บทที่8
แค้นที่ลงผิดคน
พรุ่งนี้เช้าเป็นวันหยุด กวินจึงขับรถออกจากที่จอดรถใต้หอ และขับออกมาตามถนนเลียบหาด อยู่ดีๆความรู้สึกของเขาก็คิดถึงใครบางคน
“ออกมาหาพี่หน่อยได้ไหม ไม่ต้องบอกซัมเมอร์นะ พี่มีอะไรจะเล่าให้ฟัง”
ชายหนุ่มกดโทรศัพท์ เพื่อขอให้รุ่นน้องสาวออกมาหาเขาหน่อย
“เอ่อ...ได้ค่ะ”
ปลายสายถึงจะลังเลอยู่บ้าง แต่จากฝั่งน้ำเสียง ก็มั่นใจ ว่าคนโทรมาจิตใจคงไม่ปกติแน่ ๆ ลูกพีชเลือกที่จะโกหกซัมเมอร์ว่าเพื่อนที่สาขาโทรมา คืนนี้เธออาจกลับเช้าเลยเพราะนี่ก็จะตีหนึ่งแล้ว
ถึงแม้จะสงสัยแต่ซัมเมอร์ก็ไม่กล้าถาม เพราะเมื่อคราวเธอ เพื่อนของเธอยังไม่ถามเธอเลย จึงได้แต่บอกให้เพื่อนระวังตัว เพราะมันดึกแล้ว
“มีอะไรหรือคะพี่กวิน”
เมื่อประตูรถถูกปิดลงหญิงสาวก็ถามด้วยความสงสัยทันที
“พีชรู้เรื่องนี้มานานแค่ไหน” คนถามไม่แม้แต่จะหันมามอง
“เรื่องอะไรคะ”
ลูกพีชไม่แน่ใจ ว่าเรื่องที่กวินถาม กับเรื่องที่เธอรู้เรื่องเดียวกันไหม
“ลงไปซื้อเบียร์ให้หน่อย เอาให้หมดเงินที่ให้ไป” ชายหนุ่มยื่นเงินจำนวนหนึ่งให้เธอ
ไม่นานหญิงสาวก็กลับมาพร้อมกับเบียร์หลายกระป๋อง เธอซื้อมามั่วๆ เพราะเขาไม่ได้บอกเธอว่าจะเอาเบียร์อะไร ลูกพีชกอดถุงที่ใส่เบียร์ไว้แน่น เธอจะไม่ยอมยื่นให้เขา ถ้าเขายังขับรถอยู่แบบนี้
“กอดเสียแน่นเลย ไม่ต้องกลัวพี่ไม่ดื่มไปขับรถไปหรอก ไปดื่มเป็นเพื่อนพี่หน่อยแล้วกัน” คนพูดเห็นท่าทางของคนนั่งข้างๆ ก็พออ่านใจออก
“ที่นี่ที่ไหนคะพี่กวิน” ลูกพีชตกใจเมื่อเขาพาเธอเหลียวเข้ามาในที่จอดรถใต้อาคาร
“หอพี่เอง จะให้ไปดื่มที่ไหนล่ะ ดื่มที่ห้อง เมาก็นอน กลัวพี่จะทำอะไรเธอหรือไง ลูกพีช” คนถาม ถามแบบไม่ต้องการคำตอบ
ถ้าเป็นผู้ชายคนอื่นทำแบบนี้ หญิงสาวคงไม่สนใจ เดินกลับหอไปแน่ๆ แต่นี่เขาคือผู้ชายที่เธอแอบรักมาตลอดหลายปี และตอนนี้เขาก็กำลังน่าเป็นห่วง
จนถึงป่านนี้ หญิงสาวยังไม่รู้เลยว่า สิ่งที่เขาถามเธอ ว่ารู้เรื่องนี้มานานเท่าไหร่ หมายถึงเรื่องอะไร แต่เธอคิดว่าหลังจากเขาดื่มเข้าไป เธอคงจะได้รู้หมดไส้หมดพุงแน่ๆ
“ห้องรกหน่อยนะ อย่างว่าชายโสดไม่มีคนดูแล”
