12
มอบตัว
หลังจากตำรวจออกหมายเรียกได้ไม่นาน พ่อของณิศาก็พาลูกสาวเข้ามอบตัว
จากการสอบสวนผู้ต้องหาทำให้รู้เรื่องราวทั้งหมด ทุกอย่างมันเกิดขึ้นจากการที่ณิศาและนิรัชเกิดมีความสัมพันธ์กันเกิดขึ้น และทางฝ่ายชายได้อัดคลิปไว้ เพื่อใช้เป็นสิ่งต่อรองให้เธอทำตามที่เขาต้องการ
ที่ดินของวิมลกับของต้อมคือที่ดินที่ ทางนายใหญ่ของนิรัชต้องการ เพราะในที่ดินทั้งสองผืน เคยเป็นที่ฝังสมบัติเมื่อสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง
เมื่อณิศาทำไม่สำเร็จ ทางนิรัชก็ถูกนายใหญ่ทำโทษด้วยความโกรธเขาจึงปล่อยคลิปเขากับณิศา หญิงสาวเครียดไม่รู้จะทางออกยังไง จึงเอาปืนที่พ่อของเธอซ่อนไว้ หวังจะมายิงปาลิดา แต่ไม่มีโอกาสจึงหันมาทำร้ายวิมลแทน เพราะถ้าวิมลยอมทำตามที่เธอต้องการตั้งแต่ทีแรก ภณก็คงไม่ต้องแต่งงาน และเธอก็จะไม่ต้องอายคนทั้งประเทศแบบนี้
ชายหนุ่มได้ฟังข้อมูลจากทางตำรวจทั้งหมด เขาคิดไม่ถึง ว่าผู้หญิงที่เขารักและซื่อสัตย์กับเธอตลอด ที่ไปเรียนต่อที่กรุงเทพเธอจะนอกใจเขา แต่ด้วยความรักที่ทั้งคู่เคยมีให้กัน และณิศาก็ได้รับกรรมของเธอแล้ว ชายหนุ่มจึงอโหสิกรรมให้
“กลับบ้านกันนะพ่อ”
หมอให้วิมลออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว แต่ทางวิมลเองขออยู่ต่ออีกสักสองวัน เพราะกลัวกลับบ้านไปจะลำบากคนดูแล ตอนนี้แผลก็หายดี ตัดไหมเรียบร้อย เพียงแต่ยังห้ามทำงานหนัก
ครอบครัวของต้อมจะย้ายไปอยู่ที่ ที่ดินของวิมล เพื่อช่วยดูแลวิมลแทนกันตภณและเขาจะได้มีที่ดินทำกินเพิ่มขึ้น
บ้านหลังน้อยที่ปลูกอยู่ในสวน ก็พอกันแดดกันลมได้ แต่ไม่ได้มีความปลอดภัยอะไรเลย ไฟฟ้าก็ไม่มีใช้
“บ้านฉันจะปลุกให้ฟรีๆ แลกกับการที่ครอบครัวของเอ็งต้องดูแลวิมล และทรัพย์สินทุกอย่างให้ดี”
กำนันสมยศเป็นคนออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด เพราะเขาไม่อยากให้ลูกสาวต้องย้ายมาอยู่ที่บ้านของสามี เพราะมันไกลตา เขาเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย ถึงแม้ตอนนี้ทั้งณิศาและนิรัชจะโดนจับแล้วก็ตาม
“พ่อคะ ดิวมีเรื่องอยากจะขอคุยกับพ่อหน่อย”
