สิ้นเสียงตอบรับ ชายหนุ่มรั้งเอวหญิงสาวเข้ามาประชิดอกแกร่ง เขาได้ยินเสียงหัวใจของเธอเต้นแรง คางมนถูกเชยขึ้นมาตามด้วยริมฝีปากแนบประกบ เปลือกตาปิดลงขณะที่ริมฝีปากสัมผัสกัน นิ้วของเขาเลื่อนไล้ไปบนต้นคอระหว่างแนบจูบ เป็นการจูบที่เริ่มต้นช้าๆ ปลุกเร้าความต้องการด้วยลิ้นที่แทรกเข้ามา ลมหายใจของเธอขาดเป็นห้วงๆ จูบที่ทำให้รู้สึกคล้ายกับถูกกลืนกิน
มือข้างหนึ่งของเขาค่อยๆ ปลดเปลื้องชุดนอนออกจากร่างบาง ไม่เหลือแม้กระทั่งบราเซียร์และแพนตี้ตัวน้อยลายน่ารัก เขาถอนจูบออกมาเพื่อให้เธอได้หายใจ ก่อนจะมองร่างงามตรงหน้า รู้สึกถึงลมหายใจที่ติดขัดขึ้นมาทันที ผิวขาวอมชมพูทั้งตัว ดอกบัวคู่งามที่ใหญ่จนล้นมือ เอวขอดรับกับสะโพกที่กลมกลึงจนน่าขยำ ในขณะที่กายสาวสั่นเทิ้มเพราะความกลัว เขารั้งเธอเข้ามาแนบชิดอย่างแผ่วเบาราวกับจะปลอบประโลมความหวาดกลัวให้มลายหายสิ้นไป ก่อนจะดันกายสาวเดินถอยหลังไปที่เตียงขนาดใหญ่อย่างช้าๆ เขาโน้มกายแนบริมฝีปากลงมาช้าๆ ราวกับมีแรงดึงดูด หญิงสาวหลับตาพริ้มรับจูบนั้นด้วยความเต็มใจ ก่อนที่ตาจะเบิกกว้างอีกครั้งเมื่อแผ่นหลังสัมผัสกับที่นอนหนานุ่ม แต่เพียงไม่นาน ริมฝีปากหนาบดแนบจูบยิ่งล้ำลึกขึ้นก่อนลิ้นจะค่อยๆ สอดเข้ามา เมื่อความอุ่นสัมผัสกัน การจูบก็ยิ่งเพิ่มความหนักหน่วงขึ้นในทันที ก่อนจะถอนริมฝีปากออกอย่างน่าเสียดาย ปลายจมูกของเขาซุกไซร้ลงมาที่ซอกคอ พร้อมกับลมหายใจถี่กระชั้น ริมฝีปากขบต้นคอฝากร่องรอยสีกุหลาบไว้เป็นเครื่องหมาย ฝ่ามือข้างหนึ่งลูบไล้ไปตามผิวเนียนช้าๆ ก่อนที่สองมือจะขยำหน้าอกขาวนวลของเธอ มือที่ลูบไล้หยุดอยู่ครู่หนึ่งราวกับจะซึมซับความอบอุ่นจากผิวกาย ก่อนที่นิ้วแข็งๆ จะเริ่มลูบไล้ยอดอก ความเสียวซ่านจากยอดอกที่ถูกปลายนิ้วขยี้ส่งผ่านไปยังท้องน้อย “อ๊ะ อืมมม” เธอส่งเสียงครางออกมาเบาๆ ยอดอกสีหวานขยายใหญ่ขึ้นยั่วยวนให้ครอบครองริมฝีปากลงไป ปลายลิ้นสัมผัสจุดเล็กๆ บนหน้าอก ความจั๊กจี้แผ่ขยายไปทั่วร่าง “อ๊าาา” เธอร้องครวญครางออกมาอีกครั้ง ลิ้นอุ่นเลียลงมาตรงยอดเชอรี่ ก่อนดูดดึงหนักๆ ไม่ก็ออกแรงงับเบาๆ ให้สะดุ้งพองาม จากนั้นเขาค่อยๆ ลากลิ้นร้อนผ่าวผ่านเรือนร่างลงไปจนถึงจุดเล็กๆ กลางกาย ก่อนจะเลื่อนต่ำลงไปจนถึงเนินสาว ชั่วพริบตาที่จุดสำคัญโดนสัมผัสร่างกายของเธอก็สั่นกระตุก น้องสาวของเธอเสียวแปลบขึ้นมาเพราะถูกกระตุ้นจากปลายลิ้นของเขาที่สัมผัสบริเวณที่ปิดสนิท ซึ่งชุ่มชื่นจากการปรนเปรอด้วยปาก นิ้วยาวๆ แทรกเข้ามาในช่องทางคับแคบพร้อมกับความรู้สึกแปลกปลอมที่ไม่คุ้นเคย “อื้มมมม” นิ้วที่สอดค้างอยู่ตรงนั้นเริ่มขยับเข้าออกช้าๆ ส่วนปลายลิ้นก็ยังคงทำหน้าที่ดูดเลียน้ำหวานที่หลั่งรินออกมา ปลายนิ้วถูกถอนออกจากตรงนั้นพร้อมด้วยเสียงชุ่มน้ำ สิ่งที่อยู่ใต้ผ้าเช็ดตัวเริ่มปวดหนึบ เขาดึงมันออกจากเอวสอบอย่างรวดเร็ว ความเป็นชายร้อนผ่าวแนบลงมาตรงต้นขา ต่างฝ่ายต่างสบตากันในสภาพเปลือยทั้งตัว แสงสว่างไม่อาจปิดบังใบหน้าที่แดงซ่าน เขาเอื้อมมือไปหยิบซองสีเงินที่อยู่บนหัวเตียง เธอนอนหอบหายใจระเรื่อ สายตามองเขาที่กำลังฉีกซองถุงยาง ส่วนนั้นผงาดให้เห็นอย่างชัดเจน เธอหน้าแดงขึ้นมาทันที จู่ๆ เขาก็ทิ้งถุงยางลงไปที่ข้างเตียงอย่างไม่ไยดี “ทะ ทำไมไม่ใส่คะ?” “นี่เป็นครั้งแรกของเราสองคน ฉันอยากจะเอาฌาแบบสดๆ ไม่มีอะไรมาขวางกั้น” ครั้งแรกของเราสองคน นี่เขาไม่เคยมีอะไรกับผู้หญิงอย่างนั้นเหรอ..