หนึ่งสัปดาห์ต่อมาในขณะที่ฌาริยานั่งทำรายงานการประชุมอยู่ เสียงโทรศัพท์ของเธอก็สั่น หญิงสาวหยิบขึ้นมาดูพบว่าเป็นสายจากป้านิภา เธอรีบรับสายทันทีด้วยกลัวว่าจะเกิดเรื่องไม่ดี เพราะปกติป้านิภาจะไม่โทรหาเธอเวลาทำงาน“ค่ะป้า” (ฌา ครูประจำชั้นโทรมาบอกว่าน้องเฌอเหนื่อยและหอบหนักมาก ตอนนี้กำลังส่งไปโรงพยาบาล)“จริงเหรอคะป้า”(อืม นี่ป้าก็กำลังจะตามไป เลยโทรมาบอกฌาก่อน)“ฝากป้าด้วยนะคะ เดี๋ยวฌาจะรีบกลับไปให้ไวที่สุดค่ะ”หลังจากวางสายสีหน้าของฌาริยาไม่สู้ดีนัก เช้านี้ธนัทธามยังไม่เข้าบริษัท เธอรีบเคลียร์งานให้เสร็จ ก่อนจะไปขอใบลาที่ฝ่ายบุคคล เธอเขียนลากิจสามวันก่อนที่จะนำไปวางไว้บนโต๊ะของท่านประธาน และเดินทางกลับห้องไปเก็บกระเป๋า เธอต้องนั่งเครื่องบินไปเพราะถึงไวกว่าถึงแม้ว่าจะราคาแพงกว่าแต่ในเวลานี้เธอไม่สนใจอะไรทั้งนั้น เธอเป็นห่วงลูก เธออยากไปหาลูกให้ไวที่สุดฌาริยาเดินทางมาถึงโรงพยาบาลประจำจังหวัดเชียงรายในช่วงเย็นพอดี“ป้าคะ..น้องเฌอเป็นยังไงบ้างคะ? ถึงขั้นต้องใส่เครื่องช่วยหายใจเลยเหรอคะ?” “น้องเฌอหอบเยอะ หายใจเองไม่ได้ หมอก็เลยต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ” “โถ่! ลูกสาวของแม่” ฌาริยาน้ำตาไหล
หลังจากเลิกงาน ฌาริยากลับมาอาบน้ำแต่งตัวเพื่อออกไปข้างนอก เธอไปยังสถานที่ที่อยู่ในใบปลิว ฌาริยาสมัครงานในตำแหน่งพนักงานเสิร์ฟในไนต์คลับแห่งหนึ่ง ด้วยความที่ฌาริยาหน้าตาสวย ผิวพรรณดี ผู้จัดการไน์คลับจึงรับไว้และให้เธอเริ่มงานเลย หน้าที่ของเธอคือเสิร์ฟอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งเธอสามารถทำได้สบายมาก เพราะเธอเคยเป็นคนรับใช้ในบ้านคนรวยมาก่อน เธอทำงานจนกระทั่งถึงเวลาเลิกงาน นั่นคือตีสอง กว่าเธอจะกลับถึงห้องก็เกือบตีสาม ฌาริยามีเวลานอนแค่สามถึงสี่ชั่วโมง โชคดีที่บริษัทอยู่ใกล้กับที่พัก เธอจึงไม่ต้องรีบตื่นแต่เช้า ฌาริยาจึงตั้งนาฬิกาปลุกตอนหกโมงเช้า เธอลุกไปอาบน้ำล้างหน้าแปรงฟันและรีบแต่งตัวไปทำงาน โดยที่เธอไม่ทันได้ทานอาหารเช้า จึงกลายเป็นว่าฌาริยาอดอาหารเช้าไปโดยปริยาย“ฌา..ดูหน้าตาเพลียๆ นะ เหมือนคนไม่ได้นอน” เสียงของแพรวาเอ่ยถามเมื่อทั้งสองไปทานอาหารกลางวันด้วยกัน“เอ่อ..พอดีฌาไปทำงานพิเศษตอนกลางคืนมาน่ะ กว่าจะเลิกงานก็ตีสอง กว่าจะถึงห้องก็เกือบตีสาม สภาพก็เลยเป็นอย่างที่เห็น”“พักผ่อนบ้างนะฌา..อย่าหักโหมจนเกินไปเดี๋ยวร่างกายมันจะแย่เอา”“ฌาต้องรีบใช้เงิน ตอนนี้ลูกของฌาอาการแย่ลงทุกวันถ