คนพูดพยายามเขี่ยของที่ขวางทางอยู่ตามพื้น เพื่อหาที่นั่งให้กับแขก
“อ่ะ ดื่มเป็นเพื่อนกัน”
ลูกพีชรับเบียร์จากมือของรุ่นพี่ เธอทำท่าจิบๆ ไปอย่างนั้น เพราะไม่อยากขัดใจเขา เพราะตั้งแต่เกิดมา เธอยังไม่เคยกินของพวกนี้เลย
จากหนึ่งกระป๋องเป็นสองกระป๋อง กำลังจะเปิดกระป๋องที่สาม ชายหนุ่มที่เอาแต่นั่งดื่มไม่พูดอะไร ก็หยุดวางกระป๋องเบียร์ แล้วหันมามองหน้าหญิงสาวตรงหน้า
“ช่วยกันปิดดีจริงๆ พี่มันโง่มากเลยเนาะ” เสียงที่ดูไม่ปกติ บอกได้ว่าคนพูดเริ่มเมาแล้ว
ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะพูดอะไรต่อ เบียร์กระป๋องที่สามก็ถูกเปิดออก และมันก็หายเข้าไปในร่างกายของชายหนุ่มที่ดื่มแบบแทบจะไม่หยุดหายใจ
“พี่กวิน พีชว่าพี่พอเถอะค่ะ พี่เมามาแล้ว”
“เมาก็ยังดีกว่าโง่ เป็นไงล่ะ แม่สื่อคนสวย ร่วมมือกันหลอกพี่จนเขาขึ้นเลย”
“พีชไม่รู้ว่าพี่กำลังพูดถึงเรื่องอะไร แล้วไม่ต้องมาเรียกพีชว่าแม่สื่อ พี่กับซัมเมอร์ก็รักก็ชอบกันเอง พีชไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง” หญิงสาวแสดงความไม่พอใจบ้าง
“แล้วไอ้ที่เพื่อนเธอไปนอนกับโค้ช เธอก็คงไม่เกี่ยวใช่ไหม พี่มันโง่เอง เขาบอกอะไรก็เชื่อเขาหมด เพื่อนเธอก็ไม่ธรรมดา ทีหลังจะหากิน หากินไกลๆหน่อย เล่นของ ใกล้ ๆ มันทุเรศ”
“พี่กวิน พี่เมาแล้ว พี่พูดจาถึงผู้หญิงได้แย่มาก พีชไม่อยากคุยกับพี่แล้วพีชจะกลับหอ”
หญิงสาวทำท่าจะลุกออกจากที่นั่งข้างๆชายหนุ่ม แต่กลับถูกมือหาดึงรั้งไว้ ด้วยรูปร่างที่ต่างกันมาก ลูกพีชเสียหลักล้มลง
“ปล่อยพีช พีชจะกลับห้อง” หญิงสาวร้องโวยวายเมื่อร่างสูงโถมทับตัวเธอ
“หลงให้เกียรติไม่เคยแตะเนื้อต้องตัว สุดท้าย หมาคาบเอาไปกิน เพื่อนเธอมันแสบจริงๆ” กวินพ่นด่าอย่างคนที่ควบคุมสติไม่ได้
“นี่พีชไม่ใช่ซัมเมอร์ พี่แค้นอะไรพี่ไปก็ไปทำกับซัมเมอร์ อย่ามาทำกับพีชแบบนี้”
ไม่ทันที่ปากเรียวบางจะพูดอะไรมากกว่านี้ ปากหนาได้รูปก็ประกบทาบลงมา จนแนบสนิท หญิงสาวได้แต่ส่งเสียงขัดขืนอยู่ในลำคอ ยิ่งดิ้นเท่าไหร่ ก็เหมือนยิ่งเขาไปอยู่ในพันธนาการของเขาเท่านั้น