เธอเป็นคนแรกของเขา และเขาก็เป็นคนแรกของเธอ และเธอตั้งใจแล้วว่า เขาจะเป็นคนแรกและคนสุดท้ายของเธอ เขาแนบริมฝีปากลงมาบนกลีบปากของเธออีกครั้งก่อนจะส่งลิ้นอุ่นเข้าไปพัวพันกับลิ้นของเธอ เขาตะโบมจูบเธออย่างลึกซึ้งและรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ก่อนที่เขาจะถอนริมฝีปากออกมาเพื่อให้เธอได้หายใจ ความตื่นตัวของอีกฝ่ายจ่อชิดเข้ากับส่วนล่างของเธอ “ครั้งแรกฌาอาจจะเจ็บหน่อยนะ” เขาบอกพร้อมกับจับความเป็นชายที่ตื่นตัวเต็มที่ดันเข้ามาตรงปากทางและแทรกเข้าสู่ภายในช้าๆ ตามจังหวะลมหายใจของทั้งสองฝ่าย ช่องทางที่คับแคบทำเอาเขาต้องกัดฟันแน่นก่อนจะส่งส่วนที่เหลือจมมิดเข้ามาสุดความยาวในคราวเดียว “กรี้ดดดดดด! คุณธาม ฌาเจ็บ” เสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดของหญิงสาวทำให้น้ำตาไหลออกมา “ทนหน่อยนะฌา แป๊บเดียวเดี๋ยวก็หาย” เขาเอ่ยปลอบประโลมพร้อมกับพรมจูบเธออีกครั้ง เธอได้แต่บิดตัวเร่าๆ ซุกหน้ากับหมอนด้วยความรู้สึกยากจะทนไหว ช่องทางบีบรัดความเป็นชายที่แนบสนิทคล้ายจะทำให้ละลาย จนเขาต้องส่งเสียงออกมา “โอววว แน่นมากเลยฌา” เสียงของเขาแหบพร่า สะโพกแกร่งถูกดันเข้าออกอย่างช้าๆ เพื่อให้กายสาวได้ปรับตัวคุ้นเคย จากความเจ็บแปลบเมื่อสักครู่เเปรเปลี่ยนเป็นความเสียวซ่านเข้ามาแทนที่ สะโพกที่กระทั้นเข้ามาขยับถี่ยิบขึ้นทุกที ร่างบอกบางสั่นสะท้านและกระตุกตอบรับจังหวะการสอดใส่ที่เร็วแรงขึ้น เธอบีบไหล่กำยำจนนิ้วแทบฝังลงไป ริมฝีปากเผยอน้อยๆ หลุดเสียงครางปนหอบออกมาเป็นระยะ “ร้องออกมาเลยฌา..ร้องออกมาดังๆ” ยิ่งเขาได้ยินเสียงร้องของเธอเขายิ่งฮึกเหิม “อ๊ะ อ๊าาา” เธอร้องออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ เขาเร่งจังหวะการสอดใส่ กระแทกกระทั้นอย่างรุนแรงจนกายสาวกระตุกเกร็งหลั่งน้ำหวานออกมาจากช่องทางรัก เมื่อเห็นว่าเธอถึงฝั่งฝันแล้ว เขารีบเร่งความเร็วขึ้นไปอีก ใบหน้าหวานส่ายไปมาบนหมอนใบใหญ่ ขณะเขากระแทกกระทั้นเธอไม่หยุด จนในที่สุดร่างกายเขาก็เกร็งกระตุก ก่อนปลดปล่อยของเหลวสีขาวเข้าไปด้านในจนหมด “อ่าาาา” เขาร้องครางออกมาอย่างสุขสม ร่างกายทาบทับลงมาราวกับหมดแรงถึงขีดสุด ก่อนที่เขาจะพลิกตัวลงนอนข้างกายเธอ พร้อมกับลมหายใจที่ค่อยๆ ผ่อนลงมาเป็นปกติ ฌาริยาพยุงร่างที่แทบจะไร้เรี่ยวแรงให้ลุกขึ้น “โอ๊ย!” ความเจ็บตรงกึ่งกลางกายสาวทำให้เธอร้องออกมา “ฌาจะรีบไปไหน? ตรงนั้นยังระบมอยู่อย่าพึ่งลุกสิ” เขาร้องถามเมื่อเห็นเธอพยายามจะลงจากเตียง “ฌาจะกลับห้องค่ะ” “เดินไหวเหรอ..โดนไปขนาดนี้” “คิดว่าไหวค่ะ” พูดจบเธอก็ก้าวขาลงจากเตียงและค่อยๆ เดินไปหยิบชุดนอนที่ถูกถอดทิ้งไว้ข้างเตียง ก่อนจะสวมอย่างรวดเร็ว เธอหันหลังกลับไปมองเขาที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียง ก่อนสายตาจะเหลือบไปเห็นร่องรอยสีกุหลาบหยดเล็กบนที่นอนกว้าง “เอ่อ..เดี๋ยวฌาเอาผ้าปูที่นอนมาเปลี่ยนให้นะคะ” “พรุ่งนี้ก็ได้ไม่เป็นไรหรอก” เขาพูดพร้อมกับหันไปมองรอยเล็กๆ ที่ติดอยู่บนผ้าปูที่นอน “แต่ว่ามันเลอะนะคะ..คุณธามไม่รังเกียจเหรอคะ?” “ทำไมต้องรังเกียจ..ในเมื่อฉันเป็นคนทำให้เกิดรอยนี้เอง” สิ้นเสียงของเขา หน้าของเธอก็แดงก่ำขึ้นมาทันที “พรุ่งนี้ตรงนั้นของฌาน่าจะระบมหรือไม่ฌาก็อาจจะเป็นไข้ กลับไปอย่าลืมหายากินด้วยนะ” “อ๋อ..ค่ะ” “ฉันปล่อยใน ในนี้มียาคุมฉุกเฉิน ฌาอย่าลืมกินนะ” เขาพูดพร้อมกับเอื้อมไปหยิบถุงใบเล็กๆ ที่วางอยู่บนโต๊ะที่อยู่ติดกับเตียงยื่นให้เธอ “ค่ะ” หญิงสาวรับมาก่อนจะเปิดดู พบว่ามันมีหลายกล่อง ก่อนจะเอ่ยถามออกไป “ทำไมมีหลายกล่องจังคะ?” “ที่เหลือเป็นยาคุมกำเนิด ต่อไปฌาต้องมาหาฉันทุกวัน กินแบบนี้ดีกว่าปลอดภัยกว่ายาคุมฉุกเฉิน” “ทุกวันเลยเหรอคะ?” “ใช่! มีปัญหาอะไร?” “ฌากลัวว่าจะมีคนเห็น” “อืม..งั้นฌาไม่ต้องมาก็ได้เดี๋ยวฉันไปหาฌาที่ห้องเอง” “เอ่อ..