Chapter: บทที่6.หนุ่มน้อยแววตาซื่อณ.จังหวัดหนึ่งทางภาคอีสาน บรรยากาศยามเช้าของหมู่บ้านเงียบสงบ เสียงไก่ขันคลอไปกับเสียงพูดคุยในตลาดเล็กๆ ที่ผู้คนมารวมตัวกันจับจ่ายใช้สอยกันตามปกติ แต่ในวันนี้ มีภาพที่แตกต่างออกไป ชายหนุ่มสูงยาวคนหนึ่ง ใบหน้ามีแววตาใสซื่อ แต่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น เขาคือ อาดัม หนุ่มน้อยลูกครึ่งที่พูดไทยไม่ชัดนัก มือข้างหนึ่งถือหนังสือพระธรรม ขณะที่อีกข้างหนึ่งโบกเรียกความสนใจจากผู้คน“คุณ...อยากขึ้นสวรรค์ไหม? พูดตามผม...”อาดัม หนุ่มน้อยใบหน้าสดใสที่สะท้อนความมุ่งมั่น ยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชน น้ำเสียงของเขาแฝงความกระตือรือร้น แม้จะติดสำเนียงแปลกๆ แต่ความจริงใจที่แสดงออกทางแววตาและน้ำเสียงของเขา ก็เพียงพอที่จะทำให้ผู้คนบางคนหยุดเดิน และเริ่มมองไปที่เขาด้วยความสนใจ“พูดตามผมครับ...” เขากล่าวต่อ พลางหยิบหนังสือเล่มเล็กๆ ออกมาจากกระเป๋า “บนโลกนี้ เราอาจมีทั้งความสุขและความทุกข์ แต่บนสวรรค์ จะมีแต่ความสุขที่สมบูรณ์แบบ...”ผู้คนเริ่มรุมล้อมรอบตัวเขา บางคนยิ้มอย่างอ่อนโยน บางคนมองด้วยความสงสัย แต่ไม่มีใครเดินหนีไปไกล อาดัมไม่ใช่เพียงแค่พูด แต่แววตาและท่าทางของเขาบอกชัดว่าเขาเชื่อมั่นในสิ่งที่เขากำลังสื่อสาร
ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-18
Chapter: บทที่5.คำพิพากษาในห้องสี่เหลี่ยมแล้ววันนี้ก็มาถึงครูใหญ่ผู้เข้มงวดนั่งประจำโต๊ะในห้องปกครอง ใบหน้าดุดันและสายตาเย็นชา จับจ้องไปที่ฮันน่า ราวกับทุกคำพูดเป็นคำพิพากษา"เราจะไม่สามารถเก็บเธอไว้ในระบบทุนได้อีกต่อไป" ครูใหญ่พูดเสียงหนักแน่น "การไม่ปฏิบัติตามกฎและความประพฤติที่ไม่เหมาะสมไม่เป็นที่ยอมรับ เธอต้องเข้าใจว่าสิ่งนี้ไม่ใช่แค่เรื่องส่วนตัว แต่เกี่ยวข้องกับภาพลักษณ์ของโรงเรียน"ฮันน่าก้มหน้าลง น้ำตาไหลเงียบๆ ลงบนมือที่วางอยู่บนตัก เสียงของครูใหญ่ที่กล่าวคำตัดสินดังก้องในหูของเธอ ราวกับเสียงฟ้าผ่าที่ทำลายทุกความหวังในใจลงในพริบตา "เราจะไม่สามารถอนุญาตให้ฮันน่าเรียนต่อได้อีก..." คำพูดนั้นจบลง แต่ความหนักหนาของมันยังคงกดทับเธอไว้เธอพยายามจะกลั้นน้ำตา แต่ความเสียใจที่ท่วมท้นเกินจะทนก็ทำให้ไหลพรั่งพรูออกมา ใบหน้าของเธอก้มต่ำ มองเห็นเพียงเงาของตัวเองที่สะท้อนกับพื้นห้อง เงานั้นดูสั่นไหวและพร่าเลือนราวกับสะท้อนถึงหัวใจที่แตกสลาย ความผิดหวังที่ถาโถมเข้ามาซ้ำแล้วซ้ำเล่าเหมือนคลื่นลูกใหญ่ เธอไม่รู้ว่าจะลุกขึ้นจากความรู้สึกนี้ได้อย่างไร เสียงสะอื้นที่เธอพยายามกลั้นไว้กลับหลุดออกมาเป็นระยะ ความรู้สึกอับอาย ผิดหวัง และเสียใจ
ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-18
Chapter: บทที่4.ปลาน้อยในลำคลอง7 ปีผ่านไป…ฮันน่าโตเป็นสาวน้อยวัยรุ่นที่มีชีวิตเรียบง่ายในชนบท เธอใช้วันหยุดเสาร์อาทิตย์ช่วยปู่ย่าทำไร่ไถนาตามประสาคนในครอบครัวที่หาเช้ากินค่ำ แต่เมื่อกลับมาบ้าน เธอมักจะแอบหลบอยู่ในห้องนอนเล็กๆ ของตัวเอง โลกส่วนตัวที่เธอสร้างขึ้นยังคงเต็มไปด้วยการขีดเขียนนิยายน้ำเน่าเล่มแล้วเล่มเล่าลงบนสมุดเก่าๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวของเจ้าชาย เจ้าหญิง หรือชีวิตแสนสุขที่เธอจินตนาการขึ้นเพื่อหลีกหนีจากความเหงาและความโดดเดี่ยวที่เกาะกินใจในห้องเล็กๆ นั้น เธอรู้สึกเหมือนได้ปลดปล่อยตัวเองจากโลกภายนอก มีเพียงแต่เสียงดินสอขูดขีดบนกระดาษและเรื่องราวในหัวของเธอคือสิ่งเดียวที่ทำให้วันเวลาผ่านไปอย่างมีความหมายแต่แล้ว เสียงของหญิงชราก็ดังขึ้นจากหน้าประตูห้อง "ฮันน่า ได้เวลาออกจากห้องแล้วนะ" เสียงนั้นเข้มงวด เรียกให้เธอออกมาจากโลกส่วนตัว เสียงฝีเท้าของหญิงชราดังชัดเจนขึ้นเมื่อเธอเดินมาเคาะประตูซ้ำฮันน่าเงยหน้าขึ้นจากสมุดที่เธอกำลังเขียน นิ้วเล็กๆ ของเธอยังคงจับดินสอแน่น เธอถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะวางมันลงบนโต๊ะไม้เก่าที่เต็มไปด้วยรอยขูดขีด เธอเดินออกมาพร้อมกับเสื้อผ้าเก่าๆ ที่มีกลิ่นอายของบ้านไร่ติดตัว"ไปหาปูหาป
ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-18
Chapter: บทที่3.เพื่อนคนหนึ่งที่ห่วงใย ในโลกส่วนตัวที่ฮันน่าสร้างขึ้นทุกอย่างเต็มไปด้วยสีสันและจินตนาการอันไร้ขอบเขต โลกใบนี้คือที่ที่เธอได้หลบหนีจากความเหนื่อยล้าและความโดดเดี่ยวในชีวิตจริง ความสุขเล็กๆ ที่เธอเฝ้ารอทุกสัปดาห์คือรายการ “เพื่อนของเด็กๆ”ที่ออกอากาศช่วงบ่ายของทุกเสาร์และอาทิตย์ซึ่งก็ทำให้เธอว่างจากการทำงานในบ้านตอนเช้าแล้วก็ตั้งตารอราวกับเป็นช่วงเวลาที่พิเศษของเธอ รายได้เล็กๆ น้อยๆ จากการรับจ้างที่เธอเก็บหอมรอมริบสำหรับไว้เป็นค่าขนมไปโรงเรียนแต่ก็เพียงพอที่จะให้เธอได้ทำสิ่งหนึ่งที่เธอตั้งใจเธอยอมที่จะอดกินขนมเพื่อใช้เงินที่เก็บไว้ซื้อตราไปรษณียากรและซองจดหมายที่เธอตั้งใจเขียนจ่าหน้าซองถึงตัวเองตามผู้ดำเนินรายการได้แนะนำเพื่อให้ทางรายการจะได้ส่งของขวัญให้กับเด็กๆ ทุกคน ซองเอกสารสีน้ำตาลที่มาพร้อมกับอากรแสตมป์สีสันสดใสถูกส่งมาถึงมือฮันน่า เธอจับมันด้วยมือเล็กๆ ที่สั่นเล็กน้อยจากความตื่นเต้น สายตาจดจ่ออยู่ที่ชื่อของเธอที่เขียนด้วยลายมือบรรจงบนมุมซอง นั่นคือลายมือของเธอเอง... ดวงตากลมโตจับจ้องไปที่ภายใน จนในที่สุด... สิ่งที่เธอเฝ้ารอคอยก็ปรากฏออกมา ภาพนิทานแสนงดงามพร้อมสมุดระบายสีเล่มเล็กๆ ที่มีเรื่องราวเกี่ยว
ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-18
Chapter: บทที่2.เสียงปลอบโยน เมื่อฤดูทำไร่ทำสวนได้ผ่านพ้นไป ความวุ่นวายจากการเก็บเกี่ยวก็ทุเลาลง แต่สำหรับฮันน่า งานยังไม่จบเพียงเท่านั้น วันหยุดของเธอยังคงเต็มไปด้วยงานรับจ้างเล็กๆ น้อยๆ ทุกบาททุกสตางค์ที่ได้มาถูกเก็บหอมรอมริบเพื่อค่าใช้จ่ายในการไปโรงเรียนแต่ในบางวันเสาร์อาทิตย์ที่งานไม่หนักจนเกินไป ฮันน่าก็พอจะมีช่วงเวลาที่ได้ผ่อนคลายบ้าง ช่วงเวลานั้น เธอจะได้นั่งดูรายการโทรทัศน์ในห้องนั่งเล่นเล็กๆ ของบ้าน ความสุขเล็กๆ นี้คือช่วงเวลาที่ฮันน่าได้หลบหนีจากโลกแห่งความรับผิดชอบและความกดดัน เธอจะดูโทรทัศน์ด้วยสายตาเปล่งประกาย ไม่ว่าจะเป็นรายการเกี่ยวกับการ์ตูน นิทาน หรือเรื่องราวจากต่างแดนที่เธอไม่เคยสัมผัส มันทำให้เธอได้เปิดโลกในจินตนาการของเด็กบ้านนอกคนหนึ่งที่ยังคงมีความฝันและความหวังเล็กๆ ซ่อนอยู่ในใจ วันหยุดสัปดาห์ก็มาถึงอีกครั้งวันนี้เป็นวันที่ไม่มีงานจิปาถะใดๆ ที่ต้องทำ ฮันน่ารู้สึกดีใจที่วันนี้เธอได้มีเวลาว่างเป็นของตัวเอง เธอได้นั่งลงอย่างสบายใจบนพื้นไม้เย็นๆ ในห้องนั่งเล่นเล็กๆ โทรทัศน์เก่าเครื่องนั้นที่ตั้งอยู่ตรงมุมห้อง ฮันน่านั่งอยู่หน้าจอโทรทัศน์เก่าๆ มือเล็กๆ ของเธอค่อยๆ หมุนปุ่มปรับช่องไปทีละนิด
ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-18
