Share

เงาในความมืด

ลู่หยวนฮวาค่อยๆ เริ่มรู้สึกถึงความสงสัยที่กัดกร่อนในใจหลังจากที่ได้ยินชื่อของ “ลู่หยาง” หลุดออกจากปากของพลทหารคนหนึ่ง ทันทีที่ทหารผู้นั้นเอ่ยชื่อนี้ เขาก็รีบปิดปากเงียบเหมือนรู้สึกได้ถึงความผิดพลาด ลู่หยวนฮวาเงี่ยหูฟัง แสร้งทำเป็นไม่ได้สนใจ แต่ทว่าในใจของนางกลับเต็มไปด้วยคำถามมากมาย

"ลู่หยาง...พี่ใหญ่" นางพึมพำเบาๆ ชื่อนี้ไม่ใช่ใครอื่น นอกจากพี่ชายเพียงคนเดียวที่นางตามหามาตลอด และบัดนี้ นางอาจจะพบร่องรอยของเขาอยู่ที่ค่ายทหารนี้ก็เป็นได้ หญิงสาวตัดสินใจแน่วแน่ทันทีว่าจะต้องสืบหาเรื่องราวนี้ด้วยตัวเอง

บรรยากาศในป่ายามวิกาลเงียบงัน มีเพียงเสียงลมพัดใบไม้ไหวที่แว่ว ความมืดมิดกลืนกินทุกสิ่งรอบตัว ลู่หยวนฮวาก้าวเดินเบาๆ ระวังไม่ให้เกิดเสียงฝีเท้ากระทบกับพื้นดินที่เต็มไปด้วยกิ่งไม้และใบไม้แห้ง นางรู้ดีว่าการถูกจับได้ในตอนนี้อาจเป็นจุดจบของแผนการที่วางไว้

ความมืดที่แผ่ปกคลุมทำให้ทุกก้าวเดินเป็นไปอย่างเชื่องช้าและรัดกุม เสียงหายใจของนางค่อยๆ ถี่ขึ้นพร้อมกับความตึงเครียดที่เพิ่มมากขึ้นทุกขณะ หัวใจของนางเต้นแรงราวกับจะหลุดออกจากอก นางจับจ้องไปข้างหน้า พยายามฟังเสียงเล็กๆ ที่อาจบ่งบอกถึงการมาถึงของทหารยาม

ทันใดนั้นเสียงฝีเท้าของทหารลาดตระเวนดังแผ่วๆ มาจากด้านหลัง ความหวาดกลัวค่อยๆ แทรกซึมเข้ามาในใจ ลู่หยวนฮวาพยายามสงบสติ หายใจเข้าลึกๆ และก้าวถอยหลังช้าๆ แต่เพียงแค่เสี้ยววินาที กิ่งไม้แห้งที่นางเหยียบลงไปกลับหักลงเสียงดัง นางสะดุ้งสุดตัว เสียงหักนั้นดังพอที่จะทำให้ทหารยามหันมองหาที่มาของเสียง

ลู่หยวนฮวารีบพุ่งหลบเข้าไปซ่อนหลังพุ่มไม้ที่อยู่ใกล้ ๆ นางพยายามเก็บลมหายใจเงียบกริบ ร่างของนางกดตัวต่ำที่สุดเท่าที่จะทำได้ ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยเมฆบดบังแสงจันทร์ ทำให้ทุกสิ่งดูยิ่งมืดลง

เสียงฝีเท้าทหารค่อย ๆ ใกล้เข้ามา นางได้ยินเสียงเขาพึมพำอะไรบางอย่าง ความหวาดกลัวทำให้นางไม่สามารถแม้แต่จะขยับตัว หยาดเหงื่อเย็นเยียบไหลลงมาตามไรผม นางภาวนาในใจว่าเขาจะไม่เห็นนางที่ซ่อนตัวอยู่ในเงามืดนี้

ทันใดนั้น เสียงฝีเท้าก็หยุดลง เพียงไม่กี่ก้าวจากจุดที่นางซ่อนอยู่ ทหารคนนั้นหยุดเดินเหมือนกับกำลังฟังอะไรบางอย่าง นางกลั้นหายใจ รอให้เขาเดินไป แต่เสียงฝีเท้ากลับไม่ขยับไปไหน ความเงียบงันทำให้ทุกวินาทีที่ผ่านไปดูเหมือนนานเป็นชั่วนิรันดร์

"มีใครอยู่ที่นี่ไหม!?" เสียงของทหารคนนั้นดังขึ้นท่ามกลางความเงียบ ลู่หยวนฮวาก้มตัวลงต่ำกว่าเดิม ซ่อนใบหน้าของนางไว้ในเงามืด หวังว่าทหารจะไม่เข้ามาใกล้บริเวณที่นางหลบซ่อนไปมากกว่านี้