เช้าวันต่อมาฌาริยามาทำงานปกติ เมื่อธนัทธามเดินผ่านโต๊ะทำงานของเธอ เขาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบๆ“ผมขอกาแฟหน่อย”“ค่ะ”ไม่นานนัก ฌาริยาก็นำกาแฟเข้าไปเสิร์ฟให้ท่านประธานในห้อง“กาแฟได้แล้วค่ะ ท่านประธานจะรับอะไรอีกมั้ยคะ?”“คุณมีความจำเป็นต้องใช้เงินถึงขนาดที่ต้องไปทำงานแบบนั้นเลยเหรอ?” เขาไม่ตอบแต่กลับเป็นฝ่ายถามเธอกลับไปแทน“…..” ฌาริยาเงียบไปชั่วขณะก่อนจะตอบรับออกไป“ค่ะ”“คุณจะเอาเงินไปทำอะไร?”“ธุระส่วนตัวค่ะ” ฌาริยาพูดพร้อมกับเสมองไปอีกทาง“เท่าไหร่?” ธนัทธามถอนหายใจออกมาอย่างแรง เขาเบื่อคำตอบที่บอกว่าธุระส่วนตัวของเธอที่สุด มันจะเป็นความลับอะไรนักหนาถึงบอกไม่ได้“คะ?” ฌาริยาถามด้วยความไม่เข้าใจในคำถามของเขา“ผมถามว่าคุณต้องการเงินเท่าไหร่?”“…..” ฌาริยากัดปากตัวเองจนรู้สึกได้ถึงเลือดที่ไหลซิบออกมา“หนึ่งล้านบาทค่ะ” สิ้นเสียงของฌาริยา ธนัทธามแทบจะสำลักกาแฟที่พึ่งดื่มเข้าไป“หนึ่งล้าน งั้นผมขอถามคุณหน่อย ว่าอีกกี่ปีคุณถึงจะเก็บเงินได้หนึ่งล้าน ทั้งๆ ที่คุณก็ทำงานหามรุ่งหามค่ำแบบนี้” เขารู้ว่านอกจากงานที่ไนต์คลับแล้ว เสาร์อาทิตย์หญิงสาวยังไปทำงานที่ร้านขายอาหารตามสั่งอีกด้วย“ดิฉัน
หลังจากครบกำหนดสองวันที่ฌาริยาขอเขา ในช่วงสองวันที่ผ่านมาฌาริยานอนหลับพักผ่อนอย่างเต็มที่ให้สมกับที่ไม่ค่อยได้พักผ่อนมานาน และวันนี้เป็นวันที่ฌาริยาต้องย้ายไปอยู่กับเขาสองต่อสองที่คอนโดมิเนียมของเขา“คุณเก็บของเสร็จเรียบร้อยหรือยัง?”“ของของดิฉันไม่มีอะไรมากหรอกค่ะ แค่กระเป๋าเสื้อผ้าใบเดียว” “ก็ดีจะได้ไม่ต้องขนไปเยอะ ไปกันเถอะได้เวลาเลิกงานแล้ว”“ท่านประธานจะไปพร้อมดิฉันเลยเหรอคะ? ไม่กลัวคนอื่นเห็นเหรอ?”“ทำไมต้องกลัว?” เหอะ! แค่นี้เธอก็โดนนินทาว่าใช้เต้าไต่หรือว่าหว่านเสน่ห์ให้ท่านประธานหลงใหล แล้วถ้าคนอื่นเห็นเธอนั่งรถคันเดียวกับท่านประธาน คนพวกนั้นไม่คิดว่าเธอเป็นเมียของท่านประธานเลยหรือ“ดิฉันแค่ไม่อยากเป็นขี้ปากชาวบ้านค่ะ”“ต้องแคร์ด้วยเหรอ?” “ท่านประธานไม่เป็นดิฉัน ท่านประธานไม่มีวันรู้หรอกค่ะ ว่าสายตาแต่ละคนที่มองมามันรู้สึกยังไง”“ไม่เห็นจะต้องสนใจ” ฌาริยาถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย พูดไปท่านประธานก็ไม่มีวันเข้าใจหลังจากนั้นธนัทธามก็พาฌาริยาไปเอากระเป๋าเสื้อผ้าที่ห้องพัก เธอไม่ยอมให้เขาขึ้นไปด้วยบอกว่าไปแป๊บเดียว เขารออยู่พักหนึ่งก็เห็นฌาริยาเดินออกมาจากหอพักธนัทธามพา
วันต่อมาในตอนเช้าฌาริยานั่งรถไปทำงานพร้อมเขา แต่เธอขอลงก่อนที่จะถึงบริษัทเพราะไม่อยากให้ใครเห็นกลัวจะเป็นที่ครหาของคนในบริษัท ส่วนตอนกลางวันเธอก็ไปทานข้าวกับเพื่อนในฝ่ายบัญชีเหมือนเดิม และในตอนเย็นเธอจะไปดักรอขึ้นรถกับเขาตรงสถานที่ที่เลยบริษัทไปไม่ไกลมากนัก เพื่อกลับคอนโดมิเนียมพร้อมกับเขาและเธอก็มีหน้าที่ทำความสะอาดและทำอาหารให้เขาทาน ส่วนหน้าที่ของเธอในตอนกลางคืนนั้นก็คือนางบำเรอบนเตียงของเขาก๊อก! ก๊อก! ฌาริยาเคาะประตูก่อนจะเปิดเข้าไป เธอเห็นเขากำลังเดินออกมาจากห้องน้ำพอดี