หลังจากที่แพทริคและพงษ์พัฒน์ชวนกันคุยเรื่องธุรกิจสองสาวเลยชวนกันออกมานั่งเล่นด้านนอกและคุยกันตามประสาสาวๆ
"คุณแพงนี่สวยน่ารักเหมือนที่พี่ชายฉันพูดให้ฟังเลยนะคะ" มนัญชนกอดชมหญิงสาวตรงหน้าไม่ได้ว่าเธอดูสวยสง่าแบบที่พี่ชายเธอเล่าให้ฟังจริงๆ
"ขอบคุณค่ะ" แพงขวัญยิ้มอ่อนนับว่ายังดีที่แพทริคไม่พูดเรื่องที่ไม่สมควรพูดกับน้องสาวของเขา
"ตอนที่พี่ชายฉันทำงานเค้าอาจจะมีการดุคุณแพงบ้างอย่าถือสาเค้าเลยนะคะ" มนัญชนกรู้ดีว่าคนที่ทำงานกับพี่ชายของเธอต้องเจอกับอะไรเพราะพี่ชายเธอค่อนข้างเป็นคนที่จริงจังกับการทำงานมาก
"นี่ถึงกับต้องบอกกันไว้ก่อนเลยใช่ไหมคะ"
"คนอื่นที่ทำงานกับพี่ชายฉันส่วนมากพี่แพทจะถูกมองว่าบ้าอำนาจแต่เค้าเป็นคนที่จริงจังกับการทำงานเท่านั้นเองค่ะเพียงแค่อยากให้ทุกอย่างออกมาดี"
"แล้วคุณหม่อนล่ะคะโดนดุบ้างหรือเปล่า"
"ประจำเลยค่ะ" สาวเจ้าแอบกระซิบเบาๆ
"โห.. อย่างนี้แพงต้องเตรียมใจไว้เลยใช่ไหมคะ"
"ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะคุณแพงเป็นคนเก่งนี่คะเรียนยังได้เกียรตินิยมเลยต่างจากฉันที่กว่าจะเรียนจบได้หนักหนาเอาการอยู่ค่ะ"
"แล้วคุณหม่อนชอบทำอาหารทำไมเรียนบริหารล่ะคะ"
"ต้องช่วยพี่แพทกับคุณพ่อน่ะค่ะ...แต่พี่แพทบอกว่าจะให้หม่อนเรียนรู้การบริหารจากการทำงานสักอีกปีสองปีก็จะเปิดกิจการที่หม่อนอยากจะทำให้"
"เดาไม่ปผิดคงเป็นกิจการอาหารใช่ไหมคะ"
"ใช่ค่ะ...ฉันฝันว่าอยากจะเปิดร้านอาหารหรือไม่ก็ร้านขนมหวานเล็กๆค่ะ"
"ฉันจะรอชิมอาหารร้านคุณหม่อนนะคะ" แพงขวัญคุยกับมนัญชนกได้ไม่นานก็รู้ได้ทันทีว่าหญิงสาวมีความขี้เกรงใจและเรียบร้อยขนาดไหนต่างจากคนเป็นพี่ชายที่ดุเป็นหมาบ้าจ้องจะกัดเธออยู่ตลอดเวลา
"ยินดีเลยค่ะ...ว่าแต่แฟนคุณแพงสะดวกที่จะให้หม่อนไปเรียนกับเชฟของเค้าใช่ไหมคะ" มนัญชนกต้องเอ่ยถามแพงขวัญไว้ก่อนเพราะเธอกลัวว่าหากการอยากเรียนทำอาหารของเธอทำให้คนอื่นต้องยุ่งยากเธอก็ไม่อยากรบกวน
"น่าจะสะดวกนะคะคุณหม่อนไม่ต้องเกรงใจอยากเรียนอะไรก็บอกพี่มินได้เลยค่ะหรือจะให้พี่มินสอนก็ได้นะคะรายนั้นก็ชอบทำอาหารเป็นชีวิตจิตใจเหมือนกัน"
"ค่ะ.. ขอบคุณนะคะ" มนัญชนกพยักหน้าด้วยรอยยิ้มรู้แบบนี้เธอก็ค่อยโล่งใจหน่อย
20.30 น.
