11
ความจริง
ค่ำคืนนี้กันตภณหลับโดยไม่ต้องพึ่งยานอนหลับเลย เพราะเขารู้สึกสบายใจขึ้นมาก ที่พรุ่งนี้พ่อของเขาจะได้ถอดท่อช่วยหายใจ ความจริงทุกอย่างก็จะถูกเปิดเผย
“มานอนกอดหน่อยสิ”
ชายหนุ่มเรียกภรรยาที่กำลังนั่งหวีผม ให้มานอนข้างๆเขา เหมือนเด็กที่กำลังอยากอ้อนเอาอะไร
“หวีผมอยู่...” ปาลิดาลากเสียง
“ก็มาหวีตรงนี้ เดี๋ยวภณหวีให้”
ปาลิดาอยากรู้ว่าสามีของเธอจะทำได้เหมือนที่พูดจริงไหม เธอจึงหยิบหวีและลุกไปนั่งข้างๆเขา
“ผมคุณดำมากเลย ถ้ามีลูกผู้หญิงต้องผมสวยเหมือนคุณแน่ๆ”
ชายหนุ่มพูดเหมือนลืมไปแล้ว ว่าเขาตกลงอะไรไว้กับครอบครัวของภรรยา
“ถ้าพ่อภณหายแล้ว ภณจะกลับไปอยู่ดูแลพ่อก็ได้นะ”
“แล้วดิวล่ะ” ชายหนุ่มถามกลับทันที
“ดิวก็คงต้องอยู่ดูแลพ่อที่บ้าน”
“ไม่เอา ถ้าดิวไม่ไปอยู่กับภณ ภณก็จะเอาพ่อมาอยู่กับเรา ดิวคงไม่ว่าภณนะ นอนไม่หลับแน่ๆถ้าต้องนอนคนเดียว”
หญิงสาวแอบยิ้มให้กับคำตอบ ถึงแม้ว่าเธอจะไม่รู้ว่ามันแทนคำว่ารักได้หรือเปล่า
“แต่ก่อนคุณก็นอนคนเดียวนะ ทำมาเป็นจะนอนไม่หลับ”หญิงสาวแย่งหวีจากมือชายหนุ่มมาหวีเอง
“ก็มันไม่ชินแล้ว นอนกอดเมียมาตั้งหลายเดือน จะให้กลับไปนอนคนเดียวได้ยังไง”
กันตภณทำตัวเป็นเด็กช่างอ้อน คว้าเอวภรรยามากอด ก่อนจะลุกมานอนหนุนตักและจับมือของปาลิดามาหอม
“ภณเคยคิดว่าคนเรา มีชีวิตเพื่อเรียนหนังสือ มีงานทำ แต่ตอนนี้กลับไม่คิดแบบนั้นแล้ว”
“แล้วคิดว่าอะไร ” ปาลิดาถาม
“คนเราเกิดมาเพื่อดูแลใครสักคน และก็เป็นใครสักให้คนอื่นต้องดูแล เหมือนอย่างตอนนี้ ภณยังคิดไม่ออกเลย ว่าถ้าต้องมานอนโรงแรมคนเดียวจะทำยังไง แต่พอมีดิวอยู่ด้วยชีวิตมันก็รู้สึกไม่เวิ้งว้าง เหมือนเราไม่ได้มีตัวคนเดียวในโลกใบนี้ ”
“ไม่มีดิว เดี๋ยวภณก็จะมีคนอื่นมาแทนที่” หญิงสาวพลั้งปากพูดออกไป
“ดิวหมายความว่าอะไร”
ชายหนุ่มลุกจากตักของปาลิดาแล้วหันหน้ามาจ้องตาเธออย่างรอคำตอบ
“ภณจำไม่ได้เหรอ ว่าภณจะหย่ากับดิวทันทีที่ดิวท้องพร้อมกับพ่อจะยอมขายที่คืนให้ และภณก็จะได้ไปแต่งงานกับผู้หญิงที่ภณรัก”
ชายหนุ่มไม่รู้จะพูดอะไร เพราะมันคือเรื่องจริงที่เขาเคยตั้งมั่นไว้ ไฟทุกดวงในห้องถูกปิดลงทันที ชายหนุ่มไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร เขารู้แต่ว่าวันนี้ เขาจะทำหน้าที่สามีให้ดีที่สุดก็พอ
“ไม่ได้ไม่ดีก็ทำแบบนี้นะ”
ปาลิดาต่อว่า เมื่อมือหนาเริ่มลูบไล้ไปตามเรือนร่างของเธอและทุกอย่างก็เป็นไปตามที่ทั้งสองเคยมีความสุขร่วมกัน
“พ่อเป็นไงบ้างครับ พูดได้แล้วนะ” ชายหนุ่มดีใจที่เห็นพ่อถอดท่อช่วยหายใจแล้ว
“ณิศามันทำพ่อ มันยิงพ่อ มันบอกว่าพ่อทำให้ชีวิตมันพัง”
วิมลเหมือนคนที่เก็บกดรอคอยเวลานี้มานาน เขารีบพูดทุกอย่างที่เขาอยากพูดมาตลอดที่รู้สึกตัว
“พ่อใจเย็นๆนะคะ ค่อยๆเล่าค่ะ” ปาลิดาจับมือพ่อสามีเพื่อหวังให้คนเจ็บใจเย็นลง
“มันบอกมันฆ่าพ่อเสร็จ มันจะไปฆ่าหนูดิว พ่อกลัวภณพ่อกลัว”
“พ่อผมอยู่ที่นี่แล้ว ไม่มีใครทำอะไรพ่อได้ทั้งนั้น ผมขอโทษที่พาผู้หญิงเลวๆเข้ามาในชีวิตครอบครัวเรา พ่อไม่ต้องกลัวนะ ตอนนี้ตำรวจกำลังตามจับณิศาอยู่”
ปาลิดารู้ว่าจิตใจสามีของเธอไม่ได้เข้มแข็งเลยตอนนี้ แต่เขาไม่กล้าอ่อนแอให้คนเป็นพ่อเห็น เพราะมันจะยิ่งทำให้คนเจ็บหวาดกลัวไปกันใหญ่
“ภณดูแลเมียลูกดีๆนะ พ่อกลัวใจมัน ขนาดพ่อแก่แบบนี้มันยังทำได้”
วิมลถึงจะเจ็บแค่ไหน ก็ยังอดเป็นห่วงลูกสะใภ้ไม่ได้ เขากลัวความบ้าคลั่งของณิศาเพราะเขาเจอมากับตัว เธอเหมือนคนไม่มีสติแล้ว
“พ่อสบายใจได้เลย ดิวไม่เคยคลาดสายตาไปจากผม ผมไม่มีทางปล่อยให้ใครมาทำร้ายเมียผมได้แน่นอน”
ยังคุยกันไม่ทันเท่าไหร่ คุณหมอก็เดินมาแจ้งอาการคนไข้ ทั้งสามคนจึงต้องหยุดคุยกันก่อน
“พรุ่งนี้ช่วงเย็นเราจะย้ายคนไข้ ขึ้นไปอยู่ห้องพิเศษได้แล้ว จริงๆย้ายได้ตั้งแต่เช้าแต่ห้องไม่ว่าง ไว้ช่วงเย็นญาติเข้ามาติดต่อที่หน้าห้องนะครับ และถ้าไม่มีอาการแทรกซ้อนอะไรสามสี่วันก็น่าจะกลับไปรักษาตัวที่บ้านได้ เพียงแต่ต้องทำแผลทุกวัน”
“ขอบคุณ คุณหมอมากนะครับที่ช่วยชีวิตพ่อผมไว้”
“มันเป็นหน้าที่ของหมอที่ต้องรักษาชีวิต ของทุกคนไว้ให้สุดความสามารถ”
