"อืม.." คามินยิ้มกริ่มที่มนัญชนกเผลอไผลไปกับรสสัมผัสของเขาได้เขาค่อยๆละจูบเงยหน้ามองใบหน้านวลที่แก้มแดงเปล่งเป็นลูกตำลึงและกำลังหันหน้าหลบสายตาของเขาอยู่อย่างเอียงอายเขายิ่งมองเธอแบบนี้ก็ยิ่งหลงไหลเวลาปกติเธอน่ารักแล้วแต่เมื่ออยู่ใกล้ชิดกับบนเตียงแบบนี้เธอยิ่งน่ารักกว่าปฏิกิริยาที่ไร้การปฏิเสธทำให้เขาไม่ต้องถามเธอเลยว่าเธอรู้สึกอย่างไรกับเขาใจเธอกับเขาตอนนี้คงรู้สึกไม่ต่างกันเท่าไร
"คุณน่ารักที่สุดเลย" เสียงแหบพร่าพ่นอยู่ข้างๆแก้มนวลก่อนจะยื่นมือหนาปิดไฟที่หัวเตียง
"อื้มม.." สองมือหนาประสานกับมือเรียวของหญิงสาวขึงเอาไว้แนบกับเตียงนุ่มก่อนจะโน้มตัวลงบอดจูบนุ่มนวลสอดส่ายลิ้นร้ายฉกชิมความหวานจากปากคนตัวเล็กอีกครั้งเนิ่นนานเสียจนริมฝีปากบางชาและห้อเลือดเล็กน้อย
ไม่นานนักคนตัวโตก็จัดการเปลื้องผ้าทั้งเขาและเธอออกไปจนหมดให้หลงเหลือแต่ความอบอุ่นใต้ผ้าห่มจากการที่เนื้อแนบเนื้อเท่านั้น
".. อ๊ะ.. อืม.." มนัญชนกแอ่นอกรับริมฝีปากของคนตัวโตอย่างลืมอายเพราะเมื่อปลายลิ้นสัมผัสกับยอดอกอิ่มของเธอก็รู้สึกวาบหวิวไปทั้งตัวจนควบคุมร่างกายตัวเองไม่ได้
"อืม.." คามินก้มฟัดอกอิ่มสลับกับบดจูบริมฝีปากบางด้วยอารมณ์ที่พลุ่งพล่านเนื้อตัวนุ่มนิ่มของเธอช่างหอมหวานไปเสียทุกส่วนที่ปลายลิ้นสัมผัสจนเขาอยากจะกลืนกินเธอไปทั้งตัว
"อือ.. คุณมิน" สาวเจ้าหลับตาปี๋เมื่อคนตัวโตดูดคลึงยอดอกอิ่มสลับบีบเค้นเล่นความวาบหวิวที่เธอได้รับนี้ทำให้ตอนนี้เธอควบคุมตัวเองไม่อยู่เท่าไรมือไม้ปัดป่ายจิกหมอนนุ่มสะเปะสะปะไปที่เตียงก่อนจะจบที่ไรผมนุ่มของคนที่อยู่บนตัว
"ผมจะทำให้คุณลืมคืนนั้นไปจนหมดสิ้นนะครับคนดี" เสียงกระเส่าเอ่ยขึ้นเมื่อใบหน้าคมซุกไซร้ลำคอระหงส์ก่อนจะแทรกลำขาแกร่งที่กลางเรียวขาของหญิงสาวทั้งสอง
"อ.. อ๊ายยยยย.." ความเจ็บจุกแล่นเข้ามาจนร่างบางนอนตัวเกร็งเมื่อคามินสอดใส่แท่งร้อนของเขาเข้ามาในช่องทางรักของเธอคราเดียวจนสุด
จุ้บ..." ทนอีกนิดนะครับ" เมื่อรู้ว่าคนตัวเล็กมีอาการเจ็บคามินก็กอดร่างบางเอาไว้แน่นก่อนจะจูบหน้าผากที่เหงื่อกำลังไหลซิกอย่างนุ่มนวลและไล่มาที่ริมฝีปากบางเรียกอารมณ์วาบหวามของเธอให้กลับมา
"ฉัน..เจ็บค่ะ.." หญิงสาวน้ำตารื้นหลังจากที่ชายหนุ่มบดจูบเธอได้พักใหญ่เพราะตอนนี้เธอรู้สึกเจ็บจุกที่ช่องทางรักจนไม่กล้าขยับตัว