ตกดึกแพงขวัญมานั่งเล่นที่ริมสระน้ำเธอกำลังคิดถึงวันข้างหน้าอีกไม่กี่วันที่เธอจะต้องไปทำงานกับแพทริคแล้วก็ไม่รู้ได้เลยว่าเธอจะต้องเจอกับอะไรบ้างแต่เธอก็เตรียมแผนป้องกันตัวเอาไว้แล้วหากเขายังคิดจะทำล่วงเกินเธออีกเขาก็ต้องมีเจ็บตัวบ้างเหมือนกัน
ทางด้านแพทริคตอนนี้ก็นั่งดื่มให้กับแผนการที่ดูจะราบรื่นเข้าทางของเขาไปเสียทุกอย่างการที่เขาพาหญิงสาวไปญี่ปุ่นครั้งนี้ยังไงเขาก็จะทำให้เธอเลิกกับคามินและยอมตกลงแต่งงานกับเขาให้ได้เพราะหลังจากที่หญิงสาวแต่งงานกับเขาแล้วนั้นเธอก็จะเป็นเหยื่อชิ้นดีที่จะทำให้เขาได้แก้แค้นพงษ์พัฒน์
อาทิตย์ต่อมา
กว่าแพทริคกับแพงขวัญจะเดินทางมาถึงที่พักก็เล่นเอาเพลียกับการเดินทางเหมือนกันแล้วแพงขวัญก็ดูจะอารมณ์เสียมากๆด้วยที่รู้ว่าจะต้องมาพักบ้านพักเดียวกับแพทริคสองต่อสองผิดจากคราแรกที่ชายหนุ่มคุยกับพ่อเธอเอาไว้ว่าคนที่มาทำงานจะแยกพักชายหญิงคนละหลัง
บ้านพักของทั้งสองเป็นบ้านแบบญี่ปุ่นแบบโบราณหลังไม่ใหญ่มากนักแต่ภายในมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันตั้งอยู่ในเมืองอุเอดะที่ค่อนข้างสงบผู้คนไม่พลุกพล่านเท่าไร
"ฉันถามจริงๆมาที่นี่คุณมาทำงานจริงหรือเปล่า" เมื่อเข้ามานั่งพักในบ้านได้แพงขวัญก็เอ่ยถามแพทริคตามตรงเพราะคาใจตั้งแต่เขาไม่มีคนติดตามมาบ้างเลยทั้งที่บอกว่าจะมาทำงาน
"แค่อยากจะเปลี่ยนบรรยากาศกับคุณก็เท่านั้น" ดวงตาคมมองหญิงสาวอย่างเจ้าเล่ห์ก่อนจะยกยิ้มมุมปาก
"หึ่..." ร่างบางรีบลากกระเป๋าหมายจะออกไปจากบ้านทันทีในเมื่อเขาไม่ได้มาทำงานตามที่บอกกับพ่อเธอเอาไว้เธอก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ต่อ
"อย่าลืมว่าบริษัทพ่อคุณจะเป็นยังไงถ้าผมไม่พอใจ" มือหนารวบร่างบางเอาไว้ในอ้อมอกก่อนจะย้ำถึงอำนาจในมือของเขาว่าสามารถทำอะไรได้บ้างหากว่าเขาไม่พอใจ
เพี๊ยะ... แพงขวัญอดกลั้นความโมโหไม่ได้จึงยกมือเรียวฟาดไปที่แก้มสากของชายหนุ่มจนหน้าของเขาเห่อขึ้นรอยแดงขึ้นมาทันที
"ปล่อย...จะทำอะไร" แพทริคกัดฟันกรอดก่อนจะกระชากร่างบางเข้ามาในห้องโทษฐานที่เธอกล้าทำเขาเจ็บ
"ผมอุตส่าห์พาคุณมาถึงที่นี่คงไม่ได้มานั่งมองตาเฉยๆหรอกนะ..คุณก็คงจะติดใจรสสัมผัสของผมไม่น้อยไม่อย่างนั้นคงไม่มากับผมที่นี่ง่ายๆ" เขากอดร่างบางเอาไว้แน่นไม่ให้เธอดิ้นหนี
