[เกิดใหม่ + รักต้องห้าม + อายุห่างกัน + ตามง้อเมียอย่างหนัก] หลังจากผ่านคืนอันเร่าร้อนกับอาเล็กในนาม หลินจืออี้ต้องทนทุกข์ทรมานนานถึงแปดปี ในขณะที่เธอกอดโถเถ้ากระดูกของลูกสาวเพื่อฆ่าตัวตาย กงเฉินกลับกำลังจัดงานเลี้ยงวันเกิดที่ยิ่งใหญ่ให้กับลูกชายของรักแรก เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้ง เธอที่กลับมาเกิดใหม่อีกครั้ง ตัดสินใจแน่วแน่จะให้กงเฉินชดใช้ในสิ่งที่ทำลงไป! ชาติก่อน เธอเพียรพยายามอธิบาย แต่กงเฉินกลับหาว่าเธอจงใจวางยา ชาตินี้ เธอจึงขีดเส้นเว้นระยะห่างกับเขาอย่างชัดเจนต่อหน้าผู้คนซะเลย! ชาติก่อน รักแรกขโมยผลงานของเธอ กงเฉินกลับบอกว่าเป็นเพราะเธอขี้อิจฉา ชาตินี้ เธอก็เลยเหยียบรักแรกของเขาขึ้นไปรับรางวัลบนเวที! ชาติก่อน เธอถูกใส่ร้าย กงเฉินกลับลำเอียงปกป้องรักแรก ชาตินี้ เธอจึงเอาคืนด้วยตบหน้ารักแรก! กงเฉินมักจะคิดว่าหลินจืออี้จะรักเขาอย่างสุดซึ้งตลอดไป รอจนหลินจืออี้ใจเด็ดจากไปจริงๆ เขาถึงได้ตระหนกอย่างถึงที่สุด กงเฉินผู้หยิ่งผยองดึงเธอด้วยดวงตาแดงก่ำ "จืออี้ อย่าทิ้งฉันไป พาฉันไปด้วยได้ไหม?"
View More"เกิดอะไรขึ้น? ทําไมต้องโมโหขนาดนี้ด้วย?”ฉินซว คุณนายซ่ง ก้าวไปข้างหน้าและกอดซ่งหว่านชิว เมื่อเห็นใบหน้าของเธอเธอก็ตกใจและถามต่อไปว่า "เกิดอะไรขึ้น? ใครกล้ามาทําร้ายแกแบบนี้?”“เป็นหลินจืออี้”ซ่งหว่านชิวเล่าเรื่องให้ฉินซวงฟังอย่างคับแค้นใจฉินซวงยิ่งฟังก็ยิ่งโกรธ พลันตบโต๊ะอย่างแรง“ไร้เหตุผลสิ้นดี! ก่อนหน้านี้ทําให้พวกเราเสียหน้า จนต้องไปขอโทษนังแพศยาหลิ่วเหอนั่นที่บ้านอีก ตอนนี้มันที่เป็นแค่ลูกติดก็กล้ามาเล่นลูกไม้ต่อหน้าแกงั้นเหรอ? ดูท่าทางแล้วไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำเอาซะเลย!”“แม่คะ คุณท่านกับประธานเซวียเห็นหมดแล้ว ฉันควรทํายังไงดี?” ซ่งหว่านชิวเม้มปากฉินซวงลุกขึ้นเดินไปเดินมาด้วยรูปร่างที่สง่างาม แต่สีหน้ากลับเต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ทันใดนั้น เธอก็หยุดเดินพลันเลิกคิ้วและยิ้ม“ตอนนี้ หลินจืออี้ก็ไม่มีไพ่ตายอยู่ในมือแล้ว เป็นโอกาสดีที่จะลงมือ”“แต่โทรศัพท์ของหนูก็โดนลบทิ้งแล้วเหมือนกันนะคะ” ซ่งหว่านชิวพูดอย่างโกรธเคือง"แล้วมันเกี่ยวอะไรด้วย? อย่าลืมสิ ไพ่ตายของเราคือแก ในแง่ของการดึงดูดใจคน มันจะไปสู้แกได้ยังไง?” ฉินซวงยกคางของเธอขึ้นและพูดอย่างน่าสงสาร “ดูหน้าแกสิ
