เธอถูกตีตราเป็นจำเลย ต้องคอยสนองกามให้แก่เขา อยู่บ้านก็ต้องพร้อมสะบัดผ้าอ้าขา อยู่มหาวิทยาลัยหรืออยู่ที่ไหนก็ต้องพร้อมยอมให้เขาทำ หลานสาวแม่บ้านอย่างเธอจะไปมีปากเสียงอะไรกับลูกชายคนเดียวของคุณท่านได้
View Moreสองหนุ่มสาวที่มาพักผ่อนบ้านไร่มองตากันอย่างแปลกใจ เมื่ออยู่ดี ๆ คุณท่านกับป้ารุ่งก็มาถึงไร่ในเวลาไล่เลี่ยกัน โดยที่ทั้งสองไม่ได้บอกก่อนว่าจะตามมาที่นี่ แล้วพอมาถึง ป้ารุ่งก็เอาเสื้อผ้าเข้าไปเก็บในห้องและไม่ยอมออกมาอีกเลย ผู้สูงวัยที่สุดในบ้านที่ตามมาถึงทีหลังก็ออกอาการหงุดหงิดอย่างที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อนพอถึงเวลารับประทานอาหารเย็น ปกติป้ารุ่งจะคอยดูแลรับใช้คุณท่านอยู่ที่โต๊ะอาหารเสมอ แต่วันนี้หลังจากทำอาหารเสร็จและตั้งโต๊ะเรียบร้อย ป้ารุ่งก็ขอตัวกลับเข้าห้องไปที่จริงหลังจากที่แก้มใสแต่งงานกับคุณวาแล้ว คุณท่านบอกให้ป้ารุ่งร่วมโต๊ะรับประทานอาหารด้วยกันเลย ไม่ต้องไปยืนคอยดูแลรับใช้เหมือนเดิม แต่ป้ารุ่งบอกว่า ถึงแม้หลานจะเป็นลูกสะใภ้ของคุณท่านแล้ว แต่เธอยังเป็นแม่บ้านเหมือนเดิม เธอจึงจะทำหน้าที่นี้ต่อไประหว่างรับประทานอาหาร คุณท่านทัดเทพหงุดหงิดเล็กน้อย เพราะแม่บ้านรู้ใจไม่มายืนอยู่ในสายตา แก้มใสมองคุณท่านอย่างไม่เข้าใจ แต่พอมองสามี เขาดูไม่แปลกใจ และไม่สงสัยอะไรเหมือนเธอเลยพอรับประทานอาหารมื้อค่ำเสร็จทิวาก็รีบชวนภรรยาขึ้นห้อง ทั้งที่แก้
“วันนี้ทิวาไม่อยู่บ้านนะครับ เขาพาหนูแก้มไปพักผ่อนที่บ้านไร่”“เสียดายจังเลยค่ะ พอดีตรีผ่านมาแถวนี้ ก็เลยจะมาคุยเรื่องงานสักหน่อย ต้องขอโทษด้วยจริง ๆ ที่ไม่ได้โทรถามก่อน ไม่อย่างนั้นคงไม่ได้เข้ามารบกวนคุณทัดเทพหรอกค่ะ”“ไม่เป็นไรครับ เรามันคนกันเอง ไหน ๆ ก็มาแล้ว อยู่รับประทานอาหารเที่ยงด้วยกันก่อนนะครับ”“แหม...เกรงใจจังเลยค่ะ”“อย่าเกรงใจเลยนะครับ เดี๋ยวรอแม่บ้านตั้งโต๊ะสักครู่ แล้วเราเข้าไปรับประทานอาหารด้วยกันนะครับ”“รบกวนคุณทัดเทพด้วยนะคะ มื้อเที่ยงนี้ตรีขอฝากท้องด้วยแล้วกัน”“ยินดีครับ”ขณะที่รอแม่บ้านจัดโต๊ะอาหารมื้อเที่ยง คุณท่านทัดเทพเชิญราตรีเข้าไปนั่งพูดคุยในห้องรับแขก ด้วยว่าเป็นคนทำงานเหมือนกัน แม้คุณทัดเทพจะวางมือจากกิจการและส่งมอบงานให้ลูกชายทั้งหมดแล้ว แต่เขาก็ยังพูดคุยเรื่องงานได้อย่างไม่ติดขัด แถมยังมีคำแนะนำดี ๆ ในเรื่องการลงทุนให้แม่หม้ายพราวเสน่ห์ด้วย“คุณท่านคะ อาหารเรียบร้อยแล้วค่ะ” หลังจากจัดเตรียมอาหารเรียบร้อยแล้ว ป้ารุ่งจึงเดินเข้ามาบอกทั้งสอง เธอยืนอยู่ค่อนข้างไกลและก้มศีรษะเล็กน้อยหลังจากพูดจบ
