สองเดือนผ่านไปอุ๊บ! อุ๊บ! ฌาริยาตื่นมาพร้อมกับความรู้สึกอยากจะอาเจียน เธอรีบพุ่งตัวไปที่ห้องน้ำอย่างไว ก่อนจะอ้วกออกมาจนหมดหรือว่าเราจะท้อง? ต้องเป็นวันนั้นแน่ๆ เลย วันที่เธอโดนธนัทธามฝืนใจ และหลังจากนั้นเธอก็ไม่สบายจึงลืมกินยาคุมฉุกเฉิน เพราะเธอหยุดกินยาคุมกำเนิดตั้งแต่ที่จบความสัมพันธ์กับเขาแล้วถ้าท้องขึ้นมาจริงๆ เธอจะทำอย่างไรดี?หลังจากที่ธนัทธามไปส่งเด็กหญิงเฌอริตาที่โรงเรียนและเขาก็เลยไปทำงาน ฌาริยาจึงรีบขึ้นแท็กซี่ไปโรงพยาบาล เธอต้องการตรวจให้แน่ใจว่าท้องจริงหรือเปล่า“ยินดีด้วยนะคะ คนไข้ตั้งครรภ์ได้แปดสัปดาห์แล้วค่ะ” สิ้นเสียงของหมอ โสตประสาทสัมผัสของเธอหยุดทำงานไปชั่วขณะ กว่าจะตั้งสติได้ก็ผ่านไปนานหลายวินาที“ดิฉันท้องจริงๆ ใช่มั้ยคะ? คุณหมอ”“ใช่ค่ะ คนไข้จะฝากครรภ์เลยมั้ยคะ?”“เอ่อ..ยังค่ะ”“ได้ค่ะ.งั้นเดี๋ยวหมอจะจัดยาบำรุงครรภ์ให้นะคะ ถ้าคนไข้จะมาฝากครรภ์คราวหน้าให้พาคุณพ่อมาด้วยนะคะ”“อ๋อค่ะ”ฌาริยาออกจากโรงพยาบาลและกลับมาถึงบ้านในสภาพจิตใจที่ไม่มั่นคงนัก เธอนั่งมองภาพอัลตร้าซาวด์ลูกน้อยที่อยู่ในท้องของเธอด้วยความรู้สึกหลากหลาย มีทั้งความดีใจ มีทั้งความกังวลใจ ตอนนี้เ
ห้าเดือนผ่านไปฌาริยาตั้งครรภ์เข้าสู่ไตรมาสที่สามแล้ว เหลืออีกประมาณสองเดือนเธอก็ใกล้จะคลอดแล้ว เมื่อห้าเดือนก่อนธนัทธามพาฌาริยาไปจดทะเบียนสมรส และไปฝากครรภ์ ตอนนี้เขาและเธอใช้ชีวิตฉันสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายมาห้าเดือนแล้ว ชีวิตของฌาริยาในตอนนี้มีความสุขมากๆ ธนัทธามไปรับป้านิภามาอยู่ด้วยกัน และในตอนนี้เขาได้ซื้อบ้านหลังใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิมหลายเท่า มีพื้นที่ไว้ให้ลูกๆ เล่นอย่างกว้างขวาง และมีสระว่ายน้ำอยู่ภายในบริเวณบ้านด้วย เรียกได้ว่าชีวิตของเธอตอนนี้สมบูรณ์แบบที่สุด มีสามีที่รักและเอาใจใส่เธอกับลูก และที่สำคัญสามีของเธอนั้นไม่เคยนอกลู่นอกทางเลย ธนัทธามเองก็ยังกลับไปดูแลบุพการีในวันเสาร์อาทิตย์เช่นเดิม ฌาริยารู้ว่าเขาเหนื่อย ไหนจะต้องทำงานที่บริษัท ไหนจะต้องดูแลบิดามารดา และยังต้องดูแลเธอกับลูกอีก ฌาริยาจึงพยายามแบ่งเบาภาระของเขาให้ได้มากที่สุด เธอไม่อยากให้เขาเหนื่อยจนเกินไป แต่เธอก็ทำอะไรได้ไม่มากเพราะตอนนี้เธอก็ท้องแก่ใกล้จะคลอดแล้ว พวกงานบ้านต่างๆ และการทำอาหารตอนนี้กลายเป็นหน้าที่ของป้านิภาไปแล้ว ส่วนฌาริยาก็ช่วยงานเล็กๆ น้อยๆ แต่จะดูแลเด็กหญิงเฌอริตาเป็นหลัก และอีกเรื่องที่