"ทนอีกนิดนะครับเชื่อใจผมแล้วผมจะทำให้คุณมีความสุข" คามินประสานมือเรียวเอาไว้แน่นและพูดให้เธอได้ผ่อนคลายก่อนจะบดจูบหญิงสาวอย่างนุ่มนวลอีกครั้งและค่อยๆขยับสะโพกเข้าออกเมื่อรู้สึกว่าร่างกายของเธอเริ่มตอบสนองกับขนาดของเขาได้แล้ว
"อืม..อ้ะ.." ไม่นานนักจากบทรักที่นุ่มนวลก็ค่อยๆร้อนแรงขึ้นหญิงสาวที่รู้สึกเจ็บมากคราแรกตอนนี้ความรู้สึกทุกอย่างแปรเปลี่ยนมาเป็นอารมณ์วาบหวามอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนเพราะยังอ่อนประสบการณ์เรื่องบนเตียง
"อืม.." คามินบดกรามแน่นเพราะทุกครังที่เขากระแทกกระทั้นสะโพกแกร่งโถมใส่หญิงสาวความคับแน่นของเธอบีบรัดแท่งร้อนของเขาจนแทบปริแตกยิ่งได้สัมผัสตัวเธอมากเท่าไรเหมือนพลังงานของเขาตอนนี้มันยิ่งเพิ่มมากขึ้นทุกครั้ง
"อื้อ..คุณมิน..อ๊ายย..." ไม่นานนักร่างบางก็บิดเกร็งเร่าเมื่อเสร็จสมรู้สึกแตะขอบสวรรค์เป็นครั้งแรกปลดปล่อยเสียงหวานดังออกมาอย่างลืมอายเพราะมีความสุขจนถึงขีดสุด
"อ้าส.." ช่องทางรักที่ตอดรัดของหญิงสาวตอนนี้ถี่ขึ้นจนคามินต้องรีบรัวสะโพกเสร็จสมแตะขอบสวรรค์ตามหญิงสาวไปทั้งยังปล่อยให้ธารน้ำรักหลั่งไหลเข้าสู่ตัวหญิงสาวทุกหยาดหยดอย่างไม่นึกกังวลเพราะเขาต้องการที่จะมีเจ้าตัวน้อยกับหญิงสาวแล้ว
เช้าวันต่อมา
"อืม.." มนัญชนกรู้สึกตัวตื่นในช่วงเช้าเมื่อร้สึกว่ากำลังมีอะไรขยับอยู่ที่ข้างๆตัว
ฟอดดด.."ตื่นแล้วเหรอครับ" คามินกอดร่ายร่างบางเปลือยเปล่าใต้ผ้าห่มเอาไว้แน่นก่อนจะกดจมูกโด่งลงที่แก้มนวลนุ่มหอมฟอดใหญ่ให้ชื่นใจยามเช้า
"คุณมิน.." คนตัวเล็กก้มหน้างุพวงแก้มแดงระเรื่อเมื่อถูกอีกฝ่ายจู่โจม
"เห็นนี่หรือเปล่า" คามินยกมือเรียวข้างซ้ายให้หญิงสาวได้เห็นว่าตอนนี้เขาสวมแหวนเพชรเม็ดโตที่นิ้วนางข้างซ้ายของเธอไว้แล้ว
"ใส่ให้ฉันตอนไหนคะ" ดวงตากลมโตมองที่นิ้วมือตัวเองด้วยความสงสัยเพราะเธอไม่รู้ตัวว่าเขาสวมให้เธอเมื่อไร
"ตอนที่คุณเพลียจนหลับปุ๋ยเมื่อคืนไง...ผมจองไว้แล้วนะครับได้มีโอกาสเจอคุณพ่อคุณอีกเมื่อไรผมขอคุณแต่งแน่" ว่าจบก็กระชับกอดร่างบางให้แนบแน่นอีกครั้ง
"....." ตอนนี้หญิงสาวไม่กล้ามองหน้าของเขาแล้วเมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อคืนทีไรเธอก็ประหม่าในใจทุกที
17.00 น.
