"ฉันเจ็บ..ไอ้บ้า" หญิงสาวเจ็บไปทั้งตัวด้วยการกระทำของคนเอาแต่ใจเนื้อตัวของเธอแดงไปด้วยแรงกระชากของเขาจึงสบถต่อว่าอย่างเหลืออด
"ด่าผมอีกสิแล้วพรุ่งนี้คุณจะได้เดินไม่ได้"
"อื้มมม..." ว่าจบก็บดจูบร่างบางเปลือยเปล่าส่งลิ้นร้ายตวัดฉกชิมความหวานจากโพรงปากหญิงสาวพักใหญ่และรีบถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกอย่างเร่งรีบก่อนจะเริ่มสอดใส่แท่งร้อนที่พร้อมกับศึกรักเต็มที่แล้วไปที่ร่องสวาทของหญิงสาวอย่างรุนแรง
"ฉัน.. เจ็บ.. อื้อ.. อ๊ายย.. " สาวเจ้ารู้สึดระบมไปทั้งตัวเมื่อคนตัวโตถาโถมแรงกระแทกเธอจนตัวโยนทั้งยังขบกัดเต้างามเธอเล่นจนเป็นรอยแดงไปทั่ว
"อ..อ่าสส..อืมม..." ชายหนุ่มที่กำลังมัวเมากับอารมณ์ที่พลุ่งพล่านไม่ได้สนใจเสียงร้องค้านของคนตัวเล็กใต้ร่างแม้สักนิดยังคงใช้ร่างกายของเธอเป็นที่ระบายอารมณ์อย่างไร้ซึ่งความนุ่มนวลพักใหญ่จนเสร็จสมแตะขอบสวรรค์
"ปากก็ว่าขยักแขยงแต่เสียงหวานของคุณครางไม่หยุดเลยนะครับ" เมื่อบทสวาทสงบชายหนุ่มก็ล้มตัวนอนกอดก่ายร่างบางที่นอนน้ำตาไหลอยู่เงียบๆทั้งเอ่ยเย้าหยอกหญิงสาวด้วยน้ำเสียงระรื่น
"หยุดพูดไปเลย...ฉันอยากรู้ว่าคุณจะปล่อยฉันกลับบ้านเมื่อไร" ใบหน้านวลหันมามองค้อนชายหนุ่มทีาเขารู้ทั้งรู้ว่าเสียงที่เธอร้องคือความทรมานเขายังกล้าพูดหาว่าเธอมีความสุขน้ำเสียงระรื่นได้
"ไม่รู้สิอยู่ที่นี่สักเดือนเป็นไง.. หืม" แพทริคเอ่ยด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์
"ฉันอยากกลับบ้าน..." สิ้นเสียงของชายหนุ่มหญิงสาวก็พูดออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือพร้อมน้ำตาที่ไหลรินลงมาอีกรอบที่เธอรู้ชะตาว่าไม่ได้อยู่กับเขาแค่วันสองวัน
"กลับช้ากลับเร็วอยู่ที่ว่าคุณจะทำให้ผมพอใจได้แค่ไหน" ว่าจบมือหนาก็ก่อยก่ายบีบคลึงเต้างามเล่นอีกรอบเหมือนว่าตอนนี้เขาจะติดใจร่างกายของเธอไปแล้วเพราะมันดูจะเย้ายวนเขาไปทุกส่วนจนไม่เคยรู้สึกเบื่อ
"หยุดนะ..ฉันอยากพักผ่อน" แพงขวัญหันมองหน้าชายหนุ่มเธอเอ่ยกับปรามเขาเสียงแข็งเพราะร่างกายเธอตอนนี้ต้องการที่จะพักผ่อน
"ขอผมมีความสุขอีกสักนิดแล้วจะปล่อยคุณพักแล้วกัน" แพทริคไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงอดใจที่จะไม่มีรอบสองกับการทำกิจกรรมสวาทบนร่างกายเธอยิ่งใกล้เธอเท่าไรไฟสวาทในตัวของเขาก็ยิ่งพุ่งพล่านอย่างควบคุมไม่ได้ทุกทีไป
