วันต่อมา
"ฮึก..ฮือๆๆ" ตั้งแต่ตื่นมาได้หญิงสาวก็นอนร้องให้สะอึกสะอื้นด้วยความเจ็บปวดรวดร้าวทั้งกายและใจไม่คิดไม่ฝันว่าเธอจะต้องมาเจอเหตุการณ์โหดร้ายอย่างเมื่อคืนนี้
"ขอบใจนะที่ให้ผมเป็นคนแรกของคุณ" แขนแกร่งยังคงกอดกุมร่างบางไม่ยอมปล่อยทั้งยังเอ่ยให้หญิงสาวให้เจ็บปวดใจเล่น
"หยุดพูดเดี๋ยวนี้นะไอ้โรคจิต" มือเรียวยกกุมริมฝีปากหนาเอาไว้อย่างไม่พอใจ
"หึ่..ทำใจเอาไว้เลยว่าคุณจะต้องพบเจอคนโรคจิตอย่างผมอยู่ตลอด.." มือหนายกบีบข้อมือหญิงสาวเอาไว้แน่นก่อนจะดึงมันออกจากปากของเขา
"ฮือๆๆ.." สิ้นเสียงแหบพร่าของคนข้างๆแพงขวัญก็ปล่อยก็ร้องให้โฮจนตัวโยน
วันต่อมา
“กลับไปสิรถนั่นผมให้คนซ่อมให้แล้วขับแล้วขับกลับได้เลยนับว่าผมใจดีกับคุณนะแล้วอย่าคิดแจ้งความเพราะถ้าคุณแจ้งความล่ะก็ตัวคุณเองนั่นแหละที่จะเสียหาย” เช้าของวันนี้แพทริคขับรถมาส่งหญิงสาวจุดเดิมที่เขาจับตัวเธอมา
“.....” หลังจากที่แพงขวัญลงรถได้เธอก้เข้ามานั่งในรถคันเก่าของเธอก่อนจะนั่งร้องให้ตัวโยนพักใหญ่และตัดสินใจขับรถกลับกรุงเทพทันทีอยากจะให้เรื่องบ้าๆนี้เป็นเพียงแค่ความฝันแต่มันก็ไม่ใช่
22.00 น.
"ทำไมถึงกลับมากะทันหันล่ะลูก" พงษ์พัฒน์นักธุรกิจนำเข้ารถหรูวัย58 เข้ามาคุยกับลูกสาวสุดที่รักของตนในห้องนอนหลังจากที่ลูกสาวของเขาอาบน้ำอาบท่าเรียบร้อยแล้ว
"คือ..ที่นั่นฝนตกลมแรงน่ะค่ะแพงไม่อยากอยู่คนเดียว" ร่างบางโผกอดคนเป็นพ่อเพราะไม่ค่อยอยากสบตาคนเป็นพ่อตอนนี้เท่าไรหากมองไปพ่อเธอก็จะรู้ทันทีว่าเธอกำลังมีเรื่องเครียดภายในใจ
เธอไม่คิดที่จะปริปากบอกกับพ่อเธอเรื่องที่ไปเจอมาเพราะไม่อยากให้พ่อของเธอเครียดอีกอย่างเธอเองก็เกรงคำขู่ของคนโรคจิตคนนั้นเหมือนกันคิดเสียว่ามันเป็นความโชคร้ายของเธอเท่านั้นจากนี้เธอเองก็คงจะไม่ต้องเจอกับบุคคลอันตรายแบบนั้นอีก
"เอาไว้วันหลังพ่อว่างจะไปเป็นเพื่อนแล้วกันนะ...ลูกพักผ่อนเถอะพ่อไม่กวนแล้ว” พงษ์พัฒน์ว่าจบก็จูบกระหม่อมลูกสาวของเขาก่อนจะออกไปและปิดไฟให้แพงขวัญได้นอนพักผ่อน
“...จากนี้หนูจะเข้มแข็งค่ะ” พ่อของเธอออกไปจากห้องได้หญิงสาวก็ทิ้งตัวลงนอนด้วยน้ำตาควาทเจ็บปวกดนี้จะทำให้เธออ่อนแอแค่ไม่กี่วันและเธอจะกลับมาเป็นคนเข้มแข็งลืมทุกอย่างให้ได้
