ปัง ปัง ปัง เขาเคาะประตูกวาดตามองรอบๆ อย่างระแวดระวัง แก่นกายเจ็บปวดเพราะต้องการปลดปล่อย ลมหายใจหอบหนักขึ้นทุกขณะ แอด... นาราภัทรแงมประตูมอง เห็นคนยืนหน้าห้อง ใบหน้าคุ้นเคยเธออ้าปากแต่กลับถูกปิดไว้ แล้วลากเข้าห้องทันที “อื้อ!” หญิงสาวดิ้นรนเมื่อถูกกอดรัดไว้แน่น ความร้อนจากร่างกาย ทำเอาหญิงสาวขมวดคิ้ว ดิ้นรนให้เขาปล่อยเธอ ได้ยินเสียงฝีเท้าคนอยู่ด้านนอก เสียงพูดคุยตามหาใครสักคน แล้วเงียบหายไป ริมฝีปากเป็นอิสระ นาราภัทรผลักแผงอกทันที “ทำบ้าอะไร ออกไปจากห้องฉันเดี๋ยวนี้นะ!” คนตัวเล็กตวาดแว๊ด “ผมขอโทษ...” เสียงพร่าเอ่ยบอก กอดตัวเองแน่น “เป็นอะไรมิทราบ!” เขาปรือตา แล้วทอดมองใบหน้างดงามของหญิงสาว เขาทนไม่ไหวแล้วจริงๆ ต่อให้ต้องถูกโกรธ เกลียด ก็จำต้องทำ หากเป็นแบบนี้เขาคงขาดใจตายแน่ “ผมขอโทษ ขอโทษด้วย ให้อภัยผมด้วยนะ....” เขาบอกเสียงแหบพร่า “หมายความว่ายังไง ขอโทษเรื่องอะไร!” หมับ! ตุบ! ร่างบางถูกเหวี่ยงลงบนเตียงกว้าง คนตัวเล็กกระเด้งตัวลุกขึ้นแล้วตะเกียกตะกายหนีทันที เธอรู้ดีว่าเขาต้องการอะไร “ช่วยด้วย ช่วยด้วยกรี๊ด!”
View Moreเพียะ เพียะเสียงตบ เสียงอื้ออึง เสียงคนพูดคุยกัน คลิปหลายคลิปถูกอัพโหลดสู่โลกโซเชียลอย่างรวดเร็ว และคำถามมากมายพรั่งพรูเข้ามากับทางบริษัท อรรถเดชเม้มริมฝีปากสีหน้าหนักใจ ช้อนสายตามองบุตรชาย“เราจะทำยังไงได้บ้าง” เขาถามบุตรชายเสียงแผ่ว“ผมตามลบแล้ว แต่คนแชร์ไปเยอะมาก”“แล้วแบบนี้... มันจะมีปัญหาไหม”ชายหนุ่มระบายลมหายใจ“นาราเป็นนางเอกละครเรื่องใหม่ของเรา ขวัญจิราเป็นทั้งนางแบบ นักแสดง และผู้บริหารด้วย ประชาชนก็รู้กันหมด บริษัทเราเสียชื่อมากครับในเรื่องนี้”สีหน้าคนเป็นพ่อเครียดขึ้น สิ่งที่กลัวคือผู้ถือหุ้นท่านอื่น อาจตำหนิเอาได้ ตอนที่เขารับขวัญจิราเป็นภรรยา ตอนนั้นก็ถูกคนในบริษัทไม่พอใจ เพราะเกรงเสียระบบ และมันก็เป็นจริงอย่างนั้น ขวัญจิราเอาแต่ใจ ทว่าเขาก็พยายามอดทนเสมอมา“แล้วจะแก้ข่าวนี้ได้ยังไง” คนเป็นพ่อถามเสียงเครียด“พ่อไม่ต้องเป็นห่วงผมจัดการเอง พ่อสบายใจได้ครับ” ภีมพลบอก แล้วหันหลังเพื่อเดินกลับห้องทำงาน“ภีม พอขอโทษที่ขวัญก่อเรื่อง” เขารู้สึกผิด ลูกชายอยากมีบริษัทเป็นของตัวเอง กำลังรุ่งโรจน์ แต่เพราะบริษัทนี้เกิดปัญหาจนแทบปิดกิจการ ภีมพลเลยต้องวางมือจากทางนั้นมาช่วยเหลือ ทำ