"อื้อ.." และแล้วร่างบางก็ถูกอุ้มให้นั่งบนตักแขนเรียวของหญิงสาวทั้งสองถูกจับให้คล้องอยู่กับคอของเขาก่อนที่เขาจะสอดแขนแกร่งกับข้อพับขาเธอทั้งสองยกขึ้นพร้อมสอดใส่แท่งร้อนเข้าไปในร่องสวาทอีกครั้ง
"อือ..อื้มม .." ชายหนุ่มค่อยๆชันเข่าขึ้นก่อนจะบดกระแทกแท่งร้อนกับร่องสวาทจนสาวเจ้าบิดเกร็งด้วยความเสียวและฟุบหน้าลงกับอกแกร่งปิดปากไม่ยอมให้เสียงหวานเล็ดลอดออกมาด้วยกลัวว่าเขาจะล้อเลียนเธอเล่น
"อ.. อื้มม.." แพทริคเงยหหน้าหลับตาปี๋สบถในลำคอด้วยความเสียวซ่านขณะรัวสะโพกเพราะช่องทางรักของหญิงสาวบีบรัดตอดแท่งร้อนของเขาจนปวดหนึบ
"ฉ..ฉันไม่ไหว" เมื่อเห็นร่างบางเริ่มตัวอ่อนด้วยความล้าชายหนุ่มจึงวางเธอกับฟูกนอนให้เธอได้พักครู่หนึ่งหลังจากนั้นจึงเริ่มพลิกร่างบางให้หันกลับหลังยกสะโพกมนของเธอให้สอดประสานกับแท่งร้อนขอเขาในขณะที่นั่งคุกเข่าและเริ่มบรรเลงเพลงสวาทระรัวอีกรอบ
"อื้อ..อ๊ายย" ร่างบางที่เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อตอนนี้ไม่มีแรงแม้แต่จะลืมตามือเรียวจิกหมอนแทบขาดเพราะรู้สึกกระสันในบทสวาทที่ชายหนุ่มมอบให้ไม่นานนักร่างบางก็บิดเร่าและร้องครางอย่างลืมอายเพราะชิงแตะขอบสวรรค์ไปก่อนชายหนุ่ม
"อืม.. อ.. อ้าสส.." พอเห็นเช่นนั้นคนตัวโตก็เร่งกระแทกสะโพกมนจนแตะขอบสวรรค์ตามหญิงสาวไปและฟุบลงกับร่างบางก่อนจะหลับตามกันไปด้วยความเพลีย
สามวันต่อมา
"สวัสดีค่ะฉันใบหม่อนยินดีที่ได้รู้จักนะคะ" มนัญชนกเข้ามารอคามินในห้องทำงานของเขาตั้งแต่ก่อนเวลานัดครึ่งชั่วโมงจนตอนนี้เธอก็ได้เจอกับเขาแล้วหญิงสาวรีบลุกยืนแนะนำตัวกับชายร่างสูงที่ใส่สูทสีเทาเดินสง่าเข้ามาในห้องรอยยิ้มที่เป็นมิตรของเขาทำให้เธอลดอาการประหม่าไปไม่น้อย
"เช่นกันครับ...เชิญนั่งเลยครับคุณอยากทำอาหารแบบไหนเหรอครับผมจะได้เลือกเชฟสอนได้ถูก" คามินเข้าห้องมาได้เขาก็เริ่มคุยกับหญิงสาวถึงประเด็นที่เธอมาที่นี่ทันทีเพราะเขานั้นมีประชุมต่อในอีกชั่วโมงข้างหน้า
"อาหารไทยแล้วก็พวกขนมหวานน่ะค่ะ"
ก๊อกๆๆ
ทั้งสองหยุดชะงักการพูดคุยเมื่อมีเสียงเคาะประตูจากข้างนอกดังขึ้น
"เข้ามาได้ครับ" คามินรีบให้คนข้างนอกเข้ามาเพราะรู้ว่าการที่มีคนมาเคาะประตูแบบนี้คงมีเรื่องด่วนไม่อย่างนั้นคงจะต่อสายเข้ามาในห้องของเขาก่อน
"ท่านประธานคะตอนนี้ที่โรงครัวเกิดไฟไหม้หนักเลยค่ะ"