Chapter: บทที่ 1.โลกที่ไม่ใจดีกับฮันน่า ปี 1985“ฮันน่า..ฮันน่า!” เสียงผู้หญิงคนหนึ่งตะโกนเรียกชื่อเด็กน้อยดังลอยมาจากในบ้านแต่ฮันน่ายังคงก้มหน้าก้มตาเล่นของเล่นอยู่บนพื้นดินหน้าบ้านอย่างไม่สนใจ ใบหน้าเล็กๆ ของเธอเต็มไปด้วยความสุขและจินตนาการที่ไร้ขอบเขตในโลกส่วนตัวของเธอเองตามประสาเด็กอายุ 4 ปีเดือน ลูกพี่ลูกน้องที่อายุมากกว่าฮันน่าหลายปีปลุกเธอจากความสนุกเล็กๆ น้อยๆ นั้น "ฮันน่า แม่เรียกแล้วนะ" ฮันน่าหันไปมองยังไม่ทันขานรับเสียงใดๆ ทันใด หญิงสาวคนหนึ่งเดินตรงมาด้วยท่าทางมั่นใจอายุราว 20 ปีแต่งตัวด้วยเสื้อตัวใหม่สีสดใส ชายเสื้อถูกเก็บเข้าในกางเกงยีนเอวสูงอย่างเนี้ยบ ริมปากเคลือบลิปสติกสีแดงสดใบหน้าของเธอเรียบเฉยจนแทบจะไร้อารมณ์ ท่าทางของเธอดูเคร่งขรึมและจริงจัง และนั่นก็คือ จูเลีย แม่ของฮันน่า“ไปกันได้แล้วนะ ฮันน่า ไหนชิ้นไหนของลูก เอาไปเล่นที่นู่นด้วยนะ”จูเลีย พูดพลางหยิบของเล่นที่ฮันน่าถืออยู่ในมือเก็บใส่ลงกระเป๋าข้างในนั้นเต็มไปด้วยเสื้อผ้าของลูกสาวที่พับอย่างระมัดระวังแล้ว เธอจูงมือเล็กๆ ของลูกสาวออกไปด้วยสายตาเย็นชา "แต๊ก... แต๊ก... แต๊ก..." เสียงมอไซค์คันเก่า เสียงนั้นดังสนั่นเหมือนเสียงคำรามที่แทรกผ่านความเงียบใ
ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-17
Chapter: บทที่18.บทสุดท้ายสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในห้องของแซมอาจเพราะด้วยความกดดันของทั้งสองที่ต้องการเพียงระยะห่างเท่านั้นและอีฟก็แค่ตั้งใจจะไปปรึกษาเรื่องงานของเธอกับแซม ยังไม่ทันได้ปริปากพูดถึงมันเลยกลับต้องจบลงแบบนี้จะด้วยเหตุผลอะไรก็ช่างแต่บทสุดท้ายคือตอนนี้เธอเศร้าใจนัก และคำปลอบใจที่พูดกับตัวเองก็มีเพียงอย่างเดียวคือ ต้องมูฟออน เมื่อถึงห้องเธอก็ไม่รอช้าคว้าโน้ตบุ๊กขึ้นมาเปิดแล้วตอบกลับอีเมลงานที่รอคำตอบจากเธอมาหลายวันแล้วด้วยใจที่แน่วแน่มั่นใจและพร้อมเดินทางในวันถัดไปโดยไม่จำเป็นต้องรีรอ วันต่อมา… บางครั้งโชคชะตาก็พลิกผันรวดเร็วเกินตั้งตัวให้เราเดินตามทางที่ถูกกำหนดมาตามเวลาที่เหมาะสม ตอนนี้เธอได้เก็บข้าวของเครื่องใช้ต่างๆแพ็กลงกล่องเพื่อจัดการส่งให้กับบริษัทขนส่งที่กำลังจะมารับ หนังสือที่ตั้งวางอยู่ด้านหน้ามือหยิบลงใส่กล่องกระดาษสี่เหลี่ยมที่เตรียมไว้เป็นพิเศษสำหรับหนังสือเล่มโปรดของเธอแต่แล้วดวงตาต้องสะดุดกับสมุดบันทึกรักที่เคยจดบันทึกไว้เธอหยิบขึ้นมาแล้วเพ่งมองชวนให้นึกถึงและคิดว่าจะเปิดดูและอ่านอีกรอบแต่แล้วทันใดนั้นเสียงประตูหน้าห้องก็ดังแทรก ก๊อก ก๊อก ก๊อก “ใครคะ?” “แม่บ้านจ้า” เธอตั
ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-18
Chapter: บทที่17.ถึงเวลาต้องเลือกทางเดินที่ร้านอาหารตามสั่งของเจ๊แตงอีฟและแนนซี่ได้ทยอยขนของลงมาไว้บ้างแล้วเพื่อรอครอบครัวของแนนซี่จะมารับในไม่ช้า บนโต๊ะอาหารทุกคนนั่งรับประทานอาหารพร้อมสนทนากันไปพลางๆพลันสายตาหลายคู่ต้องหันมองไปทางเดียวกันเพราะรถเบนซ์คันหรูที่ดูคุ้นตาและนานๆจะมีเข้ามาที่อะพาร์ตเมนต์ราคาประหยัดเช่นนี้ซึ่งดูคลับคล้ายคลับคลาว่าเมื่อหลายเดือนก่อนนั้นน่าจะเป็นคันเดียวกันที่เคลื่อนเข้าเมื่ออีฟและแนนซี่จ้องมองไปยังแผ่นป้ายทะเบียนนั้นแล้วก็ตรงเป๊ะและคิดว่า “ต้องใช่!หล่อนแน่ๆ”แต่วันนี้กลับมีสาวสวยสวมแว่นดำเดินออกมาจากรถมันเงาเพียงลำพังไร้เงาชายหนุ่มข้างกาย ลิซซี่ยืนบนรองรองเท้าส้นแหลม คอหันซ้ายหันขวาแล้วสายตาสะดุดเห็นอีฟและแนนซี่นั่งอยู่ที่ร้านอาหารข้างๆหอหล่อนจึงรีบเดินดุ่มๆมาแล้วเอ่ยถาม “อีฟเจอไอวาไหมฉันตามหาเขาอยู่เขาพยายามหลบหน้าหลบตาฉัน”เธอพูดด้วยเสียงที่กระซิกๆคล้ายกับจะร้องไห้ใต้แว่นดำแต่ไร้ซึ่งหยดน้ำตาต่อให้ลิซซี่จะสวยเพอร์เฟกต์แค่ไหนแต่หล่อนก็เป็นคนเอาแต่ใจให้ได้มาซึ่งทุกอย่างตามประสาลูกคนรวยที่ถูกสปอยล์แต่ตอนนี้เสียงของหล่อนที่พูดกับอีฟได้อ่อนปวกเปียกต่างจากเมื่อก่อนเพียงเพื่อต้องการให้ได้สิ่งที่หล่อนต
ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-18
Chapter: บทที่16.ความสัมพันธ์เหินห่าง ในห้องสี่เหลี่ยมที่บรรยากาศอึมครึมเพราะชายหนุ่มผู้มุ่งมั่นและจริงจังตอนนี้เขาได้เก็บตัวปิดประตูสังคมนั่งหน้าดำคร่ำเครียดปล่อยหนวดเครายาวสมองหมกมุ่นหนักกับงานที่ไม่ลงตัว แม้แต่อีฟคนที่กำลังคบหาเขาก็ไม่ได้สนใจตอบข้อความของเธออย่างเช่นเคยเพราะตอนนี้เขาแทบจะถวายชีวิตให้กับงานเลยก็ว่าได้ สามารถยอมแลกได้ทุกอย่างให้ได้มาซึ่งความสำเร็จแต่เขาอยากระบายออกมาบ้างในบางครั้งแล้วเสียงของชายหนุ่มได้ตะโกนลั่นปลดปล่อยอารมณ์ความเครียดจากสมองพลางมือขยำกระดาษเป็นก้อนแล้วปามันติดกำแพงผนัง..