"...คุณต้องการอะไรกันแน่...เข้ามาในชีวิตฉันกับพ่อฉันเพื่ออะไร" แพงขวัญเงยหน้ามองคนตัวโตด้วยความไม่พอใจก่อนจะเอ่ยถามสิ่งที่คาใจอยู่ในตอนนี้
"บอกตอนนี้ก็ไม่สนุกน่ะสิ" แพทริคขึงร่างบางไว้กับผนังเขายังไม่เฉลยให้เธอฟังตอนนี้ว่าเขาเข้ามาในชีวิตเธอกับพ่อเธอเพราะอะไรด้วยต้องการปั่นหัวให้เธอเครียดเล่นๆไปก่อนที่จะถึงเวลาบอกความจริง
"ปล่อย.."
"คุณห้ามหมั้นกับคามินถ้าไม่อยากให้บริษัทพ่อคุณพังลงไม่เป็นท่า"
"ถึงฉันจะไม่รู้ว่าคุณต้องการอะไร...แต่ฉันรู้ว่าคุณมันเลว..เลวเกินคนจริงๆ" แพงขวัญรู้จากคนเป็นพ่อว่าตระกูลเนลสันสามารถทำอะไรได้บ้างและที่เขาพูดเมื่อครู่ก็น่าจะทำได้จริงแต่เธอก็ไม่มีคำไหนที่จะตอกกลับเขาดีไปกว่าด่าว่าเขาในเรื่องจริงที่เขาเป็น
"อย่าปากดีให้มันมากนัก" ชายหนุ่มว่าจบก็เหวี่ยงร่างบางนอนราบบนเตียงนอนของเธอก่อนจะกดทับเธอด้วยร่างกายของตัวเองเอาไว้มือหนาทั้งสองขึงข้อมือเล็กของหญิงสาวเอาไว้ข้างตัวลำขาแกร่งแทรกผ่านขาเรียวจนชุดนอนของเธอร่นขึ้นมาอยู่ด้านบนขาอ่อน
"ปล่อยฉันนะ.." ใจของแพงขวัญเต้นแรงแทบจะออกมาข้างนอกด้วยความกลัวที่จะเกิดเหตุการณ์เช่นเดิมอีก
"มาสนุกกันหน่อยจะเป็นไรล่ะ" และแล้วเธอก็ไม่รอดน้ำมือของคนเอาแต่ใจคืนทั้งคืนไม่ได้อยู่เป็นสุขเพราะชายหนุ่มเอาแต่หาคความสุขกับร่างกายของเธอไม่หยุดไม่หย่อน
อาทิตย์ต่อมา
หลังจากเหตุการณ์วันนั้นผ่านมาเป็นอาทิตย์แพงขวัญก็เก็บตัวเงียบไม่ออกจากบ้านอีกเลยเพราะกลัวว่าจะต้องเจอกับคนที่ไม่อยากจะเจออีก
"ทำไมอาหารเต็มโต๊ะเลยล่ะคะคุณพ่อ" แพงขวัญเดินลงมาด้านล่างด้วยชุดเสื้อยืดเอวลอยสีขาวโชว์เอวบางเล้กน็อยกับกระโปรงสั้นทรงเอสีชมพูเส้นผมหยักศกหนาปล่อยสลวยสบายๆเพราะอยู่ที่บ้านสายตาของเธอที่มองไปที่โต๊ะอาหารตอนนี้ค่อนข้างแปลกใจว่าวันนี้ทำไมอาหารมากกว่าทุกๆวัน
"วันนี้แพทริคจะมาเป็นแขกที่บ้านเราน่ะสิลูก"
"งั้นวันนี้แพงขอไม่อยู่ทานข้าวด้วยนะคะ" ได้ยินแบบนั้นสาวเจ้าก็มีสีหน้าตึงไม่พอใจขึ้นมาทันทีเธออุตส่าห์ไม่ออกไปไหนแล้วเชียวคนที่เธอไม่อยากจะเจอก็เสนอหน้ามาให้เจอถึงบ้านจนได้เธอจึงคิดว่าควรจะออกไปเสียตอนนี้จะดีกว่า
"ไม่ได้.. ลูกอย่าเสียมารยาทแบบนี้พ่อไม่เคยสอนอีกอย่างวันนี้คุณแพทริคก็จะพาน้องสาวของเขามาด้วยลูกอยู่เธอจะได้มีเพื่อนคุย" วันนี้พงษ์พัฒน์เห็นทีจะตามใจลูกสาวของเขาไม่ได้เพราะเกรงว่าแขกที่มาจะมองว่าลูกของเขารังเกียจ
"ก็ได้ค่ะ" ใบหน้านวลบึ้งตึงรู้ดีว่าอย่างไรพ่อเธอก็ไม่ยอมปล่อยให้เธอออกไปง่ายๆเพราะไม่บ่อยนักที่พ่อของเธอจะยื่นคำขาดแบบนี้
ครู่ต่อมา
“สวัสดีครับ” พงษ์พัฒน์ลากลูกสาวของเขามาที่หน้าบ้านเพื่อต้อนรับแพทริคและมนัญชนกโดยที่ไม่ได้ดูเลยว่าตอนนี้ลูกสาวตัวเองใบหน้าบึ้งตึงขนาดไหน
"สวัสดีครับคุณพงษ์นี่น้องสาวของผมครับใบหม่อน" แพทริคลงจากรถคันหรูพร้อมน้องสาวมาได้ก็รีบทักทายเจ้าบ้านและแนะนำตัวมนัญชนกให้ทุกคนได้รู้จัก
"สวัสดีค่ะคุณพงษ์" มนัญชนกยกมือไหว้พงษ์พัฒน์ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
"ครับยินดีที่ได้รู้จักนะครับ..นี่ลูกสาวผมครับแพงขวัญ.."
"ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ"
"เช่นกันค่ะ" สองสาวยิ้มให้กันอย่างเป็นมิตรก่อนที่แพงขวัญจะหุบยิ้มเมื่อสายตาดันไปสบเข้ากับแพทริคที่กำลังแทะโลมเธอด้วยสายตาเจ้าเล่ห์อยู่
"หนูใบหม่อนเหมือนคนไทยแท้ๆเลยนะครับ" พงษ์พัฒน์เอ่ยถามตามประสาเพราะเขาไม่เห็นว่ามนัญชนกจะละม้ายคล้ายคลึงกับผู้เป็นพี่เท่าไรนัก
"คือหม่อนเป็นคนไทยแท้น่ะค่ะ"
"ครับผมกับคุณพ่อรับเธอมาอยู่ในครอบครัวตั้งแต่เธอยังเล็กๆน่ะครับเพราะพ่อกับแม่เธอเสียหมด"
"อ๋อ..อย่างนี้นี่เอง..เอาเป็นว่าเราไม่คุยเรื่องหดหู่แบบนี้กันดีกว่าวันนี้อาหารไทยเต็มโต๊ะเลยเชิญเลยครับ" พงษ์พัฒน์หน้าเจื่อนเล็กน้อยที่ถามอะไรที่ไม่ควรถามออกไปก่อนจะเปลี่ยนบรรยากาศโดยการเชิญทุกคนเข้าไปร่วมโต๊ะอาหาร
ครู่ต่อมา
"อาหารกับขนมหวานอร่อยมากๆเลยนะคะระดับเชฟในโรงแรมเลย" หลังจากทานอาหารกันได้พักใหญ่ทุกคนก็นั่งย่อยอาหารโดยการคุยกันไปพรางๆ..มนัญชนกดูเหมือนจะปลื้มรสชาติอาหารของบ้านนี้เป็นพิเศษเพราะทั้งอาหารคาวและอาหารหวานทุกอย่างถูกปากเธออย่างมาก
"แน่นอนล่ะครับเชฟที่บ้านของเรามาจากโรงแรมxxxเลย" พงษ์พัฒน์เห็นทีจึงต้องอวดเชฟของเขาเสียหน่อย
"เราอยากเรียนทำอาหารกับเชฟที่โรงแรมนี้ไหมล่ะหม่อน" แพทริคได้ยินพงษ์พัฒน์ตอบมาแบบนั้นเขาก็พอจะคิดอะไรออกก่อนจะหันไปถามความสมัครใจของคนเป็นน้องสาวที่นั่งอยู่ข้างๆ
"พี่แพทให้หม่อนเรียนตอนนี้เลยเหรอคะ" ใบหม่อนถามกลับพี่ชายเธอเสียงใส
"อืม..ไหนๆก็มาที่ไทยแล้ว"
"หนูหม่อนชอบทำอาหารเหรอครับ" พงษ์พัฒน์ถามหญิงสาวเพราะดูเธอจะสนใจเรื่องอาหารพอสมควรหากเออยากจะเรียนเขาก็พอจะติดต่อไห้ได้
"ค่ะคุณพงษ์หม่อนชอบทำอาหารมากเลยค่ะโดยเฉพาะอาหารไทยกับพวกขนมหวาน"
"เอาอย่างนี้พอดีโรงแรมxxxคามินแฟนลูกสาวผมเป็นเจ้าของเดี๋ยวผมจะคุยกับคามินดูให้เรื่องที่จะไปเรียนทำอาหารที่นั่น"
"อย่างนั้นก็ขอบคุณมากๆเลยนะคะ"
"เอ่อ..ผมได้ข่าวว่าคุณแพงขวัญเรียนบริหารได้เกียรตินิยมเลยใช่ไหมครับ" แพทริคยิ้มกริ่มที่ทุกอย่างราบรื่นตามที่เขาคิดก่อนจะเอ่ยถึงเรื่องผลการเรียนของแพงขวัญกับพงษ์พัฒน์
"ใช่เลยครับผมนี่ภูมิใจในตัวลูกสาวผมที่สุดเลย" พงษ์พัฒน์เอื้อมมือหนาลูบหัวลูกสาวที่นั่งข้างๆเบาๆอย่างภาคภูมิใจที่แม้นลูกของเขาชอบแฟชั่นดีไซน์แต่ก็เลือกที่จะเรียนบริหารเพราะอยากจะช่วยกิจการของครอบครัวแล้วเธอก็ทำมันออกมาได้ดีด้วย
"พอดีผมมีโครงการที่จะร่วมหุ้นกับบริษัทที่ญี่ปุ่นด้วยไม่ทราบว่าคุณแพงสนใจไปดูงานกับผมหรือเปล่าครับถือว่าเป็นการสร้างประสบการณ์ด้วย"
"ก็ดีนะลูก.." พงษ์พัฒน์เห็นว่าสิ่งที่แพทริคเสนอมาค่อนข้างน่าสนใจเพราะถ้าหากลูกของเขาเรียนรู้งานจริงจากคนเก่งๆก็จะได้มีประสปการณ์การทำงานที่ดีด้วย
"เอ่อ.." แพงขวัญอยู่ในสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก
"ช่วงนี้ผมยิ่งไม่มีผู้ช่วยด้วยเพราะหม่อนก็อยากเรียนทำอาหาร" แพทริครู้ดีว่าแพงขวัญคงจะเอ่ยปฏิเสธจึงชิงพูดขึ้นมาก่อนเพื่อให้พงษ์พัฒน์เห็นด้วยกับความคิดของเขาที่ว่าจะให้แพงขวัญช่วยงานเขา
"เอาเป็นว่าให้ลูกสาวผมลองช่วยงานคุณดูก็ได้ครับ" พงษ์พัฒน์เห็นดังนั้นก็ขอตัดสินใจแทนลูกสาวของเขาเพราะนี่คือโอกาสที่ลูกของเขาจะเก่งขึ้นอีกระดับ
"คุณพ่อคะ" แพงขวัญส่ายหัวด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยพอใจ
"อย่าให้เสียชื่อพ่อนะลูก" พงษ์พัฒน์จับไหล่แพงขวัญก่อนจะหันมาจ้องตาและพยักหน้าเบาๆแม้นเขาจะตามใจลูกสาวของเขาเรื่องอื่นแต่เรื่องนี้เขาขอเป็นคนตัดสินใจให้เพราะรู้ว่ามันดีต่อตัวลูกของเขาขนาดไหน
