เมื่อมือที่ 3 มาในรูปแบบของแม่สามี..ที่คิดจะกำจัดลูกในท้องของเธอ กาฝากอย่างเธอจะทำอย่างไร? กับความสัมพันธ์ต้องห้ามนี้..
View Moreร่างชายหญิงสองร่างต่างกำลังโรมรันกันอย่างไม่มีใครยอมใคร ด้วยความปรารถนาที่ซุกซ่อนอยู่ภายในใจถูกปลดปล่อยออกมาทางอารมณ์พิศวาสที่ลุกโชนอย่างไม่มีท่าทีว่าจะมอดไหม้
“อ๊ะ อื้มมมม” หญิงสาวเปล่งเสียงออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ บวกกับเสียงหอบกระเส่าของชายหนุ่มเมื่อเขาเร่งจังหวะเร็วแรงขึ้นเพื่อส่งเธอให้ถึงฝั่งฝัน “อ๊าาาาา” เสียงกรีดร้องของเธอทำให้เขาฮึกเหิมเพิ่มความรุนแรงยิ่งขึ้นไปอีก “โอวววว” ในที่สุดเขาก็ตามเธอไปแตะขอบสวรรค์ ส่งลาวาอุ่นเข้าไปในช่องทางรักทุกหยาดหยด ความรู้สึกที่ได้ปลดปล่อยทำให้เขาและเธอเหมือนจะลอยขึ้นไปบนฟากฟ้าตามความสุขสม เขาทิ้งร่างลงข้างๆ กายสาว นอนฟังเสียงหอบหายใจกันและกันบนเตียงขนาดเล็กในห้องนอนของเธอ “ยาคุมหมดหรือยัง?” ชายหนุ่มเอ่ยถามในขณะที่เขาเอาแขนหนุนศีรษะของตัวเองข้างหนึ่ง ส่วนอีกข้างก็ยื่นออกไปให้หญิงสาวหนุนนอน “เหลือทานอีกสองวันก็หมดแล้วค่ะ” ดวงตาของเธอเหม่อลอยมองไปบนเพดาน “งั้นฉันก็เอากับฌาได้อีกแค่สองวันสินะ..” เขาถอนลมหายใจออกมาอย่างแรงราวกับไม่พอใจ “ค่ะ” “แล้วไปเรียนก็อย่าลืมเอายาแก้ปวดไปล่ะ เดี๋ยวก็ปวดท้องประจำเดือนจนร้องไห้อีก ฉันขี้เกียจจะดูแล” เขาบ่นออกมาอย่างไม่แคร์ว่าหญิงสาวที่นอนอยู่ข้างกายจะรู้สึกอย่างไร “ค่ะ” เหมือนมีอะไรมาจุกอยู่ที่ลำคอ ก่อนจะกลืนน้ำลายลงไป ขอบตาร้อนผ่าว เธอรีบยกมือขึ้นเช็ดก่อนที่เขาจะเห็น เธอมันก็แค่ที่ระบายความใคร่ของเขาเท่านั้น.. เพราะคำว่าตอบแทนบุญคุณที่เขาพูดใส่หน้าเธอทุกวันทำให้เธอต้องตกอยู่ในสภาพนี้ ธนัทธาม หรือ ที่ใครๆ ต่างก็เรียกเขาว่า ธาม เป็นลูกชายของคุณธีทัช อดีตข้าราชการทหารชั้นผู้ใหญ่ กับคุณหญิงพิมาลา ที่มีนิสัยเจ้ายศเจ้าอย่าง มีอำนาจใหญ่สุดในบ้าน เธอเป็นไฮโซชื่อดังและเป็นที่รู้จักของคนในสังคม ทั้งสองมีลูกชายด้วยกันสองคนคือ ธันธนัท พี่ชายคนโต และ ธนัทธาม น้องชายคนเล็ก แต่เนื่องจากธันธนัทเกิดมาพร้อมกับโรคหัวใจพิการแต่กำเนิดทำให้เสียชีวิตตั้งแต่อายุได้สามขวบ ทั้งสองจึงเหลือลูกชายเพียงคนเดียวนั่นก็คือ ธนัทธาม ความรักและความคาดหวังทุกอย่างจึงมาตกอยู่ที่ธนัทธามคนเดียวเท่านั้น ส่วนเธอ ฌาริยา หรือ ฌา เป็นแค่กาฝากของคฤหาสน์หลังนี้ เธอเป็นหลานของนิภา คนรับใช้ของคุณหญิงพิมาลา นิภาเป็นพี่สาวของมารดาเธอ จึงมีศักดิ์เป็นป้าของเธอ มารดาของเธอนำตัวเธอมาฝากไว้ก่อนที่จะขาดการติดต่อ ไม่มารับเธอตามที่ได้บอกไว้ พูดง่ายๆ คือต้องการนำเธอมาทิ้งไว้ให้ผู้เป็นพี่สาวดูแล คุณธีทัชและคุณหญิงพิมาลาสงสารจึงรับเลี้ยงไว้เพราะเห็นแก่เด็กตาดำๆ อย่างเธอ ท่านทั้งสองส่งเสียให้เธอได้เรียนหนังสือโรงเรียนเดียวกับบุตรชายของท่าน ซึ่งความจริงก็คือ คุณหญิงพิมาลาต้องการให้ฌาริยาคอยปรนนิบัติรับใช้บุตรชายของท่านนั่นเอง ฌาริยา อยู่ในคฤหาสน์หลังนี้อย่างเจียมเนื้อเจียมตัว ใครสั่งให้ทำอะไรเธอก็ทำ ด้วยความที่เธอเป็นคนหัวอ่อน ทำให้เธอถูกเพื่อนในโรงเรียนรังแกอยู่บ่อยๆ เพราะเธอเป็นแค่เด็กรับใช้ในบ้านของธนัทธาม มิใช่ลูกพวกไฮโซ หรือลูกเศรษฐีทั้งหลาย ทุกครั้งที่เธอถูกรังแก ธนัทธามจะคอยปกป้องเธออยู่เสมอ ถึงแม้ว่าเขาจะเกลียดและไม่ค่อยชอบขี้หน้าเธอเพราะเธอมันแค่กาฝากที่บิดามารดาของเขารับเลี้ยงไว้เพื่อใช้งานเท่านั้นเอง เขาจึงไม่ให้ค่ากับคนอย่างเธอ เขาสั่งให้เธอทำอะไรเธอก็ต้องทำ ไม่มีสิทธิ์ขัดคำสั่งเขาเด็ดขาด ในขณะที่เธอนั้นแอบหลงรักเจ้านายหนุ่มอยู่เงียบๆ ถึงแม้ว่าเขาจะปากร้ายกับเธอ แต่เขาก็คอยปกป้องดูแลเธออยู่เสมอ อย่างเช่น เวลาที่เธอเป็นวันนั้นของเดือน เธอจะปวดท้องมาก ปวดจนทนไม่ได้ต้องร้องไห้ออกมา ก็มีเขาที่คอยหายามาให้เธอทาน หรือแม้แต่ตอนที่เธอถูกรังแก ก็เป็นเขาที่ปกป้องเธอ ฌาริยาไม่รู้ว่าความรู้สึกดีๆ ที่เธอมีให้เขามันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ เธอรู้เพียงแค่ว่าชีวิตนี้เธอยกให้เขาไปหมดแล้ว ทั้งตัวและหัวใจ ไม่ว่าเขาจะทำอะไรกับเธอหรือให้เธอทำอะไร เธอก็ยอมทุกอย่าง “ฌา..คิดอะไรอยู่ทำไมเงียบไป” เขาเอ่ยถามออกมาเมื่อเห็นว่าเธอเงียบไป “เปล่าค่ะ..ไม่มีอะไร คุณธามจะกลับห้องเลยหรือเปล่าคะ?” ฌาริยาดึงสติกลับมาก่อนจะเอ่ยถามออกไป “ทำไม..อยากไล่ฉันกลับแล้วเหรอ?” เขาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด กว่าเขาจะแอบมาที่ห้องของเธอได้ในแต่ละวัน เขาต้องรอให้บิดามารดาของเขาเข้านอน และไหนจะป้านิภาของเธออีก “ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะ..ก็ฌาเห็นว่าหลังจากที่คุณธาม เอ่อ..มีอะไรกับฌาเสร็จแล้ว คุณธามก็จะกลับห้องทันที แต่นี่คุณธามยังอยู่ ฌาก็เลยถามแค่นั้นเองค่ะ” เธอเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงกล้าๆ กลัวๆ “ก็ฉันยังอยากจะเอาฌาอีกรอบไง..เหลือเวลาอีกแค่สองวันก็ต้องรอไปเป็นอาทิตย์ ทรมานตายห่า” เขาพ่นคำหยาบออกมา เขารู้สึกว่าตัวเองเสพติดร่างกายของเธอเข้าแล้ว วันไหนไม่ได้ปลดปล่อยกับเธอเขาจะรู้สึกหงุดหงิดและนอนไม่หลับทั้งคืน “แต่นี่มันก็ดึกมากแล้วนะคะ..เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ต้องตื่นแต่เช้าไปเรียนอีก” เธอแย้งออกไป “ถ้าฉันไม่ตื่นฌาก็ไปปลุกสิ” เขารู้ว่าฌาริยาต้องตื่นตั้งแต่ตีห้าเพื่อช่วยป้านิภาเตรียมทำอาหารเช้า บางวันที่เขารังแกเธออย่างหนักหน่วง หรือบางทีก็เกือบถึงเช้าโดยเฉพาะศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ เธอแทบไม่มีแรงลุกไปช่วยงานป้านิภา แต่เธอก็ต้องอดทนทำเพื่อให้มันผ่านพ้นไป “คุณธามก็ตั้งนาฬิกาปลุกอยู่แล้วไม่ใช่เหรอคะ?” “เลิกพูดเถอะ เสียเวลา มาให้ฉันเอาดีกว่า” พูดจบเขาก็พลิกตัวขึ้นมาทาบทับร่างบางเอาไว้ จากนั้นทั้งเขาและเธอต่างก็ปรนเปรอให้กันและกันครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างไม่มีที่สิ้นสุด จวบจนเวลาล่วงเลยไปยังรุ่งสางของวันใหม่ ร่างทั้งสองร่างต่างก็หมดเรี่ยวแรงก่อนที่ธนัทธามจะพยุงกายลุกขึ้นจากเตียง เขาหยิบชุดนอนที่ถอดทิ้งไว้เรี่ยราดอยู่บนพื้นขึ้นมาสวมใส่ ก่อนจะเดินไปเปิดประตู เขาโผล่ศีรษะออกไปมองซ้ายแลขวา เมื่อเห็นว่าไม่มีใคร ชายหนุ่มจึงรีบเดินออกไปทันที ทิ้งให้หญิงสาวนอนหอบหายใจอยู่บนเตียงเพียงคนเดียว เมื่อชายหนุ่มออกไปแล้ว ฌาริยาก็พยุงกายลุกขึ้นก่อนจะหาเสื้อผ้ามาสวม ตอนนี้ป้านิภาน่าจะตื่นแล้ว เธอจึงรีบไปเข้าห้องน้ำล้างหน้าแปรงฟันเพื่อไปช่วยป้านิภาเตรียมอาหารเช้า สรุปแล้วค่ำคืนที่ผ่านมาเธอไม่ได้นอนเลยสักนิด เพราะธนัทธามเอาแต่รังแกเธอทั้งคืนจนถึงเช้า ไม่รู้ว่าเขาไปเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน และวันนี้ทั้งเขาและเธอต่างก็ง่วงเหงาหาวนอนในห้องเรียนทั้งวัน จนในที่สุดเวลาเรียนก็สิ้นสุดลง เมื่อเขาและเธอนั่งอยู่บนรถหรู โดยที่เขาและเธอต่างก็หลับใหลบนรถ โดยมีคนขับรถที่ทำหน้าที่สารถีรับส่งเขาและเธอไปโรงเรียน ธนัทธามนั่งเบาะหลัง ส่วนฌาริยานั่งเบาะหน้าข้างคนขับรถสองปีผ่านไป“น้องฌาร์ม..