"ฉันไม่อยากให้พ่อฉันรู้สึกเสียหน้าต่างหากอย่าสำคัญตัวเองผิดไปหน่อยเลย..รสสัมผัสของคุณมันน่าขยักแขยงที่สุดรู้..อ..อื้มม.." ว่าไม่ทันจบร่างบางก็ถูกกดลงกับฟูกนอนนุ่ม
"โอ้ยยย.. " มือเรียวควักรีบคว้าเครื่องช็อตไฟฟ้าที่พึ่งเอาออกจากกระเป๋าใหญ่มาใส่กระเป๋าเสื้อเมื่อลงเครื่องตอนนี้เธอไม่มีเวลาจะเปิดเครื่องจึงได้แต่ใช้ความแข็งแรงของมันฟาดไปที่หัวของชายหนุ่มก่อนที่จะรีบลุกหนีออกไป
"สมน้ำหน้า"
"จะฆ่าผมหรือไง" แพทริควิ่งกุมหัวตามหญิงสาวออกมาด้านนอกเขาก้าวไม่กี่ก้าวก็ประชิดตัวเธอแล้วอุ้มพาดบ่ากลับไปได้ดีที่ที่นี่คนไม่พลุกพล่านและบ้านพักที่เขาเลือกก็อยู่ในโซนที่เป็นส่วนตัวที่สุด
"ปล่อยยนะ.." แพงขวัญดีเดิ้นเป็นกุ้งเต้นหมายจะให้เขาปล่อยเธอลงแต่มีหรือคนที่กำลังโมโหด้วยความเจ็บเมื่อครู่จะปล่อยเธอง่ายๆ
คราแรกว่าจะแกล้งเธอเล่นนิดหน่อยแล้วปล่อยให้พักผ่อนแต่เมื่อสาวเจ้าพยศกับเขาเสียขนาดนี้คงต้องสั่งสอนให้รู้สำนึกเสียบ้าง
พลั้กก
"ว้าย.. " ร่างบางถูกเหวี่ยงมาบนฟูกนอนอย่างไม่ทันตั้งตัวก่อนจะถูกทาบทับด้วยร่างใหญ่
"พยศนักใช่ไหม" มือหนาพยายามถอดเสื้อผ้าหญิงสาวอย่างเร่งมือ
"หยุด" มือเรียวปัดป้องเสื้อผ้าของตัวเองสุดฤทธิ์
แคว้กกก
"อ๊ายย.." เมื่อถอดดีๆไม่ได้ดั่งใจชายหนุ่มจึงรั้งกระชากเสื้อเชิ้ตของหญิงสาวจนขาดวิ่นและตามด้วยเสื้อผ้าชิ้นอื่นๆก็หลุดไปจากตัวหญิงสาวอย่างรวดเร็วด้วยแรงโมโหของชายหนุ่ม
"ฉันเจ็บ..ไอ้บ้า" หญิงสาวเจ็บไปทั้งตัวด้วยการกระทำของคนเอาแต่ใจเนื้อตัวของเธอแดงไปด้วยแรงกระชากของเขาจึงสบถต่อว่าอย่างเหลืออด"ด่าผมอีกสิแล้วพรุ่งนี้คุณจะได้เดินไม่ได้""อื้มมม..." ว่าจบก็บดจูบร่างบางเปลือยเปล่าส่งลิ้นร้ายตวัดฉกชิมความหวานจากโพรงปากหญิงสาวพักใหญ่และรีบถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกอย่างเร่งรีบก่อนจะเริ่มสอดใส่แท่งร้อนที่พร้อมกับศึกรักเต็มที่แล้วไปที่ร่องสวาทของหญิงสาวอย่างรุนแรง"ฉัน.. เจ็บ.. อื้อ.. อ๊ายย.. " สาวเจ้ารู้สึดระบมไปทั้งตัวเมื่อคนตัวโตถาโถมแรงกระแทกเธอจนตัวโยนทั้งยังขบกัดเต้างามเธอเล่นจนเป็นรอยแดงไปทั่ว"อ..อ่าสส..