ร้านกาแฟใจกลางกรุง นาราภัทรวางกระเป๋าแล้วหย่อนกายนั่งตรงข้าม เหลือบมองผู้หญิงที่กำลังยกกาแฟขึ้นจิบอย่างสบายใจ คนนัดยกมือกอดอกแล้วยิ้มหยัน ดาราเช่นเธอรู้ดีว่าตนเป็นเป้าสายตา ขนาดพยายามปกปิดยังมีคนจดจำได้อีก เหมือนผู้หญิงคนนี้จงใจนัดให้เธอมาสถานที่แจ้ง“รีบคุยธุระของคุณดีกว่าไหม” พูดจบ เธอวางนาฬิกาซึ่งเวลากำลังเดินไปข้างหน้า “ฉันคิดคุณนาทีละพันอย่าลืมล่ะ”“ฉันคุยกับเธอเป็นเดือนยังมีเงินจ่ายเลยนาราภัทร” เธอยิ้มมุมปาก ราวกับว่าตนเองเหนือกว่าอีกฝ่ายมากมาย“ถ้าอย่างนั้นก็ตามใจคุณ อยากทำอะไรเชิญตามสบาย เพราะฉันได้ผลประโยชน์อยู่แล้ว”ขวัญจิรากำแก้วในมือจนสั่น แล้วสูดลมหายใจเข้าปอด“ยกเลิกการเซ็นสัญญาเล่นละครเรื่องใหม่ซะ แล้วก็เลิกติดต่อกับภีมพลด้วย!” เธอบอกจุดประสงค์ในที่สุดคนถูกสั่งยิ้มเย็น “ทำไมล่ะคะ ละครเรื่องนี้ถ้าฉันเล่นฉันคงดัง แถมได้เงินเยอะอีกด้วย” ช้อนสายตามองอีกฝ่าย “ส่วนเรื่องคุณภีมพล คุณควรไปสั่งเขาไม่ให้ยุ่งกับฉันดีกว่าไหม”ขวัญจิราพยายามข่มอารมณ์ตนเอง สีหน้าแววตา ท่าทางของอีกฝ่าย ไม่ได้บ่งบอกว่ากลับเธอแม้แต่น้อยเลย มิหนำซ้ำยังยั่วยวนกวนประสาทให้อยากลงไม้ลงมือ“ภีมเขาไม่ลดตัวลงไ
เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น เจ้าของเครื่องกดรับสาย คิ้วบางขมวดเมื่อมีคนรายงานข่าว เมื่อวางสายขวัญจิรากัดฟันแน่น แรงโทสะสะกดไว้ไม่อยู่เพล้ง!โทรศัพท์แตกกระจายต่อหน้า แววตาวาวโรจน์ นังดาราหน้าใหม่นั้น กำลังทำให้เธอต้องร้าย คนอย่างขวัญจิราไม่เคยยอมใคร และไม่ให้ของของเธอเป็นของใคร วันก่อนเห็นเข้าหาสามี วันต่อมาเข้าหาลูกชายเขา หน้าด้านไร้ยางอายที่สุด เธอต้องจัดการเรื่องนี้ก่อนสายไป นังนั่นมันสวยเสียด้วยสิ ภีมอาจหลงมันเอาได้ เธอยอมไม่ได้ไม่มีวันเด็ดขาดหยิบโทรศัพท์บ้านยกหูขึ้นมา แล้วกดเบอร์หาที่ทำงาน“สวัสดีค่ะ”“ขอสายพินทุอรหน่อย!”“เอ่อ ไม่ทราบว่าจากคุณอะไรคะ” ปลายสายถาม“ขวัญจิรา พอใจไหม!” เธอตวาดแว๊ด ปลายสายสะดุ้ง“ทราบแล้วค่ะ สักครู่นะคะ”เสียงเงียบหายไป ขวัญจิรากัดริมฝีปากด้วยความหงุดหงิด“ค่ะคุณขวัญ”“ชักช้าไปงมหอยอยู่หรือไงฮะ!”