หญิงสาวหาโอกาสที่จะมาคุยกับบิดาของเธอในวันที่สามีไม่อยู่
“หนูว่าจะหย่ากับภณค่ะ ในเมื่อเขาไม่ได้รักหนูและตอนนี้หนูก็ไม่จำเป็นต้องปกป้องที่ดินของเขา เพราะความจริงทุกอย่างมันถูกเปิดเผยแล้ว”
“ลูกถามใจตัวเองให้แน่นอนก่อนนะ และอย่าลืมถามเจ้าภณมันด้วย”
ผู้เป็นพ่ออาบน้ำร้อนมาก่อน ทำไมจะดูไม่ออกว่าตอนนี้ทั้งคู่ต่างก็รักกัน
“ถ้าเราหย่ากัน พ่อขายที่คืนให้ภณเขาได้ไหมคะ” หญิงสาวขอบิดาเรื่องที่เธอกังวล
“พ่อจะยกให้เลยฟรีๆ แต่ลูกไปคุยกันให้ดีก่อนเรื่องหย่า พ่อยังไงก็ได้อยู่แล้ว”
เมื่อบิดาเปิดทางปล่อยให้เป็นเรื่องของคนสองคน คราวนี้ก็เหลือแต่ตัวปาลิดาเอง ที่ต้องถามใจตัวเองให้แน่ใจ ว่าเธออยู่ได้แน่ๆถ้าไม่มีภณแล้ว
“ดิวไปหาพ่อมาเหรอ วันนี้ไปสวนมาต้นมะม่วงโตขึ้นเยอะเลย อีกไม่เกินสองปีคงออกลูก แล้วเราล่ะ เมื่อไหร่จะมีลูกซะที”
ชายหนุ่มยังคงไม่รู้ว่าตอนนี้ภรรยาของเขากำลังคิดอะไร เขายังมีอารมณ์มาพูดล้อเล่นได้เหมือนเดิม
“ต้นมะม่วงมันคงมีลูกเพราะมันเกิดจากความรัก แต่เราไม่ได้รักกัน ลูกถึงไม่อยากมาเกิด”
ปาลิดาพูดทิ้งระเบิดไว้ แล้วรีบเดินนำขึ้นบ้านไปเพื่อเตรียมทำกับข้าว
“อ๋อ...สงสัยต้องทำแบบใหม่ แบบไหนนะท่าไหนนะที่เรียกว่ารัก จะได้มีลูกกับเขาสักที”
ชายหนุ่มเดินมาทำท่าพูดลอยๆคนเดียว ให้คนที่กำลังนั่งทำกับข้าวหมั่นไส้เล่น
“ถ้าจะพูดกับผีสางนางไม้ ก็ไปพูดในป่านู่น ตรงนี้จะทำกับข้าว อย่ามายืนเกะกะ”
หญิงสาวนั่งสับหมูและจินตนาการเป็นหน้าของสามีไปด้วย เสียงดังจนคำต้องเดินออกจากห้องหลังบ้านมาดู
“สับอะไรเสียงดังขนาดนั้น” คำร้องถามน้องสาว
“สับผัว เอ๋ยซับหมู”
คำตอบของภรรยาทำเอากันตภณถึงกับสะดุ้ง ก้มมองน้องชายตัวเอง ว่ายังอยู่ไหม กลัวจะโดนสับไปแล้ว
จากที่หน้าบึ่งปาลิดาก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ ในความขี้เล่นของสามี
คืนนี้หญิงสาวตั้งใจ จะคุยทุกเรื่องที่ค้างคาให้จบภายในวันนี้
“ภณคุณยังต้องการจะหย่ากับดิวอยู่ไหม” หญิงสาวถามโดยที่ไม่หันหน้าไปมองคู่สนทนา
“ทำไมดิวพูดแบบนี้” เมื่อถึงคราวต้องจริงจัง ชายหนุ่มก็จริงจังขึ้นมา
