สองสาวคุยกันอยู่พักใหญ่ถึงแผนการที่มนัญชนกคิดเอาไว้มนัญชนกไม่ยอมให้แพทริครู้เรื่องว่าแพงขวัญอยู่ที่ไหนเพราะเธอเองก็อยากจะเห็นว่าพี่ชายเธอมานะที่จะตามหาแพงขวัญจริงๆหรือไม่โดยที่หลังจากนี้เธอกับคามินจะไม่บอกข้อมูลและไม่ช่วยเหลืออะไรแพทริคทั้งนั้น
“คุณแพงว่าดีหรือเปล่าคะ”
“ดีเหมือนกันค่ะถือซะว่าแพงเอาคืนแล้วกันนะคะ” แพงขวัญยิ้มอ่อนเห็นว่าวิธีแก้เผ็ดแพทริคที่มนัญชนกเสนอก็ดีเหมือนกันและเธอก็จะได้เห็นด้วยว่าเขาจะพยายามตามหาเธอได้ไวเท่าไร
“แต่ว่าถ้าพี่ชายหม่อนหาคุณแพงเจอแล้วหม่อนขอร้องนะคะอย่าหันหน้าหนีกันอีกเพื่อเจ้าตัวเล็กที่กำลังจะเกิดมา”
“ค่ะ” แพงขวัญเงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่จะตอบตกลงกับมนัญชนกไป
หากเขารักเธอจริงและเธอเองก็รักเขา...มันก็ไม่ได้ยากที่เธอจะให้อภัยแต่หากมีโอกาสเอาคืนเขาบ้างเธอก็อยากจะทำเพื่อดัดนิสัยคนที่เจ้าแผนการให้เจ็บปวดเล่นดูบ้าง
เย็นของวัน
"นี่ตามสูตรที่คุณมินเคยสอนฉันเลยนะคะ" คามินกับมนัญชนกง่วนกันอยู่ในครัวเรื่องการทำอาหารเย็นส่วนแพงขวัญเธอนั่งเล่นอยู่ด้านนอกเพราะได้กลิ่นอาหารมากไม่ได้เดี๋ยวจะอาเจียนออกมาอีกตอนนี้เธอถูกกับอาหารจำพวกผลไม้เท่านั้น
"ผมมีสูตรอาหารอีกหลายอย่างเลยที่อยากสอนคุณ"
"เหรอคะ"
"แต่คุณต้องมาอยู่บ้านเดียวกับผมนะครับถึงจะยอมสอนต่อ" ไม่ใช่เพียงคำพูดที่ดูจะจีบมนัญชนกตลอดเมื่ออยู่กันสองต่อสองแต่สายตาของคามินที่มองมนัญชนกหยาดเยิ้มแทบทุกวินาที
"ตลกอีกแล้วนะคะ" สาวเจ้ามีอาการเขินกับเขาบ้างเล็กน้อยแต่ก็ยังคงเก็บอาการได้
"ผมพูดจริงนะครับ"
แพงขวัญที่กะว่าจะมาหยิบน้ำในห้องครัวแต่เธอก็ต้องชะงักเพราะได้ยินเรื่องที่ทังสองพูดคุยกันหญิงสาวแอบอมยิ้มเล็กน้อยเธอคิดเอาไว้แล้วว่ายังไงสองคนนี้ก็ต้องกำลังจีบกันอยู่แน่นอนดูจากสายตาของคามินที่มองมนัญชนกแต่ละครั้งหวานจนไม่รู้จะหวานยังไงขนาดตอนคบกับเธอยังไม่เคยเห็นมีสายตาแบบนี้แม้แต่น้อย...
