที่ร่างทหาร คว้าจับซากไม้ที่ทับอยู่ด้วยแรงที่นางมี แม้ฝนจะตกหนักและพายุจะพัดกระหน่ำ แต่นางกลับไม่ยอมปล่อยมือ

"ข้าต้องช่วยเขาให้ได้!" นางคิดในใจ

น้ำที่ไหลเชี่ยวรอบตัวดูเหมือนจะพยายามดึงร่างของนางลงไปเช่นกัน แต่ลู่หยวนฮวาไม่สนใจความเหนื่อยล้า เสียงหอบหายใจของทหารที่ถูกทับอยู่ทำให้หัวใจของนางเต้นแรงขึ้น นางรู้ว่าทุกวินาทีที่ผ่านไป ชีวิตของเขาก็แขวนอยู่บนเส้นด้ายเช่นกัน

นางออกแรงดันอีกครั้ง สุดท้ายด้วยแรงทั้งหมดที่นางมี ซากไม้นั้นขยับ นางผลักมันออกไปได้สำเร็จ ร่างของทหารผู้นั้นได้รับการปลดปล่อย ทว่าความบาดเจ็บที่ทหารได้รับจากแรงทับและน้ำท่วมที่หนาวเย็นทำให้เขาแทบจะลุกขึ้นไม่ได้

ลู่หยวนฮวาก้มลงตรวจดูอาการบาดเจ็บ น้ำฝนที่ไหลลงมาอย่างไม่ขาดสายทำให้การมองเห็นของนางพร่ามัว แต่สัญชาตญาณของหมอยาสั่งให้นางทำงานทันที

หญิงสาวรีบดึงถุงสมุนไพรออกมาจากข้างเอว มือที่สั่นเพราะความหนาวหยิบสมุนไพรที่นางเก็บไว้ออกมา แล้วผสมกับน้ำฝนอย่างรวดเร็ว นางทาลงบนบาดแผลของทหารคนนั้น ก่อนจะใช้ผ้าพันไว้แน่นๆ เพื่อหยุดเลือดไม่ให้ไหลออกมา

"ทนหน่อยนะ ข้าจะทำให้เร็วที่สุด" นางพูดด้วยเสียงอ่อนโยน ฝ่ามือที่สั่นเล็กน้อยจากความหนาวเย็นก็ยังคงทำงานอย่างมั่นคง

ในขณะที่ลู่หยวนฮวารู้สึกว่าเรี่ยวแรงในร่างกายของนางกำลังจะหมดไป ขาของนางแทบจะก้าวไม่ไหวอีกต่อไป ราวกับทุกสิ่งกำลังจะถล่มทลายลงพร้อมกับพายุที่ถาโถมเข้ามา

แต่แล้วทันใดนั้น นางรู้สึกถึงแรงประคองจากด้านหลัง มือหนาคู่หนึ่งจับที่ไหล่ของนางอย่างมั่นคงและ...มันช่างอุ่นเหลือเกิน

“เป็นข้าเอง” เสียงทุ้มต่ำของจางชิงหยวนดังขึ้นข้างหู สายตาของเขาที่มองลงมายังนาง

เขาประคองทหารที่นางพยุงไว้ ก่อนจะดึงร่างของนางให้ลุกขึ้นอีกครั้ง แม้ในยามที่พายุรุนแรงเช่นนี้ แต่เขากลับยืนหยัดอยู่เคียงข้างนางอย่างไม่หวั่นไหว

"เจ้าไปพักก่อนเถอะ" เสื้อผ้าของเขานั้นเปียกชุ่มเหมือนกัน แต่มันกลับไม่ทำให้เขาดูอ่อนแอลงแม้แต่น้อย

"ท่านแม่ทัพ... ข้า... ข้าจะช่วยเหลือพวกเขา ข้าไม่สามารถทิ้งพวกเขาไปได้" นางตอบเสียงสั่น

"ถ้าอย่างนั้นข้าจะช่วยเจ้า" เขาพูดสั้น ๆ ก่อนที่จะก้าวเข้ามาใกล้และเริ่มยกทหารบาดเจ็บขึ้นหลังอย่างง่ายดาย