หลังจากที่แพทริคและพงษ์พัฒน์ชวนกันคุยเรื่องธุรกิจสองสาวเลยชวนกันออกมานั่งเล่นด้านนอกและคุยกันตามประสาสาวๆ"คุณแพงนี่สวยน่ารักเหมือนที่พี่ชายฉันพูดให้ฟังเลยนะคะ" มนัญชนกอดชมหญิงสาวตรงหน้าไม่ได้ว่าเธอดูสวยสง่าแบบที่พี่ชายเธอเล่าให้ฟังจริงๆ"ขอบคุณค่ะ" แพงขวัญยิ้มอ่อนนับว่ายังดีที่แพทริคไม่พูดเรื่องที่ไม่สมควรพูดกับน้องสาวของเขา"ตอนที่พี่ชายฉันทำงานเค้าอาจจะมีการดุคุณแพงบ้างอย่าถือสาเค้าเลยนะคะ" มนัญชนกรู้ดีว่าคนที่ทำงานกับพี่ชายของเธอต้องเจอกับอะไรเพราะพี่ชายเธอค่อนข้างเป็นคนที่จริงจังกับการทำงานมาก"นี่ถึงกับต้องบอกกันไว้ก่อนเลยใช่ไหมคะ" "คนอื่นที่ทำงานกับพี่ชายฉันส่วนมากพี่แพทจะถูกมองว่าบ้าอำนาจแต่เค้าเป็นคนที่จริงจังกับการทำงานเท่านั้นเองค่ะเพียงแค่อยากให้ทุกอย่างออกมาดี""แล้วคุณหม่อนล่ะคะโดนดุบ้างหรือเปล่า" "ประจำเลยค่ะ" สาวเจ้าแอบกระซิบเบาๆ"โห.. อย่างนี้แพงต้องเตรียมใจไว้เลยใช่ไหมคะ""ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะคุณแพงเป็นคนเก่งนี่คะเรียนยังได้เกียรตินิยมเลยต่างจากฉันที่กว่าจะเรียนจบได้หนักหนาเอาการอยู่ค่ะ""แล้วคุณหม่อนชอบทำอาหารทำไมเรียนบริหารล่ะคะ""ต้องช่วยพี่แพทกับคุณพ่อน่ะค่ะ...แ
"ฉันเจ็บ..ไอ้บ้า" หญิงสาวเจ็บไปทั้งตัวด้วยการกระทำของคนเอาแต่ใจเนื้อตัวของเธอแดงไปด้วยแรงกระชากของเขาจึงสบถต่อว่าอย่างเหลืออด"ด่าผมอีกสิแล้วพรุ่งนี้คุณจะได้เดินไม่ได้""อื้มมม..." ว่าจบก็บดจูบร่างบางเปลือยเปล่าส่งลิ้นร้ายตวัดฉกชิมความหวานจากโพรงปากหญิงสาวพักใหญ่และรีบถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกอย่างเร่งรีบก่อนจะเริ่มสอดใส่แท่งร้อนที่พร้อมกับศึกรักเต็มที่แล้วไปที่ร่องสวาทของหญิงสาวอย่างรุนแรง"ฉัน.. เจ็บ.. อื้อ.. อ๊ายย.. " สาวเจ้ารู้สึดระบมไปทั้งตัวเมื่อคนตัวโตถาโถมแรงกระแทกเธอจนตัวโยนทั้งยังขบกัดเต้างามเธอเล่นจนเป็นรอยแดงไปทั่ว"อ..อ่าสส..อืมม..." ชายหนุ่มที่กำลังมัวเมากับอารมณ์ที่พลุ่งพล่านไม่ได้สนใจเสียงร้องค้านของคนตัวเล็กใต้ร่างแม้สักนิดยังคงใช้ร่างกายของเธอเป็นที่ระบายอารมณ์อย่างไร้ซึ่งความนุ่มนวลพักใหญ่จนเสร็จสมแตะขอบสวรรค์"ปากก็ว่าขยักแขยงแต่เสียงหวานของคุณครางไม่หยุดเลยนะครับ" เมื่อบทสวาทสงบชายหนุ่มก็ล้มตัวนอนกอดก่ายร่างบางที่นอนน้ำตาไหลอยู่เงียบๆทั้งเอ่ยเย้าหยอกหญิงสาวด้วยน้ำเสียงระรื่น"หยุดพูดไปเลย...ฉันอยากรู้ว่าคุณจะปล่อยฉันกลับบ้านเมื่อไร" ใบหน้านวลหันมามองค้อนชายหนุ่มทีาเ
"ฮือๆๆ. ย่าค้าบบ.. ฮือๆๆ.. ""เจ้าหนู.. อืม.. ออกมากับพี่นะไปหาคุณย่าเรากัน"ปึก "โอ้ยย.." มนัญชนกตามเสียงร้องของเด็กชายไปจนเจอและรีบเอาเสื้อที่เธอชุบน้ำคลุมร่างเด็กชายตัวอ้วนกลมก่อนจะวิ่งฝ่ากองเพลิงออกมาอย่างไม่คิดชีวิตจนขาของเธอถูกอะไรบางอย่างหล่นมากระแทกจนเลือดออกแต่นั่นก็ไม่ทำให้เธอหยุดได้"เห็นผู้หญิงที่ลงมากับผมหรือเปล่า" ทางด้านคามินเมื่อจัดการพื้นที่ให้รถดับเพลิงเสร็จเขาก็เดินออกมาถามหามนัญชนกกับพวกพนักงานเพราะไม่เห็นเธอยืนอยู่ตั้งแต่กลับมาแล้ว"ผู้หญิงตัวเล็กๆที่ใส่ชุดเดรสสีขาวหรือเปล่าครับ""ใช่...""เธอฝ่ากองไฟเข้าไปช่วยเด็กข้างในครับ" พนัดงานหนุ่มชี้มือเข้าไปในกองเพลิงที่กำลังโหม"แล้วให้เธอเข้าไปได้ยังไง" คามินตัวชาวาบหากหญิงสาวเป็นอะไรไปเขาคงไม่มีหน้าไปสู้กับพงษ์พัฒน์ที่ฝากผฝังเธอให้มาเรียนรู้การทำอาหารจากโรงแรมของเขาแน่"เธอวิ่งเข้าไปเองครับพวกผมห้ามเอาไว้ไม่ทัน.. นั่นไงออกมาแล้ว" พนักงานหนุ่มโล่งอกเมื่อเห็นหญิงสาววิ่งออกมาพร้อมเด็กชายในอ้อมอก"น้องไพร์มหลานย่า.." หญิงชราที่นั่งร้องให้ฟูมหายเมื่อเห็นหญิงสาวอุ้มหลานเธอออกมาได้ก็รีบไปรับอย่างรวดเร็ว"ย่าค้าบบ.." เด็กชายเห