อืมม..." ชายหนุ่มที่กำลังมัวเมากับอารมณ์ที่พลุ่งพล่านไม่ได้สนใจเสียงร้องค้านของคนตัวเล็กใต้ร่างแม้สักนิดยังคงใช้ร่างกายของเธอเป็นที่ระบายอารมณ์อย่างไร้ซึ่งความนุ่มนวลพักใหญ่จนเสร็จสมแตะขอบสวรรค์"ปากก็ว่าขยักแขยงแต่เสียงหวานของคุณครางไม่หยุดเลยนะครับ" เมื่อบทสวาทสงบชายหนุ่มก็ล้มตัวนอนกอดก่ายร่างบางที่นอนน้ำตาไหลอยู่เงียบๆทั้งเอ่ยเย้าหยอกหญิงสาวด้วยน้ำเสียงระรื่น"หยุดพูดไปเลย...ฉันอยากรู้ว่าคุณจะปล่อยฉันกลับบ้านเมื่อไร" ใบหน้านวลหันมามองค้อนชายหนุ่มทีาเ
"ฮือๆๆ. ย่าค้าบบ.. ฮือๆๆ.. ""เจ้าหนู.. อืม.. ออกมากับพี่นะไปหาคุณย่าเรากัน"ปึก "โอ้ยย.." มนัญชนกตามเสียงร้องของเด็กชายไปจนเจอและรีบเอาเสื้อที่เธอชุบน้ำคลุมร่างเด็กชายตัวอ้วนกลมก่อนจะวิ่งฝ่ากองเพลิงออกมาอย่างไม่คิดชีวิตจนขาของเธอถูกอะไรบางอย่างหล่นมากระแทกจนเลือดออกแต่นั่นก็ไม่ทำให้เธอหยุดได้"เห็นผู้หญิงที่ลงมากับผมหรือเปล่า" ทางด้านคามินเมื่อจัดการพื้นที่ให้รถดับเพลิงเสร็จเขาก็เดินออกมาถามหามนัญชนกกับพวกพนักงานเพราะไม่เห็นเธอยืนอยู่ตั้งแต่กลับมาแล้ว"ผู้หญิงตัวเล็กๆที่ใส่ชุดเดรสสีขาวหรือเปล่าครับ""ใช่...""เธอฝ่ากองไฟเข้าไปช่วยเด็กข้างในครับ" พนัดงานหนุ่มชี้มือเข้าไปในกองเพลิงที่กำลังโหม"แล้วให้เธอเข้าไปได้ยังไง" คามินตัวชาวาบหากหญิงสาวเป็นอะไรไปเขาคงไม่มีหน้าไปสู้กับพงษ์พัฒน์ที่ฝากผฝังเธอให้มาเรียนรู้การทำอาหารจากโรงแรมของเขาแน่"เธอวิ่งเข้าไปเองครับพวกผมห้ามเอาไว้ไม่ทัน.. นั่นไงออกมาแล้ว" พนักงานหนุ่มโล่งอกเมื่อเห็นหญิงสาววิ่งออกมาพร้อมเด็กชายในอ้อมอก"น้องไพร์มหลานย่า.." หญิงชราที่นั่งร้องให้ฟูมหายเมื่อเห็นหญิงสาวอุ้มหลานเธอออกมาได้ก็รีบไปรับอย่างรวดเร็ว"ย่าค้าบบ.." เด็กชายเห
"โถ่โว้ยยยย..."ปึกๆๆแพงขวัญได้ยินเสียงแพทริคโวยวายอยู่ด้านในจึงรีบวิ่งเข้ามาดูเมื่อเห็นว่าเขากำลังสาวหมัดไปที่ผนังจนเลือดออกเธอจึงรีบรั้งตัวเขาเอาไว้ไม่ให้ทำร้ายตัวเองอีก"คุณแพทหยุด..คุณเป็นบ้าอะไรของคุณเนี่ย""ฮึก..ฮือๆๆ..ผมช่วยเค้าไม่ได้..ผมช่วยเค้าไม่ได้.." แพทริคตัวสั่นเทาฟุบกอดเข่าสะอื้นให้ด้วยความปวดใจที่เขาเห็นคนขาดใจตายต่อหน้า"ใจเย็นๆ...