ตกดึก
ครื่นนนน..ซ่า
“นี่ไฟฉายค่ะ...เผื่อคืนนี้ไฟดับส่วนคุณหม่อนฉันเอาไปให้แล้วค่ะ” เกือบสี่ทุ่มกว่าแล้วจู่ๆก็เกิดฝนตกหนักแพงขวัญจึงรีบเอาไฟฉายมาให้คามินและมนัญชนกเพราะที่นี่ฝนตกทีไรไฟชอบดับทุกทีเมื่อเดินมาเคาะห้องคามินเอาไฟฉายมาให้เขาได้ก็เห็นแต่คามินชะเง้อไปที่ห้องของมนัญชนัญชนกเธอจึงรีบบอกว่าเธอเอาไฟฉายไปให้หญิงสาวที่ห้องเรียบร้อยแล้วคามินจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง
“อ่อ..ขอบคุณครับ” คามินรู้ดังนั้นจึงสบายใจได้
“นานหรือยังคะเรื่องของพี่มินกับคุณหม่อน” แพงขวัญยิ้มกริ่มก่อนจะถามคามินถึงเรื่องของทั้งสองตอนนี้เสียเลย
“เอ่อ..แพงดูออกเหรอ” คามินก้อมหน้างุดยกมือเกาหัวเคอะเขินเล็กน้อย
“ค่ะ..คุณหม่อนเธอน่ารักดีนะคะแพงดีใจนะคะที่พี่มินจะรักกับเธอ” แพงขวัญรู้ว่ามนัญชนกเป็นคนนิสัยดีน่ารักแถมเธอก็เหมาะสมกับคามินทุกอย่างดีแล้วที่สองคนจะรักกัน
“..ตอนนี้พี่อยู่ในช่วงทำคะแนน..” คามินเอ่ยบอกกับแพงขวัญไปตามตรงว่าตอนนี้เป็นเขาเสียมากกว่าที่ตามเข้าหาอีกฝ่าย
“สู้นะคะ”
“ขอบคุณครับ”
วันต่อมา
เย็นของอีกวันตอนนี้คามินและมนัญชนกต้องขอตัวแพงขวัญกลับหลังจากเสร็จธุระที่ต้องการตอนนี้ทั้งสองขับรถออกมาไกลจากบ้านของแพงขวัญมากแล้วจู่ๆฝนก็เกิดตกลงมาอย่างหนักทั้งที่ก่อนหน้านี้ฟ้ายังสว่าง
"ฝนทำไมมาตกตอนนี้คะเนี่ย" มนัญชนกสีหน้าไม่คต่อยดีนักเมื่อจู่ๆฝนก็เกิดตกลงมาจึงทำให้คามินขับรถได้ช้าลงจนเธอกลัวว่าจะไปถึงสนามบินไม่ทัน
"นั่นสิ..อ..อ้าว" โชคร้ายซ้ำสองเพราะตอนนี้ไม่ใช่เพียงแค่ฝนตกหนักมาเพียงอย่างเดียวแต่รถที่กำลังขับก็ดันมาดับกลางทางเสียอย่างนั้น
"รถเป็นอะไรคะ"
"ผมไม่ทันดูว่าน้ำมันจะหมด"
"เราโทรหาเจ้าของรถเช่าให้เค้ามาช่วยได้หรือเปล่าคะฉันกลัวจะตกเครื่อง" หญิงสาวเอ่ยด้วยสีหน้าร้อนใจ
"ครับ..."
RrrrrRrrrr "ผมคามินที่เช่ารถไว้นะครับตอนนี้น้ำมันรถหมดตรงที่xxxพอดีรบกวนช่วยเอารถมาเปลี่ยนให้ผมได้หรือเปล่าครับ...อะไรนะครับ...เอ่อ..งั้นไม่เป็นไรครับ"
"เค้าจะมาใช่ไหมคะ" มนัญชนกรอฟังคำตอบจากคามินอย่างใจจดใจจ่อว่าเจ้าของรถเช่าว่าอย่างไรบ้าง
"เค้าบอกว่าทางขาดห่างจากที่เราอยู่ประมาณสองกิโลยังมาไม่ได้ตอนนี้เจ้าหน้าที่กำลังซ่อมกันอยู่น่าจะมาหาเราได้พรุ่งนี้"
"แล้วเราจะทำยังไงล่ะคะนี่ก็ออกมาจากบ้านคุณแพงไกลแล้วด้วย" มนัญชนกถึงกับหน้าเสียเพราะเธอบอกกับพี่ชายเธอไปแล้วว่าเธอจะกลับบ้านวันนี้