"โถ่โว้ยยยย..."ปึกๆๆแพงขวัญได้ยินเสียงแพทริคโวยวายอยู่ด้านในจึงรีบวิ่งเข้ามาดูเมื่อเห็นว่าเขากำลังสาวหมัดไปที่ผนังจนเลือดออกเธอจึงรีบรั้งตัวเขาเอาไว้ไม่ให้ทำร้ายตัวเองอีก"คุณแพทหยุด..คุณเป็นบ้าอะไรของคุณเนี่ย""ฮึก..ฮือๆๆ..ผมช่วยเค้าไม่ได้..ผมช่วยเค้าไม่ได้.." แพทริคตัวสั่นเทาฟุบกอดเข่าสะอื้นให้ด้วยความปวดใจที่เขาเห็นคนขาดใจตายต่อหน้า"ใจเย็นๆ...คุณทำดีที่สุดแล้ว" แพงขวัญดูท่าชายหนุ่มจะเป็นเอาหนักเธอจึงค่อยๆนั่งลงข้างๆเขาและกอดคนตัวโตที่ตัวสั่นเทาเอาไว้ก่อนจะเอ่ยปลอบเขาด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยสบายใจเท่าไรนัก ครู่ต่อมา"ฉันสั่งอาหารมาแล้วพรุ่งนี้เราค่อยออกข้างนอก.. นี่ของคุณฉันสั่งแซลมอนเกรดพรีเมี่ยมย่างซีอิ๊วมาให้คุณเลยนะทานสิ"หลังจากที่ชายหนุ่มสงบอารมณ์ได้แพงขวัญจึงพาเขาออกมานั่งข้างนอกเพราะเธอสั่งอาหารเอาไว้ตั้งแต่ตอนที่กลับมาถึงแล้ว"คุณทานไปเถอะผมไม่หิว...ถ้าคุณกลัวเหงาผมก็จะนั่งเป็นเพื่อน""อืมก็ได้...โห..ซูชิอร่อยจังเลย...ซุปสาหร่ายนี่ก็รสชาติกลมกล่อมหอมมากด้วยคุณดมดูสิ" สาวเจ้าที่อยากจะให้คนที่นั่งหน้าเศร้าทานอาหารพร้อมกับเธอเพราะเขาไม่ได้ทานอะไรมาตั้งแต่เมื่อกลางวันแล้วเพราะ
“ตอนแรกแม่ก็ไม่คิดว่าจะมีปัญหาแต่ตอนนี้เจ้าของเดิมเค้าเสียแล้วลูกหลานเค้าก็เลยอยากจะขอที่คืน” ศรีจันทร์เองก็ไม่คิดว่ามันจะมีปัญหาอะไรจึงไม่ได้กังวลเรื่องที่ทางเท่าไรนักแต่เมื่อเจ้าของที่เดิมเสียเธอก็ไม่คิดว่าลูกๆหลานๆของเจ้าของที่จะมาขอที่คืนกะทันหัน“เดี๋ยวผมจะจัดการเจรจาซื้อที่ที่นี่ให้นะครับแม่ศรีไม่ต้องกังวังวลยังไงเด็กๆก็จะมีที่อยู่แน่นอนครับ” แพทริครับปากศรีจันทร์ด้วยแววตาที่มั่นใจเพราะเขาจะไม่ยอมให้เด็กๆไม่มีที่อยู่เด็ดขาดเจ้าของใหม่อยากจะขายที่นี่แพงเท่าไรเขาก็จะควักเงินจ่ายหากไม่ยอมเขาก็จะซื้อที่ที่อื่นให้เด็กๆอยู่ให้มันรู้แล้วรู้รอดเพราะเขาทนเห็นเด็กเหล่านี้ไม่มีที่อยู่ไม่ได้ครู่ต่อมา“เค้ามาที่นี่บ่อยเหรอคะแม่ศรี” แพงขวัญนั่งคุยกันสองคนกับศรีจันทร์ขณะที่แพทริคกำลังสอนเด็กๆเรื่องโปรแกรมในคอมพิวเตอร์“ไม่หรอกจ่ะ..ส่วนมากแพทริคจะส่งเงินมาเท่านั้นเพราะงานเค้าค่อนข้างยุ่ง” ศรีจันทร์ส่ายหัวก่อนจะตอบด้วยรอยยิ้มอ่อนตั้งแต่ที่แพทริคไปอยู่อังกฤษเขาก็ไม่ค่อยได้มาที่นี่เท่าไร“แม่ศรีดูแลเด็กตั้งเยอะเลยไม่เหนื่อยบ้างเหรอคะ” แพงขวัญเห็นเด็กๆที่นี่ค่อนข้างเยอะแถมยังมีทุกวัยเธอเห็นแล้ว
เช้าวันต่อมา“เมื่อคืนคุณน่ารักมากเลย” ชายหนุ่มพรมจูบไหล่มนของหญิงสาวที่เปลือยเปล่าอยู่ใต้ผ้าห่มผืนหนาอยู่กับเขา“เมื่อไรคุณจะพาฉันกลับบ้าน” แพงขวัญหน้าแดงเล็กน้อยที่เมื่อคืนเธอเผลอตัวเผลอใจไปกับรสรักของเขาก่อนจะเอ่ยถามว่าเมื่อไรเขาจะปล่อยเธอไป“ผมอยากให้คุณอยู่กับผมก่อนนี่” “คุณให้คำตอบฉันเถอะนะคะว่าจะบังคับฉันแบบนี้ไปเพื่ออะไร” แพงขวัญตั้งคำถามชายหนุ่มรอบที่เกือยร้อยได้ว่าเขาทำแบบนี้กับเธอไปเพื่ออะไรกันแน่“ผมอยากให้คุณเป็นผู้หญิงของผม” เสียงทุ้มเอ่ยพร้อมพลิกร่างบางให้มามองหน้าของเขา“คุณรู้สึกยังไงกับฉันกันแน่” แพงขวัญขมวดคิ้วเล็กน้อยคำพูดของเขาทำเอาใจของเธอสั่นระรัวเพราะเธอเองก็เริ่มมีใจให้กับคนที่เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายคนนี้ไปเสียแล้ว“คำพูดที่ผมพูดคุณก็น่าจะเดาออกนะ...แล้วคุณล่ะตอนนี้รู้สึกยังไงกับผมพอจะมองผมดีขึ้นจากแต่ก่อนหรือเปล่า” แพทริครู้อยู่แก่ใจแล้วว่าหญิงสาวคิดกับเขาอย่างไรไม่อย่างนั้นตื่นมาคงพยศเขาไปแล้วไม่อ่อนลงแบบนี้แต่ก็อยากจะฟังคำตอบจากปากของเธอ“....” สาวเจ้าหลบสายตาก้มหน้างุดซุกลงกับอกแกร่งคิดว่ากิริยาของเธอก็พอจะทำให้เขาเข้าใจได้“..ผมดูจากความน่ารักของคุณเมื่