เสียงฝีเท้าของทหารดังขึ้นอีกครั้ง แต่ครั้งนี้กลับเคลื่อนไปทางอื่น นางรอจนแน่ใจว่าเขาเดินห่างออกไปแล้ว ก่อนจะลุกขึ้น ดวงตาของนางสอดส่องไปรอบๆ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีใครอยู่ใกล้ แล้วนางก็รีบก้าวออกจากพุ่มไม้และเดินต่อไปข้างหน้าด้วยความระวัง

แต่สิ่งที่นางไม่รู้คือ ตลอดเวลาที่นางแอบซ่อนอยู่ มีดวงตาคมสีน้ำตาลสวยคอยจับจ้องอยู่จากเงามืดเช่นกัน แม้รอยยิ้มบนใบหน้านั้นจะดูเหมือนเข้าใจทุกสิ่งที่เกิดขึ้น แต่รอยยิ้มนั้นกลับไปไม่ถึงดวงตา "ลู่หยวนฮวา เจ้ากำลังคิดทำการใดกันแน่?"

แสงอาทิตย์อ่อนๆ ของเช้าวันใหม่สาดส่องเข้ามายังค่ายทหารหมิงอี้ ส่องกระทบไปทั่วทั้งค่าย เสียงทหารฝึกซ้อมและเสียงดาบที่ปะทะกันดังก้องไปทั่ว แต่ถึงแม้บรรยากาศจะดูคึกคัก ลู่หยวนฮวากลับรู้สึกหนักอึ้งอยู่ภายในใจ

ลู่หยวนฮวาพยายามทำตัวให้ปกติเหมือนทุกวัน ขณะยืนหั่นผักอยู่ในครัว แต่ความรู้สึกอึดอัดบางอย่างนั้นยังคงติดตามนางราวกับเงา

ขณะนั้นเองเสียงฝีเท้าหนักของใครบางคนดังขึ้นมาในห้องครัว...

“ตวนหลี่” รองแม่ทัพคนสนิทของจางชิงหยวน เดินเข้ามาอย่างไม่รีบร้อน แต่สายตาของเขาจับจ้องมาที่ลู่หยวนฮวาเพียงคนเดียว ใบหน้าของเขาแสดงออกถึงความเฉยชา แต่ก็มีบางอย่างในท่าทางของเขาที่ทำให้นางรู้สึกไม่สบายใจ

"แม่นางหยวนฮวา ท่านแม่ทัพเรียกหาเจ้า" ตวนหลี่เอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เรียบนิ่ง

ลู่หยวนฮวาหันมองตวนหลี่ ใบหน้าของนางซีดลงทันที และมือที่ถือมีดอยู่ก็เกือบทำมันหลุดจากมือ

 "ท่านแม่ทัพเรียกพบข้า?" นางพูดซ้ำเบาๆ ราวกับไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน สัญชาตญาณเตือนให้นางระวัง แต่ก็ไม่มีทางเลือกใดที่จะหลีกเลี่ยงได้ นางไม่สามารถปฏิเสธคำสั่งนี้ได้

หญิงสาวรวบรวมสติและพยักหน้าเบาๆ "ข้า...จะไปเดี๋ยวนี้เจ้าค่ะ" นางวางมีดทำครัวลงช้าๆ บนโต๊ะไม้ ก่อนจะเดินตามตวนหลี่ไป

เมื่อมาถึงกระโจมของจางชิงหยวน ลู่หยวนฮวาหยุดยืนอยู่หน้าทางเข้า นางพยายามสูดลมหายใจลึกๆ รวบรวมสติให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ก่อนจะก้าวเท้าเข้าไปด้านใน

ภายในกระโจมมีแสงสลัวที่ลอดผ่านเข้ามาจากด้านนอก จางชิงหยวนยืนอยู่ตรงกลางกระโจม ร่างสูงใหญ่ของเขาดูสง่างามแต่ในขณะเดียวกันก็แผ่บรรยากาศอันน่าเกรงขามออกมา สายตาสีน้ำตาลคมกริบของเขาจับจ้องมาที่นางทันทีที่นางก้าวเข้ามา มันเหมือนกับสายตาของเสือที่มองเหยื่อ ไม่มีความอบอุ่นใด ๆ ในดวงตาคู่นั้น

"ลู่หยวนฮวา เมื่อคืนเจ้าออกไปทำอะไรข้างนอกกัน?" จางชิงหยวนเอ่ยถามหญิงสาวตรงหน้าทันที

