"โถ่โว้ยยยย..."
ปึกๆๆ
แพงขวัญได้ยินเสียงแพทริคโวยวายอยู่ด้านในจึงรีบวิ่งเข้ามาดูเมื่อเห็นว่าเขากำลังสาวหมัดไปที่ผนังจนเลือดออกเธอจึงรีบรั้งตัวเขาเอาไว้ไม่ให้ทำร้ายตัวเองอีก
"คุณแพทหยุด..คุณเป็นบ้าอะไรของคุณเนี่ย"
"ฮึก..ฮือๆๆ..ผมช่วยเค้าไม่ได้..ผมช่วยเค้าไม่ได้.." แพทริคตัวสั่นเทาฟุบกอดเข่าสะอื้นให้ด้วยความปวดใจที่เขาเห็นคนขาดใจตายต่อหน้า
"ใจเย็นๆ...คุณทำดีที่สุดแล้ว" แพงขวัญดูท่าชายหนุ่มจะเป็นเอาหนักเธอจึงค่อยๆนั่งลงข้างๆเขาและกอดคนตัวโตที่ตัวสั่นเทาเอาไว้ก่อนจะเอ่ยปลอบเขาด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยสบายใจเท่าไรนัก
ครู่ต่อมา
"ฉันสั่งอาหารมาแล้วพรุ่งนี้เราค่อยออกข้างนอก.. นี่ของคุณฉันสั่งแซลมอนเกรดพรีเมี่ยมย่างซีอิ๊วมาให้คุณเลยนะทานสิ"
หลังจากที่ชายหนุ่มสงบอารมณ์ได้แพงขวัญจึงพาเขาออกมานั่งข้างนอกเพราะเธอสั่งอาหารเอาไว้ตั้งแต่ตอนที่กลับมาถึงแล้ว
"คุณทานไปเถอะผมไม่หิว...ถ้าคุณกลัวเหงาผมก็จะนั่งเป็นเพื่อน"
"อืมก็ได้...โห..ซูชิอร่อยจังเลย...ซุปสาหร่ายนี่ก็รสชาติกลมกล่อมหอมมากด้วยคุณดมดูสิ" สาวเจ้าที่อยากจะให้คนที่นั่งหน้าเศร้าทานอาหารพร้อมกับเธอเพราะเขาไม่ได้ทานอะไรมาตั้งแต่เมื่อกลางวันแล้วเพราะของสดและอาหารแช่แข็งที่บ้านหมด..เธอค่อยๆหยิบอาหารเข้าปากด้วยสีหน้าระรื่นเพื่อยั่วให้อีกฝ่ายหิวตามเธอเขาจะได้ยอมทานอะไรบ้าง
"จะให้ผมทานให้ได้เลยใช่ไหม" แพทริคมองออกว่าทีาหญิงสาวดูจะสนุกกับการทานอาหารออกหน้าออกตาเพราะอะไร
"เปล่านะ..อาหารอร่อยจริงๆนี่นา" ใบหน้านวลกรอกตาไปมาไมรู้ไม่ชี้ก่อนจะยัดซูชิเข้าปากเคี้ยวตุ้ยๆ
"ไม่ดีใจเหรอที่เห็นผมเศร้าทานอะไรไม่ได้" แพทริคเห็นเธอดูเป็นห่วงเป็นใยเขาตั้งแต่ตอนเย็นแล้วจึงแปลกใจทั้งที่เธอควรจะดีใจมากกว่าที่เขาสภาพจิตใจเศร้าหมอง
"ลึกๆก็ดีใจนะ...แต่ด้วยความที่ฉันเป็นคนที่จิตสำนึกดีก็เลยไม่ค่อยชอบเห็นคนเศร้าเท่าไรแม้จะเป็นคนที่ฉันไม่ค่อยชอบหน้าก็เถอะ"
"คุณทานไปเถอะผมไม่หิวจริงๆ" ชายหนุ่มอมยิ้มอ่อนไม่คิดว่าคนจอมพยศลึกๆแล้วจะใจกว้างห่วงคนอย่างเขาเหมือนกันแต่ครั้งนี้เขาทานอะไรไม่ลงจริงๆ
