Share

ตอนที่เก้า ภาพความเจ็บปวด

"ฮือๆๆ. ย่าค้าบบ.. ฮือๆๆ.. "

"เจ้าหนู.. อืม.. ออกมากับพี่นะไปหาคุณย่าเรากัน"

ปึก "โอ้ยย.." มนัญชนกตามเสียงร้องของเด็กชายไปจนเจอและรีบเอาเสื้อที่เธอชุบน้ำคลุมร่างเด็กชายตัวอ้วนกลมก่อนจะวิ่งฝ่ากองเพลิงออกมาอย่างไม่คิดชีวิตจนขาของเธอถูกอะไรบางอย่างหล่นมากระแทกจนเลือดออกแต่นั่นก็ไม่ทำให้เธอหยุดได้

"เห็นผู้หญิงที่ลงมากับผมหรือเปล่า" ทางด้านคามินเมื่อจัดการพื้นที่ให้รถดับเพลิงเสร็จเขาก็เดินออกมาถามหามนัญชนกกับพวกพนักงานเพราะไม่เห็นเธอยืนอยู่ตั้งแต่กลับมาแล้ว

"ผู้หญิงตัวเล็กๆที่ใส่ชุดเดรสสีขาวหรือเปล่าครับ"

"ใช่..."

"เธอฝ่ากองไฟเข้าไปช่วยเด็กข้างในครับ" พนัดงานหนุ่มชี้มือเข้าไปในกองเพลิงที่กำลังโหม

"แล้วให้เธอเข้าไปได้ยังไง" คามินตัวชาวาบหากหญิงสาวเป็นอะไรไปเขาคงไม่มีหน้าไปสู้กับพงษ์พัฒน์ที่ฝากผฝังเธอให้มาเรียนรู้การทำอาหารจากโรงแรมของเขาแน่

"เธอวิ่งเข้าไปเองครับพวกผมห้ามเอาไว้ไม่ทัน.. นั่นไงออกมาแล้ว" พนักงานหนุ่มโล่งอกเมื่อเห็นหญิงสาววิ่งออกมาพร้อมเด็กชายในอ้อมอก

"น้องไพร์มหลานย่า.." หญิงชราที่นั่งร้องให้ฟูมหายเมื่อเห็นหญิงสาวอุ้มหลานเธอออกมาได้ก็รีบไปรับอย่างรวดเร็ว

"ย่าค้าบบ.." เด็กชายเห็นคนเป็นย่าก็โผเข้ากอดเลยทันที

"ปลอดภัยแล้วนะครับ" มนัญชนกดีใจจนลืมเจ็บเธอค่อยๆยื่นมือแตะหัวเด็กชายด้วยความเอ็นดูเธอยิ้มภูมิใจจนลืมเจ็บที่ได้ช่วยชีวิตคนเอาไว้ได้

"ขอบคุณหนูมากเลยนะ" หญิงชราขอบคุณหญิงสาวยกใหญ่ก่อนจะอุ้มหลานชายเดินกลับไป

"คุณหม่อน.."  คามินเห็นว่ามนัญชนกมีเลือดออกที่ขาซ้ายจึงรีบเข้ามาประคองเธออย่างรวดเร็ว

"เด็กปลอดภัยอล้วนะคะ" มนัญชนกเงยหน้ามองคามินด้วยรอยยิ้มอ่อนก่อนที่สติของเธอจะดับวูบไป

"คุณหม่อน...คุณหม่อน"

 โรงพยาบาล

  ตอนนี้มนัญชนกอยู่ในโรงพยาบาลเธอสลบเพราะสูดควันเข้าไปมากเกินไปหมอจึงให้เธอนอนพักที่โรงพยาบาลคืนนึงเพื่อดูว่าจะไม่มีอาการแทรกซ้อนแน่ๆพรุ่งนี้ถึงจะให้กลับบ้านส่วนคามินก็ดูแลหญิงสาวอยู่ไม่ห่างเพราะเธอต้องเกือบตายเพราะอุบัติเหตุที่เกิดจากโรงแรมของเขา