กว่าคามินจะกลับมาส่งมนัญชนกได้ก็เป็นเวลายามเย็นเพราะกว่าจะเจ้าของรถเช่าจะมารับพวกเขาก็เกือบเที่ยง
"พรุ่งนี้หกโมงเย็นผมจะมารับคุณไปทานข้าวนะครับ"
"ค่ะ.. " คามินมาส่งหญิงสาวที่หน้าบ้านแล้วก็ต้องรีบกลับเพราะเขามีเอกสารอีกหลายอย่างทมี่ต้องดูเนื่องจากควบการดูแลกิจการของแพงขวัญไปด้วย
"พี่ดีใจนะที่เห็นเรามีความสุขแล้วนี่จะแต่งเมื่อไรเหรอ" แพทริคเห็นน้องสาวตนเดินยิ้มร่าพร้อมแหวนเพชรในมือที่เด่นสะดุดตาเข้ามาในบ้านก็อมยิ้มตามไปด้วย
"คะ"
"ก็แหวนเพขรเม็ดโตขนาดนั้นมันสะดุดตาพี่เลยต้องถาม"
"ไม่รู้สิคะเค้ายังไม่ได้ขอหม่อน"
"นี่ยังไม่ได้ขอแต่งให้เพชรขนาดนี้แล้วเหรอพ่อบุญทุ่มจริงๆเลย" แพทริคนับถือใจของคามินจริงๆ
"อย่ามัวแต่คุยเรื่องหม่อนเลยค่ะพี่แพทล่ะคะให้คนสืบเรื่องคุณแพงไปถึงไหนแล้ว"
"ยังไม่ได้เรื่องอะไรเลยพี่คงต้องไปตามหาเองที่เชียงใหม่...จะไปมันทุกซอกมุกมุมเลย"
"แล้วถ้าเกิดคุณแพงหนีออกนอกประเทศแล้วล่ะคะ" มนัญชนกลองเชิงคนเป็นพี่ชายดูว่าความพยายามของเขาจะมีมากแค่ไหน
"ไม่ว่าที่ไหนพี่ก็จะตามจนพี่หมดลมหายใจมันต้องเจอสักวันนั่นแหละ" แพทริคเอ่ยเสียงแข็งและแววตามุ่งมั่นคนอย่างเขาหากคิดจะทำอะไรแล้วก็ต้องทำให้ได้
"อืม..อุดมการณ์แน่วแน่ดีค่ะ" มนัญชนกพยักหน้าเบาๆด้วยรอยยิ้มและเดินหนีพี่ชายของเธอเข้าห้องไปก่อนจะแชทคุยกับแพงขวัญรายงานความเคลื่อนไหว
สามวันต่อมา
คามินมาหาแพทริคที่บ้านของมนัญชนกแต่เช้าเพราะมีข่าวบางอย่าวจะต้องบอกกับแพทริค
"ได้เรื่องแล้วครับมีคนเห็นคุณแพงอยู่ที่นี่" เมื่อมาถึงชายหนุ่มก็รีบยื่นมือถือของเขาให้แพทริคดูรูปในนั้นทันที
"ไหนครับ...นี่มันแถวหัวหินที่ผมพาเธอไปฮันนีมูนนี่ครับ...ผมจะรีบไปหาเธอเดี๋ยวนี้" แพทริครีบดูรูปในมือถืออย่างใจจดใจจ่อและเขาก็จำได้ทันทีว่ารูปในมือถือของคามินคือบ้านที่เขาเคบไปพักตอนฮันนีมูนกับแพงขวัญ
ไม่นานนักแพทริคก็เตรียมกระเป๋าเดินทางและรีบขับรถออกจากบ้านมนัญชนกไปด้วยความมั่นใจว่ายังไงเขาก็ต้องเจอแพงขวัญแน่นอน
"ท่าจะมั่นใจมากนะคะว่าจะเจอคุณแพง" มนัญชนกยืนอมยิ้มอยู่หน้าบ้านกับคามิน
"จะแกล้งเค้าอีกนานเท่าไรครับ" คามินรู้สึกสงสารแพทริคอยู่ไม่น้อยหากชายหนุ่มไปถึงแล้วเจอกับความว่างเปล่าแล้วจะเป็นอย่างไร
"ครั้งนี้ครั้งเดียวนั่นแหละค่ะหม่อนสงสารต่อจากนี้ก็ให้พี่แพทตามหาคุณแพงเอง" หญิงสาวเองก็สงสารพี่ชายเธอเหมือนกันแต่ยังไงพี่ชายเธอก็ต้องได้รับบทเรียน
สองวันต่อมา
และแล้วแพทริคก็ต้องกลับบ้านมาหามนัญชนกด้วยความผิดหวังเพราะเขาตามหาแพงขวัญที่นั่นเท่าไรก็หาไม่พบ
