Share

ตอนที่สิบเจ็ด จะเอาลูกออก

หลายวันต่อมา

   ตอนนี้แพทริคและแพงขวัญกลับมาอยู่ที่เรือนหอของพวกเขาแล้วบ้านที่แพทริคซื้อเอาไว้หลังไม่ใหญ่มากนักแต่ก็ร่มรื่นน่าอยู่ซึ่งแพงขวัญก็ไม่ได้ติดอะไรเพราะที่นี่ก็อยู่ใกล้กับบ้านของพ่อเธอพอสมควรขับรถไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็ถึงกันแล้ว

"คุณจะไปไหนเหรอคะ"  แพงขวัญที่รอทานข้าวเย็นพร้อมกับแพทริคเมื่อเห็นว่าเขาแต่งตัวกำลังจะออกไปข้างนอกก็ต้องรีบลุกมาถามเพราะเขาไม่ได้บอกเธอก่อนหน้าว่าจะไปไหน

"คุยงานนิดหน่อยคืนนี้คุณไม่ต้องรอผมนะนอนก่อนได้เลย"  

"ค่ะ"  แพงขวัญมองตามหลังคนเป็นสามีที่ไม่รู้ว่าเขาจะมีการคุยงานวันนี้ทั้งที่ก่อนหน้าเขาเป็นคนบอกเธอเองว่าจะละเรื่องงานมาดูแลเธอก่อนแต่ก็ไม่ได้ใส่ใจที่จะคิดมากเพราะคิดว่าเขาอาจจะมีงานด่วนที่จะต้องคุยจริงๆก็ได้โดยไม่ตะหงิดใจอะไรมากนักเพราะไว้เนื้อเชื่อใจไปเต็มร้อยแล้ว

ทางด้านมนัญชนก

  หลังจากที่มนัญชนกขนของกลับจากหัวหินได้เธอก็มาเช่าบ้านหลังเดิมที่เคยเช่าอยู่ไม่มากนักเพราะเธอค่อนข้างชอบที่นี่ไม่ไกลเมืองมากนักและก็ดูเงียบสงบร่มรื่นตอนนี้เธอคิดว่าคามินน่าจะไม่มาหาเธอที่นี่แล้วเพราะเธอก็ขาดการติดต่อกับเขาไปนานแล้วเหมือนกัน

“เฮ้อ..เมื่อยจังเลย” มนัญชนกเดินถือของพะลุงพะลังเดินกลับมาที่บ้านก่อนจะวางของที่โต๊ะหินอ่อนหน้าบ้านกะว่านั่งพักเหนื่อยสักครู่แล้วเอาของเข้าไปเก็บแอบคิดในใจว่าไอ้วิธีที่คิดจะออกกำลังกายการเดินไปซื้อของเป็นกิโลโดยไม่ใช้รถมันคงไม่ใช่วิธีที่เหมาะกับเธอเสียแล้ว

“เจอกันจนได้นะครับ”  คามินเฝ้าตามหามนัญชนกอยู่นานจนได้รับข่าวจากเจ้าของบ้านเช่าที่เขาเคยติดต่อเอาไว้ว่าหญิงสาวกลับมาที่นี่ให้โทรบอกกับเขาและจะมีสินน้ำใจให้

“.....”  ร่างบางรีบลุกออกจากโต๊ะหินอ่อนหมายจะหนีเข้าบ้านแต่ก็ถูกรั้งเอาไว้ก่อน

“จะหนีผมไปไหน”

“ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับคุณค่ะออกไป”  ใบหน้าหวานก้มหน้างุดเพราะเธอไม่อยากมองหน้าเขาเท่าไรนัก

“ไม่..เรื่องวันนั้นผมขอโทษ” คามินเอ่ยเสียงอ่อนด้วยความรู้สึกผิดแต่ก็แอบมีความไม่พอใจที่หญิงสาวเอาแต่หลบหน้าหลายวันมานี้เขาร้อนในการตามหาเธอตลอดและทุกวันที่เขาไม่ได้เห็นหน้าเธอทำให้เขาเหงาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

“ฉันยกโทษให้ค่ะออกไปได้แล้ว”  มนัญชนกเงยหน้ามองชายหนุ่มก่อนจะพูดกับเขาเสียงดังฟังชัด