“ก็ที่ภณตกลงกับพ่อไว้ ตอนนี้พ่อจะยกที่คืนให้ภณเลย โดยที่ไม่ต้องรอให้ดิวท้องแล้ว แค่ภณยืนยันว่าอยากอย่ากับดิวเหมือนที่เคยตกลงกันไว้”
“ภณไม่หย่า และไม่ต้องพูดเรื่องนี้กันอีก”
“แล้วทำไมไม่หย่า ในเมื่อภณไม่ได้รักดิว” หญิงสาวเริ่มเสียงสูงน้ำตาคลอเบ้า
“แล้วใครบอกว่าภณไม่รัก”
“ใช่ไม่มีใครเคยบอกว่าภณไม่ได้รักดิว แต่ดิวไม่เคยได้ยินจากปากภณเลย ว่าดิวมีความหมาย ว่าดิวคือผู้หญิงที่ภณรัก”
“มองหน้าภณนะดิว ”
ชายหนุ่มลุกยืนจับหน้าของหญิงสาวให้มาใกล้กับใบหน้าของเขา
“ภณรักดิว รักมานานแล้ว แต่ที่ไม่บอก เพราะคิดว่าการกระทำมันสำคัญกว่า ไม่ว่าวันนี้ พรุ่งนี้ หรือวันไหน ดิวคือผู้หญิงคนเดียวที่ภณรัก ส่วนณิศาเขาเป็นอดีต ภณหมดรักเขาตั้งแต่ที่เขายอมให้ภณแต่งงานกับดิวแล้ว ไม่มีผู้หญิงคนไหน เห็นอะไรสำคัญกว่าคนที่เธอรักหรอก”
ยังไม่ทันที่ปาลิดาจะได้ถามอะไรต่อ ชายหนุ่มก็อุ้มเธอขึ้นเตียง และเริ่มบรรเลงบทรักทันที
“ภณหยุด” หญิงสาวร้องห้าม
“ดิวไม่รักผมเหรอ” ชายหนุ่มหยุดกึกและหันมาถามหญิงสาวที่นอนอยู่ใต้ตัวเขา
“ปิดไฟก่อน ดิวอาย”
เมื่อไฟทุกดวงถูกปิดลง ความสุขก็ถูกเปิดทางขึ้นอีกครั้ง สำหรับบทรักในครั้งนี้ ปาลิดาปล่อยทั้งตัวและหัวใจให้กับชายหนุ่มที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีของเธออย่างหมดใจ ก่อนหน้านี้ เธอเคยรู้สึกมาตลอดว่าเขานอนกับเธอเพียงเพราะหน้าที่ แต่ครั้งนี้เธอเชื่อแล้ว ว่าเขารักเธอ และเธอก็รักเขา
“ไม่เอา ภณอ่ะ ดิวไม่กล้า”
“แรกๆก็อาย เดี๋ยวก็ชิน”
คำว่าครอบครัวเริ่มต้นขึ้นอย่างแท้จริงแล้ว ภายใต้คำว่ารัก ของคนทั้งคู่
จบบริบูรณ์
บทที่ 1น้องปี1 การอยู่หอของน้องปีหนึ่งถือได้ว่า เป็นเรื่องที่สุดแสนจะตื่นเต้น แต่ละคนได้มาอยู่ห้องเดียวกัน ต่างก็มาจากคนละที่ คนละจังหวัด บางคนก็ขนของมาเต็มที่ บางคนก็มีของติดตัวมาเพียงน้อยนิด “เราชื่อซัมเมอร์นะ เธอล่ะเชื่ออะไร”สาวสวยที่ดูจะพกความมั่นใจมาเต็มร้อย ท่าทางการแต่งตัวของเธอบ่งบอกถึงความทันสมัย และมีฐานะ “เราชื่อลูกพีช ยินดีที่ได้รู้จักนะ” สาวน้อยหน้าตาท่าทางเรียบร้อย ดูยังขี้อายอยู่ที่ต้องคุยทักทายกับเพื่อนใหม่ ห้องนอนถูกแบ่งให้แต่ละห้องนอนด้วยกันสองคน โดยการสุ่มเลือกของทางมหาวิทยาลัย ลูกพีชกับซัมเมอร์ถูกเลือกให้นอนห้องเดียวกัน “ลูกพีชเลือกตู้เสื้อผ้า กับเตียงก่อนได้เลยนะ เราเอาอันไหนก็ได้”พูดจบซัมเมอร์ก็เดินออกจากห้องที่อยู่ชั้นสามออกไปข้างนอก เมื่อเหลือตัวเองอยู่ในห้องคนเดียว ลูกพีชก็อดน้ำตาซึมไม่ได้ ตั้งแต่โตมา ก็เพิ่งจะเคยห่างพ่อกับแม่ครั้งแรก ไม่รู้เมื่อไหร่จะชิน สาวน้อยน้ำตาไหลอาบแก้มอย่างไม่ต้องอายใครเวลานี้ “ลูกพีช เราซื้อขนมมาฝาก”คนสวยของห้องลงไปข้างล่างได้ไม่นาน ก็เดินขึ้นมาพร้อมถุงขนมใบใหญ่
ทั้งคู่เลือกกินร้านอาหารตามสั่งที่ อยู่ไม่ไกลจากหอ ในซอยที่อยู่ห่างไปจากหอไม่ถึง500 เมตร เป็นแหล่งกิน แหล่งซื้อของ ของบรรดานักศึกษาที่นี่ ถึงแม้จะเป็นซอยแคบๆ แต่ผู้คนเดินไปเดินมา กันเต็มไปหมด ซัมเมอร์ไม่ชอบที่จะต้องคอยเดินหลบรถมอเตอร์ไซค์ที่ขี่เข้ามาในซอย จึงชวนลูกพีชกินร้านๆแรกๆที่เจอเลย “เธอมองอะไรซัมเมอร์”สาวน้อยขี้อายดุใส่เพื่อน เมื่อเห็นเธอกำลังส่งสายตาหวานให้โต๊ะข้างๆ ที่มีแต่ผู้ชายนั่งอยู่ทั้งโต๊ะ “ก็เขามอง เราก็มองตอบ ไม่มีอะไรหรอก” คนตอบไม่สนใจจริงจัง ถึงแม้ตอนนี้ซัมเมอร์จะเลิกสนใจมองผู้ชายที่นั่งอยู่โต๊ะข้างๆแล้ว แต่ผู้ชายหนึ่งในนั้นยังนั่งมองเธออยู่ ลูกพีชรู้สึกไม่ชอบเลย ถึงแม้ว่าผู้ชายคนนั้นจะมองด้วยสายตาที่ดี แต่มันเหมือนพวกเธอกำลังตกเป็นจุดสนใจ “ซัมเมอร์อิ่มหรือยัง ไปกันเถอะ” “ยังๆ อีกนิดนะ เธอกลัวพวกนั้นเหรอ ” ซัมเมอร์ รู้ใจคนชวนกลับ “ก็ดูพวกเขามองสิ เล่นจ้องไม่ละสายตา โดยเฉพาะเจ้าคนที่นั่งตรงข้ามเธอ ส่งตาหวานเชียว” คนพูดอายแทนคนถูกมอง “ปล่อยให้มองไป เราสวย เรารู้ ฮ่าๆ ๆ” ยังมีข้าวอยู่ในปากแ
บทที่2หนุ่มนักกีฬา เช้านี้ทั้งสองคนต่างแยกกันไปเรียน เพราะต่างคนต่างเรียนกันคนละคณะ ลูกพีชคณะของเธออยู่ด้างข้างของมหาวิทยาลัย เป็นคณะที่มีหนุ่มหล่อที่สุดเมื่อเทียบกับทุกคณะ ส่วนซัมเมอร์เธอเรียนคณะที่มีตึกสูงที่สุดและเป็นคณะที่ถือว่า มีแต่ผู้หญิงสวยๆ ซึ่งก็เหมาะกับเธอมาก เพราะความสวยของซัมเมอร์ไม่เป็นรองใคร