“แหกขาออกหน่อย ฉันจะลงลิ้นให้”แก้มใสสูดลมหายใจลึก เธอทำตามที่เขาสั่งอย่างว่าง่าย เด็กสาวจับข้อพับขาสองข้างยกขึ้นเล็กน้อยแล้วแหกอ้าให้เขาได้ซุกไซ้ใบหน้าเข้าหาได้อย่างถนัด“อื๊อ !” แก้มใสสะดุ้งน้อย ๆ เมื่อสามีก้มลงเลียกลางกลีบเนื้อ เสียงดูดเลียดังลั่นห้องพักอาจารย์ เสียงครางของคนที่ถูกลงลิ้นดังไม่ขาดปาก“อ๊ะ ! อาจารย์” แก้มใสสะดุ้งเมื่อสิ่งแปลกปลอมเย็นเยียบถูกสอดใส่เข้ามาในรูหลังช้า ๆ ขณะที่เขาก็ดูดเลียสัดส่วนความสาวของเธอไม่ยอมผละห่าง“อาจารย์ขา...มันแน่นค่ะ” ร่องรูหลังขมิบรัดสิ่งแปลกปลอมที่สอดใส่จนสุด แป้นวงกลมติดแน่นแนบสนิทกับปากทางรูหลังทิวาจูบกลางกลีบเนื้อนุ่ม แล้วเงยหน้าขึ้นมา เขามองกลางหว่างขาเรียวแล้วด้วยความพอใจ“อาจารย์ขา...หนูอึดอัด มันแน่นเต็มรูเลยค่ะ” แก้มใสส่ายบั้นท้าย เธอบิดตัวไปมาบนโต๊ะตัวใหญ่ ความคับแน่นที่รูหลังส่งผลให้น้ำเสียวใสหลั่งออกมาจากรูสาวจนฉ่ำแฉะเต็มซอกขา“แน่นอะไรกัน ของแค่นี้เล็กกว่าดุ้นฉันเสียอีก” ทิวาว่าพลางปลดเข็มขัดและจัดการกับอาภรณ์ท่อนล่างของตัวเอง เขารูดมันลงไปไว้ที่ข้อเท้า ชายหนุ่มจับดุ้นแข็งอวบใหญ
เมื่อสถานที่แห่งความทรงจำถูกใช้เพื่อบรรเลงบทรักอีกครั้ง แก้มใสเอาใจสามีด้วยการยอมรับบทบาทการแสดงที่เขาอยากให้เธอเป็น พอเขาจูบจนพอใจแล้ว เขาจึงถอนจูบ ตาคมมองหน้าเธอด้วยสายตาหื่นกระหายแก้มใสทำหน้าเศร้า เธอมองเขาด้วยสายตาหวาดหวั่น “อาจารย์คะ...อย่ารุนแรงกับหนูนะคะ”ทิวาครางกระหึ่มในลำคอ เขาลุกขึ้นยืน จับร่างสาวกดลงบนโต๊ะทำงาน ร่างสูงยืนแทรกอยู่ตรงกลางหว่างขาเรียว กระโปรงนักศึกษาทรงสอบที่สั้นเหนือเข่าเล็กน้อยจึงร่นขึ้นสูง ชายกระโปรงปิดเนินสวาทเพียงแค่ครึ่ง ความอวบอูมใต้กางเกงในสีขาวทำให้คนหลุบตามองกลืนน้ำลาย“อาจารย์ขา...หนูกลัว” แก้มใสทำทีกอดหน้าอกปิดบัง เธอเบี่ยงหน้าหนีไม่มองสบตาเขาด้วยท่าทางเหนียมอายทิวาโน้มตัวลงไปกระซิบบอกเสียงกระเส่า“ฉันจะแทงเธอให้ยับ”อาจารย์หื่นกามแลบลิ้นเลียใบหูเล็ก ก่อนจะเลื่อนใบหน้าลงมาซุกไซ้ซอกคอหอมกรุ่น เขากรีดนิ้วกลางลงกลางร่องผ่านเนื้อผ้าบางเบาที่ปกปิดสัดส่วนความสาว และใช้นิ้วโป้งขยี้ปุ่มเสียวระรัว“อ๊า !” แก้มใสยกสองเท้าที่สวมรองเท้าส้นสูงสีดำเหยียบขอบโต๊ะ เธอกระดกบั้นท้ายส่ายร่อนอย่างเด็กร่าน จนกระโปรงน