"อืม.. ก็ได้ถ้าคุณอยากพักก็ไปเถอะฉันนั่งทานคนเดียวได้" เมื่ออีกฝ่ายยืนยันจะไม่ยอมทานอะไรจริงๆแพงขวัญจึงนั่งขอทานอาหารคนเดียวเงียบๆจะดีกว่า
"......" สิ้นเสียงหญิงสาวแพทริคก็กลับเข้าห้องไปทันทีเพราะเวลานี้การอยู่เงียบๆคนเดียวคงทำให้เขาขจัดภาพเมื่อเย็นออกจากหัวได้เป็นอย่างดี
วันต่อมา
แพทริคเดินออกมาจากห้องนอนเข้ามาที่ในครัวในช่วงสายเพราะได้ยินเสียงหญิงสาวเข้าครัวเขาจึงอยากมาดูให้เห็นกับตาว่าคุณหนูไฮโซอย่างแพงขวัญจะทำอาหารเป็นกับเค้าด้วย
"ทำอะไร" เสียงทุ้มเอ่ยถามร่างบางที่อยู่ในชุดนอนพร้อมผ้ากันเปื้อนยืนหั่นฟักทองที่พึ่งสั่งมาเมื่อช่วงเช้า
"อาหารไม่เห็นหรือไง" ใบหน้านวลหันเหลือบมองสีหน่าของชายหนุ่มนับว่าสีหน้าของเขาดีขึ้นกว่าเมื่อวานมากเธอจึงกวนประสาทเขาเล่นได้
"กวนประสาทงั้นเหรอ" มือหนาเห็นถุงแป้งที่ถูกตัดปากถุงเอาไว้ตรงกองวัตถุดิบจึงยกขึ้นมาปาสาดใส่หญิงสาวแกล้งเธอเล่น
"นี่คุณทำอะไรเลอะหมดเลย"
"อยากกวนประสาทผมทำไมล่ะ"
"นี่แน่ะ.." แพงขวัญดึงถุงแป้งจากมือหนาในจขณะที่ชายหนุ่มไม่ทันระวังตัวก่อนจะสาดใส่เขากลับจนทั้งตัวเธอและเขาต่างก็เลอะไปด้วยผงแป้ง
"เลอะหมดแล้ว"
"จะพาฉันไปไหน.."
"ล้างตัวไง" แพทริคจูงมือหญิงสาวเข้ามาในห้องน้ำก่อนจะเปิดฝักบัวและฉีดใส่หญิงสาวที่กำลังปัดผงแป้งให้ออกจากตัว
ซ่าาาา...
"เปียกหมดแล้วเล่นอะไรของคุณเนี่ย" มือเรียวหมายจะคว้าฝักบัวในมือชายหนุ่มแต่ก็ต้องปิดตาตัวเองเอาไว้เพื่อไม่ให้น้ำเข้าตา
"ฮ่าๆๆๆ.. " แพทริคหัวเราะร่าที่แกล้งหญิงสาวได้ก่อนจะปิดฝักบัว
"ขำอะไร" ดวงตากลมโตมองค้อนชายหนุ่มที่เล่นให้เลอะเทอะ
"ดูสภาพคุณสิ" มือหนาจับไหล่มนหันหน้าเข้ากระจกก่อนจะหัวเราะเธออีกครั้งเพราะตลกที่หญิงสาวทั้งเลอะแป้งเปียกน้ำจนสภาพดูไม่จืด
"ได้.. " สาวเจ้าอาศัยจังหวะที่ชายหนุ่มเอาแต่หัวเราะหยิบฝักบัวมาไว้ในมือก่อนจะเปิดและฉีดใส่เขาในแบบที่เขาทำกับเธอ
"เฮ้ย.. หยุด"
"ฮ่าาๆๆๆๆ..คุณเละกว่าฉันอีก"
"ฮ่าๆๆๆ...หน้าคุณโคตรตก..ฮ่าๅๆๆ"