วันต่อมา
"ไหนว่าจะไปเป็นอาทิตย์ไงครับ" คามินแฟนหนุ่มวัย35ปีของแพงขวัญเข้ามานั่งคุยกับหญิงสาวขณะที่นั่งอยู่ในงานการกุศลของเหล่านักธุรกิจเซเลปคนดัง
คามิน เดชพิพัฒน์โสภณ อายุ 35 ปีนักธุรกิจเจ้าของโรงแรมหรูที่ใช้จัดงานในวันนี้ เขาเริ่มคบหากับแพงขวัญตั้งแต่เธอเริ่มเข้าปีสี่โดยรู้จักผ่านพ่อของเธอ
คามินเป็นชายหนุ่มรูปหล่อหน้าไทยแท้หล่อเข้ม สูงใหญ่ราวต่างชาติ ใบหน้าคมเข้มตัดผมลองทรงเซ็ทเนี้ยบ ดวงตาคมประดุจเหยี่ยวคิ้วเข้มจมูกโด่งเป็นสันริมฝีปากหนา ผิวสีแทนเป็นคนค่อนข้างอัธยาศัยดีอบอุ่น นอกเหนือจากการบริหารโรงแรมเวลาว่างเขาก็ชอบทำอาหารเป็นที่สุดเพราะคุณย่าที่เลี้ยงเขามาตั้งแต่เล็กๆเป็นครูสอนทำอาหารไทยต้นตำหรับ
"ก็พายุเล่นมาน่ากลัวขนาดนั้นแพงก็ไม่อยากอยู่สักเท่าไรค่ะ" แพงขวัญที่อยุ่ในชุดราตรีสายเดี่ยวกระโปรงยาวแหวกข้างถึงขาอ่อนสีโรสโกลพร้อมส้นสูงหัวแหลมแบรนด์ดังนั่งคุยกับคามินท่ามกลางผู้คนที่เดินผ่านไปมาด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยสบอารมณ์มากนักด้วยวันนี้ไม่อยากจะออกงานแต่ก็ถูกคุณพ่อของเธอบังคับเพราะต้องการให้เจอกับหุ้นส่วนคนใหม่ของเขา
"อ่อ..เข้าใจแล้ววันหลังก็รอให้พี่ว่างสิครับเราจะได้ไปด้วยกัน”
"ค่ะ..เดี๋ยวแพงขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ" แพงขวัญสังเกตเห็นรอยแดงใกล้ๆกับหัวไหล่ที่เป็นรอยฟันของคนโรคจิตจึงรีบขอตัวจากคามินไปเข้าห้องน้ำเพื่อทำการปกปิดรอยนั้นด้วยรองพื้นอย่างรวดเร็ว
“ครับ” คามินมองตามหลังแฟนสาวของเขาด้วยรอยยิ้มที่เธอสวยน่ารักมากขึ้นทุกวันในสายตาของเขาและก่อนหน้านี้เขานั้นคุยกับคุณพ่อของเธอเรื่องที่จะขอหมั้นกับเธอแล้วเมื่อครู่กะว่าจะบอกกับเธอแต่หญิงสาวก็ขอตัวไปเข้าห้องน้ำเสียก่อน
ครู่ต่อมา
"คามิน...นี่คุณแพทริคเจ้าของบริษัทส่งออกเรือยอร์ชที่ใหญ่ที่สุดในอังกฤษที่อาเซ็นสัญญาร่วมหุ้นด้วย...คุณแพทริคนี่คามินเจ้าของโรงแรมที่นี่แล้วก็เป็นว่าที่ลูกเขยผมด้วย" หลังจากที่แพงขวัญลุกออกจากโต๊ะได้ไม่เท่าไรพงษ์พัฒน์ก็พาชายหนุ่มต่างชาติมาแนะนำให้คามินได้รู้จัก