เมื่อคนที่อยู่ด้านบนสามารถคุมเกมได้แล้ว มือใหญ่ก็ซุกซนไปเรื่อย ถึงแม้จะไม่ใช่ผู้ชายเจ้าชู้ แต่ด้วยความมีเสน่ห์ของเขา เรื่องแบบนี้ เขาก็มีประสบการณ์มาไม่ใช่น้อย
สัมผัสอย่างผู้มีประสบการณ์ ทำเอาสาวน้อยหมดแรงต่อต้านต่อความรู้สึกใด ๆ ทุกส่วนในร่างกายมันไร้เรี่ยวแรงต่อสู้ หญิงสาวได้แต่หลับตา แล้วปล่อยร่างกายของเธอให้มันทำตามเสียงเรียกของหัวใจ
จากความรู้สึกเสียวซ่านที่เขามอบให้ ก็เริ่มแปรเปลี่ยนเป็นความเจ็บปวด เมื่อร่างกายความเป็นสาวบริสุทธิ์ของเธอ กำลังถูกความเป็นชายรุกร้ำเข้ามา เสียงร้องจากความเจ็บปวดแล้วความเสียวซ่านของทั้งคู่ ดังประสานกันอย่างลงตัว หญิงสาวจิกเล็บเรียวลงบน หลังหนาด้วยความรู้สึกที่เสียวจนสุดแสนจะทรมาน
“พี่กวิน พีชไม่ไหวแล้ว” หญิงสาวแนบหน้าลงกับไหล่หนาของเขา ก่อนจะกระซิบบอกด้วยเสียงสั่นเทา
“อีกนิดนะ เสียวไหม” ชายหนุ่มกระซิบกลับพร้อมขยับร่างกายส่วนล่างเป็นจังหวะ
“สะ..เสียว.... ” คำสุดท้ายลากยาวพร้อมกับความรู้สึกที่สบายตัว
เมื่อคนทั้งคู่พากันไปถึงฝั่งฝันแห่งความสุข ร่างกายที่ไร้เรี่ยวแรงของชายหนุ่มก็ปล่อยตัวเองลงมานอนกึ่งทับร่างของหญิงสาวที่นอนหมดแรงอยู่ภายใต้ร่างกายเขา
น้ำตาค่อยๆไหลจากดวงตาคู่สวยทั้งสองข้าง มันเป็นน้ำตาที่มีทั้งความสุขและความเสียใจ เขาเป็นผู้ชายที่เธอแอบรักมาคนเดียวและตลอด เธอไม่เสียใจที่เขาเป็นคนได้ความบริสุทธิ์ของเธอ แต่น้ำตาแห่งความเสียใจ มาจากความสัมพันธ์ที่เขาเห็นเธอเป็นแค่เครื่องระบายความแค้นเท่านั้น
บทที่9หลบหน้า หลังจากความสัมพันธ์ที่เกิดจากความไม่ตั้งใจได้ผ่านพ้นไป ลูกพีชตื่นขึ้นพร้อมร่างกายที่เปลือยเปล่า เธอค่อย ๆ ควานหาเสื้อผ้าของเธอ แต่งตัวให้เรียบร้อย เหมือนเมื่อคืนนี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วจึงเดินทางกลับหอด้วยตัวเอง เพราะไม่อยากให้เขาตื่นมาเจอหน้าเธอ “ไปไหนมาพีช ท่าทางเหมือนไม่ได้นอนเลย” ซัมเมอร์กำลังเตรียมที่จะไปเรียนแต่เช้า เห็นสภาพเพื่อนเหมือนคนไม่ได้นอนมาทั้งคืน “ทำรายงานทั้งคืนเลย งานไม่เสร็จ” คนตอบหลบสายตา “ถ้าไปเรียนไม่ไหว ก็นอนก่อน