"ทานข้าวเยอะๆหน่อยสิคะพี่แพทเดี๋ยวก็ป่วยซะก่อนที่จะได้เจอคุณแพงหรอกค่ะ" หญิงสาวมองหน้าคนเป็นพี่ชายที่นั่งเขี่ยจานข้าวมาพักใหญ่เธอก็ต้องบอกให้พี่ชายเธอทานอะไรบ้างไม่ใช่เอาแต่เศร้าอยู่อย่างนี้
"พี่นึกว่าจะได้เจอแพงแล้วเชียว" แพทริคมีแววตาที่เศร้าลงอย่างเห็นได้ชัดตอนนี้เขาทานอะไรไม่ลงทั้งนั้นเพราะหมดหวังยิ่งกว่าเดิม
ช่วงเย็นของวันมนัญชนกกำลังแชทคุยกับแพงขวัญที่ห้องนั่งเล่นรายงานความเคลื่อนไหวตลอดเวลาว่าตอนนี้พี่ชายเธอมีอาการเป็นอย่างไรบ้างและดูเหมือนว่าแพงขวัญจะพอใจกับอาการของแพทริคไม่น้อยที่เขาดูกระวนกระวายเพราะเธอ
"เค้าดูวุ่นวายใจมากเลยเหรอคะสมน้ำหน้าแล้วล่ะค่ะ"
"หม่อนแกล้งพี่แพทครั้งนี้ครั้งเดียวนั่นแหละค่ะต่อจากนี้ก็ปล่อยให้เค้าตามหาคุณแพงปกติแล้ว"
"น่าจะแกล้งอีกสักรอบสองรอบนะคะคุณหม่อน"
"บอกตามตรงนะคะหม่อนเริ่มสงสารพี่ชายหม่อนแล้วค่ะซูบผอมลงไปเยอะเลย"
"เค้าผอมมากหรือเปล่าคะ" รู้แบบนี้แพงขวัญก็เริ่มที่จะตลกไม่ออก
"เป็นห่วงพี่แพทใช่ไหมคะ" มนัญชนกพิมพ์ไปยิ้มไป
"ถึงฉันจะอยากเอาคืนแต่ก็ไม่อยากให้เค้าป่วยนะคะ"
"หม่อนจะพยายามบังคับให้พี่แพททานข้าวนะคะคุณแพงไม่ต้องเป็นห่วง" พิมพ์ตอบหญิงสาวจบมนัญชนกก็วางมือถือเพื่อเดินไปเข้าห้องน้ำเพราะตอนนี้เริ่มปวดท้องขึ้นมากะทันหัน
ติ๊งงง
"ค่ะคุณหม่อน"
" แพง" แพทริคเดินเข้ามานั่งในห้องนั่งเล่นพลันสายตาของเขาก็ไปสะดุดกับมือถือของมนัญชนกที่ขึ้นชื่อคนส่งข้อความว่าแพงขวัญเขาจึงถือวิสาสะกดดูแชทของทั้งสองว่าคุยอะไรกันบ้างและก็ได้รู้เรื่องราวทั้งหมดว่าน้องสาวของเขารู้ว่าแพงขวัญอยู่ที่ไหนและแผนการที่ทั้งสองรวมหัวกันแกล้งเขาอีก
วันต่อมา
“พี่แพทจะไปไหนแต่เช้าคะ” มนัญนกเห็นพี่ชายเธอเตรียมเก็บกระเป๋าขึ้นรถแต่เช้าจึงเอ่ยทักขึ้นด้วยสีหน้าแปลกใจ
“พี่ว่าจะไปที่หัวหินอีกสักรอบเผื่อจะมีเบาะแสอะไรเพิ่มเติม” แพทริคยังคงทำตัวปกติไม่ยอมให้มนัญชนกรู้ว่าเขารู้เรื่องแล้วอีกอย่างวันนี้เขาก็ไม่ได้จะไปหัวหินตามที่บอกกับมนัญชนกแต่เขาจะไปหาแพงขวัญต่างหาก
“อ่อ..ค่ะโชคดีนะคะ” หญิงสาวอวยพรพี่ชายของเธอด้วยสีหน้าเรียบเฉยก่อนจะเดินเข้าบ้านไปในใจแอบอยากบอกความจริงแต่เธอก็ต้องเงียบเอาไว้เพราะมันเป็นหน้าที่ของพี่ชายเธอที่จะต้องตามหาแพงขวัญเอง
“หึ่...” แพทริคสบถขำเล็กน้อยเมื่อมองตามหลังน้องสาวของตนนับว่าครั้งนี้เขาจะปล่อยน้องของเขาไปก่อนหลังจากจัดการกับแพงขวัญเรียบร้อยแล้วเดี๋ยวค่อยเคลียกับมนัญชนกทีหลัง
ครื่นน...ซ่า
“ตกทุกวันก็ไฟดับทุกวัน..เฮ้อ...” ตอนนี้เป็นเวลาสองทุ่มกว่าฝนก็ตกหนักมาอีกรอบจากที่เมื่อเย็นตกมาแล้วแพงขวัญรีบควานหาไฟฉายยกใหญ่เพราะรู้ว่ายังไงคืนนี้คงไฟดับอีกเช่นเคย