ที่อะพาร์ตเมนต์ในที่พักอาศัยของอีฟและแนนซี่ ตอนนี้ทั้งสองกำลังยุ่งกับการเก็บข้าวของ แนนซี่มองดูรูปถ่ายที่ถืออยู่ในมือเป็นภาพของเธอกับอีฟในชุดนักศึกษาสมัยปีหนึ่งที่ถ่ายคู่กันด้วยความสนิทสนมด้วยความปลาบปลื้มที่มีเพื่อนดีๆเช่น อีฟ แล้วเก็บใส่กล่องสี่เหลี่ยมส่วนตัวของเธอ ข้าวของเครื่องใช้ที่แพ็กไว้เรียบร้อยพร้อมขนย้ายเพื่อเตรียมกลับบ้านที่ต่างจังหวัดอย่างถาวร ในขณะที่อีฟมือแพ็กกล่องสลับหยิบมือถือขึ้นมาดูเป็นระยะๆเพื่อเช็กข้อความแซมที่จะตอบกลับเธอ“มีอะไรหรือเปล่าอีฟ เช็กมือถือตลอดเลย”แนนซี่เอ่ยถามเมื่อสังเกตว่าอีฟพะวงดูมื
ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-18
Chapter: บทที่15.เฉลิมฉลองหนึ่งเดือนผ่านไปเช้าของวันที่อากาศสดใสปลอดโปร่งในรั้วมหาวิทยาลัยที่ สองสาวใช้เวลาหลายปีในการร่ำเรียนและมีความผูกพันกับสถานที่เรียนแห่งนี้ก็มาถึงช่วงท้ายสุดของชีวิตนักศึกษา นักศึกษามากมายหลายคนต่างยื่นหน้าจ้องบนกระดาษที่แปะไว้ที่บอร์ดของคณะพลางนิ้วไล่เช็กรหัสของตัวเอง “อีฟฉันผ่านแล้ว”แนนซี่กระโดดกอดอีฟด้วยความดีใจเมื่อเห็นรหัสประจำตัวและชื่อของตัวเองติดอยู่ว่าสอบได้และอีฟยิ้มอย่างภูมิใจที่ทำสำเร็จเมื่อเห็นชื่อของเธอว่าสอบผ่านด้วยเช่นกันและตัวเธอเองจะไม่โอเคแน่ๆถ้าต้องเสียเวลาสอบใหม่อีกรอบเพราะฐานะการเงินที่ฝืดเคืองไม่สามารถประคองชีวิตต่อไปได้อีกหลายเดือนหากยังไม่มีงานประจำทำแล้ววันนี้เธอก็ทำสำเร็จซึ่งเธอก็ภูมิใจกับตัวเองอยู่ไม่น้อย สองสาวที่แพลนเอาไว้เป็นเดือนแล้วว่าจะรวบรวมเงินกันจัดงานฉลองเล็กๆกันที่ร้านข้างหอถ้าสอบผ่านและสำเร็จทั้งสองคน “แนนซี่ เดี๋ยวเจอกันที่ร้านเจ๊แตงนะเราต้องเฉลิมฉลองกันตามที่เราได้สัญญากันไว้แต่ตอนนี้ฉันต้องรีบไปก่อนนะเพื่อนมีนัดกับแซมไว้เจอกันเย็นนี้นะ ” อีฟพูดพลางก้าวถอยหลังเดินออกไปด้วยใบหน้าที่แจ่มใสและเธอก็ยิ้มไม่หุบระหว่างการเดินทางไปหาชายหนุ่มที่คบแล
ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-18
Chapter: บทที่14.บททดสอบเวลา10โมงเช้าบรรยากาศในห้องสอบที่เงียบทุกคนต่างเพ่งตาทำข้อสอบอีฟใบหน้าผ่อนคลายอย่างมีสมาธิเธอรู้สึกดีใจที่ถึงวันนี้เสียทีเพราะเท่ากับว่าเธอได้นับเวลาถอยหลังถึงเส้นชัยแม้ช่วงเวลาที่ผ่านมาอันรวดเร็วเธอจะผ่านประสบการณ์ทำงานที่แปลกใหม่ในชีวิตจนได้พบกับใครบางคนที่ชะตาฟ้าลิขิตให้มาเจอ พอถึงช่วงเวลาบ่ายหลังจากสอบเสร็จอีฟกับแนนซี่กำลังนั่งเม้าท์กันตามประสาเพื่อนสนิทใต้ต้นไม้ใหญ่ในรั้วมหาวิทยาลัยแต่ทั้งสองต้องเหลียวมองตามเสียงผู้หญิงที่กำลังพูดไฟแลบด้วยท่าทางฟึดฟัดอย่างไม่พอใจและนั่นคือ ไอวาและลิซซี่กำลังทะเลาะกัน “สองคนนั้นเขาทะเลาะอะไรกัน” “ฉันว่าสงสัยเจอฤทธิ์หนุ่มแบดบอยเข้าให้ไอวาก็คงทำนิสัยเดิมๆ เจ้าชู้ไปทั่วแหงๆ แต่ว่าสองคนนั้นคบกันแป๊บเดียวเองนะไม่ทันไรก็เผยสันดานออกมาละ สมน้ำหน้า จะอยู่ด้วยกันได้อย่างไรยัยลิซซี่ที่ขี้เหวี่ยงขึ้วีนขนาดนั้น กับคาสโนว่าตัวพ่อ”แนนซี่พูดรัวชุดใหญ่ แต่อีฟเมื่อได้ฟังก็รู้สึกเฉยๆเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาแล้วอีฟก็มองดูเวลาเพราะเธอได้เวลาต้องไปเปลี่ยนกะที่ร้านขนมหวานกลางเมือง“แนนซี่ ฉันจะต้องไปทำงานต่อที่ร้านขนมเดี๋ยวเจอกันตอนเย็นที่ห้องนะ ” “ได้สิ แล้วเจอกัน” แน
ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-18
Chapter: บทที่13.คอนโดสูงกลางเมืองหลังจากเจ๊แตงได้จัดการติดต่อหางานพาร์ตไทม์ช่วยอีฟให้ได้ทำงานแล้ว วันนี้ก็เป็นวันแรกของการทำงานพาร์ตไทม์ในร้านขนมหวานซึ่งใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมงต่อวัน ผมยาวถักเปียเรียงซ้อนงามเป็นระเบียบ สาวหุ่นเพรียวในเสื้อยืดสีดำชายเสื้อเข้าในกระโปรงยีนสั้นบนรองเท้าผ้าใบสีขาวคลุมด้วยผ้ากันเปื้อนเดินจัดเสิร์ฟขนมหวานและเครื่องดื่มน้ำผลไม้ให้กับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการซึ่งทั้งร้านมีพนักงานสองสามคนสลับกันเข้าออกเป็นกะ เพื่อนร่วมงานที่เป็นมิตรอายุรุ่นราวคราวเดียวกันกับเธอและอีฟเองก็พึงพอใจกับงานที่ทำและในวันแรกเธอไม่ได้กดดันหรืออึดอัดอะไรเลยดูแล้วงานนี้ก็เหมาะกับเธอด้วยซ้ำแม้รายได้เพียงเป็นค่าอาหารและค่าเดินทางในแต่ละวันซึ่งก็เพียงพอสำหรับเธอในช่วงนี้และใช้เวลาเพียงสามชั่วโมงก็เสร็จงานของเธอในวันนี้เย็นนี้เธอได้นัดกับแซมไว้ให้มาเจอกันที่หน้าร้านขนมหวานหลังจากเธอเสร็จงาน อีฟยืนก้มหน้าพิมพ์ข้อความบนมือถือถึงชายหนุ่มที่นัดแล้วเขาก็มาตรงเวลาเป๊ะ“Hi,sam” ทั้งสองสวมกอดทักทายด้วยความคิดถึง “Shall we go? ” (เราไปกันเลยไหม) แซมตั้งใจไว้ว่าจะแวะดูคอมพิวเตอร์เพื่อไว้ใช้สำหรับธุรกิจของเขาที่กำลังจะเปิดเร็วๆนี้แต่นั่น
ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-18