"ยินดีที่ได้รู้จักนะครับคุณคามิน"
"เช่นกันครับ" แพทริคยื่นมือทำความรู้จักกับคามินด้วยสีหน้าที่เป็นมิตรแต่ในหัวของเขากลับเต็มไปด้วยความคิดมากมายไม่คาดคิดว่าแพงขวัญจะมีแฟนแล้วจึงทำให้เขาต้องพลิกแพลงคิดแผนใหม่อย่างรวดเร็ว
"นั่น..ลูกสาวผมมาพอดี..แพงมานี่สิลูก..นี่คุณแพทริคคนที่พ่อบอกว่าจะร่วมหุ้นด้วยไงลูก" พงษ์พัฒน์เห็นแพงขวัญเดินกลับมาก็รีบแนะนำตัวลูกสาวของเขาและแพทริคให้ได้รู้จักกันเอาไว้...ภาพชายต่างชาติตรงหน้าทำให้แพงขวัญตัวชาวาบไม่รู้ว่าทำไมคนโรคจิตที่ทำร้ายเธอวันนั้นกลายมาเป็นคนทำธุรกิจร่วมกับของพ่อเธอได้และเขาเข้ามาในชีวิตพวกเธอแบบนี้เขาต้องการอะไรกันแน่
"ยินดีที่ได้รู้จักครับ" แพทริคยื่นมือทำความรู้จักกับแพงขวัญในขณะที่เธอยืนตัวเกร็งแข็งทื่อเป็นท่อนไม้
"อ..เอ่อ..เช่นกันค่ะ" แพงขวัญยื่นมือจับอีกฝ่ายอย่างจำใจเพราะไม่อยากให้คนอื่นมองว่าเธอมีพิรุจก่อนจะกัดฟันเอ่ยตอบรับทำความรู้จักกับอีกฝ่าย
"คุณแพทริคนี่หน้าคุ้นๆนะครับเราเคยเจอกันที่ไหนมาก่อนหรือเปล่าผมว่าจะถามตั้งแต่ทีแรกที่เจอแล้ว" เมื่อนั่งคุยกันได้พงษ์พัฒน์ก็เอ่ยถามเรื่องที่เขาเคยคาใจอยู่ทันที"คงไม่หรอกครับ.." แพทริคตอบกลับด้วยรอยยิ้มก่อนจะเปรยสายตามองไปที่หญิงสาวตรงข้ามที่เอาแต่นั่งก้มหน้างุดไม่ยอมสบสายตากับเขา"คุณพ่อคะเดี๋ยวแพงกับพี่มินขอตัวไปรับลมข้างนอกก่อนนะคะอยู่ในนี้นานเวียนหัวน่ะค่ะเชิญคุณพ่อคุยเรื่องธุรกิจตามสบายนะคะ" "ได้สิลูก" คนเป็นพ่ออนุญาตได้สาวเจ้าก็ลากแฟนหนุ่มของเธอออกไปคุยกันที่ลานด้านนอกของชั้นจัดงานทันทีเพราะรู้สึกอึดอัดเกินจะทน“.....” แพทริคมองตามหลังหญิงสาวด้วยสายตาที่พึงพอใจนับว่าที่หญิงสาวมีอาการแบบนี้ก็คงจะเกรงกลัวเขาอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน ทางด้านแพงขวัญและคามินหลังจากเดินออกมานั่งด้านนอกแล้วคามินจึงพาหญิงสาวมานั่งในโซนวีไอพีที่เป็นส่วนตัวของเขาเอง"ทำไมออกมากะทันหันล่ะ" "แพงไม่ค่อยชอบฟังคนคุยเรื่องธุรกิจไงคะ" "แต่ยังไงแพงก็ต้องหัดฟังไว้นะคะอนาคตแพงคงต้องไปไหนมาไหนกับพี่แล้วก็ฟังพี่คุยเรื่องธุรกิจกับหุ้นส่วนอยู่บ่อยๆ" "หมายความว่ายังไงคะ" แพงขวัญมองคนรักของเธอด้วยแววตาสงสัย"พี่เ