“ผมต้องการที่จะรับผิดชอบคุณ”  เรื่องที่คามินอยากจะคุยกับมนัญชนกเขาไม่ใช่แค่ต้องการที่จะขอโทษเธอเท่านั้นแต่ต้องการที่จะรับผิดชอบเธอด้วยเพราะความเมาของเขาที่พรากความบริสุทธ์ของเธอไป

“ไม่ต้องค่ะฉันบอกว่าฉันยกโทษให้คุณไงคะเรื่องนั้นฉันไม่ถือสา..กลับไปเถอะค่ะฉันไม่อยากเห็นหน้าคุณ”  

“ได้..ถ้าคุณเกลียดผมนักผมจะไปก็ได้”   คามินหน่วงในใจไม่น้อยเมื่อหญิงสาวเอ่ยคำว่าไม่อยากเห็นหน้าเขาไม่รู้ว่าทำไมเขาต้องเจ็บกับคำพูดของเธอขนาดนี้ด้วยพูดจบก็หันหลังกลับไปทันทีโดยที่ไม่หันกลับมามองหญิงสาวอีก

“.....”  มนัญชนกมองตามหลังคามินก่อนจะยกมือเรียวปาดน้ำตาลวกๆโมโหตัวเองที่เห็นหน้าเขาแค่นี้ใจเธอก็เกือบอ่อนไปได้ทำให้เธอได้รู้ว่าเธอไม่สามารถเกลียดเขาจริงๆอย่างที่คิดก่อนหน้าและอย่างที่ปากพูดเมื่อครู่ได้เลย

  

 เช้าวันต่อมา

"อืม.. ยังไม่กลับอีกเหรอเนี่ย"  เช้าวันใหม่แพงขวัญตื่นมาก็ยังไม่เห็นว่าแพทริคจะกลับมาเธอยกหยิบมือถือต่อสายหาคนเป็นสามีแต่เช้าทันทีไม่รู้ว่าชายหนุ่มคุยงานไปถึงไหนเช้าแล้วยังไม่ยอมกลับบ้าน

Rrrrrr

"สวัสดีค่ะ" 

"คุณเป็นใครมารับสายสามีฉันได้ยังไง"  เมื่อปลายสายเป็นเสียงของผู้หญิงแพงขวัญก็ตัวชาวาบเอ่ยถามปลายสายด้วยน้ำเสียงติดขัด

"ก็สามีคุณยังไม่ตื่นนี่คะ...แค่นี้นะจะนอนต่อ"

“ไม่นะ...”  พอปลายสายวางได้สาวเจ้าก็กำมือแน่นน้ำตาคลอความเชื่อใจได้ถูกทำลายไปแล้ว

ภาพที่คิดขึ้นในหัวตอนนี้คือภาพที่สามีของเธอร่วมรักกับเธอและพฤติกรรมเหล่านั้นหากเขาไปทำกับคนอื่นก็คงจะเหมือนๆกันยิ่งคิดเธอก็ยิ่งทำใจไม่ได้หากจะต้องใช้สามีร่วมกับใคร

 สองชั่วโมงต่อมา

   แพงขวัญนั่งรอแพทริคที่หน้าบ้านตั้งแต่เช้าโดยที่เธอนั้นก็ยังไม่ยอมทานอะไรจนเห็นรถหรูของเขาขับมาจอดที่หน้าบ้านได้จึงรีบเดินไปเปิดประตูตะโกนถามอีกฝ่ายอย่างไม่พอใจขณะที่ชายหนุ่มยังไม่ทันได้ถอดเบลออกดี

"คุณไปไหนมากันแน่ทำไมฉันโทรไปมีผู้หญิงรับ"

"ก็แค่สนุกนิดหน่อยเหมือนกับสนุกกับคุณไง"  คนตัวโตออกมาจากรถได้ก็เดินผ่านร่างบางออกไปอย่างไม่สนใจ

"สนุกนิดหน่อยงั้นเหรอ...ถ้ารักสนุกมากจะมาแต่งงานกับฉันทำไม"  มือเรียวดึงมือหนาของชายหนุ่มเอาไว้เธอโมโหจนตัวสั่นที่อีกฝ่ายทำเป็นไม่รู้ร้อนไม่รู้หนาว

"มันก็เรื่องของผม"   แพทริคหันกลับมาจ้องหน้าหญิงสาวด้วยสีหน้าเรียบเฉย

"คุณทำแบบนี้ต้องการอะไรกันแน่...ตลอดเวลาที่ผ่านมาคำพูดดีๆของคุณไม่เคยจริงเลยงั้นสิ"   แพงขวัญเอ่ยน้ำเสียงสั่นเครือแววตาเธอไหวระริกมือไม้สั่นไม่คิดว่าชายหนุ่มจะมาออกลายเจ้าชู้หลังจากที่เธอให้ใจไปหมดแล้ว