ห้างสรรพสินค้า"จะซื้อเสื้อผ้าเหรอคะ" แพงขวัญเดินเข้ามาในร้านเสื้อผ้าแบรนด์ดังพร้อมแพทริคที่กำลังเดินจูงมือเธออยู่"ครับ...คุณว่าแบบไหนเหมาะกับผม" แพทริคชี้ไปที่เสื้อเชิ้ตหลากสีสันที่อยู่ในราว"อืม...ก็แบบนี้สิ..รุ่นนี้ใหม่ล่าสุดของแบรนด์นี้เลยนะ" แม้นว่าโซนนี้จะเป็นของผู้ชายแต่คนที่ชอบแฟชั่นอย่างแพงขวัญก็รู้ว่าเสื้อผ้าเหล่านี้เป็นแบบใหม่หรือแบบเก่า"นับว่าผมพาคนช่วยเลือกมาถูกคน...งั้นคุณเลือกให้ผมสักสองสามชุดนะครับเดี๋ยวผมมา" "คุณจะไปไหนคะ""ทำธุระนิดหน่อยครับ""โอเคค่ะ" สาวเจ้ามองตามหลังคนที่พึ่งเดินออกไปแต่ก็ไม่ได้สนใจมากนักว่าเขาจะไปไหนเพราะมีความสุขกับการเลือกเสื้อผ้ามากกว่าครู่ต่อมาร้านอาหารหังจากที่แพงขวัญเลือกเสื้อผ้าให้ชายหนุ่มเรียบร้อยแล้วทั้งคู่ก็มานั่งทานอาหารในร้านอาหารสุดหรูของห้างที่นี่"นี่ที่หายไปมาจองที่นี่เหรอคะ" แพงขวัญนั่งลงที่โต๊ะอาหารในโซนไพรเวทและเป็นมุมที่สวยที่สุดในร้านตอนนี้ที่นี่มีเพียงแค่เธอกับแพทริคแค่สองคนกับอาหารที่เต็มโต๊ะเธอจึงคิดว่าเมื่อครู่ที่แพทริคหายไปคงเป็นเพราะมาจัดการเรื่องที่ร้านเป็นแน่"เปล่าครับที่นี่ผมจองไว้สองวันแล้ว...ที่หายไปเพราะ
"......" คามินแทบยืนไม่อยู่เนื้อตัวชาวาบไปหมดเมื่อจู่ๆคนที่เขาคิดจะสร้างครอบครัวด้วยกลับเลือกคนที่มาทีหลังได้ไม่นานตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมเขาถึงติดต่อเธอลำบากยากเย็นเหลือเกิน"แพงขอโทษนะคะที่แพงเป็นคนรักที่ไม่ได้เรื่อง" แพงขวัญสะอึกสะอื้นเธอยอมรับผิดทุกอย่างเพราะเธอเผลอให้ใจกับแพทริคไปอย่างง่ายดาย"พี่เข้าใจแล้ว.." คามินเอ่ยเสียงสั่นก่อนจะกดวางสายของแพงขวัญตอนนี้ความรู้สึกมันเจ็บจุกอยู่ในอกเหมือนอยากจะร้องให้แต่มันก็ร้องไม่ออก"แพงขอโทษค่ะพี่มิน..ฮือๆๆ..." หลังจากวางสายได้แพงขวัญก็สะอึกสะอื้นเพราะความรู้สึกผิด"......" แพทริคยืนมองหญิงสาวอยู่ห่างๆด้วยสายตาที่คาดเดาอารมณ์ไม่ถูกในใจลึกๆไม่ชอบที่จะเห็นหญิงสาวร้องให้แต่อีกใจก็ดีใจที่แผนการดำเนินไปได้ด้วยดีหลังจากนี้คนที่น้ำตาตกจะไม่ใช่แค่แพงขวัญเพียงคนเดียวจะเป็นพงษ์พัฒน์ที่ต้อเจ็บกว่าแพงขวัญหลายเท่าเมื่อเห็นแพงขวัญตกอยู่ในความทุกข์เย็นของวัน มนัญชนกเตรียมตัวรอคามินตั้งแต่ห้าโมงเย็นแต่นี่ก็หกโมงกว่าจนเกือบจะมืดแล้วแต่เขาก็ไม่ยักจะมาเสียทีทั้งโทรหาเท่าไรเขาก็ไม่ยอมรับ"วันนี้ไม่มาสอนหม่อนเหรอคะคุณมิน" หญิงสาวตัดสินใจส่งข้อคว
อาทิตย์ต่อมาเย็นของวัน“ท่านประธานเรียกวีมามีเรื่องอะไรเหรอคะ” วีนาเดินนาวยนาถเข้าห้องของคามินมาด้วยรอยยิ้มกว้างก่อนจะหย่อยก้นลงนั่งตรงหน้าคามินส่งน้ำเสียงหวานถามอีกฝ่าย“ผมต้องการให้คุณวีไปทำหน้าที่พีอาร์ของโรงแรมน่ะครับ” “อะไรนะคะ..วีทำงานให้ท่านประธานไม่ดีหรืออะไรบอกวีมาได้เลยนะคะ” รอยยิ้มกว้างเมื่อครู่ของวีนาหุบลงทันทีเมื่อคามินแจ้งความประสงค์ออกมาเพราะตอนนี้เขาหาเลขาคนใหม่ได้แล้วเป็นผู้ชายและจะเริ่มงานอาทิตย์หน้าเขาเลยต้องแจ้งให้หญิงสาวรู้กะทันหันว่าเขาต้องการให้เธอไปทำหน้าที่อื่น“เปล่าครับคุณทำงานดีมากและบุคลิกของคุณผมว่าเหมาะกับงานด้านนี้มากกว่าแถมเงินเดือนผมก็จะเพิ่มให้คุณด้วยนะครับ” “เอ่อ..