แต่ว่า” “ไม่มีแต่ ตกลงตามนี้ เข้าใจมั้ย?” “ค่ะ” หลังจากวันนั้น ความสัมพันธ์ทางกายของเขาและเธอก็เกิดขึ้นเกือบทุกวันจนเวลาล่วงเลยมาครบหนึ่งปี และตอนนี้เขาและเธอก็ใกล้จะเรียนจบมัธยมปลายแล้ว เหลือแค่ไปสอบปลายภาคเท่านั้น ปัจจุบัน สองวันที่ยาคุมกำเนิดเหลือคือวันที่เขาแอบมาหาเธออีกเช่นเคย และเป็นสองวันที่มีคนแอบตามชายหนุ่มมาอย่างเงียบๆ คนคนนั้นรอคอยจนกระทั่งเห็นเขาเดินออกมาจากห้องของหญิงสาวในเวลาเกือบรุ่งสางทั้งสองวันหนึ่งเดือนผ่านไปธนัทธามเดินทางไปเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษได้หนึ่งเดือนแล้ว เขาต้องปรับตัวเป็นอย่างมาก กว่าทุกอย่างจะเข้าที่เข้าทางก็ทำเอาซะหืดขึ้นคอ การไปใช้ชีวิตอยู่คนเดียวในต่างแดนไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ชายหนุ่มทั้งโทรทั้งส่งข้อความคุยกับฌาริยาทุกวัน มันไม่ง่ายเลยกับการที่ต้องนอนคนเดียวบนเตียงกว้าง เขาอยากกลับไปนอนกับเธอบนเตียงแคบๆ มากกว่าทางด้านฌาริยา ที่ตอนนี้กำลังเตรียมตัวเข้าเรียนมหาวิทยาลัยที่เธอสอบได้ตามคณะที่เธอต้องการ แต่เมื่อสองวันก่อนเธอก็รู้สึกเวียนหัว พะอืดพะอม อยากจะอาเจียน จนผู้เป็นป้าสงสัยจึงได้เอ่ยถามหลานสาว “ฌา..เป็นอะไร ไม่สบายหรือเปล่า?”“น่าจะเป็นโรคกระเพาะจ่ะป้า ช่วงนี้ฌาทานข้าวไม่ค่อยตรงเวลา”“ไม่ใช่ว่าท้องหรอกเหรอ?” “ป้า” หญิงสาวหน้าซีดเมื่อได้ยินคำถามของผู้เป็นป้าทันใดนั้น เสียงของคุณหญิงพิมาลาก็ดังขึ้นมา“ฌา นิภา ไปคุยกับฉันบนตึกหน่อย”“คุณผู้หญิง / คุณหญิง” สองป้าหลานต่างตกใจที่ได้ยินเสียงของคุณหญิงพิมาลา หน้าของฌาริยาซีดเผือดขึ้นกว่าเดิม“ค่ะ / ค่ะ” จากนั้นฌาริยากับนิภาก็เดินตามคุณหญิงพิมาลาไป“เธอท้องเหรอฌา?” เสียงของคุณหญิงพิมาลาเอ่ยถามออกมาอย่างน่ากลัว“เ
หลังจากที่ฌาริยาออกจากโรงพยาบาล นิภาก็พาหลานสาวกลับไปยังบ้านเกิดเมืองนอนที่จังหวัดเชียงราย บ้านที่แทบจะเป็นบ้านร้างเพราะไร้คนอยู่อาศัย สองป้าหลานต้องช่วยกันทำความสะอาดใช้เวลากว่าสองวันจึงเสร็จเรียบร้อย“เฮ้อ! เหนื่อยจังเลยป้า”“เอ็งเหนื่อยคนเดียวหรือไง ป้าก็เหนื่อยเหมือนกัน” พูดจบสองป้าหลานก็พากันหัวเราะออกมาโชคดีที่บ้านยังมีสภาพดีอยู่ไม่ต้องซ่อมแซมอะไรมากนัก บ้านเป็นบ้านสองชั้น ชั้นล่างเป็นปูนส่วนชั้นบนเป็นไม้ จ้างช่างมาทาสีใหม่สักหน่อยก็อยู่ได้สบายๆ “ป้าเห็นแถวนี้มีแต่ร้านขายกับข้าว ไม่มีร้านขายขนมหวาน ป้าว่าเราทำขนมหวานขายหน้าบ้านกันดีมั้ย?” “ก็ดีนะป้า เดี๋ยวฌาช่วยป้าเอง” “แล้วเรื่องเรียนฌาจะเอายังไง” “ก็คงต้องหยุดเรียนไปก่อนพอฌาคลอดลูกแล้ว ฌาว่าจะกลับไปเรียนค่ะ”“อืม..ป้าก็เห็นด้วย ตอนนี้ก็ดูแลตัวเองกับลูกในท้องให้ดี” “ค่ะป้า”“แล้วนี่ฌาไม่คิดจะบอกคุณธามจริงๆ เหรอ?”“ไม่ค่ะ..ป้าก็รู้ว่าคุณผู้หญิงเป็นคนยังไง ฌากลัวว่าลูกของฌาจะไม่ปลอดภัย ถ้าคุณผู้หญิงรู้เรื่องนี้ ไม่รู้ว่าเขาจะตามมาฆ่าฌากับลูกหรือเปล่า” “ไม่คิดเลยนะว่าคุณผู้หญิงจะใจร้ายใจดำได้ขนาดนี้” “ช่างมันเถอะป้า ตอนนี้
สี่ปีผ่านไปฌาริยาเรียนจบในระดับปริญญาตรีสาขาการบัญชี ในขณะที่ลูกสาวของเธอเติบโตขึ้นจนอายุได้ห้าขวบ ลูกสาวของเธอเป็นเด็กที่ว่านอนสอนง่าย ฉลาดตามวัย และที่สำคัญหน้าตาน่ารักราวกับตุ๊กตา เด็กหญิงเฌอริตาเป็นที่รักและเอ็นดูของชาวบ้านละแวกนี้ รวมถึงลูกค้าขนมหวานด้วย เพราะเด็กหญิงเฌอริตาชอบไปช่วยยายนิภาขายขนม เด็กน้อย ช่างพูดช่างจา จนผู้คนที่พบเห็นต่างก็อดที่จะเอ็นดูไม่ได้ แต่ในความโชคดีที่ฌาริยามีลูกสาวที่น่ารัก กลับมีความโชคร้ายเกิดขึ้น นั่นคือ ลูกสาวของเธอถูกตรวจพบว่าเป็นโรคลิ้นหัวใจรั่วเมื่อหนึ่งปีก่อน หัวใจคนเป็นแม่อย่างเธอแทบแตกสลายเมื่อรับรู้ข่าวร้ายนี้ สาเหตุที่ตรวจพบโรคร้ายนี้เนื่องจากลูกสาวของเธอมักจะป่วยบ่อย โดยมีอาการเหนื่อยเร็วขึ้นเมื่อออกแรง เหนื่อยมาก หอบ นอนราบไม่ได้ หายใจลำบาก จากอาการดังกล่าวหมอจึงสงสัยว่าลูกสาวของเธอจะเป็นโรคเกี่ยวกับหัวใจ จึงได้ทำการตรวจอย่างละเอียด และพบว่า เด็กหญิงเฌอริตาเป็นโรคลิ้นหัวใจรั่วทางด้านซ้าย เกิดจากความผิดปกติของหัวใจที่มีความบกพร่องตั้งแต่กำเนิด ซึ่งอาจจะถ่ายทอดมาจากทางพันธุกรรม ฌาริยาคิดว่าโรคนี้อาจจะถ่ายทอดมาจากฝั่งของธนัทธามเพราะป้านิภาเ