“ขอโทษด้วยค่ะ”“ไปเอาเบอร์ของนังนาราภัทรมาให้ฉันหน่อย!”“คุณขวัญจะเอาไปทำอะไรคะ!” พินทุอรถามด้วยความกังวล กลัวเกิดปัญหา“ไม่ต้องเสือก ไปเอามา!”“ได้ค่ะ” เธอรอสาย แล้วรีบค้นหาเบอร์ทันทีขวัญจิรากัดฟันแน่นเมื่อได้เบอร์ติดต่อมา ต้องตัดไฟตั้งแต่ต้นลม ไม่อยากนั้นม
ร่างบางถูกพยุงให้ลุกยืน สองเท้าแทบก้าวไม่ไหว โชคดีมีเจ๊มะนาวคอยช่วย ทว่าบรรยากาศรอบๆ กลับมืดลง สติลับรู้เริ่มเลือนหาย มันหายใจไม่ออก รู้สึกกดดันตุบ!นาราภัทรล้มพับลงกับพื้น ภีมพลรีบวิ่งเข้าไปช่วยประคอง“นารา!” รุ่งรันต์เรียก สีหน้าตื่นตระหนก“คงเป็นลมไป เดี๋ยวผมอุ้มไปที่ห้องพยาบาลของบริษัทให้ครับ” ภีมพลไม่รออนุญาต ช้อนร่างคนเป็นลมไว้ในอ้อมแขน แล้วพาไปยังห้องพยาบาลร่างบางถูกวางไว้บนเตียง แอมโมเนียถูกนำมาจอตรงจมูก ภีมพลทอดสายตามองแววตาหม่นเศร้า รุ่งรันต์ขมวดคิ้วรู้สึกผิดปกติ ปกตินาราไม่เคยเป็นแบบนี้เลย เธอแสดงอาการหวาดกลัว ท่าทางลุกลี้ลุกลน อาการไม่ปกติเช่นนี้อาจมีปัญหาอะไรแต่ไม่บอกให้รู้“ผมขอตัวก่อนนะครับ” เขาบอกเสียงเบา แล้วเดินออกมา ต่อให้อยากอยู่เพื่อดูว่าเธอหายดีแล้ว แต่เขาไม่กล้าพอ กลัวนาราภัทรตื่นขึ้นมา แล้วจะเป็นลมไปอีก ความผิดในอดีตจะลบล้างได้ยังไง เขาแทบหาทางออกไม่เจอร่างเล็กถูกตระกองกอดไว้แนบแน่น น้ำตาไหลรินไม่ขาดสาย รุ่งรัตน์มองภาพนั้นด้วยความสงสาร ไม่อยากถามนาราว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะเท่าที่เห็นตอนนี้ เด็กคนนี้กำลังเจ็บปวด และทรมานกับบางอย่าง ตนเองคงทำได้แค่ให้กำลังใจ หวั
เจ๊มะนาวรีบแทรกระหว่างกลาง ไม่อยากให้เด็กไปมีเรื่อง เกรงมันจะไม่จบไม่สิ้น นิสัยขวัญจิราเป็นที่โจษจันกันนักหนา ว่าเจ้าตัวกัดไม่ปล่อย“ขอโทษด้วยนะคะคุณขวัญ พอดีเด็กมันยังใหม่”ขวัญจิรากัดริมฝีปาก แล้วชี้นิ้ว“แกกล้าทำแบบนี้กับฉันระวังตัวไว้เถอะ สักวันแกจะไม่มีหน้าไว้หาเงินอีก!” พูดจบ กระแทกส้นเท้าเดินหนีไปทันทีเจ๊มะนาวรีบจับแขนเด็กในสังกัดเอาไว้“อย่าไปต่อปากต่อคำกับคนแบบนี้ ปล่อยๆ ไป เชื่อเจ๊”หญิงสาวถอนหายใจ “รอบที่แล้วนาราก็โดนด่า รอบนี้ก็โดน บอกจริงๆ นะเจ๊ ฉันไม่ชอบเลย!”“เถอะน่า เรายังทำงานกับบริษัทนี้อยู่ ยังไงยัยนั่นก็อยู่ในบอร์ดบริหาร”“ก็ได้เจ๊ จะพยายามแล้วกัน” เธอรับปากแบบขอไปที เพราะถึงอย่างไรก็ไม่ชอบนิสัยคนแบบนี้อยู่ดี“เอ่อ ขอโทษนะคะ ท่านประธานเรียกพบค่ะ” เลขาภีมพลเดินมาตามถึงที่สองร่างลุกยืน แล้วก้าวตามอย่างเงียบๆ ภายในใจนาราภัทรโหวงชอบกล เหมือนมีลางสังหรณ์บางอย่าง มือบางสั่นเทาอย่างไม่อาจควบคุม เธอหวังให้มันไม่ใช่อย่างที่คิดแอด..ประตูห้องประธานเปิดออก สองร่างก้าวเข้ามา เห็นเพียงเก้าอี้บุนวมขนาดใหญ่จากด้านหลังเท่านั้น เลขาผายมือเชิญให้ทั้งสองนั่งตรงโซฟา มันมีไว้ใช้รับแ
เสียงหัวเราะในห้องนั่งเล่น ร่างเล็กถูกโอบกอดไว้แนบแน่น นาราภัทรจุมพิตแก้มบุตรสาวด้วยความคิดถึง แล้วเล่นด้วยพักใหญ่ ก่อนเจ๊มะนาวจะเดินเข้ามา หลังจากไปพบกับอรรถเดชในวันนั้น ดูเหมือนงานเธอลดน้อยลง ที่สำคัญบทนางเอกที่ถูกเสนอก็ดันเอานางเอกคนอื่นเข้ามาแทนที่ ทว่าเธอไม่เคยคาดหวังอะไรอยู่แล้ว ที่ทำอยู่ทุกวันนี้ก็เพื่อตอบแทนบุญคุณเจ๊มะนาวเท่านั้นรุ่งรันต์เดินเข้ามา ทิ้งกายลงบนโซฟาท่าทีเหนื่อยอ่อน รู้สึกเหมือนเด็กในสังกัดกำลังถูกกลั่นแกล้ง“เป็นอะไรคะเจ๊”“งานหดหายหมดน่ะสินารา” เจ๊มะนาวบ่น“เดี๋ยวก็มีงานค่ะ”“ก็หวังว่าคงเป็นอย่างนั้นนะ”สำหรับนาราภัทร การได้อยู่กับลูกมันทำให้มีความสุข เธอมีเวลาอยู่กับลูกสาวน้อยมาก พอมีโอกาสเลยขอใช้เต็มที่เสียหน่อย อีกไม่นานลูกก็ต้องเข้าเรียนแล้ว เธอยังไม่รู้เลยว่าจะพาลูกไปได้ยังไง เมื่อเจ๊มะนาวให้ปกปิดเรื่องนี้ไว้เป็นความลับเสียงมือถือดังขึ้น เจ้าของสะดุ้งโหย่งรีบกดรับ“ค่า”“เจ๊มะนาวนี่ผมภีมพลเองนะ”“ค่า ว่ายังไงคะคุณภีม!”คนฟังชะงัก มือบางหยุดลงเมื่อได้ยินชื่อนี้ เธอกัดริมฝีปากและคิดว่าคงไม่ใช่เขาแน่ โลกมันคงไม่กลมขนาดนั้น“ผมอยากให้เจ๊พานาราภัทรมาพบผมหน่อย
ผู้กำกับชื่อดังช้อนสายตามองน้องสาว“อย่ามาทำให้งานพี่เสีย กลับไปทำงานไป”“ขวัญไม่ยอมนะพี่ ขวัญไม่ชอบหน้านังนั่นเลย วันนี้มันเข้าไปพบคุณอรรถมาที่ห้องด้วย พี่ลองคิดดูว่ามันต้องการอะไร พี่จะยอมให้ขวัญโดนแย่งสามีเหรอ!”สุเชษฐถอนหายใจ “ขวัญ เรื่องนี้เอาความรู้สึกส่วนตัวมาตัดสินไม่ได้ ผู้ใหญ่หลายท่านเห็นด้วยว่าต้องเป็นนารา”“ขวัญจัดการเอง พี่แค่หานางเอกคนใหม่มาแค่นั้น เรื่องผู้บริหารขวัญจะไปคุยเอง”“พี่รอคำสั่งผู้ใหญ่เท่านั้น ถ้าไม่มีคำสั่งพี่ไม่ถอนเด็ดขาด!”