'พิมลนาฏ' ตายแล้วทะลุมิติมาอยู่ในร่างของตัวประกอบ ในนิยายที่เคยอ่าน เธอมาอยู่ในร่างของตัวประกอบ มีชื่อว่า เหอจินหนาน บุตรสาวบุญธรรมของตระกูลเหอ นางแต่งงานกับรองแม่ทัพเฝิงเหยียนที่อยู่ฝ่ายองค์ชายเก้า ทั้งที่ตระกูลเหอยืนฝ่ายองค์รัชทายาท น่าเศร้าที่นางดันไปเข้าตานางร้ายของเรื่องเข้า ไป ๆ มา ๆ กลายเป็นสหายรู้ใจ จากที่อยากอยู่เงียบ ๆ ในที่ของตัวเองก็พบความไม่สมเหตุสมผลมากมายไปหมด แถมยังโดนแม่นางเอกส่งคนมาจับตามอง กดดันให้เขียนจดหมายรายงานความเป็นอยู่ในจวนราวนางคือสาวใช้มิปาน คนที่โดนกระทำแล้วตอบแทนกลับร้อยเท่าพันเท่าอย่างนางมีหรือจะอยู่เฉย ในเมื่อไม่คิดปล่อยกันไปนางก็จะลองสู้ดูสักตั้ง ไหนจะสามีของเจ้าของร่างเดิมก็หล่อเหมือนพระอกในดวงใจของนาง ดวงใจที่โอนอ่อนกับคนหน้าตาดีของนางจึงเกิดอาการหวั่นไหว คนอะไรหล่อเหลาชวนคนมองหัวใจวาย นางกลัวตัวเองห้ามใจไม่ไหวแล้วลากเขาขึ้นเตียงในสักวัน!!
View Moreส่วนคนที่สร้างปรากฏการณ์ก็ใช้ชีวิตเรียบง่ายในเมืองหลวง ตอนเช้าตื่นนอนอยู่กับลูก สายหน่อยพาลูกเข้าไปที่ร้าน ช่วงบ่ายนั่งทำบัญชี ตกเย็นก็กลับจวนสอนหนังสือเล่นสนุกกับลูกเป็นเช่นนี้วนเวียนไปจนเวลาผ่านไปเกือบหนึ่งเดือนด้านคนที่เงียบมานานอย่างเหอจินเหยาก็ระแคะระคายแล้วถึงร้านขายอาหารที่คนทั่วไปเอ่ยถึง แม้แต่องค์รัชทายาทยังหลุดปากเอ่ยชม นางคับข้องใจจึงสั่งให้คนไปซื้อมาสองสามอย่าง ก่อนคิ้วจะกระตุกเมื่อพบอาหารแสนคุ้นตา“คุณหนู รสชาตินับว่าเลิศรสเจ้าค่ะ” ชุนถิงสาวใช้คนสนิทของเหอจินเหยาชิมอาหารพวกนี้ก็ตกตะลึงเมื่อพบว่ารสชาติของมันอร่อยล้ำกว่าอาหารในภัตตาคารที่นางเคยได้ชิมเป็นไหน ๆเหอจินเหยาเวลานี้ตื่นตัวว่าอาจมีคนมาจากที่เดียวกับนาง จะมาสนใจชิมรสชาติมันเสียที่ไหน ดวงตาหงส์มองผัดกระเพาะหมูสับไข่ดาวตรงหน้าด้วยแววตาล้ำลึก ชุนถิงรับใช้คุณหนูมาค่อนข้างนานเห็นท่าทางเช่นนั้นก็กลับมาสงบเสงี่ยม ตัดใจมองข้ามความอร่อยอย่างไหวตัวทัน“ให้คนไปสืบว่าใครคือเจ้าของร้าน”“เจ้าค่ะ”เหอจินเหยายังคงจับจ้องอาหารคุ้นตาแล้วใช้ความคิด หัวใจของนางเต้นรัวพลางถามตัวเองว่าใครคือคนนั้น จะใช้มิตรหรือศัตรู เดี๋ยวคงรู้กันกลั
