“ฉันว่าเราควรแยกกันอยู่สักพักนะ ให้เวลาเป็นเครื่องตัดสินว่าเราจะไปต่อหรือพอแค่นี้...ในเมื่อคุณมีอีกคน” คำพูดนั้นราวกับปล่อยระเบิดลงกลางความสัมพันธ์ เจมส์ชะงัก มองเธอด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความตกใจ แต่ก็ไม่กล้าปฏิเสธ เขารู้ว่าความจริงที่เขาเลือกปิดบังมาตลอดได้เปิดเผยออกมา “อิมิลี่...มันไม่ใช่อย่างที่เธอคิดนะ” เขาพูดออกมาเสียงเบา ราวกับกำลังค้นหาคำแก้ตัวที่น่าเชื่อถือ เธอส่ายหน้า ยิ้มบาง ๆ ที่ไม่ได้เต็มไปด้วยความสุขอีกต่อไป “อย่าพยายามแก้ตัวเลยเจมส์ ฉันเหนื่อย...เหนื่อยกับการพยายามทำให้ทุกอย่างดีขึ้น ในขณะที่คุณไม่ได้พยายามไปกับฉันเลย” เธอก้มลงหยิบกระเป๋าเดินทางใบโต หยุดชั่วครู่ก่อนจะพูดต่อ “ฉันอยากให้คุณใช้เวลาคิด ว่าคุณต้องการอะไรจริง ๆ... และฉันก็จะทำแบบเดียวกัน” เจมส์มองดูเธอเดินออกจากห้องไป ความรู้สึกผิดและความกลัวปะทุขึ้นในใจ แต่เขากลับทำอะไรไม่ได้ นอกจากอยู่ในความเงียบที่เธอทิ้งไว้...
View Moreยามสายของวันที่ท้องฟ้าปกคลุมด้วยเมฆหมอกสีเทาหม่น บรรยากาศรอบตัวของอิมิลี่ชวนให้อึดอัดราวสะท้อนความรู้สึกภายในจิตใจของเธอ อิมิลี่ก้าวออกจากคอนโดด้วยใบหน้าหมองคล้ำ แววตาเหนื่อยล้าจากค่ำคืนที่เธอนั้นแทบไม่ได้นอนเลยเสียงเครื่องยนต์ที่ขับเคลื่อนไปมาบนท้องถนนประสานเข้ากับเสียงบีบแตรที่ดังระงม กลิ่นควันดำจากท่อไอเสียที่ลอยฟุ้งยิ่งทำให้ ทุกสิ่งที่อยู่รอบตัวเธอดูยุ่งเหยิงและสับสนเกินกว่าที่จะรับไหว เมืองที่ครั้งหนึ่งเธอเคยเชื่อว่าเป็น "สวรรค์" บัดนี้กลับแปรเปลี่ยนเป็นกรงขังที่บีบคั้นหัวใจ เธอรู้สึกราวกับติดอยู่ในโลกที่ไม่เหลือพื้นที่หายใจอิมิลี่ขยับสายกระเป๋าสะพายแน่นขึ้น ก้มหน้าก้าวเท้ายาวราวกับต้องการหลีกหนีจากความวุ่นวายรอบตัว ความรู้สึกที่ปั่นป่วนในใจทำให้เธอไม่อยากเงยหน้าขึ้นมองสิ่งใดอีกต่อไป สิ่งที่เธอคิดมีเพียงอย่างเดียว คือการไปถึงจุดหมายโดยเร็วที่สุดแม้หัวใจของเธอจะเต็มไปด้วยความกังวล แต่เธอก็รู้ดีว่าภารกิจในวันนี้สำคัญยิ่งนัก การเยี่ยมซาร่าและการหาทางช่วยเหลือเธอคือสิ่งที่เธอจะต้องทำให้ได้ ไม่ว่าจะต้องผ่านอุปสรรคอะไรก็ตาม……………………………………………อิมิลี่เร่งฝีเท้าตรงมายังห้องพักฟื้นอย