"พี่เจ้าของรถบอกว่าให้ตรงนี้มีรีสอร์ทห่างออกจากถนนประมาณ300เมตรให้เราไปพักที่นั่นได้เพราะกว่าทางจะพอใช้ได้พรุ่งนี้ไม่แน่ใจว่าตอนไหนเหมือนกัน"
“งั้นรีบไปก่อนจะมืดดีกว่าค่ะ”
ทั้งสองเดินหิ้วกระเป๋ากอดคอฝ่าสายฝนกันมาที่รีสอร์ทตอนนี้พวกเขาก็มายืนตัวเปียกชุ่มกันทั้งคู่ที่หน้าเคาเตอร์เพื่อเลือกเช่าห้องที่รีสอร์ท
"เหลือห้องเดียวเหรอครับ" และแล้วทั้งสองก็ต้องมองหน้ากันอย่างไม่ค่อยสบายใจนักเมื่อคำตอบของเด้กที่ดูแลที่นี่บอกกับพวกเขาว่าที่นี่เหลือห้องเช่าแค่ห้องเดียว
"ครับ..ที่นี่มีห้องพักแค่สี่ห้าหลังที่เหลือนี่ก็ลูกค้าพึ่งยกเลิกเพราะเดินทางมาไม่ได้ครับ"
"โอเคครับผมเอาห้องนี้" คามินรีบตัดสินใจแม้นเห็นหน้าหญิงสาวจะดูอึดอัดเพราะต้องรีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยกลัวว่าพวกเขาจะเป็นหวัดไปเสียก่อน
หลังจากได้กุญแจห้องมาได้เด็กที่ดูแลที่นี่ก็พาทั้งสองเดินถือร่มไปที่บ้านหลังเล็กหลังสุดท้ายในรีสอร์ทเมื่อเข้ามากันได้ตามินก็รีบให้หญิงสาวรีบไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที
"คุณหม่อนไปอาบน้ำก่อนเถอะครับเดี๋ยวจะเป็นหวัด"
"ค่ะ.." มนัญชนกเดินเข้าห้องน้ำด้วยอาการที่ค่อนข้างอึดอัดในใจเพราะต้องมานอนห้องเดียวกับชายหนุ่มทั้งคืนจะให้เธอหลับลงคงยาก
ครู่ต่อมา
"ฮัดชิ่ว.." หลังจากที่ทั้งสองอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้ากันเรียบร้อยฝนก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดตกง่ายๆแถมหญิงสาวก็ดันเป็นหวัดขึ้นมากะทันหันดีที่ในห้องมีเครื่องต้มน้ำคามินจึงรีบต้มน้ำอุ่นให้หญิงสาวได้ดื่มเพราะตอนนี้วิธีที่ดีที่สุดที่ทำได้คือเท่านี้
"น้ำอุ่นครับ" มือหนายื่นแก้วน้ำอุ่นให้หญิงสาวก่อนจะรื้อเสื้อคลุมของเขาที่ยังไม่ได้ใส่จากในกระเป๋ามาคลุมให้เธออีกชั้นเพื่อให้ร่างกายของหญิงสาวอบอุ่นไว้ให้มากที่สุดและหย่อนก้นลงนั่งข้างๆเธอที่โซฟาตัว
"ขอบคุณค่ะ" มนัญชนกอมยิ้มอ่อนขอบคุณอีกฝ่ายที่คอยดูแลเธอ
"คืนนี้ฝนน่าจะตกทั้งคืนนะครับ"
"นั่นสิคะ..ว่าเมื่อคืนหนักแล้วคืนนี้หนักกว่าอีกนะคะ"
ครื่นนน.. เปรี้ยงงงงง
"อ๊ายย.." ร่างบางสะดุ้งตัวโยนกอดคามินเอาไว้แน่นตกใจเสียงฟ้าผ่าที่ดังขึ้นมาจนห้องเล็กที่เธอพักสั่นสะเทือน
"ไม่เป็นไรนะครับ" คามินรีบกอดปลอบหญิงสาวที่ตัวสั่นเทาเป็นลูกนกตกน้ำเอาไว้แน่น