แล้วจะให้วีเริ่มงานพีอาร์ได้เมื่อไรล่ะคะ”“อาทิตย์หน้าครับคุณเตรียมตัวได้เลยนะครับ”“ค่ะท่านประธาน” วีนาเดินออกจากห้องของคามินไปด้วยสีหน้าที่ค่อนข้างไม่พอใจพอสมควรไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ๆคามินถึงได้เปลี่ยนให้เธอไปทำงานอื่นกะทันหันทำให้เธอต้องอยู่ห่างเขาไปอีกเย็นของวันร้านอาหารหลังจากเลิกงานได้คามินก็ขับรถไปรับภรรยารักของเขาออกมาทานข้าวเย็นที่ร้านอาหารข้างนอกเพราะอยากเปลี่ยนบรรยากา
วันต่อมาร้านอาหารหรู"พาหม่อนมาที่นี่ทำไมคะคุณมิน" มนัญชกถูกคามินเดินจูงมือจากลานจอดรถมาที่น้านอาหารหรูที่ห้อางดังใจกลางเมืองคราแรกเขาบอกกับเธอว่าจะมาทำธุระนิดหน่อยแต่ไม่รู้ว่าเขาจูงเธอเข้ามาในรอานอาหารเพื่ออะไรแถมในร้านนี้ก็ยังไม่มีคนอยู่แม้แต่คนเดียวอีกต่างหาก"ตามผมมาตรงนี้สิครับ" "นี่มัน..." เดินเข้าร้านมาไม่น่นนักคามินก็พาหญิงสาวเดินมาด้านในสุดของร้านที่เป็นโซนที่มองเห็นวิวทิวทัศน์แม่น้ำสายใหญ่ได้ป็นอย่างดีรอบๆรายล้แมไปด้วยลูกโป่งสีชมพูละลานตาและตรงกลางก็มีโต๊ะอาหารที่มีอาหารวางเรียงรายอยู่เต็มโต๊ะตอนนี้เธอพอจะดูออกแล้วว่าเขาคงจะเซอร์ไพรซ์อะไรเธอแน่นอน"ผมปิดร้านนี้เพื่อทานข้าวกับคุณเลยนะครับ..นั่งก่อนสิครับ""ค่ะ" ใบหน้าหวานยิ้มอ่อนเล็กน้อยที่คามินมีเวลาเอาใจเธอบ้าง"ผมขอโทษคุณจริงๆที่ผมไม่มีเวลาทานข้าวเย็นกับคุณเลยผมรู้ว่าคุณอาจจะไม่ชอบแต่จากนี้ผมจะพยายามกลับบ้านมาทานข้าวเย็นกับคุณทุกวันนะครับ" หลังจากหญิงสาวนั่งลงได้คามินก็เปิดกล่องกำมะหยี่สีเทาหยิบสร้อยที่มีจี้เพชรรูปหัวใจมาสวมใส่ให้เธอเพื่อเป็นการปลอบใจก่อนจะหย่อนก้นลงนั่งตรงหน้าหญิงสาวกุมมือเธอเอาไว้หลวมๆสัญญากับเ
วันเวลาพ้นผ่านไปอย่างรวดเร็วจวบจนแพงขวัญท้องโตได้หกเดือนกว่าแล้วตอนนี้ดูแพงขวัญและแพทริคจะหวานกันเป็นพิเศษตั้งแต่ปรับความเข้าใจกันได้ก็ตัวติดกันเป็นแตงเมในส่วนของมนัญชนกและคามินทั้งคู่ก็จดทะเบียนสมรสกันเงียบๆต่อหน้าคนในครอบครัวคราแรกคามินต้องการที่จะจัดงานใหญ่โตให้สมเกียรติแต่มนัญชนกเป็นคนไม่ชอบพิธีอะไรมากมายเพราะวุ่นวายเปล่าๆคามินจึงตามใจเธอจนตอนนี้ก็ร่วมเดือนกว่าแล้วที่คามินและมนัญชนกใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันชีวิตคู่ของมนัญชนกและคามินไม่ค่อยหวานเหมือนแพทริคและแพงขวัญเท่าไรนักเพราะเวลาหลังจากแต่งงานประจวบเหมาะกับงานที่โรงแรมของคามินกำลังยุ่งมากพอดีพวกเขาเลยยังไม่มีเวลาฮันนีมูนหลังแต่งงานแถมคามินยังทำงานหามรุ่งหามค่ำข้าวเช้าไม่ได้ทานกลับบ้านมาก็ดึกจนมนัญชนกเหมือนจะใช้ชีวิตคนเดียวอยู่แล้ว22.00 น."ช่วงนี้กลับดึกทุกวันเลยนะคะ" มนัญชนกที่นั่งอยู่บนเตียงนุ่มเอ่ยพูดกับคนเป็นสามีที่พึ่งอาบน้ำเสร็จยอมรับเลยว่าน้อยใจอยู่ลึกๆที่เขากลับดึกแทบทุกวันแต่ต้องเก็บอาการ"ผมต้องทำงานคนเดียวเลยนะครับเลขาผมลาออกกะทันหัน" คามินแต่งตัวเสร็จก็รีบเข้ามากอดภรรยาตนเอาไว้แน่นด้วยความคิดถึงตอนนี้เขายุ่งกับง