มื้อกลางวันลูกพีชเลือกกินอาหารใต้อาคารเรียน เพราะไม่อยากเดินไปไหน อากาศข้างนอกร้อนจนแทบจะเผาเธอได้ “มีคนนั่งไหมครับ ขอนั่งด้วยคนนะ” เสียงดังมาจากด้านหลัง หญิงสาวจึงหันไปมองตามเสียง “ว่างค่ะ” “เอ้า! จำพี่ได้ไหม เราเคยเรียนโรงเรียนมัธยมด้วยกัน พี่ชื่อกวิน” ชายหนุ่มรีบแนะนำตัว เผื่อหญิงสาวตรงหน้าจะพอคุ้นชื่อและจำเขาได้ “คุ้นๆค่ะ” ลูกพีชตอบ ใครว่าคุ้นๆ ชายหนุ่มผู้นี้ทำเอาหัวใจของลูกพีชแทบหยุดเต้น เขาคือรุ่นพี่ที่โรงเรียนเก่า เธอแอบชอบเขาตั้งแต่เข้าไปเรียนใหม่ๆ และเขาก็คือสาเหตุที่ทำให้เธอเลือกเรียนที่นี่ด้วย “เรียนศิลปกรรมเหรอ ถึงมากินข้าวที่นี่” คนมาใหม่ถาม “ใช่ค่ะ เรียนที่นี่” คนตอบไ
ตั้งแต่มาถึงมหาวิทยาลับ ซัมเมอร์ยังไม่เจอผู้ชายที่ถูกใจเธอเลยเพิ่งจะเจอก็วันนี้ อย่างน้อยมันก็ทำให้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยน่าอยู่ขึ้นเยอะเลย อาหารเย็นวันนี้ ลูกพีชกินจนเกลี้ยงจาน เพราะเมื่อกลางวันเธอมัวแต่เขิน จนอิ่มอกอิ่มใจ กินต่อไม่ไหว พอถึงมื้อเย็นท้องว่างจนกินหมดจานแบบไม่เหลือสักเม็ด“ไปหิวมาจากไหนกัน เกือบกินจานเข้าไปด้วยเลย”เพื่อนที่นั่งกินข้างๆแซว เพราะคนกินข้าวตัวนิดเดียวแต่กินจนหมดจาน “อิ่มแล้ว เรา...ก็ไปออกกำลังกายกัน” สาวสวยในชุดออกกำลังยืนขึ้นอย่างมีความสุข “เพิ่งกินข้าวอิ่ม ไปออกกำลังกายเดี๋ยวก็จุกกันพอดี” ลูกพีชร้องห้าม “นี่แม่คุณ ใครว่าเราจะไปออกกำลังกายกันจริงๆล่ะ เราจะแค่กำลังจะไปนั่งพักเพราะวิ่งมาจนเหนื่อย แล้วก็ไปนั่งพักตรงสนามบาสแค่นั้นเอง” แผนการที่แสนจะอ่อยเต็มที่ “นั้นไง คนที่ใส่เสื้อสีแดง” ซัมเมอร์ชี้เป้าหมายให้เพื่อนสาวดู “ขาวดี แต่ยังเห็นหน้าไม่ชัดเลย” “ไปๆ เข้าไปนั่งข้างในเลย เขานั่งกันเยอะแยะ”ซัมเมอร์จูงมือคนตัวเล็กร่างบางให้เดินตามแบบที่ไม่รอฟังคำตอบเลย ว่าเธอจะอยากเข้าไปด้วยไหม