แกร๊กก
"หืม..." แพงขวัญขมวดคิ้วเป็นปมเมื่อได้ยินเสียงคนเปิดประตูหน้าบ้านเธอรีบหยิบไม้เบสบอลถือติดมือออกจาห้องนั่งเล่นมาดูทันที
"แพง.." แพทริคจ้องมองร่างบางตรงหน้าด้วยแววตาที่โหยหาและแล้ววันนี้เธอก็ได้เจอหญิงสาวเสียที
"คุณแพท" หญิงสาวตัวชาวาบไหนมนัญชนกบอกกับเธอว่าวันนี้แพทริคไปตามหาเธอที่หัวหินอีกรอบแล้วทำไมเขาถึงมาโผล่ที่นี่ได้
"ผมจะไม่ยอมปล่อยคุณไปไหนอีกแล้วผมรักคุณได้ยินหรือเปล่าว่าผมรักคุณ" แพทริคเดินเข้ามารวบกอดร่างบางแน่นด้วยความคิดถึง"ปล่อยฉัน""ผมคิดถึงคุณจนจะบ้าอยู่แล้วรู้หรือเปล่าคุณไม่คิดอยากจะติดต่อหาผมบ้างหรือไง""ไม่คิดค่ะเพราะไม่อยากติดต่อ" แพงขวัญยังคงต้องการจะกวนประสาทของอีกฝ่ายต่อก่อนจะเดินหนีเข้าห้องหมายจะปิดประตูหนีแต่ก็ถูกอีกฝ่ายตามเข้ามาจนได้"ไม่ติดต่อกับผมแต่ติดต่อกับน้องผมได้งั้นสิ..แสบกันนักนะ" ว่าจบสองมือหนาก็รวบใบหน้านวลให้เงยขึ้นก่อนจะบดจูบไปที่ริมฝีปากบาง"อื้ออ.. คุณแพท" มือเรียวทั้งสองผลักใบหน้าคมของเขาออกที่จู่มาถึงก็กระทำเอาแต่ใจกับเธอทันที"ผมจะจูบคุณให้ปากเปื่อยโทษฐานที่แกล้งผม""คุณอยากร้ายใส่ฉันก่อนทำไมล่ะคะ" ดวงตาหกลมโตมองค้อนคนเป็นสามีเล็กน้อย"ผมขอโทษ...ต่อจากนี้ผมจะเป็นคนดีของคุณกับลูกผมสัญญา" แพทริครีบเอ่ยขอโทษหญิงสาวกับเรื่องราวที่ผ่านมาเขารู้ว่าเธอยังรักเขาก่อนจะสัญญากับเธอว่าเขาจะไม่ทำให้เธอต้องเสียใจอีกเพี๊ยะ "สำหรับที่คุณหลอกฉัน" เพี๊ยะ "สำหรับที่คุณไปนอนกับผู้หญิงคนอื่น" แพงขวัญเงื้อมมือฟาดไปที่แก้มสากของแพทริคสองทีเพื่อที่เธอจะได้ไม่รู้สึกติดค้าง
วันเวลาพ้นผ่านไปอย่างรวดเร็วจวบจนแพงขวัญท้องโตได้หกเดือนกว่าแล้วตอนนี้ดูแพงขวัญและแพทริคจะหวานกันเป็นพิเศษตั้งแต่ปรับความเข้าใจกันได้ก็ตัวติดกันเป็นแตงเมในส่วนของมนัญชนกและคามินทั้งคู่ก็จดทะเบียนสมรสกันเงียบๆต่อหน้าคนในครอบครัวคราแรกคามินต้องการที่จะจัดงานใหญ่โตให้สมเกียรติแต่มนัญชนกเป็นคนไม่ชอบพิธีอะไรมากมายเพราะวุ่นวายเปล่าๆคามินจึงตามใจเธอจนตอนนี้ก็ร่วมเดือนกว่าแล้วที่คามินและมนัญชนกใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันชีวิตคู่ของมนัญชนกและคามินไม่ค่อยหวานเหมือนแพทริคและแพงขวัญเท่าไรนักเพราะเวลาหลังจากแต่งงานประจวบเหมาะกับงานที่โรงแรมของคามินกำลังยุ่งมากพอดีพวกเขาเลยยังไม่มีเวลาฮันนีมูนหลังแต่งงานแถมคามินยังทำงานหามรุ่งหามค่ำข้าวเช้าไม่ได้ทานกลับบ้านมาก็ดึกจนมนัญชนกเหมือนจะใช้ชีวิตคนเดียวอยู่แล้ว22.00 น."ช่วงนี้กลับดึกทุกวันเลยนะคะ" มนัญชนกที่นั่งอยู่บนเตียงนุ่มเอ่ยพูดกับคนเป็นสามีที่พึ่งอาบน้ำเสร็จยอมรับเลยว่าน้อยใจอยู่ลึกๆที่เขากลับดึกแทบทุกวันแต่ต้องเก็บอาการ"ผมต้องทำงานคนเดียวเลยนะครับเลขาผมลาออกกะทันหัน" คามินแต่งตัวเสร็จก็รีบเข้ามากอดภรรยาตนเอาไว้แน่นด้วยความคิดถึงตอนนี้เขายุ่งกับง