"เอ่อ.." พอได้สติหญิงสาวก็หน้าเสียเมื่อเผลอไปกอดคามินอย่างไม่ได้ตั้งใจก่อนจะรีบผละตัวออก
"เอ่อ...คุณหม่อนนอนที่เตียงนะครับเดี๋ยวผมนอนที่โซฟา" คามินรีบขยับให้ออกห่างจากหญิงสาวเพราะกลัวว่าเธอจะมองเขาไม่ดีอีกและบอกให้ธอไปนอนที่เตียงส่วนเขาจะนอนที่โซฟานี้เอง
"แต่ผ้าห่มมีผืนเดียวนะคะคืนนี้อากาศเย็นมากด้วย" มนัญชนกขึ้นมานอนที่เตียงนุ่มและเห็นชายหนุ่มนอนขดอยู่ที่โซฟาเธอจึงค่อนข้างเกรงใจและห่วงเขาพอสมควรเนื่องจากคืนนี้อากาศเย็นมากและผ้าห่มก็มีผืนเดียว
"คุณหม่อนให้ผมนอนด้วยเหรอครับ" คามินตาลุกวาวเมื่อได้ยินที่หญิงสาวพูดเช่นนั้น
"คือ..ก็ฉันไม่อยากเอาเปรียบคุณนี่คะ" สาวเจ้าก้มหน้างุดเล็กน้อยไม่ใช่ว่าเธอไม่อึดอัดใจที่เขาจะนอนด้วยแต่เธอก็ไม่ใจร้ายเกินกว่าที่จะให้ชายหนุ่มนอนหนาวได้
"ขอบคุณนะครับ" เมื่อหญิงสาวว่าจบร่างสูงก็สาวเท้ายาวนอนลงที่เตียงนุ่มซุกใต้ผ้าห่มข้างหญิงสาวทันที
"ไม่ได้กลับวันนี้ตามที่บอกกับพี่แพทกลับไปคงถูกดุแน่เลยค่ะ" มนัญชนกบ่นออกมาเสียงอ่อนก่อนจะเปรยสายตามองไปที่หน้าต่างดูสายฝน
"ไม่หรอกครับคุณแพทรู้ว่าคุณมากับผม"
"แต่ฉันบอกกับพี่แพทว่าจะมาเที่ยวคนเดียวนะคะ... เอ๋.. แต่ถ้าพี่แพทรู้ว่าฉันมากับคุณทำไมเค้ายอมล่ะคะ" ใบหน้าหวานขมวดคิ้วสงสัยกับคำที่คามินพูด
"ผมบอกกับเค้าเรื่องเราไปแล้ว..แล้วก็บอกอีกว่าผมรู้สึกยังไงกับคุณและพร้อมรับผิดชอบคุณทุกอย่าง" มือหนาค่อยๆยื่นกุมมือของหญิงสาวเอาไว้ว่าจะไม่แตะต้องตัวเธอแต่เมื่ออยู่ใกล้ขนาดนี้ก็อดใจไม่ได้จริงๆ
"คุณมิน.."
"ผมพร้อมรับผิดชอบคุณทุกอย่างจริงๆนะครับ" คามินมองจ้องไปที่ดวงตากลมโตไม่ละสายตาเพราะเขาอยากให้เธอเห็นจริงๆว่าเขาจริงใจกับเธอแค่ไหน
ครื้นน.. เปรี้ยงงง
"อ๊ายย... อื้มมม.. " สาวเจ้าจากที่หลับตาปี๋ตกใจก็ต้องรีบเบิกตาโพรงเมื่อคนตัวโตบดจูบรวบกอดเธอโดยที่ไม่ทันตั้งตัว
หญิงสาวขัดขืนอยู่ครู่หนึ่งเพราะตกใจกลัวที่จู่ๆภาพเหตุการณ์ที่ญี่ปุ่นวันนั้นก็แล่นเข้ามาในหัว
แต่เธอก็ค่อยๆอ่อนลงเผอไผลกับรสจูบที่นุ่มนวลแตกต่างจากคืนนั้นโดยสิ้นเชิงและแล้วตอนนี้เธอก็ได้รู้ตัวเองแล้วว่าไม่สามารถใจแข็งกับคามินได้เลยจริงๆ