ด้านเหอจินหนานบอกว่าจะมาหาฮุ่ยฮุ่ย ตอนนางลงมาจากห้องทำงานชั้นสามก็เจอลูกกับเสี่ยวลี่เดินมาพอดี“ท่านแม่~ ข้าไปซื้อขนมมาแต่หิวมากเลยเจ้าค่ะ” ฮุ่ยฮุ่ยลืมไปแล้วว่าตัวเองเจอคนแปลกหน้าแล้วยังได้ของจากเขามา ตอนนี้นางหิวไส้กิ่วแล้วอยากกินอาหารรสมือของท่านแม่ที่สุด“ได้เลย แม่กำลังกังวลว่าเจ้าไปวิ่งเล่นจนลืมหิวเสียแล้ว” เหอจินหนานอุ้มเจ้าตัวน้อยแต่น้ำหนักไม่น้อยเข้ามาในอ้อมแขน ฮุ่ยฮุ่ยกอดคอท่านแม่ซบไหล่อย่างออดอ้อน“ข้าจะกินข้าวกับท่านแม่เจ้าค่ะ”“ได้ เช่นนั้นเจ้าไปรอที่ห้องส่วนตัวของเรา แม่จะไปทำอาหารมาให้เจ้า”เสี่ยวลี่รับคุณหนูมาอุ้มแล้วพาไปที่ห้องอาหารส่วนตัว ห้องนี้จัดเอาไว้สำหรับฮูหยินและคุณหนูเท่านั้น ส่วนเรื่องที่คุณหนูพบเจอคนผู้หนึ่งและได้รับพู่ห้อยเอวมานางไม่ลืมรายงานแน่นอน เพียงต้องรอให้กลับถึงจวนจึงสะดวกกว่าอีกด้านของแคว้น ชายแดนที่มีสงครามไม่จบไม่สิ้นมาหลายปี ขบวนขนส่งเสบียงจากเมืองหลวงก็มาถึงแล้ว มีนายทหารชั้นผู้น้อยจำนวนหนึ่งยกหีบห่อเดินตรงมายังกระโจมที่พักของนายทหารชั้นสูง นายทหารกลุ่มนั้นหยุดยืนหน้ากระโจมขานเรียกคนด้านในว่า“ท่านรองแม่ทัพ มีของจากตระกูลเฝิงฝากมากับขบวนขนส่งเ
“เอาละ มาเริ่มปรุงรสชาติเพื่อหมักหมูกันเถอะ”เหอจินหนานล้างมือแล้วหยิบเครื่องปรุงกะปริมาณเท่ากับเนื้อหมู คนทั้งสองกำลังเริ่มปรุงเครื่อง เสียงของฮุ่ยฮุ่ยก็ดังเข้ามาก่อนตัวเสียอีก“ท่านแม่เจ้าขา ท่านแม่”เหอจินหนานจำต้องหยุดทุกอย่างแล้วหันมามองดูลูกสาวตัวน้อยที่ยามนี้หน้าตามอมแมม ชุดสวยงามถูกเปลี่ยนเป็นชุดผ้าฝ้ายสีเรียบ เสี่ยวลี่กลัวว่าตอนที่ฮุ่ยนฮุ่ยเล่นสนุกในสนามเด็กเล่นชุดราคาแพงจะเสียหายจึงลงมือเย็บชุดใหม่สำหรับเล่นสนุกโดยเฉพาะขึ้นมาหลายชุด มันทำจากผ้าฝ้ายแต่ก็เนื้อดีกว่าชุดของชาวบ้านทั่วไป“ลูกเบื่อของเล่นพวกนั้นแล้วหรือจึงวิ่งมาหาแม่ที่นี่” มือบางเกลี่ยแก้มที่มีเม็ดทรายเกาะ ก้มตัวจนใบหน้าเกือบเสมอกับลูก ถามอย่างหยอกเย้า“เปล่าเจ้าค่ะ ลูกไม่ได้เบื่อและไม่มีทางเบื่อของเล่นที่ท่านแม่ทำมาให้” ฮู่ยฮุ่ยส่ายหน้าจนแก้มสั่น มันแดงระเรื่อน่าหอมหน้ากัดมากสำหรับคนหลงลูกอย่างเหอจินหนาน นางใจเย็นมากพอให้ลูกพูดต่อไปว่า“แต่ว่าพ่อบ้านเฝิงพาคนไปลงสระที่ไร่กลับมาแล้ว แถมยังขนปลาตัวใหญ่มาเยอะมากเลยเจ้าค่ะ!”ฮุ่ยฮุ่ยพูดจบบ่าวชายหลายคนก็ขนถังไม้เข้ามาหลายถัง เหอจินหนานจูงมือลูกที่กระตือรือร้นอยากพานาง
