อิตาลี ดินแดนแห่งประวัติศาสตร์ อารยธรรมโรมัน และศิลปะ สถานที่ พริมา หญิงสาวชาวไทย ได้มาท่องเที่ยว เปิดหูเปิดตาและมาหาเพื่อนสนิท หญิงสาวไม่เคยคิดเลยว่าการมาเที่ยวครั้งนี้…จะได้หัวใจของผู้ชายร่างยักษ์ หุ่นหมี หน้าตาดี กลับเมืองไทยไปด้วย ผู้ชายที่เป็นญาติสนิทของเพื่อน แถมยังมีลูกติดในวัยห้าขวบ แรกเริ่มไม่ถูกชะตากัน แต่ทำไมนานวันถึงใจสั่นเมื่อถูกเขาขายขนมจีบ พริมาเอ๋ย เธอจะตกหลุมพราง (รัก) ที่อีกฝ่ายขุดดักเอาไว้ไม่ได้เด็ดขาด!
ดูเพิ่มเติมวิลล่าส่วนตัวของเซซาโน่อยู่ติดกับริมทะเลสาบโคโม ดูภายนอกใหญ่โตอลังการ คฤหาสน์หลังงามตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมเก่าแก่ ดูงดงามและหรูหรา ตัวคฤหาสน์มีพื้นที่กว้างขวาง สองข้างทางล้อมรอบไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่เรียงราย ให้บรรยากาศถึงความเป็นธรรมชาติ แม้ยังไม่ได้ลงจากรถไปสัมผัสก็รู้ว่าอากาศดี วิวทิวทัศน์เยี่ยมขนาดไหนพริมานั่งตัวลีบอยู่ในรถลีมูซีนที่กําลังเคลื่อนตัวเข้าในบริเวณวิลล่า หญิงสาวเผลออ้าปากค้างและนึกอยู่ในใจ เธอไม่นึกว่าเพื่อนจะรวยขนาดนี้ ด้วยรู้แต่เพียงว่าจีด้าเป็นลูกสาวเจ้าของร้านเครื่องประดับในอิตาลี และที่มาเรียนต่อด้านการออกแบบอัญมณีก็เพราะจะกลับมาบริหารกิจการของครอบครัว แต่เมื่อได้ฟังจากเจ้าเด็กตัวกลมช่างพูด จีด้า เซซาโน่ คือทายาทคนเดียวของ เจราล เซซาโน่ นักธุรกิจอัญมณีที่มีร้านเครื่องประดับหลายสาขาทั่วยุโรปตลอดเวลาที่คบกัน จีด้าเป็นเพื่อนที่ดีกับเธอเสมอมา เพื่อนสาวไม่เคยโอ้อวดว่ามีฐานะร่ำรวยขนาดไหน ถึงแม้นิสัยจะแตกต่างกันสุดขั้วแต่จีด้าคือเพื่อนที่พริมาคบได้นานที่สุด เพราะเธอเป็นคนที่ทำอะไรตามอารมณ์และความรู้สึกตัวเอง ไม่ค่อยจะแคร์คนรอบข้างเท่าไรจนเพื่อนสาวบอกบ่อย ๆ ว่าเป็นผู้หญิง
ขาเหลียวตามก็เห็นว่าเจ้าหล่อนกําลังขึ้นไปรอในรถ ส่วนคนขับกําลังยกกระเป๋าเดินทางใส่ท้ายรถ“วิ่ง! เจ้าลูกชาย” เขายกลูกชายขึ้นอุ้มแล้ววิ่งตรงไปยังรถแท็กซี่ พลางตะโกนเสียงดัง “แท็กซี่! อย่าเพิ่งออกรถ หยุด!”พริมานั่งรออยู่ในรถตกใจกับเสียงเรียกที่ดังลั่น หญิงสาวมองผ่านกระจกก็เห็นสองพ่อลูกปีศาจวิ่งตรงมา“บ้าเอ๊ย...