Share

ตอนที่สิบ ไม่ชอบเห็นใครเศร้า

"โถ่โว้ยยยย..."

ปึกๆๆ

แพงขวัญได้ยินเสียงแพทริคโวยวายอยู่ด้านในจึงรีบวิ่งเข้ามาดูเมื่อเห็นว่าเขากำลังสาวหมัดไปที่ผนังจนเลือดออกเธอจึงรีบรั้งตัวเขาเอาไว้ไม่ให้ทำร้ายตัวเองอีก

"คุณแพทหยุด..คุณเป็นบ้าอะไรของคุณเนี่ย"

"ฮึก..ฮือๆๆ..ผมช่วยเค้าไม่ได้..ผมช่วยเค้าไม่ได้.." แพทริคตัวสั่นเทาฟุบกอดเข่าสะอื้นให้ด้วยความปวดใจที่เขาเห็นคนขาดใจตายต่อหน้า

"ใจเย็นๆ...คุณทำดีที่สุดแล้ว" แพงขวัญดูท่าชายหนุ่มจะเป็นเอาหนักเธอจึงค่อยๆนั่งลงข้างๆเขาและกอดคนตัวโตที่ตัวสั่นเทาเอาไว้ก่อนจะเอ่ยปลอบเขาด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยสบายใจเท่าไรนัก

 ครู่ต่อมา

"ฉันสั่งอาหารมาแล้วพรุ่งนี้เราค่อยออกข้างนอก.. นี่ของคุณฉันสั่งแซลมอนเกรดพรีเมี่ยมย่างซีอิ๊วมาให้คุณเลยนะทานสิ"

หลังจากที่ชายหนุ่มสงบอารมณ์ได้แพงขวัญจึงพาเขาออกมานั่งข้างนอกเพราะเธอสั่งอาหารเอาไว้ตั้งแต่ตอนที่กลับมาถึงแล้ว

"คุณทานไปเถอะผมไม่หิว...ถ้าคุณกลัวเหงาผมก็จะนั่งเป็นเพื่อน"

"อืมก็ได้...โห..ซูชิอร่อยจังเลย...ซุปสาหร่ายนี่ก็รสชาติกลมกล่อมหอมมากด้วยคุณดมดูสิ"  สาวเจ้าที่อยากจะให้คนที่นั่งหน้าเศร้าทานอาหารพร้อมกับเธอเพราะเขาไม่ได้ทานอะไรมาตั้งแต่เมื่อกลางวันแล้วเพราะของสดและอาหารแช่แข็งที่บ้านหมด..เธอค่อยๆหยิบอาหารเข้าปากด้วยสีหน้าระรื่นเพื่อยั่วให้อีกฝ่ายหิวตามเธอเขาจะได้ยอมทานอะไรบ้าง

"จะให้ผมทานให้ได้เลยใช่ไหม"  แพทริคมองออกว่าทีาหญิงสาวดูจะสนุกกับการทานอาหารออกหน้าออกตาเพราะอะไร

"เปล่านะ..อาหารอร่อยจริงๆนี่นา"  ใบหน้านวลกรอกตาไปมาไมรู้ไม่ชี้ก่อนจะยัดซูชิเข้าปากเคี้ยวตุ้ยๆ

"ไม่ดีใจเหรอที่เห็นผมเศร้าทานอะไรไม่ได้" แพทริคเห็นเธอดูเป็นห่วงเป็นใยเขาตั้งแต่ตอนเย็นแล้วจึงแปลกใจทั้งที่เธอควรจะดีใจมากกว่าที่เขาสภาพจิตใจเศร้าหมอง

"ลึกๆก็ดีใจนะ...แต่ด้วยความที่ฉันเป็นคนที่จิตสำนึกดีก็เลยไม่ค่อยชอบเห็นคนเศร้าเท่าไรแม้จะเป็นคนที่ฉันไม่ค่อยชอบหน้าก็เถอะ"

"คุณทานไปเถอะผมไม่หิวจริงๆ" ชายหนุ่มอมยิ้มอ่อนไม่คิดว่าคนจอมพยศลึกๆแล้วจะใจกว้างห่วงคนอย่างเขาเหมือนกันแต่ครั้งนี้เขาทานอะไรไม่ลงจริงๆ

"อืม.. ก็ได้ถ้าคุณอยากพักก็ไปเถอะฉันนั่งทานคนเดียวได้" เมื่ออีกฝ่ายยืนยันจะไม่ยอมทานอะไรจริงๆแพงขวัญจึงนั่งขอทานอาหารคนเดียวเงียบๆจะดีกว่า