ขณะที่พวกเขาทั้งสองเดินฝ่าฝนไปยังที่พักของทหารบาดเจ็บ นางรู้สึกถึงความอบอุ่นเล็กน้อยที่เกิดขึ้นในใจ แม้ว่าจะมีความหวั่นไหวบ้าง แต่จิตใจของนางยังคงจดจ่ออยู่กับการช่วยเหลือทหารเสียมากกว่า

เมื่อพวกเขามาถึงที่พัก ทหารที่พวกเขาช่วยเหลือก็ถูกส่งต่อให้คนอื่นๆ ดูแล ลู่หยวนฮวาหอบหายใจด้วยความเหนื่อยล้า ขณะที่นางก้มตัวลงตรวจสอบบาดแผลของทหารที่นางพามา จางชิงหยวนยืนเฝ้ามองอยู่ข้าง ๆ สายตาของเขายังคงจับจ้องการกระทำของนางอย่างระมัดระวัง

"ลู่หยวนฮวา ความกล้าหาญของเจ้า... ข้ายอมรับว่าเจ้านั้นช่างน่าทึ่งนัก" จางชิงหยวนเอ่ยขึ้น น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความจริงใจ แม้จะฟังดูเรียบนิ่ง แต่กลับมีน้ำหนักของความรู้สึกที่นางไม่อาจมองข้ามได้

ลู่หยวนฮวาหยุดมือชั่วครู่ หันกลับไปมองเขาด้วยดวงตาที่สั่นไหวเล็กน้อย ราวกับว่าคำพูดนั้นทำให้หัวใจของนางเต้นแรงขึ้นโดยไม่ทันตั้งตัว นางไม่รู้จะตอบเช่นไร ในที่สุดนางจึงเพียงยิ้มเล็กๆ ก่อนจะหันกลับไปทำงานต่ออย่างรวดเร็ว

“ข้าก็แค่ทำในสิ่งที่ควรทำ” นางเอ่ยเสียงเบา แต่ข้างในใจของนางกลับรู้สึกร้อนผ่าว ราวกับมีบางสิ่งที่นางเองก็ไม่เข้าใจไหลผ่านไปทั่วอกชั่วขณะ

จางชิงหยวนไม่ได้พูดอะไรอีก เขาเพียงแค่พยักหน้าเล็กน้อย ยืนเคียงข้างนางและทำงานต่อไปอย่างเงียบๆ ฝนยังคงตกลงมาไม่หยุด ทว่าเสียงฝนที่เคยฟังดูหนักหน่วงกลับเบาลงเมื่อพวกเขาทำงานร่วมกันโดยไม่มีถ้อยคำใดๆ

ทั้งสองคนต่างจดจ่อกับการช่วยเหลือทหารที่ได้รับบาดเจ็บ ทุกครั้งที่ลู่หยวนฮวาเหลือบมองจางชิงหยวน นางรู้สึกได้ถึงความมั่นคงที่เขามอบให้ แม้ไม่มีคำพูดใด แต่เพียงแค่เขาอยู่ข้างๆ นางก็รู้สึกปลอดภัยขึ้นอย่างน่าประหลาด

เมื่อทหารได้รับการรักษาจนปลอดภัยแล้ว นางมองพวกเขาที่นอนพักผ่อน ใบหน้าของนางเปื้อนรอยยิ้มที่สะท้อนถึงความพอใจ ความรู้สึกที่ว่าตนได้ทำสิ่งที่ถูกต้อง แต่ในเวลาเดียวกัน ใจของนางกลับเริ่มสับสน เมื่อความรู้สึกบางอย่างที่ก่อตัวขึ้นภายในกลับชัดเจนมากขึ้นทุกครั้งที่นางอยู่ใกล้จางชิงหยวน

“ข้าไม่ควรมีความรู้สึกเช่นนี้กับท่านแม่ทัพ...” ลู่หยวนฮวาคิดกับตัวเอง นางพยายามห้ามใจ แต่ทุกครั้งที่มองจางชิงหยวน ความอบอุ่นที่ก่อตัวขึ้นในใจกลับไม่อาจหยุดยั้งได้ ความรู้สึกที่เบ่งบานในใจของนางค่อยๆ เติบโตขึ้นทีละน้อย แม้นางจะพยายามปฏิเสธมัน แต่ก็ไม่อาจหลบหนีความจริงนั้นได้

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status