ซ่งหหว่านชิวกล้าให้ไหม?แน่นอนว่าไม่กล้าเธอพูดเองว่า ในมือถือเต็มไปด้วยรูปภาพที่ทําให้หลิ่วเหอและกงฉื่อหยานอับอายในวันนั้นน่าเสียดาย ตอนนี้จะให้หรือไม่ให้ก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเธอแล้วคุณท่านกงมองไปที่บอดี้การ์ดที่อยู่ข้างหลังเขา บอดี้การ์ดเอื้อมมือไปคว้าโทรศัพท์ของเธอ จากนั้นถอดรหัสหน้าจอและเปิดเครื่องและส่งออกไปภาพถ่ายหลายร้อยรูปในอัลบั้ม ทําให้เขาเกือบจะบีบหน้าจอโทรศัพท์แตก“ซ่งหหว่านชิว เธอใช้ได้เลยนะ ดูเหมือนว่าคําเตือนของฉันยังไม่เพียงพอสินะ!”“คุณ คุณท่านคะ ฉันไม่ได้...”ร่างกายของซ่งหหว่านชิวอ่อนปวกเปียก แทบจะคุกเข่าขอความเมตตาแล้วคุณท่านกงไม่แม้แต่จะมองเธอ โยนโทรศัพท์ให้กงเฉิน แล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “แกจัดการซะ!”“ครับ”กงเฉินตอบรับเสียงเรียบขณะนี้เอง หลี่ฮวนก็มาถึง พอเห็นท่าทางของหลินจืออี้ก็ทําให้เขาตกใจจนเกือบจะกรีดร้อง"หลินจืออี้! คุณมีจิตสํานึกในการเป็นคนไข้หน่อยได้ไหม ผมให้น้ำเกลือคุณ แต่คุณมาทำเป็นบริจาคเลือดแทนเนี่ยนะ”ทุกคนจึงพบว่ามือที่ให้น้ำเกลือของหลินจืออี้มีเลือดกลับมาตั้งนานแล้ว ท่อส่งของเหลวสีแดงเลือดสายหนึ่งดูน่าตกใจยิ่งนักหลินจืออี้ร่างกายอ่อ
ซ่งหว่านชิวก็เป็นคนแบบนี้ จริงเท็จผสมกัน แต่สามารถแสดงออกมาได้อย่างจริงใจและน่าสงสารเธอจงใจพูดว่าหลินจืออี้พูดว่าไปทำลายเรื่องดีๆ ของเธอ กงเฉินย่อมต้องคิดเชื่อมกับเรื่องห้องเก็บไวน์หลินจืออี้มีประวัติวางยาเพื่อปีนขึ้นเตียง งั้นกงเฉินก็จะต้อวสงสัยว่าที่เธอเมาตกน้ำก็เพราะกําลังเล่นละครอยู่เขาเป็นคนขี้ระแวงอยู่แล้วเมื่อมีความสงสัย หลินจืออี้ก็จะถูกปฏิเสธโดยสิ้นเชิงในชาติก่อน หลินจืออี้ก็ถูกซ่งหว่านชิวบีบให้จนมุมด้วยวิธีนี้หลังจากฟังจบ สีหน้ กงเฉินที่ปกป้องซ่งหว่านชิวก็เย็นชาและน่ากลัวขึ้นมาทันทีและในเวลานี้ ด้านหลังกงเฉินยังมีคนสองคนตามมาด้วยคุณท่านกงและเซวียม่านที่เพิ่งกลับมาจากการเดินทาง ล้วนเป็นซ่งหว่านชิวที่เรียกมาในเวลาที่กําหนดทั้งสองมองรอยฝ่ามือบนใบหน้าซ่งหว่านชิว ต่างก็มองหลินจืออี้อย่างไม่พอใจคุณท่านกงเริ่มโจมตบก่อน "หลินจืออี้ แกล้งบ้าแกล้งโง่พอหรือยัง? ทำตัวแบบนี้ใช้ได้ซะที่ไหน?"