ไม่วิ่งนะคะ เดี๋ยวล้มค่ะ” ฌาริยาเดินอุ้ยอ้ายตามลูกสาวคนเล็กที่กำลังวิ่งเล่นอยู่ที่สนามหญ้าข้างบ้านใช่แล้ว! เธอท้องลูกคนที่สามได้ยี่สิบเจ็ดสัปดาห์ หรือเจ็ดเดือนแล้ว ธนัทธามนั่นแหละที่ขอร้องอ้อนเธอว่าอยากได้ลูกชายอีกสักคน ตอนแรกเธอปฏิเสธเพราะยังเหนื่อยกับการเลี้ยงลูกสาวคนเล็กที่ตอนนี้อายุพึ่งจะสามขวบ แต่เธอก็ทนการรบเร้าของสามีไม่ไหว สุดท้ายก็ต้องตามใจสามีอันเป็นที่รักส่วนเด็กหญิงเฌอริตานั้น ตอนนี้ก็เริ่มโตเป็นสาวช่วยแม่เลี้ยงน้องได้แล้ว และตอนนี้ก็กำลังช่วยยายภาจัดเตรียมของว่างอยู่ “ป้อ ป้อ” เสียงเรียกพ่อของเด็กหญิงฌาริญญา หรือน้องฌาร์ม ดังขึ้นเมื่อเห็นผู้เป็นบิดาเดินเข้ามาหา“ว่าไงคะ..คนเก่งของพ่อ” ธนัทธามยื่นแขนไปอุ้มเด็กน้อยขึ้นมาหอมแก้มซ้ายขวาจนเด็กน้อยหัวเราะ คิกๆ เพราะจั๊กจี้“กลับมาแล้วเหรอคะ? คุณผู้ชายกับคุณผู้หญิงเป็นอย่างไรบ้างคะ?” ฌาริยาเอ่ยถามสามีเมื่อเห็นว่าเขากลับมาไวกว่าปกติ“ก็เหมือนเดิม คิดถึงลูก คิดถึงเมีย ก็เลยรีบกลับ เหมือนจะเมื่อยเนื้อเมื่อยตัวด้วย” ธนัทธามยังคงดูแลทุกอย่าง ทุกคนอยู่เหมือนเดิม“เดี๋ยวคืนนี้ฌานวดให้นะคะ”“นาบด้วยได้มั้ย?”
ห้าเดือนผ่านไปฌาริยาตั้งครรภ์เข้าสู่ไตรมาสที่สามแล้ว เหลืออีกประมาณสองเดือนเธอก็ใกล้จะคลอดแล้ว เมื่อห้าเดือนก่อนธนัทธามพาฌาริยาไปจดทะเบียนสมรส และไปฝากครรภ์ ตอนนี้เขาและเธอใช้ชีวิตฉันสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายมาห้าเดือนแล้ว ชีวิตของฌาริยาในตอนนี้มีความสุขมากๆ ธนัทธามไปรับป้านิภามาอยู่ด้วยกัน และในตอนนี้เขาได้ซื้อบ้านหลังใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิมหลายเท่า มีพื้นที่ไว้ให้ลูกๆ เล่นอย่างกว้างขวาง และมีสระว่ายน้ำอยู่ภายในบริเวณบ้านด้วย เรียกได้ว่าชีวิตของเธอตอนนี้สมบูรณ์แบบที่สุด มีสามีที่รักและเอาใจใส่เธอกับลูก และที่สำคัญสามีของเธอนั้นไม่เคยนอกลู่นอกทางเลย ธนัทธามเองก็ยังกลับไปดูแลบุพการีในวันเสาร์อาทิตย์เช่นเดิม ฌาริยารู้ว่าเขาเหนื่อย ไหนจะต้องทำงานที่บริษัท ไหนจะต้องดูแลบิดามารดา