หลังจากได้เข้ามาอยู่ที่ห้องพิเศษ ทางตำรวจก็ขออนุญาตมาสอบปากคำ ทางวิมลก็ได้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับทางตำรวจได้เป็นอย่างดี
“จากหลักฐานและพยานทางเราจะสามารถออกหมายจับได้เร็วๆนี้ ผู้ต้องหาซ่อนตัวอยู่ไม่ไกล ทางเรารู้ที่ซ่อนแล้ว แต่ยังรอให้มามอบตัวเอง ถ้ายังไม่มาเราก็จะออกหมายจับต่อไป”
กันตภณเขาอยากเจอกับณิศามาก เขาอยากถามเธอ ว่าเพราะอะไรเธอถึงทำกับพ่อของเขาแบบนี้ ทั้งที่ตัวเขาเองก็รักเธอจนสุดหัวใจ
“ณิศาอาจมีเหตุผลที่ต้องทำ และภณก็อาจจะเข้าใจและให้อภัยเธอได้ค่ะ อย่าเพิ่งคิดอะไรไปในทางที่ไม่ดีเลยนะคะ”
ปาลิดารู้ว่าเวลานี้ สามีของเธอกำลังอ่อนแอ เพราะเขาหลอกตัวเองมาตลอดตั้งแต่เกิดเรื่อง ว่าต้องไม่ใช่ณิศา แต่เมื่อได้ยินความจริงจากบิดา ชายหนุ่มก็ยังทำใจกับความจริงที่เขากลัวมาตลอดไม่ได้
“ผมขอโทษที่อ่อนแอ” ชายหนุ่มจับมือภรรยาที่จับไหล่เขาไว้อย่างขอโทษ
“ดิวก็อ่อนแอไม่ต่างจากภณหรอก เพราะอย่างไรณิศาก็เป็นเพื่อนเรามาตั้งแต่เด็กๆ ดิวเชื่อว่าณิศาต้องมีเหตุผล”
ถึงจะเจ็บแค่ไหน แต่ปาลิดาก็ยังคงทำตัวเข้มแข็ง เพื่อเป็นกำลังใจให้สามีของเธอในวันนี้ เพราะอีกไม่นานเธออาจไม่มีโอกาสได้ทำแล้ว
12มอบตัว หลังจากตำรวจออกหมายเรียกได้ไม่นาน พ่อของณิศาก็พาลูกสาวเข้ามอบตัว จากการสอบสวนผู้ต้องหาทำให้รู้เรื่องราวทั้งหมด ทุกอย่างมันเกิดขึ้นจากการที่ณิศาและนิรัชเกิดมีความสัมพันธ์กันเกิดขึ้น และทางฝ่ายชายได้อัดคลิปไว้ เพื่อใช้เป็นสิ่งต่อรองให้เธอทำตามที่เขาต้องการ ที่ดินของวิมลกับของต้อมคือที่ดินที่ ทางนายใหญ่ของนิรัชต้องการ เพราะในที่ดินทั้งสองผืน เคยเป็นที่ฝังสมบัติเมื่อสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง เมื่อณิศาทำไม่สำเร็จ ทางนิรัชก็ถูกนายใหญ่ทำโทษด้วยความโกรธเขาจึงปล่อยคลิปเขากับณิศา หญิงสาวเครียดไม่รู้จะทางออกยังไง จึงเอาปืนที่พ่อของเธอซ่อนไว้ หวังจะมายิงปาลิดา แต่ไม่มีโอกาสจึงหันมาทำร้ายวิมลแทน เพราะถ้าวิมลยอมทำตามที่เธอต้องการตั้งแต่ทีแรก ภณก็คงไม่ต้องแต่งงาน และเธอก็จะไม่ต้องอายคนทั้งประเทศแบบนี้ ชายหนุ่มได้ฟังข้อมูลจากทางตำรวจทั้งหมด เขาคิดไม่ถึง ว่าผู้หญิงที่เขารักและซื่อสัตย์กับเธอตลอด ที่ไปเรียนต่อที่กรุงเทพเธอจะนอกใจเขา แต่ด้วยความรักที่ทั้งคู่เคยมีให้กัน และณิศาก็ได้รับกรรมของเธอแล้ว ชายหนุ่มจึงอโหสิกรรมให้“กลับบ้านกันนะพ่อ”หมอให