เซวียม่านไม่ชอบผู้หญิงที่เจ้าแผนการ ถ้าหลินจืออี้เป็นคนแบบนี้ งั้นเธอก็ไม่สามารถให้เธออยู่ในสตูดิโอได้“หลินจืออี้ หวังว่าเธอจะให้คําอธิบายที่สมเหตุสมผลกับฉันด้วย”ไม่รอให้หลินจื
หลินจืออี้มองซ่งหว่านชิวที่กําลังเข้าใกล้ ในใจไม่มีระลอกคลื่นใดๆเธอนั่งตัวตรง เหลือบมองมือที่บาดเจ็บของซ่งหว่านชิว แล้วยิ้มเยาะ “พูดจบแล้วเหรอ? ลำบากเธอจริงๆ เลยนะที่ได้รับบาดเจ็บแล้วไม่ลืมที่จะคุยกับฉัน นี่ไม่เหมาะกับบุคลิกที่บอบบางของเธอเลยนะ? ในเวลานี้เธอควรนอนบนเตบยงร้องห่มร้องไห้ถึงจะถูกสิ”หลินจืออี้ประชดประชันเธอกลับไปริมฝีปากของซ่งหว่านชิวสั่นระริก เธอกัดฟันพลางพูดว่า “ฉันเสแสร้งเท่าเธอไม่ได้หรอก ภายนอกดูต้องการตัดความสัมพันธ์กับคุณชายสาม แต่ลับหลังกลับอ่อยเขาไปทั่ว แผนแกล้งปล่อยเพื่อจับนี่เธอเข้าใจดีเหลือเกินนะ”"ทำไมเหรอ? อยากเรียนหรือไง?” หลินจืออี้ถามด้วยรอยยิ้มซ่งหว่านชิวโกรธจนหน้าดําหน้าแดงสมองเต็มไปด้วยฉากที่เห็นนอกห้องเก็บไวน์ตอนนั้นซ่งหว่านชิวบอกว่าจะไปห้องน้ำ ที่จริงก็แค่อยากจะยืนยันว่ากงเฉินไปหาหลินจืออี้หรือเปล่าเมื่อผู้อํานวยการร้านอาหารบอกว่ากงเฉินไปเขตสำนักงานแล้ว เธอดีใจมากอย่างน้อยก็แสดงว่าหลินจืออี้ไม่ได้สําคัญขนาดนั้นแต่เมื่อเธอไปถึงเขตสำนักงาน กลับเห็นกงเฉินอุ้มหลินจืออี้อยู่ ซ้ำยังพาหลินจืออี้ไปยังห้องเก็บไวน์ส่วนตัวที่เธอเข้าไปไม่ได้ซ
จูบที่เผด็จการตกลงมา ไม่ให้โอกาสหลินจืออี้ได้ต่อต้านเลยแม้แต่น้อยริมฝีปากและฟันแนบชิดกัน กงเฉินสํารวจกลิ่นไวน์ที่โชยออกมาจากริมฝีปากของเธอทุกกระเบียดนิ้วหลินจืออี้ยกมือขึ้นผลักอกของเขา แต่เมื่อฝ่ามือสัมผัสผิวของเขา กลับรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าเขาหายใจถี่ขึ้น จูบยิ่งแรงขึ้นแต่นี่ยังไม่เพียงพอ หลังจากชิมอาหารอันโอชะแล้ว ใครจะยอมสงบจิตสงบใจได้กันเล่า?