"อะไรนะ"
ครู่ต่อมา
"....." ใบหม่อนลงมาดูสถานการณ์พร้อมคามินเธอเห็นว่าการจะเรียนทำอาหารของเธอคงต้องชะงักเสียแล้วเพราะตอนนี้ครัวของโรงแรมดันมาเกิดไฟไหม้หนัก
"นี่รถดับเพลิงยังมาไม่ถึงอีกหรือไง" คามินยืนดูสถานการณ์ด้วยสีหน้าตึงเครียดก่อนจะหันไปถามเชฟหนุ่มด้วยอาการร้อนใจเพราะไม่คิดว่ารถดับเพลิงจะมาช้าขนาดนี้
"เดี๋ยวผมขับรถออกไปดูให้ครับ"
"ผมไปด้วย...คุณหม่อนไปหลบในที่ปลอดภัยก่อนนะครับ"
"ค่ะ"
คามินและเชฟหนุ่มต้องขับรถออกไปดูรถดับเพลิงด้วยตนเองเพราะคงรอต่อไปแบบนี้ไม่ไหว
"เห็นหลานฉันบ้างไหมคะเด็กผู้ชายที่ใส่ชุดสีแดงค่ะประมาณสามสี่ขวบ"
"ไม่เห็นเลยนะคะ" หญิงชราที่สวมเครื่องเพชรแทบจะทั้งตัวรีบเร่งเดินถามหาหลานชายจากคนที่อยู่หน้าโรงแรมไปทั่วแต่ก็เหมือนจะไม่ได้คำตอบอะไร
"ผมเห็นครับเด็กที่ใส่ชุดเสื้อแขนยาวกางเกงขายาวสีแดงมาวิ่งเล่นแถวหน้าห้องครัวผมเลยให้เค้าไปนั่งรอที่ห้องแล้วผมก็ออกมาจะให้ประชาสัมพันธ์ประกาศหาผู้ปกครองแต่ก็เกิดเพลิงโหมขึ้นมาซะก่อน"
"อะไรนะ..." และแล้วเหมือนความหวังที่จะหลานเจอจะมีมากขึ้นเมื่อมีพนักงานเสริฟหนุ่มบอกกับเธอว่าเห็นเด็กลักษณะอย่างที่หญิงชราถามหาแต่แล้วก็ต้องเข่าทรุดเมื่อรู้ว่าเด็กคนนั้นน่าจะอยู่ในกองเพลิงด้านใน
"อย่าเข้าไปครับมันอันตราย"
"แต่หลานฉันอยู่ในนั้นทั้งคนนะ..ฮือๆๆ...ปล่อย.." หญิงชราพยายามจะวิ่งเข้าไปแต่ก็ถูกทุกคนห้ามเอาไว้ก่อนเพราะรู้ว่าหากปล่อยเธอเข้าไปเธอคงไม่รอดแน่
"เด็กอยู่ตรงไหนคะ" ภาพเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ในสายตาของมนัญชนกเธอเลยตัดสินใจที่จะเข้าไปช่วยเด็กคนนั้นด้วยตัวเองเพราะพอรู้วิธีเอาตัวรอดจากกองไฟนี้มาบ้าง
"ในห้องครัวมุมขวาครับ"
"เดี๋ยวฉันจะพาเค้าออกมาคุณรออยู่ตรงนี้นะคะ"
"คุณครับคุณ"
มนัญชนกรีบถอดเสื้อคลุมของเธอชุบน้ำและวิ่งเข้าไปด้านในห้องครัวอย่างรวดเร็วจนคนที่จะห้ามก็รั้งเธอเอาไว้ไม่ทัน
ถัดจากที่หญิงสาววิ่งเข้าไปได้ไม่นานตอนนี้รถดับเพลิงก็มาถึงที่โรงแรม