และยังต้องดูแลเธอกับลูกอีก ฌาริยาจึงพยายามแบ่งเบาภาระของเขาให้ได้มากที่สุด เธอไม่อยากให้เขาเหนื่อยจนเกินไป แต่เธอก็ทำอะไรได้ไม่มากเพราะตอนนี้เธอก็ท้องแก่ใกล้จะคลอดแล้ว พวกงานบ้านต่างๆ และการทำอาหารตอนนี้กลายเป็นหน้าที่ของป้านิภาไปแล้ว ส่วนฌาริยาก็ช่วยงานเล็กๆ น้อยๆ แต่จะดูแลเด็กหญิงเฌอริตาเป็นหลัก และอีกเรื่องที่
สองเดือนผ่านไปอุ๊บ! อุ๊บ! ฌาริยาตื่นมาพร้อมกับความรู้สึกอยากจะอาเจียน เธอรีบพุ่งตัวไปที่ห้องน้ำอย่างไว ก่อนจะอ้วกออกมาจนหมดหรือว่าเราจะท้อง? ต้องเป็นวันนั้นแน่ๆ เลย วันที่เธอโดนธนัทธามฝืนใจ และหลังจากนั้นเธอก็ไม่สบายจึงลืมกินยาคุมฉุกเฉิน เพราะเธอหยุดกินยาคุมกำเนิดตั้งแต่ที่จบความสัมพันธ์กับเขาแล้วถ้าท้องขึ้นมาจริงๆ เธอจะทำอย่างไรดี?หลังจากที่ธนัทธามไปส่งเด็กหญิงเฌอริตาที่โรงเรียนและเขาก็เลยไปทำงาน ฌาริยาจึงรีบขึ้นแท็กซี่ไปโรงพยาบาล เธอต้องการตรวจให้แน่ใจว่าท้องจริงหรือเปล่า“ยินดีด้วยนะคะ คนไข้ตั้งครรภ์ได้แปดสัปดาห์แล้วค่ะ” สิ้นเสียงของหมอ โสตประสาทสัมผัสของเธอหยุดทำงานไปชั่วขณะ กว่าจะตั้งสติได้ก็ผ่านไปนานหลายวินาที“ดิฉันท้องจริงๆ ใช่มั้ยคะ? คุณหมอ”“ใช่ค่ะ คนไข้จะฝากครรภ์เลยมั้ยคะ?”“เอ่อ..ยังค่ะ”“ได้ค่ะ.งั้นเดี๋ยวหมอจะจัดยาบำรุงครรภ์ให้นะคะ ถ้าคนไข้จะมาฝากครรภ์คราวหน้าให้พาคุณพ่อมาด้วยนะคะ”“อ๋อค่ะ”ฌาริยาออกจากโรงพยาบาลและกลับมาถึงบ้านในสภาพจิตใจที่ไม่มั่นคงนัก เธอนั่งมองภาพอัลตร้าซาวด์ลูกน้อยที่อยู่ในท้องของเธอด้วยความรู้สึกหลากหลาย มีทั้งความดีใจ มีทั้งความกังวลใจ ตอนนี้เ
หลังจากที่ไข้ลดฌาริยาก็ไปทำอาหารเช้า เธอปล่อยให้เขานอนอยู่อย่างนั้น เธอไม่กล้าปลุกเพราะกลัวว่าเขาจะตื่น เธอไม่รู้ว่าเขาได้นอนตอนไหน“แม่ฌาหายดีแล้วเหรอคะ?” เด็กน้อยที่พึ่งตื่นงัวเงียถามมารดา“แม่ดีขึ้นแล้วค่ะ วันนี้น้องเฌอคงต้องลาอีกหนึ่งวันนะคะ เดี๋ยวแม่โทรบอกคุณครูเองค่ะ” “ได้ค่ะ” “น้องเฌอหิวหรือยังคะ? แม่ทำอาหารเช้าเสร็จแล้ว”“ยังไม่ค่อยหิวเท่าไหร่ค่ะ แล้วพ่อธามล่ะคะ?” เด็กน้อยตอบก่อนจะถามหาบิดา“พ่อธามหลับอยู่ค่ะ” “เมื่อวานพ่อธามดูแลแม่ฌาทั้งวันเลยค่ะ เพราะแม่ฌาไม่สบายตัวร้อน แล้วพ่อธามก็ทำอาหารให้น้องเฌอทาน อาบน้ำให้น้องเฌอ แล้วก็พาน้องเฌอเข้านอน เสร็จแล้วพ่อธามก็ไปดูแลแม่ฌาต่อค่ะ” เด็กน้อยอธิบายจนเธอเห็นภาพ“จริงเหรอคะ?” “จริงค่ะ” “งั้นเราปล่อยให้พ่อธามนอนพักผ่อนดีมั้ยคะ?”