"ผมจะไม่ยอมปล่อยคุณไปไหนอีกแล้วผมรักคุณได้ยินหรือเปล่าว่าผมรักคุณ" แพทริคเดินเข้ามารวบกอดร่างบางแน่นด้วยความคิดถึง"ปล่อยฉัน""ผมคิดถึงคุณจนจะบ้าอยู่แล้วรู้หรือเปล่าคุณไม่คิดอยากจะติดต่อหาผมบ้างหรือไง""ไม่คิดค่ะเพราะไม่อยากติดต่อ" แพงขวัญยังคงต้องการจะกวนประสาทของอีกฝ่ายต่อก่อนจะเดินหนีเข้าห้องหมายจะปิดประตูหนีแต่ก็ถูกอีกฝ่ายตามเข้ามาจนได้"ไม่ติดต่อกับผมแต่ติดต่อกับน้องผมได้งั้นสิ..แสบกันนักนะ" ว่าจบสองมือหนาก็รวบใบหน้านวลให้เงยขึ้นก่อนจะบดจูบไปที่ริมฝีปากบาง"อื้ออ.. คุณแพท" มือเรียวทั้งสองผลักใบหน้าคมของเขาออกที่จู่มาถึงก็กระทำเอาแต่ใจกับเธอทันที"ผมจะจูบคุณให้ปากเปื่อยโทษฐานที่แกล้งผม""คุณอยากร้ายใส่ฉันก่อนทำไมล่ะคะ" ดวงตาหกลมโตมองค้อนคนเป็นสามีเล็กน้อย"ผมขอโทษ...ต่อจากนี้ผมจะเป็นคนดีของคุณกับลูกผมสัญญา" แพทริครีบเอ่ยขอโทษหญิงสาวกับเรื่องราวที่ผ่านมาเขารู้ว่าเธอยังรักเขาก่อนจะสัญญากับเธอว่าเขาจะไม่ทำให้เธอต้องเสียใจอีกเพี๊ยะ "สำหรับที่คุณหลอกฉัน" เพี๊ยะ "สำหรับที่คุณไปนอนกับผู้หญิงคนอื่น" แพงขวัญเงื้อมมือฟาดไปที่แก้มสากของแพทริคสองทีเพื่อที่เธอจะได้ไม่รู้สึกติดค้าง
"อืม.." คามินยิ้มกริ่มที่มนัญชนกเผลอไผลไปกับรสสัมผัสของเขาได้เขาค่อยๆละจูบเงยหน้ามองใบหน้านวลที่แก้มแดงเปล่งเป็นลูกตำลึงและกำลังหันหน้าหลบสายตาของเขาอยู่อย่างเอียงอายเขายิ่งมองเธอแบบนี้ก็ยิ่งหลงไหลเวลาปกติเธอน่ารักแล้วแต่เมื่ออยู่ใกล้ชิดกับบนเตียงแบบนี้เธอยิ่งน่ารักกว่าปฏิกิริยาที่ไร้การปฏิเสธทำให้เขาไม่ต้องถามเธอเลยว่าเธอรู้สึกอย่างไรกับเขาใจเธอกับเขาตอนนี้คงรู้สึกไม่ต่างกันเท่าไร"คุณน่ารักที่สุดเลย" เสียงแหบพร่าพ่นอยู่ข้างๆแก้มนวลก่อนจะยื่นมือหนาปิดไฟที่หัวเตียง"อื้มม.." สองมือหนาประสานกับมือเรียวของหญิงสาวขึงเอาไว้แนบกับเตียงนุ่มก่อนจะโน้มตัวลงบอดจูบนุ่มนวลสอดส่ายลิ้นร้ายฉกชิมความหวานจากปากคนตัวเล็กอีกครั้งเนิ่นนานเสียจนริมฝีปากบางชาและห้อเลือดเล็กน้อยไม่นานนักคนตัวโตก็จัดการเปลื้องผ้าทั้งเขาและเธอออกไปจนหมดให้หลงเหลือแต่ความอบอุ่นใต้ผ้าห่มจากการที่เนื้อแนบเนื้อเท่านั้น".. อ๊ะ.. อืม.." มนัญชนกแอ่นอกรับริมฝีปากของคนตัวโตอย่างลืมอายเพราะเมื่อปลายลิ้นสัมผัสกับยอดอกอิ่มของเธอก็รู้สึกวาบหวิวไปทั้งตัวจนควบคุมร่างกายตัวเองไม่ได้"อืม.." คามินก้มฟัดอกอิ่มสลับกับบดจูบริมฝีปากบางด้วยอาร
สองสาวคุยกันอยู่พักใหญ่ถึงแผนการที่มนัญชนกคิดเอาไว้มนัญชนกไม่ยอมให้แพทริครู้เรื่องว่าแพงขวัญอยู่ที่ไหนเพราะเธอเองก็อยากจะเห็นว่าพี่ชายเธอมานะที่จะตามหาแพงขวัญจริงๆหรือไม่โดยที่หลังจากนี้เธอกับคามินจะไม่บอกข้อมูลและไม่ช่วยเหลืออะไรแพทริคทั้งนั้น“คุณแพงว่าดีหรือเปล่าคะ”“ดีเหมือนกันค่ะถือซะว่าแพงเอาคืนแล้วกันนะคะ” แพงขวัญยิ้มอ่อนเห็นว่าวิธีแก้เผ็ดแพทริคที่มนัญชนกเสนอก็ดีเหมือนกันและเธอก็จะได้เห็นด้วยว่าเขาจะพยายามตามหาเธอได้ไวเท่าไร“แต่ว่าถ้าพี่ชายหม่อนหาคุณแพงเจอแล้วหม่อนขอร้องนะคะอย่าหันหน้าหนีกันอีกเพื่อเจ้าตัวเล็กที่กำลังจะเกิดมา”“ค่ะ” แพงขวัญเงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่จะตอบตกลงกับมนัญชนกไปหากเขารักเธอจริงและเธอเองก็รักเขา...มันก็ไม่ได้ยากที่เธอจะให้อภัยแต่หากมีโอกาสเอาคืนเขาบ้างเธอก็อยากจะทำเพื่อดัดนิสัยคนที่เจ้าแผนการให้เจ็บปวดเล่นดูบ้าง เย็นของวัน"นี่ตามสูตรที่คุณมินเคยสอนฉันเลยนะคะ" คามินกับมนัญชนกง่วนกันอยู่ในครัวเรื่องการทำอาหารเย็นส่วนแพงขวัญเธอนั่งเล่นอยู่ด้านนอกเพราะได้กลิ่นอาหารมากไม่ได้เดี๋ยวจะอาเจียนออกมาอีกตอนนี้เธอถูกกับอาหารจำพวกผลไม้เท่านั้น"ผมมีสูตรอาหารอีกหลา