"ฮือๆๆ. ย่าค้าบบ.. ฮือๆๆ.. ""เจ้าหนู.. อืม.. ออกมากับพี่นะไปหาคุณย่าเรากัน"ปึก "โอ้ยย.." มนัญชนกตามเสียงร้องของเด็กชายไปจนเจอและรีบเอาเสื้อที่เธอชุบน้ำคลุมร่างเด็กชายตัวอ้วนกลมก่อนจะวิ่งฝ่ากองเพลิงออกมาอย่างไม่คิดชีวิตจนขาของเธอถูกอะไรบางอย่างหล่นมากระแทกจนเลือดออกแต่นั่นก็ไม่ทำให้เธอหยุดได้"เห็นผู้หญิงที่ลงมากับผมหรือเปล่า" ทางด้านคามินเมื่อจัดการพื้นที่ให้รถดับเพลิงเสร็จเขาก็เดินออกมาถามหามนัญชนกกับพวกพนักงานเพราะไม่เห็นเธอยืนอยู่ตั้งแต่กลับมาแล้ว"ผู้หญิงตัวเล็กๆที่ใส่ชุดเดรสสีขาวหรือเปล่าครับ""ใช่...""เธอฝ่ากองไฟเข้าไปช่วยเด็กข้างในครับ" พนัดงานหนุ่มชี้มือเข้าไปในกองเพลิงที่กำลังโหม"แล้วให้เธอเข้าไปได้ยังไง" คามินตัวชาวาบหากหญิงสาวเป็นอะไรไปเขาคงไม่มีหน้าไปสู้กับพงษ์พัฒน์ที่ฝากผฝังเธอให้มาเรียนรู้การทำอาหารจากโรงแรมของเขาแน่"เธอวิ่งเข้าไปเองครับพวกผมห้ามเอาไว้ไม่ทัน.. นั่นไงออกมาแล้ว" พนักงานหนุ่มโล่งอกเมื่อเห็นหญิงสาววิ่งออกมาพร้อมเด็กชายในอ้อมอก"น้องไพร์มหลานย่า.." หญิงชราที่นั่งร้องให้ฟูมหายเมื่อเห็นหญิงสาวอุ้มหลานเธอออกมาได้ก็รีบไปรับอย่างรวดเร็ว"ย่าค้าบบ.." เด็กชายเห
"โถ่โว้ยยยย..."ปึกๆๆแพงขวัญได้ยินเสียงแพทริคโวยวายอยู่ด้านในจึงรีบวิ่งเข้ามาดูเมื่อเห็นว่าเขากำลังสาวหมัดไปที่ผนังจนเลือดออกเธอจึงรีบรั้งตัวเขาเอาไว้ไม่ให้ทำร้ายตัวเองอีก"คุณแพทหยุด..คุณเป็นบ้าอะไรของคุณเนี่ย""ฮึก..ฮือๆๆ..ผมช่วยเค้าไม่ได้..ผมช่วยเค้าไม่ได้.." แพทริคตัวสั่นเทาฟุบกอดเข่าสะอื้นให้ด้วยความปวดใจที่เขาเห็นคนขาดใจตายต่อหน้า"ใจเย็นๆ...คุณทำดีที่สุดแล้ว" แพงขวัญดูท่าชายหนุ่มจะเป็นเอาหนักเธอจึงค่อยๆนั่งลงข้างๆเขาและกอดคนตัวโตที่ตัวสั่นเทาเอาไว้ก่อนจะเอ่ยปลอบเขาด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยสบายใจเท่าไรนัก ครู่ต่อมา"ฉันสั่งอาหารมาแล้วพรุ่งนี้เราค่อยออกข้างนอก.. นี่ของคุณฉันสั่งแซลมอนเกรดพรีเมี่ยมย่างซีอิ๊วมาให้คุณเลยนะทานสิ"หลังจากที่ชายหนุ่มสงบอารมณ์ได้แพงขวัญจึงพาเขาออกมานั่งข้างนอกเพราะเธอสั่งอาหารเอาไว้ตั้งแต่ตอนที่กลับมาถึงแล้ว"คุณทานไปเถอะผมไม่หิว...ถ้าคุณกลัวเหงาผมก็จะนั่งเป็นเพื่อน""อืมก็ได้...โห..ซูชิอร่อยจังเลย...ซุปสาหร่ายนี่ก็รสชาติกลมกล่อมหอมมากด้วยคุณดมดูสิ" สาวเจ้าที่อยากจะให้คนที่นั่งหน้าเศร้าทานอาหารพร้อมกับเธอเพราะเขาไม่ได้ทานอะไรมาตั้งแต่เมื่อกลางวันแล้วเพราะ