คราวนี้ในห้องน้ำเกิดชุลมุนไปด้วยเสียงหัวเราะพักใหญ่กว่าจะจบลงได้เล่นเอาต่างฝ่ายต่างเหนื่อยไปตามๆกัน
หลังจากที่อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้ากันเรียบร้อยแล้วทั้งคู่ก็ต้องมาช่วยกันเตรียมอาหารเพราะท้องเริ่มร้องแล้ว
"เห็นไหมต้องเสียเวลาทำอาหารก็เพราะคุณ"
"คุณดูทำอาหารคล่องดีนะเข้าครัวบ่อยเหรอ"
"เปล่า.. พี่มินเคยสอนฉันน่ะ"
"ไม่ต้องทำแล้วเดี๋ยวผมสั่งอาหารมากินดีกว่า" สิ้นเสียงหญิงสาวแพทริคที่กำลังล้างผักก็วางลงทันทีก่อนจะลากหญิงสาวออกมาด้านนอก
"อ้าวอะไรของคุณเนี่ย..." แพงขวัญสีหน้าเปลี่ยนเมื่อจู่ๆชายหนุ่มก็เกิดอารมณ์เสียขึ้นมาไม่อยากให้เธอทำอาหารเสียอย่างนั้นทั้งที่เมื่อครู่ยังบอกให้เธอรีบเพราะหิวอยู่เลย
RrrrrrRrrrrr
“ครับ....เดี๋ยวผมจะกลับไปจัดการให้เดี๋ยวนี้”
“มีอะไรเหรอ” แพงขวัญเห็นสีหน้าของชายหนุ่มเจื่อนลงเธอจึงยื่นมือไปสะกิดถามด้วยความสงสัย
“กลับไทยกับผมก่อน”
“ทำไม” จากที่ยังไม่คลายสงสัยกับคำถามคราแรกหญิงสาวต้องยกมือเกาหัวแกรกๆเมื่อจู่ๆชายหนุ่มก็ลากเธอไปเก็บกระเป๋าในห้องด้วยความรีบร้อน
วันต่อมา
จากที่เร่งรีบเก็บกระเป๋าเมื่อวานวันนี้แพงขวัญและแพทริคก็อยู่ที่เชียงใหม่ในช่วงเย็นของวันโดยที่แพงขวัญเองก็ยังไม่ได้คำตอบว่าเขานั้นพาเธอมาที่นี่เพื่ออะไร
และเมื่อมาถึงบ้านพักไม่เท่าไรแพทริคก็ทำการติดต่อเช่ารถและพาเธอขับออกไปจากบ้านอย่างรวดเร็ว
“นี่ตกลงจะบอกฉันได้หรือยังว่าคุณจะทำอะไรกันแน่” แพงขวัญเริ่มโมโหแล้วที่เธอถามอะไรแพทริคเขาก็ไม่ยอมบอกเธอสักอย่าง
“ข้างหน้าถึงแล้ว”
“บ้านเด็กกำพร้า” รถที่เลี้ยวเข้ามาในซอยเล็กๆที่สองข้างทางเป็นป่าไม่นานนักหญิงสาวก็เห็นป้ายตรงหน้าว่าที่นี่คือมูลนิธิเด็กกะพร้า
ครู่ต่อมา
เมื่อทั้งสองลงรถมาได้ก็มีหญิงงวัยกลางคนตัวเล็กผอมแห้งยืนรอทั้งสองอยู่แล้วเธอชื่อศรีจันทร์เป็นคนดูแลที่นี่มาหลายปีแล้วดูแลมาตั้งแต่สมัยเป็นอุทิศตัวเพื่อสังคมมาอยู่ตลอดจนถึงปัจจุบัน
“สวัสดีครับแม่ศรี..นี่แพงขวัญภรรยาผมครับ” แพทริครู้จักกับศรีจันทร์ตั้งแต่เขายังเป็นเด็กหนุ่มเขาเห็นศรีจันทร์ทำเพื่อสังคมมามากเมื่อเขามีเงินมีทองมากขึ้นเขาก็ส่งมาช่วยเหลือที่นี่อยู่ตลอดอย่างเงียบๆ