หลายวันต่อมา หลังจากวันนั้นที่แพงขวัญสูญเสียคนเป็นพ่อไปเธอก็เอาแต่นั่งเสียใจทานอะไรไม่ได้นอนไม่หลับจนทุกคนก็หดหู่ไปตามๆกันทั้งห่วงสภาพจิตใจของแพงขวัญและลูกในท้องของเธออีกจวบจนวันนี้ก็ถึงวันที่แพงขวัญต้องมาลอยอังคารแล้วน้ำตาของเธอก็ยังไม่เคยเหือดแห้งไปเลยแม้แต่วินาทีเดียวคนที่เจ็บปวดที่สุดตอนนี้ก็เห็นจะเป็นแพทริคที่ทำได้เพียงแค่ตามดูหญิงสาวห่างๆเท่านั้นเพราะไม่อยากทำให้เธอเจ็บปวดใจเมื่อเห็นหน้าของเขา"ผลสอบสวนออกมาแล้วนะครับแพง" หลังจากที่ลอยอังคารเรียบร้อยแล้วคามินก็พาแพงขวัญมาคุยเรื่องคดีที่บ้านของมนัญชนก"ว่ายังไงบ้างคะ""คุณแพทไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้คนที่ขับรถชนคุณอาเป็นคนเมาที่อยู่แถวนั้น...พี่ว่าแพงลองลดทิฐิคุยกับคุณแพทดูใหม่ดีหรือเปล่า" จากหลายวันที่ผ่านมาที่แพทริคเฝ้าดูแลแพงขวัญอยู่ห่างตลอดทำให้เขารู้ว่าแพทริครักและห่วงใยแพงขวัญอยู่ไม่น้อยเขาจึงอยากให้ทั้งคู่ลองเริ่มต้นกันใหม่อีกสักครั้งเพื่อลูกในท้องที่กำลังจะเกิดมา"......" แพงขวัญก้มหน้างุดไม่ยอมตอบอะไรแม้นเขาจะไม่ได้ทำร้ายพ่อของเธอจริงแต่เรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั้นเธอก็ยังเจ็บปวดใจไม่หาย"หม่อนขอโทษนะคะที่ไม่เชื
“แพง” คามินเข้ามาหามนัญชนกในช่วงเย็นเมื่อเข้าบ้านมาได้เห็นแพงขวัญนั่งเหม่ออยู่ที่หน้าบ้านจึงเอ่ยทักขึ้นไม่รู้ว่าหญิงสาวจะอยู่ที่นี่ด้วย“พี่มิน..” ไม่ใช่แค่คามินตกใจที่แพงขวัญอยู่ที่นี่แต่เป็นแพงขวัญก็ตกใจที่คามินมาที่บ้านของมนัญชนกเหมือนกัน“พี่มินสบายดีนะคะ...ที่แผลไปโดนอะไรมาคะ” แพงขวัญชวนคามินข้ามานั่งคุยกันในห้องรับแขกในบ้านตอนนี้เธอไม่ค่อยกล้าที่จะมองหน้าคามินเท่าไรเพราะยังรู้สึกผิดกับเขาอยู่ไม่น้อยแต่ก็แอบสงสัยว่าชายหนุ่มไปทำอะไรมาถึงได้มีพลาสเตอร์ปิดที่หางคิ้ว“ครับพี่สบายดี..อุบัติเหตุนิดหน่อย” ตอนนี้คามินยิ้มให้หญิงสาวได้อย่างไม่มีอะไรตะขิดตะขวงใจแล้วเพราะเขาไม่อยากยึดติดอยู่กับอดีต“แพงขอโทษกับเรื่องที่..” “ไม่ต้องขอโทษพี่หรอกครับพี่เข้าใจต่อไปนี้เรามาเป็นพี่น้องกันนะครับ” คามินไม่อยากให้แพงขวัญพูดเรื่องเก่าขึ้นมาเพราะเขาก็ไม่อยากพูดถึงมันเหมือนกัน“ขอบคุณนะคะพี่มิน” สาวเจ้าพอจะยิ้มออกได้บ้างเมื่อเรื่องที่รู้สึกผิดต่อคามินผ่อนคลายลงด้วยคำพูดของเขาคามินยังคงเป็นพี่ชายที่แสนดีของเธอเสมอไม่เปลี่ยนไปเลยจริงๆ“แล้วทำไมแพงถึงมาอยู่ที่นี่ล่ะครับ” คามินอยากจะรู้มากกว่าว่าทำไ
RrrrrRrrrrr มนัญชนกรีบกดรับสายคนเป็นพ่อ“ค่ะคุณพ่อ...ค่ะหม่อนจะรีบกลับนะคะ” “มีอะไรเหรอ” “คุณพ่ออยู่ที่บ้านค่ะท่านจะมาทานข้าวเย็นกับฉัน” หญิงสาวไม่รู้ว่าทำไมพ่อเธอถึงมาหากะทันหัน“อืม...แล้วเรื่องเรา”“ค่ะ...ฉันจะไม่หลบหน้าคุณ” มนัญชนกรับปากชายหนุ่มเธอก็อยากจะพิสูจน์ด้วยเวลาต่อจากนี้เหมือนกันว่าที่เขาพูดกับเธอมามันจริงแค่ไหน“ขอบคุณนะครับ” คามินยิ้มอ่อนอย่างพึงพอใจอย่างน้อยต่อไปนี้เขาก็จะได้เจอเธอเหมือนเดิมแล้วแม้เธอจะไม่ไว้ใจเขาเหมือนเดิมก็ตามเขาจะพิสูจน์ให้เธอได้เห็นว่าคำพูดของเขาไม่ใช่เพียงลมปากแต่จะทำให้เธอได้เห็นจริงๆว่าเขานั้นจริงใจกับเธอชั่วโมงต่อมา ร่วมชั่วโมงกว่าคามินจะมาส่งมนัญชนกถึงบ้านเมือมาถึงหญิงสาวก็เหนว่าคนเป็นพ่อยืนรออยู่หน้าบ้านกับคนสนิทอีกสองสามคนแล้วจึงถือโอกาสนี้แนะนำให้คามินได้รู้จักพ่อของเธอเอาไว้หลังจากรู้จักกันเพียงแค่ชื่อมานานแล้ว“คุณพ่อฉันค่ะ...คุณพ่อคะนี่คุณคามินที่สอนฉันทำอาหาร” “สวัสดีครับยินดีที่ได้รู้จักนะครับ” คามินยื่นมือทักทายโทมัสอย่างเป็นมิตรเคยได้ยินชื่อเสียงทางธุรกิจของเขามานานวันนี้ก็ได้เจอตัวจริงเสียทีนับว่าเขายังดูหนุ่มแน่นกว่าที่เ