บทที่ 1น้องปี1 การอยู่หอของน้องปีหนึ่งถือได้ว่า เป็นเรื่องที่สุดแสนจะตื่นเต้น แต่ละคนได้มาอยู่ห้องเดียวกัน ต่างก็มาจากคนละที่ คนละจังหวัด บางคนก็ขนของมาเต็มที่ บางคนก็มีของติดตัวมาเพียงน้อยนิด “เราชื่อซัมเมอร์นะ เธอล่ะเชื่ออะไร”สาวสวยที่ดูจะพกความมั่นใจมาเต็มร้อย ท่าทางการแต่งตัวของเธอบ่งบอกถึงความทันสมัย และมีฐานะ “เราชื่อลูกพีช ยินดีที่ได้รู้จักนะ” สาวน้อยหน้าตาท่าทางเรียบร้อย ดูยังขี้อายอยู่ที่ต้องคุยทักทายกับเพื่อนใหม่ ห้องนอนถูกแบ่งให้แต่ละห้องนอนด้วยกันสองคน โดยการสุ่มเลือกของทางมหาวิทยาลัย ลูกพีชกับซัมเมอร์ถูกเลือกให้นอนห้องเดียวกัน “ลูกพีชเลือกตู้เสื้อผ้า กับเตียงก่อนได้เลยนะ เราเอาอันไหนก็ได้”พูดจบซัมเมอร์ก็เดินออกจากห้องที่อยู่ชั้นสามออกไปข้างนอก เมื่อเหลือตัวเองอยู่ในห้องคนเดียว ลูกพีชก็อดน้ำตาซึมไม่ได้ ตั้งแต่โตมา ก็เพิ่งจะเคยห่างพ่อกับแม่ครั้งแรก ไม่รู้เมื่อไหร่จะชิน สาวน้อยน้ำตาไหลอาบแก้มอย่างไม่ต้องอายใครเวลานี้ “ลูกพีช เราซื้อขนมมาฝาก”คนสวยของห้องลงไปข้างล่างได้ไม่นาน ก็เดินขึ้นมาพร้อมถุงขนมใบใหญ่
ทั้งคู่เลือกกินร้านอาหารตามสั่งที่ อยู่ไม่ไกลจากหอ ในซอยที่อยู่ห่างไปจากหอไม่ถึง500 เมตร เป็นแหล่งกิน แหล่งซื้อของ ของบรรดานักศึกษาที่นี่ ถึงแม้จะเป็นซอยแคบๆ แต่ผู้คนเดินไปเดินมา กันเต็มไปหมด ซัมเมอร์ไม่ชอบที่จะต้องคอยเดินหลบรถมอเตอร์ไซค์ที่ขี่เข้ามาในซอย จึงชวนลูกพีชกินร้านๆแรกๆที่เจอเลย “เธอมองอะไรซัมเมอร์”สาวน้อยขี้อายดุใส่เพื่อน เมื่อเห็นเธอกำลังส่งสายตาหวานให้โต๊ะข้างๆ ที่มีแต่ผู้ชายนั่งอยู่ทั้งโต๊ะ “ก็เขามอง เราก็มองตอบ ไม่มีอะไรหรอก” คนตอบไม่สนใจจริงจัง ถึงแม้ตอนนี้ซัมเมอร์จะเลิกสนใจมองผู้ชายที่นั่งอยู่โต๊ะข้างๆแล้ว