แชร์

บทที่30.แสงแห่งคำอธิษฐาน

ผู้เขียน: Luna of The Sea
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-10 17:25:44

ยามหัวค่ำในห้องพักฟื้น อากาศเย็นจากเครื่องปรับอากาศแผ่ซ่านลึกเข้าไปถึงกระดูก  ฮันน่า นอนนิ่งอยู่บนเตียง แม้ร่างกายยังคงเจ็บปวดจากบาดแผลที่ยังไม่หายดี แต่ถึงกระนั้นความเจ็บปวดจากร่างกายนั้นเทียบไม่ได้เลยกับสิ่งที่กัดกินเธออยู่ภายในความกลัว ที่เหมือนเงาดำซึ่งคืบคลานเข้ามารัดแน่นจนหายใจแทบไม่ออก

เธอรู้ดีว่าการหนีจาก ลินลี่ ไม่ใช่เรื่องง่าย... ไม่สิ มันเป็นไปไม่ได้เลย เพราะที่นี่ไม่ใช่ที่สำหรับคนอย่างเธอ นี่คือเมืองที่ลินลี่ครอบครองทุกสิ่งหญิงผู้มีอิทธิพล ผู้ทรงพลังยิ่งกว่ากฎหมายและความยุติธรรม ไม่มีมุมใดของเมืองนี้ที่จะหลบพ้นสายตาของเธอได้

หัวใจของฮันน่าเต้นแรงในอก ดวงตาจ้องมองเงาตรงประตูหน้าห้องที่ดูเหมือนจะขยับเคลื่อนไหวตามเสียงฝีเท้าในจินตนาการของเธอ ทุกวินาทีราวกับกำลังรอคอยหายนะที่จะมาถึงโดยไม่มีวันเลี่ยงได้

เธอไม่ได้หวังปาฏิหาริย์อีกต่อไป... ในเมืองของลินลี่ คนที่หนีไปได้ มีเพียงเงา หรือซากศพ

ตึก... ตึก...ตึก

เสียงรองเท้าส้นสูงดังสะท้อนก้องมาตามทางเดินยาวนอกห้อง ทุกก้าวการเดินนั้นราวกับกำลังย้ำเตือนถึงชะตากรรมที่กำลังจะมาถึง

ทุกก้าว ยิ่งกระชั้นชิด เสมือนเสียงของนาฬิกาเรือนใหญ่ที่นับถอยหลัง  หัวใจของฮันน่าเต้นโครมคราม สัมผัสได้ถึงแรงบีบอัดที่ใกล้ระเบิด เธอพยายามลุกขึ้นแต่ทว่าความเจ็บปวดจากบาดแผลทำให้ร่างกายทรยศความตั้งใจ ไปให้ไกลจากที่นี่ ไปให้พ้นจากเงามืดนั้น เป็นเพียงความคิดที่ไร้หนทางสู่ความจริง ณ เวลานี้ ฮันน่า สบถขึ้นมาเบาๆด้วยความขุ่นเคืองตัวเองเล็กน้อย

“แมร่ง เอ้ย”  

ทันใดนั้นเสียงเสียงรองเท้า ก็หยุดลงที่หน้าประตู ฮันน่าหันสายตา มอง ทันทีเมื่อเวลามาถึง แล้วอุทานในลำคอ

ลินลี่”  เธอสวมชุดเดรสสีดำสนิทที่ตัดกับผิวขาว สวมเสื้อโค้ทยาวที่พลิ้วไหวตามการเคลื่อนไหว ดวงตาคมกริบ จ้องมายังฮันน่าไม่ลดละ ราวกับนักล่าจ้องเหยื่อ ที่กำลังจนมุม

ลินลี่เดินเข้ามาอย่างเงียบเชียบ ทว่าทุกย่างก้าวกลับเปี่ยมด้วยอำนาจ ขณะรอยยิ้มบางปรากฏบนใบหน้า รอยยิ้มที่ทำให้อากาศรอบตัวเย็นลงราวกับน้ำแข็งแผ่ขยายจากจุดที่เธอยืนอยู่

“ฉันบอกแล้ว... ฮันน่า” ลินลี่เอ่ยเสียงแผ่ว นุ่มนวลแต่เย็นเยียบ ราวกับใบมีดบางคมกริบที่กรีดผิวโดยไม่ทันตั้งตัว

“ว่าเธอหนีฉันไม่พ้นหรอก”

“ดูสภาพเธอสิ ฮันน่า…” เธอหัวเราะในลำคอ เสียงหัวเราะที่แผ่วเบาแต่กลับทำให้หัวใจของฮันน่ากระตุกวูบ

“คิดจริงๆ เหรอว่าเธอจะหนีฉันได้?”