“ตอนแรกแม่ก็ไม่คิดว่าจะมีปัญหาแต่ตอนนี้เจ้าของเดิมเค้าเสียแล้วลูกหลานเค้าก็เลยอยากจะขอที่คืน” ศรีจันทร์เองก็ไม่คิดว่ามันจะมีปัญหาอะไรจึงไม่ได้กังวลเรื่องที่ทางเท่าไรนักแต่เมื่อเจ้าของที่เดิมเสียเธอก็ไม่คิดว่าลูกๆหลานๆของเจ้าของที่จะมาขอที่คืนกะทันหัน“เดี๋ยวผมจะจัดการเจรจาซื้อที่ที่นี่ให้นะครับแม่ศรีไม่ต้องกังวังวลยังไงเด็กๆก็จะมีที่อยู่แน่นอนครับ” แพทริครับปากศรีจันทร์ด้วยแววตาที่มั่นใจเพราะเขาจะไม่ยอมให้เด็กๆไม่มีที่อยู่เด็ดขาดเจ้าของใหม่อยากจะขายที่นี่แพงเท่าไรเขาก็จะควักเงินจ่ายหากไม่ยอมเขาก็จะซื้อที่ที่อื่นให้เด็กๆอยู่ให้มันรู้แล้วรู้รอดเพราะเขาทนเห็นเด็กเหล่านี้ไม่มีที่อยู่ไม่ได้ครู่ต่อมา“เค้ามาที่นี่บ่อยเหรอคะแม่ศรี” แพงขวัญนั่งคุยกันสองคนกับศรีจันทร์ขณะที่แพทริคกำลังสอนเด็กๆเรื่องโปรแกรมในคอมพิวเตอร์“ไม่หรอกจ่ะ..ส่วนมากแพทริคจะส่งเงินมาเท่านั้นเพราะงานเค้าค่อนข้างยุ่ง” ศรีจันทร์ส่ายหัวก่อนจะตอบด้วยรอยยิ้มอ่อนตั้งแต่ที่แพทริคไปอยู่อังกฤษเขาก็ไม่ค่อยได้มาที่นี่เท่าไร“แม่ศรีดูแลเด็กตั้งเยอะเลยไม่เหนื่อยบ้างเหรอคะ” แพงขวัญเห็นเด็กๆที่นี่ค่อนข้างเยอะแถมยังมีทุกวัยเธอเห็นแล้ว
เช้าวันต่อมา“เมื่อคืนคุณน่ารักมากเลย” ชายหนุ่มพรมจูบไหล่มนของหญิงสาวที่เปลือยเปล่าอยู่ใต้ผ้าห่มผืนหนาอยู่กับเขา“เมื่อไรคุณจะพาฉันกลับบ้าน” แพงขวัญหน้าแดงเล็กน้อยที่เมื่อคืนเธอเผลอตัวเผลอใจไปกับรสรักของเขาก่อนจะเอ่ยถามว่าเมื่อไรเขาจะปล่อยเธอไป“ผมอยากให้คุณอยู่กับผมก่อนนี่” “คุณให้คำตอบฉันเถอะนะคะว่าจะบังคับฉันแบบนี้ไปเพื่ออะไร” แพงขวัญตั้งคำถามชายหนุ่มรอบที่เกือยร้อยได้ว่าเขาทำแบบนี้กับเธอไปเพื่ออะไรกันแน่“ผมอยากให้คุณเป็นผู้หญิงของผม” เสียงทุ้มเอ่ยพร้อมพลิกร่างบางให้มามองหน้าของเขา“คุณรู้สึกยังไงกับฉันกันแน่” แพงขวัญขมวดคิ้วเล็กน้อยคำพูดของเขาทำเอาใจของเธอสั่นระรัวเพราะเธอเองก็เริ่มมีใจให้กับคนที่เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายคนนี้ไปเสียแล้ว“คำพูดที่ผมพูดคุณก็น่าจะเดาออกนะ...แล้วคุณล่ะตอนนี้รู้สึกยังไงกับผมพอจะมองผมดีขึ้นจากแต่ก่อนหรือเปล่า” แพทริครู้อยู่แก่ใจแล้วว่าหญิงสาวคิดกับเขาอย่างไรไม่อย่างนั้นตื่นมาคงพยศเขาไปแล้วไม่อ่อนลงแบบนี้แต่ก็อยากจะฟังคำตอบจากปากของเธอ“....” สาวเจ้าหลบสายตาก้มหน้างุดซุกลงกับอกแกร่งคิดว่ากิริยาของเธอก็พอจะทำให้เขาเข้าใจได้“..ผมดูจากความน่ารักของคุณเมื่