ในเมื่ออยากเปิดร้านอาหารจานด่วน นางต้องทดสอบฝีมือของตนเองและทบทวนสูตรในความทรงจำด้วย ยังดีว่าเครื่องปรุงและวัตถุดิบหาได้ไม่ยาก ไม่มีสิ่งไหนก็พอใช้อย่างอื่นทดแทนกันได้ พอชิมรสชาติแล้วพบว่าพอใช้ คนในยุคนี้น่าจะชอบกานลู่ยื่นหน้ามองข้าวที่ถูกหุงจนขึ้นเม็ด สีของมันเหลืองสวยกลิ่นหอมเครื่องเทศฟุ้งไปทั่วครัว ด้านบนมีไก่หนังมันวาวโป๊ะทับอีกที นางกลืนน้ำลายอย่างหิวโหย เหอจินหนานไม่ได้ให้คนสนิทรอนานก็ตักข้าวใส่ถ้วย คว่ำลงบนจาน คีบไก่ออกมาเลาะกระดูกสับเป็นชิ้น ๆ วางบนข้าวอีกทีจัดจานด้วยแตงกวาปอกสีขาวและผักชีสีเขียว เคียงกันกับถ้วยน้ำจิ้ม นางยังวานให้เค่อเจี้ยนทำช้อนกับส้อมไม้มาหลายคู่ สั่งตอนเช้าได้ตอนเย็นถือว่าทำงานรวดเร็วมาก“เจ้าลองชิมดู”กานลู่ลังเลไม่ยอมรับจานอาหารแปลกตาแต่กลิ่นหอมจนน้ำลายไหล ไม่ใช่ว่านางกลัวกินแล้วท้องเสียแต่นางกำลังเกรงใจฮูหยิน เหอจินหนานจึงดันจานใส่อกของคนสนิททำท่าจะปล่อย คนเสียดายของจึงรีบรับเอาไว้อย่างรวดเร็ว“อร่อยยิ่งนักเจ้าค่ะฮูหยิน” แม่ครัวสิงอุทานออกมาหลังตักชิมไปคำใหญ่ ไม่ทราบนางไปจัดการของอร่อยได้ยังไง ข้าวมันไก่ในจานถึงมีรูปแบบไม่ต่างไปจากของกานลู่นักแม้จะใช้
“ตามสบายเถอะ แล้วดูว่าสิ่งที่ข้าจะให้พวกท่านทำพอเป็นไปได้หรือไม่”พูดจบเหอจินหนานพาคนทั้งสองเดินไปที่ลานซึ่งตั้งใจว่าจะวางของเล่นไว้ พลางส่งกระดาษที่วาดรูปของเล่นต่าง ๆ ให้เค่อเจี้ยนดูว่าพอจะทำได้หรือไม่เค่อเจี้ยนทำงานเป็นช่างไม้มานับยี่สิบปีพอมองรูปภาพที่มีรายละเอียดชัดเจนก็พยักหน้าด้วยความมั่นใจ“ทำได้ขอรับ”“เยี่ยม เรื่องค่าใช้จ่ายไม่ต้องห่วง หากงานออกมาถูกใจข้าย่อมว่าจ้างงานอื่นต่อไป”ลู่ทางทำเงินของนางคือการขายอาหารริมทาง และสูตรข้าวมันไก่น้ำจิ้มรสเด็ดของพ่อกับแม่จะต้องให้คนจีนโบราณเปิดหูเปิดตานางเป็นลูกคนเดียว พอพ่อกับแม่จากไปมันจึงเป็นของนาง ทว่างานที่ทำมาตลอดสนุกกว่าจึงปล่อยสูตรข้าวมันไก่ไว้ในความทรงจำ วันนี้ได้เวลานำออกมาโกยตำลึงเข้ากระเป๋าแล้ว ยังมีข้าวขาหมูเนื้อฉ่ำ ๆ ขอแค่อาหารอร่อยถูกปากราคาถูกใจ นางคงรวยขึ้นเป็นกอบเป็นกำก่อนทุกอย่างจะเลวร้าย“ส่วนระยะเวลาพวกข้าขอไม่เกินสิบวันขอรับ” เค่อเจี้ยนพูดอย่างมั่นใจทำให้เหอจินหนานเลิกคิ้วแปลกใจ“พวกเรามีคนงานที่เคยทำด้วยกันแต่ตอนนี้แยกย้ายเพราะไม่มีงานเข้ามา ถ้าเรียกมาช่วยพร้อมค่าจ้างย่อมไม่มีปัญหาขอรับ” เค่อจิ้นตงคลายความสงสัยทำ
“จ้างช่างไม้มาทำไมหรือเจ้าคะ”“ข้าจะทำของเล่นให้ฮุ่ยฮุ่ย เสี่ยวลี่บอกว่าบิดากับพี่ชายของนางเก่งเรื่องไม้ ข้าจึงลองให้โอกาส” เหอจินหนานนึกภาพของเล่นที่นางวาดเอาไว้ถูกทำออกมาเป็นของจริง ฮุ่ยฮุ่ยคงชอบจนต้องร้องกรีดแน่นอนกานลู่พอรู้มาบ้างว่าบิดากับพี่ชายของเสี่ยวลี่เป็นช่างไม้ หากเป็นฮูหยินก่อนป่วยไข้คงไม่ใส่ใจเรื่องเล็กน้อยของบ่าวไพร่ขนาดนี้ มิใช่ว่าเมื่อก่อนไม่ดีแต่นางคิดว่าฮูหยินไร้ใจไปสักหน่อย“เจ้าว่าเสี่ยวลี่ใช้ได้หรือไม่”“ใช้ได้เลยเจ้าค่ะ หนึ่งปีมานี้นางไม่เกียจคร้านใฝ่เรียนรู้งานต่าง ๆ ส่วนเรื่องไหวพริบและความฉลาด..นับว่ามีพอสมควร” กานลู่วิเคราะห์อย่างเป็นกลาง ไม่มีน้ำเสียงขุ่นเคืองที่เห็นฮูหยินยกสาวใช้คนหนึ่งมาทำงานข้างกายร่วมกับนางเหอจินหนานยิ้มกว้างกล่าวว่า “คงต้องฝากเจ้าช่วยสอนสั่งนางให้มากกว่านี้”“ได้เจ้าค่ะฮูหยิน”มีคนมาช่วยงานนับว่าดี ยิ่งคนที่นางสอนเองกับมือ อนาคตกานลู่ย่อมวางใจหากต้องไปจัดการเรื่องสำคัญแทนฮูหยินแล้วปล่อยให้เสี่ยวลี่คอยดูแลฮูหยินแทน“คุณหนู! เหตุใดถึงซุกซนเช่นนี้! หากยังมิหยุดดื้อดึงบ่าวจะไม่พาไปหาฮูหยินนะเจ้าคะ!”สองนายบ่าวที่เดินกันไปคุยกันไปเข้ามาใน
ผ่านการสวมร่างมาสิบวัน เหอจินหนานใช้ชีวิตกับบุตรสาวอย่างเรียบง่าย นางคอยสั่งสอนความคิดและสิ่งต่าง ๆ มากมาย รวมถึงจับมือน้อยเขียนพู่กัน ดีร้ายยังไงตอนเรียนมหาลัยนางก็ลงเรียนภาษาจีนและการเขียนอักษรจีนโบราณด้วยพู่กันอยู่หนึ่งปีเพื่อเป้าหมายเดียว นั่นคือการหาผู้ชายที่ตรงกับพระเอกในซีรีย์มาเป็นแฟน แต่เหมือนมันจะสูญเปล่าในตอนนั้น เมื่อไม่มีใครก้าวเข้ามาในชีวิตอันเหี่ยวแห้งนี้เลย ใครจะคิดว่าวันหนึ่งต้องมาจับมือของลูกเขียนอักษร