คนเป็นน้องกัดริมฝีปากไม่พอใจ ลุกยืนแววตาเกรี้ยวกราด เดินกระแทกส้นเท้าออกจากห้อง สุเชษฐถอนหายใจแล้วก้มหน้าทำงานต่อ ให้เป็นห่วงแค่ไหนก็ทำได้เท่านี้ ในเมื่อสามีของน้องไม่เคยคิดวางตัวเป็นผู้ใหญ่สมกับสถานะตัวเองเลยสักครั้ง สู้ลูกชายไม่ได้เลย ให้ตายเถอะในห้องประชุมใหญ่ นางเอกใหม่นามรัศมีนั่งเชิดหน้าด้วยความยินดี วันนี้ทางบริษัทจะจัดแถลงข่าวละครเรื่องใหม่ และเธอได้เข้ามาสวมบทบาทแทนนาราภัทรนางเอกดาวรุ่ง โชคดีอะไรเช่นนี้ รัศมียกมือไหว้ผู้บริหารที่พากันเดินเข้ามา ประตูเปิดอ้ากว้างมากขึ้น คนในห้องประชุกลุกยืนเมื่อแขกคนสำคัญเข้ามาเอดิสัน กราวินอฟ
สองปีต่อมา..แชะ แชะ แชะ เสียงแฟลตดังติดต่อกัน แสงวูบวาบทั่วบริเวณงาน ร่างบางในชุดราตรีสีทองปักเลื่อมก้าวเข้ามาอย่างมาดมั่น แล้วหยุดตรงพื้นพรมแดงให้นักข่าวถ่ายภาพ เพียงเวลาไม่นานเธอกลายเป็นดารานางแบบชื่อดัง เพราะหน้าตาและรูปร่างรวมถึงฝีมือการแสดงที่ทำให้ทุกคนติดตามผลงานงานประกาศรางวัลทำให้เธอต้องมาร่วมงานนี้ มีผู้กำกับ และดาราหลายสังกัดเข้ามาประชัดอวดโฉมกันมากมาย เธอคือหนึ่งในนั้น ทันทีที่ก้าวเข้ามานั่งทุกสายตามองมา แล้วหันไปซุบซิบกัน นาราภัทรไม่ได้สนใจ ที่เธอยอมฝันฝ่าอุปสรรคมายืนตรงจุดนี้ เพราะต้องการตอบแทนบุญคุณเจ๊มะนาว ซึ่งคอยชุบเลี้ยงดูแลมาอย่างดี“รางวันนักแสดงหน้าใหม่ได้แก่ คุณนาราภัทรค่า!” เสียงประกาศจากพิธีกร เจ้าของชื่อลุกแล้วก้มศีรษะเล็กน้อย เดินขึ้นสู่เวทีอย่างสง่างามไมค์จอตรงปาก เธอรับถ้วยรางวัลแล้วโชว์มันให้ทุกคนดู“รางวัลนี้ต้องขอบคุณคุณรุ่งรันต์หรือเจ๊มะนาวมากนะคะ ถ้าไม่มีคุณรุ่งรัตน์ นาราก็คงไม่มีทางได้มายืนอยู่ตรงนี้ จุดที่นารายืน นาราต้องฝ่าฟันอะไรมากมาย แต่นาราก็ฝ่าฟันมันมาได้ ขอบคุณทุกแรงเชียร์ และทุกกำลังใจ ที่ส่งมาให้นาราเสมอค่ะ พวกคุณคือสิ่งสำคัญในชีวิตนารานะ