"...คุณต้องการอะไรกันแน่...เข้ามาในชีวิตฉันกับพ่อฉันเพื่ออะไร" แพงขวัญเงยหน้ามองคนตัวโตด้วยความไม่พอใจก่อนจะเอ่ยถามสิ่งที่คาใจอยู่ในตอนนี้"บอกตอนนี้ก็ไม่สนุกน่ะสิ" แพทริคขึงร่างบางไว้กับผนังเขายังไม่เฉลยให้เธอฟังตอนนี้ว่าเขาเข้ามาในชีวิตเธอกับพ่อเธอเพราะอะไรด้วยต้องการปั่นหัวให้เธอเครียดเล่นๆไปก่อนที่จะถึงเวลาบอกความจริง"ปล่อย..""คุณห้ามหมั้นกับคามินถ้าไม่อยากให้บริษัทพ่อคุณพังลงไม่เป็นท่า""ถึงฉันจะไม่รู้ว่าคุณต้องการอะไร...แต่ฉันรู้ว่าคุณมันเลว..เลวเกินคนจริงๆ" แพงขวัญรู้จากคนเป็นพ่อว่าตระกูลเนลสันสามารถทำอะไรได้บ้างและที่เขาพูดเมื่อครู่ก็น่าจะทำได้จริงแต่เธอก็ไม่มีคำไหนที่จะตอกกลับเขาดีไปกว่าด่าว่าเขาในเรื่องจริงที่เขาเป็น"อย่าปากดีให้มันมากนัก" ชายหนุ่มว่าจบก็เหวี่ยงร่างบางนอนราบบนเตียงนอนของเธอก่อนจะกดทับเธอด้วยร่างกายของตัวเองเอาไว้มือหนาทั้งสองขึงข้อมือเล็กของหญิงสาวเอาไว้ข้างตัวลำขาแกร่งแทรกผ่านขาเรียวจนชุดนอนของเธอร่นขึ้นมาอยู่ด้านบนขาอ่อน"ปล่อยฉันนะ.." ใจของแพงขวัญเต้นแรงแทบจะออกมาข้างนอกด้วยความกลัวที่จะเกิดเหตุการณ์เช่นเดิมอีก"มาสนุกกันหน่อยจะเป็นไรล่ะ" และแล้วเธอก็
หลังจากที่แพทริคและพงษ์พัฒน์ชวนกันคุยเรื่องธุรกิจสองสาวเลยชวนกันออกมานั่งเล่นด้านนอกและคุยกันตามประสาสาวๆ"คุณแพงนี่สวยน่ารักเหมือนที่พี่ชายฉันพูดให้ฟังเลยนะคะ" มนัญชนกอดชมหญิงสาวตรงหน้าไม่ได้ว่าเธอดูสวยสง่าแบบที่พี่ชายเธอเล่าให้ฟังจริงๆ"ขอบคุณค่ะ" แพงขวัญยิ้มอ่อนนับว่ายังดีที่แพทริคไม่พูดเรื่องที่ไม่สมควรพูดกับน้องสาวของเขา"ตอนที่พี่ชายฉันทำงานเค้าอาจจะมีการดุคุณแพงบ้างอย่าถือสาเค้าเลยนะคะ" มนัญชนกรู้ดีว่าคนที่ทำงานกับพี่ชายของเธอต้องเจอกับอะไรเพราะพี่ชายเธอค่อนข้างเป็นคนที่จริงจังกับการทำงานมาก"นี่ถึงกับต้องบอกกันไว้ก่อนเลยใช่ไหมคะ" "คนอื่นที่ทำงานกับพี่ชายฉันส่วนมากพี่แพทจะถูกมองว่าบ้าอำนาจแต่เค้าเป็นคนที่จริงจังกับการทำงานเท่านั้นเองค่ะเพียงแค่อยากให้ทุกอย่างออกมาดี""แล้วคุณหม่อนล่ะคะโดนดุบ้างหรือเปล่า" "ประจำเลยค่ะ" สาวเจ้าแอบกระซิบเบาๆ"โห.. อย่างนี้แพงต้องเตรียมใจไว้เลยใช่ไหมคะ""ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะคุณแพงเป็นคนเก่งนี่คะเรียนยังได้เกียรตินิยมเลยต่างจากฉันที่กว่าจะเรียนจบได้หนักหนาเอาการอยู่ค่ะ""แล้วคุณหม่อนชอบทำอาหารทำไมเรียนบริหารล่ะคะ""ต้องช่วยพี่แพทกับคุณพ่อน่ะค่ะ...แ
"ฉันเจ็บ..ไอ้บ้า" หญิงสาวเจ็บไปทั้งตัวด้วยการกระทำของคนเอาแต่ใจเนื้อตัวของเธอแดงไปด้วยแรงกระชากของเขาจึงสบถต่อว่าอย่างเหลืออด"ด่าผมอีกสิแล้วพรุ่งนี้คุณจะได้เดินไม่ได้""อื้มมม..." ว่าจบก็บดจูบร่างบางเปลือยเปล่าส่งลิ้นร้ายตวัดฉกชิมความหวานจากโพรงปากหญิงสาวพักใหญ่และรีบถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกอย่างเร่งรีบก่อนจะเริ่มสอดใส่แท่งร้อนที่พร้อมกับศึกรักเต็มที่แล้วไปที่ร่องสวาทของหญิงสาวอย่างรุนแรง"ฉัน.. เจ็บ.. อื้อ.. อ๊ายย.. " สาวเจ้ารู้สึดระบมไปทั้งตัวเมื่อคนตัวโตถาโถมแรงกระแทกเธอจนตัวโยนทั้งยังขบกัดเต้างามเธอเล่นจนเป็นรอยแดงไปทั่ว"อ..อ่าสส..อืมม..." ชายหนุ่มที่กำลังมัวเมากับอารมณ์ที่พลุ่งพล่านไม่ได้สนใจเสียงร้องค้านของคนตัวเล็กใต้ร่างแม้สักนิดยังคงใช้ร่างกายของเธอเป็นที่ระบายอารมณ์อย่างไร้ซึ่งความนุ่มนวลพักใหญ่จนเสร็จสมแตะขอบสวรรค์"ปากก็ว่าขยักแขยงแต่เสียงหวานของคุณครางไม่หยุดเลยนะครับ" เมื่อบทสวาทสงบชายหนุ่มก็ล้มตัวนอนกอดก่ายร่างบางที่นอนน้ำตาไหลอยู่เงียบๆทั้งเอ่ยเย้าหยอกหญิงสาวด้วยน้ำเสียงระรื่น"หยุดพูดไปเลย...ฉันอยากรู้ว่าคุณจะปล่อยฉันกลับบ้านเมื่อไร" ใบหน้านวลหันมามองค้อนชายหนุ่มทีาเ
"ฮือๆๆ. ย่าค้าบบ.. ฮือๆๆ.. ""เจ้าหนู.. อืม.. ออกมากับพี่นะไปหาคุณย่าเรากัน"ปึก "โอ้ยย.." มนัญชนกตามเสียงร้องของเด็กชายไปจนเจอและรีบเอาเสื้อที่เธอชุบน้ำคลุมร่างเด็กชายตัวอ้วนกลมก่อนจะวิ่งฝ่ากองเพลิงออกมาอย่างไม่คิดชีวิตจนขาของเธอถูกอะไรบางอย่างหล่นมากระแทกจนเลือดออกแต่นั่นก็ไม่ทำให้เธอหยุดได้"เห็นผู้หญิงที่ลงมากับผมหรือเปล่า" ทางด้านคามินเมื่อจัดการพื้นที่ให้รถดับเพลิงเสร็จเขาก็เดินออกมาถามหามนัญชนกกับพวกพนักงานเพราะไม่เห็นเธอยืนอยู่ตั้งแต่กลับมาแล้ว"ผู้หญิงตัวเล็กๆที่ใส่ชุดเดรสสีขาวหรือเปล่าครับ""ใช่...""