วันต่อมาร้านอาหารหรู"พาหม่อนมาที่นี่ทำไมคะคุณมิน" มนัญชกถูกคามินเดินจูงมือจากลานจอดรถมาที่น้านอาหารหรูที่ห้อางดังใจกลางเมืองคราแรกเขาบอกกับเธอว่าจะมาทำธุระนิดหน่อยแต่ไม่รู้ว่าเขาจูงเธอเข้ามาในรอานอาหารเพื่ออะไรแถมในร้านนี้ก็ยังไม่มีคนอยู่แม้แต่คนเดียวอีกต่างหาก"ตามผมมาตรงนี้สิครับ" "นี่มัน..." เดินเข้าร้านมาไม่น่นนักคามินก็พาหญิงสาวเดินมาด้านในสุดของร้านที่เป็นโซนที่มองเห็นวิวทิวทัศน์แม่น้ำสายใหญ่ได้ป็นอย่างดีรอบๆรายล้แมไปด้วยลูกโป่งสีชมพูละลานตาและตรงกลางก็มีโต๊ะอาหารที่มีอาหารวางเรียงรายอยู่เต็มโต๊ะตอนนี้เธอพอจะดูออกแล้วว่าเขาคงจะเซอร์ไพรซ์อะไรเธอแน่นอน"ผมปิดร้านนี้เพื่อทานข้าวกับคุณเลยนะครับ..นั่งก่อนสิครับ""ค่ะ" ใบหน้าหวานยิ้มอ่อนเล็กน้อยที่คามินมีเวลาเอาใจเธอบ้าง"ผมขอโทษคุณจริงๆที่ผมไม่มีเวลาทานข้าวเย็นกับคุณเลยผมรู้ว่าคุณอาจจะไม่ชอบแต่จากนี้ผมจะพยายามกลับบ้านมาทานข้าวเย็นกับคุณทุกวันนะครับ" หลังจากหญิงสาวนั่งลงได้คามินก็เปิดกล่องกำมะหยี่สีเทาหยิบสร้อยที่มีจี้เพชรรูปหัวใจมาสวมใส่ให้เธอเพื่อเป็นการปลอบใจก่อนจะหย่อนก้นลงนั่งตรงหน้าหญิงสาวกุมมือเธอเอาไว้หลวมๆสัญญากับเ
อาทิตย์ต่อมาเย็นของวัน“ท่านประธานเรียกวีมามีเรื่องอะไรเหรอคะ” วีนาเดินนาวยนาถเข้าห้องของคามินมาด้วยรอยยิ้มกว้างก่อนจะหย่อยก้นลงนั่งตรงหน้าคามินส่งน้ำเสียงหวานถามอีกฝ่าย“ผมต้องการให้คุณวีไปทำหน้าที่พีอาร์ของโรงแรมน่ะครับ” “อะไรนะคะ..วีทำงานให้ท่านประธานไม่ดีหรืออะไรบอกวีมาได้เลยนะคะ” รอยยิ้มกว้างเมื่อครู่ของวีนาหุบลงทันทีเมื่อคามินแจ้งความประสงค์ออกมาเพราะตอนนี้เขาหาเลขาคนใหม่ได้แล้วเป็นผู้ชายและจะเริ่มงานอาทิตย์หน้าเขาเลยต้องแจ้งให้หญิงสาวรู้กะทันหันว่าเขาต้องการให้เธอไปทำหน้าที่อื่น“เปล่าครับคุณทำงานดีมากและบุคลิกของคุณผมว่าเหมาะกับงานด้านนี้มากกว่าแถมเงินเดือนผมก็จะเพิ่มให้คุณด้วยนะครับ” “เอ่อ..แล้วจะให้วีเริ่มงานพีอาร์ได้เมื่อไรล่ะคะ”“อาทิตย์หน้าครับคุณเตรียมตัวได้เลยนะครับ”“ค่ะท่านประธาน” วีนาเดินออกจากห้องของคามินไปด้วยสีหน้าที่ค่อนข้างไม่พอใจพอสมควรไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ๆคามินถึงได้เปลี่ยนให้เธอไปทำงานอื่นกะทันหันทำให้เธอต้องอยู่ห่างเขาไปอีกเย็นของวันร้านอาหารหลังจากเลิกงานได้คามินก็ขับรถไปรับภรรยารักของเขาออกมาทานข้าวเย็นที่ร้านอาหารข้างนอกเพราะอยากเปลี่ยนบรรยากา