ฌาริยาได้งานในตัวเมืองซึ่งเป็นบริษัทรับทำบัญชีขนาดเล็ก เธอได้เงินเดือนไม่ถึงเก้าพันบาท ทำงานวันจันทร์ถึงวันศุกร์ หลังจากหักค่าใช้จ่ายในการเดินทางแล้ว เธอเหลือเงินแค่เดือนละหกพันบาท และไหนจะโดนหักในวันที่เธอพาลูกน้อยเดินทางไปหาหมออีก ไม่รู้ว่าเธอต้องทำงานอีกกี่ปีถึงจะสามารถเก็บเงินได้หลักแสน อาการของเด็กหญิงเฌอริตาก็เหมือนจะแย่ลงทุกวัน“แม่จ๋า..วันนี้น้องเฌอเหนื่อยจังเลยค่ะ คุณครูให้เพื่อนๆ วิ่งแข่งกัน แต่น้องเฌอไม่ได้วิ่งค่ะ น้องเฌอเดินเอาค่ะ แต่ก็ยังเหนื่อยอยู่ดี” คำบอกเล่าของลูกสาวทำให้เธอเจ็บปวดทุกครั้งที่ได้ยิน เด็กหญิงเฌอริตากลับมาจากโรงเรียนก็จะมาเล่าให้ผู้เป็นมารดาฟังว่าคุณครูให้ทำอะไรบ้าง ตอนนี้ลูกสาวของฌาริยากำลังเรียนอยู่ชั้นอนุบาลหนึ่งที่โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งที่อยู่ในตำบลที่เธออาศัยอยู่“โถ! ลูกสาวของแม่ รอแม่อีกนิดนะคะ แม่กำลังหาเงินมารักษาน้องเฌอให้หายป่วยเร็วๆ นะคะ” ขอบตาของผู้เป็นมารดาร้อนผ่าวขึ้นมาด้วยความสงสารลูกสาวจับใจ “พรุ่งนี้แม่ฌาไปทำงานมั้ยคะ?” “ไปค่ะ แม่หยุดไปสองวันแล้ว เดี๋ยวจะโดนไล่ออกเอา”“น้องเฌออยากให้แม่กลับบ้านไวๆ แม่ไปทำงานทีไร แม่กลับบ้านค่ำทุกวันเล
ฌาริยาเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพราะมีนัดสัมภาษณ์งาน ตำแหน่งที่เธอสมัครไปนั้นเป็นตำแหน่งพนักงานบัญชี ฌาริยารู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากในขณะที่นั่งรอสัมภาษณ์ หญิงสาวกำมือแน่น มือทั้งสองข้างเหงื่อชื้นออกมา ฌาริยารอจนกระทั่งถึงคิวสัมภาษณ์ของเธอและแล้วการสัมภาษณ์งานก็ผ่านพ้นไป เธอได้งานนี้ด้วยเงินเดือนสองหมื่นห้าพันบาท โดยเริ่มงานสัปดาห์หน้า ฌาริยาดีใจเป็นอย่างมาก เธอรีบโทรบอกข่าวดีกับผู้เป็นป้า ก่อนจะรีบเดินทางกลับเชียงรายในค่ำคืนนั้น“ป้าไปอยู่กับฌาที่กรุงเทพฯ มั้ยคะ?”“ป้าว่ารออีกสักหน่อยดีกว่านะ..รอให้อะไรมันเข้าที่เข้าทางเสียก่อน ส่วนน้องเฌอ ฌาไม่ต้องเป็นห่วงป้าจะดูแลให้ดีที่สุด”“ใจจริงฌาก็ไม่อยากจะทิ้งลูกไป ตั้งแต่น้องเฌอเกิดมาฌาไม่เคยอยู่ห่างจากลูกเลยสักวัน เอาไว้ถ้าฌาทดลองงานผ่านโปรเมื่อไหร่ ป้ากับน้องเฌอย้ายไปอยู่กับฌาที่กรุงเทพฯ นะคะ น้องเฌอจะได้ไปโรงพยาบาลได้สะดวก ไม่ต้องเดินทางไกล”“ป้าว่าแบบนั้นก็ดีเหมือนกัน” “แม่ฌา จะไปไหนเหรอคะ ให้น้องเฌอไปด้วยได้มั้ย?”“แม่ต้องไปทำงานที่กรุงเทพฯ ค่ะ น้องเฌออยู่กับยายนะคะ”“ไม่เอา..น้องเฌอจะอยู่กับแม่ฌา”“แม่จะไปหาเงินมารักษาน้องเฌอไงคะ น้องเฌ
สามเดือนผ่านไปฌาริยาทำงานที่บริษัทแห่งนี้มาได้สามเดือนแล้วเหลืออีกแค่หนึ่งเดือนเธอก็จะผ่านการทดลองงานแล้ว และในทุกๆ เดือน ฌาริยาจะขอลาเพื่อพาลูกสาวไปโรงพยาบาลตามที่หมอนัดเดือนละหนึ่งครั้ง โดยป้านิภาเป็นผู้พาลูกสาวของเธอขึ้นรถทัวร์มาหาเธอ และเธอกับป้านิภาก็พาเด็กหญิงเฌอริตาไปหาหมอ ป้านิภามากรุงเทพฯ ครั้งละสองถึงสามวันเพื่อให้ฌาริยาได้อยู่กับลูกสาวทางด้านธนัทธาม ตอนนี้เขาถูกเรียกตัวให้กลับเมืองไทยด่วน เนื่องจากว่าคุณธีทัช บิดาของชายหนุ่มเกิดป่วยกะทันหันด้วยอาการเส้นเลือดในสมองแตก ตอนนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่ง คุณหญิงพิมาลาโทรไปร้องห่มร้องไห้จนธนัทธามตัดสินใจกลับเมืองไทย เขาไม่อยากได้ชื่อว่าเป็นลูกอกตัญญูที่ปล่อยให้ผู้เป็นมารดาต้องเผชิญกับปัญหาเพียงลำพังบิดาของธนัทธามกลายเป็นอัมพาตตั้งแต่ช่วงล่างลงไปไม่สามารถเดินได้ และไม่สามารถพูดได้ หลังจากที่ออกจากโรงพยาบาล คุณธีทัชก็กลับไปรักษาตัวอยู่ที่บ้านโดยจ้างพยาบาลส่วนตัวไว้คอยดูแล“ธามอยู่กับแม่ได้ไหมลูก? ธามไม่ต้องกลับไปอังกฤษได้ไหม?” ผู้เป็นมารดาเอ่ยถามบุตรชายเมื่อสามีของเธอกลับมาพักรักษาตัวอยู่ที่บ้านแล้ว“ได้ครับคุ