“อื๊อ !” แก้มใสครางประท้วงในลำคอ เธอยังถามเขาไม่ครบทุกเรื่องที่อยากรู้เลย เธออยากรู้ว่าทำไมคุณท่านถึงเชื่อป้ารุ่งถึงขนาดยอมบีบบังคับให้เขาต้องเลือก ทั้งอยากรู้ว่าเขาจะให้เธอเรียนต่อไหม แล้วเวลาเธอไปเรียนที่มหาวิทยาลัย เธอต้องปิดบังว่าเป็นอะไรกับเขาหรือเปล่า แล้วเรื่องอื่นอีกล่ะแก้มใสไม่ได้ถามคำถามคาใจที่เหลือ เธอลืมเลือนคำถามไปเลยเมื่อถูกแก่นกายอวบยาวสอดใส่เต็มแน่นร่องสาว คุณวาชักนำเธอเข้าสู่ห้วงสวาทดุดัน และเขาไม่ปล่อยให้เธอได้เปล่งคำถามใดออกมาอีก นอกจากเสียงครางหวาน ๆ“เธออยู่ไหน” เสียงเข้มดุที่ดังขึ้นทันทีที่เธอรับโทรศัพท์ทำให้แก้มใสยิ้มแหย“แก้มอยู่หน้ามหาวิทยาลัยค่ะ”“ไปทำอะไรตรงนั้น ชั่วโมงนี้เธอมีเรียนไม่ใช่เหรอ”“วันนี้อาจารย์งดสอนค่ะ แก้มเลยว่าจะไปหาอะไรกินกับเพื่อน ๆ”“ฉันรออยู่ในห้องพักอาจารย์ อีกสิบนาทีฉันต้องเห็นหน้าเธอ”คนโทรมาวางสายไปแล้ว คนที่กำลังจะออกไปหาอะไรกินกับเพื่อน ๆ ได้แต่ถอนหายใจ“แก้มขอตัวก่อนนะ พอดีคุณวามาที่มหาวิทยาลัย แก้มต้องรอกลับพร้อมคุณวา ขอโทษด้วยน
“คุณวา...เดี๋ยวก่อนสิคะ” แก้มใสดันบ่ากว้างไว้ เธอมองสบตาเขาอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ“อะไร” ทิวาถามเสียงหงุดหงิด เขาหยุดชะงักเพราะเธอดันบ่าเขาไว้ เขายังไม่ก้มลงไปจูบเธอ แต่มือก็ไม่หยุดแกะและดึงเสื้อผ้าอาภรณ์ที่แสนเกะกะบนตัวเธอออกด้วย ทั้งสไบ ทั้งเสื้อเกาะอกถูกเขาปลดออกหมดจนท่อนบนเปลือยเปล่า“คุณวาไม่ได้แต่งงานกับคุณมินเหรอคะ”“ไม่” ทิวาตอบเสียงห้วนในตอนที่ปลดเข็มขัด แล้วดึงผ้าถุงออกจากปลายเท้าเรียวอย่างรวดเร็ว“ดะ...เดี๋ยวก่อนสิคะ อ๊ะ !” แก้มใสตะครุบมือที่กำลังเกี่ยวขอบกางเกงชั้นในของเธอไว้ แต่ก็ไม่อาจสู้แรงเขาได้ คุณวาของเธอเกี่ยวมันรูดผ่านปลายเท้าของเธอแล้วโยนทิ้งลงพื้นอย่างไม่ไยดี“ทำไมไม่ได้แต่งล่ะคะ” แก้มใสถามคนที่ลุกขึ้นไปยืนริมเตียง แล้วลงมือปลดชุดของตัวเองออกร่างรวดเร็ว“ไม่อยากแต่ง” ทิวาตอบในตอนที่เขารูดกางเกงในออกจากร่างกายเป็นชิ้นสุดท้าย แล้วเจ้าบ่าวผู้รุ่มร้อนก็โถมตัวลงทาบทับคนที่นอนหงายอยู่บนเตียง“คุณวา…” แก้มใสยกสองมือขึ้นมาดันใบหน้าเขาไว้ เธอไม่ยอมให้เขาจูบทิวาส่งเสียงครางในลำคอไม่พอใจ เขาเบี่ยงหน้าหนีมือนุ่ม แล้วขึงต