ฮันน่าตัวแข็งทื่อ ร่างกายไร้เรี่ยวแรงที่จะลุกหนี หัวใจเต้นแรงจนแทบระเบิด เธอพยายามขยับตัวหนีไปชิดหัวเตียง แต่ขาทั้งสองข้างเหมือนถูกตรึงไว้ ลมหายใจเริ่มติดขัด ความหวาดกลัวโอบรัดเธอไว้ทุกทิศทาง

ลินลี่ก้าวเข้ามาใกล้ เสียงส้นรองเท้ากระทบพื้นดังก้องกังวานในความเงียบ

“เธอ ต้องการอะไร ลินลี่” ฮันน่าเอ่ยด้คืนนั้น ฮันน่าจมอยู่ในความคิดวนเวียน ทางเดียวที่เธอจะรอดพ้นจากเงื้อมมือของลินลี่ได้คือหนีไปให้ไกลจากที่นี่ให้เร็วที่สุด หนีจากอดีตและสิ่งที่ตามหลอกหลอน แต่มันไม่ง่ายเลย  แต่ด้วยฤทธิ์ยา เธอสลบไป

วยน้ำเสียงที่หวาดหวั่นต่ออำนาจมืดของลินลี่

“เธอทำให้ฉันเสียหาย ทำให้งานของฉันพัง… คิดเหรอว่าจะปล่อยให้มันจบง่ายๆ แบบนี้?” ลินลี่โน้มตัวลง จ้องมองลึกเข้าไปในดวงตาของฮันน่า เสียงของเธอแผ่วเบา แต่เต็มไปด้วยอำนาจ

“ฉันให้โอกาสเธอแล้ว แต่เธอเลือกผิดเอง”

ปลายนิ้วของลินลี่แตะเบาๆ บนคางของฮันน่า ยกมันขึ้นให้สบตากับเธอโดยตรง น้ำเสียงอ่อนโยนแต่แฝงไปด้วยอันตราย

“เธอต้องชดใช้ ฮันน่า…”ลินลี่ก้าวเข้ามาใกล้อีกนิด ปลายนิ้วแตะลงบนผ้าห่ม ที่คลุมร่างฮันน่าเบาๆ ก่อนจะลูบไล้มันอย่างแผ่วเบา ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความเย็นชา

“ไม่มีใครหนีความผิดได้... โดยไม่ต้องจ่ายราคา” เธอเอ่ยช้าๆ เน้นย้ำทุกคำ ก่อนโน้มตัวเข้าใกล้ฮันน่าน่าเพียงไม่กี่นิ้ว ลมหายใจของเธออาบไล้ด้วยอำนาจและการคุกคาม

“และเธอจะต้องจ่ายคืนทุกอย่าง”

ฮันน่าหายใจสะดุด หัวใจเต้นกระหน่ำราวกับระเบิดเวลา เธอรับรู้ได้ว่าความสิ้นหวังได้ครอบคลุมทุกอย่างแล้ว ไม่มีทางหนี ไม่มีทางรอดอีกต่อไป

ทันใดนั้น เสียงประตูเปิดออก พยาบาลสาวก้าวเข้ามา รอยยิ้มอ่อนโยนประดับบนใบหน้า ราวกับแสงสว่างเดียวในห้องที่เต็มไปด้วยความเย็นเยือก

“สวัสดีค่ะ” พยาบาลทักเบาๆ พร้อมเดินตรงมาที่เตียง “ให้คนไข้ได้ทานยาและพักผ่อนนะคะ คุณผู้หญิง”

ลินลี่หันไปมองพยาบาล ปรับสีหน้าให้กลับมาเป็นปกติในพริบตา เธอยกยิ้มอย่างนุ่มนวล—ยิ้มที่ซ่อนความอำมหิตอะไรไว้เบื้องหลัง

“เสร็จแล้วค่ะ” ลินลี่ตอบเรียบง่าย ก่อนจะหมุนตัวออกไป ปล่อยรอยยิ้มเย้ยหยันกับสายตาเชือดเฉือนให้ฮันน่าเป็นของขวัญชิ้นสุดท้าย