ขาดแค่ไม่กี่ครั้งอาจารย์เขาไม่ว่าหรอก”ซัมเมอร์เห็นสภาพเพื่อน อยากให้ลูกพีช พักผ่อนก่อน เพราะไปเรียนสภาพนี้คงไม่ไหว “ว่าจะไม่ไป เดี๋ยวเราไปอาบน้ำก่อนนะ” หญิงสาวพาร่างไร้เรี่ยวแรงเข้าไปในห้องน้ำ เมื่อเสียงปิดประตูดัง หญิงสาวก็ปล่อยเสียงร้องไห้ อย่างสุดที่จะกลั้นเอาไว้อยู่ ตอนนี้ในห้องมีเพียงเธออยู่คนเดียว เธอไม่จำเป็นต้องกลัวใครรู้ ภาพสภาพใบหน้าที่แสนจะหมองคล้ำ อาบได้ด้วยคราบน้ำตา ลูกพีชมองตัวเองในกระจก เธอมีคุณค่าเพียงแค่เป็นที่ระบายแค้นของเขา เธอนี่มันใจง่ายจริง ๆ
บทที่10ความลับของเราสองคน ความผิดครั้งนี้ฝังลงในจิตใจ ของหญิงสาว เธอนั่งเรียนแบบร่างที่ไร้วิญญาณ ตาเหม่อลอย ไม่ได้ยินเสียงต่าง ๆ ที่ดังอยู่รอบตัว “เป็นอะไรของเธอลูกพีช ทำท่าเหมือนคนกำลังอกหัก” ฌอนถามเพราะนั่งสังเกตมานาน “ลูกพีช” เรียกชื่อซ้ำอีกรอบ “ฮะ! อะไรนะ เรียกเราเหรอ” หญิงสาวได้สติหันมาตอบตามเสียงคนที่เรียกชื่อ “เป็นอะไรของเธอ ตั้งแต่เช้าแล้ว เอาแต่นั่งเหม่อ อกหักหรือไง มีอะไรก็เล่า ให้เราฟังได้นะ” ถึงแม้ลูกพีชกับฌอน จะสนิทกันไม่เท่าซัมเมอร์ อาจเป็นเพราะทั้งสองคน คนละเพศกัน แต่หลายเรื่องที่เพื่อนสนิทต่างเพศคนนี้ เป็นที่ปรึกษาให้เธอได้ตลอด ความคิดแผนการบางอย่าง ผุดขึ้นในหัวของ หญิงสาว ซึ่งแผนนี้ฌอนต้องช่วยเธอได้แน่ๆ เอาไว้เลิกเรียน เธอจะลองขอร้องเขา แต่คงเป็นการขอร้องแบบที่เธอคงไม่เล่าความจริงทั้งหมดให้เขาฟัง “เดี๋ยวเลิกเรียน เราไปหาอะไรกินกันนะ แล้วพีชจะเล่าให้ฌอนฟัง” ชายหนุ่มพยักหน้า เขาทั้งเป็นห่วงทั้งอยากรู้ เพราะอาการของเพื่อนสาว ดูแล้วจะแย่เอาการ ใต้ตาช้ำจนกลายเป็นสีน้ำตาล หน้า
บทที่11เมื่อมันไม่ใช่ความรักก็ควรจบ “เป็นไงล่ะ ตีบทแตกกันทั้งคู่เลยนะ” สองนักแสดงพากันหัวเรา ให้กับผลงานการแสดงของทั้งคู่ ที่เพิ่งแสดงไปที่ร้านอาหาร “เขาเชื่อสนิทเลย เชื่อเราสิพีช” ฌอนมั่นใจ “เราก็ว่าอย่างนั้นแหละ” ลูกพีช แอบมองสายตา ที่กวินมองมาที่เธอและฌอน เขาเชื่อจริงๆ เพราะสายตามีความโมโหแสดงออกมาอย่างชัดเจน เขาเห็นเธอมีแฟนแล้ว เขาคงเลิกยุ่งกับเธอแน่ๆ หญิงสาวโล่งใจ เลิกเรียนแล้ว วันนี้ฌอนมีนัดกับเพื่อนชายคนสนิทของเขา เลยไม่ได้ไปส่งลูกพีชที่หอ เหมือนที่ตั้งใจไว้ หญิงสาวจึงเดินกลับคนเดียวตามปกติ “ขึ้นรถ บอกให้ขึ้นรถ” เสียงตะโกนดังมาจาชายหนุ่มที่อยู่ในรถที่ขับมาจอดข้างเธอ แทนที่จะขึ้นรถ ตามคำสั่งของคนในรถ หญิงสาวกลับรีบสาวเท้าเดินให้ไวที่สุดเท่าที่ทำได้ โดยไม่หันหน้ามามอง รถที่ขับตามเธอมาอย่างติดๆ ปี๊ด ๆ ๆ เสียงบีบแตรของกวิน ทำเอาสายตาคนแถวนั้นหันมามาอง ตามแหล่งที่มาของเสียงพร้อมกัน หญิงสาวแทบจะวิ่งไปให้พ้นเขา แต่ก็ไม่กล้า กลัวผู้คนจะพากันตกใจ และจะกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต “จะขึ้นมาดีๆ
บทที่12รักเธอ..แม่สื่อของฉัน “อย่าเรียกมันว่าความรักเลย ระหว่างพี่กับซัมเมอร์ มันเป็นความหลงมากว่า พี่ยอมรับพี่หลงเพราะเขาเป็นผู้หญิงหน้าตาดี” ชายหนุ่มค่อยๆปล่อยมือทั้งสองข้าง ออกจากแขนเรียว ที่แดงช้ำเพราะถูกแรงของเขารัดไว้จนแน่น หญิงสาวจึงค่อยๆขยับตัวลุกขึ้น “ที่พี่เสียใจ เพราะผิดหวังกับความรู้สึกดีๆที่พี่ให้ซัมเมอร์ แต่เขากับทำลายทุกอย่างเพียงเพราะตามใจอารมณ์ของตัวเอง” กวินก้มหน้ากับฝ่ามือทั้งสองข้างของตัวเอง “ทั้งพี่และซัมเมอร์ไม่ได้รักกัน ตั้งแต่เกิดเรื่อง เพื่อนของพีช ก็พยายามขอกลับไปอยู่สถานะเดิมกับโค้ช จนโค้ชต้องมาขอให้พี่ช่วย แต่พี่ก็ปฏิเสธไป เพราะไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยวอีก” “จริงเหรอคะ” หญิงสาวถามทั้งที่เธอก็พอรู้เรื่องนี้อยู่แล้วบ้าง “ส่วนพี่ ตั้งแต่ที่เรามีอะไรกัน พี่ก็ถามตัวเองตลอด ว่ามันเกิดขึ้นเพราะอะไร และความรู้สึกตอนนี้มันคืออะไรกันแน่” กวินเงยหน้าจากฝ่ามือทั้งสองข้างและหันมาจ้องตาหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างๆบนเตียง “ใช่มันเกิดจากความเมา และความโกรธ จนเมื่อพี่มาเห็นพีชอยู่กับไอ้ผู้ชายคนนั้น หัวใจของพี่