“เอ่อ..สวัสดีค่ะ” แพงขวัญมองค้อนชายหนุ่มเล็กน้อยที่แนะนำตัวเธอกับศรีจันทร์แบบนั้นก่อนจะยกมือสวัสดีหญิงร่างเล็กด้วยรอยยิ้มเพราะเธอไม่อยากจะมาทะเลาะกับชายหนุ่มต่อหน้าคนอื่น
“หวัดดีลูกเข้ามาข้างในกันก่อน” ศรีจันทร์รีบเรียกทั้งสองเข้ามาคุยกันข้างในเพราะไม่อยากให้เรื่องที่บ้านปัญหารู้ไปถึงหูเด็กๆที่นี่จะทำให้พวกเขาไม่สบายใจเอาได้
หลังจากที่คุยถึงปัญหากันได้พักใหญ่แพทริคก็เอ่ยถามศรีจันทร์ขึ้นว่าทำไมไม่บอกเรื่องที่ดินกับเขาจั้งแต่แรกเขาจะได้จัดการให้มันเสร็จสรรพ
“ทำไมแม่ไม่บอกผมแต่แรกล่ะครับว่าที่นี่เป็นที่ของคนอื่น”
“ตอนแรกแม่ก็ไม่คิดว่าจะมีปัญหาแต่ตอนนี้เจ้าของเดิมเค้าเสียแล้วลูกหลานเค้าก็เลยอยากจะขอที่คืน” ศรีจันทร์เองก็ไม่คิดว่ามันจะมีปัญหาอะไรจึงไม่ได้กังวลเรื่องที่ทางเท่าไรนักแต่เมื่อเจ้าของที่เดิมเสียเธอก็ไม่คิดว่าลูกๆหลานๆของเจ้าของที่จะมาขอที่คืนกะทันหัน“เดี๋ยวผมจะจัดการเจรจาซื้อที่ที่นี่ให้นะครับแม่ศรีไม่ต้องกังวังวลยังไงเด็กๆก็จะมีที่อยู่แน่นอนครับ” แพทริครับปากศรีจันทร์ด้วยแววตาที่มั่นใจเพราะเขาจะไม่ยอมให้เด็กๆไม่มีที่อยู่เด็ดขาดเจ้าของใหม่อยากจะขายที่นี่แพงเท่าไรเขาก็จะควักเงินจ่ายหากไม่ยอมเขาก็จะซื้อที่ที่อื่นให้เด็กๆอยู่ให้มันรู้แล้วรู้รอดเพราะเขาทนเห็นเด็กเหล่านี้ไม่มีที่อยู่ไม่ได้ครู่ต่อมา“เค้ามาที่นี่บ่อยเหรอคะแม่ศรี” แพงขวัญนั่งคุยกันสองคนกับศรีจันทร์ขณะที่แพทริคกำลังสอนเด็กๆเรื่องโปรแกรมในคอมพิวเตอร์“ไม่หรอกจ่ะ..ส่วนมากแพทริคจะส่งเงินมาเท่านั้นเพราะงานเค้าค่อนข้างยุ่ง” ศรีจันทร์ส่ายหัวก่อนจะตอบด้วยรอยยิ้มอ่อนตั้งแต่ที่แพทริคไปอยู่อังกฤษเขาก็ไม่ค่อยได้มาที่นี่เท่าไร“แม่ศรีดูแลเด็กตั้งเยอะเลยไม่เหนื่อยบ้างเหรอคะ” แพงขวัญเห็นเด็กๆที่นี่ค่อนข้างเยอะแถมยังมีทุกวัยเธอเห็นแล้ว