เขาน่าจะพึ่งอาบน้ำเสร็จเพราะเขานุ่งผ้าเช็ดตัวออกมาผืนเดียว เผยให้เห็นท่อนบนเปลือยเปล่าที่มีหยดน้ำประปรายอยู่ทั่วบริเวณ“เดี๋ยวพรุ่งนี้จะพาไปซื้อชุดนอนใหม่นะ” เขาบอกพร้อมกับหยิบผ้าเช็ดตัวผืนเล็กมาเช็ดผม“ซื้อทำไมคะ?” “นางบำเรอเค้าก็ต้องใส่ชุดที่มันเซ็กซี่ปะ ชุดนอนไม่ได้นอน หรือไม่ก็พวกชุดยั่วสวาทอะไรประมาณนั้น” ของพูดพร้อมกับยักไหล่เล็กน้อย“ชุดนอนก็พอมั้งคะ”“เช็ดผมให้หน่อยสิ” เขายื่นผ้าเช็ดตัวผืนเล็กส่งให้เธอแล้วก็เดินไปนั่งเก้าอี้หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง ฌาริยารับมาและเดินตามเขาไป เธอค่อยๆ เช็ดผมให้เขาอย่างเบามื
หลังจากที่ฌาริยาไปพบหมอเพื่อปรึกษาเรื่องการผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจเรียบร้อยแล้ว กำหนดการผ่าตัดจะเกิดขึ้นอาทิตย์หน้า ฌาริยาส่งข่าวบอกผู้เป็นป้ากับลูกสาวด้วยความดีใจ ความหวังที่อยากจะให้ลูกสาวสุดที่รักหายป่วยจากโรคที่เป็นอยู่ใกล้จะเป็นจริงแล้ว ลูกของเธอจะได้ใช้ชีวิตเป็นปกติเหมือนเด็กคนอื่นๆ เสียที“ท่านประธานคะ คือว่าสัปดาห์หน้าป้าของดิฉันจะมาค่ะ ดิฉันขออนุญาตลาสักสามวันเพื่อพาป้าไปทำธุระได้มั้ยคะ?” “ป้านิภาน่ะเหรอ..ได้สิ อ้อ! ฝากบอกป้าคุณด้วยว่าผมคิดถึง” “อ่อ..ได้ค่ะ ขอบคุณท่านประธานมากๆ นะคะ” เธอจะบอกกับป้านิภาได้อย่างไรว่าเธอทำงานเป็นเลขาให้ธนัทธาม “ช่วงบ่ายผมมีงานอะไรอีกมั้ย?”“ไม่มีแล้วค่ะ อ้อ! พรุ่งนี้มีประชุมตอนเก้าโมงนะคะ” “อืม..คุณไปทำงานเถอะ เดี๋ยวช่วงบ่ายผมขอกาแฟด้วยนะ” “ได้ค่ะ” ในที่ทำงานเธอและเขาก็พูดคุยกับเหมือนเจ้านายกับลูกน้องทั่วไป เธอยังเรียกเขาว่าท่านประธานเหมือนเดิม ส่วนเวลาที่กลับคอนโดสรรพนามที่ใช้แทนเขาและเธอก็เปลี่ยนไปเวลาบ่ายโมงก๊อก! ก๊อก! “กาแฟที่ท่านประธานสั่งได้แล้วค่ะ” ฌาริยาเปิดประตูพร้อมกับถือแก้วกาแฟมาวางไว้บนโต๊ะทำงานตัวใหญ่ ก่อนจะหมุนตัวเดินออกไป
เช้าวันต่อมาฌาริยาตื่นแต่เช้าเพื่อพาเด็กหญิงเฌอริตากับป้านิภาไปโรงพยาบาล เนื่องจากต้องไปเตรียมตัวเข้ารับการผ่าตัด จึงต้องไปถึงโรงพยาบาลเช้ากว่าปกติ เพราะเด็กหญิงเฌอริตามีคิวผ่าตัดในเวลาสิบนาฬิกาเมื่อถึงเวลาที่เด็กหญิงเฌอริตาต้องเข้ารับการรักษา ซึ่งปัจจุบันมีเทคโนโลยีการเปลี่ยนลิ้นหัวใจผ่านสายสวนโดยไม่ต้องผ่าตัด เป็นการซ่อมแซมหรือเปลี่ยนลิ้นหัวใจเอออร์ติกเดิมที่เสื่อมสภาพหรือใช้การไม่ได้ ด้วยการใช้สายสวนผ่านหลอดเลือดแดงบริเวณขาหนีบ แล้วใช้ลิ้นหัวใจแบบเนื้อเยื่อยึดติดกับขดลวดพิเศษ ส่งขึ้นไปถึงตำแหน่งลิ้นหัวใจเอออร์ติกด้วยระบบท่อนำทาง จากนั้นปล่อยลิ้นหัวใจเทียมให้กางออก เพื่อทำหน้าที่แทนลิ้นหัวใจเอออร์ติกเดิม การรักษาแบบนี้เป็นอีกทางเลือกหนึ่งเพื่อลดภาวะแทรกซ้อน ลดความเสี่ยงอันเกิดจากการผ่าตัด ช่วยให้ผู้ป่วยสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างรวดเร็ว ฌาริยาจึงเลือกการรักษาแบบนี้แทนการผ่าตัดแบบเปิดแผลผ่าตัดกึ่งกลางหน้าอก“สู้ๆ นะคะลูกสาวคนเก่งของแม่..แม่จะรอหนูอยู่ตรงนี้นะคะ ถ้าหนูลืมตาขึ้นมาหนูจะเห็นแม่เป็นคนแรก แม่สัญญาค่ะ..แม่รักลูกนะ รักที่สุด” ฌาริยาให้กำลังใจลูกสาวตัวน้อยก่อนที่บุ