"ผมขอโทษนะครับที่ปล่อยให้คุณไปเจอเหตุการณ์แบบนั้น"  สีหน้าของคามินตอนนี้ไม่สู้ดีเลยสักนิดทั้งห่วงหญิงสาวทั้งยังกังวลถึงความเสียหายที่โรงแรม

"ฉันเลือกที่จะทำมันเองนะคะคุณไม่ต้องขอโทษหรอกค่ะ...แล้วเรื่องนี้ฉันขอให้คุณเก็บเป็นความลับนะคะ" มนัญชนกหลุบสายตาต่ำลงเล็กน้อย

"ทำไมเหรอครับ"  คามินไม่เข้าใจว่าหญิงสาวทำไมต้องให้เขาทำแบบนั้นด้วย

"ฉันไม่อยากให้ใครต้องมาเป็นห่วงน่ะค่ะ"  มนัญชนกรู้ดีว่าหากเรื่องรู้ถึงพี่ชายและพ่อเธอคงไม่วายโดนดุอีกแน่นอนที่ทำอะไรไม่ค่อยจะคิดถึงตัวเอง

"ก็ได้ครับ..งั้นเดี๋ยวคืนนี้ผมจะนอนเฝ้าคุณเอง"

"ไม่ต้องหรอกค่ะคุณคงมีเรื่องต้องจัดการอีกเยอะ" ใบหน้าหวานส่ายหงึกหงักเธอไม่อยากให้เขามาลำบากเพราะเธออีกไหนที่โรงแรมของเขาก็ยุ่งพอแล้ว

"ผมให้คนของผมจัดการแล้วล่ะครับอีกอย่างขาคุณก็เจ็บอยู่ให้ผมดูแลคุณดีกว่านะครับ"   และแล้วมนัญชนกก็ต้องยอมให้คามินอยู่เฝ้าเพราะเธอไล่เท่าไรเขาก้ไม่ยอมกลับ

   ตกดึกมนัญชนกอยากจะเข้าห้องน้ำเธอเห็นว่าคามินหลับอยู่เลยไม่อยากจะปลุกจึงค่อยๆเดินกะเผลกเกาะผนังเพื่อที่จะเข้าห้องน้ำ

"จะไปห้องน้ำเหรอครับ" คามินรู้สึกตัวเมือ่ได้ยินเสียงเตียงของหญิงสาว

"ค่ะ " มนัญชนกหน้าเจื่อนที่เธอเป็นสาเหตุทำให้ชายหนุ่มตื่น

"เดี๋ยวผมพาไป...แบบนี้ไวกว่าเยอะเลย"  ชายหนุ่มอุ้มร่างบางด้วยท่าเจ้าสาวโดยที่เธอไม่ทันตั้งตัวไปส่งในห้องน้ำ

"ขอบคุณนะคะ" หญิงสาวตัวเกร็งเล็กน้อยเพราะไม่เคยที่จะถึงเนื้อถึงตัวกับผู้ชายคนอื่นที่ไม่ใช่พี่ชายหรือพ่อตัวเองแบบนี้

ญี่ปุ่น

"จะให้ทำยังไงคุณถึงจะเลิกยุ่งกับฉัน"  ทางด้านแพงขวัญและแพทริคไม่มีทีท่าว่าจะคุยกันดีเลยสักครั้งตั้งแต่อยู่ด้วยกันมาสามสี่วันแล้ว

"ไม่ขอบอกตอนนี้...แต่บอกไว้เลยว่าตอนนี้ชีวิตคุณเป็นของผมหากจะขัดขืนอะไรก็ขอให้รู้ไว้ว่าผมสามารถทำให้บริษัทพ่อคุณล้มละลายได้ทุกเมื่อ"  แพทริคคนั่งไขว่ห้างกอดอกมองหญิงสาวที่ใส่ชุดเดรสแขนตุ๊กตากระโปรงยาวสีขาวตรงหน้าด้วยสีหน้าที่ยียวนกวนอารมณ์หญิงสาวเล็กน้อย