หรือเขาจะรู้แล้วว่าเราคือคนที่เขาต้องมารับ” เธอรีบหันไปบอกคนขับ “ออกรถเลยค่ะ”คนขับแท็กซี่คล้ายลังเล ขณะที่กําลังสตาร์ตรถ แองเจโล่ก็มาถึง เขาทุบกระจกรถ ก่อนจะเอ่ยเสียงเหี้ยมกับคนขับ “คิดดี ๆ คุณแท็กซี่...ถ้าคุณออกรถ คุณจะไม่ได้วิ่งรถทำมาหากินอีกเลย”คนขับแท็กซี่ใบหน้าซีดเผือดเมื่อโดนข่มขู่ รีบทำไม้ทำมือบอกให้เธอลงจากรถ“คะ คุณผู้หญิง ผมคงออกรถให้คุณไม่ได้...สามีกับลูกคุณมาตามแล้ว ผมไม่อยากมีเรื่องกับมาเฟีย”“ดะ...เดี๋ยวสิ” เธออ้าปากเหวอ เมื่อจู่ ๆ ก็โดนไล่ลงจากรถ “ฉันไม่รู้จักสองคนนี้...”“ผมไม่สน ผมไม่อยากมีเรื่อง ลงไปเถอะครับ” คนขับทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ เอาแต่พร่ำบอกให้พริมาลงจากรถไปเสียทีหญิงสาวก้าวลงจากรถอย่างหงุดหงิด มองคนขับที่รีบวิ่งไปเปิดท้ายรถแล้วเอากระเป๋ามาคืนให้ เขาโค
เขามองเธอสติแตกด้วยสีหน้าไร้อารมณ์“ถ้าคุณว่าไม่ใช่ก็ไม่ใช่ แต่ถ้ารูปผมกับลูกหลุดไปแม้แต่ภาพเดียวถึงคุณจะอยู่ในซอกหลืบไหนในอิตาลีนี้ผมก็จะลากตัวคุณมา” เขาบอกเสียงเหี้ยม แววตาข่มขู่ ก่อนจะก้มบอกลูกชาย “ไปเซโล่เราต้องหาเพื่อนน้าเราให้เจอก่อน อย่ามาเสียเวลากับยายผู้หญิงสติแตกคนนี้เลย”เยี่ยม! พอเธอบอกว่าเป็นช่างภาพและดูเหมือนตัวเองอาจจะเข้าใจผิดจริง ๆ ก็แก้อาการหน้าแหกด้วยการขู่ก่อนจะพากันเดินหนีไป เจอหน้ายายจีด้าเมื่อไรแม่จะต่อว่าให้หูชาเอาปีศาจมารับเธอแทนแองจี้ (นางฟ้า) ได้ยังไงกัน!“เออ ไปไหนก็ไปเลย” เธอพูดไล่ตามหลัง ก่อนจะบอกกับตัวเอง “จีด้านะจีด้าให้อีตาปีศาจนี่มารับได้ยังไง ช่างเถอะแม่จะปล่อยให้เดินหาจนทั่วสนามบินเลย หายังไงก็ไม่เจอ เพราะฉันจะนั่งรถไปเอง..."ทีนี้จะเดินหาจนขาลากก็ไม่เจอเธอหรอกอีตายักษ์ปีศาจ!***********************แองเจโล่เดินจูงมือลูกชายจากมาด้วยอาการหัวเสีย ผู้หญิงตัวเล็กท่าทางก๋ากั่นช่างปากคอเราะราย ถ้าเขาไม่กลัวนักข่าวจะตามกลิ่นมาคงจะจัดการสั่งสอนไปสักยก ให้รู้เสียบ้างว่าคนอย่างแองเจโล่ เจ้าพ่อวงการเรือสําราญไม่ใช่คนที่จะให้ใครมาด่าง่าย ๆ!ท่าทางไม่เกรงกลัว ป