กงเฉินก็เป็นผู้ชายเหมือนกันหลินจืออี้ถูกอุ้มไปที่โต๊ะไวน์ เสื้อไหมพรมหดตัวลง เผยให้เห็นผิวขาวๆ บนขามือของกงเฉินลูบไล้ตามผิวของเธอหลินจืออี้กําลังคิดว่าจะผลักเขาออกยังไง โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นกงเฉินยันตัวขึ้นอย่างไม่พอใจ ก่อนกวาดตามองหมายเลขแล้วรับสาย“เฉินจิ่น”“คุณชายสาม คุณซ่งไปเข้าห้องน้ำแล้วลื่นล้มโดยไม่ตั้งใจ มือที่บาดเจ็บก่อนหน้านี้ไปยันพื้นเข้า บอกว่าเจ็บมาก ผมเรียกรถพยาบาลพาเธอไปโรงพยาบาลแล้วครับ”“ส่งเสื้อผ้าชุดหนึ่งมาที่ห้องเก็บไวน์”"ห้องเก็บไวน์หรือครับ? ได้ครับ"ไม่นาน เฉินจิ่นก็มาถึง หลังจากกวาดมองทั้งสองคนแล้ว ก็รีบก้มหน้าส่งเสื้อผ้าที่สะอาดให้ จากนั้นก็ถอยออกไปกงจมไปเปลี่ยนเสื้อผ้าหลังม่านหลินจืออี้รีบ
หลินจืออี้เบิกตาโพลงมองผู้ชายตรงหน้าก็เห็นเพียงเขายกมือสองข้างขึ้นดึงคอเสื้อด้านหลังแล้วดึงไปข้างหน้า เสื้อถูกถอดออกมาทันที เผยให้เห็นร่างกายอันเต่งตึงที่ซ่อนอยู่ใต้เสื้อผ้าเพราะยกแขนทั้งสองข้างขึ้น กล้ามเนื้อที่เอวและท้องก็ขยับตามไปด้วย แต่กลับเห็นกล้ามเนื้อที่ชัดเจน ไม่มีไขมันส่วนเกินเลยแม้แต่นิดเดียวหลินจืออี๋อึ้งไปเล็กน้อย ทันใดนั้นเสื้อไหมพรมตัวหนึ่งก็ปาใส่หน้าเธอกงเฉินเอนกายพิงโต๊ะ กวาดตามองหลินจืออี้ด้วยสายตากรุ้มกริ่ม “คืนนั้นยังดูไม่พอหรือ? ไม่อยากป่วยก็ไปเปลี่ยนข้างในซะ”ใบหน้าของหลินจืออี้ร้อนผ่าวขึ้นมาทันที เธอคว้าเสื้อไหมพรมแล้ววิ่งเข้าไปในห้องเล็กก่อนจะวางผ้าม่านลงหลังจากนั้น ทั้งสองคนก็ไม่ได้พูดอะไรกัน ในอากาศมีเพียงเสียงหลินจืออี้ที่กำลังถอดเสื้อผ้ากงเฉินหยิบบุหรี่ออกมาหนึ่งมวน เมื่อเขากําลังจะจุดไฟ สายตาก็ถูกเงาบนผ้าม่านแย่งไปหลินจืออี้ที่กําลังถอดเสื้อคอเต่าออก เมื่อยกแขนขึ้น ก็เผยให้เห็นรูปร่างที่มีส่วนโค้งส่วนเว้าออกมามันช่างดูเย้ายวนภายใต้บรรยากาศสลัวๆ แบบนี้เธอเป็นสาวสวยจัดอยู่แล้ว ไม่จําเป็นต้องเปลืองแรงเลย ก็สามารถกระตุ้นทุกอณูเซลล์ของผู้ชาย ม
เฉินจิ่นพยักหน้าเล็กน้อย “เชิญครับ”ซ่งหว่านชิวเปิดประตูรถลงไปและเดินตรงไปยังอี๋หยวน…หลินจืออี้เดินออกจากห้องรับรองตามทางเดินยาว ลมเย็นที่พัดผ่านทำให้เธอที่กำลังเมาหนักอยู่แล้วยิ่งรู้สึกมึนงงกว่าเดิมความเมาเริ่มแทรกซึมลึกขึ้นอีกขั้นเธอจับเสาพยุงตัวพลางเดินไปตามความรู้สึก แต่พอเดินไปได้สักพักก็เหมือนจะนึกขึ้นได้ว่าตรงนี้ต้องเลี้ยว