"ทำไมพี่แพทพาหม่อนมาไทยกะทันหันเหรอคะ" ใบหม่อนหญิงสาวร่างเล็กใบหน้าจิ้มลิ้มที่วัย23ย่าง24อยู่ในชุดเดรสสีชมพูหวานเดินตามพี่ชายที่สูงใหญ่อย่างเร่งรีบเข้าไปในบ้านพักหลังใหญ่ในชานเมืองของกรุงเทพมหานครที่ต้องรีบสับขาให้รวดเร็วเพราะเธอก้าวไม่ค่อยทันพี่ชายที่สูงราวสองเมตรเธอเท่าไร"ก็ไม่ได้กะทันหันนี่นาพี่เคลียงานที่นี่ทุกอย่างจบแล้วก็อยากจะกลับไปลงทุนธุรกิจที่ไทย" แพทริคหนุ่มลูกครึ่งไทยอังกฤษวัย34อยู่ในชุดสูทที่สั่งตัดจากแบรนด์หรูเดินเด่นสง่าเข้ามาในบ้านหลังใหญ่ก่อนจะหย่อนก้นลงนั่งพักที่โซฟาราคาแพงที่ห้องนั่งเล่นด้วยท่าทีเหนื่อยล้าเนื่องจากเดินทางมานานดีที่มาถึงเขาก็เข้สพักผ่อนในบ้านได้เลยเพราะสสั่งให้คนเตรียมจัดแจงทำความสะอาดไว้ก่อนหน้านี้แล้วแพทริค เนลสันลูกครึ่งไทยอังกฤษเป็นลูกชายคนเดียวของโทมัส เนลสันเจ้าของบริษัทผลิตเรือยอร์ชส่งออกที่อังกฤษเจ้าใหญ่ที่สุดในประเทศ ชายหนุ่มเป็นทายาทคนเดียวที่ถูกจับตามองจากสังคมเซเลปคนดังมากที่สุด เพราะจะเป็นคนเดียวที่สืบทอดกิจการของเนลสันแถมตอนนี้ยังเป็นหนุ่มโสดเนื้อหอมที่สาวๆก็อยากจะเข้าหามากที่สุดอีกด้วยติดอยู่ที่ว่าเขานั้นค่อนข้างเข้าถึงยากสื่อทุกสื่
"ก็ได้ค่ะ" คนถูกปฏิเสธมีสีหน้าบอกบุญไม่รับเลยทันที ใบหม่อน มนัญชนก เนลสัน หญิงสาวที่เป็นน้องสาวบุญธรรมของแพทริคและพ่วงตำแห่งลูกบุญธรรมของโทมัสเนลสัน เธอเป็นสาวไทยแท้ตั้งแต่กำเนิดเมื่อพ่อกับแม่เสียตอนสามขวบกว่าเธอก็ต้องมาอยู่กับหลวงตาที่วัดและมีแพทริคเป็นคนขอรับเธอมาดูแลจนแพทริคได้ย้ายไปอยู่ที่อังกฤษเขาก็พาเธอไปอยู่ด้วย จนเธอได้ร่ำเรียนและใช้ชีวิตที่นั่นหลังเรียนจบเธอก็ช่วยโทมัสและแพทริคทำงานในบริษัทและตอนนี้ก็พ่วงตำแหน่งเลขาของพี่ชายเธอด้วย มนัญชนกเป็นหญิงสาวร่างเล็กตัวผอมแห้งสูงเพียง 155 ผิวขาวเหลืองใบหน้ากลมรูปไข่พวงแก้มมีรักยิ้มคิ้วบางได้รูปดวงตาคมเหมือนลูกแมว จมูกเป็นสันเล็กริมฝีปากบางอมชมพู เธอเป็นสาวที่ค่อนข้างอ่อนหวานเห็นใจผู้อื่นเป็นที่หนึ่ง ทั้งยังถูกหวงจากโทมัสและแพทริคเหมือนไข่ในหินเพราะเป็นผู้หญิงคนเดียวของตระกูลแถมยังดูหัวอ่อนต่างจากคนทั่วไปอยู่มากแม้จะเติบโตในวัฒนธรรมตะวันตก เธอชอบทำอาหารเป็นชีวิตจิตใจจนตอนนี้พ่อและพี่ชายเธอเห็นว่าให้หญิงสาวลองเรียนรู้การทำงานอีกสักปีสองปีก็จะเปิดกิจการในสิ่งที่เธอชอบทำให้เธอได้บริหารเอาเอง วันต่อมาเชียงใหม่"ค่ะคุณพ่อแพงใกล้ถึงบ้า