คืนที่มืดมิดปกคลุมทั่วทั้งคอนโดชั้นสูงใจกลางเมืองใหญ่ แสงไฟจากตึกระฟ้าและถนนที่ไม่เคยหลับใหลด้านล่างส่องประกายระยิบระยับเป็นเส้นสาย แต่กลับให้ความรู้สึกเยือกเย็นและเวิ้งว้างสำหรับอิมิลี่ ภายในห้องที่เงียบสงัด อิมิลี่นั่งพิงหัวเตียง มีเพียงแสงสลัวจากโคมไฟเล็กบนโต๊ะข้างเตียงที่สาดแสงอ่อนโยน ทิ้งเงาจางๆ ไว้บนผนัง ราวกับสะท้อนถึงความรู้สึกอ้างว้างในใจเธอเธอกอดเข่าตัวเองไว้แน่น ท่าทางที่ดูเหมือนสงบนิ่ง แต่ลึกลงไปในจิตใจกลับเต็มไปด้วย ความคิดวนเวียนเหมือนกระแสน้ำเชี่ยวในฤดูฝนที่ไม่หยุดพัก สายตาของเธอมองออกไปยังหน้าต่างกระจกบานใหญ่ ที่ภายนอกนั้น เมืองทั้งเมืองดูมีชีวิตชีวาและการเคลื่อนไหวเบื้องล่างเต็มไปด้วยความคึกคักแต่สำหรับเธอ จากความสูงลิบนี้ ทุกอย่างกลับดูเหมือนฉากไกลโพ้น ราวกับว่าเธอถูกตัดขาดจากทุกสิ่ง อยู่เพียงลำพังในความเงียบอันหนาวเหน็บที่ล้อมรอบ รู้สึกเหมือนกำลังลอยเคว้งอยู่กลางอากาศ.. เธอพยายามข่มตาหลับมาแล้วหลายชั่วโมง แต่ยิ่งพยายาม ความกังวลและความสับสนในใจก็ยิ่งตื่นตัว หัวใจของเธอเต้นแรง รัวเร็ว ไม่เป็นจังหวะ ความรู้สึกที่ไม่อาจระงับได้โอบล้อมเธอไว้ในยามค่ำคืนเสียงนาฬิกาที
อิมิลี่นิ่งค้างอยู่ในความเงียบ ราวกับเวลาในโลกของเธอหยุดลง มือของเธอกำโทรศัพท์แน่นจนแทบสั่น ขณะที่สายตาจ้องภาพบนหน้าจอในแอปเมสเซนเจอร์อย่างไม่ละสายตาหัวใจเธอเหมือนถูกบีบรัดจนแทบหายใจไม่ออก ภาพของเจมส์ ผู้เป็นสามีของเธอ ยืนใกล้ชิดกับหญิงสาวคนหนึ่งอย่างสนิทสนม และใบหน้าของหญิงคนนั้นดูคุ้นตายิ่งนัก แต่ความสับสนทำให้เธอยังไม่สามารถเรียบเรียงความคิดออกมาได้ ว่า “หล่อนคือใคร”คำถามในแชตที่เพื่อน ๆ ส่งมา เป็นเหมือนคมมีดที่แทงซ้ำในจิตใจของเธอ"จริงไหม อิมิลี่?"“หล่อนเป็นใคร อิมิลี่?”ตัวอักษรเหล่านั้นก้องอยู่ในหัวซ้ำไปซ้ำมา ความโกรธและความอับอายที่ราวกับพายุลูกใหญ่เคลื่อนด้วยความเร็วสูงซัดเข้าหา ไม่มีคำอธิบาย ไร้ซึ่งคำตอบ ในความเงียบและความอึดอัดรอบตัวกัดกินเธอ แล้วความคิดหนึ่งก็แล่นเข้ามาในหัว ว่า เธอจะต้องรู้ความจริงจากปากของเจมส์ เธอเลื่อนนิ้วอย่างหนักแน่น กดเบอร์โทรหาเขา ขณะเสียงหัวใจเต้นแรงจนแทบทะลุออกมา ความรู้สึกของเธอสับสนอย่างท่วมท้น แต่เธอต้องการคำตอบ และต้องรู้ว่า ทำไมสิ่งนี้ถึงเกิดขึ้นตรู๊ด ตรู๊ด... เสียงเรียกเข้าจากอิมิลี่ดังก้องในความเงียบในรถสปอร์ตคันหรู เจมส์ไม่ได้ยินเสียง