เธอเลยหันตัวกะทันหัน ทว่ากลับเหยียบพลาดตกบันไดเข้าเต็มๆตามมาด้วยเสียงดังตุ้ม ทันใดนั้นทั้งตัวเธอก็เปียกชุ่มไปหมดทันที ความเย็นเฉียบที่กระจายไปทั่วทำให้เธอได้สติขึ้นมาไม่น้อยหลินจืออี้ถึงเพิ่งรู้ว่าเธอเผลอตกลงไปในสระน้ำขนาดเล็ก เมื่อมองน้ำที่ลึกมาถึงช่วงอกพอดี ความรู้สึกอับอายก็พุ่งขึ้นมาทันทีเธอค่อยๆ เดินไปที่ขอบสระ แล้วเหยียบขั้นบันไดทีละก้าวอย่างระมัดระวังเพื่อขึ้นจากน้ำแต่ขอบสระที่เธอปีนขึ้นอยู่ติดกับกระจกหน้าต่างบานใหญ่ของสำนักงานผู้จัดการกงเฉินไม่ได้โกหกซ่งหว่านชิว ผู้จัดการอี๋หยวนมีเรื่องต้องหารือกับเขาจริงๆ“คุณชายสามครับ คุณหนูซ่งเพิ่งติดหนี้ไว้ที่นี่กว่าห้าล้าน วันนี้เธอก็เปิดไวน์หกขวดของคุณอีก จะลงบันทึกเป็นชื่อคุณเหมือนเดิม หรื
ในขณะที่กงเฉินพาซ่งหว่านชิวออกไป ซ่งหว่านชิวที่พิงไหล่เขาอยู่ก็หันกลับมามองหลินจืออี้ด้วยสายตาเกรี้ยวกราดเพียงแค่นั้นหลินจืออี้ก็รู้แล้วว่า ซ่งหว่านชิวคงจะพยาบาทเธออีกครั้งแน่หลินจืออี้ถอนสายตากลับมา แล้วมองเฉินฮวนด้วยความไม่เข้าใจ“เมื่อกี้เธอพูดอะไรน่ะ?”“จืออี้ ขอโทษนะ ฉันดื่มเยอะไปหน่อย เลยพูดล้อเล่นนิดหน่อย เธออย่าถือสาเลย”เฉินฮวนหน้าแดงก่ำเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ ดูก็รู้ว่าดื่มไปไม่น้อยจริงๆหลินจืออี้เองจะเอาคำพูดของคนเมามาเป็นเรื่องจริงจังก็คงไม่ได้ เธอจึงได้แต่เพียงเม้มริมฝีปากเล็กน้อย ก่อนจะเงียบไป ไม่พูดอะไรอีกบรรยากาศในห้องเต็มไปด้วยความครึกครื้น หลายคนดื่มจนเริ่มปล่อยตัวตามสบายเฉินฮวนลุกขึ้นอย่างโซเซ “ฉันเพิ่งเข้ามาทำงานใหม่ ขอถือโอกาสดื่มให้พี่ๆ ทุกคนสักแก้วนะคะ”พูดจบ เธอก็เงยหน้ากระดกเหล้าหมดแก้วในรวดเดียว แล้วพลิกแก้วคว่ำลงให้ทุกคนดูเพื่อยืนยันว่าเธอดื่มหมดจริงๆนี่มันทำให้คนอื่นๆ เหลือบตามองหลินจืออี้ไปด้วยเธอได้แต่ลุกขึ้นยกแก้วในมือขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ “ฉันเองก็ขอดื่มให้ทุกคนด้วยค่ะ”ก่อนหน้านี้ซ่งหว่านชิวก็คอยชักชวนให้ทุกคนดื่มกันหนักอยู่แล้ว หลินจ