"..อย่าทำอะไรฉันเลยนะ..อยากได้เงินเท่าไรฉันจะเอามาให้" ดวงตากลมโตเบิกกว้างก่อนจะทำใจกล้าต่อรองกับอีกฝ่ายเสียงสั่น"แก้ปัญหาทุกอย่างได้ด้วยเงินอย่างงั้นเหรอ..ใครสั่งสอนคุณมาล่ะ..ที่ผมจับคุณมาไม่ได้อยากได้เงินเลยสักนิด" เมื่อเห็นอีกฝ่ายแก้ไขปัญหาด้วยเงินอารมณ์โมโหของแพทริคก็เพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ"ตกลงจับฉันมาต้องการอะไรกันแน่" "ก็คุณเล่นสวยขนาดนี้จะให้ผมทำอะไรดีล่ะ" ดวงตากลมมองไล่ละเรี่ยเนื้อขาวผ่องที่นูนตึงขึ้นมาเด่นสายตาก่อนผลักร่างบางราบไปกับเตียง"ม..ไม่นะอย่ามาแตะตัวฉันนะ..ไอ้บ้า.." แพงขวัญดิ้นหนีสุดชีวิตเมื่ออีกฝ่ายตั้งใจจะล่วงเกินเธอแต่แรงของเธอก็ทำอะไรคนตัวโตไม่ได้อยู่ดี"..อื้ออ." แพทริคบดจูบส่งลิ้นร้ายสำรวจโพรงปากหญิงสาวที่ดีดดิ้นพักใหญ่จนเธอหมดแรงที่จขัดขืนเขาจึงละการฉกชิมความหวานจากโพรงปากของหญิงสาว“เฮ่อ ฟู่วว..” สาวเจ้าเมื่อริมฝีปากได้เป็นอิสระก็รีบสูดลมหายใจเข้าออกยกใหญ่เพราะเมื่อครู่เขาไม่เว้นว่างให้เธอได้หายใจเลยสักนิดจนเธอหมดเรี่ยวแรงที่จะดิ้นต่อสู้“...หึ่..ถึงกับเคลิ้มเลยเหรอ” แพทริคยิ้มเยาะอีกฝ่ายด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์“ไอ้ฝรั่งบ้า..ไอ้บ้าเอ้ย..” แพงขวัญรู้สึกเสียหน้า
วันต่อมา"ฮึก..ฮือๆๆ" ตั้งแต่ตื่นมาได้หญิงสาวก็นอนร้องให้สะอึกสะอื้นด้วยความเจ็บปวดรวดร้าวทั้งกายและใจไม่คิดไม่ฝันว่าเธอจะต้องมาเจอเหตุการณ์โหดร้ายอย่างเมื่อคืนนี้"ขอบใจนะที่ให้ผมเป็นคนแรกของคุณ" แขนแกร่งยังคงกอดกุมร่างบางไม่ยอมปล่อยทั้งยังเอ่ยให้หญิงสาวให้เจ็บปวดใจเล่น"หยุดพูดเดี๋ยวนี้นะไอ้โรคจิต" มือเรียวยกกุมริมฝีปากหนาเอาไว้อย่างไม่พอใจ"หึ่..ทำใจเอาไว้เลยว่าคุณจะต้องพบเจอคนโรคจิตอย่างผมอยู่ตลอด.." มือหนายกบีบข้อมือหญิงสาวเอาไว้แน่นก่อนจะดึงมันออกจากปากของเขา"ฮือๆๆ.." สิ้นเสียงแหบพร่าของคนข้างๆแพงขวัญก็ปล่อยก็ร้องให้โฮจนตัวโยนวันต่อมา“กลับไปสิรถนั่นผมให้คนซ่อมให้แล้วขับแล้วขับกลับได้เลยนับว่าผมใจดีกับคุณนะแล้วอย่าคิดแจ้งความเพราะถ้าคุณแจ้งความล่ะก็ตัวคุณเองนั่นแหละที่จะเสียหาย” เช้าของวันนี้แพทริคขับรถมาส่งหญิงสาวจุดเดิมที่เขาจับตัวเธอมา“.....” หลังจากที่แพงขวัญลงรถได้เธอก้เข้ามานั่งในรถคันเก่าของเธอก่อนจะนั่งร้องให้ตัวโยนพักใหญ่และตัดสินใจขับรถกลับกรุงเทพทันทีอยากจะให้เรื่องบ้าๆนี้เป็นเพียงแค่ความฝันแต่มันก็ไม่ใช่22.00 น."ทำไมถึงกลับมากะทันหันล่ะลูก" พงษ์พัฒน์นักธุรกิจนำ