“พอบอกให้ถามก็ไม่ถาม แล้วก็คิดเองเออเองทุกอย่าง เธอนี่มันเด็กน้อยจริง ๆ นะแก้ม ให้พิธีเรียบร้อยก่อน เธอจะโดนทำโทษหนักแน่ เด็กดื้อ !”ทิวากระชับวงแขนข้างหนึ่งกอดเอวคอดไว้แน่น เขาช้อนมือตรึงท้ายทอยเล็กไว้ แล้วก้มลงบดจูบเธออย่างดุดัน จูบให้สมกับที่คิดถึง จูบให้สมกับที่โหยหา จูบด้วยความรู้สึกทั้งหมดที่มี จูบเพื่อปลดปล่อยอารมณ์หนักอึ้งทั้งหมดใจจริงแล้วทิวาอยากจูบเธอให้นานกว่านี้ อยากกอดเธอไว้ในอ้อมแขนแบบนี้ไปอีกนาน ๆ แต่เพราะงานวันนี้ได้กำหนดฤกษ์งามยามดีไว้แล้ว เขาจึงจำต้องตัดใจถอนจูบจากปากนุ่มหวานพอคุณวาถอนจูบ แก้มใสก็หอบหายใจแรง ปากนุ่มบวมเจ่อเล็กน้อยเพราะจูบบดขยี้ดุดัน ดวงตาชุ่มน้ำตา เธอมองเขาด้วยความน้อยใจ“คุณวาใจร้าย…” แก้มใสสะอื้นไห้น้ำตาไหลผ่านแก้มเนียน“ผัวจูบแค่นี้จะร้องไห้ทำไม หืม…”ทิวาใช้นิ้วปาดเช็ดน้ำตาให้คนขี้แยเบา ๆ “เลิกร้องไห้ได้แล้ว เราสองคนต้องออกไปเข้าพิธีแต่งงานกันก่อนจะเลยฤกษ์ดีที่ป้ารุ่งหาไว้”แก้มใสสะอื้นค้าง เด็กสาวกะพริบตาปริบ ๆ“ตะ...แต่งงาน”“ใช่...แต่งงาน”“ใครจะแต่งงานคะ คุณวาแต่งงานกับ
แก้มใสหันหลังให้กระจกแล้วเหลียวหลังกลับไปดู กุหลาบสีแดงที่ปักอยู่บนมวยผมของเธอ เด็กสาวยิ้มด้วยความชอบใจ เพราะเธอชอบดอกกุหลาบสีแดงอยู่แล้ว“เรียบร้อยหรือยัง” เมื่อใกล้จะถึงเวลาต้อนรับแขกของคุณท่านแล้ว ป้ารุ่งจึงเปิดประตูเข้ามาหาหลานสาว“เรียบร้อยแล้วค่ะ” ช่างแต่งหน้าบอกป้ารุ่ง ก่อนจะพากันเดินออกจากห้องไปแก้มใสลุกขึ้นยืนแล้วหันไปยิ้มให้ป้ารุ่งป้ารุ่งเดินเข้าไปใกล้หลานสาว มองสำรวจตั้งแต่หัวจรดเท้า ทั้งเดินวนไปรอบตัวของแก้มใส แล้วมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้า“หลานสาวของป้าสวยมาก แก้มโตเป็นสาวแล้ว”“ป้ารุ่งก็สวย แก้มไม่เคยเห็นป้ารุ่งใส่ชุดแบบนี้แล้วก็ไม่เคยเห็นป้ารุ่งแต่งหน้าเลย พอแต่งแบบนี้แล้วป้ารุ่งสวยเหมือนสาววัยยี่สิบเลยค่ะ” แก้มใสชมจากใจจริง ป้ารุ่งของเธอสวมเสื้อลูกไม้สีชมพูอ่อน แบบคอตั้ง แขนยาว มีระบายช่วงเอว สวมผ้าถุงสีกลีบบัว และแต่งหน้าทำผมสวยงาม เป็นป้ารุ่งในแบบที่แก้มใสไม่เคยเห็นมาก่อน“อย่ามัวแต่มาชมกันเองเลย งานใกล้จะเริ่มแล้ว ป้าจะออกไปต้อนรับแขก แก้มรออยู่ในนี้ก่อนนะ”“ไม่ให้แก้มออกไปช่วยหรือคะ”“แก้มอย่าเพิ่งออกไป