"อืม.." คามินยิ้มกริ่มที่มนัญชนกเผลอไผลไปกับรสสัมผัสของเขาได้เขาค่อยๆละจูบเงยหน้ามองใบหน้านวลที่แก้มแดงเปล่งเป็นลูกตำลึงและกำลังหันหน้าหลบสายตาของเขาอยู่อย่างเอียงอายเขายิ่งมองเธอแบบนี้ก็ยิ่งหลงไหลเวลาปกติเธอน่ารักแล้วแต่เมื่ออยู่ใกล้ชิดกับบนเตียงแบบนี้เธอยิ่งน่ารักกว่าปฏิกิริยาที่ไร้การปฏิเสธทำให้เขาไม่ต้องถามเธอเลยว่าเธอรู้สึกอย่างไรกับเขาใจเธอกับเขาตอนนี้คงรู้สึกไม่ต่างกันเท่าไร"คุณน่ารักที่สุดเลย" เสียงแหบพร่าพ่นอยู่ข้างๆแก้มนวลก่อนจะยื่นมือหนาปิดไฟที่หัวเตียง"อื้มม.." สองมือหนาประสานกับมือเรียวของหญิงสาวขึงเอาไว้แนบกับเตียงนุ่มก่อนจะโน้มตัวลงบอดจูบนุ่มนวลสอดส่ายลิ้นร้ายฉกชิมความหวานจากปากคนตัวเล็กอีกครั้งเนิ่นนานเสียจนริมฝีปากบางชาและห้อเลือดเล็กน้อยไม่นานนักคนตัวโตก็จัดการเปลื้องผ้าทั้งเขาและเธอออกไปจนหมดให้หลงเหลือแต่ความอบอุ่นใต้ผ้าห่มจากการที่เนื้อแนบเนื้อเท่านั้น".. อ๊ะ.. อืม.." มนัญชนกแอ่นอกรับริมฝีปากของคนตัวโตอย่างลืมอายเพราะเมื่อปลายลิ้นสัมผัสกับยอดอกอิ่มของเธอก็รู้สึกวาบหวิวไปทั้งตัวจนควบคุมร่างกายตัวเองไม่ได้"อืม.." คามินก้มฟัดอกอิ่มสลับกับบดจูบริมฝีปากบางด้วยอาร
"ผมจะไม่ยอมปล่อยคุณไปไหนอีกแล้วผมรักคุณได้ยินหรือเปล่าว่าผมรักคุณ" แพทริคเดินเข้ามารวบกอดร่างบางแน่นด้วยความคิดถึง"ปล่อยฉัน""ผมคิดถึงคุณจนจะบ้าอยู่แล้วรู้หรือเปล่าคุณไม่คิดอยากจะติดต่อหาผมบ้างหรือไง""ไม่คิดค่ะเพราะไม่อยากติดต่อ" แพงขวัญยังคงต้องการจะกวนประสาทของอีกฝ่ายต่อก่อนจะเดินหนีเข้าห้องหมายจะปิดประตูหนีแต่ก็ถูกอีกฝ่ายตามเข้ามาจนได้"ไม่ติดต่อกับผมแต่ติดต่อกับน้องผมได้งั้นสิ..แสบกันนักนะ" ว่าจบสองมือหนาก็รวบใบหน้านวลให้เงยขึ้นก่อนจะบดจูบไปที่ริมฝีปากบาง"อื้ออ.. คุณแพท" มือเรียวทั้งสองผลักใบหน้าคมของเขาออกที่จู่มาถึงก็กระทำเอาแต่ใจกับเธอทันที"ผมจะจูบคุณให้ปากเปื่อยโทษฐานที่แกล้งผม""คุณอยากร้ายใส่ฉันก่อนทำไมล่ะคะ" ดวงตาหกลมโตมองค้อนคนเป็นสามีเล็กน้อย"ผมขอโทษ...ต่อจากนี้ผมจะเป็นคนดีของคุณกับลูกผมสัญญา" แพทริครีบเอ่ยขอโทษหญิงสาวกับเรื่องราวที่ผ่านมาเขารู้ว่าเธอยังรักเขาก่อนจะสัญญากับเธอว่าเขาจะไม่ทำให้เธอต้องเสียใจอีกเพี๊ยะ "สำหรับที่คุณหลอกฉัน" เพี๊ยะ "สำหรับที่คุณไปนอนกับผู้หญิงคนอื่น" แพงขวัญเงื้อมมือฟาดไปที่แก้มสากของแพทริคสองทีเพื่อที่เธอจะได้ไม่รู้สึกติดค้าง