ถือว่าใช้เงินลงเรียนได้คุ้มค่าแล้วกานลู่ก็มิสงสัยว่านางไม่ใช่เหอจินหนานตัวจริง พูดก็พูด เหอจินหนานถือว่าเป็นสตรีงดงงามฉลาดเฉลียวคนหนึ่ง การเรียนของสตรีไม่เคยทิ้ง ยังสำเร็จการศึกษาจนอาจารย์ที่สอนสั่งชื่นชม นางจำได้ตอนอาจารย์แต่ละท่านออกปากชม เหอฮูหยินมีความสุขจนมอบเครื่องประดับราคาแพงให้สองชุดนอกจากนั้นเหอจินหนานยังสนใจเรื่องของทหารและกลยุทธต่าง ๆ อีกด้วยนับดูแล้วคนจวนเหอเลี้ยงดูนางมายี่สิบปี มีสิ่งใดดีก็มอบให้ตลอด พอบุตรสาวตัวจริงปรากฏตัวแม้ไม่ละเลยก็มิอยากสนใจนางอีกคนในจวนเหอคุ้นเคยกับนางมาหลายสิบปี ตอนเหอจินเหยามาก็ยังไม่ทอดทิ้งเสียทีเดียว แต่เหมือนว่าคุณหนูตัวจ
“โอ๊ย!! บ้าจริง!” พิมลนาฏตื่นขึ้นหลังจากเธอรู้สึกว่าตัวเองถูกจับหมุนด้วยมือที่มองไม่เห็น“ฮูหยินเจ้าขา ฮูหยินท่านฟื้นแล้ว!!”“ฮือออ ทะ ท่านแม่ ฮึก ท่านแม่”พิมลนาฏหลับตายกมือจับหัวที่ปวดจี๊ดจากเสียงร่ำไห้ข้างหู มันดังผสมปนเปจนน่ารำคาญ ถึงจะรู้ว่าเรื่องเป็นเช่นนี้เธอก็ยังปรับตัวไม่ได้อยู่ดีในโลกไม่คุ้นเคยนี้ เธอดันต้องใช้ชีวิตเป็นฮูหยินของผู้อื่น เป็นแม่ของเด็กน้อย เป็นเจ้านายของใครอีกหลายคน มากที่สุดคือหิวน้ำมาก!พิมลนาฏพ่นลมหายใจแรง ๆ ลืมตามองคนทั้งสองที่นั่งร้องไห้จนตาแดงอยู่ข้างเตียงนิ่ง ก่อนจะค่อย ๆ พยุงตัวลุกจ่ากท่านอนโดยมีความช่วยเหลือของเด็กสาวคนหนึ่ง“ขอน้ำหน่อย”กานลู่ ผละจากผู้เป็นนายปาดเช็ดน้ำตาแล้วรินน้ำต้มสุกจากกาส่งให้ หลังจิบน้ำจนรู้สึกดีแล้วก็หันไปยิ้มบางให้เป็นการขอบคุณ“ขอบใจเจ้ามาก”“ข้าเต็มใจทำหน้าที่ดูแลฮูหยินกับคุณหนูเจ้าค่ะ”พิมลนาฏหรือตอนนี้คือเหอจินหนานหันเหสายตามองดวงหน้ากลมอิ่ม เนื้อตัวอวบอ้วนผิวขาวใสในชุดสีเหลือง มัดผมทรงซาลาเปาผูกเชือกสีเดียวกับชุดด้วยแววตาอ่อนโยนเด็กน้อยร้องไห้จนน้ำตาอาบหน้า ดวงตาแดงเรื่อ จมูกกับปากที่เบะน้อย ๆ แดงก่ำน่ารักน่าสงสารในครา