สองปีผ่านไป“น้องฌาร์ม..ไม่วิ่งนะคะ เดี๋ยวล้มค่ะ” ฌาริยาเดินอุ้ยอ้ายตามลูกสาวคนเล็กที่กำลังวิ่งเล่นอยู่ที่สนามหญ้าข้างบ้านใช่แล้ว! เธอท้องลูกคนที่สามได้ยี่สิบเจ็ดสัปดาห์ หรือเจ็ดเดือนแล้ว ธนัทธามนั่นแหละที่ขอร้องอ้อนเธอว่าอยากได้ลูกชายอีกสักคน ตอนแรกเธอปฏิเสธเพราะยังเหนื่อยกับการเลี้ยงลูกสาวคนเล็กที่ตอนนี้อายุพึ่งจะสามขวบ แต่เธอก็ทนการรบเร้าของสามีไม่ไหว สุดท้ายก็ต้องตามใจสามีอันเป็นที่รักส่วนเด็กหญิงเฌอริตานั้น ตอนนี้ก็เริ่มโตเป็นสาวช่วยแม่เลี้ยงน้องได้แล้ว และตอนนี้ก็กำลังช่วยยายภาจัดเตรียมของว่างอยู่ “ป้อ ป้อ” เสียงเรียกพ่อของเด็กหญิงฌาริญญา หรือน้องฌาร์ม ดังขึ้นเมื่อเห็นผู้เป็นบิดาเดินเข้ามาหา“ว่าไงคะ..คนเก่งของพ่อ” ธนัทธามยื่นแขนไปอุ้มเด็กน้อยขึ้นมาหอมแก้มซ้ายขวาจนเด็กน้อยหัวเราะ คิกๆ เพราะจั๊กจี้“กลับมาแล้วเหรอคะ? คุณผู้ชายกับคุณผู้หญิงเป็นอย่างไรบ้างคะ?” ฌาริยาเอ่ยถามสามีเมื่อเห็นว่าเขากลับมาไวกว่าปกติ“ก็เหมือนเดิม คิดถึงลูก คิดถึงเมีย ก็เลยรีบกลับ เหมือนจะเมื่อยเนื้อเมื่อยตัวด้วย” ธนัทธามยังคงดูแลทุกอย่าง ทุกคนอยู่เหมือนเดิม“เดี๋ยวคืนนี้ฌานวดให้นะคะ”“นาบด้วยได้มั้ย?”
ร่างชายหญิงสองร่างต่างกำลังโรมรันกันอย่างไม่มีใครยอมใคร ด้วยความปรารถนาที่ซุกซ่อนอยู่ภายในใจถูกปลดปล่อยออกมาทางอารมณ์พิศวาสที่ลุกโชนอย่างไม่มีท่าทีว่าจะมอดไหม้“อ๊ะ อื้มมมม” หญิงสาวเปล่งเสียงออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ บวกกับเสียงหอบกระเส่าของชายหนุ่มเมื่อเขาเร่งจังหวะเร็วแรงขึ้นเพื่อส่งเธอให้ถึงฝั่งฝัน“อ๊าาาาา” เสียงกรีดร้องของเธอทำให้เขาฮึกเหิมเพิ่มความรุนแรงยิ่งขึ้นไปอีก“โอวววว” ในที่สุดเขาก็ตามเธอไปแตะขอบสวรรค์ ส่งลาวาอุ่นเข้าไปในช่องทางรักทุกหยาดหยดความรู้สึกที่ได้ปลดปล่อยทำให้เขาและเธอเหมือนจะลอยขึ้นไปบนฟากฟ้าตามความสุขสมเขาทิ้งร่างลงข้างๆ กายสาว นอนฟังเสียงหอบหายใจกันและกันบนเตียงขนาดเล็กในห้องนอนของเธอ“ยาคุมหมดหรือยัง?” ชายหนุ่มเอ่ยถามในขณะที่เขาเอาแขนหนุนศีรษะของตัวเองข้างหนึ่ง ส่วนอีกข้างก็ยื่นออกไปให้หญิงสาวหนุนนอน“เหลือทานอีกสองวันก็หมดแล้วค่ะ” ดวงตาของเธอเหม่อลอยมองไปบนเพดาน“งั้นฉันก็เอากับฌาได้อีกแค่สองวันสินะ..” เขาถอนลมหายใจออกมาอย่างแรงราวกับไม่พอใจ“ค่ะ” “แล้วไปเรียนก็อย่าลืมเอายาแก้ปวดไปล่ะ เดี๋ยวก็ปวดท้องประจำเดือนจนร้องไห้อีก ฉันขี้เกียจจะดูแล” เขาบ่นออกมาอย่าง
หนึ่งปีก่อนหน้า“โอ๊ย!” เสียงร้องของหญิงสาวคนหนึ่งที่ถูกเพื่อนผู้หญิงอีกสามคนรุมรังแกด้วยการปาของใส่ร่างกายเธอจนล้มลงไปกองกับพื้น เสร็จแล้วพวกหล่อนต่างก็พากันหัวเราะเยาะ“เหม็นสาบพวกขี้ข้า..ไปกันเถอะพวกเรา” หนึ่งในนั้นเอ่ยออกมา“จะรีบไปไหน?” เสียงห้าวทุ้มเอ่ยออกมาจากทางด้านหลังที่พวกเธอยืนอยู่“ธะ ธาม” เสียงของผู้หญิงหนึ่งในนั้นเอ่ยเรียกชื่อของชายหนุ่มด้วยความตกใจ“พวกเธอทำคนของฉัน..อยากลองดีกันมากนักใช่มั้ย?” “พวกเราขอโทษ เราแค่แกล้งยัยฌาเล่นเฉยๆ ไม่มีอะไรหรอก พวกเราแค่เล่นกันเฉยๆ ใช่มั้ย? ยัยฌา เธอบอกธามไปสิ” “เอ่อ..