ทางด้านธนัทธาม วันนี้เขามาที่โรงพยาบาลอีกครั้งและจากการสอบถามพยาบาลทำให้ทราบว่าเด็กหญิงเฌอริตาย้ายไปพักที่ห้องพักพิเศษแล้ว ก๊อก! ก๊อก! เสียงเคาะประตูทำให้ฌาริยาที่กำลังคุยกับลูกสาวของเธออย่างสนุกสนานต้องหันหน้าไปมองทางประตู“ใครมา เดี๋ยวป้าไปเปิดเอง”“ค่ะป้า” จากนั้นป้านิภาจึงเดินไปเปิดประตู ทันทีที่ประตูถูกเปิดออก ป้านิภาทำหน้าตกใจราวกับเห็นผี“ป้านิภา สวัสดีครับ ไม่เจอกันนานเลยนะครับ?” ธนัทธามยกมือไหว้ป้านิภา“สะ สวัสดีค่ะ คุณธาม” ป้านิภาพูดเหมือนละเมอออกมาด้วยน้ำเสียงเบาๆ“ใครมาเหรอคะป้า?” เสียงตะโกนของฌาริยาทำให้ป้านิภาได้สติ“เอ่อ..คะ คุณธามเชิญค่ะ”ทันทีที่ธนัทธามเดินเข้ามาในห้อง ฌาริยาถึงกับตกใจอ้าปากค้าง เธอหยุดหายใจไปหลายวินาทีเลยทีเดียว ไม่คิดว่าเขาจะตามเธอมาถึงที่นี่ “พอดีผมทราบข่าวว่าญาติคุณป่วย ผมก็เลยมาเยี่ยม”“เอ่อ..คือว่า” ฌาริยาถึงกับพูดไม่ออก ไหนจะป้านิภาที่ไม่เคยรู้เรื่องของธนัทธามเลย “ใครมาเหรอคะแม่ฌา?” ทันใดนั้นเสียงใสๆ ของเด็กหญิงเฌอริตาก็ดังขึ้น“เอ่อ..เจ้านายของแม่เองค่ะ สวัสดีคุณลุงก่อนค่ะลูก” “สวัสดีค่ะ” เด็กหญิงเฌอริตายกมือไหว้ธนัทธามพร้อมกับส่งยิ้มหวา
สองปีผ่านไป“น้องฌาร์ม..ไม่วิ่งนะคะ เดี๋ยวล้มค่ะ” ฌาริยาเดินอุ้ยอ้ายตามลูกสาวคนเล็กที่กำลังวิ่งเล่นอยู่ที่สนามหญ้าข้างบ้านใช่แล้ว! เธอท้องลูกคนที่สามได้ยี่สิบเจ็ดสัปดาห์ หรือเจ็ดเดือนแล้ว ธนัทธามนั่นแหละที่ขอร้องอ้อนเธอว่าอยากได้ลูกชายอีกสักคน ตอนแรกเธอปฏิเสธเพราะยังเหนื่อยกับการเลี้ยงลูกสาวคนเล็กที่ตอนนี้อายุพึ่งจะสามขวบ แต่เธอก็ทนการรบเร้าของสามีไม่ไหว สุดท้ายก็ต้องตามใจสามีอันเป็นที่รักส่วนเด็กหญิงเฌอริตานั้น ตอนนี้ก็เริ่มโตเป็นสาวช่วยแม่เลี้ยงน้องได้แล้ว และตอนนี้ก็กำลังช่วยยายภาจัดเตรียมของว่างอยู่ “ป้อ ป้อ” เสียงเรียกพ่อของเด็กหญิงฌาริญญา หรือน้องฌาร์ม ดังขึ้นเมื่อเห็นผู้เป็นบิดาเดินเข้ามาหา“ว่าไงคะ..คนเก่งของพ่อ” ธนัทธามยื่นแขนไปอุ้มเด็กน้อยขึ้นมาหอมแก้มซ้ายขวาจนเด็กน้อยหัวเราะ คิกๆ เพราะจั๊กจี้“กลับมาแล้วเหรอคะ? คุณผู้ชายกับคุณผู้หญิงเป็นอย่างไรบ้างคะ?” ฌาริยาเอ่ยถามสามีเมื่อเห็นว่าเขากลับมาไวกว่าปกติ“ก็เหมือนเดิม คิดถึงลูก คิดถึงเมีย ก็เลยรีบกลับ เหมือนจะเมื่อยเนื้อเมื่อยตัวด้วย” ธนัทธามยังคงดูแลทุกอย่าง ทุกคนอยู่เหมือนเดิม“เดี๋ยวคืนนี้ฌานวดให้นะคะ”“นาบด้วยได้มั้ย?”