"แล้วแต่จะคิด"  แพทริคดึงมือหญิงสาวออกและเดินลอยหน้าลอยตาเข้าไปในบ้านไม่รู้เลยว่าเสียงทุ้มของเขาสร้างบาดแผลในใจของเธอแค่ไหน

"อึก...อืม.."  สาวเจ้านั่งฟุบลงกับพื้นสะอึกสะอื้นตัวโยนผิดหวังที่ดูสามีของเธอจะไม่สะทกสะท้านที่ตัวเองทำผิดแม้แต่น้อย

“.....”  แพทริคไม่หันหลับไปมองแพงขวัญแม้แต่น้อยเพราะสิ่งที่เขาไม่ชอบเห็นที่สุดตอนนี้คือน้ำตาของเธอแต่จะทำอย่างไรได้เมื่อเธอคือเครื่องมือที่ดีที่สุดที่จะทำให้พงษ์พัฒน์นั้นเจ็บ

เย็นของวัน

ตอนนี้ข่าวบันเทิงว่อนไปทั่วที่มีรูปของแพทริคควงสาวที่ไม่ใช่ภรรยาตัวเองเข้าโรงแรม

(นักธุรกิจหนุ่มที่พึ่งแต่งงานได้หมาดๆควงสาวที่ไม่ใช่ภรรยาตัวเองเข้าโรงแรมแบบนี้เมียหลวงเค้าจะว่ายังไงนะ)

"..ข่าวนี้มัน.." พงษ์พัฒน์ที่นั่งดูข่าวนี้อยู่หลังจากเลิกงานก็เป็นกังวลภาวนาขอให้มันไม่เป็นความจริงเพราะไม่อยากเห็นลูกสาวของเขาต้องเจ็บปวด

"คุณพ่อขา"  

"แพง...ข่าวที่ออกมามันจริงเหรอลูก”  ขณะที่พงษ์พัฒน์กำลังนั่งเครียดอยู่นั้นจู่ๆแพงขวัญก็ร้องห่มร้องให้โผเข้ามากอดเขาตอนนี้เขาแทบพูดไม่ออกที่เห็นลูกสาวตนเสียใจขนาดนี้

“อึก..ฮือๆๆ..”  ใบหน้านวลที่แปะเปื้อนด้วยน้ำตาพยักหน้ากับคนเป็นพ่อเบาๆ

“ไม่ต้องร้องนะลูกไม่เป็นไร" พงษพัฒน์รู้สึกผิดหวังในตัวแพทริคมากที่เขากล้านอกใจลูกสาวของเขาและรู้สึกผิดในใจลึกๆที่เป็นคนพาแพทริคมาให้ลูกสาวของเขาได้รู้จักเองทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายจนถึงตอนนี้

“ถ้าลูกไม่อยากกลับไปหาเค้าก็ไม่ต้องไปนะลูกอยู่กับพ่อหลานคนเดียวพ่อเลี้ยงได้”  พงษ์พัฒน์กอดปลอบลูกสาวของเขาก่อนจะตัดสินใจพูดคำนี้ออกมาเพราะเขาเห็นว่าคนที่เจ้าชู้ไม่นานก็คงจะต้องกลับไปทำเรื่องเดิมซ้ำซาก

22.00 น.

ติ๊งง

เสียงข้อความในมือถือทำให้แพงขวัญต้องรีบปาดน้ำตากดดู

กลับมาหาผมถ้าคุณไม่อยากให้ธุรกิจพ่อคุณมีปัญหา

"คุณจะทรมานฉันไปถึงไหน"  

ผมบอกให้คุณกลับมา..ภายในวันพรุ่งนี้ถ้าผมไม่เห็นหน้าคุณเตรียมรอฟังข่าวร้ายได้เลย

และแล้วเธอก็ต้องมีน้ำตาพรั่งพรูอีกรอบเมื่อชายหนุ่มใช้วิธีบังคับจิตใจของเธอเช่นเดิมที่เคยทำกับเธอไม่รู้ว่าเขาคิดจะทำอะไรกับชีวิตเธอกันแน่ถึงได้เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายใส่เธอแบบนี้