คุณทำดีที่สุดแล้ว" แพงขวัญดูท่าชายหนุ่มจะเป็นเอาหนักเธอจึงค่อยๆนั่งลงข้างๆเขาและกอดคนตัวโตที่ตัวสั่นเทาเอาไว้ก่อนจะเอ่ยปลอบเขาด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยสบายใจเท่าไรนัก ครู่ต่อมา"ฉันสั่งอาหารมาแล้วพรุ่งนี้เราค่อยออกข้างนอก.. นี่ของคุณฉันสั่งแซลมอนเกรดพรีเมี่ยมย่างซีอิ๊วมาให้คุณเลยนะทานสิ"หลังจากที่ชายหนุ่มสงบอารมณ์ได้แพงขวัญจึงพาเขาออกมานั่งข้างนอกเพราะเธอสั่งอาหารเอาไว้ตั้งแต่ตอนที่กลับมาถึงแล้ว"คุณทานไปเถอะผมไม่หิว...ถ้าคุณกลัวเหงาผมก็จะนั่งเป็นเพื่อน""อืมก็ได้...โห..ซูชิอร่อยจังเลย...ซุปสาหร่ายนี่ก็รสชาติกลมกล่อมหอมมากด้วยคุณดมดูสิ" สาวเจ้าที่อยากจะให้คนที่นั่งหน้าเศร้าทานอาหารพร้อมกับเธอเพราะเขาไม่ได้ทานอะไรมาตั้งแต่เมื่อกลางวันแล้วเพราะ
“ตอนแรกแม่ก็ไม่คิดว่าจะมีปัญหาแต่ตอนนี้เจ้าของเดิมเค้าเสียแล้วลูกหลานเค้าก็เลยอยากจะขอที่คืน” ศรีจันทร์เองก็ไม่คิดว่ามันจะมีปัญหาอะไรจึงไม่ได้กังวลเรื่องที่ทางเท่าไรนักแต่เมื่อเจ้าของที่เดิมเสียเธอก็ไม่คิดว่าลูกๆหลานๆของเจ้าของที่จะมาขอที่คืนกะทันหัน“เดี๋ยวผมจะจัดการเจรจาซื้อที่ที่นี่ให้นะครับแม่ศรีไม่ต้องกังวังวลยังไงเด็กๆก็จะมีที่อยู่แน่นอนครับ” แพทริครับปากศรีจันทร์ด้วยแววตาที่มั่นใจเพราะเขาจะไม่ยอมให้เด็กๆไม่มีที่อยู่เด็ดขาดเจ้าของใหม่อยากจะขายที่นี่แพงเท่าไรเขาก็จะควักเงินจ่ายหากไม่ยอมเขาก็จะซื้อที่ที่อื่นให้เด็กๆอยู่ให้มันรู้แล้วรู้รอดเพราะเขาทนเห็นเด็กเหล่านี้ไม่มีที่อยู่ไม่ได้ครู่ต่อมา“เค้ามาที่นี่บ่อยเหรอคะแม่ศรี” แพงขวัญนั่งคุยกันสองคนกับศรีจันทร์ขณะที่แพทริคกำลังสอนเด็กๆเรื่องโปรแกรมในคอมพิวเตอร์“ไม่หรอกจ่ะ..ส่วนมากแพทริคจะส่งเงินมาเท่านั้นเพราะงานเค้าค่อนข้างยุ่ง” ศรีจันทร์ส่ายหัวก่อนจะตอบด้วยรอยยิ้มอ่อนตั้งแต่ที่แพทริคไปอยู่อังกฤษเขาก็ไม่ค่อยได้มาที่นี่เท่าไร“แม่ศรีดูแลเด็กตั้งเยอะเลยไม่เหนื่อยบ้างเหรอคะ” แพงขวัญเห็นเด็กๆที่นี่ค่อนข้างเยอะแถมยังมีทุกวัยเธอเห็นแล้ว
เช้าวันต่อมา“เมื่อคืนคุณน่ารักมากเลย” ชายหนุ่มพรมจูบไหล่มนของหญิงสาวที่เปลือยเปล่าอยู่ใต้ผ้าห่มผืนหนาอยู่กับเขา“เมื่อไรคุณจะพาฉันกลับบ้าน” แพงขวัญหน้าแดงเล็กน้อยที่เมื่อคืนเธอเผลอตัวเผลอใจไปกับรสรักของเขาก่อนจะเอ่ยถามว่าเมื่อไรเขาจะปล่อยเธอไป“ผมอยากให้คุณอยู่กับผมก่อนนี่” “คุณให้คำตอบฉันเถอะนะคะว่