เหอจินหนาน คือบุตรสาวตัวปลอมของตระกูลเหอ ที่บอกว่าตัวปลอมนั้นคงต้องย้อนความไปถึงเรื่องราวอันซับซ้อนในอดีตตัวนางในวัยทารกถูกสลับสับเปลี่ยนตัวกับบุตรสาวตัวจริงของตระกูลเหอ จนวันหนึ่งที่ชีวิตกำลังเดินอยู่บนเส้นทางสวยงาม ความจริงกลับมาเยือนอย่างไม่อาจตั้งตัวรับทัน เจ้าของตัวจริงมาทวงคืน หลักฐานแน่ชัดนางจึงกลายเป็นตัวแย่งชีวิตดี ๆ ของผู้อื่นไปแม้ความรักความเอ็นดูที่มารดาและบิดามอบให้จะเป็นของจริง แต่พอบุตรสาวตัวจริงกลับมาทั้งสองก็หันไปทุ่มเททุกอย่างให้อีกฝ่ายจนหมดส่วนนางตลอดชีวิตเกือบยี่สิบปี นางช่วงชิงชีวิตสุขสบายของผู้อื่น แม้จะหน้าด้านเพียงใดหากอีกฝ่ายปรากฏตัวย่อมมีความละอายแก่ใจ จึงยอมหลีกทางแต่โดยดี ใช้ชีวิตเงียบ ๆ ในจวนต่อไปในฐานะบุตรสาวบุญธรรม ปล่อยให้ตัวจริงเชิดฉายสร้างชื่อเสียงดีงามแก่ตระกูลเหอ ให้ทุกคนค่อย ๆ ลืมว่านางคือข้อผิดพลาดของตระกูลเหอน่าเศร้าแม้นางจะใช้ชีวิตจืดจางเพียงใด กลับไม่อาจรอดพ้นหน้าที่สำคัญเช่นการแต่งงานตามหน้าที่ไปได้ใครต่างทราบดีว่าตระกูลเหอภักดีต่อองค์รัชทายาท แล้วเหตุใดนางผู้เป็นบุตรสาวบุญธรรมกลับต้องแต่งงานกับรองแม่ทัพคนหนึ่งและเขายืนอยู่ฝ่ายตรงข้ามด้ว
เหอจินหนาน คือบุตรสาวตัวปลอมของตระกูลเหอ ที่บอกว่าตัวปลอมนั้นคงต้องย้อนความไปถึงเรื่องราวอันซับซ้อนในอดีตตัวนางในวัยทารกถูกสลับสับเปลี่ยนตัวกับบุตรสาวตัวจริงของตระกูลเหอ จนวันหนึ่งที่ชีวิตกำลังเดินอยู่บนเส้นทางสวยงาม ความจริงกลับมาเยือนอย่างไม่อาจตั้งตัวรับทัน เจ้าของตัวจริงมาทวงคืน หลักฐานแน่ชัดนางจึงกลายเป็นตัวแย่งชีวิตดี ๆ ของผู้อื่นไปแม้ความรักความเอ็นดูที่มารดาและบิดามอบให้จะเป็นของจริง แต่พอบุตรสาวตัวจริงกลับมาทั้งสองก็หันไปทุ่มเททุกอย่างให้อีกฝ่ายจนหมดส่วนนางตลอดชีวิตเกือบยี่สิบปี นางช่วงชิงชีวิตสุขสบายของผู้อื่น แม้จะหน้าด้านเพียงใดหากอีกฝ่ายปรากฏตัวย่อมมีความละอายแก่ใจ จึงยอมหลีกทางแต่โดยดี ใช้ชีวิตเงียบ ๆ ในจวนต่อไปในฐานะบุตรสาวบุญธรรม ปล่อยให้ตัวจริงเชิดฉายสร้างชื่อเสียงดีงามแก่ตระกูลเหอ ให้ทุกคนค่อย ๆ ลืมว่านางคือข้อผิดพลาดของตระกูลเหอน่าเศร้าแม้นางจะใช้ชีวิตจืดจางเพียงใด กลับไม่อาจรอดพ้นหน้าที่สำคัญเช่นการแต่งงานตามหน้าที่ไปได้ใครต่างทราบดีว่าตระกูลเหอภักดีต่อองค์รัชทายาท แล้วเหตุใดนางผู้เป็นบุตรสาวบุญธรรมกลับต้องแต่งงานกับรองแม่ทัพคนหนึ่งและเขายืนอยู่ฝ่ายตรงข้ามด้ว...
Comments