ห้าเดือนผ่านไปฌาริยาตั้งครรภ์เข้าสู่ไตรมาสที่สามแล้ว เหลืออีกประมาณสองเดือนเธอก็ใกล้จะคลอดแล้ว เมื่อห้าเดือนก่อนธนัทธามพาฌาริยาไปจดทะเบียนสมรส และไปฝากครรภ์ ตอนนี้เขาและเธอใช้ชีวิตฉันสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายมาห้าเดือนแล้ว ชีวิตของฌาริยาในตอนนี้มีความสุขมากๆ ธนัทธามไปรับป้านิภามาอยู่ด้วยกัน และในตอนนี้เขาได้ซื้อบ้านหลังใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิมหลายเท่า มีพื้นที่ไว้ให้ลูกๆ เล่นอย่างกว้างขวาง และมีสระว่ายน้ำอยู่ภายในบริเวณบ้านด้วย เรียกได้ว่าชีวิตของเธอตอนนี้สมบูรณ์แบบที่สุด มีสามีที่รักและเอาใจใส่เธอกับลูก และที่สำคัญสามีของเธอนั้นไม่เคยนอกลู่นอกทางเลย ธนัทธามเองก็ยังกลับไปดูแลบุพการีในวันเสาร์อาทิตย์เช่นเดิม ฌาริยารู้ว่าเขาเหนื่อย ไหนจะต้องทำงานที่บริษัท ไหนจะต้องดูแลบิดามารดา และยังต้องดูแลเธอกับลูกอีก ฌาริยาจึงพยายามแบ่งเบาภาระของเขาให้ได้มากที่สุด เธอไม่อยากให้เขาเหนื่อยจนเกินไป แต่เธอก็ทำอะไรได้ไม่มากเพราะตอนนี้เธอก็ท้องแก่ใกล้จะคลอดแล้ว พวกงานบ้านต่างๆ และการทำอาหารตอนนี้กลายเป็นหน้าที่ของป้านิภาไปแล้ว ส่วนฌาริยาก็ช่วยงานเล็กๆ น้อยๆ แต่จะดูแลเด็กหญิงเฌอริตาเป็นหลัก และอีกเรื่องที่
สองเดือนผ่านไปอุ๊บ! อุ๊บ! ฌาริยาตื่นมาพร้อมกับความรู้สึกอยากจะอาเจียน เธอรีบพุ่งตัวไปที่ห้องน้ำอย่างไว ก่อนจะอ้วกออกมาจนหมดหรือว่าเราจะท้อง? ต้องเป็นวันนั้นแน่ๆ เลย วันที่เธอโดนธนัทธามฝืนใจ และหลังจากนั้นเธอก็ไม่สบายจึงลืมกินยาคุมฉุกเฉิน เพราะเธอหยุดกินยาคุมกำเนิดตั้งแต่ที่จบความสัมพันธ์กับเขาแล้วถ้าท้องขึ้นมาจริงๆ เธอจะทำอย่างไรดี?หลังจากที่ธนัทธามไปส่งเด็กหญิงเฌอริตาที่โรงเรียนและเขาก็เลยไปทำงาน ฌาริยาจึงรีบขึ้นแท็กซี่ไปโรงพยาบาล เธอต้องการตรวจให้แน่ใจว่าท้องจริงหรือเปล่า“ยินดีด้วยนะคะ คนไข้ตั้งครรภ์ได้แปดสัปดาห์แล้วค่ะ” สิ้นเสียงของหมอ โสตประสาทสัมผัสของเธอหยุดทำงานไปชั่วขณะ กว่าจะตั้งสติได้ก็ผ่านไปนานหลายวินาที“ดิฉันท้องจริงๆ ใช่มั้ยคะ? คุณหมอ”“ใช่ค่ะ คนไข้จะฝากครรภ์เลยมั้ยคะ?”“เอ่อ..ยังค่ะ”“ได้ค่ะ.งั้นเดี๋ยวหมอจะจัดยาบำรุงครรภ์ให้นะคะ ถ้าคนไข้จะมาฝากครรภ์คราวหน้าให้พาคุณพ่อมาด้วยนะคะ”“อ๋อค่ะ”ฌาริยาออกจากโรงพยาบาลและกลับมาถึงบ้านในสภาพจิตใจที่ไม่มั่นคงนัก เธอนั่งมองภาพอัลตร้าซาวด์ลูกน้อยที่อยู่ในท้องของเธอด้วยความรู้สึกหลากหลาย มีทั้งความดีใจ มีทั้งความกังวลใจ ตอนนี้เ