“ดีค่ะ” จากนั้นสองแม่ลูกก็พากันเล่นของเล่นอยู่ในห้องรับแขกธนัทธามตื่นมาอีกทีเกือบสิบเอ็ดโมง ขณะนั้น ฌาริยากำลังทำอาหารกลางวันอยู่“ดีขึ้นแล้วเหรอ? ถึงมาทำอาหารได้” เขาเอ่ยถามเมื่อเดินเข้ามาในครัวเพราะได้กลิ่นหอมเหมือนแกงจืดอะไรสักอย่าง“ไม่มีไข้แล้วค่ะ” หญิงสาวตอบเสียงเรียบ“ฉันขอโทษนะที่ทำให้ฌาต้องเ
ก๊อก! ก๊อก! เสียงเคาะประตูดังขึ้น ฌาริยาจึงเดินมาเปิดประตู“คุณธามมีอะไรหรือเปล่าคะ?” “ลูกหลับแล้วเหรอ?” เขาไม่ตอบแต่หากเป็นฝ่ายถามเธอกลับ“หลับแล้วค่ะ มีอะไรคะ?” “ฉันมีเรื่องจะคุยด้วย” เขาตอบเสียงเรียบ“เรื่องอะไรคะ?” เธอเลิกคิ้วถามออกมา“จะยืนคุยกันตรงประตูนี่หรือไง?” ฌาริยาพ่นลมหายใจออกมาก่อนจะตอบออกไป“งั้นก็ออกไปคุยกันข้างนอกก็ได้ค่ะ เดี๋ยวลูกจะตื่น” พูดจบเขาและเธอก็เดินออกมาจากห้อง เธอปิดประตูและหมุนตัวมาคุยกับเขา“คุณธามมีอะไรจะคุยกับฌาคะ?” “ฉันไม่ชอบให้ฌาไปคุยหรือสนิทสนมกับผู้ชายคนอื่นแบบนั้น” “ฌาจะคุยกับใครหรือสนิทกับใครมันก็สิทธิ์ของฌาหรือเปล่าคะ?” “ฌาไม่มีสิทธิ์คุยกับผู้ชายคนอื่น”“คุณธามก็ไม่มีสิทธิ์มาสั่งฌาเหมือนกัน เพราะเราไม่ได้เป็นอะไรกัน”“ฉันไม่มีสิทธิ์อย่างนั้นเหรอ? ไม่ได้เป็นอะไรกันอย่างนั้นเหรอ? สงสัยต้องทบทวนหน่อยล่ะมั้งว่าเราเป็นอะไรกัน” พูดจบเขาก็จับข้อมือทั้งสองข้างของเธอขึ้นมาและตรึงเธอไว้กับประตูห้อง“คุณธาม จะทำอะไร?” “ก็ทำแบบนี้ไง” สิ้นเสียงของชายหนุ่ม เขาก็ประกบริมฝีปากของตัวเองลงบนริมฝีปากของเธอ และสอดลิ้นอุ่นร้อนเข้าไปในโพรงปากหวาน เขาบดจูบเธออย
วันเสาร์วันนี้เด็กหญิงเฌอริตาตื่นแต่เช้าเพื่อเตรียมตัวไปเรียนศิลปะ เด็กน้อยดีใจที่จะได้เจอเพื่อนที่เรียนด้วยกันซึ่งมีอายุเท่ากัน “มาตา มานานแล้วเหรอ?” เด็กหญิงเฌอริตาเอ่ยทักเมื่อเห็นว่าเพื่อนอยู่ที่ศูนย์แกลลอรี่ก่อนแล้ว“อืมม เราพึ่งมาถึงเมื่อกี้นี้เอง นี่คุณพ่อของเรา” เด็กหญิงคนที่ชื่อมาตาแนะนำให้เพื่อนรู้จักกับบิดาของเธอ“สวัสดีค่ะ คุณลุง” เด็กหญิงเฌอริตายกมือไหว้บิดาของเพื่อน“สวัสดีครับ น้องเฌอใช่มั้ยครับ เห็นมาตาเล่าให้ฟังอยู่บ่อยๆ” “ใช่ค่ะ ส่วนนี่แม่ของน้องเฌอเองค่ะ” เด็กน้อยหันไปแนะนำมารดา“สวัสดีค่ะ คุณน้า คุณน้าสวยจังเลยค่ะ” เด็กหญิงมาตายกมือไหว้มารดาของเพื่อนพร้อมกับเอ่ยชม“สวัสดีค่ะ น้องมาตา ขอบคุณมากนะคะ” ฌาริยายิ้มออกมา“เอ่อ..