อิมิลี่รีบจัดแจงตัวเองด้วยความร้อนรน ความคิดในหัววิ่งพล่านดั่งเปลวไฟที่โหมกระพือ แม้เธอจะปิดประตูห้องของเลโออย่างแผ่วเบา แต่เสียงหัวใจที่เต้นระรัวกลับไม่อาจสงบลงได้ เมื่อออกจากห้อง เธอเร่งฝีเท้าอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ด้วยความกังวลพุ่งทะยานทุกย่างก้าวจนกระทั่งถึงหน้าร้าน The Brushstrokeภาพตรงหน้าสร้างความตื่นตระหนกในทันที ประตูร้านที่ควรจะปิดกลับเปิดกว้างอย่างผิดปกติ ความเงียบแปลกประหลาดที่แทรกตัวแทนเสียงกระดิ่งต้อนรับที่มักดังเป็นประจำลิน หญิงสาวที่เพิ่งมาช่วยงานได้ไม่กี่วัน ยืนรออยู่ด้วยสีหน้าร้อนรน เมื่ออิมิลี่ปรากฏตัว เธอก็รีบกล่าวรายงานด้วยน้ำเสียงสั่นเทา "ดิฉันเข้ามาทำงานตอนเวลาเปิดร้าน แต่พอถึงร้าน ประตูก็เปิดค้างไว้แบบนี้ค่ะ แล้วพอสำรวจข้าวของ ภาพบางภาพก็หายไปค่ะ" คำพูดของลินเหมือนน้ำหนักก้อนใหญ่ที่กระแทกลงในใจของอิมิลี่เธอยืนอึ้งในความตกใจ ใจของเธอเหมือนถูกบีบด้วยมือที่มองไม่เห็น พลางกวาดสายตาไปรอบร้าน ภาพที่เคยประดับเรียงรายกลับหายไปในบางจุด บรรยากาศแห่งความสงบในร้านกลายเป็นความว่างเปล่าที่ชวนให้ใจหล่นวูบอิมิลี่ก้าวเข้าไปยังห้องหลังร้านด้วยหัวใจที่เต้นแรง ภาพบางภาพที่เคย
เช้าตรู่ในห้องประชุมของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่ หัวหิน บรรยากาศตึงเครียดจากปัญหาที่กำลังเผชิญ เสียง "โป๊ะ" ของหนังสือพิมพ์ที่ถูกวางลงบนโต๊ะประชุมด้วยความหงุดหงิดของผู้บริหารพลางชี้นิ้วไปที่หน้าหนังสือพิมพ์ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงกร้าว “ผู้ชายคนนี้คือใคร?”บนหน้า1ของหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นชื่อดังปรากฏภาพของ ลูคัส ชายหนุ่มใบหน้า คมเข้ม “เขาคือหนึ่งในแกนนำผู้ประท้วงที่กำลังเรียกร้องค่าเสียหายจากบริษัท ครับ” เสียงของกรรมการบริษัทคนหนึ่งที่นั่งร่วมบนโต๊ะกล่าวขึ้น แต่ภาพนั้นไม่ได้หยุดแค่เขา สายตาของทุกคนในห้องประชุมกลับเหลือบไปมองอีกมุมของหน้าหนังสือพิมพ์ ภาพ แอลซ่า เลขาคนสนิทของเจ้าของบริษัท