หลังจากที่ไข้ลดฌาริยาก็ไปทำอาหารเช้า เธอปล่อยให้เขานอนอยู่อย่างนั้น เธอไม่กล้าปลุกเพราะกลัวว่าเขาจะตื่น เธอไม่รู้ว่าเขาได้นอนตอนไหน“แม่ฌาหายดีแล้วเหรอคะ?” เด็กน้อยที่พึ่งตื่นงัวเงียถามมารดา“แม่ดีขึ้นแล้วค่ะ วันนี้น้องเฌอคงต้องลาอีกหนึ่งวันนะคะ เดี๋ยวแม่โทรบอกคุณครูเองค่ะ” “ได้ค่ะ” “น้องเฌอหิวหรือยังคะ? แม่ทำอาหารเช้าเสร็จแล้ว”“ยังไม่ค่อยหิวเท่าไหร่ค่ะ แล้วพ่อธามล่ะคะ?” เด็กน้อยตอบก่อนจะถามหาบิดา“พ่อธามหลับอยู่ค่ะ” “เมื่อวานพ่อธามดูแลแม่ฌาทั้งวันเลยค่ะ เพราะแม่ฌาไม่สบายตัวร้อน แล้วพ่อธามก็ทำอาหารให้น้องเฌอทาน อาบน้ำให้น้องเฌอ แล้วก็พาน้องเฌอเข้านอน เสร็จแล้วพ่อธามก็ไปดูแลแม่ฌาต่อค่ะ” เด็กน้อยอธิบายจนเธอเห็นภาพ“จริงเหรอคะ?” “จริงค่ะ” “งั้นเราปล่อยให้พ่อธามนอนพักผ่อนดีมั้ยคะ?”“ดีค่ะ” จากนั้นสองแม่ลูกก็พากันเล่นของเล่นอยู่ในห้องรับแขกธนัทธามตื่นมาอีกทีเกือบสิบเอ็ดโมง ขณะนั้น ฌาริยากำลังทำอาหารกลางวันอยู่“ดีขึ้นแล้วเหรอ? ถึงมาทำอาหารได้” เขาเอ่ยถามเมื่อเดินเข้ามาในครัวเพราะได้กลิ่นหอมเหมือนแกงจืดอะไรสักอย่าง“ไม่มีไข้แล้วค่ะ” หญิงสาวตอบเสียงเรียบ“ฉันขอโทษนะที่ทำให้ฌาต้องเ
ก๊อก! ก๊อก! เสียงเคาะประตูดังขึ้น ฌาริยาจึงเดินมาเปิดประตู“คุณธามมีอะไรหรือเปล่าคะ?” “ลูกหลับแล้วเหรอ?” เขาไม่ตอบแต่หากเป็นฝ่ายถามเธอกลับ“หลับแล้วค่ะ มีอะไรคะ?” “ฉันมีเรื่องจะคุยด้วย” เขาตอบเสียงเรียบ“เรื่องอะไรคะ?” เธอเลิกคิ้วถามออกมา“จะยืนคุยกันตรงประตูนี่หรือไง?” ฌาริยาพ่นลมหายใจออกมาก่อนจะตอบออกไป“งั้นก็ออกไปคุยกันข้างนอกก็ได้ค่ะ เดี๋ยวลูกจะตื่น” พูดจบเขาและเธอก็เดินออกมาจากห้อง เธอปิดประตูและหมุนตัวมาคุยกับเขา“คุณธามมีอะไรจะคุยกับฌาคะ?” “ฉันไม่ชอบให้ฌาไปคุยหรือสนิทสนมกับผู้ชายคนอื่นแบบนั้น” “ฌาจะคุยกับใครหรือสนิทกับใครมันก็สิทธิ์ของฌาหรือเปล่าคะ?” “ฌาไม่มีสิทธิ์คุยกับผู้ชายคนอื่น”“คุณธามก็ไม่มีสิทธิ์มาสั่งฌาเหมือนกัน เพราะเราไม่ได้เป็นอะไรกัน”“ฉันไม่มีสิทธิ์อย่างนั้นเหรอ? ไม่ได้เป็นอะไรกันอย่างนั้นเหรอ? สงสัยต้องทบทวนหน่อยล่ะมั้งว่าเราเป็นอะไรกัน” พูดจบเขาก็จับข้อมือทั้งสองข้างของเธอขึ้นมาและตรึงเธอไว้กับประตูห้อง“คุณธาม จะทำอะไร?” “ก็ทำแบบนี้ไง” สิ้นเสียงของชายหนุ่ม เขาก็ประกบริมฝีปากของตัวเองลงบนริมฝีปากของเธอ และสอดลิ้นอุ่นร้อนเข้าไปในโพรงปากหวาน เขาบดจูบเธออย