บทที่3เมื่อซัมเมอร์เจอเป้าหมายใหม่ เย็นนี้ลูกพีชรู้ตัวว่าคงต้องถูกลากไปที่ สนามบาสอีกแน่ คราวนี้เธอเลยขอไปออกกำลังจริงๆเลย ออกเสร็จค่อยไปกินข้าว “ซัมเมอร์เธอเข้าไปที่สนามบาสก่อนเลยนะ เราขอวิ่งอีกสองรอบจะตามเข้าไป” วิ่งได้แค่ไม่กี่รอบซัมเมอร์ก็ทำท่างอแง อยากไปที่สนามบาสแล้ว ลูกพีชยังอยากวิ่งออกกำลังกายอยู่ เธอจึงให้เพื่อนสาวที่ที่หน้าตาบูดบึ้งเพราะใจร้อน ไปที่สนามก่อนเธอเลย “ถ้าอย่างนั้น เราไปรอที่สนามบาสนะ แล้วอย่าหนีไปกินข้าวคนเดียวเสียล่ะ” คนสวยส่งยิ้มหวานให้เพื่อน ก่อนเดินแยกไปอีกทาง ลูกพีชเริ่มมีความสุขกับการได้มาออกกำลังกาย มันช่วยให้เธอคลายความคิดถึงบ้านได้มากเลย แม่เคยบอกว่าถ้าเราออกกำลังกายก่อนนอน จะช่วยให้นอนหลับง่าย หลายคืนที่ผ่านมา เธอเอาแต่นอนคิดถึงห้องนอนของเธอจนนอนไม่หลับมาหลายคืนแล้ว วิ่งได้ครบสองรอบตามสัญญา ลูกพีชก็ไปที่สนามบาส แต่ภาพที่เธอเห็นตรงหน้า ทำให้หญิงสาว เกือบจะวิ่งออกมาจากสนามบาส เพราะแทนที่เธอจะเห็นซัมเมอร์กับโอม เธอกับเห็นเพื่อนคนสวยยืนคุยกับกวิน รุ่นพี่ที่เธอแอบชอบมานาน
บทที่4แม่สื่อหัวใจว้าวุ่น “นอนหลับฝันดีนะครับ” กวีเปิดหน้าต่างรถ แล้วตะโกนบอกซัมเมอร์ที่กำลังเดินเข้าหอ อารมณ์แบบนี้เขาเรียกอิจฉาใช่ไหม ลูกพีชถามตัวเอง ทำไมนะ ทำไมคนที่เขาบอกไม่ใช่เธอ คืนนี้คงเป็นคืนที่เธอจะต้องจัดการกับความรู้สึกของตัวเองให้ได้ เพราะมันไม่ใช่ความผิดของทั้งคู่ เธอจะมาแอบโกรธซัมเมอร์ในใจแบบนี้ไม่ได้ ลูกพีชพยายามรวมรวมสติ “ลูกพีช เธอว่าพี่เขาจะชอบเราไหม” ซัมเมอร์ถามทันทีหลังจากถึงห้องที่หอพัก “เราไม่รู้ แต่คงชอบแหละ ถึงได้พาไปกินชาบู” คนตอบแทบจะอกแตกตาย “ไม่รู้ล่ะ เธอต้องช่วยเรา ก็เธอเคยเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกันมาก่อน แถมตอนนี้ก็เรียนคณะเดียวกันอีก” คนขอให้ช่วยกอดเอวเพื่อสาวอย่างเอาใจ “เราไม่ได้สนิทกับพี่เขาขนาดนั้นนะ แค่เคยเห็นกันเฉย ๆ ” ลูกพีชหาทางออก “ไม่รู้ล่ะ ลูกพีชเพื่อนที่แสนจะน่ารักต้องช่วยเรานะ แม่สื่อคนสวย” ความน่ารักช่างเอาอกเอาใจของซัมเมอร์นี่แหละ ที่ทำให้ลูกพีชใจอ่อน ถึงแม้มันคงจะเป็นการทำร้ายหัวใจของตัวเอง หญิงสาวได้แต่บอกกับตัวเองว่า เธอเป็นเพียงคนที่แอบชอบ ไม่ได้เป็นแฟนพี่เ