ห้างสรรพสินค้า"จะซื้อเสื้อผ้าเหรอคะ" แพงขวัญเดินเข้ามาในร้านเสื้อผ้าแบรนด์ดังพร้อมแพทริคที่กำลังเดินจูงมือเธออยู่"ครับ...คุณว่าแบบไหนเหมาะกับผม" แพทริคชี้ไปที่เสื้อเชิ้ตหลากสีสันที่อยู่ในราว"อืม...ก็แบบนี้สิ..รุ่นนี้ใหม่ล่าสุดของแบรนด์นี้เลยนะ" แม้นว่าโซนนี้จะเป็นของผู้ชายแต่คนที่ชอบแฟชั่นอย่างแพงขวัญก็รู้ว่าเสื้อผ้าเหล่านี้เป็นแบบใหม่หรือแบบเก่า"นับว่าผมพาคนช่วยเลือกมาถูกคน...งั้นคุณเลือกให้ผมสักสองสามชุดนะครับเดี๋ยวผมมา" "คุณจะไปไหนคะ""ทำธุระนิดหน่อยครับ""โอเคค่ะ" สาวเจ้ามองตามหลังคนที่พึ่งเดินออกไปแต่ก็ไม่ได้สนใจมากนักว่าเขาจะไปไหนเพราะมีความสุขกับการเลือกเสื้อผ้ามากกว่าครู่ต่อมาร้านอาหารหังจากที่แพงขวัญเลือกเสื้อผ้าให้ชายหนุ่มเรียบร้อยแล้วทั้งคู่ก็มานั่งทานอาหารในร้านอาหารสุดหรูของห้างที่นี่"นี่ที่หายไปมาจองที่นี่เหรอคะ" แพงขวัญนั่งลงที่โต๊ะอาหารในโซนไพรเวทและเป็นมุมที่สวยที่สุดในร้านตอนนี้ที่นี่มีเพียงแค่เธอกับแพทริคแค่สองคนกับอาหารที่เต็มโต๊ะเธอจึงคิดว่าเมื่อครู่ที่แพทริคหายไปคงเป็นเพราะมาจัดการเรื่องที่ร้านเป็นแน่"เปล่าครับที่นี่ผมจองไว้สองวันแล้ว...ที่หายไปเพราะ
"......" คามินแทบยืนไม่อยู่เนื้อตัวชาวาบไปหมดเมื่อจู่ๆคนที่เขาคิดจะสร้างครอบครัวด้วยกลับเลือกคนที่มาทีหลังได้ไม่นานตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมเขาถึงติดต่อเธอลำบากยากเย็นเหลือเกิน"แพงขอโทษนะคะที่แพงเป็นคนรักที่ไม่ได้เรื่อง" แพงขวัญสะอึกสะอื้นเธอยอมรับผิดทุกอย่างเพราะเธอเผลอให้ใจกับแพทริคไปอย่างง่ายดาย"พี่เข้าใจแล้ว.." คามินเอ่ยเสียงสั่นก่อนจะกดวางสายของแพงขวัญตอนนี้ความรู้สึกมันเจ็บจุกอยู่ในอกเหมือนอยากจะร้องให้แต่มันก็ร้องไม่ออก"แพงขอโทษค่ะพี่มิน..ฮือๆๆ..." หลังจากวางสายได้แพงขวัญก็สะอึกสะอื้นเพราะความรู้สึกผิด"......" แพทริคยืนมองหญิงสาวอยู่ห่างๆด้วยสายตาที่คาดเดาอารมณ์ไม่ถูกในใจลึกๆไม่ชอบที่จะเห็นหญิงสาวร้องให้แต่อีกใจก็ดีใจที่แผนการดำเนินไปได้ด้วยดีหลังจากนี้คนที่น้ำตาตกจะไม่ใช่แค่แพงขวัญเพียงคนเดียวจะเป็นพงษ์พัฒน์ที่ต้อเจ็บกว่าแพงขวัญหลายเท่าเมื่อเห็นแพงขวัญตกอยู่ในความทุกข์เย็นของวัน มนัญชนกเตรียมตัวรอคามินตั้งแต่ห้าโมงเย็นแต่นี่ก็หกโมงกว่าจนเกือบจะมืดแล้วแต่เขาก็ไม่ยักจะมาเสียทีทั้งโทรหาเท่าไรเขาก็ไม่ยอมรับ"วันนี้ไม่มาสอนหม่อนเหรอคะคุณมิน" หญิงสาวตัดสินใจส่งข้อคว