แต่ผู้ชายหนึ่งในนั้นยังนั่งมองเธออยู่ ลูกพีชรู้สึกไม่ชอบเลย ถึงแม้ว่าผู้ชายคนนั้นจะมองด้วยสายตาที่ดี แต่มันเหมือนพวกเธอกำลังตกเป็นจุดสนใจ “ซัมเมอร์อิ่มหรือยัง ไปกันเถอะ” “ยังๆ อีกนิดนะ เธอกลัวพวกนั้นเหรอ ” ซัมเมอร์ รู้ใจคนชวนกลับ “ก็ดูพวกเขามองสิ เล่นจ้องไม่ละสายตา โดยเฉพาะเจ้าคนที่นั่งตรงข้ามเธอ ส่งตาหวานเชียว” คนพูดอายแทนคนถูกมอง “ปล่อยให้มองไป เราสวย เรารู้ ฮ่าๆ ๆ” ยังมีข้าวอยู่ในปากแ
บทที่2หนุ่มนักกีฬา เช้านี้ทั้งสองคนต่างแยกกันไปเรียน เพราะต่างคนต่างเรียนกันคนละคณะ ลูกพีชคณะของเธออยู่ด้างข้างของมหาวิทยาลัย เป็นคณะที่มีหนุ่มหล่อที่สุดเมื่อเทียบกับทุกคณะ ส่วนซัมเมอร์เธอเรียนคณะที่มีตึกสูงที่สุดและเป็นคณะที่ถือว่า มีแต่ผู้หญิงสวยๆ ซึ่งก็เหมาะกับเธอมาก เพราะความสวยของซัมเมอร์ไม่เป็นรองใคร มื้อกลางวันลูกพีชเลือกกินอาหารใต้อาคารเรียน เพราะไม่อยากเดินไปไหน อากาศข้างนอกร้อนจนแทบจะเผาเธอได้ “มีคนนั่งไหมครับ ขอนั่งด้วยคนนะ” เสียงดังมาจากด้านหลัง หญิงสาวจึงหันไปมองตามเสียง “ว่างค่ะ” “เอ้า! จำพี่ได้ไหม เราเคยเรียนโรงเรียนมัธยมด้วยกัน พี่ชื่อกวิน” ชายหนุ่มรีบแนะนำตัว เผื่อหญิงสาวตรงหน้าจะพอคุ้นชื่อและจำเขาได้ “คุ้นๆค่ะ” ลูกพีชตอบ ใครว่าคุ้นๆ ชายหนุ่มผู้นี้ทำเอาหัวใจของลูกพีชแทบหยุดเต้น เขาคือรุ่นพี่ที่โรงเรียนเก่า เธอแอบชอบเขาตั้งแต่เข้าไปเรียนใหม่ๆ และเขาก็คือสาเหตุที่ทำให้เธอเลือกเรียนที่นี่ด้วย “เรียนศิลปกรรมเหรอ ถึงมากินข้าวที่นี่” คนมาใหม่ถาม “ใช่ค่ะ เรียนที่นี่” คนตอบไ
ตั้งแต่มาถึงมหาวิทยาลับ ซัมเมอร์ยังไม่เจอผู้ชายที่ถูกใจเธอเลยเพิ่งจะเจอก็วันนี้ อย่างน้อยมันก็ทำให้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยน่าอยู่ขึ้นเยอะเลย อาหารเย็นวันนี้ ลูกพีชกินจนเกลี้ยงจาน เพราะเมื่อกลางวันเธอมัวแต่เขิน จนอิ่มอกอิ่มใจ กินต่อไม่ไหว พอถึงมื้อเย็นท้องว่างจนกินหมดจานแบบไม่เหลือสักเม็ด“ไปหิวมาจากไหนกัน เกือบกินจานเข้าไปด้วยเลย”เพื่อนที่นั่งกินข้างๆแซว เพราะคนกินข้าวตัวนิดเดียวแต่กินจนหมดจาน “อิ่มแล้ว เรา...