เมื่อประตูปิดลง ความกดดันในห้องก็คลายตัวลง แต่ภายในจิตใจกลับปั่นป่วนไม่หยุด เธอรู้ดีว่า ลินลี่จะกลับมา และครั้งต่อไปอาจไม่มีใครเข้ามาช่วยเธออีกแล้ว

คืนนั้น ฮันน่าจมอยู่ในความคิดวนเวียน ราวกับเกลียวคลื่นโหมกระหน่ำในจิตใจ ทางเดียวที่เธอจะรอดพ้นจากเงื้อมมือของลินลี่ได้ คือหนีไปให้ไกลที่สุด หนีจากเงามืดที่ไม่มีวันปล่อยเธอให้เป็นอิสระ

ความคิดของเธอยิ่งทบทวน ยิ่งหนักหน่วง จนร่างกายที่อ่อนล้าทนไม่ไหว... ฤทธิ์ยาค่อยๆ กล่อมให้เธอสลบไป ดวงตาที่เคยเบิกโพลงค่อยๆ ปิดลง โลกทั้งใบมืดสนิท ทิ้งเธอไว้ในห้วงฝันอันลึกสุด

แต่ในความมืดนั้น... ภาพหนึ่งปรากฏขึ้น

ต้นไม้ใหญ่...กลางไร่สวน.. แสงแดดอ่อนๆ สาดลงมาบนดวงหน้าไร้เดียงสาของเด็กหญิงตัวน้อย

เธอนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ สายลมอ่อนพัดผ่านใบไม้จนเกิดเสียงแผ่วเบา ราวกับกำลังปลอบประโลม ดวงตาเล็กๆ ของเด็กหญิงจ้องมองท้องฟ้าสีคราม มือเล็กทั้งสองประสานกันแน่น ขณะที่เธอกำลังพึมพำคำอธิษฐาน  ปลายฟ้าส่องแสงสว่างจ้า แสงสีขาวค่อยๆ แผ่กว้างออกไปจนกลืนท้องฟ้า เสียงอ่อนโยนแว่วมาไกลๆ แทรกเข้ามาในความเงียบ

“ฮันน่า... ฮันน่า...”

เสียงนั้นค่อยๆ ชัดเจนขึ้นในหูของเธอ ฮันน่าพยายามขยับเปลือกตาอย่างเชื่องช้า ภาพเลือนรางตรงหน้าค่อยๆ ปรากฏชัดขึ้นเรื่อยๆ จนโลกแห่งความจริงเริ่มคืนกลับมาอีกครั้ง...

อาดัม ชายหนุ่มผู้มีดวงตาอ่อนโยน กำลังยืนอยู่ข้างเตียง เขาโน้มตัวลงเล็กน้อย สายตาเต็มไปด้วยความห่วงใยและข้างกายเขา คุณหมอเจ้าของไข้ยืนอย่างผ่อนคลาย

คุณ ตื่นแล้วนะครับ !” หมอพูดพร้อมรอยยิ้มบางๆ “อาการของคุณดีขึ้นตามลำดับแล้วนะครับ ตอนนี้คุณสามารถกลับไปพักฟื้นร่างกายที่บ้านได้แล้วครับ แต่ต้องมาพบแพทย์ตามนัด อีกไม่นานคุณก็จะกลับไปเดินได้อีกครั้ง… แต่ต้องใช้ไม้เท้าพยุงช่วงแรก สู้ๆ นะครับ”

ฮันน่ามองทั้งสองคนอย่างเงียบๆ แม้คำพูดเหล่านั้นจะฟังดูปลอบโยน แต่ลึกลงไป เธอกลับรู้สึกว่างเปล่า เพราะความจริงที่หลอกหลอนเธอมาตลอดยังไม่หายไปไหน