1หวังดี “ภณนายไปเรียนมหาวิทยาลัยมา ณิศาเขาไม่เหมือนเดิมแล้วนะ” ปาลิดาตัดสินใจมาเตือนเพื่อน ซึ่งเป็นเพื่อนที่เธอแอบหลงรักมาตั้งแต่เด็ก ๆ “ไม่เหมือนเดิมยังไง ดิวนี่เธอโตแล้วนะ ยังจะไม่เลิกอิจฉาณิศาเขาอีกเหรอ” ปาลิดาคิดแล้วว่า กันตภณไม่มีทางเชื่อในสิ่งที่เธอมาเตือนเขา และสุดท้ายเธอเองนั่นแหละที่จะเป็นฝ่ายโดนว่าให้ช้ำใจกลับมา “นายจะคิดจะว่าอะไรเรา ก็ตามใจ แต่หัดเปิดหูเปิดตาดูบ้าง เผื่อจะโง่น้อยลง” หญิงสาวเริ่มมีอารมณ์ “ได้ แต่เธอก็ควรจะไปลดความขี้อิจฉาลงบ้าง อย่างไรเราก็เป็นเพื่อนกันมานานทั้งสามคน ณิศาเขาไม่เคยว่าเธอเลยสักคำ มีแต่เธอที่คอยจะมาใส่ร้ายเขาตลอดเวลา” ชายหนุ่มรักและเชื่อใจในตัวแฟนสาวมาก เพราะเขากับเธอ ตกลงคบกันเป็นแฟนมาเกือบสิบปีแล้วกันตภณเขาจำได้เมื่อตอนเด็กๆ ปาลิดาแอบชอบเขาถึงขนาดเขียนจดหมาย มาวางไว้ที่ใต้โต๊ะทุกวัน และวันที่เขาตัดสินใจเป็นแฟนกับณิศา ดิวก็เอาแต่ร้องไห้และอาละวาดใส่ณิศาหาว่าแย่งเขาไปจากเธอ“ฉันยอมรับ ว่าเมื่อตอนเด็กๆ ฉันมันขี้อิจฉา แต่ตอนนี้ฉันโตแล้ว จำไว้นะว่าฉันมาเตือนนายแล้ว”ถึงแม้จะเ
2เกลี้ยกล่อม ณิศาร้องไห้มาหาคนรักที่กำลังทำงานอยู่ที่ไร่ หน้าตาของเธอบวมแดงเหมือนผ่านการร้องไห้อย่างหนักมา “ณิศาเป็นอะไร เกิดอะไรขึ้นบอกภณมาสิ มีใครทำอะไร ภณจะไปจัดการมันเอง” ชายหนุ่มลูบผมคนรักในอ้อมกอด “ที่ดินแปลงสุดท้ายของบ้าน พ่อเอาไปจำนองไว้กับนายอำเภอ เขากำลังจะยึดที่ของพ่อ ณิศาไม่รู้จะทำยังไง” หญิงสาวบีบน้ำตา ได้เหมือนสั่งมันได้อย่างใจ ชายหนุ่มเชื่อในคำพูดทุกอย่างที่เธอบอก “ภณจะช่วยณิศาได้ยังไงกัน ภณคิดไม่ออกจริงๆ” ชายหนุ่มมองไม่เห็นหนทาง “ภณก็เอาเงินจากคุณนิรัชไปซื้อที่คืนจากกำนันแล้วเอากำไรที่ได้มาแต่งงานกับณิศา แค่นี้พ่อก็จะไม่ต้องโดนยึดที่แล้ว แต่...ถ้าภณยังไม่อยากแต่งงานหรือไม่อยากช่วยก็ไม่เป็นไรนะ” เมื่อได้ยินคำพูดแกมน้อยใจของคนรัก มีหรือที่ผู้ชายอย่าง กันตภณจะไม่หวั่นไหว เขาตัดสินใจที่จะพูดกับพ่อคืนนี้ หลังอาหารมื้อเย็นชายหนุ่มตัดสินใจ ที่จะพูดเรื่องการซื้อที่คืนจากกำนันแล้วเอาส่วนต่างที่ได้ไปขอณิศาแต่งงาน เพื่อช่วยไม่ให้พ่อของเธอโดนยึดที่ดินที่เหลือแค่แปลงสุดท้าย “แล้วแต่ลูกต