ก็ไปออกกำลังกายกัน” สาวสวยในชุดออกกำลังยืนขึ้นอย่างมีความสุข “เพิ่งกินข้าวอิ่ม ไปออกกำลังกายเดี๋ยวก็จุกกันพอดี” ลูกพีชร้องห้าม “นี่แม่คุณ ใครว่าเราจะไปออกกำลังกายกันจริงๆล่ะ เราจะแค่กำลังจะไปนั่งพักเพราะวิ่งมาจนเหนื่อย แล้วก็ไปนั่งพักตรงสนามบาสแค่นั้นเอง” แผนการที่แสนจะอ่อยเต็มที่ “นั้นไง คนที่ใส่เสื้อสีแดง” ซัมเมอร์ชี้เป้าหมายให้เพื่อนสาวดู “ขาวดี แต่ยังเห็นหน้าไม่ชัดเลย” “ไปๆ เข้าไปนั่งข้างในเลย เขานั่งกันเยอะแยะ”ซัมเมอร์จูงมือคนตัวเล็กร่างบางให้เดินตามแบบที่ไม่รอฟังคำตอบเลย ว่าเธอจะอยากเข้าไปด้วยไหม
บทที่3เมื่อซัมเมอร์เจอเป้าหมายใหม่ เย็นนี้ลูกพีชรู้ตัวว่าคงต้องถูกลากไปที่ สนามบาสอีกแน่ คราวนี้เธอเลยขอไปออกกำลังจริงๆเลย ออกเสร็จค่อยไปกินข้าว “ซัมเมอร์เธอเข้าไปที่สนามบาสก่อนเลยนะ เราขอวิ่งอีกสองรอบจะตามเข้าไป” วิ่งได้แค่ไม่กี่รอบซัมเมอร์ก็ทำท่างอแง อยากไปที่สนามบาสแล้ว ลูกพีชยังอยากวิ่งออกกำลังกายอยู่ เธอจึงให้เพื่อนสาวที่ที่หน้าตาบูดบึ้งเพราะใจร้อน ไปที่สนามก่อนเธอเลย “ถ้าอย่างนั้น เราไปรอที่สนามบาสนะ แล้วอย่าหนีไปกินข้าวคนเดียวเสียล่ะ” คนสวยส่งยิ้มหวานให้เพื่อน ก่อนเดินแยกไปอีกทาง ลูกพีชเริ่มมีความสุขกับการได้มาออกกำลังกาย มันช่วยให้เธอคลายความคิดถึงบ้านได้มากเลย แม่เคยบอกว่าถ้าเราออกกำลังกายก่อนนอน จะช่วยให้นอนหลับง่าย หลายคืนที่ผ่านมา เธอเอาแต่นอนคิดถึงห้องนอนของเธอจนนอนไม่หลับมาหลายคืนแล้ว วิ่งได้ครบสองรอบตามสัญญา ลูกพีชก็ไปที่สนามบาส แต่ภาพที่เธอเห็นตรงหน้า ทำให้หญิงสาว เกือบจะวิ่งออกมาจากสนามบาส เพราะแทนที่เธอจะเห็นซัมเมอร์กับโอม เธอกับเห็นเพื่อนคนสวยยืนคุยกับกวิน รุ่นพี่ที่เธอแอบชอบมานาน