เมื่อธนัทธามกลับไปที่ห้องทำงานซึ่งเป็นห้องประจำตำแหน่งประธานบริษัท เขาสั่งให้เลขาของคุณ ณวัตน์ซึ่งตอนนี้กลายมาเป็นเลขาของเขาให้นำประวัติของฝ่ายบัญชีทั้งหมดจากฝ่ายทรัพยากรบุคคลมาให้ชายหนุ่มโดยให้เหตุผลว่าต้องการตรวจสอบประวัติดูว่ามีใครเคยมีการทุจริตหรือไม่ เพราะฝ่ายบัญชีเป็นฝ่ายที่มีการทุจริตมากที่สุด เมื่อได้ประวัติของพนักงานฝ่ายบัญชีมาหมดแล้ว ธนัทธามรีบเปิดดูประวัติของฌาริยาทันที สถานภาพ โสดภูมิลำเนา จังหวัดเชียงรายจบการศึกษาปริญญาตรี คณะบัญชีปีที่จบการศึกษา ปี xxxxทำไมฌาริยาถึงพึ่งเรียนจบปริญญาตรี ทั้งๆ ที่เธอควรจะเรียนจบตั้งแต่สองปีที่แล้ว ในประวัติการทำงานหลังจากเรียนจบคือบริษัทรับทำบัญชีแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงราย เมื่อบริษัทปิดตัวลง เธอจึงมาสมัครที่บริษัทแห่งนี้และได้งานที่นี่ เท่ากับว่าตอนนี้ฌาริยาทำงานที่นี่มาสามเดือนกว่า ยังไม่ผ่านการทดลองงาน ธนัทธามกดโทรศัพท์โทรหาผู้จัดการฝ่ายบัญชีทันที(สวัสดีค่ะ ท่านประธาน มีอะไรให้ดาริการับใช้หรือเปล่าคะ)“ผมอยากได้เอกสารที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายของบริษัททั้งหมด”(ได้ค่ะ..เดี๋ยวดาเอาขึ้นไปให้นะคะ)“เอ่อ..คุณดาครับ ที่ฝ่ายของคุณดามี
หลังจากที่ฌาริยากลับมาจากห้องของท่านประธาน เพื่อนๆ ในฝ่ายต่างก็มารุมถามคำถามใส่เธอจนเธอไม่รู้จะตอบคำถามไหนก่อนดีท่านประธานดุหรือเปล่า?ท่านประธานใจดีมั้ย?ท่านประธานว่าอะไรเธอหรือเปล่า?ท่านประธานหล่อมากมั้ย?เมื่อสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติ ฌาริยาเข้าไปคุยกับดาริกา ผู้จัดการฝ่ายบัญชี เรื่องที่ท่านประธานคนใหม่จะให้เธอไปเป็นเลขาของเขาชั่วคราว“พี่ว่าลองดูก็ไม่เสียหายนะฌา ดีกว่าถูกไล่ออก หรือว่าไม่ผ่านโปร”“แต่ฌากลัวว่าฌาจะทำไม่ได้ค่ะ”“ฌาเป็นคนเก่ง เรียนรู้ไว พี่ว่าฌาทำได้ เชื่อพี่สิ”“แล้วคนอื่นๆ จะไม่ว่าฌาเอาเหรอคะ?”“ไม่ต้องสนใจเรื่องนี้ ถ้าใครมันว่าเดี๋ยวพี่จัดการเอง”“ค่ะ”“ฌาต้องใช้เงินเพื่อไปรักษาลูกไม่ใช่เหรอ? ถ้าฌาตกงานตอนนี้ ฌาจะเอาเงินที่ไหนไปรักษาลูกของฌาล่ะ”“พี่ดารู้เรื่องนี้เหรอคะ?” ฌาริยาเลิกคิ้วถามด้วยความสงสัย หรือว่าแพรวาจะเล่าให้ผู้จัดการฟัง“ใช่ บังเอิญพี่ได้ยินที่ฌาพูดกับแพรที่ร้านอาหารตามสั่ง”“อ้าว! วันนั้นพี่ดาอยู่ในร้านด้วยเหรอคะ? ฌาไม่ทันได้มอง”“ใช่ พี่นั่งหันหลังน่ะ ฌากับแพรก็เลยไม่เห็นพี่”“อ่อค่ะ”“ฌาไปเป็นเลขาให้ท่านประธานเถอะ เดี๋ยวพี่อธิบายให้ทุกคนเข้าใจ
สองปีผ่านไป“น้องฌาร์ม..ไม่วิ่งนะคะ เดี๋ยวล้มค่ะ” ฌาริยาเดินอุ้ยอ้ายตามลูกสาวคนเล็กที่กำลังวิ่งเล่นอยู่ที่สนามหญ้าข้างบ้านใช่แล้ว! เธอท้องลูกคนที่สามได้ยี่สิบเจ็ดสัปดาห์ หรือเจ็ดเดือนแล้ว ธนัทธามนั่นแหละที่ขอร้องอ้อนเธอว่าอยากได้ลูกชายอีกสักคน ตอนแรกเธอปฏิเสธเพราะยังเหนื่อยกับการเลี้ยงลูกสาวคนเล็กที่ตอนนี้อายุพึ่งจะสามขวบ แต่เธอก็ทนการรบเร้าของสามีไม่ไหว สุดท้ายก็ต้องตามใจสามีอันเป็นที่รักส่วนเด็กหญิงเฌอริตานั้น ตอนนี้ก็เริ่มโตเป็นสาวช่วยแม่เลี้ยงน้องได้แล้ว และตอนนี้ก็กำลังช่วยยายภาจัดเตรียมของว่างอยู่ “ป้อ ป้อ” เสียงเรียกพ่อของเด็กหญิงฌาริญญา หรือน้องฌาร์ม ดังขึ้นเมื่อเห็นผู้เป็นบิดาเดินเข้ามาหา“ว่าไงคะ..คนเก่งของพ่อ” ธนัทธามยื่นแขนไปอุ้มเด็กน้อยขึ้นมาหอมแก้มซ้ายขวาจนเด็กน้อยหัวเราะ คิกๆ เพราะจั๊กจี้“กลับมาแล้วเหรอคะ? คุณผู้ชายกับคุณผู้หญิงเป็นอย่างไรบ้างคะ?” ฌาริยาเอ่ยถามสามีเมื่อเห็นว่าเขากลับมาไวกว่าปกติ“ก็เหมือนเดิม คิดถึงลูก คิดถึงเมีย ก็เลยรีบกลับ เหมือนจะเมื่อยเนื้อเมื่อยตัวด้วย” ธนัทธามยังคงดูแลทุกอย่าง ทุกคนอยู่เหมือนเดิม“เดี๋ยวคืนนี้ฌานวดให้นะคะ”“นาบด้วยได้มั้ย?”