เธอฝ่ากองไฟเข้าไปช่วยเด็กข้างในครับ" พนัดงานหนุ่มชี้มือเข้าไปในกองเพลิงที่กำลังโหม"แล้วให้เธอเข้าไปได้ยังไง" คามินตัวชาวาบหากหญิงสาวเป็นอะไรไปเขาคงไม่มีหน้าไปสู้กับพงษ์พัฒน์ที่ฝากผฝังเธอให้มาเรียนรู้การทำอาหารจากโรงแรมของเขาแน่"เธอวิ่งเข้าไปเองครับพวกผมห้ามเอาไว้ไม่ทัน.. นั่นไงออกมาแล้ว" พนักงานหนุ่มโล่งอกเมื่อเห็นหญิงสาววิ่งออกมาพร้อมเด็กชายในอ้อมอก"น้องไพร์มหลานย่า.." หญิงชราที่นั่งร้องให้ฟูมหายเมื่อเห็นหญิงสาวอุ้มหลานเธอออกมาได้ก็รีบไปรับอย่างรวดเร็ว"ย่าค้าบบ.." เด็กชายเห
"โถ่โว้ยยยย..."ปึกๆๆแพงขวัญได้ยินเสียงแพทริคโวยวายอยู่ด้านในจึงรีบวิ่งเข้ามาดูเมื่อเห็นว่าเขากำลังสาวหมัดไปที่ผนังจนเลือดออกเธอจึงรีบรั้งตัวเขาเอาไว้ไม่ให้ทำร้ายตัวเองอีก"คุณแพทหยุด..คุณเป็นบ้าอะไรของคุณเนี่ย""ฮึก..ฮือๆๆ..ผมช่วยเค้าไม่ได้..ผมช่วยเค้าไม่ได้.." แพทริคตัวสั่นเทาฟุบกอดเข่าสะอื้นให้ด้วยความปวดใจที่เขาเห็นคนขาดใจตายต่อหน้า"ใจเย็นๆ...คุณทำดีที่สุดแล้ว" แพงขวัญดูท่าชายหนุ่มจะเป็นเอาหนักเธอจึงค่อยๆนั่งลงข้างๆเขาและกอดคนตัวโตที่ตัวสั่นเทาเอาไว้ก่อนจะเอ่ยปลอบเขาด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยสบายใจเท่าไรนัก ครู่ต่อมา"ฉันสั่งอาหารมาแล้วพรุ่งนี้เราค่อยออกข้างนอก.. นี่ของคุณฉันสั่งแซลมอนเกรดพรีเมี่ยมย่างซีอิ๊วมาให้คุณเลยนะทานสิ"หลังจากที่ชายหนุ่มสงบอารมณ์ได้แพงขวัญจึงพาเขาออกมานั่งข้างนอกเพราะเธอสั่งอาหารเอาไว้ตั้งแต่ตอนที่กลับมาถึงแล้ว"คุณทานไปเถอะผมไม่หิว...ถ้าคุณกลัวเหงาผมก็จะนั่งเป็นเพื่อน""อืมก็ได้...โห..ซูชิอร่อยจังเลย...ซุปสาหร่ายนี่ก็รสชาติกลมกล่อมหอมมากด้วยคุณดมดูสิ" สาวเจ้าที่อยากจะให้คนที่นั่งหน้าเศร้าทานอาหารพร้อมกับเธอเพราะเขาไม่ได้ทานอะไรมาตั้งแต่เมื่อกลางวันแล้วเพราะ