"ขู่ได้ขู่ดี..ได้.."  ดวงตากลมโตตวัดหางตาใส่แพทริคด้วยความไม่พอใจก่อนจะเดินหนีเขาไปเดินเล่นที่หน้าบ้านเพราะเธอคงไปไหนไม่ได้ไกลหากคนอาแต่ใจไม่อนุญาตครั้นจะแหกกฎที่เขาตั้งเพื่อควบคุมเธอก็เบื่อที่จะฟังคำขู่

  เย็นของวัน

"จะพาฉันไปไหน" ร่างบางต้องลุกขึ้นพรวดเมื่อจู่ๆชายหนุ่มก็ดึงแขนเธอในขณะที่นั่งเล่นมือถืออยู่ให้เดินตามเขาออกจากบ้านพักไปก่อนจะยัดเธอเข้ามาในรถหรูที่ไม่รู้ว่าเขาไปเช่าหรือไปเอาของใครมาตอนไหน

"หาซื้อของมาทำอะไรทานไง...อยากอดตายเหรอ"   แพทริคยัดหญิงสาวใส่รถได้เขาก็เดินอ้อมมาอีกฝั่งเมื่อเข้ามานั่งได้ก็เอื้อมมือไปดึงเบลมาคาดให้หญิงสาวเพราะดูเธอช่างไม่รู้หน้าที่ตัวเองเลยว่าขึ้นรถแล้วต้องทำอะไรก่อนจะเอ่ยแกล้งประชดหญิงสาว

"เลิกพูดยียวนฉันทีได้ไหม" แพงขวัญรีบหันหน้าหนีคนที่ยื่นหน้ามาใกล้พวงแก้มของเธอทั้งต่อว่าเขาไปหนึ่งทีก่อนที่เขาจะผละออกจากตัวเธอไป

   ทั้งสองออกจากบ้านพักมาได้ครู่ใหญ่แพทริคก็ต้องชะลอรถก่อนจะจอดข้างถนนเมื่อเห็นว่าตอนนี้มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นตรงหน้าและเขาก็เห็นผู้หญิงนอนเจ็บอยู่กลางถนนด้วย

"นั่นอะไร" ว่าจบชายหนุ่มก็ปลดเบลและรีบออกจากตัวรถไปทันที

"อุบัติเหตุหรือเปล่า..คุณ..จะไปไหน"  แพงขวัญนั่งมองคนที่พึ่งวิ่งิกไปจากรถก่อนจะส่ายหัวเบาๆไม่คิดว่าชายหนุ่มจะเป็นคนอยากรู้อยากเห็นมากขนาดนี้

"เรียกรถพยาบาลหรือยังครับ" แพทริครีบเดินเข้ามาดูคนเจ็บและถามคนที่กำลังมุงดูเป็นภาษาญี่ปุ่นน้ำเสียงสั่นเพราะเหตุการณ์นี้ช่างคล้ายคลึงกับเหตุการณ์ที่เป็นบาดแผลในใจของเขามาก

"กำลังติดต่ออยู่ครับ...นั่น.."  ชายหนุ่มญี่ปุ่นที่กำลังติดต่อกับเจ้าหน้าที่อยู่นั้นเขาก็ต้องตกใจเพราะจู่ๆหญิงวัยกลางคนที่นอนเจ็บอยู่ก็เกิดกระอักเลือดชักตาค้างแล้วนิ่งไป

"ฟื้นขึ้นมานะครับ...อย่าตายต่อหน้าผม"  แพทริคเห็นท่าไม่ดีจึงรีบจับชีพจรของคนเจ็บเมื่อเห็นว่าไม่มีชีพจรจึงรีบปั๊มหัวใจ...ทั้งเอ่ยเสียงสั่นภาวนาให้คนที่เขากำลังช่วยชีวิตฟื้นขึ้นมา

"คุณแพท"  แพงขวัญพี่งตามแพทริคลงมาเธอเห็นเขาช่วยคนเจ็บเธอก็รู้สึกผิดเล็กน้อยที่คิดว่าเขาจะเข้ามาเพราะอยากรู้อยากเห็นเท่านั้น