าจะบังคับฉันแบบนี้ไปเพื่ออะไร” แพงขวัญตั้งคำถามชายหนุ่มรอบที่เกือยร้อยได้ว่าเขาทำแบบนี้กับเธอไปเพื่ออะไรกันแน่“ผมอยากให้คุณเป็นผู้หญิงของผม” เสียงทุ้มเอ่ยพร้อมพลิกร่างบางให้มามองหน้าของเขา“คุณรู้สึกยังไงกับฉันกันแน่” แพงขวัญขมวดคิ้วเล็กน้อยคำพูดของเขาทำเอาใจของเธอสั่นระรัวเพราะเธอเองก็เริ่มมีใจให้กับคนที่เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายคนนี้ไปเสียแล้ว“คำพูดที่ผมพูดคุณก็น่าจะเดาออกนะ...แล้วคุณล่ะตอนนี้รู้สึกยังไงกับผมพอจะมองผมดีขึ้นจากแต่ก่อนหรือเปล่า” แพทริครู้อยู่แก่ใจแล้วว่าหญิงสาวคิดกับเขาอย่างไรไม่อย่างนั้นตื่นมาคงพยศเขาไปแล้วไม่อ่อนลงแบบนี้แต่ก็อยากจะฟังคำตอบจากปากของเธอ“....” สาวเจ้าหลบสายตาก้มหน้างุดซุกลงกับอกแกร่งคิดว่ากิริยาของเธอก็พอจะทำให้เขาเข้าใจได้“..ผมดูจากความน่ารักของคุณเมื่
ห้างสรรพสินค้า"จะซื้อเสื้อผ้าเหรอคะ" แพงขวัญเดินเข้ามาในร้านเสื้อผ้าแบรนด์ดังพร้อมแพทริคที่กำลังเดินจูงมือเธออยู่"ครับ...คุณว่าแบบไหนเหมาะกับผม" แพทริคชี้ไปที่เสื้อเชิ้ตหลากสีสันที่อยู่ในราว"อืม...ก็แบบนี้สิ..รุ่นนี้ใหม่ล่าสุดของแบรนด์นี้เลยนะ" แม้นว่าโซนนี้จะเป็นของผู้ชายแต่คนที่ชอบแฟชั่นอย่างแพงขวัญก็รู้ว่าเสื้อผ้าเหล่านี้เป็นแบบใหม่หรือแบบเก่า"นับว่าผมพาคนช่วยเลือกมาถูกคน...งั้นคุณเลือกให้ผมสักสองสามชุดนะครับเดี๋ยวผมมา" "คุณจะไปไหนคะ""ทำธุระนิดหน่อยครับ""โอเคค่ะ" สาวเจ้ามองตามหลังคนที่พึ่งเดินออกไปแต่ก็ไม่ได้สนใจมากนักว่าเขาจะไปไหนเพราะมีความสุขกับการเลือกเสื้อผ้ามากกว่าครู่ต่อมาร้านอาหารหังจากที่แพงขวัญเลือกเสื้อผ้าให้ชายหนุ่มเรียบร้อยแล้วทั้งคู่ก็มานั่งทานอาหารในร้านอาหารสุดหรูของห้างที่นี่"นี่ที่หายไปมาจองที่นี่เหรอคะ" แพงขวัญนั่งลงที่โต๊ะอาหารในโซนไพรเวทและเป็นมุมที่สวยที่สุดในร้านตอนนี้ที่นี่มีเพียงแค่เธอกับแพทริคแค่สองคนกับอาหารที่เต็มโต๊ะเธอจึงคิดว่าเมื่อครู่ที่แพทริคหายไปคงเป็นเพราะมาจัดการเรื่องที่ร้านเป็นแน่"เปล่าครับที่นี่ผมจองไว้สองวันแล้ว...ที่หายไปเพราะ