"อืม..." คามินงัวเงียตื่นขึ้นมาในช่วงสายเขาพยุงร่างเปลือยเปล่าลุกนั่งก่อนจะกุมขมับเพราะรู้สึกปวดหัวหนักพอสมควรสายตาของเขาเพ่งมองรอบๆห้องที่เละเทะทั้งฟูกนอนก็ยังมีรอยหยดเลือดภาพตรงหน้าเหล่านี้ทำให้เขาพยายามนึกถึงเรื่องเมื่อวานและไม่นานนักเขาก็จำทุกอย่างได้“คุณหม่อน...” เมื่อภาพความจำเมื่อวานกลับมาได้เขาก็รีบหยิบผ้าขนหนูพันท่อนล่างก่อนจะเข้าไปหาหญิงสาวในห้องทันที(หวังว่าเราจะไม่ได้เจอกันอีกนะคะ) “โถ่เอ้ย...ทำบ้าอะไรลงไปเนี่ย” คามินหยิบจดหมายของใบหม่อนขึ้นมาอ่านจบก็นั่งฟุบลงกับพื้นกุมขมับโมโหที่ตัวเองเผลอทำร้ายหญิงสาวลงกับมือสามวันต่อมา"เป็นอะไรครับนอนซมทั้งวันเลย” แพทริคเข้ามาซุกผ้าห่มนอนบนเตียงนุ่มกับหญิงสาวหลังเห็นเธอนอนซมมาตั้งแต่หลังทานอาหารเช้าแล้ว“เพลียๆค่ะ..” “ผมทำให้หายเพลียเอาไหม” ชายหนุ่มพรมจูบแก้มนวลของหญิงสาวเพราะตอนนี้อะไรๆของเขามันตื่นขึ้นแล้วเพียงแค่สัมผัสเนื้อตัวของเธอได้ไม่นานไม่รู้ว่าทำไมเขาควบคุมตัวเองไม่ได้ทุกครั้งเมื่อต้องใกล้ชิดสาวเจ้าบนเตียงสองต่อสองแบบนี้“ทำยังไงคะ” ดวงตาปรือมองคนที่กำลังพรมจูบด้วยความสงสัย“..ฉันจะเพลียกว่าเดิมมากกว่ามั้งคะ...อื
วันต่อมา ตั้งแต่โทมัสรู้เรื่องของแพทริคจากมนัญชนกตั้งแต่เมื่อวานเขาก็เคลียทุกอย่างแล้วรีบบินมาที่เมืองไทยเพื่อมาคุยกับแพทริคทันที"เราต้องการทำอะไรกันแน่แพทริค" โทมัสโทรนัดแพทริคให้มาคุยที่โรงแรมที่เขาพักหลังจากที่ลงเครื่องเรียบร้อยแล้วเขารู้ดีว่าพงษ์พัฒน์เป็นคนที่ขับรถชนภรรยาของเขาเสียชีวิตและเขาก็รู้ว่าที่แพทริคเลือกที่จะยุ่งกับลูกสาวของพงษ์พัฒน์เพราะอะไร"เปล่านี่ครับพ่อผมก็แค่จะแต่งงาน" แพทริคยังคงปากแข็งไม่ยอมรับความจริงกับคนเป็นพ่อ"พ่อรู้แต่เมียเราเป็นลูกของคนที่ขับรถชนแม่เรา...ไม่ได้คิดจะใช้เธอเป็นเหยื่อใช่ไหม" โทมัสรู้ดีว่าแพทริคเกลียดพงษ์พัฒน์มากแค่ไหนและตอนนี้แพงขวัญก็เกิดตั้งท้องขึ้นมาแล้วหากลูกชายของเขาจะให้เธอเป็นเหยื่อเพื่อแก้แค้นคงไม่ดีแน่"ผมทำอะไรผมรู้ดีครับพ่อ" ว่าจบแพทริคก็เดินหนีคนเป็นพ่อไปคนอย่างเขาคิดอะไรแล้วต้องทำให้ได้เพราะชีวิตของแม่เขาคนผิดต้องเป็นคนชดใช้ความผิดให้สาสม“เฮ้อ...” โทมัสรู้ว่าลูกชายของเขาเป็นคนหัวแข็งและหากจะห้ามไม่ให้แพทริคยุ่งกับแพงขวัญคงไม่ได้เพราะตอนนี้หลานของเขากำลังจะเกิดมาแล้วยิ่งคิดเขาก็ยิ่งปวดหัวอาทิตย์ต่อมา วันนี้เป็นวันแต่