ลู่หยวนฮวานิ่งไปทันที ความตกใจราวกับฟ้าผ่าลงกลางใจ นางรู้สึกเหมือนถูกจับได้ นางต้องคิดหาวิธีตอบกลับอย่างรวดเร็วโดยไม่ให้พิรุธหลุดออกมา

"ข้า..." ลู่หยวนฮวากลืนน้ำลาย และพยายามพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่มั่นคง "ข้าแค่...ออกไปเก็บสมุนไพรเจ้าค่ะ ข้าเห็นว่ามีสมุนไพรที่จำเป็นในการรักษาทหาร จึงออกไปสำรวจรอบๆ ค่าย" นางตอบโดยพยายามไม่แสดงอาการใดๆ ที่จะทำให้เขาสงสัยมากขึ้น

จางชิงหยวนยืนนิ่ง สายตาของเขาจับจ้องอยู่ที่นางไม่ลดละ ราวกับจะทะลวงเข้าไปในจิตใจของนางเพื่อค้นหาความจริงที่ซ่อนอยู่

เขาเดินเข้ามาใกล้นางทีละก้าว บรรยากาศในกระโจมเริ่มกดดันมากขึ้นเรื่อยๆ ทุกก้าวที่เขาเดินเข้ามา นางรู้สึกเหมือนเขากำลังแผ่พลังอำนาจที่น่ากลัวออกมาท่วมทับตัวนาง

“เก็บสมุนไพรตอนกลางคืนงั้นหรือ?” เขาเอ่ยขึ้น แววตาคมกริบคู่นั้นทำให้นางรู้สึกเหมือนถูกตรึงให้อยู่กับที่ ไม่สามารถขยับเขยื้อนไปไหนได้เลย

ลู่หยวนฮวาพยายามหายใจเข้าลึกๆ เหงื่อเย็นเริ่มผุดขึ้นมาบนหน้าผากของนาง ความกดดันที่เพิ่มขึ้นทำให้สมองของนางเริ่มตื้อ

“ข้า...คิดว่ามันจำเป็นในตอนนั้นเจ้าค่ะ ข้าไม่ทันคิดว่าการออกไปข้างนอกในเวลานั้นจะเป็นปัญหา” นางรู้สึกเหมือนทุกคำพูดของนางถูกเขาวิเคราะห์อย่างละเอียด

จางชิงหยวนหยุดอยู่ตรงหน้านาง ดวงตาของเขายังคงจับจ้องอยู่ที่นางไม่ลดละ เขาเงียบไปสักพัก ก่อนจะพูดขึ้นมาอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่เบาลง

“เจ้ารู้หรือไม่ว่าในค่ายนี้ ข้าไม่ชอบคนที่มีเจตนาแอบแฝง” คำพูดนั้นเหมือนเป็นการเตือน นางรู้สึกได้ถึงความคาดหวังที่แฝงอยู่ในคำพูดนั้น

ลู่หยวนฮวากลืนน้ำลายอีกครั้ง นางพยายามรักษาความสงบในจิตใจ นางรู้ดีว่าตอนนี้นางกำลังเดินอยู่บนเส้นด้าย ทุกคำพูดและท่าทางของนางมีผลต่ออนาคตที่นางไม่สามารถคาดเดาได้

"ข้าเพียงทำงานในครัวหรือช่วยรักษาทหารในค่ายนี้เท่านั้น ข้าไม่มีเจตนาอื่นใดเจ้าค่ะ" หวังว่าเขาจะเชื่อคำพูดของนาง นอกจากตามหาพี่ชายแล้วนางก็ไม่ได้มีเจตนาร้ายแอบแฝงจริงๆ

“ข้าจะให้คนคอยจับตาดูเจ้า อย่าคิดที่จะหักหลังข้าละกองทัพของต้าหยาง ไม่เช่นนั้นแล้วจุดจบของเข้าคงจะไม่สวยเท่าไหร่” เขาตอบกลับเสียงเย็นชาและเดินไปนั่งที่โต๊ะทำงานของเขา ปล่อยให้นางยืนอยู่ตรงนั้นเพียงลำพังพร้อมกับความกดดันที่ยังคงปกคลุมอยู่

ลู่หยวนฮวารู้สึกเหมือนยืนอยู่ในอากาศที่หนักอึ้ง นางค่อยๆ ถอนหายใจออกมาเบาๆ นางรู้ว่าครั้งนี้นางรอดไปได้อย่างหวุดหวิด แต่ก็รู้ดีว่าเขายังไม่ไว้ใจนางอย่างเต็มที่ นางต้องระมัดระวังมากขึ้นในทุกย่างก้าว นางจะพลาดไม่ได้อีกต่อไป

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status