ห้าเดือนผ่านไปฌาริยาตั้งครรภ์เข้าสู่ไตรมาสที่สามแล้ว เหลืออีกประมาณสองเดือนเธอก็ใกล้จะคลอดแล้ว เมื่อห้าเดือนก่อนธนัทธามพาฌาริยาไปจดทะเบียนสมรส และไปฝากครรภ์ ตอนนี้เขาและเธอใช้ชีวิตฉันสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายมาห้าเดือนแล้ว ชีวิตของฌาริยาในตอนนี้มีความสุขมากๆ ธนัทธามไปรับป้านิภามาอยู่ด้วยกัน และในตอนนี้เขาได้ซื้อบ้านหลังใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิมหลายเท่า มีพื้นที่ไว้ให้ลูกๆ เล่นอย่างกว้างขวาง และมีสระว่ายน้ำอยู่ภายในบริเวณบ้านด้วย เรียกได้ว่าชีวิตของเธอตอนนี้สมบูรณ์แบบที่สุด มีสามีที่รักและเอาใจใส่เธอกับลูก และที่สำคัญสามีของเธอนั้นไม่เคยนอกลู่นอกทางเลย ธนัทธามเองก็ยังกลับไปดูแลบุพการีในวันเสาร์อาทิตย์เช่นเดิม ฌาริยารู้ว่าเขาเหนื่อย ไหนจะต้องทำงานที่บริษัท ไหนจะต้องดูแลบิดามารดา และยังต้องดูแลเธอกับลูกอีก ฌาริยาจึงพยายามแบ่งเบาภาระของเขาให้ได้มากที่สุด เธอไม่อยากให้เขาเหนื่อยจนเกินไป แต่เธอก็ทำอะไรได้ไม่มากเพราะตอนนี้เธอก็ท้องแก่ใกล้จะคลอดแล้ว พวกงานบ้านต่างๆ และการทำอาหารตอนนี้กลายเป็นหน้าที่ของป้านิภาไปแล้ว ส่วนฌาริยาก็ช่วยงานเล็กๆ น้อยๆ แต่จะดูแลเด็กหญิงเฌอริตาเป็นหลัก และอีกเรื่องที่
สองเดือนผ่านไปอุ๊บ! อุ๊บ! ฌาริยาตื่นมาพร้อมกับความรู้สึกอยากจะอาเจียน เธอรีบพุ่งตัวไปที่ห้องน้ำอย่างไว ก่อนจะอ้วกออกมาจนหมดหรือว่าเราจะท้อง? ต้องเป็นวันนั้นแน่ๆ เลย วันที่เธอโดนธนัทธามฝืนใจ และหลังจากนั้นเธอก็ไม่สบายจึงลืมกินยาคุมฉุกเฉิน เพราะเธอหยุดกินยาคุมกำเนิดตั้งแต่ที่จบความสัมพันธ์กับเขาแล้วถ้าท้องขึ้นมาจริงๆ เธอจะทำอย่างไรดี?หลังจากที่ธนัทธามไปส่งเด็กหญิงเฌอริตาที่โรงเรียนและเขาก็เลยไปทำงาน ฌาริยาจึงรีบขึ้นแท็กซี่ไปโรงพยาบาล เธอต้องการตรวจให้แน่ใจว่าท้องจริงหรือเปล่า“ยินดีด้วยนะคะ คนไข้ตั้งครรภ์ได้แปดสัปดาห์แล้วค่ะ” สิ้นเสียงของหมอ โสตประสาทสัมผัสของเธอหยุดทำงานไปชั่วขณะ กว่าจะตั้งสติได้ก็ผ่านไปนานหลายวินาที“ดิฉันท้องจริงๆ ใช่มั้ยคะ? คุณหมอ”“ใช่ค่ะ คนไข้จะฝากครรภ์เลยมั้ยคะ?”“เอ่อ..ยังค่ะ”“ได้ค่ะ.งั้นเดี๋ยวหมอจะจัดยาบำรุงครรภ์ให้นะคะ ถ้าคนไข้จะมาฝากครรภ์คราวหน้าให้พาคุณพ่อมาด้วยนะคะ”“อ๋อค่ะ”ฌาริยาออกจากโรงพยาบาลและกลับมาถึงบ้านในสภาพจิตใจที่ไม่มั่นคงนัก เธอนั่งมองภาพอัลตร้าซาวด์ลูกน้อยที่อยู่ในท้องของเธอด้วยความรู้สึกหลากหลาย มีทั้งความดีใจ มีทั้งความกังวลใจ ตอนนี้เ
หลังจากที่ไข้ลดฌาริยาก็ไปทำอาหารเช้า เธอปล่อยให้เขานอนอยู่อย่างนั้น เธอไม่กล้าปลุกเพราะกลัวว่าเขาจะตื่น เธอไม่รู้ว่าเขาได้นอนตอนไหน“แม่ฌาหายดีแล้วเหรอคะ?” เด็กน้อยที่พึ่งตื่นงัวเงียถามมารดา“แม่ดีขึ้นแล้วค่ะ วันนี้น้องเฌอคงต้องลาอีกหนึ่งวันนะคะ เดี๋ยวแม่โทรบอกคุณครูเองค่ะ” “ได้ค่ะ” “น้องเฌอหิวหรือยังคะ? แม่ทำอาหารเช้าเสร็จแล้ว”“ยังไม่ค่อยหิวเท่าไหร่ค่ะ แล้วพ่อธามล่ะคะ?” เด็กน้อยตอบก่อนจะถามหาบิดา“พ่อธามหลับอยู่ค่ะ” “เมื่อวานพ่อธามดูแลแม่ฌาทั้งวันเลยค่ะ เพราะแม่ฌาไม่สบายตัวร้อน แล้วพ่อธามก็ทำอาหารให้น้องเฌอทาน อาบน้ำให้น้องเฌอ แล้วก็พาน้องเฌอเข้านอน เสร็จแล้วพ่อธามก็ไปดูแลแม่ฌาต่อค่ะ” เด็กน้อยอธิบายจนเธอเห็นภาพ“จริงเหรอคะ?” “จริงค่ะ” “งั้นเราปล่อยให้พ่อธามนอนพักผ่อนดีมั้ยคะ?”“ดีค่ะ” จากนั้นสองแม่ลูกก็พากันเล่นของเล่นอยู่ในห้องรับแขกธนัทธามตื่นมาอีกทีเกือบสิบเอ็ดโมง ขณะนั้น ฌาริยากำลังทำอาหารกลางวันอยู่“ดีขึ้นแล้วเหรอ? ถึงมาทำอาหารได้” เขาเอ่ยถามเมื่อเดินเข้ามาในครัวเพราะได้กลิ่นหอมเหมือนแกงจืดอะไรสักอย่าง“ไม่มีไข้แล้วค่ะ” หญิงสาวตอบเสียงเรียบ“ฉันขอโทษนะที่ทำให้ฌาต้องเ