เฉินฮวนมองไปที่ซ่งหว่านชิวด้วยความกังวล “อันนี้... จะดีเหรอคะ? ไวน์ของคุณชายสามคงไม่ถูกใช่ไหมคะ?”ซ่งหว่านชิวยิ้มอย่างสบายๆ “คุณชายสามพาฉันมาบ่อยๆ เขาก็ให้ฉันเลือกตามใจชอบนะ ฉันก็ไม่ค่อยรู้ราคาหรอก แต่ก่อนหน้านี้ฉันทำขวดไวน์ตกขวดหนึ่ง เขาบอกว่ามันราคาหลานแสนเลยล่ะ แต่คุณชายสามก็ไม่ได้ว่าอะไรนะคะ แค่ห่วงว่าฉันจะได้รับบาดเจ็บเท่านั้น”“โอ้ย ทำไมเหมือนได้กลิ่นความรักลอยฟุ้งละเนี่ย? ทุกคนยังไม่ขอบคุณว่าที่เถ้าแก้เนี้ยกันอีก?” เพื่อนร่วมงานล้อเลียน“ขอบคุณครับ/ค่ะ เถ้าแก้เนี้ย”“อย่าทำแบบนี้สิ ฉันไม่พูดแล้ว”ซ่งหว่านชิวทำสีหน้าแดงอาย ราวกับสาวน้อยที่รู้สึกเขินอาย แต่สายตาของเธอกลับจับจ้องไปที่หลินจืออี้อย่างมั่นคง ราวกับกำลังประกาศสิทธิ์ในตัวเองหลินจืออี้มองเธอแล้วก็แกล้งยิ้มพร้อมเพื่อนร่วมงานเธอไม่สนใจแม้กระทั้งกงเฉิน แล้วจะไปสนใจว่าที่เถ้าแก้เนี้ยอย่างซ่งหว่านชิวเนี่ยนะ?ในขณะนั้น เฉินฮวนก็ย้ายมานั่งข้างหลินจืออี้ ยิ้มกว้าง“ฉันอิจฉาคุณซ่งจริงๆ เลยนะ แต่จืออี้คงไม่อิจฉาหรอก เพราะแฟนเธอก็คงดีกับเธอมากเลยล่ะ”“ฉันไม่มีแฟน” หลินจื่ออี้ย้ำเสียงแข็ง“แล้วที่คอเธอล่ะ...?”“หมากัด
ตามระเบียบแล้ว เมรุเผาศพไม่อนุญาตให้ญาติดูการเผาศพแต่หลินจืออี้ใช้เงินแหกระเบียบ เขาพยุงเตียงเหล็กที่เย็นจัดเดินเข้าไปในห้องเผาไฟในอากาศมีความรู้สึกแสบร้อน และยังมีฝุ่นที่ปลิวว่อนอยู่ใต้แสงแดดบางทีอาจจะเป็นเถ้ากระดูกก็ได้อีกไม่นาน ลูกน้อยของเธอก็จะกลายเป็นแบบนี้หลินจืออี้สวมชุดกระโปรงยาวสีดํา ไซส์ที่เล็กที่สุดก็ซ่อนร่างผอมแห้งของเธอไม่ได้ดวงตาที่ทั้งแดงทั้งบวมจากการร้องไห้ ตอนนี้กลับดูสงบเป็นพิเศษเธอเอื้อมมือไปสัมผัสมือเล็กๆ ที่ซีดและแข็งนอกผ้าขาว ก่อนจะวางดาวพับสีชมพูสองดวงไว้ในฝ่ามือของลูกสาว“ซิงซิง รอแม่ด้วยนะ”ได้เวลาแล้วพนักงานก้าวไปข้างหน้าและดึงหลินจืออี้ออก เปิดผ้าขาวออก เผยให้เห็นรูปลักษณ์ของซิงซิงเธออายุแปดขวบแล้ว แต่ก็ยังร่างผอมแคระเกร็น กระดูกซี่โครงที่ส่วนล่างมีรอยยุบเป็นรูโหว่เมื่อเห็นรูนั้น น้ำตาของหลินจืออี้ก็ไหลออกมาอีกครั้งเป็นเพราะเธอไม่ได้ปกป้องซิงซิงให้ดีพนักงานปลอบด้วยเสียงเบาๆ ว่า "เสียใจด้วยนะครับ แต่อย่างน้อยหลังจากที่ลูกสาวของคุณจากไป ไตของเธอก็ยังช่วยเด็กคนหนึ่งไว้ เด็กคนนั้นจะมีชีวิตอยู่อย่างมีความสุขแทนลูกสาวของคุณนะครับ”ความเย็...
Comments