"......" สิ้นเสียงหญิงสาวแพทริคก็กลับเข้าห้องไปทันทีเพราะเวลานี้การอยู่เงียบๆคนเดียวคงทำให้เขาขจัดภาพเมื่อเย็นออกจากหัวได้เป็นอย่างดี

  วันต่อมา

แพทริคเดินออกมาจากห้องนอนเข้ามาที่ในครัวในช่วงสายเพราะได้ยินเสียงหญิงสาวเข้าครัวเขาจึงอยากมาดูให้เห็นกับตาว่าคุณหนูไฮโซอย่างแพงขวัญจะทำอาหารเป็นกับเค้าด้วย

"ทำอะไร"  เสียงทุ้มเอ่ยถามร่างบางที่อยู่ในชุดนอนพร้อมผ้ากันเปื้อนยืนหั่นฟักทองที่พึ่งสั่งมาเมื่อช่วงเช้า

"อาหารไม่เห็นหรือไง"  ใบหน้านวลหันเหลือบมองสีหน่าของชายหนุ่มนับว่าสีหน้าของเขาดีขึ้นกว่าเมื่อวานมากเธอจึงกวนประสาทเขาเล่นได้

"กวนประสาทงั้นเหรอ"   มือหนาเห็นถุงแป้งที่ถูกตัดปากถุงเอาไว้ตรงกองวัตถุดิบจึงยกขึ้นมาปาสาดใส่หญิงสาวแกล้งเธอเล่น

"นี่คุณทำอะไรเลอะหมดเลย" 

"อยากกวนประสาทผมทำไมล่ะ"

"นี่แน่ะ.."    แพงขวัญดึงถุงแป้งจากมือหนาในจขณะที่ชายหนุ่มไม่ทันระวังตัวก่อนจะสาดใส่เขากลับจนทั้งตัวเธอและเขาต่างก็เลอะไปด้วยผงแป้ง

"เลอะหมดแล้ว"

"จะพาฉันไปไหน.."

"ล้างตัวไง" แพทริคจูงมือหญิงสาวเข้ามาในห้องน้ำก่อนจะเปิดฝักบัวและฉีดใส่หญิงสาวที่กำลังปัดผงแป้งให้ออกจากตัว

ซ่าาาา...

"เปียกหมดแล้วเล่นอะไรของคุณเนี่ย" มือเรียวหมายจะคว้าฝักบัวในมือชายหนุ่มแต่ก็ต้องปิดตาตัวเองเอาไว้เพื่อไม่ให้น้ำเข้าตา

"ฮ่าๆๆๆ.. "   แพทริคหัวเราะร่าที่แกล้งหญิงสาวได้ก่อนจะปิดฝักบัว

"ขำอะไร"  ดวงตากลมโตมองค้อนชายหนุ่มที่เล่นให้เลอะเทอะ

"ดูสภาพคุณสิ" มือหนาจับไหล่มนหันหน้าเข้ากระจกก่อนจะหัวเราะเธออีกครั้งเพราะตลกที่หญิงสาวทั้งเลอะแป้งเปียกน้ำจนสภาพดูไม่จืด

"ได้.. "  สาวเจ้าอาศัยจังหวะที่ชายหนุ่มเอาแต่หัวเราะหยิบฝักบัวมาไว้ในมือก่อนจะเปิดและฉีดใส่เขาในแบบที่เขาทำกับเธอ

"เฮ้ย.. หยุด"

"ฮ่าาๆๆๆๆ..คุณเละกว่าฉันอีก"

"ฮ่าๆๆๆ...หน้าคุณโคตรตก..ฮ่าๅๆๆ"

คราวนี้ในห้องน้ำเกิดชุลมุนไปด้วยเสียงหัวเราะพักใหญ่กว่าจะจบลงได้เล่นเอาต่างฝ่ายต่างเหนื่อยไปตามๆกัน

  หลังจากที่อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้ากันเรียบร้อยแล้วทั้งคู่ก็ต้องมาช่วยกันเตรียมอาหารเพราะท้องเริ่มร้องแล้ว

"เห็นไหมต้องเสียเวลาทำอาหารก็เพราะคุณ"

"คุณดูทำอาหารคล่องดีนะเข้าครัวบ่อยเหรอ"

"เปล่า.. พี่มินเคยสอนฉันน่ะ"

"ไม่ต้องทำแล้วเดี๋ยวผมสั่งอาหารมากินดีกว่า" สิ้นเสียงหญิงสาวแพทริคที่กำลังล้างผักก็วางลงทันทีก่อนจะลากหญิงสาวออกมาด้านนอก