ชัยวุฒินั่งเอนกายพิงพนักเก้าอี้ ท่าทางกวนอารมณ์ ภีมพลทอดสายตามองนิ่ง แล้วเอาสัญญาวางไว้ตรงหน้า เขามองมันแล้วหยิบขึ้นมาอ่าน ก่อนวางลงตามเดิม“อยากได้เรือลำนี้เหรอครับ ว่าแล้วว่าทำไมคุณถึงขึ้นเรือผมมา”“ผมอยากได้คุณจะขายเท่าไหร่ หรือราคาในสัญญามันถูกไป” ภีมพลถาม น้ำเสียงจริงจังคนถูกถามยักไหล่ “ไม่ขาย!”ภีมพลขมวดคิ้ว “ทำไมครับ ผมว่าคุณน่าจะอยากขายเรือลำนี้อยู่ เพราะผมเห็นคุณกำลังประกาศขาย กับพวกเศรษฐีที่ผมรู้จัก”เขาหัวเราะลั่น “ผมขายกับทุกคนได้ แต่ไม่ใช่คุณ คุณภีมพล”ชายหนุ่มชะงัก แล้วตีหน้านิ่ง ก่อนรวบเอกสารสัญญาใส่ในซองตามเดิม แล้วลุกยืนเดินออกจากห้อง ทว่าไม่ทันได้ก้าวออก เสียงของเจ้าของห้องก็ตามมา“เป็นไง เด็กเสริฟ์ผมอร่อยดีไหม” ชัยวุฒิถามไล่หลังเขาหันมา “คุณกำลังหมายถึงอะไร”“แหม.. ทำเป็นไม่รู้เหรอครับ นาราภัทรไงครับ รู้จักดีหรือยัง!” แววตาชัยวุฒิวาวโรจน์ภีมพลนิ่งไปครู่หนึ่ง แล้วสบตา “อย่ามาหาเรื่องกับผมดีกว่า ไม่ขายก็จบกันไป เรื่องอื่นมันเป็นเรื่องส่วนตัว!”ปังประตูปิดลง ชัยวุฒิกระแทกก้นบนโซฟา แววตาเกรี้ยวกราด นึกเสียดายของที่ไม่เคยได้ชิม อยากรู้ว่ามันอร่อยแค่ไหน คิดแล้วหงุดหงิ
เสียงคลื่นกระทบจนเรือไหว ทว่าคนในเรือกลับไม่รู้สึกกับมัน ดื่มกิน ฟังเพลงคละเคล้าเสียงดนตรีอย่างมีความสุข เจ้าของรูปร่างเพรียวระหงส์ ส่วงสูงร้อยหกสิบห้า วงหน้ารูปไข่ ผมหยักศกยาวเคลียแผ่นหลัง ดวงตากรมโตขนตางอน จมูกโด่งริมฝีปากได้รูป สาวเท้าวางเครื่องดื่มไว้บนโต๊ะตามความต้องการของลูกค้าหมับ!ข้อมือหญิงสาวถูกคว้าไว้ แววตาคนจับกวาดมองแล้วยิ้มอย่างพึงพอใจ กับรูปร่างหน้าตาของพนักงานเสริฟ์ เธอบิดแขนเพื่อให้พ้นการเกาะกุม แต่ไม่เป็นผล หันมองคนอื่นเพื่อขอความช่วยเหลือ“เท่าไหร่!” ลูกค้าวีไอพีถาม แล้วยิ้มอย่างหื่นกระหาย“ไม่ได้ขายตัวค่ะ” เธอตอบเสียงแข็ง พยายามขืนตัวออก แต่กลับถูกจับไว้แน่น“อย่าเล่นตัวเลย เท่าไหร่ว่ามาเลย พร้อมจ่าย ถ้าเธอดีฉันรับเลี้ยงต่อ เอาไหม” ลูกค้ายังคงพูดไม่หยุด คงฟันฉุนแต่พยายามเก็บอารมณ์เอาไว้“บอกว่าไม่ขายไงคะ ไม่ได้ยินหรือไง!” คนถูกลวนลามเริ่มส่งเสียงดัง เพราะไม่พอใจที่ต้องตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้บ่อยๆแขกชักสีหน้าไม่พอใจต่อกิริยา “เป็นแค่พนักงาน กล้าขึ้นเสียงเหรอ!” เขาง้างมือ“ช้าก่อนครับคุณลูกค้า ทำแบบนี้ไม่ได้นะครับ เรือเรามีกฎถ้าพนักงานไม่ผิดหรือผิดจริงต้องสอบสวนก่อ...
Comments