วันเวลาพ้นผ่านไปอย่างรวดเร็วจวบจนแพงขวัญท้องโตได้หกเดือนกว่าแล้วตอนนี้ดูแพงขวัญและแพทริคจะหวานกันเป็นพิเศษตั้งแต่ปรับความเข้าใจกันได้ก็ตัวติดกันเป็นแตงเมในส่วนของมนัญชนกและคามินทั้งคู่ก็จดทะเบียนสมรสกันเงียบๆต่อหน้าคนในครอบครัวคราแรกคามินต้องการที่จะจัดงานใหญ่โตให้สมเกียรติแต่มนัญชนกเป็นคนไม่ชอบพิธีอะไรมากมายเพราะวุ่นวายเปล่าๆคามินจึงตามใจเธอจนตอนนี้ก็ร่วมเดือนกว่าแล้วที่คามินและมนัญชนกใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันชีวิตคู่ของมนัญชนกและคามินไม่ค่อยหวานเหมือนแพทริคและแพงขวัญเท่าไรนักเพราะเวลาหลังจากแต่งงานประจวบเหมาะกับงานที่โรงแรมของคามินกำลังยุ่งมากพอดีพวกเขาเลยยังไม่มีเวลาฮันนีมูนหลังแต่งงานแถมคามินยังทำงานหามรุ่งหามค่ำข้าวเช้าไม่ได้ทานกลับบ้านมาก็ดึกจนมนัญชนกเหมือนจะใช้ชีวิตคนเดียวอยู่แล้ว22.00 น."ช่วงนี้กลับดึกทุกวันเลยนะคะ" มนัญชนกที่นั่งอยู่บนเตียงนุ่มเอ่ยพูดกับคนเป็นสามีที่พึ่งอาบน้ำเสร็จยอมรับเลยว่าน้อยใจอยู่ลึกๆที่เขากลับดึกแทบทุกวันแต่ต้องเก็บอาการ"ผมต้องทำงานคนเดียวเลยนะครับเลขาผมลาออกกะทันหัน" คามินแต่งตัวเสร็จก็รีบเข้ามากอดภรรยาตนเอาไว้แน่นด้วยความคิดถึงตอนนี้เขายุ่งกับง
วันต่อมาร้านอาหารหรู"พาหม่อนมาที่นี่ทำไมคะคุณมิน" มนัญชกถูกคามินเดินจูงมือจากลานจอดรถมาที่น้านอาหารหรูที่ห้อางดังใจกลางเมืองคราแรกเขาบอกกับเธอว่าจะมาทำธุระนิดหน่อยแต่ไม่รู้ว่าเขาจูงเธอเข้ามาในรอานอาหารเพื่ออะไรแถมในร้านนี้ก็ยังไม่มีคนอยู่แม้แต่คนเดียวอีกต่างหาก"ตามผมมาตรงนี้สิครับ" "นี่มัน..." เดินเข้าร้านมาไม่น่นนักคามินก็พาหญิงสาวเดินมาด้านในสุดของร้านที่เป็นโซนที่มองเห็นวิวทิวทัศน์แม่น้ำสายใหญ่ได้ป็นอย่างดีรอบๆรายล้แมไปด้วยลูกโป่งสีชมพูละลานตาและตรงกลางก็มีโต๊ะอาหารที่มีอาหารวางเรียงรายอยู่เต็มโต๊ะตอนนี้เธอพอจะดูออกแล้วว่าเขาคงจะเซอร์ไพรซ์อะไรเธอแน่นอน"ผมปิดร้านนี้เพื่อทานข้าวกับคุณเลยนะครับ..นั่งก่อนสิครับ""ค่ะ" ใบหน้าหวานยิ้มอ่อนเล็กน้อยที่คามินมีเวลาเอาใจเธอบ้าง"ผมขอโทษคุณจริงๆที่ผมไม่มีเวลาทานข้าวเย็นกับคุณเลยผมรู้ว่าคุณอาจจะไม่ชอบแต่จากนี้ผมจะพยายามกลับบ้านมาทานข้าวเย็นกับคุณทุกวันนะครับ" หลังจากหญิงสาวนั่งลงได้คามินก็เปิดกล่องกำมะหยี่สีเทาหยิบสร้อยที่มีจี้เพชรรูปหัวใจมาสวมใส่ให้เธอเพื่อเป็นการปลอบใจก่อนจะหย่อนก้นลงนั่งตรงหน้าหญิงสาวกุมมือเธอเอาไว้หลวมๆสัญญากับเ