"อ้าวอะไรของคุณเนี่ย..." แพงขวัญสีหน้าเปลี่ยนเมื่อจู่ๆชายหนุ่มก็เกิดอารมณ์เสียขึ้นมาไม่อยากให้เธอทำอาหารเสียอย่างนั้นทั้งที่เมื่อครู่ยังบอกให้เธอรีบเพราะหิวอยู่เลย

RrrrrrRrrrrr

“ครับ....เดี๋ยวผมจะกลับไปจัดการให้เดี๋ยวนี้” 

“มีอะไรเหรอ” แพงขวัญเห็นสีหน้าของชายหนุ่มเจื่อนลงเธอจึงยื่นมือไปสะกิดถามด้วยความสงสัย

“กลับไทยกับผมก่อน” 

“ทำไม” จากที่ยังไม่คลายสงสัยกับคำถามคราแรกหญิงสาวต้องยกมือเกาหัวแกรกๆเมื่อจู่ๆชายหนุ่มก็ลากเธอไปเก็บกระเป๋าในห้องด้วยความรีบร้อน

วันต่อมา

  จากที่เร่งรีบเก็บกระเป๋าเมื่อวานวันนี้แพงขวัญและแพทริคก็อยู่ที่เชียงใหม่ในช่วงเย็นของวันโดยที่แพงขวัญเองก็ยังไม่ได้คำตอบว่าเขานั้นพาเธอมาที่นี่เพื่ออะไร

และเมื่อมาถึงบ้านพักไม่เท่าไรแพทริคก็ทำการติดต่อเช่ารถและพาเธอขับออกไปจากบ้านอย่างรวดเร็ว

“นี่ตกลงจะบอกฉันได้หรือยังว่าคุณจะทำอะไรกันแน่”  แพงขวัญเริ่มโมโหแล้วที่เธอถามอะไรแพทริคเขาก็ไม่ยอมบอกเธอสักอย่าง

“ข้างหน้าถึงแล้ว”

“บ้านเด็กกำพร้า” รถที่เลี้ยวเข้ามาในซอยเล็กๆที่สองข้างทางเป็นป่าไม่นานนักหญิงสาวก็เห็นป้ายตรงหน้าว่าที่นี่คือมูลนิธิเด็กกะพร้า

ครู่ต่อมา

 เมื่อทั้งสองลงรถมาได้ก็มีหญิงงวัยกลางคนตัวเล็กผอมแห้งยืนรอทั้งสองอยู่แล้วเธอชื่อศรีจันทร์เป็นคนดูแลที่นี่มาหลายปีแล้วดูแลมาตั้งแต่สมัยเป็นอุทิศตัวเพื่อสังคมมาอยู่ตลอดจนถึงปัจจุบัน

“สวัสดีครับแม่ศรี..นี่แพงขวัญภรรยาผมครับ”  แพทริครู้จักกับศรีจันทร์ตั้งแต่เขายังเป็นเด็กหนุ่มเขาเห็นศรีจันทร์ทำเพื่อสังคมมามากเมื่อเขามีเงินมีทองมากขึ้นเขาก็ส่งมาช่วยเหลือที่นี่อยู่ตลอดอย่างเงียบๆ

“เอ่อ..สวัสดีค่ะ”   แพงขวัญมองค้อนชายหนุ่มเล็กน้อยที่แนะนำตัวเธอกับศรีจันทร์แบบนั้นก่อนจะยกมือสวัสดีหญิงร่างเล็กด้วยรอยยิ้มเพราะเธอไม่อยากจะมาทะเลาะกับชายหนุ่มต่อหน้าคนอื่น

“หวัดดีลูกเข้ามาข้างในกันก่อน”  ศรีจันทร์รีบเรียกทั้งสองเข้ามาคุยกันข้างในเพราะไม่อยากให้เรื่องที่บ้านปัญหารู้ไปถึงหูเด็กๆที่นี่จะทำให้พวกเขาไม่สบายใจเอาได้

   หลังจากที่คุยถึงปัญหากันได้พักใหญ่แพทริคก็เอ่ยถามศรีจันทร์ขึ้นว่าทำไมไม่บอกเรื่องที่ดินกับเขาจั้งแต่แรกเขาจะได้จัดการให้มันเสร็จสรรพ

“ทำไมแม่ไม่บอกผมแต่แรกล่ะครับว่าที่นี่เป็นที่ของคนอื่น”

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status