"......" คามินแทบยืนไม่อยู่เนื้อตัวชาวาบไปหมดเมื่อจู่ๆคนที่เขาคิดจะสร้างครอบครัวด้วยกลับเลือกคนที่มาทีหลังได้ไม่นานตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมเขาถึงติดต่อเธอลำบากยากเย็นเหลือเกิน"แพงขอโทษนะคะที่แพงเป็นคนรักที่ไม่ได้เรื่อง" แพงขวัญสะอึกสะอื้นเธอยอมรับผิดทุกอย่างเพราะเธอเผลอให้ใจกับแพทริคไปอย่างง่ายดาย"พี่เข้าใจแล้ว.." คามินเอ่ยเสียงสั่นก่อนจะกดวางสายของแพงขวัญตอนนี้ความรู้สึกมันเจ็บจุกอยู่ในอกเหมือนอยากจะร้องให้แต่มันก็ร้องไม่ออก"แพงขอโทษค่ะพี่มิน..ฮือๆๆ..." หลังจากวางสายได้แพงขวัญก็สะอึกสะอื้นเพราะความรู้สึกผิด"......" แพทริคยืนมองหญิงสาวอยู่ห่างๆด้วยสายตาที่คาดเดาอารมณ์ไม่ถูกในใจลึกๆไม่ชอบที่จะเห็นหญิงสาวร้องให้แต่อีกใจก็ดีใจที่แผนการดำเนินไปได้ด้วยดีหลังจากนี้คนที่น้ำตาตกจะไม่ใช่แค่แพงขวัญเพียงคนเดียวจะเป็นพงษ์พัฒน์ที่ต้อเจ็บกว่าแพงขวัญหลายเท่าเมื่อเห็นแพงขวัญตกอยู่ในความทุกข์เย็นของวัน มนัญชนกเตรียมตัวรอคามินตั้งแต่ห้าโมงเย็นแต่นี่ก็หกโมงกว่าจนเกือบจะมืดแล้วแต่เขาก็ไม่ยักจะมาเสียทีทั้งโทรหาเท่าไรเขาก็ไม่ยอมรับ"วันนี้ไม่มาสอนหม่อนเหรอคะคุณมิน" หญิงสาวตัดสินใจส่งข้อคว
"อืม..." คามินงัวเงียตื่นขึ้นมาในช่วงสายเขาพยุงร่างเปลือยเปล่าลุกนั่งก่อนจะกุมขมับเพราะรู้สึกปวดหัวหนักพอสมควรสายตาของเขาเพ่งมองรอบๆห้องที่เละเทะทั้งฟูกนอนก็ยังมีรอยหยดเลือดภาพตรงหน้าเหล่านี้ทำให้เขาพยายามนึกถึงเรื่องเมื่อวานและไม่นานนักเขาก็จำทุกอย่างได้“คุณหม่อน...” เมื่อภาพความจำเมื่อวานกลับมาได้เขาก็รีบหยิบผ้าขนหนูพันท่อนล่างก่อนจะเข้าไปหาหญิงสาวในห้องทันที(หวังว่าเราจะไม่ได้เจอกันอีกนะคะ) “โถ่เอ้ย...ทำบ้าอะไรลงไปเนี่ย” คามินหยิบจดหมายของใบหม่อนขึ้นมาอ่านจบก็นั่งฟุบลงกับพื้นกุมขมับโมโหที่ตัวเองเผลอทำร้ายหญิงสาวลงกับมือสามวันต่อมา"เป็นอะไรครับนอนซมทั้งวันเลย” แพทริคเข้ามาซุกผ้าห่มนอนบนเตียงนุ่มกับหญิงสาวหลังเห็นเธอนอนซมมาตั้งแต่หลังทานอาหารเช้าแล้ว“เพลียๆค่ะ..” “ผมทำให้หายเพลียเอาไหม” ชายหนุ่มพรมจูบแก้มนวลของหญิงสาวเพราะตอนนี้อะไรๆของเขามันตื่นขึ้นแล้วเพียงแค่สัมผัสเนื้อตัวของเธอได้ไม่นานไม่รู้ว่าทำไมเขาควบคุมตัวเองไม่ได้ทุกครั้งเมื่อต้องใกล้ชิดสาวเจ้าบนเตียงสองต่อสองแบบนี้“ทำยังไงคะ” ดวงตาปรือมองคนที่กำลังพรมจูบด้วยความสงสัย“..ฉันจะเพลียกว่าเดิมมากกว่ามั้งคะ...อื