อาทิตย์ต่อมาเย็นของวัน“ท่านประธานเรียกวีมามีเรื่องอะไรเหรอคะ” วีนาเดินนาวยนาถเข้าห้องของคามินมาด้วยรอยยิ้มกว้างก่อนจะหย่อยก้นลงนั่งตรงหน้าคามินส่งน้ำเสียงหวานถามอีกฝ่าย“ผมต้องการให้คุณวีไปทำหน้าที่พีอาร์ของโรงแรมน่ะครับ” “อะไรนะคะ..วีทำงานให้ท่านประธานไม่ดีหรืออะไรบอกวีมาได้เลยนะคะ” รอยยิ้มกว้างเมื่อครู่ของวีนาหุบลงทันทีเมื่อคามินแจ้งความประสงค์ออกมาเพราะตอนนี้เขาหาเลขาคนใหม่ได้แล้วเป็นผู้ชายและจะเริ่มงานอาทิตย์หน้าเขาเลยต้องแจ้งให้หญิงสาวรู้กะทันหันว่าเขาต้องการให้เธอไปทำหน้าที่อื่น“เปล่าครับคุณทำงานดีมากและบุคลิกของคุณผมว่าเหมาะกับงานด้านนี้มากกว่าแถมเงินเดือนผมก็จะเพิ่มให้คุณด้วยนะครับ” “เอ่อ..แล้วจะให้วีเริ่มงานพีอาร์ได้เมื่อไรล่ะคะ”“อาทิตย์หน้าครับคุณเตรียมตัวได้เลยนะครับ”“ค่ะท่านประธาน” วีนาเดินออกจากห้องของคามินไปด้วยสีหน้าที่ค่อนข้างไม่พอใจพอสมควรไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ๆคามินถึงได้เปลี่ยนให้เธอไปทำงานอื่นกะทันหันทำให้เธอต้องอยู่ห่างเขาไปอีกเย็นของวันร้านอาหารหลังจากเลิกงานได้คามินก็ขับรถไปรับภรรยารักของเขาออกมาทานข้าวเย็นที่ร้านอาหารข้างนอกเพราะอยากเปลี่ยนบรรยากา
"ทำไมพี่แพทพาหม่อนมาไทยกะทันหันเหรอคะ" ใบหม่อนหญิงสาวร่างเล็กใบหน้าจิ้มลิ้มที่วัย23ย่าง24อยู่ในชุดเดรสสีชมพูหวานเดินตามพี่ชายที่สูงใหญ่อย่างเร่งรีบเข้าไปในบ้านพักหลังใหญ่ในชานเมืองของกรุงเทพมหานครที่ต้องรีบสับขาให้รวดเร็วเพราะเธอก้าวไม่ค่อยทันพี่ชายที่สูงราวสองเมตรเธอเท่าไร"ก็ไม่ได้กะทันหันนี่นาพี่เคลียงานที่นี่ทุกอย่างจบแล้วก็อยากจะกลับไปลงทุนธุรกิจที่ไทย" แพทริคหนุ่มลูกครึ่งไทยอังกฤษวัย34อยู่ในชุดสูทที่สั่งตัดจากแบรนด์หรูเดินเด่นสง่าเข้ามาในบ้านหลังใหญ่ก่อนจะหย่อนก้นลงนั่งพักที่โซฟาราคาแพงที่ห้องนั่งเล่นด้วยท่าทีเหนื่อยล้าเนื่องจากเดินทางมานานดีที่มาถึงเขาก็เข้สพักผ่อนในบ้านได้เลยเพราะสสั่งให้คนเตรียมจัดแจงทำความสะอาดไว้ก่อนหน้านี้แล้วแพทริค เนลสันลูกครึ่งไทยอังกฤษเป็นลูกชายคนเดียวของโทมัส เนลสันเจ้าของบริษัทผลิตเรือยอร์ชส่งออกที่อังกฤษเจ้าใหญ่ที่สุดในประเทศ ชายหนุ่มเป็นทายาทคนเดียวที่ถูกจับตามองจากสังคมเซเลปคนดังมากที่สุด เพราะจะเป็นคนเดียวที่สืบทอดกิจการของเนลสันแถมตอนนี้ยังเป็นหนุ่มโสดเนื้อหอมที่สาวๆก็อยากจะเข้าหามากที่สุดอีกด้วยติดอยู่ที่ว่าเขานั้นค่อนข้างเข้าถึงยากสื่อทุกสื่