สวัสดีครับ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ คุณเอ่อ..” มานพ บิดาของเด็กหญิงมาตากล่าวทักทายหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้า เธอสวยเหมือนที่มาตาพูดจริงๆ ด้วย“สวัสดีค่ะ ฌาริยาค่ะ เรียกฌาเฉยๆ ก็ได้ค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะ” “ผมมานพนะครับ เรียกนพเฉยๆ ก็ได้ครับ” “อ๋อค่ะ คุณนพ”หลังจากนั้นเด็กน้อยสองคนก็เข้าคลาสเรียนศิลปะ ส่วนผู้ปกครองของเด็กหญิงทั้งสองก็ไปนั่งดื่
หลังจากวันนั้น วันที่เด็กหญิงเฌอริตาได้รับรู้ว่าธนัทธามคือพ่อของตนเอง เด็กน้อยก็เหมือนจะมีความสุขมากยิ่งขึ้น ที่มีทั้งพ่อและแม่ครบเหมือนกับเด็กคนอื่นๆ และในตอนนี้ เด็กหญิงเฌอริตาก็ได้ไปโรงเรียนแล้ว ธนัทธามเลือกโรงเรียนนานาชาติชื่อดังให้ลูก ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับบ้าน และเป็นทางผ่านสำหรับเขาเวลาไปทำงานอีกด้วย เขาบอกกับฌาริยาว่าเขาจะไปรับไปส่งลูกที่โรงเรียนเอง ส่วนฌาริยาก็มีหน้าที่ดูแลบ้าน ทำความสะอาดบ้าน ทำอาหาร และมีหน้าที่ดูแลทุกอย่างที่เกี่ยวกับลูก เขาและเธอแบ่งหน้าที่กันชัดเจน ทั้งสองคนต่างก็ทำหน้าที่พ่อและแม่ได้เป็นอย่างดี ทำให้เด็กหญิงเฌอริตามีความสุขที่ได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาพ่อแม่ลูก และในวันเสาร์อาทิตย์ธนัทธามจะกลับไปที่คฤหาสน์เพื่อกลับไปหาผู้เป็นบิดา และไปเยี่ยมมารดาที่โรงพยาบาลทุกสัปดาห์ส่วนความสัมพันธ์ของเขาและเธอก็ตามที่ตกลงกันไว้ คือต่างก็ทำหน้าที่พ่อกับแม่ให้เด็กหญิงเฌอริตาเท่านั้น ไม่มีความสัมพันธ์ทางกายเกิดขึ้น ธนัทธามยอมรับข้อตกลงด้วยความจำใจ เพราะเขาไม่อยากเสียเธอกับลูกไปอีกแล้ว เขาจึงต้องทำตามความต้องการของเธอ“แม่ฌาจ๋า..”“ว่าไงคะ..คนสวย” “วันนี้น้องเฌออยากกินไข่เ