“แด๊ดฮะ ไหนล่ะ คนที่เราต้องมารับ คนก็เยอะแล้วเราจะหาเจอไหมฮะ”หญิงสาวมองเด็กผู้ชายอายุประมาณห้าขวบ สวมเสื้อเชิ้ตที่ถูกพับแขนเสื้อขึ้นมาถึงข้อศอกป้อม ๆ คอสั้น ๆ มีผ้าพันคอเข้ากับลายของเสื้อเชิ้ตดูเก๋ไปอีกแบบ กางเกงขาสั้นสีน้ำตาลเข้มอวดน่องเป็นข้อ ๆ ดูจ้ำม่ำในทุกย่างก้าว เสื้อผ้ารองเท้าดูเนี้ยบตั้งแต่หัวจรดเท้า ท่าทางการเดินที่เอามือทั้งสองข้างล้วงกระเป๋ากางเกงคล้ายนายแบบ แถมยังสวมแว่นตาสีชาอันโตทำให้เธอนึกขันพริมาละสายตาจากนายแบบตัวเล็ก แล้วมองหาพ่อของเด็กโดยอัตโนมัติ อยากรู้ว่าลูกขนาดนี้ แล้วแด๊ดที่เจ้าหนูน้อยคนนี้เรียกจะแต่งตัวขนาดไหน...“เฮ้ อย่าเพิ่งบ่นสิเซโล่...” เสียงทุ้มของผู้ชายตัวโตเหมือนยักษ์ปักหลั่นดังขึ้น เธอยืนมองสองพ่อลูกคุยกันโดยไม่รู้ตัว ผู้ชายตรงหน้าหล่อเหลาเหมือนพระเอกหนังฝรั่งที่เธอดูบ่อย ๆ ผมสีน้ำตาลอ่อนซอยสั้นรับกับใบหน้า คิ้วหนาที่พาดเฉียงเป็นปั้นรับกับดวงตาสีเขียวมะกอก ผู้ชายคนนี้หล่อและดวงตาสวยจนเธอแอบอิจฉา เขาสวมสูทสีน้ำตาลด้านในเป็นเชิ้ตสีขาวกับกางเกงสแล็กส์เข้าชุดกันพริมาสังเกตเห็นนัยน์ตาสีเขียวมะกอกกวาดมองผู้คนโดยรอบเหมือนกําลังหาใครบางคน แล้วริมฝีปากหนาหย
ยืนรอคนมารับเฉย ๆ ก็ดูจะไม่ใช่พริมา หญิงสาวจึงควานหากล้องคู่หูของเธอออกจากกระเป๋าเป้ กล้องตัวเก่งที่เธอใช้มาตั้งแต่สมัยเป็นช่างภาพฝึกหัดหญิงสาวยกกล้องขึ้นแล้วโฟกัสไปยังเหล่านักท่องเที่ยวที่เดินสวนกันขวักไขว่ ผู้คนหลายเชื้อชาติ คู่รัก ครอบครัวใหญ่ ที่ตั้งใจมาเที่ยวมิลาน ก่อนจะเริ่มกดชัตเตอร์ เก็บภาพบริเวณรอบ ๆ ตัวอย่างใจเย็น ผู้คนส่วนมากแต่งกายนําแฟชั่นไม่มีใครน้อยหน้าใคร หญิงสาวแย้มยิ้มน้อย ๆ อย่างพอใจเมื่อได้รูปครอบครัวเล็ก ๆ ครอบครัวหนึ่งที่มีพ่อ แม่ ลูกเดินจูงมือกันลากกระเป๋าเดินทางผ่านด้านหน้า ใบหน้าเปื้อนยิ้มของพวกเขาดูอบอุ่นและมีความสุขเมื่อถ่ายภาพได้หลายรูปจนพอใจ หญิงสาวก็ยกแขนขวาที่สวมนาฬิกาอยู่ดูเวลาแล้วหยิบโทรศัพท์มือถือกดโทรออกเพื่อส่งข่าวหาพ่อที่อยู่เมืองไทยพริมาฟังเสียงรอสายไม่นาน เสียงห้วน ๆ ตามแบบฉบับของพ่อเลี้ยงสนิท ธนกิจ เจ้าของสวนผลไม้ส่งออกหลายร้อยไร่ของเมืองลําพูนก็ดังขึ้น“ฮัลโหล ใครวะ โทรมาตอนข้ากําลังจะนอนกลางวัน”“โห พ่อจ๋า อย่าตะคอกเสียงดังสิ” พริมาเอาหูออกห่างโทรศัพท์เมื่อได้ยินเสียงปลายสาย น้ำเสียงแข็งแถมยังพูดตะคอกเสียงดัง “พริมาจะโทรมาบอกว่าตอนนี้ถึงอิต