3วิวาห์จำยอม “เอ้า...ทำไมย้อนกลับมาเร็วจังล่ะเจ้าภณ อย่าบอกนะว่านางณิศามันยอมให้เอ็งแต่งงาน” การเป็นผู้ใหญ่ที่อาบน้ำร้อนมาก่อนของกำนัน มองเหตุการณ์ทุกอย่างได้ชัดเจน ในเมื่อผู้หญิงเขามีคนอื่นไปแล้ว มันไม่มีความรักหลงเหลือมันคงมีก็แต่ผลประโยชน์ “ผมต้องการแต่งงานกับดิวให้เร็วที่สุดครับ” ชายหนุ่มไม่ยอมพูดถึงคนรัก เพราะเขารู้ ยิ่งพูดถึงยิ่งทำให้กำนันมองณิศาไปในทางที่ไม่ดี “ใจร้อนเสียด้วย เดี๋ยวฉันจะไปดูฤกษ์ดี ที่เร็วที่สุดกับหลวงตาที่วัดแล้วจะไปบอกเอ็งที่บ้าน” ฤกษ์ที่เหมาะที่สุด เร็วสมใจจริงๆ ทั้งสองฝ่ายมีเวลาเตรียมตัวแค่สามวัน แต่ชาวบ้านในหมู่บ้านต่างมาช่วยกัน ไม่นานงานทุกอย่างก็พร้อมสำหรับงานแต่งงานในวันพรุ่งนี้ พิธีในช่วงเช้าเป็นในส่วนของพิธีสงฆ์ ชายหนุ่มพยายามมองหาคนรักแต่ก็ไม่พบว่าหญิงสาวมาร่วมงาน ปาลิดาเธอเห็นสีหน้าของเจ้าบ่าว จิตใจที่คิดว่าจะหนักแน่น ก็ยังอดน้อยใจไม่ได้ พิธีเช้าและบ่ายผ่านไปได้ด้วยดี ถึงพิธีส่งตัวเข้าหอ บ้านหลังเล็กที่อยู่ติดกับบ้านของกำนัน ถูกตกแต่งให้เป็นเรือนหอของบ่าวสาว
4ข้าวใหม่ปลามัน วันนี้ปาลิดาตื่นสายกว่าทุกวัน เพราะเธอรู้สึกเนื้อตัวช้ำไปหมด แสงแดดจากนอกหน้าต่างลอดผ่านช่องว่างของผ้าม่านผืนสีขาวเข้ามา ทำให้หญิงสาวรู้ว่าตอนนี้คงสายมากแล้ว หญิงสาวพยายามจะลุกขึ้นจากที่นอนแต่มันกลับทำให้เธอรู้สึกวูบและล้มลงกลับไปนอนบนที่นอนที่ตอนนี้ผ้าปูยุ่งเหยิงไปหมด “ดิว ดิว ” เสียงเรียกจากเสียงที่เธอฟังไม่ค่อยถนัด กว่าจะนึกได้ว่าคือเสียงของสามีของเธอนั่นเอง “ตัวร้อนเชียว ” กันตภณเอาหลังมือทาบลงที่หน้าผากของหญิงสาว ที่นอนหน้าแดงกร่ำอยู่บนที่นอน “รู้สึกเหมือนจะเป็นไข้เลย” ปาลิดาบอกสามี ทั้งที่เธอยังคงหลับตาอยู่ เพราะร่างกายอ่อนเพลียเกินกว่าจะลืมตาได้ “ภณนายทำอะไร” หญิงสาวถามเมื่อรู้สึก ว่ามีผ้าชุบน้ำมาสัมผัสกับเรือนร่างของเธอ “ก็เช็ดตัวให้อย่างไรล่ะ ไม่สบายก็นอนไป อย่าพูดมาก” ชายหนุ่มไล่เช็ดตัวให้ภรรยาตั้งแต่บริเวณที่อยู่นอกเสื้อผ้า ไปจนถึงในส่วนที่ถูกปกปิดไว้ นาทีนี้ปาลิดาก็ยังคงอายเขาอยู่ ถึงแม้เมื่อคืนเขาจะได้เห็นทุกส่วนของร่างกายเธอแล้ว แต่ด้วยพิ