"รถพยาบาลมาแล้วครับ"   ไม่นานนักรถพยาบาลก็มาถึงทุกคนจึงแหวกถอยหนีให้เจ้าหน้าที่ได้ทำหน้าที่...ทุกคนต่างรออย่างใจจดใจจ่อให้หญิงคนเจ็บฟื้นขึ้นมาแต่ก็ไม่เป็นผล

"เคสนี้น่าจะไม่ทัน"  

“คุณแพท” สิ้นเสียงพยาบาลและหมอที่ดูอาการคนเจ็บแพทริคก็เข่าทรุดลงทันทีจนแพงขวัญต้องรีบคว้าตัวชายหนุ่มเอาไว้ให้นั่งพิงกับตัวของเธอ

“.....” แพทริคแทบกลืนน้ำลายไม่ลงคอความเจ็บในอดีตมันถูกรื้อให้เห็นภาพชัดอีกครั้งชายหนุ่มเอาแต่นั่งเงียบพักใหญ่ก่อนที่แพงขวัญเห็นว่าเขาท่าจะไม่ดีจึงพาเขากลับบ้านพักโดยที่เธอเป็นคนขับรถพาเขากลับมาเอง

   เมื่อกลับมาถึงบ้านได้แพทริคก็นั่งกำมือแน่นเงียบๆจนแพงขวัญที่ไม่เคยเห็นเขาเป็นแบบนี้มาก่อนก็เริ่มใจไม่ดีไม่รู้ว่าเขาช็อคกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมากแค่ไหนตอนนี้เธอเห็นตัวของเขามีรอยเปื้อนเลือดอยู่เล็กน้อยจึงค่อยๆบอกให้เขาไปล้างเนื้อล้างตัว

"ฉันว่าคุณกลับไปอาบน้ำล้างเนื้อล้างตัวซะหน่อยก็ดีนะคะ"

"อืม.."  ร่างสูงลุกขึ้นเดินเข้าห้องด้วยท่าทีที่เหม่อลอย

“นี่อารมณ์คุณอ่อนไหวง่ายขนาดนี้เชียวเหรอ” แพงขวัญบ่นอู้อี้หลังจากที่ชายหนุ่มเข้าห้องไปเธอเองก็ตกใจกับเหตุการณ์ก่อนหน้าไม่แพ้กันแต่ก็ยังไม่มีอาการจิตตกเท่าแพทริค

หลายชั่วโมงต่อมา

"คุณเป็นอะไรทำไมดูเงียบไป"  แพงขวัญเห็นแพทริคนั่งเหม่อในห้องนานหลายชั่วโมงจนเริ่มดึกเขาก็ไม่ยักจะหายเหม่อเธอจึงต้องเอ่ยถามเพราะไม่ชินที่เขาเป็นแบบนี้เท่าไรค่อนข้างชินกับคนปากสุนัขมากกว่า

"ผม.. ขออยู่คนเดียว"  เสียงทุ้มเอ่ยอย่างสั่นเครือ

"คุณร้องให้..."   นับว่าเป็นภาพที่แพงขวัญไม่เคยคิดเคยฝันจริงๆที่จะได้เห็นน้ำตาของแพทริค

"ผมขออยู่คนเดียว"  

"ก็ได้.."  แพทริคหันหน้าหนีแพงขวัญอาการโศกเศร้าของเขาทำให้เธอต้องยอมออกไปและปล่อยให้เขาอยู่คนเดียวตามคำขอเพราะเธอก็ไม่ได้อยากหดหู่ใจเพราะเห็นอาการของชายหนุ่มเช่นกัน

“จะเศร้าอีกนานไหมเนี่ย...โอ้ยยัยแพงแกจะใส่ใจนายนั่นทำไมควรจะดีใจถึงจะถูก”  หญิงสาวออกมานั่งที่ห้องนั่งเล่นได้ก็เอาแต่นึกถึงน้ำตาของแพทริคก่อนจะเรียกสติตัวเองกลับมาว่าเธอนั้นควรจะดีใจที่เห็นเขาเศร้าแต่ก็ทำได้แค่พูดเพราะในใจแอบสงสารเขาไปแล้ว

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status