เช้าวันต่อมา“เมื่อคืนคุณน่ารักมากเลย” ชายหนุ่มพรมจูบไหล่มนของหญิงสาวที่เปลือยเปล่าอยู่ใต้ผ้าห่มผืนหนาอยู่กับเขา“เมื่อไรคุณจะพาฉันกลับบ้าน” แพงขวัญหน้าแดงเล็กน้อยที่เมื่อคืนเธอเผลอตัวเผลอใจไปกับรสรักของเขาก่อนจะเอ่ยถามว่าเมื่อไรเขาจะปล่อยเธอไป“ผมอยากให้คุณอยู่กับผมก่อนนี่” “คุณให้คำตอบฉันเถอะนะคะว่าจะบังคับฉันแบบนี้ไปเพื่ออะไร” แพงขวัญตั้งคำถามชายหนุ่มรอบที่เกือยร้อยได้ว่าเขาทำแบบนี้กับเธอไปเพื่ออะไรกันแน่“ผมอยากให้คุณเป็นผู้หญิงของผม” เสียงทุ้มเอ่ยพร้อมพลิกร่างบางให้มามองหน้าของเขา“คุณรู้สึกยังไงกับฉันกันแน่” แพงขวัญขมวดคิ้วเล็กน้อยคำพูดของเขาทำเอาใจของเธอสั่นระรัวเพราะเธอเองก็เริ่มมีใจให้กับคนที่เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายคนนี้ไปเสียแล้ว“คำพูดที่ผมพูดคุณก็น่าจะเดาออกนะ...แล้วคุณล่ะตอนนี้รู้สึกยังไงกับผมพอจะมองผมดีขึ้นจากแต่ก่อนหรือเปล่า” แพทริครู้อยู่แก่ใจแล้วว่าหญิงสาวคิดกับเขาอย่างไรไม่อย่างนั้นตื่นมาคงพยศเขาไปแล้วไม่อ่อนลงแบบนี้แต่ก็อยากจะฟังคำตอบจากปากของเธอ“....” สาวเจ้าหลบสายตาก้มหน้างุดซุกลงกับอกแกร่งคิดว่ากิริยาของเธอก็พอจะทำให้เขาเข้าใจได้“..ผมดูจากความน่ารักของคุณเมื่
ห้างสรรพสินค้า"จะซื้อเสื้อผ้าเหรอคะ" แพงขวัญเดินเข้ามาในร้านเสื้อผ้าแบรนด์ดังพร้อมแพทริคที่กำลังเดินจูงมือเธออยู่"ครับ...คุณว่าแบบไหนเหมาะกับผม" แพทริคชี้ไปที่เสื้อเชิ้ตหลากสีสันที่อยู่ในราว"อืม...ก็แบบนี้สิ..รุ่นนี้ใหม่ล่าสุดของแบรนด์นี้เลยนะ" แม้นว่าโซนนี้จะเป็นของผู้ชายแต่คนที่ชอบแฟชั่นอย่างแพงขวัญก็รู้ว่าเสื้อผ้าเหล่านี้เป็นแบบใหม่หรือแบบเก่า"นับว่าผมพาคนช่วยเลือกมาถูกคน...งั้นคุณเลือกให้ผมสักสองสามชุดนะครับเดี๋ยวผมมา" "คุณจะไปไหนคะ""ทำธุระนิดหน่อยครับ""โอเคค่ะ" สาวเจ้ามองตามหลังคนที่พึ่งเดินออกไปแต่ก็ไม่ได้สนใจมากนักว่าเขาจะไปไหนเพราะมีความสุขกับการเลือกเสื้อผ้ามากกว่าครู่ต่อมาร้านอาหารหังจากที่แพงขวัญเลือกเสื้อผ้าให้ชายหนุ่มเรียบร้อยแล้วทั้งคู่ก็มานั่งทานอาหารในร้านอาหารสุดหรูของห้างที่นี่"นี่ที่หายไปมาจองที่นี่เหรอคะ" แพงขวัญนั่งลงที่โต๊ะอาหารในโซนไพรเวทและเป็นมุมที่สวยที่สุดในร้านตอนนี้ที่นี่มีเพียงแค่เธอกับแพทริคแค่สองคนกับอาหารที่เต็มโต๊ะเธอจึงคิดว่าเมื่อครู่ที่แพทริคหายไปคงเป็นเพราะมาจัดการเรื่องที่ร้านเป็นแน่"เปล่าครับที่นี่ผมจองไว้สองวันแล้ว...ที่หายไปเพราะ