หลังจากที่แผลของธนัทธามหายดีแล้ว เขาก็กลับไปที่คฤหาสน์ของเขาเพื่อดูแลบิดา ธนัทธามเล่าเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้บิดาฟัง บิดาของเขาได้เพียงแค่พยักหน้ารับรู้ เพราะบิดาของเขาพูดไม่ได้ ส่วนมารดาของเขาตอนนี้ยังอยู่ที่โรงพยาบาลสำหรับผู้ป่วยจิตเวช เขาไปเยี่ยมมารดาทุกสัปดาห์ แต่ตอนนี้มารดาของเขายังจำอะไรไม่ได้ พอเขาไปเยี่ยม มารดาเขาก็จะเข้ามากอด สักพักก็ไล่เขาออกไป มารดาเขาพร่ำเพ้อหาเรียกแต่ชื่อเขา บางทีก็ร้องไห้ บางทีก็หัวเราะนี่คงเป็นเวรกรรมที่มารดาเขาไว้ทำไว้กับฌาริยาและลูกสาวของเขา มารดาของเขาถึงได้ตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ทางด้านฌาริยากับเด็กหญิงเฌอริตาก็ใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านของธนัทธามปกติ เธอยังไม่ได้คุยกับธนัทธามถึงเรื่องที่เคยคุยค้างไว้ เธอขอเวลาคิดและตัดสินใจอีกที“แม่ฌาจ๋า..ลุงธามหายไปหลายวันเลย เมื่อไหร่ลุงธามจะกลับมาคะ?” เด็กน้อยถามหาชายหนุ่มที่ไม่เห็นหน้ามาหลายวัน“กลับมาแล้วค้าบบ..คิดถึงน้องเฌอจังเลย” เสียงของธนัทธามเอ่ยขึ้นเมื่อเขากำลังเดินเข้ามาในบ้านแล้วได้ยินลูกสาวตัวน้อยถามหาเขาพอดี“น้องเฌอก็คิดถึงลุงธามที่สุดเลยค่ะ” เด็กน้อยฉีกยิ้มหวานก่อนจะตอบออกไป“มาให้พะ.. มาให้ลุงธามกอดหน
คำว่า รัก จากปากของเขาไม่ได้ทำให้เธอตื่นเต้นเลยสักนิดที่ได้ยินมัน“นั่นแสดงว่าคุณธามไม่ได้รักฌามากพอ ถ้าคุณธามรักฌาจริงๆ คุณธามจะไม่ทำกับฌาแบบที่คุณ ธามทำอยู่เด็ดขาด”“ฉันไปทำอะไรฌา?” เขาไปทำอะไรให้ฌาริยาเจ็บช้ำตอนไหน เรื่องงานเขาก็ช่วยเธอให้มาเป็นเลขาของเขา ฌาริยามีปัญหาเรื่องเงินเขาก็ช่วยเหลือเธอ“ก็ที่คุณธามให้ฌาไปเป็นนางบำเรอของคุณธามไงคะ?”“แล้วถ้าฉันบอกฌาว่าให้มาเป็นเมียตรงๆ ฌาจะยอมมั้ย? จริงๆ แล้วเรื่องเงินฉันไม่เคยสนใจมันเลยด้วยซ้ำ เงินแค่นั้นฉันให้ฌาได้อยู่แล้ว ฉันก็แค่อยากได้ฌากลับคืนมา ฉันก็เลยต้องใช้วิธีนี้” ธนัทธามบอกเหตุผลจริงๆ ออกไป “……” ฌาริยานิ่งงันไปชั่วขณะ“ฉันขอโทษ..ขอโทษกับทุกสิ่งทุกอย่างที่ฉันทำให้ฌาต้องเสียใจ ขอโทษแทนคุณแม่ ขอโทษที่ทำให้ฌาต้องเจอแต่เรื่องที่เลวร้าย แล้วก็ขอโทษที่ทำให้ฌาต้องลำบากเลี้ยงลูกคนเดียวมาหลายปี” เขาพร่ำขอโทษ ฌาริยาซ้ำแล้วซ้ำเล่าฌาริยาน้ำตารื้นขึ้นมา เธอสูดลมหายใจเข้าลึกๆ พยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้มันไหลออกมา ชีวิตที่ผ่านมาของเธอเจอแต่เรื่องแย่ๆ เรื่องดีๆ ในชีวิตของเธอก็คงมีแค่ลูกเท่านั้น“ฌายกโทษให้ฉันสักครั้งจะได้มั้ย?” “…
Comments