คือ” ฌาริยาอึกอักขึ้นมา“ฉันเห็นกับตาว่าพวกเธอจงใจแกล้งฌา พวกเธอทุกคนต้องขอโทษฌาเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นจะหาว่าฉันไม่เตือน” เขาขู่ออกมาเสียงดัง“ก็ได้ ฌา ขอโทษนะ”“ฌา เราขอโทษ”“ขอโทษนะฌา”ทั้งสามคนขอโทษฌาริยาก่อนจะพากันเดินออกไปจากตรงนั้น ธนัทธามช่วยพยุงร่างของเธอขึ้นมานั่งบนโต๊ะหินอ่อน“เมื่อไหร่ฌาจะเลิกอ่อนแอสักที..ตั้งแต่เล็กจนโต ฌาจะให้ฉันมาคอยปกป้องอยู่แบบนี้ตลอดไปไม่ได้หรอกนะ เลิกทำตัวแบบนี้เถอะ ฉันขี้เกียจจะดูแล มันน่าเบื่อเข้าใจปะ?” เขาเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด“
สิ้นเสียงตอบรับ ชายหนุ่มรั้งเอวหญิงสาวเข้ามาประชิดอกแกร่ง เขาได้ยินเสียงหัวใจของเธอเต้นแรง คางมนถูกเชยขึ้นมาตามด้วยริมฝีปากแนบประกบ เปลือกตาปิดลงขณะที่ริมฝีปากสัมผัสกัน นิ้วของเขาเลื่อนไล้ไปบนต้นคอระหว่างแนบจูบ เป็นการจูบที่เริ่มต้นช้าๆ ปลุกเร้าความต้องการด้วยลิ้นที่แทรกเข้ามา ลมหายใจของเธอขาดเป็นห้วงๆ จูบที่ทำให้รู้สึกคล้ายกับถูกกลืนกิน มือข้างหนึ่งของเขาค่อยๆ ปลดเปลื้องชุดนอนออกจากร่างบาง ไม่เหลือแม้กระทั่งบราเซียร์และแพนตี้ตัวน้อยลายน่ารัก เขาถอนจูบออกมาเพื่อให้เธอได้หายใจ ก่อนจะมองร่างงามตรงหน้า รู้สึกถึงลมหายใจที่ติดขัดขึ้นมาทันที ผิวขาวอมชมพูทั้งตัว ดอกบัวคู่งามที่ใหญ่จนล้นมือ เอวขอดรับกับสะโพกที่กลมกลึงจนน่าขยำ ในขณะที่กายสาวสั่นเทิ้มเพราะความกลัว เขารั้งเธอเข้ามาแนบชิดอย่างแผ่วเบาราวกับจะปลอบประโลมความหวาดกลัวให้มลายหายสิ้นไป ก่อนจะดันกายสาวเดินถอยหลังไปที่เตียงขนาดใหญ่อย่างช้าๆ เขาโน้มกายแนบริมฝีปากลงมาช้าๆ ราวกับมีแรงดึงดูด หญิงสาวหลับตาพริ้มรับจูบนั้นด้วยความเต็มใจ ก่อนที่ตาจะเบิกกว้างอีกครั้งเมื่อแผ่นหลังสัมผัสกับที่นอนหนานุ่ม แต่เพียงไม่นาน ริมฝีปากหนาบดแนบจูบยิ่งล้ำลึกข
หนึ่งเดือนผ่านไปธนัทธามเดินทางไปเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษได้หนึ่งเดือนแล้ว เขาต้องปรับตัวเป็นอย่างมาก กว่าทุกอย่างจะเข้าที่เข้าทางก็ทำเอาซะหืดขึ้นคอ การไปใช้ชีวิตอยู่คนเดียวในต่างแดนไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ชายหนุ่มทั้งโทรทั้งส่งข้อความคุยกับฌาริยาทุกวัน มันไม่ง่ายเลยกับการที่ต้องนอนคนเดียวบนเตียงกว้าง เขาอยากกลับไปนอนกับเธอบนเตียงแคบๆ มากกว่าทางด้านฌาริยา ที่ตอนนี้กำลังเตรียมตัวเข้าเรียนมหาวิทยาลัยที่เธอสอบได้ตามคณะที่เธอต้องการ แต่เมื่อสองวันก่อนเธอก็รู้สึกเวียนหัว พะอืดพะอม อยากจะอาเจียน จนผู้เป็นป้าสงสัยจึงได้เอ่ยถามหลานสาว “ฌา..เป็นอะไร ไม่สบายหรือเปล่า?”“น่าจะเป็นโรคกระเพาะจ่ะป้า ช่วงนี้ฌาทานข้าวไม่ค่อยตรงเวลา”“ไม่ใช่ว่าท้องหรอกเหรอ?” “ป้า” หญิงสาวหน้าซีดเมื่อได้ยินคำถามของผู้เป็นป้าทันใดนั้น เสียงของคุณหญิงพิมาลาก็ดังขึ้นมา“ฌา นิภา ไปคุยกับฉันบนตึกหน่อย”“คุณผู้หญิง / คุณหญิง” สองป้าหลานต่างตกใจที่ได้ยินเสียงของคุณหญิงพิมาลา หน้าของฌาริยาซีดเผือดขึ้นกว่าเดิม“ค่ะ / ค่ะ” จากนั้นฌาริยากับนิภาก็เดินตามคุณหญิงพิมาลาไป“เธอท้องเหรอฌา?” เสียงของคุณหญิงพิมาลาเอ่ยถามออกมาอย่างน่ากลัว“เ