ก๊อก! ก๊อก! เสียงเคาะประตูดังขึ้น ฌาริยาจึงเดินมาเปิดประตู“คุณธามมีอะไรหรือเปล่าคะ?” “ลูกหลับแล้วเหรอ?” เขาไม่ตอบแต่หากเป็นฝ่ายถามเธอกลับ“หลับแล้วค่ะ มีอะไรคะ?” “ฉันมีเรื่องจะคุยด้วย” เขาตอบเสียงเรียบ“เรื่องอะไรคะ?” เธอเลิกคิ้วถามออกมา“จะยืนคุยกันตรงประตูนี่หรือไง?” ฌาริยาพ่นลมหายใจออกมาก่อนจะตอบออกไป“งั้นก็ออกไปคุยกันข้างนอกก็ได้ค่ะ เดี๋ยวลูกจะตื่น” พูดจบเขาและเธอก็เดินออกมาจากห้อง เธอปิดประตูและหมุนตัวมาคุยกับเขา“คุณธามมีอะไรจะคุยกับฌาคะ?” “ฉันไม่ชอบให้ฌาไปคุยหรือสนิทสนมกับผู้ชายคนอื่นแบบนั้น” “ฌาจะคุยกับใครหรือสนิทกับใครมันก็สิทธิ์ของฌาหรือเปล่าคะ?” “ฌาไม่มีสิทธิ์คุยกับผู้ชายคนอื่น”“คุณธามก็ไม่มีสิทธิ์มาสั่งฌาเหมือนกัน เพราะเราไม่ได้เป็นอะไรกัน”“ฉันไม่มีสิทธิ์อย่างนั้นเหรอ? ไม่ได้เป็นอะไรกันอย่างนั้นเหรอ? สงสัยต้องทบทวนหน่อยล่ะมั้งว่าเราเป็นอะไรกัน” พูดจบเขาก็จับข้อมือทั้งสองข้างของเธอขึ้นมาและตรึงเธอไว้กับประตูห้อง“คุณธาม จะทำอะไร?” “ก็ทำแบบนี้ไง” สิ้นเสียงของชายหนุ่ม เขาก็ประกบริมฝีปากของตัวเองลงบนริมฝีปากของเธอ และสอดลิ้นอุ่นร้อนเข้าไปในโพรงปากหวาน เขาบดจูบเธออย
วันเสาร์วันนี้เด็กหญิงเฌอริตาตื่นแต่เช้าเพื่อเตรียมตัวไปเรียนศิลปะ เด็กน้อยดีใจที่จะได้เจอเพื่อนที่เรียนด้วยกันซึ่งมีอายุเท่ากัน “มาตา มานานแล้วเหรอ?” เด็กหญิงเฌอริตาเอ่ยทักเมื่อเห็นว่าเพื่อนอยู่ที่ศูนย์แกลลอรี่ก่อนแล้ว“อืมม เราพึ่งมาถึงเมื่อกี้นี้เอง นี่คุณพ่อของเรา” เด็กหญิงคนที่ชื่อมาตาแนะนำให้เพื่อนรู้จักกับบิดาของเธอ“สวัสดีค่ะ คุณลุง” เด็กหญิงเฌอริตายกมือไหว้บิดาของเพื่อน“สวัสดีครับ น้องเฌอใช่มั้ยครับ เห็นมาตาเล่าให้ฟังอยู่บ่อยๆ” “ใช่ค่ะ ส่วนนี่แม่ของน้องเฌอเองค่ะ” เด็กน้อยหันไปแนะนำมารดา“สวัสดีค่ะ คุณน้า คุณน้าสวยจังเลยค่ะ” เด็กหญิงมาตายกมือไหว้มารดาของเพื่อนพร้อมกับเอ่ยชม“สวัสดีค่ะ น้องมาตา ขอบคุณมากนะคะ” ฌาริยายิ้มออกมา“เอ่อ..สวัสดีครับ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ คุณเอ่อ..” มานพ บิดาของเด็กหญิงมาตากล่าวทักทายหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้า เธอสวยเหมือนที่มาตาพูดจริงๆ ด้วย“สวัสดีค่ะ ฌาริยาค่ะ เรียกฌาเฉยๆ ก็ได้ค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะ” “ผมมานพนะครับ เรียกนพเฉยๆ ก็ได้ครับ” “อ๋อค่ะ คุณนพ”หลังจากนั้นเด็กน้อยสองคนก็เข้าคลาสเรียนศิลปะ ส่วนผู้ปกครองของเด็กหญิงทั้งสองก็ไปนั่งดื่
หลังจากวันนั้น วันที่เด็กหญิงเฌอริตาได้รับรู้ว่าธนัทธามคือพ่อของตนเอง เด็กน้อยก็เหมือนจะมีความสุขมากยิ่งขึ้น ที่มีทั้งพ่อและแม่ครบเหมือนกับเด็กคนอื่นๆ และในตอนนี้ เด็กหญิงเฌอริตาก็ได้ไปโรงเรียนแล้ว ธนัทธามเลือกโรงเรียนนานาชาติชื่อดังให้ลูก ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับบ้าน และเป็นทางผ่านสำหรับเขาเวลาไปทำงานอีกด้วย เขาบอกกับฌาริยาว่าเขาจะไปรับไปส่งลูกที่โรงเรียนเอง ส่วนฌาริยาก็มีหน้าที่ดูแลบ้าน