แก้มใสนั่งลงบนเตียง เด็กสาววางมือลงบนที่นอน ค่อย ๆ ลูบไล้สัมผัสมัน ก่อนจะเอนกายลงนอนตะแคง แนบแก้มกับที่นอนของเขา แล้วน้ำตาก็ไหลรินอีกครั้ง“แก้มคิดถึงคุณวา...ฮึก ๆ”แม้รู้ว่าไม่ควรคิดถึง แม้รู้ว่าไม่มีสิทธิ์รัก แม้จะบอกตัวเองให้รีบทำใจ แต่แก้มใสก็ไม่อาจหักห้ามใจได้เลย“นี่มันอะไรกันคะคุณวา คุณจะยกเลิกงานแต่งของเรา ในวันที่ทุกอย่างเตรียมพร้อมไว้หมดแล้วได้ยังไงกันคะ” มินตราตะเบ็งเสียงถามด้วยความโมโห หญิงสาวอยู่ในชุดไทยศิวาลัยสวยหรู เป็นชุดเจ้าสาวที่ตัดเย็บจากร้านไฮโซชื่อดัง ที่จริงแล้วเวลานี้ เธอจะต้องนั่งรับน้ำสังข์เคียงข้างกับเจ้าบ่าว แต่กลับกลายเป็นว่าเธอกับเขากำลังถกเถียงกันอยู่ในห้องสวีตของโรงแรม“มินตรา...คุณจะประกาศยกเลิกงานแต่งเอง หรือจะให้ผมเป็นคนประกาศ” ทิวาถามย้ำคำเดิมหลังจากเรียกเธอเข้ามาคุยลำพังสองคนในห้อง เขาเปิดโอกาสให้เธอเลือกเอาว่า เธอจะเป็นคนประกาศยกเลิกงานนี้เอง หรือว่าจะให้เขาเป็นคนประกาศ เพราะหากให้เขาต้องประกาศยกเลิกงานแต่งในครั้งนี้ เหตุผลและหลักฐานที่เขาจะหยิบยกขึ้นมาเพื่ออธิบายให้ทุกคนได้รับรู้ อาจจะทำให้เธอ
ร่างอวบอิ่มยั่วกำหนัดเพศชายที่ถูกอำพรางด้วยเสื้อเชิ้ตตัวใหญ่สีเทาและกางเกงวอร์มสีดำยืนก้มอยู่หน้าประตู เธอกำลังยืนอยู่หน้าบ้านหลังเล็กในสวนหลังคฤหาสน์ใหญ่ ซึ่งอาณาเขตแห่งนี้มีรั้วสูงสี่เมตรปิดล้อมไว้ทุกทาง และตั้งอยู่กลางเมืองกรุง มีพื้นที่ประมาณห้าไร่ มีต้นไม้น้อยใหญ่ปลูกอยู่เต็มบริเวณ บ้านหลังเล็กที่อยู่ในสวนแห่งนี้เป็นอาณาเขตต้องห้าม ไม่มีใครกล้าเข้ามาใกล้ หากไม่ได้รับอนุญาตจากคุณทิวาซึ่งเป็นลูกชายคุณท่านทัดเทพเจ้าของคฤหาสน์หลังงาม“เข้ามา” เสียงเข้มดุที่คุ้นเคยเอ่ยอนุญาต หลังจากแก้มใสเคาะประตูสองครั้งแล้วยืนรอครู่หนึ่งเด็กสาววัยสิบแปดที่เพิ่งเข้าเรียนมหาวิทยาลัยปีหนึ่งเมื่อเดือนที่แล้วผลักบานประตูเข้าไปแล้วปิดล็อกมันอย่างรู้หน้าที่ เธอหมุนตัวหันไปเผชิญหน้ากับเจ้าของบ้านที่นั่งไขว่ห้าง กางแขนสองข้างพาดพนักโซฟาผ้าสีน้ำเงินเข้มรอเธออยู่แล้วในบ้านหลังเล็กเรียบหรูตกแต่งด้วยโทนสีเข้ม ให้ความรู้สึกอึดอัดทุกครั้งยามเธอเข้ามาอยู่ข้างใน แต่ที่ทำให้แก้มใสอึดอัดยิ่งกว่าบ้านก็คือเจ้าของบ้านที่นั่งอยู่ตรงหน้าทิวาเป็นชายหนุ่มวัย 28 ปี เขาเป็นทั้งเจ้านาย เป็นอาจารย์ และเป็นเจ้าชีวิตของเธอ เธอเ...
Comments