เช้าวันต่อมา

"จะไปไหนเหรอลูก"  พงษ์พัฒน์เห็นลูกสาวตัวเองแต่งตัวลงมาด้านล่างตั้งแต่เช้าจึงอยากรู้ว่าลูกของเขาจะไปไหน

"กลับไปหาแพทริคค่ะ"

"เค้าไม่ให้เกียรติลูกแล้วลูกจะกลับไปหาเค้าทำไม"  คำตอบของแพงขวัญทพืพัฒน์หน้าเสียอย่างเห็นได้ชัด

"หนูรักคุณพ่อนะคะ"  ร่างบางรีบเดินลงมาโผกอดพ่อของเธอที่เธอทำแบบนี้เพราะไม่อยากให้ธุรกิจของพ่อเธอมีปัญหาแค่เรื่องเธอพ่อเธอก็เครียดจะแย่อยู่แล้ว

"พ่อก็รักหนูพ่อไม่อยากให้หนูเจ็บ"   พงษ์พัฒน์ไม่รู้ว่าแพทริคทำอะไรให้ลูกของเขารักนักรักหนาถึงได้ยอมทิ้งศักดิ์ศรีกลับไปหาได้

"หนูต้องกลับไปค่ะ"  ว่าจบก็รีบออกจากบ้านขับรถกลับทันที

"พ่อขอโทษลูกที่พาคนไม่ดีเข้ามาในชีวิตของหนู"  น้ำตาลูกผู้ชายของพงษ์พัฒน์ไหลออกมาอย่างสางสารคนเป็นลูกตั้งแต่ลูกของเขาเกิดมาไม่มีเลยที่เขาคิดจะทำให้ลูกของเขาเสียใจจึงรู้สึกผิดที่พาคนอื่นเข้ามาทำร้ายลูกตัวเองเสียได้

ทางด้านแพทริคเมื่อเห็นหญิงสาวเดินเข้ามาในบ้านได้แพทริคก็ยิ้มกริ่มก่อนจะเรียกเธอมาทานข้าวเช้าด้วยกันเพราะรู้ดีว่าเธอไม่ได้ทานอะไรตั้งแต่เมื่อวาน

"มาทานข้าวด้วยกันสิ"

"ฉันไม่หิว"

"ไม่หิวไม่ได้...แล้วอาหารที่ผมสั่งมาใครจะรับผิดชอบ"  ร่างบางถูกลากมานั่งที่เก้าอี้โต๊ะทานข้าวที่มีอาหารและผลไม้วางเรียงรายอยู่ตรงหน้า

ฟรึ่บ

"จบไหม"  แพงขวัญรวบกล่องอาการเหล่านั้นทิ้งลงถังขยะต่อหน้าของแพทริค

"อย่ามาเสียมารยาทกับผมนะ" 

"คนอย่างคุณฉันไม่จำเป็นต้องมีมารยาทด้วยให้ฉันกลับมาฉันก็กลับมาแล้วจะเอาอะไรอีก"  สาวเจ้าตวาดเสียงสั่น

“ถ้าไม่ใส่ใจตัวเองก็ควรจะห่วงลูกบ้าง”  

“คุณสนใจลูกด้วยเหรอคะ”  แพงขวัญเอ่ยตีฝีปากอย่างประชดประชันหากเขาห่วงลูกจริงเขาก็ควรจะทำตัวเป็นพ่อที่ดีไม่ใช่เที่ยวเร่ไปนอนกับผู้หญิงคนอื่นที่ไม่ใช่เมียตัวเอง

“ลูกผมทั้งคนทำไมจะไม่สนใจ” แพทริคไม่พอใจในคำประชดของหญิงสาวแม้นเขาจะดูเป็นคนไร้หัวใจแต่ก็ใช่ว่าเขาจะไม่ห่วงเลือดเนื้อเชื้อไขของเขาเสียเมื่อไร

“ฉันจะเอาลูกออกคนอย่างคุณไม่เหมาะเป็นพ่อที่ดีของลูกฉันหรอกค่ะ..ถ้าอยากจะมีลูกใหม่เชิญไปมีกับผู้หญิงของคุณโน่น” แพงขวัญกัดฟันพูดในสิ่งที่ตัวเองไม่ได้อยากจะทำแต่ตอนนี้ขอเพียงพูดเพื่อความสะใจให้คนที่ว่าห่วงลูกนักหนาได้รู้สึกเจ็บเหมือนที่เธอเจ็บที่โดนนอกใจบ้าง

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status