"ก็ได้ค่ะ" คนถูกปฏิเสธมีสีหน้าบอกบุญไม่รับเลยทันที ใบหม่อน มนัญชนก เนลสัน หญิงสาวที่เป็นน้องสาวบุญธรรมของแพทริคและพ่วงตำแห่งลูกบุญธรรมของโทมัสเนลสัน เธอเป็นสาวไทยแท้ตั้งแต่กำเนิดเมื่อพ่อกับแม่เสียตอนสามขวบกว่าเธอก็ต้องมาอยู่กับหลวงตาที่วัดและมีแพทริคเป็นคนขอรับเธอมาดูแลจนแพทริคได้ย้ายไปอยู่ที่อังกฤษเขาก็พาเธอไปอยู่ด้วย จนเธอได้ร่ำเรียนและใช้ชีวิตที่นั่นหลังเรียนจบเธอก็ช่วยโทมัสและแพทริคทำงานในบริษัทและตอนนี้ก็พ่วงตำแหน่งเลขาของพี่ชายเธอด้วย มนัญชนกเป็นหญิงสาวร่างเล็กตัวผอมแห้งสูงเพียง 155 ผิวขาวเหลืองใบหน้ากลมรูปไข่พวงแก้มมีรักยิ้มคิ้วบางได้รูปดวงตาคมเหมือนลูกแมว จมูกเป็นสันเล็กริมฝีปากบางอมชมพู เธอเป็นสาวที่ค่อนข้างอ่อนหวานเห็นใจผู้อื่นเป็นที่หนึ่ง ทั้งยังถูกหวงจากโทมัสและแพทริคเหมือนไข่ในหินเพราะเป็นผู้หญิงคนเดียวของตระกูลแถมยังดูหัวอ่อนต่างจากคนทั่วไปอยู่มากแม้จะเติบโตในวัฒนธรรมตะวันตก เธอชอบทำอาหารเป็นชีวิตจิตใจจนตอนนี้พ่อและพี่ชายเธอเห็นว่าให้หญิงสาวลองเรียนรู้การทำงานอีกสักปีสองปีก็จะเปิดกิจการในสิ่งที่เธอชอบทำให้เธอได้บริหารเอาเอง วันต่อมาเชียงใหม่"ค่ะคุณพ่อแพงใกล้ถึงบ้า
"..อย่าทำอะไรฉันเลยนะ..อยากได้เงินเท่าไรฉันจะเอามาให้" ดวงตากลมโตเบิกกว้างก่อนจะทำใจกล้าต่อรองกับอีกฝ่ายเสียงสั่น"แก้ปัญหาทุกอย่างได้ด้วยเงินอย่างงั้นเหรอ..ใครสั่งสอนคุณมาล่ะ..ที่ผมจับคุณมาไม่ได้อยากได้เงินเลยสักนิด" เมื่อเห็นอีกฝ่ายแก้ไขปัญหาด้วยเงินอารมณ์โมโหของแพทริคก็เพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ"ตกลงจับฉันมาต้องการอะไรกันแน่" "ก็คุณเล่นสวยขนาดนี้จะให้ผมทำอะไรดีล่ะ" ดวงตากลมมองไล่ละเรี่ยเนื้อขาวผ่องที่นูนตึงขึ้นมาเด่นสายตาก่อนผลักร่างบางราบไปกับเตียง"ม..ไม่นะอย่ามาแตะตัวฉันนะ..ไอ้บ้า.." แพงขวัญดิ้นหนีสุดชีวิตเมื่ออีกฝ่ายตั้งใจจะล่วงเกินเธอแต่แรงของเธอก็ทำอะไรคนตัวโตไม่ได้อยู่ดี"..อื้ออ." แพทริคบดจูบส่งลิ้นร้ายสำรวจโพรงปากหญิงสาวที่ดีดดิ้นพักใหญ่จนเธอหมดแรงที่จขัดขืนเขาจึงละการฉกชิมความหวานจากโพรงปากของหญิงสาว“เฮ่อ ฟู่วว..” สาวเจ้าเมื่อริมฝีปากได้เป็นอิสระก็รีบสูดลมหายใจเข้าออกยกใหญ่เพราะเมื่อครู่เขาไม่เว้นว่างให้เธอได้หายใจเลยสักนิดจนเธอหมดเรี่ยวแรงที่จะดิ้นต่อสู้“...หึ่..ถึงกับเคลิ้มเลยเหรอ” แพทริคยิ้มเยาะอีกฝ่ายด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์“ไอ้ฝรั่งบ้า..ไอ้บ้าเอ้ย..” แพงขวัญรู้สึกเสียหน้า