บทที่5นอกใจ การที่ซัมเมอร์ไปเฝ้ากวินซ้อมทุกวัน ทำให้เธอตกเป็นเป้าสายตาของโค้ชที่ชื่อณัฐ นอกจากเขาจะเป็นโค้ชแล้ว เขายังเป็นอาจารย์พิเศษของมหาวิทยาลัยอีกด้วย เขาเป็นชายหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่ง ที่มีความฮอทฮิตไม่น้อยไปกว่า นักบาสในทีมเลย “เห็นมานั่งรอเจ้ากวินหลายวันแล้ว โค้ชยังไม่รู้จักเลยชื่ออะไรกันบ้าง” วันนี้ลูกพีชไปที่สนามเป็นเพื่อนซัมเมอร์ โค้ชจึงถามชื่อของคนทั้งคู่ ทั้งที่สายตาดูแล้ว คงอยากรู้แค่ชื่อของซัมเมอร์คนเดียว สาวสวยช่างเจรจาทำหน้าที่ รายงานชื่อของตัวเธอและลูกพีช แววตาที่คนทั้งคู่มองกัน มันทำให้ลูกพีชที่สนิทกับซัมเมอร์มานาน พอเดาได้ ว่าเพื่อนของเธอกำลังคิดอะไรกับสายตาของโค้ชที่แสนจะดูเจ้าชู้ขนาดนั้น “โค้ชทั้งหล่อและเก่งแบบนี้ ถึงได้พาลูกทีมหล่อและเก่งไปด้วยทุกคน” ซัมเมอร์ป้อนคำหวาน “ยังหล่อสู้กวินไม่ได้ ไม่อย่างนั้นคงได้มีโอกาสมีสาวสวยหน้าตาดีมาเฝ้าทุกวันอย่างเจ้ากวิน” “โค้ชก็พูดเกินไปค่ะ” คนโดนชมทำท่าอายแบบยั่วยวนหลังจากวันนั้น ลูกพีชก็ไม่ได้ไปที่สนามบาสอีก เพราะเธอมีรายงานที่ต้องทำหลายเรื่อง อีกทั้งตอนนี้
บทที่6สงสัย จากเรื่องราววันนั้นที่กวิน มาตามหาซัมเมอร์ก็สร้างความสงสัยให้กับเพื่อนสนิทอย่างลูกพีช เธอจึงพยายามสืบเรื่องนี้ด้วยตัวเอง “พี่โอมคะ พีชมีอะไรอยากขอคุยด้วยหน่อย” คนที่ลูกพี่พอจะรู้จักในทีมบาสอีกคนก็มีเพียงโอมเพื่อนของกวิน “พี่รู้ว่าเราอยากคุยกับพี่เรื่องอะไร เราไปที่คุยที่คนน้อยกว่านี้เถอะ” ชายหนุ่มรูปร่างดีแต่ความหล่อยังสู้พี่กวินของ ลูกพีชไม่ได้ เขาพาเธอขับมอเตอร์ไซค์ ไปหาที่คุยแถวชายหาด ที่ไม่ค่อยมีคน “ว่ามา มีอะไรจะคุยกับพี่”หลังจากจอดรถตรงบริเวณที่มีโขดหินให้นั่ง คนพามาก็ชิงถามก่อนเลย “พี่รู้ไหมคะ ว่าตอนนี้ซัมเมอร์เขาไปไหนมาไหนกับใครยังไงบ้าง” ลูกพีชไม่รู้จะเริ่มถามตรงไหนก่อน “ถามอ้อม พี่ก็ตอบอ้อมๆนะ” “ถ้าอย่างนั้น พีชถามตรงๆ ซัมเมอร์กำลังนอกใจพี่กวินอยู่หรือเปล่าคะ”หญิงสาวไม่อยากพูดตรงๆ แต่ถ้าขืนยังอ้อมต่อไป คงไม่ได้รู้ความจริง “นอกใจ แน่นอน แต่ยังไม่มีหลักฐาน” ชายหนุ่มนั่งค่อมรถกอดอกอย่างครุ่นคิด “พี่โอมสงสัยใครคะ” ความจริงแล้วหญิงสาวมีคนในใจอยู่เหมือนกัน