หลังจากที่ฌาริยาออกจากโรงพยาบาล นิภาก็พาหลานสาวกลับไปยังบ้านเกิดเมืองนอนที่จังหวัดเชียงราย บ้านที่แทบจะเป็นบ้านร้างเพราะไร้คนอยู่อาศัย สองป้าหลานต้องช่วยกันทำความสะอาดใช้เวลากว่าสองวันจึงเสร็จเรียบร้อย“เฮ้อ! เหนื่อยจังเลยป้า”“เอ็งเหนื่อยคนเดียวหรือไง ป้าก็เหนื่อยเหมือนกัน” พูดจบสองป้าหลานก็พากันหัวเราะออกมาโชคดีที่บ้านยังมีสภาพดีอยู่ไม่ต้องซ่อมแซมอะไรมากนัก บ้านเป็นบ้านสองชั้น ชั้นล่างเป็นปูนส่วนชั้นบนเป็นไม้ จ้างช่างมาทาสีใหม่สักหน่อยก็อยู่ได้สบายๆ “ป้าเห็นแถวนี้มีแต่ร้านขายกับข้าว ไม่มีร้านขายขนมหวาน ป้าว่าเราทำขนมหวานขายหน้าบ้านกันดีมั้ย?” “ก็ดีนะป้า เดี๋ยวฌาช่วยป้าเอง” “แล้วเรื่องเรียนฌาจะเอายังไง” “ก็คงต้องหยุดเรียนไปก่อนพอฌาคลอดลูกแล้ว ฌาว่าจะกลับไปเรียนค่ะ”“อืม..ป้าก็เห็นด้วย ตอนนี้ก็ดูแลตัวเองกับลูกในท้องให้ดี” “ค่ะป้า”“แล้วนี่ฌาไม่คิดจะบอกคุณธามจริงๆ เหรอ?”“ไม่ค่ะ..ป้าก็รู้ว่าคุณผู้หญิงเป็นคนยังไง ฌากลัวว่าลูกของฌาจะไม่ปลอดภัย ถ้าคุณผู้หญิงรู้เรื่องนี้ ไม่รู้ว่าเขาจะตามมาฆ่าฌากับลูกหรือเปล่า” “ไม่คิดเลยนะว่าคุณผู้หญิงจะใจร้ายใจดำได้ขนาดนี้” “ช่างมันเถอะป้า ตอนนี้
สองปีผ่านไป“น้องฌาร์ม..ไม่วิ่งนะคะ เดี๋ยวล้มค่ะ” ฌาริยาเดินอุ้ยอ้ายตามลูกสาวคนเล็กที่กำลังวิ่งเล่นอยู่ที่สนามหญ้าข้างบ้านใช่แล้ว! เธอท้องลูกคนที่สามได้ยี่สิบเจ็ดสัปดาห์ หรือเจ็ดเดือนแล้ว ธนัทธามนั่นแหละที่ขอร้องอ้อนเธอว่าอยากได้ลูกชายอีกสักคน ตอนแรกเธอปฏิเสธเพราะยังเหนื่อยกับการเลี้ยงลูกสาวคนเล็กที่ตอนนี้อายุพึ่งจะสามขวบ แต่เธอก็ทนการรบเร้าของสามีไม่ไหว สุดท้ายก็ต้องตามใจสามีอันเป็นที่รักส่วนเด็กหญิงเฌอริตานั้น ตอนนี้ก็เริ่มโตเป็นสาวช่วยแม่เลี้ยงน้องได้แล้ว และตอนนี้ก็กำลังช่วยยายภาจัดเตรียมของว่างอยู่ “ป้อ ป้อ” เสียงเรียกพ่อของเด็กหญิงฌาริญญา หรือน้องฌาร์ม ดังขึ้นเมื่อเห็นผู้เป็นบิดาเดินเข้ามาหา“ว่าไงคะ..คนเก่งของพ่อ” ธนัทธามยื่นแขนไปอุ้มเด็กน้อยขึ้นมาหอมแก้มซ้ายขวาจนเด็กน้อยหัวเราะ คิกๆ เพราะจั๊กจี้“กลับมาแล้วเหรอคะ? คุณผู้ชายกับคุณผู้หญิงเป็นอย่างไรบ้างคะ?” ฌาริยาเอ่ยถามสามีเมื่อเห็นว่าเขากลับมาไวกว่าปกติ“ก็เหมือนเดิม คิดถึงลูก คิดถึงเมีย ก็เลยรีบกลับ เหมือนจะเมื่อยเนื้อเมื่อยตัวด้วย” ธนัทธามยังคงดูแลทุกอย่าง ทุกคนอยู่เหมือนเดิม“เดี๋ยวคืนนี้ฌานวดให้นะคะ”“นาบด้วยได้มั้ย?”