ทำความสะอาดบ้าน ทำอาหาร และมีหน้าที่ดูแลทุกอย่างที่เกี่ยวกับลูก เขาและเธอแบ่งหน้าที่กันชัดเจน ทั้งสองคนต่างก็ทำหน้าที่พ่อและแม่ได้เป็นอย่างดี ทำให้เด็กหญิงเฌอริตามีความสุขที่ได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาพ่อแม่ลูก และในวันเสาร์อาทิตย์ธนัทธามจะกลับไปที่คฤหาสน์เพื่อกลับไปหาผู้เป็นบิดา และไปเยี่ยมมารดาที่โรงพยาบาลทุกสัปดาห์ส่วนความสัมพันธ์ของเขาและเธอก็ตามที่ตกลงกันไว้ คือต่างก็ทำหน้าที่พ่อกับแม่ให้เด็กหญิงเฌอริตาเท่านั้น ไม่มีความสัมพันธ์ทางกายเกิดขึ้น ธนัทธามยอมรับข้อตกลงด้วยความจำใจ เพราะเขาไม่อยากเสียเธอกับลูกไปอีกแล้ว เขาจึงต้องทำตามความต้องการของเธอ“แม่ฌาจ๋า..”“ว่าไงคะ..คนสวย” “วันนี้น้องเฌออยากกินไข่เ
หลังจากที่แผลของธนัทธามหายดีแล้ว เขาก็กลับไปที่คฤหาสน์ของเขาเพื่อดูแลบิดา ธนัทธามเล่าเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้บิดาฟัง บิดาของเขาได้เพียงแค่พยักหน้ารับรู้ เพราะบิดาของเขาพูดไม่ได้ ส่วนมารดาของเขาตอนนี้ยังอยู่ที่โรงพยาบาลสำหรับผู้ป่วยจิตเวช เขาไปเยี่ยมมารดาทุกสัปดาห์ แต่ตอนนี้มารดาของเขายังจำอะไรไม่ได้ พอเขาไปเยี่ยม มารดาเขาก็จะเข้ามากอด สักพักก็ไล่เขาออกไป มารดาเขาพร่ำเพ้อหาเรียกแต่ชื่อเขา บางทีก็ร้องไห้ บางทีก็หัวเราะนี่คงเป็นเวรกรรมที่มารดาเขาไว้ทำไว้กับฌาริยาและลูกสาวของเขา มารดาของเขาถึงได้ตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ทางด้านฌาริยากับเด็กหญิงเฌอริตาก็ใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านของธนัทธามปกติ เธอยังไม่ได้คุยกับธนัทธามถึงเรื่องที่เคยคุยค้างไว้ เธอขอเวลาคิดและตัดสินใจอีกที“แม่ฌาจ๋า..ลุงธามหายไปหลายวันเลย เมื่อไหร่ลุงธามจะกลับมาคะ?” เด็กน้อยถามหาชายหนุ่มที่ไม่เห็นหน้ามาหลายวัน“กลับมาแล้วค้าบบ..คิดถึงน้องเฌอจังเลย” เสียงของธนัทธามเอ่ยขึ้นเมื่อเขากำลังเดินเข้ามาในบ้านแล้วได้ยินลูกสาวตัวน้อยถามหาเขาพอดี“น้องเฌอก็คิดถึงลุงธามที่สุดเลยค่ะ” เด็กน้อยฉีกยิ้มหวานก่อนจะตอบออกไป“มาให้พะ.. มาให้ลุงธามกอดหน
คำว่า รัก จากปากของเขาไม่ได้ทำให้เธอตื่นเต้นเลยสักนิดที่ได้ยินมัน“นั่นแสดงว่าคุณธามไม่ได้รักฌามากพอ ถ้าคุณธามรักฌาจริงๆ คุณธามจะไม่ทำกับฌาแบบที่คุณ ธามทำอยู่เด็ดขาด”“ฉันไปทำอะไรฌา?” เขาไปทำอะไรให้ฌาริยาเจ็บช้ำตอนไหน เรื่องงานเขาก็ช่วยเธอให้มาเป็นเลขาของเขา ฌาริยามีปัญหาเรื่องเงินเขาก็ช่วยเหลือเธอ“ก็ที่คุณธามให้ฌาไปเป็นนางบำเรอของคุณธามไงคะ?”“แล้วถ้าฉันบอกฌาว่าให้มาเป็นเมียตรงๆ ฌาจะยอมมั้ย? จริงๆ แล้วเรื่องเงินฉันไม่เคยสนใจมันเลยด้วยซ้ำ เงินแค่นั้นฉันให้ฌาได้อยู่แล้ว ฉันก็แค่อยากได้ฌากลับคืนมา ฉันก็เลยต้องใช้วิธีนี้” ธนัทธามบอกเหตุผลจริงๆ ออกไป “……” ฌาริยานิ่งงันไปชั่วขณะ“ฉันขอโทษ..ขอโทษกับทุกสิ่งทุกอย่างที่ฉันทำให้ฌาต้องเสียใจ ขอโทษแทนคุณแม่ ขอโทษที่ทำให้ฌาต้องเจอแต่เรื่องที่เลวร้าย แล้วก็ขอโทษที่ทำให้ฌาต้องลำบากเลี้ยงลูกคนเดียวมาหลายปี” เขาพร่ำขอโทษ ฌาริยาซ้ำแล้วซ้ำเล่าฌาริยาน้ำตารื้นขึ้นมา เธอสูดลมหายใจเข้าลึกๆ พยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้มันไหลออกมา ชีวิตที่ผ่านมาของเธอเจอแต่เรื่องแย่ๆ เรื่องดีๆ ในชีวิตของเธอก็คงมีแค่ลูกเท่านั้น“ฌายกโทษให้ฉันสักครั้งจะได้มั้ย?” “…