“ตอนแรกแม่ก็ไม่คิดว่าจะมีปัญหาแต่ตอนนี้เจ้าของเดิมเค้าเสียแล้วลูกหลานเค้าก็เลยอยากจะขอที่คืน” ศรีจันทร์เองก็ไม่คิดว่ามันจะมีปัญหาอะไรจึงไม่ได้กังวลเรื่องที่ทางเท่าไรนักแต่เมื่อเจ้าของที่เดิมเสียเธอก็ไม่คิดว่าลูกๆหลานๆของเจ้าของที่จะมาขอที่คืนกะทันหัน“เดี๋ยวผมจะจัดการเจรจาซื้อที่ที่นี่ให้นะครับแม่ศรีไม่ต้องกังวังวลยังไงเด็กๆก็จะมีที่อยู่แน่นอนครับ” แพทริครับปากศรีจันทร์ด้วยแววตาที่มั่นใจเพราะเขาจะไม่ยอมให้เด็กๆไม่มีที่อยู่เด็ดขาดเจ้าของใหม่อยากจะขายที่นี่แพงเท่าไรเขาก็จะควักเงินจ่ายหากไม่ยอมเขาก็จะซื้อที่ที่อื่นให้เด็กๆอยู่ให้มันรู้แล้วรู้รอดเพราะเขาทนเห็นเด็กเหล่านี้ไม่มีที่อยู่ไม่ได้ครู่ต่อมา“เค้ามาที่นี่บ่อยเหรอคะแม่ศรี” แพงขวัญนั่งคุยกันสองคนกับศรีจันทร์ขณะที่แพทริคกำลังสอนเด็กๆเรื่องโปรแกรมในคอมพิวเตอร์“ไม่หรอกจ่ะ..ส่วนมากแพทริคจะส่งเงินมาเท่านั้นเพราะงานเค้าค่อนข้างยุ่ง” ศรีจันทร์ส่ายหัวก่อนจะตอบด้วยรอยยิ้มอ่อนตั้งแต่ที่แพทริคไปอยู่อังกฤษเขาก็ไม่ค่อยได้มาที่นี่เท่าไร“แม่ศรีดูแลเด็กตั้งเยอะเลยไม่เหนื่อยบ้างเหรอคะ” แพงขวัญเห็นเด็กๆที่นี่ค่อนข้างเยอะแถมยังมีทุกวัยเธอเห็นแล้ว
เช้าวันต่อมา“เมื่อคืนคุณน่ารักมากเลย” ชายหนุ่มพรมจูบไหล่มนของหญิงสาวที่เปลือยเปล่าอยู่ใต้ผ้าห่มผืนหนาอยู่กับเขา“เมื่อไรคุณจะพาฉันกลับบ้าน” แพงขวัญหน้าแดงเล็กน้อยที่เมื่อคืนเธอเผลอตัวเผลอใจไปกับรสรักของเขาก่อนจะเอ่ยถามว่าเมื่อไรเขาจะปล่อยเธอไป“ผมอยากให้คุณอยู่กับผมก่อนนี่” “คุณให้คำตอบฉันเถอะนะคะว่าจะบังคับฉันแบบนี้ไปเพื่ออะไร” แพงขวัญตั้งคำถามชายหนุ่มรอบที่เกือยร้อยได้ว่าเขาทำแบบนี้กับเธอไปเพื่ออะไรกันแน่“ผมอยากให้คุณเป็นผู้หญิงของผม” เสียงทุ้มเอ่ยพร้อมพลิกร่างบางให้มามองหน้าของเขา“คุณรู้สึกยังไงกับฉันกันแน่” แพงขวัญขมวดคิ้วเล็กน้อยคำพูดของเขาทำเอาใจของเธอสั่นระรัวเพราะเธอเองก็เริ่มมีใจให้กับคนที่เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายคนนี้ไปเสียแล้ว“คำพูดที่ผมพูดคุณก็น่าจะเดาออกนะ...แล้วคุณล่ะตอนนี้รู้สึกยังไงกับผมพอจะมองผมดีขึ้นจากแต่ก่อนหรือเปล่า” แพทริครู้อยู่แก่ใจแล้วว่าหญิงสาวคิดกับเขาอย่างไรไม่อย่างนั้นตื่นมาคงพยศเขาไปแล้วไม่อ่อนลงแบบนี้แต่ก็อยากจะฟังคำตอบจากปากของเธอ“....” สาวเจ้าหลบสายตาก้มหน้างุดซุกลงกับอกแกร่งคิดว่ากิริยาของเธอก็พอจะทำให้เขาเข้าใจได้“..ผมดูจากความน่ารักของคุณเมื่