ห้าเดือนผ่านไปฌาริยาตั้งครรภ์เข้าสู่ไตรมาสที่สามแล้ว เหลืออีกประมาณสองเดือนเธอก็ใกล้จะคลอดแล้ว เมื่อห้าเดือนก่อนธนัทธามพาฌาริยาไปจดทะเบียนสมรส และไปฝากครรภ์ ตอนนี้เขาและเธอใช้ชีวิตฉันสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายมาห้าเดือนแล้ว ชีวิตของฌาริยาในตอนนี้มีความสุขมากๆ ธนัทธามไปรับป้านิภามาอยู่ด้วยกัน และในตอนนี้เขาได้ซื้อบ้านหลังใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิมหลายเท่า มีพื้นที่ไว้ให้ลูกๆ เล่นอย่างกว้างขวาง และมีสระว่ายน้ำอยู่ภายในบริเวณบ้านด้วย เรียกได้ว่าชีวิตของเธอตอนนี้สมบูรณ์แบบที่สุด มีสามีที่รักและเอาใจใส่เธอกับลูก และที่สำคัญสามีของเธอนั้นไม่เคยนอกลู่นอกทางเลย ธนัทธามเองก็ยังกลับไปดูแลบุพการีในวันเสาร์อาทิตย์เช่นเดิม ฌาริยารู้ว่าเขาเหนื่อย ไหนจะต้องทำงานที่บริษัท ไหนจะต้องดูแลบิดามารดา และยังต้องดูแลเธอกับลูกอีก ฌาริยาจึงพยายามแบ่งเบาภาระของเขาให้ได้มากที่สุด เธอไม่อยากให้เขาเหนื่อยจนเกินไป แต่เธอก็ทำอะไรได้ไม่มากเพราะตอนนี้เธอก็ท้องแก่ใกล้จะคลอดแล้ว พวกงานบ้านต่างๆ และการทำอาหารตอนนี้กลายเป็นหน้าที่ของป้านิภาไปแล้ว ส่วนฌาริยาก็ช่วยงานเล็กๆ น้อยๆ แต่จะดูแลเด็กหญิงเฌอริตาเป็นหลัก และอีกเรื่องที่
สองเดือนผ่านไปอุ๊บ! อุ๊บ! ฌาริยาตื่นมาพร้อมกับความรู้สึกอยากจะอาเจียน เธอรีบพุ่งตัวไปที่ห้องน้ำอย่างไว ก่อนจะอ้วกออกมาจนหมดหรือว่าเราจะท้อง? ต้องเป็นวันนั้นแน่ๆ เลย วันที่เธอโดนธนัทธามฝืนใจ และหลังจากนั้นเธอก็ไม่สบายจึงลืมกินยาคุมฉุกเฉิน เพราะเธอหยุดกินยาคุมกำเนิดตั้งแต่ที่จบความสัมพันธ์กับเขาแล้วถ้าท้องขึ้นมาจริงๆ เธอจะทำอย่างไรดี?หลังจากที่ธนัทธามไปส่งเด็กหญิงเฌอริตาที่โรงเรียนและเขาก็เลยไปทำงาน ฌาริยาจึงรีบขึ้นแท็กซี่ไปโรงพยาบาล เธอต้องการตรวจให้แน่ใจว่าท้องจริงหรือเปล่า“ยินดีด้วยนะคะ คนไข้ตั้งครรภ์ได้แปดสัปดาห์แล้วค่ะ” สิ้นเสียงของหมอ โสตประสาทสัมผัสของเธอหยุดทำงานไปชั่วขณะ กว่าจะตั้งสติได้ก็ผ่านไปนานหลายวินาที“ดิฉันท้องจริงๆ ใช่มั้ยคะ? คุณหมอ”“ใช่ค่ะ คนไข้จะฝากครรภ์เลยมั้ยคะ?”“เอ่อ..ยังค่ะ”“ได้ค่ะ.งั้นเดี๋ยวหมอจะจัดยาบำรุงครรภ์ให้นะคะ ถ้าคนไข้จะมาฝากครรภ์คราวหน้าให้พาคุณพ่อมาด้วยนะคะ”“อ๋อค่ะ”ฌาริยาออกจากโรงพยาบาลและกลับมาถึงบ้านในสภาพจิตใจที่ไม่มั่นคงนัก เธอนั่งมองภาพอัลตร้าซาวด์ลูกน้อยที่อยู่ในท้องของเธอด้วยความรู้สึกหลากหลาย มีทั้งความดีใจ มีทั้งความกังวลใจ ตอนนี้เ