"......" คามินแทบยืนไม่อยู่เนื้อตัวชาวาบไปหมดเมื่อจู่ๆคนที่เขาคิดจะสร้างครอบครัวด้วยกลับเลือกคนที่มาทีหลังได้ไม่นานตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมเขาถึงติดต่อเธอลำบากยากเย็นเหลือเกิน"แพงขอโทษนะคะที่แพงเป็นคนรักที่ไม่ได้เรื่อง" แพงขวัญสะอึกสะอื้นเธอยอมรับผิดทุกอย่างเพราะเธอเผลอให้ใจกับแพทริคไปอย่างง่ายดาย"พี่เข้าใจแล้ว.." คามินเอ่ยเสียงสั่นก่อนจะกดวางสายของแพงขวัญตอนนี้ความรู้สึกมันเจ็บจุกอยู่ในอกเหมือนอยากจะร้องให้แต่มันก็ร้องไม่ออก"แพงขอโทษค่ะพี่มิน..ฮือๆๆ..." หลังจากวางสายได้แพงขวัญก็สะอึกสะอื้นเพราะความรู้สึกผิด"......" แพทริคยืนมองหญิงสาวอยู่ห่างๆด้วยสายตาที่คาดเดาอารมณ์ไม่ถูกในใจลึกๆไม่ชอบที่จะเห็นหญิงสาวร้องให้แต่อีกใจก็ดีใจที่แผนการดำเนินไปได้ด้วยดีหลังจากนี้คนที่น้ำตาตกจะไม่ใช่แค่แพงขวัญเพียงคนเดียวจะเป็นพงษ์พัฒน์ที่ต้อเจ็บกว่าแพงขวัญหลายเท่าเมื่อเห็นแพงขวัญตกอยู่ในความทุกข์เย็นของวัน มนัญชนกเตรียมตัวรอคามินตั้งแต่ห้าโมงเย็นแต่นี่ก็หกโมงกว่าจนเกือบจะมืดแล้วแต่เขาก็ไม่ยักจะมาเสียทีทั้งโทรหาเท่าไรเขาก็ไม่ยอมรับ"วันนี้ไม่มาสอนหม่อนเหรอคะคุณมิน" หญิงสาวตัดสินใจส่งข้อคว
"อืม..." คามินงัวเงียตื่นขึ้นมาในช่วงสายเขาพยุงร่างเปลือยเปล่าลุกนั่งก่อนจะกุมขมับเพราะรู้สึกปวดหัวหนักพอสมควรสายตาของเขาเพ่งมองรอบๆห้องที่เละเทะทั้งฟูกนอนก็ยังมีรอยหยดเลือดภาพตรงหน้าเหล่านี้ทำให้เขาพยายามนึกถึงเรื่องเมื่อวานและไม่นานนักเขาก็จำทุกอย่างได้“คุณหม่อน...” เมื่อภาพความจำเมื่อวานกลับมาได้เขาก็รีบหยิบผ้าขนหนูพันท่อนล่างก่อนจะเข้าไปหาหญิงสาวในห้องทันที(หวังว่าเราจะไม่ได้เจอกันอีกนะคะ) “โถ่เอ้ย...