หญิงสาวรูปร่างบอบบาง ผมดําขลับถูกมัดรวบสูงปล่อยปลายผมเป็นหางม้าระต้นคอขาวผ่อง เดินลากกระเป๋าเดินทางใบโตออกจากบริเวณสนามบิน ใบหน้ากลมมนแดงเรื่อเล็กน้อยเมื่อเดือนธันวาคมของอิตาลีย่างเข้าสู่ฤดูหนาว เธอแต่งกายด้วยเสื้อแจ็กเก็ตยีนส์ตัวเก่ง สวมกางเกงหนังสกินนี่สีดําและรองเท้าหุ้มข้อสีน้ำตาลดูคลาสสิก ดวงตากลมโตสีน้ำตาอ่อนใต้แพขนตางอนกวาดมองบริเวณรอบ ๆ คล้ายสังเกตสังกาอยู่ในที ริมฝีปากบางสีเชอร์รีแย้มยิ้มน้อย ๆ เมื่อได้สูดอากาศบริสุทธิ์เข้าเต็มปอดอากาศในยามเช้าของอิตาลีบริสุทธิ์มากกว่าอากาศในประเทศไทยที่เธอคุ้นเคย ลมพัดผ่านบางเบาคล้ายย้ำเตือนว่าฤดูหนาวกําลังเข้ามาถึงทำให้เธอห่อตัวเล็กน้อย หญิงสาวกระชับเป้สะพายหลังที่มีเครื่องมือทำมาหากินอยู่ด้านในแล้วตบเบา ๆ อย่างครึ้มอกครึ้มใจพริมา ธนกิจ ช่างภาพอิสระที่เพิ่งมาเยือนอิตาลีครั้งแรกตามคําชักชวนของเพื่อนสาว จีด้า เซซาโน่ หญิงสาว ลูกเสี้ยวไทย-อิตาลี-อังกฤษ ทั้งสองเจอกันครั้งแรกที่มหาวิทยาลัยชื่อดังในนิวยอร์ก พริมาเรียนต่อด้านการถ่ายภาพ ส่วนจีด้าเรียนต่อด้านออกแบบดีไซน์อัญมณี ถึงจะคนละสาขาแต่เพราะนิสัยใจคอคล้าย ๆ กัน สุดท้ายก็สนิทสนมกันโดยปริยาย
หญิงสาวรูปร่างบอบบาง ผมดําขลับถูกมัดรวบสูงปล่อยปลายผมเป็นหางม้าระต้นคอขาวผ่อง เดินลากกระเป๋าเดินทางใบโตออกจากบริเวณสนามบิน ใบหน้ากลมมนแดงเรื่อเล็กน้อยเมื่อเดือนธันวาคมของอิตาลีย่างเข้าสู่ฤดูหนาว เธอแต่งกายด้วยเสื้อแจ็กเก็ตยีนส์ตัวเก่ง สวมกางเกงหนังสกินนี่สีดําและรองเท้าหุ้มข้อสีน้ำตาลดูคลาสสิก ดวงตากลมโตสีน้ำตาอ่อนใต้แพขนตางอนกวาดมองบริเวณรอบ ๆ คล้ายสังเกตสังกาอยู่ในที ริมฝีปากบางสีเชอร์รีแย้มยิ้มน้อย ๆ เมื่อได้สูดอากาศบริสุทธิ์เข้าเต็มปอดอากาศในยามเช้าของอิตาลีบริสุทธิ์มากกว่าอากาศในประเทศไทยที่เธอคุ้นเคย ลมพัดผ่านบางเบาคล้ายย้ำเตือนว่าฤดูหนาวกําลังเข้ามาถึงทำให้เธอห่อตัวเล็กน้อย หญิงสาวกระชับเป้สะพายหลังที่มีเครื่องมือทำมาหากินอยู่ด้านในแล้วตบเบา ๆ อย่างครึ้มอกครึ้มใจพริมา ธนกิจ ช่างภาพอิสระที่เพิ่งมาเยือนอิตาลีครั้งแรกตามคําชักชวนของเพื่อนสาว จีด้า เซซาโน่ หญิงสาว ลูกเสี้ยวไทย-อิตาลี-อังกฤษ ทั้งสองเจอกันครั้งแรกที่มหาวิทยาลัยชื่อดังในนิวยอร์ก พริมาเรียนต่อด้านการถ่ายภาพ ส่วนจีด้าเรียนต่อด้านออกแบบดีไซน์อัญมณี ถึงจะคนละสาขาแต่เพราะนิสัยใจคอคล้าย ๆ กัน สุดท้ายก็สนิทสนมกันโดยปริยาย...
ความคิดเห็น