หลังจากที่ไข้ลดฌาริยาก็ไปทำอาหารเช้า เธอปล่อยให้เขานอนอยู่อย่างนั้น เธอไม่กล้าปลุกเพราะกลัวว่าเขาจะตื่น เธอไม่รู้ว่าเขาได้นอนตอนไหน“แม่ฌาหายดีแล้วเหรอคะ?” เด็กน้อยที่พึ่งตื่นงัวเงียถามมารดา“แม่ดีขึ้นแล้วค่ะ วันนี้น้องเฌอคงต้องลาอีกหนึ่งวันนะคะ เดี๋ยวแม่โทรบอกคุณครูเองค่ะ” “ได้ค่ะ” “น้องเฌอหิวหรือยังคะ? แม่ทำอาหารเช้าเสร็จแล้ว”“ยังไม่ค่อยหิวเท่าไหร่ค่ะ แล้วพ่อธามล่ะคะ?” เด็กน้อยตอบก่อนจะถามหาบิดา“พ่อธามหลับอยู่ค่ะ” “เมื่อวานพ่อธามดูแลแม่ฌาทั้งวันเลยค่ะ เพราะแม่ฌาไม่สบายตัวร้อน แล้วพ่อธามก็ทำอาหารให้น้องเฌอทาน อาบน้ำให้น้องเฌอ แล้วก็พาน้องเฌอเข้านอน เสร็จแล้วพ่อธามก็ไปดูแลแม่ฌาต่อค่ะ” เด็กน้อยอธิบายจนเธอเห็นภาพ“จริงเหรอคะ?” “จริงค่ะ” “งั้นเราปล่อยให้พ่อธามนอนพักผ่อนดีมั้ยคะ?”“ดีค่ะ” จากนั้นสองแม่ลูกก็พากันเล่นของเล่นอยู่ในห้องรับแขกธนัทธามตื่นมาอีกทีเกือบสิบเอ็ดโมง ขณะนั้น ฌาริยากำลังทำอาหารกลางวันอยู่“ดีขึ้นแล้วเหรอ? ถึงมาทำอาหารได้” เขาเอ่ยถามเมื่อเดินเข้ามาในครัวเพราะได้กลิ่นหอมเหมือนแกงจืดอะไรสักอย่าง“ไม่มีไข้แล้วค่ะ” หญิงสาวตอบเสียงเรียบ“ฉันขอโทษนะที่ทำให้ฌาต้องเ
ก๊อก! ก๊อก! เสียงเคาะประตูดังขึ้น ฌาริยาจึงเดินมาเปิดประตู“คุณธามมีอะไรหรือเปล่าคะ?” “ลูกหลับแล้วเหรอ?” เขาไม่ตอบแต่หากเป็นฝ่ายถามเธอกลับ“หลับแล้วค่ะ มีอะไรคะ?” “ฉันมีเรื่องจะคุยด้วย” เขาตอบเสียงเรียบ“เรื่องอะไรคะ?” เธอเลิกคิ้วถามออกมา“จะยืนคุยกันตรงประตูนี่หรือไง?” ฌาริยาพ่นลมหายใจออกมาก่อนจะตอบออกไป“งั้นก็ออกไปคุยกันข้างนอกก็ได้ค่ะ เดี๋ยวลูกจะตื่น” พูดจบเขาและเธอก็เดินออกมาจากห้อง เธอปิดประตูและหมุนตัวมาคุยกับเขา“คุณธามมีอะไรจะคุยกับฌาคะ?” “ฉันไม่ชอบให้ฌาไปคุยหรือสนิทสนมกับผู้ชายคนอื่นแบบนั้น” “ฌาจะคุยกับใครหรือสนิทกับใครมันก็สิทธิ์ของฌาหรือเปล่าคะ?” “ฌาไม่มีสิทธิ์คุยกับผู้ชายคนอื่น”“คุณธามก็ไม่มีสิทธิ์มาสั่งฌาเหมือนกัน เพราะเราไม่ได้เป็นอะไรกัน”“ฉันไม่มีสิทธิ์อย่างนั้นเหรอ? ไม่ได้เป็นอะไรกันอย่างนั้นเหรอ? สงสัยต้องทบทวนหน่อยล่ะมั้งว่าเราเป็นอะไรกัน” พูดจบเขาก็จับข้อมือทั้งสองข้างของเธอขึ้นมาและตรึงเธอไว้กับประตูห้อง“คุณธาม จะทำอะไร?” “ก็ทำแบบนี้ไง” สิ้นเสียงของชายหนุ่ม เขาก็ประกบริมฝีปากของตัวเองลงบนริมฝีปากของเธอ และสอดลิ้นอุ่นร้อนเข้าไปในโพรงปากหวาน เขาบดจูบเธออย