ทำบ้าอะไรลงไปเนี่ย” คามินหยิบจดหมายของใบหม่อนขึ้นมาอ่านจบก็นั่งฟุบลงกับพื้นกุมขมับโมโหที่ตัวเองเผลอทำร้ายหญิงสาวลงกับมือสามวันต่อมา"เป็นอะไรครับนอนซมทั้งวันเลย” แพทริคเข้ามาซุกผ้าห่มนอนบนเตียงนุ่มกับหญิงสาวหลังเห็นเธอนอนซมมาตั้งแต่หลังทานอาหารเช้าแล้ว“เพลียๆค่ะ..” “ผมทำให้หายเพลียเอาไหม” ชายหนุ่มพรมจูบแก้มนวลของหญิงสาวเพราะตอนนี้อะไรๆของเขามันตื่นขึ้นแล้วเพียงแค่สัมผัสเนื้อตัวของเธอได้ไม่นานไม่รู้ว่าทำไมเขาควบคุมตัวเองไม่ได้ทุกครั้งเมื่อต้องใกล้ชิดสาวเจ้าบนเตียงสองต่อสองแบบนี้“ทำยังไงคะ” ดวงตาปรือมองคนที่กำลังพรมจูบด้วยความสงสัย“..ฉันจะเพลียกว่าเดิมมากกว่ามั้งคะ...อื
วันต่อมา ตั้งแต่โทมัสรู้เรื่องของแพทริคจากมนัญชนกตั้งแต่เมื่อวานเขาก็เคลียทุกอย่างแล้วรีบบินมาที่เมืองไทยเพื่อมาคุยกับแพทริคทันที"เราต้องการทำอะไรกันแน่แพทริค" โทมัสโทรนัดแพทริคให้มาคุยที่โรงแรมที่เขาพักหลังจากที่ลงเครื่องเรียบร้อยแล้วเขารู้ดีว่าพงษ์พัฒน์เป็นคนที่ขับรถชนภรรยาของเขาเสียชีวิตและเขาก็รู้ว่าที่แพทริคเลือกที่จะยุ่งกับลูกสาวของพงษ์พัฒน์เพราะอะไร"เปล่านี่ครับพ่อผมก็แค่จะแต่งงาน" แพทริคยังคงปากแข็งไม่ยอมรับความจริงกับคนเป็นพ่อ"พ่อรู้แต่เมียเราเป็นลูกของคนที่ขับรถชนแม่เรา...ไม่ได้คิดจะใช้เธอเป็นเหยื่อใช่ไหม" โทมัสรู้ดีว่าแพทริคเกลียดพงษ์พัฒน์มากแค่ไหนและตอนนี้แพงขวัญก็เกิดตั้งท้องขึ้นมาแล้วหากลูกชายของเขาจะให้เธอเป็นเหยื่อเพื่อแก้แค้นคงไม่ดีแน่"ผมทำอะไรผมรู้ดีครับพ่อ" ว่าจบแพทริคก็เดินหนีคนเป็นพ่อไปคนอย่างเขาคิดอะไรแล้วต้องทำให้ได้เพราะชีวิตของแม่เขาคนผิดต้องเป็นคนชดใช้ความผิดให้สาสม“เฮ้อ...” โทมัสรู้ว่าลูกชายของเขาเป็นคนหัวแข็งและหากจะห้ามไม่ให้แพทริคยุ่งกับแพงขวัญคงไม่ได้เพราะตอนนี้หลานของเขากำลังจะเกิดมาแล้วยิ่งคิดเขาก็ยิ่งปวดหัวอาทิตย์ต่อมา วันนี้เป็นวันแต่
หลายวันต่อมา ตอนนี้แพทริคและแพงขวัญกลับมาอยู่ที่เรือนหอของพวกเขาแล้วบ้านที่แพทริคซื้อเอาไว้หลังไม่ใหญ่มากนักแต่ก็ร่มรื่นน่าอยู่ซึ่งแพงขวัญก็ไม่ได้ติดอะไรเพราะที่นี่ก็อยู่ใกล้กับบ้านของพ่อเธอพอสมควรขับรถไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็ถึงกันแล้ว"คุณจะไปไหนเหรอคะ" แพงขวัญที่รอทานข้าวเย็นพร้อมกับแพทริคเมื่อเห็นว่าเขาแต่งตัวกำลังจะออกไปข้างนอกก็ต้องรีบลุกมาถามเพราะเขาไม่ได้บอกเธอก่อนหน้าว่าจะไปไหน"คุยงานนิดหน่อยคืนนี้คุณไม่ต้องรอผมนะนอนก่อนได้เลย" "ค่ะ" แพงขวัญมองตามหลังคนเป็นสามีที่ไม่รู้ว่าเขาจะมีการคุยงานวันนี้ทั้งที่ก่อนหน้าเขาเป็นคนบอกเธอเองว่าจะละเรื่องงานมาดูแลเธอก่อนแต่ก็ไม่ได้ใส่ใจที่จะคิดมากเพราะคิดว่าเขาอาจจะมีงานด่วนที่จะต้องคุยจริงๆก็ได้โดยไม่ตะหงิดใจอะไรมากนักเพราะไว้เนื้อเชื่อใจไปเต็มร้อยแล้วทางด้านมนัญชนก หลังจากที่มนัญชนกขนของกลับจากหัวหินได้เธอก็มาเช่าบ้านหลังเดิมที่เคยเช่าอยู่ไม่มากนักเพราะเธอค่อนข้างชอบที่นี่ไม่ไกลเมืองมากนักและก็ดูเงียบสงบร่มรื่นตอนนี้เธอคิดว่าคามินน่าจะไม่มาหาเธอที่นี่แล้วเพราะเธอก็ขาดการติดต่อกับเขาไปนานแล้วเหมือนกัน“เฮ้อ..เมื่อยจังเลย” มนัญชนกเดิน
“คุณก็รู้ว่าคุณไม่มีวันเอาชนะผมได้” แพทริคกัดฟันกรอดใจกระตุกวูบเมื่อสาวเจ้าเอ่ยว่าจะเอาลูกออกแต่คนอย่างเขาหรือจะให้เธอทำแบบนั้นง่ายๆว่าจบก็รวบอุ้มร่างบางเข้าไปในห้องนอนทันที“คุณมันโรคจิต” แพงขวัญต่อว่าแพทริคเสียงฝาดเมื่อเขาจับเธอมาขังไว้ในห้องนอนทั้งยังล่ามขาเธอด้วยโซ่เส้นใหญ่เพื่อให้เธอหนีไปไหนไม่ได้อีก“จะได้หนีผมไปเอาลูกออกไม่ได้ไง...บอกแล้วไงว่าคุณไม่มีวันเอาชนะผมได้” "ฉันเกลียดคุณ...ได้ยินไหมว่าฉันเกลียดคุณ..ไอ้ไบโพล่า...อื้มมมม" แพทริคไม่ชอบคำว่าเกลียดเขาจากปากของหญิงสาวเท่าไรจึงเข้าไปบดจูบสั่งสอนเธอจนริมฝีปากห้อเลือดเพี๊ยะ “สกปรก..” เมื่อหลุดจากพันธนาการได้มือเรียวก็ยกฟาดแก้มสากไปเต็มแรงด้วยความโมโหและรังเกียจ“จะสกปรกแค่ไหนผมก็ยังเป็นผัวคุณ” “ฉันขอหย่า” “ได้..แต่วันที่คุณเซ็นใบหย่าพ่อคุณจะไม่เหลืออะไร” แพทริคมองหน้าหญิงสาวด้วยความไม่พอใจก่อนจะย้ำเตือนถึงอำนาจที่อยู่ในมือของเขา“ฮึก..ฮือๆๆ..อ๊ายยยย..ฮือๆๆๆ..อ๊ายยยยย..” แพงขวัญอาละวาดอย่างคนเสียสติเธอโมโหมากที่ดูจะเสียเปรียบแพทริคไปเสียทุกทางก่อนจะสลบไปบนเตียงนุ่มเพราะความเครียดและอ่อนเพลียที่ไม่ได้ทานอะไรตั้งแต่เมื่