วันเสาร์วันนี้เด็กหญิงเฌอริตาตื่นแต่เช้าเพื่อเตรียมตัวไปเรียนศิลปะ เด็กน้อยดีใจที่จะได้เจอเพื่อนที่เรียนด้วยกันซึ่งมีอายุเท่ากัน “มาตา มานานแล้วเหรอ?” เด็กหญิงเฌอริตาเอ่ยทักเมื่อเห็นว่าเพื่อนอยู่ที่ศูนย์แกลลอรี่ก่อนแล้ว“อืมม เราพึ่งมาถึงเมื่อกี้นี้เอง นี่คุณพ่อของเรา” เด็กหญิงคนที่ชื่อมาตาแนะนำให้เพื่อนรู้จักกับบิดาของเธอ“สวัสดีค่ะ คุณลุง” เด็กหญิงเฌอริตายกมือไหว้บิดาของเพื่อน“สวัสดีครับ น้องเฌอใช่มั้ยครับ เห็นมาตาเล่าให้ฟังอยู่บ่อยๆ” “ใช่ค่ะ ส่วนนี่แม่ของน้องเฌอเองค่ะ” เด็กน้อยหันไปแนะนำมารดา“สวัสดีค่ะ คุณน้า คุณน้าสวยจังเลยค่ะ” เด็กหญิงมาตายกมือไหว้มารดาของเพื่อนพร้อมกับเอ่ยชม“สวัสดีค่ะ น้องมาตา ขอบคุณมากนะคะ” ฌาริยายิ้มออกมา“เอ่อ..สวัสดีครับ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ คุณเอ่อ..” มานพ บิดาของเด็กหญิงมาตากล่าวทักทายหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้า เธอสวยเหมือนที่มาตาพูดจริงๆ ด้วย“สวัสดีค่ะ ฌาริยาค่ะ เรียกฌาเฉยๆ ก็ได้ค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะ” “ผมมานพนะครับ เรียกนพเฉยๆ ก็ได้ครับ” “อ๋อค่ะ คุณนพ”หลังจากนั้นเด็กน้อยสองคนก็เข้าคลาสเรียนศิลปะ ส่วนผู้ปกครองของเด็กหญิงทั้งสองก็ไปนั่งดื่
หลังจากวันนั้น วันที่เด็กหญิงเฌอริตาได้รับรู้ว่าธนัทธามคือพ่อของตนเอง เด็กน้อยก็เหมือนจะมีความสุขมากยิ่งขึ้น ที่มีทั้งพ่อและแม่ครบเหมือนกับเด็กคนอื่นๆ และในตอนนี้ เด็กหญิงเฌอริตาก็ได้ไปโรงเรียนแล้ว ธนัทธามเลือกโรงเรียนนานาชาติชื่อดังให้ลูก ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับบ้าน และเป็นทางผ่านสำหรับเขาเวลาไปทำงานอีกด้วย เขาบอกกับฌาริยาว่าเขาจะไปรับไปส่งลูกที่โรงเรียนเอง ส่วนฌาริยาก็มีหน้าที่ดูแลบ้าน ทำความสะอาดบ้าน ทำอาหาร และมีหน้าที่ดูแลทุกอย่างที่เกี่ยวกับลูก เขาและเธอแบ่งหน้าที่กันชัดเจน ทั้งสองคนต่างก็ทำหน้าที่พ่อและแม่ได้เป็นอย่างดี ทำให้เด็กหญิงเฌอริตามีความสุขที่ได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาพ่อแม่ลูก และในวันเสาร์อาทิตย์ธนัทธามจะกลับไปที่คฤหาสน์เพื่อกลับไปหาผู้เป็นบิดา และไปเยี่ยมมารดาที่โรงพยาบาลทุกสัปดาห์ส่วนความสัมพันธ์ของเขาและเธอก็ตามที่ตกลงกันไว้ คือต่างก็ทำหน้าที่พ่อกับแม่ให้เด็กหญิงเฌอริตาเท่านั้น ไม่มีความสัมพันธ์ทางกายเกิดขึ้น ธนัทธามยอมรับข้อตกลงด้วยความจำใจ เพราะเขาไม่อยากเสียเธอกับลูกไปอีกแล้ว เขาจึงต้องทำตามความต้องการของเธอ“แม่ฌาจ๋า..”“ว่าไงคะ..คนสวย” “วันนี้น้องเฌออยากกินไข่เ