วันเสาร์วันนี้เด็กหญิงเฌอริตาตื่นแต่เช้าเพื่อเตรียมตัวไปเรียนศิลปะ เด็กน้อยดีใจที่จะได้เจอเพื่อนที่เรียนด้วยกันซึ่งมีอายุเท่ากัน “มาตา มานานแล้วเหรอ?” เด็กหญิงเฌอริตาเอ่ยทักเมื่อเห็นว่าเพื่อนอยู่ที่ศูนย์แกลลอรี่ก่อนแล้ว“อืมม เราพึ่งมาถึงเมื่อกี้นี้เอง นี่คุณพ่อของเรา” เด็กหญิงคนที่ชื่อมาตาแนะนำให้เพื่อนรู้จักกับบิดาของเธอ“สวัสดีค่ะ คุณลุง” เด็กหญิงเฌอริตายกมือไหว้บิดาของเพื่อน“สวัสดีครับ น้องเฌอใช่มั้ยครับ เห็นมาตาเล่าให้ฟังอยู่บ่อยๆ” “ใช่ค่ะ ส่วนนี่แม่ของน้องเฌอเองค่ะ” เด็กน้อยหันไปแนะนำมารดา“สวัสดีค่ะ คุณน้า คุณน้าสวยจังเลยค่ะ” เด็กหญิงมาตายกมือไหว้มารดาของเพื่อนพร้อมกับเอ่ยชม“สวัสดีค่ะ น้องมาตา ขอบคุณมากนะคะ” ฌาริยายิ้มออกมา“เอ่อ..สวัสดีครับ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ คุณเอ่อ..” มานพ บิดาของเด็กหญิงมาตากล่าวทักทายหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้า เธอสวยเหมือนที่มาตาพูดจริงๆ ด้วย“สวัสดีค่ะ ฌาริยาค่ะ เรียกฌาเฉยๆ ก็ได้ค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะ” “ผมมานพนะครับ เรียกนพเฉยๆ ก็ได้ครับ” “อ๋อค่ะ คุณนพ”หลังจากนั้นเด็กน้อยสองคนก็เข้าคลาสเรียนศิลปะ ส่วนผู้ปกครองของเด็กหญิงทั้งสองก็ไปนั่งดื่
หลังจากวันนั้น วันที่เด็กหญิงเฌอริตาได้รับรู้ว่าธนัทธามคือพ่อของตนเอง เด็กน้อยก็เหมือนจะมีความสุขมากยิ่งขึ้น ที่มีทั้งพ่อและแม่ครบเหมือนกับเด็กคนอื่นๆ และในตอนนี้ เด็กหญิงเฌอริตาก็ได้ไปโรงเรียนแล้ว ธนัทธามเลือกโรงเรียนนานาชาติชื่อดังให้ลูก ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับบ้าน และเป็นทางผ่านสำหรับเขาเวลาไปทำงานอีกด้วย เขาบอกกับฌาริยาว่าเขาจะไปรับไปส่งลูกที่โรงเรียนเอง ส่วนฌาริยาก็มีหน้าที่ดูแลบ้าน ทำความสะอาดบ้าน ทำอาหาร และมีหน้าที่ดูแลทุกอย่างที่เกี่ยวกับลูก เขาและเธอแบ่งหน้าที่กันชัดเจน ทั้งสองคนต่างก็ทำหน้าที่พ่อและแม่ได้เป็นอย่างดี ทำให้เด็กหญิงเฌอริตามีความสุขที่ได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาพ่อแม่ลูก และในวันเสาร์อาทิตย์ธนัทธามจะกลับไปที่คฤหาสน์เพื่อกลับไปหาผู้เป็นบิดา และไปเยี่ยมมารดาที่โรงพยาบาลทุกสัปดาห์ส่วนความสัมพันธ์ของเขาและเธอก็ตามที่ตกลงกันไว้ คือต่างก็ทำหน้าที่พ่อกับแม่ให้เด็กหญิงเฌอริตาเท่านั้น ไม่มีความสัมพันธ์ทางกายเกิดขึ้น ธนัทธามยอมรับข้อตกลงด้วยความจำใจ เพราะเขาไม่อยากเสียเธอกับลูกไปอีกแล้ว เขาจึงต้องทำตามความต้องการของเธอ“แม่ฌาจ๋า..”“ว่าไงคะ..คนสวย” “วันนี้น้องเฌออยากกินไข่เ