บทที่4แม่สื่อหัวใจว้าวุ่น “นอนหลับฝันดีนะครับ” กวีเปิดหน้าต่างรถ แล้วตะโกนบอกซัมเมอร์ที่กำลังเดินเข้าหอ อารมณ์แบบนี้เขาเรียกอิจฉาใช่ไหม ลูกพีชถามตัวเอง ทำไมนะ ทำไมคนที่เขาบอกไม่ใช่เธอ คืนนี้คงเป็นคืนที่เธอจะต้องจัดการกับความรู้สึกของตัวเองให้ได้ เพราะมันไม่ใช่ความผิดของทั้งคู่ เธอจะมาแอบโกรธซัมเมอร์ในใจแบบนี้ไม่ได้ ลูกพีชพยายามรวมรวมสติ “ลูกพีช เธอว่าพี่เขาจะชอบเราไหม” ซัมเมอร์ถามทันทีหลังจากถึงห้องที่หอพัก “เราไม่รู้ แต่คงชอบแหละ ถึงได้พาไปกินชาบู” คนตอบแทบจะอกแตกตาย “ไม่รู้ล่ะ เธอต้องช่วยเรา ก็เธอเคยเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกันมาก่อน แถมตอนนี้ก็เรียนคณะเดียวกันอีก” คนขอให้ช่วยกอดเอวเพื่อสาวอย่างเอาใจ “เราไม่ได้สนิทกับพี่เขาขนาดนั้นนะ แค่เคยเห็นกันเฉย ๆ ” ลูกพีชหาทางออก “ไม่รู้ล่ะ ลูกพีชเพื่อนที่แสนจะน่ารักต้องช่วยเรานะ แม่สื่อคนสวย” ความน่ารักช่างเอาอกเอาใจของซัมเมอร์นี่แหละ ที่ทำให้ลูกพีชใจอ่อน ถึงแม้มันคงจะเป็นการทำร้ายหัวใจของตัวเอง หญิงสาวได้แต่บอกกับตัวเองว่า เธอเป็นเพียงคนที่แอบชอบ ไม่ได้เป็นแฟนพี่เ
บทที่5นอกใจ การที่ซัมเมอร์ไปเฝ้ากวินซ้อมทุกวัน ทำให้เธอตกเป็นเป้าสายตาของโค้ชที่ชื่อณัฐ นอกจากเขาจะเป็นโค้ชแล้ว เขายังเป็นอาจารย์พิเศษของมหาวิทยาลัยอีกด้วย เขาเป็นชายหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่ง ที่มีความฮอทฮิตไม่น้อยไปกว่า นักบาสในทีมเลย “เห็นมานั่งรอเจ้ากวินหลายวันแล้ว โค้ชยังไม่รู้จักเลยชื่ออะไรกันบ้าง” วันนี้ลูกพีชไปที่สนามเป็นเพื่อนซัมเมอร์ โค้ชจึงถามชื่อของคนทั้งคู่ ทั้งที่สายตาดูแล้ว คงอยากรู้แค่ชื่อของซัมเมอร์คนเดียว สาวสวยช่างเจรจาทำหน้าที่ รายงานชื่อของตัวเธอและลูกพีช แววตาที่คนทั้งคู่มองกัน มันทำให้ลูกพีชที่สนิทกับซัมเมอร์มานาน พอเดาได้ ว่าเพื่อนของเธอกำลังคิดอะไรกับสายตาของโค้ชที่แสนจะดูเจ้าชู้ขนาดนั้น “โค้ชทั้งหล่อและเก่งแบบนี้ ถึงได้พาลูกทีมหล่อและเก่งไปด้วยทุกคน” ซัมเมอร์ป้อนคำหวาน “ยังหล่อสู้กวินไม่ได้ ไม่อย่างนั้นคงได้มีโอกาสมีสาวสวยหน้าตาดีมาเฝ้าทุกวันอย่างเจ้ากวิน” “โค้ชก็พูดเกินไปค่ะ” คนโดนชมทำท่าอายแบบยั่วยวนหลังจากวันนั้น ลูกพีชก็ไม่ได้ไปที่สนามบาสอีก เพราะเธอมีรายงานที่ต้องทำหลายเรื่อง อีกทั้งตอนนี้