เธอกำลังคล้อง แขน ทนายเจมส์ไว้แน่น ชายหนุ่มผู้มีชื่อเสียงในวงการกฎหมาย แต่สิ่งที่สะดุดตากว่านั้นคือการยืนใกล้ชิดกันอย่างน่าสงสัย หน้าอกของแอลซ่าดูเหมือนแทบจะแนบชิดกับแขนของเจมส์จนปฏิเสธไม่ได้ว่าภาพนี้ต้องการสร้างกระแสอะไรบางอย่าง และเหนือภาพนั้นคือพาดหัวข่าวที่หนาและใหญ่จนแทบจะทะลุออกมาจากกระดาษ"ทนายชื่อดังควงอดีตนางแบบเพลย์บอย! เลขาสาวที่หันหลังให้วงการเพื่อเข้าสู่
คอนโดหรูใจกลางเมืองตั้งตระหง่านท่ามกลางแสงสีแห่งค่ำคืน ลิฟท์แก้วโปร่งใสค่อยๆ เคลื่อนตัวขึ้นไปอย่างนุ่มนวล อิมิลี่เงยหน้าขึ้นมองทิวทัศน์ที่แผ่กว้างออกไปสุดสายตา หัวใจเต้นเบาๆ กับความงดงาม ภาพเมืองกรุงเทพฯ ที่เปล่งประกายด้วยแสงไฟจากตึกระฟ้าและแสงไฟสีส้มของท้องถนนด้านล่างที่พาดไปมาติ้ง ! ประตูลิฟท์เปิดออกสู่รูฟท็อป ลมเย็นจากที่สูงพัดสัมผัสใบหน้าของเธออย่างอ่อนโยน เธอก้าวออกมาพลางทอดสายตาไปรอบๆชื่นชมภาพเมืองที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา ความสูงและแสงไฟเมื่อมองจากมุมนี้ทำให้ทุกอย่างดูเหมือนภาพในฝันเลโอที่ยืนอยู่ข้างๆ เอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “เป็นไง ชอบไหมครับบนนี้” น้ำเสียงของเขาทำให้อิมิลี่เผลอยิ้มบางๆ ก่อนตอบว่า “บรรยากาศดีมากค่ะ” เธอพูดด้วยสายตาเป็นประกาย บรรยากาศรอบตัวเงียบสงบพอที่จะได้ยินเสียงลมและหัวใจของเธอเต้นเป็นจังหวะ อิมิลี่หันมามองเลโอด้วยความซาบซึ้ง “ขอบคุณนะคะ ที่อยู่เป็นเพื่อนในค่ำนี้” น้ำเสียงของเธอนั้นราวกลั่นออกมาจากความรู้สึกที่จริงใจ เลโอยกยิ้มมุมปาก พลางพยักหน้าแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ยินดีครับ” คำพูดที่เรียบง่ายแต่หนักแน่นด้วยความหมายบนรูฟท็อบที่เต็มไปด้วย
17.45 PM.ที่ร้านภาพ The Brushstrokeภายในร้านที่เงียบสงบ อิมิลี่ก้มมองนาฬิกาข้อมือของเธอ เวลานัดกับเลโอกำลังใกล้เข้ามา เธอถอนหายใจเบาๆ พลางพยายามรวบรวมสมาธิ ก่อนจะหยิบกระจกขนาดเล็กขึ้นมาเพื่อเช็กใบหน้าอย่างรวดเร็วเธอจัดปอยผมที่หลุดลุ่ยให้เข้าที่ ไล้มือปรับเสื้อผ้าและเสื้อคลุมให้เรียบร้อย จนมั่นใจในภาพลักษณ์ของตัวเอง เธอสูดลมหายใจลึก ก่อนหมุนตัวแหวกม่านหลังร้านออกมา ก้าวเดินเป็นจังหวะ เสียงรองเท้าส้นเตี้ยกระทบพื้นดังเบาๆ แล้วหยุดที่หน้าเคาน์เตอร์“ไม่ต้องล็อกร้านนะคะ เดี๋ยวพี่กลับมาทำงานต่อ” อิมิลี่พูดกับพนักงานสาวที่ยืนอยู่ด้วยน้ำเสียงสุภาพและเป็นกันเอง“และถ้าถึงเวลากลับ ก็ออกไปได้เลยค่ะ แค่นำป้ายปิดติดไว้หน้าประตูก็พอ” เธอพูดพลางยิ้มอ่อนโยน ส่งผ่านความใส่ใจพนักงานสาวพยักหน้ารับอย่างนอบน้อม “ได้ค่ะ คุณอิมิลี่”อิมิลี่ยิ้มตอบ ก่อนจะหันหลังเดินออกจากร้าน เสียงระฆังเล็กๆ บนประตูดังขึ้นแผ่วเบาขณะที่เธอก้าวออกไป ท่ามกลางแสงไฟพลบค่ำที่ส่องประกายอ่อนๆ ทั่วถนน ลมเย็นพัดผ่านตัวเธอเบาๆ ทำให้เธอกระชับเสื้อคลุมให้แน่นขึ้น สายตาของเธอกวาดมองไปรอบๆ เพื่อซึมซับบรรยากาศเงียบสงบของพลบค่ำ เธอเดินต่
ที่หน้าบริษัทอสังหาริมทรัพย์ใน หัวหินบ่ายนี้อากาศอบอ้าวจนเหงื่อไหลซึมตามใบหน้า แต่ความร้อนกลับไม่ได้มาจากอุณหภูมิของอากาศ แต่เพราะกลุ่มลูกบ้านนับร้อยที่ยืนถือป้ายประท้วงแน่นขนัด สร้างแรงกดดันและพลังแห่งความไม่พอใจที่แผ่ซ่านไปทั่วหน้าอาคารกระจกสูงเสียงโห่ร้องและคำพูดเรียกร้องดังก้องบริเวณ"คืนเงินพวกเรามา!" “แสดงความรับผิดชอบ!”ลูคัส ชายหนุ่มวัย 35 ปี ยืนอยู่เบื้องหน้ากลุ่มผู้ชุมนุม เขาสวมเสื้อลายสก็อตที่พอดีกับร่างกายแข็งแรงและกางเกงยีนสีซีดที่บ่งบอกถึงความเรียบง่ายในแบบของเขา ใบหน้าหล่อเหลาที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ฉายแววเด็ดเดี่ยวและมั่นใจ เขาคือหัวเรี่ยวหัวแรงของกลุ่มผู้ประท้วง และทุกสายตาจับจ้องมาที่เขาราวกับรอคำพูดที่จะปลุกเร้าพลังลูคัสยกเอกสารในมือขึ้นเหนือศีรษะ ท่าทางเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น เขาสูดลมหายใจลึกก่อนจะเปล่งเสียงพูดที่ดังกังวาน"พวกเราจะไม่ยอมให้พวกเขาเลื่อนอีกต่อไป!"น้ำเสียงของเขาหนักแน่นจนทำให้เสียงของฝูงชนเงียบลงชั่วขณะ ทุกคนเงี่ยหูฟังคำพูดของเขาที่เต็มไปด้วยความจริงจัง"เราเดือดร้อนกันมากพอแล้ว ค่าเสียหายนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ พวกเขาต้องรับผิดชอบ!"เสียงปรบมือและโห่ร้อ
หลังจากเสร็จสิ้นการเยี่ยมซาร่าที่โรงพยาบาล อีมิลี่ก็เดินทางมายังงร้านภาพ The Brushstroke ด้วยสีหน้าเศร้าหมอง แม้ภายนอกร้านจะดูอบอุ่นด้วยแสงไฟสีทองที่ส่องออกมาจากหน้าต่างบานใหญ่ แต่สำหรับเธอ มันแทบไม่อาจทำให้ความรู้สึกหนักในใจนั้นเบาบางลง มือเรียวของเธอผลักประตูไม้เก่าที่แฝงเสน่ห์อย่างมีศิลป์ สียงกระดิ่งเล็ก ๆ บนประตูดังขึ้นเบา ๆ คล้ายจะต้อนรับการมาถึงของเธอ เมื่อเธอก้าวเข้ามาในร้าน หัวใจเธอเหมือนหยุดเต้นชั่วขณะ เมื่อสายตาแรกจับจ้องไปที่ผู้หญิงสวมชุดผ้าไหมสีน้ำทะเลช่างเปล่งออร่าอันสง่างามเกินเอื้อม พลางเอ่ยชื่อเบาๆในลำคอ “คุณหญิง อลิซซาเบธ”ชุดผ้าไหมทีหรูหราที่ท่านผู้หญิงสวมนั้น เนื้อผ้าเรียบลื่นจับจีบอย่างประณีต ผมของเธอถูกจัดแต่งอย่างไร้ที่ติเธอยืนเด่นเป็นสง่าอยู่กลางร้าน ทว่าดวงตาคมกริบกลับจ้องไปที่อิมิลี่เพียงผู้เดียว สายตานั้นเต็มไปด้วยความคาดหวังและมั่นใจ สะท้อนให้เห็นถึงบุคลิกของผู้หญิงที่รู้ในสิ่งที่ต้องการและไม่ลังเลที่จะเรียกร้องมันอิมิลี่รู้สึกถึงแรงกดดันที่แผ่ซ่านในอากาศ การปรากฏตัวของคุณหญิงอลิซาเบธไม่ได้เปลี่ยนเพียงบรรยากาศในร้าน แต่ยังเหมือนเป็นสัญญาณว่า มีบางส
คอนโดหรูสูงตระหง่านตั้งอยู่ ใจกลางกรุงแสงนีออนหลากสีจากป้ายร้านค้าและผับบาร์ด้านล่างสะท้อนบนกระจกอาคาร ราวกับจะประกาศศักดาแห่งชีวิตที่เต็มไปด้วยการแข่งขันและความวุ่นวาย เสียงดนตรีและเสียงหัวเราะของผู้คนจากถนนเบื้องล่างคละเคล้ากันกลายเป็นซาวด์แทร็กแห่งย่านที่ไม่เคยเงียบสงบ แต่เมื่อขึ้นมาสู่ชั้นสูงของคอนโด ทุกสิ่งกลับเงียบงัน แสงไฟจากตึกสูงรอบข้างลอดผ่านม่านเนื้อบางในห้องนอนที่เงียบสนิท ห้องที่ตกแต่งอย่างเรียบหรูด้วยโทนสีขาว ตรงข้ามกับแสงสีด้านล่างอย่าสิ้นเชิง มีเพียงแสงจากเทียนหอมส่งกลิ่นกุหลาบผสมน้ำหอมกลิ่นฟีโรโมนอบอวลทั่วห้องบนเตียงขนาดใหญ่ที่ปูด้วยผ้าเนื้อดีมันวาว ร่างชายหนุ่มคร่อมอยู่บนร่างหญิงสาว นั่นคือ อิมิลี่ ผู้เป็นภรรยาที่เปลือยกายอยู่ใต้ผ้าห่มเนื้อหรูหราซึ่งปกคลุมร่างขาวเพรียวเขาขยับตัวขึ้นลง ราวกับพยายามปลุกเร้าความรู้สึกที่เคยคุ้น แต่ท่อนชายของเขากลับไม่ตอบสนองตามที่ใจปรารถนา ท่ามกลางบรรยากาศที่น่าลุ้นระทึก มีเพียงเสียงลมหายใจของทั้งคู่ที่ดังแทรกผ่านอากาศอย่างแผ่วเบา“เจมส์... คุณโอเคไหม?” เสียงของอีมิลี่ขาดความมั่นใจ เธอเอ่ยถามด้วยความพะวง สายตาของเธอเต็มไปด้วยความห่ว...
Comments