หลังจากที่แผลของธนัทธามหายดีแล้ว เขาก็กลับไปที่คฤหาสน์ของเขาเพื่อดูแลบิดา ธนัทธามเล่าเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้บิดาฟัง บิดาของเขาได้เพียงแค่พยักหน้ารับรู้ เพราะบิดาของเขาพูดไม่ได้ ส่วนมารดาของเขาตอนนี้ยังอยู่ที่โรงพยาบาลสำหรับผู้ป่วยจิตเวช เขาไปเยี่ยมมารดาทุกสัปดาห์ แต่ตอนนี้มารดาของเขายังจำอะไรไม่ได้ พอเขาไปเยี่ยม มารดาเขาก็จะเข้ามากอด สักพักก็ไล่เขาออกไป มารดาเขาพร่ำเพ้อหาเรียกแต่ชื่อเขา บางทีก็ร้องไห้ บางทีก็หัวเราะนี่คงเป็นเวรกรรมที่มารดาเขาไว้ทำไว้กับฌาริยาและลูกสาวของเขา มารดาของเขาถึงได้ตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ทางด้านฌาริยากับเด็กหญิงเฌอริตาก็ใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านของธนัทธามปกติ เธอยังไม่ได้คุยกับธนัทธามถึงเรื่องที่เคยคุยค้างไว้ เธอขอเวลาคิดและตัดสินใจอีกที“แม่ฌาจ๋า..ลุงธามหายไปหลายวันเลย เมื่อไหร่ลุงธามจะกลับมาคะ?” เด็กน้อยถามหาชายหนุ่มที่ไม่เห็นหน้ามาหลายวัน“กลับมาแล้วค้าบบ..คิดถึงน้องเฌอจังเลย” เสียงของธนัทธามเอ่ยขึ้นเมื่อเขากำลังเดินเข้ามาในบ้านแล้วได้ยินลูกสาวตัวน้อยถามหาเขาพอดี“น้องเฌอก็คิดถึงลุงธามที่สุดเลยค่ะ” เด็กน้อยฉีกยิ้มหวานก่อนจะตอบออกไป“มาให้พะ.. มาให้ลุงธามกอดหน
คำว่า รัก จากปากของเขาไม่ได้ทำให้เธอตื่นเต้นเลยสักนิดที่ได้ยินมัน“นั่นแสดงว่าคุณธามไม่ได้รักฌามากพอ ถ้าคุณธามรักฌาจริงๆ คุณธามจะไม่ทำกับฌาแบบที่คุณ ธามทำอยู่เด็ดขาด”“ฉันไปทำอะไรฌา?” เขาไปทำอะไรให้ฌาริยาเจ็บช้ำตอนไหน เรื่องงานเขาก็ช่วยเธอให้มาเป็นเลขาของเขา ฌาริยามีปัญหาเรื่องเงินเขาก็ช่วยเหลือเธอ“ก็ที่คุณธามให้ฌาไปเป็นนางบำเรอของคุณธามไงคะ?”“แล้วถ้าฉันบอกฌาว่าให้มาเป็นเมียตรงๆ ฌาจะยอมมั้ย? จริงๆ แล้วเรื่องเงินฉันไม่เคยสนใจมันเลยด้วยซ้ำ เงินแค่นั้นฉันให้ฌาได้อยู่แล้ว ฉันก็แค่อยากได้ฌากลับคืนมา ฉันก็เลยต้องใช้วิธีนี้” ธนัทธามบอกเหตุผลจริงๆ ออกไป “……” ฌาริยานิ่งงันไปชั่วขณะ“ฉันขอโทษ..ขอโทษกับทุกสิ่งทุกอย่างที่ฉันทำให้ฌาต้องเสียใจ ขอโทษแทนคุณแม่ ขอโทษที่ทำให้ฌาต้องเจอแต่เรื่องที่เลวร้าย แล้วก็ขอโทษที่ทำให้ฌาต้องลำบากเลี้ยงลูกคนเดียวมาหลายปี” เขาพร่ำขอโทษ ฌาริยาซ้ำแล้วซ้ำเล่าฌาริยาน้ำตารื้นขึ้นมา เธอสูดลมหายใจเข้าลึกๆ พยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้มันไหลออกมา ชีวิตที่ผ่านมาของเธอเจอแต่เรื่องแย่ๆ เรื่องดีๆ ในชีวิตของเธอก็คงมีแค่ลูกเท่านั้น“ฌายกโทษให้ฉันสักครั้งจะได้มั้ย?” “…