หลังจากที่แผลของธนัทธามหายดีแล้ว เขาก็กลับไปที่คฤหาสน์ของเขาเพื่อดูแลบิดา ธนัทธามเล่าเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้บิดาฟัง บิดาของเขาได้เพียงแค่พยักหน้ารับรู้ เพราะบิดาของเขาพูดไม่ได้ ส่วนมารดาของเขาตอนนี้ยังอยู่ที่โรงพยาบาลสำหรับผู้ป่วยจิตเวช เขาไปเยี่ยมมารดาทุกสัปดาห์ แต่ตอนนี้มารดาของเขายังจำอะไรไม่ได้ พอเขาไปเยี่ยม มารดาเขาก็จะเข้ามากอด สักพักก็ไล่เขาออกไป มารดาเขาพร่ำเพ้อหาเรียกแต่ชื่อเขา บางทีก็ร้องไห้ บางทีก็หัวเราะนี่คงเป็นเวรกรรมที่มารดาเขาไว้ทำไว้กับฌาริยาและลูกสาวของเขา มารดาของเขาถึงได้ตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ทางด้านฌาริยากับเด็กหญิงเฌอริตาก็ใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านของธนัทธามปกติ เธอยังไม่ได้คุยกับธนัทธามถึงเรื่องที่เคยคุยค้างไว้ เธอขอเวลาคิดและตัดสินใจอีกที“แม่ฌาจ๋า..ลุงธามหายไปหลายวันเลย เมื่อไหร่ลุงธามจะกลับมาคะ?” เด็กน้อยถามหาชายหนุ่มที่ไม่เห็นหน้ามาหลายวัน“กลับมาแล้วค้าบบ..คิดถึงน้องเฌอจังเลย” เสียงของธนัทธามเอ่ยขึ้นเมื่อเขากำลังเดินเข้ามาในบ้านแล้วได้ยินลูกสาวตัวน้อยถามหาเขาพอดี“น้องเฌอก็คิดถึงลุงธามที่สุดเลยค่ะ” เด็กน้อยฉีกยิ้มหวานก่อนจะตอบออกไป“มาให้พะ.. มาให้ลุงธามกอดหน
คำว่า รัก จากปากของเขาไม่ได้ทำให้เธอตื่นเต้นเลยสักนิดที่ได้ยินมัน“นั่นแสดงว่าคุณธามไม่ได้รักฌามากพอ ถ้าคุณธามรักฌาจริงๆ คุณธามจะไม่ทำกับฌาแบบที่คุณ ธามทำอยู่เด็ดขาด”“ฉันไปทำอะไรฌา?” เขาไปทำอะไรให้ฌาริยาเจ็บช้ำตอนไหน เรื่องงานเขาก็ช่วยเธอให้มาเป็นเลขาของเขา ฌาริยามีปัญหาเรื่องเงินเขาก็ช่วยเหลือเธอ“ก็ที่คุณธามให้ฌาไปเป็นนางบำเรอของคุณธามไงคะ?”“แล้วถ้าฉันบอกฌาว่าให้มาเป็นเมียตรงๆ ฌาจะยอมมั้ย? จริงๆ แล้วเรื่องเงินฉันไม่เคยสนใจมันเลยด้วยซ้ำ เงินแค่นั้นฉันให้ฌาได้อยู่แล้ว ฉันก็แค่อยากได้ฌากลับคืนมา ฉันก็เลยต้องใช้วิธีนี้” ธนัทธามบอกเหตุผลจริงๆ ออกไป “……” ฌาริยานิ่งงันไปชั่วขณะ“ฉันขอโทษ..ขอโทษกับทุกสิ่งทุกอย่างที่ฉันทำให้ฌาต้องเสียใจ ขอโทษแทนคุณแม่ ขอโทษที่ทำให้ฌาต้องเจอแต่เรื่องที่เลวร้าย แล้วก็ขอโทษที่ทำให้ฌาต้องลำบากเลี้ยงลูกคนเดียวมาหลายปี” เขาพร่ำขอโทษ ฌาริยาซ้ำแล้วซ้ำเล่าฌาริยาน้ำตารื้นขึ้นมา เธอสูดลมหายใจเข้าลึกๆ พยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้มันไหลออกมา ชีวิตที่ผ่านมาของเธอเจอแต่เรื่องแย่ๆ เรื่องดีๆ ในชีวิตของเธอก็คงมีแค่ลูกเท่านั้น“ฌายกโทษให้ฉันสักครั้งจะได้มั้ย?” “…