เธอไม่มีบ้านให้กลับ ไม่มีที่ไหนรอคอย ไม่มีใครที่จะคอยดูแล

และที่สำคัญที่สุด... ลินลี่ไม่เคยปล่อยให้เหยื่อหนีรอด

แม้เธอจะปลอดภัยในวันนี้ แต่ในหัวของฮันน่ารู้ดีว่า เธอต้องหาทางหลบหนีอีกครั้ง 

บทที่เกี่ยวข้อง

  • 42 คำอธิษฐานบนถนนหลากสี (42 Prayers on the Rainbow Road)   บทที่31.มือนำทาง

    ท้องฟ้ายามค่ำคืนเงียบสงบ มีเพียงเสียงลมพัดแผ่วเบาลอดผ่านหน้าต่างห้องของอาดัม เขายืนถือโทรศัพท์ไว้แนบหู ปลายสายนั้นคือวิน เพื่อนสนิทที่โทรมาจากต่างแดน เพราะหลังจากเหตุการ์ณ์ที่เกาะทองคำวันนั้นวินได้บินกลับไปอย่างกระทันหัน "นายแน่ใจเหรอ...อาดัม?" เสียงของวินชัดเจนผ่านใบหูของอาดัมในขณะที่ทั้งสองได้คุยกันมาได้สักพักแล้วจนมาถึงช่วงสุดท้ายก่อนจะวางสายลง “แน่ใจสิ…”อาดัมตอบกลับด้วยความมั่นใจขณะที่ดวงตาคมกริบของเขาฉายแววความแน่วแน่มั่นคง ถึงแม้เขาจะรู้จักเธอแค่เพียงหนึ่งสัปดาห์ก็ตาม แต่บางอย่างในตัวเธอทำให้เขาตัดสินใจได้โดยไม่ลังเล เมื่อวินได้ยินคำตอบที่ราวกลั่นออกมาจากหัวใจของอาดัมแล้ว เขาก็เอ่ยด้วยด้วยน้ำเสียงแห่งความยินดี “เมื่อนายมั่นใจและเชื่อมั่นแล้ว ฉันก็เชื่อในตัวนายเช่นกันว่านายนั้นทำได้ดี” วินตอบกลับแล้วหันมองดูเวลาบนข้อมือที่ใกล้เข้ากะทำงานไปทุกที“ ไว้คุยกันใหม่ ฉันต้องเข้าทำงานแล้ว ขอพระเจ้าอวยพร นายกับฮันน่า นะ" “ขอบใจมากเพื่อน ..วิน! แล้วเจอกัน ” .. ตุ๊ด.. ตุ๊ด.. ตุ๊ด..………….เมื่อวางสายไปแล้ว อาดัมถอนหายใจออกมาช้าๆ พลางเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้ายามราตรี แสงดาวระยิบระยับสะท้อ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-19
  • 42 คำอธิษฐานบนถนนหลากสี (42 Prayers on the Rainbow Road)   บทที่ 1.โลกที่ไม่ใจดีกับฮันน่า

    ปี 1985 “ฮันน่า..ฮันน่า!”เสียงผู้หญิงคนหนึ่งตะโกนเรียกชื่อเด็กน้อยดังลอยมาจากในบ้านแต่ฮันน่ายังคงก้มหน้าก้มตาเล่นของเล่นอยู่บนพื้นดินหน้าบ้านอย่างไม่สนใจ ใบหน้าเล็กๆ ของเธอเต็มไปด้วยความสุขและจินตนาการที่ไร้ขอบเขตในโลกส่วนตัวของเธอเองตามประสาเด็กอายุ 4 ปี เดือน ลูกพี่ลูกน้องที่อายุมากกว่าฮันน่าหลายปีปลุกเธอจากความสนุกเล็กๆ น้อยๆ นั้น "ฮันน่า แม่เรียกแล้วนะ" ฮันน่าหันไปมองยังไม่ทันขานรับเสียงใดๆ ทันใด หญิงสาวคนหนึ่งเดินตรงมาด้วยท่าทางมั่นใจอายุราว 20 ปีแต่งตัวด้วยเสื้อตัวใหม่สีสดใส ชายเสื้อถูกเก็บเข้าในกางเกงยีนเอวสูงอย่างเนี้ยบ ริมปากเคลือบลิปสติกสีแดงสดใบหน้าของเธอเรียบเฉยจนแทบจะไร้อารมณ์ ท่าทางของเธอดูเคร่งขรึมและจริงจัง และนั่นก็คือ จูเลีย แม่ของฮันน่า “ไปกันได้แล้วนะ ฮันน่า ไหนชิ้นไหนของลูก เอาไปเล่นที่นู่นด้วยนะ”จูเลีย พูดพลางหยิบของเล่นที่ฮันน่าถืออยู่ในมือเก็บใส่ลงกระเป๋าข้างในนั้นเต็มไปด้วยเสื้อผ้าของลูกสาวที่พับอย่างระมัดระวังแล้ว เธอจูงมือเล็กๆ ของลูกสาวออกไปด้วยสายตาเย็นชา "แต๊ก... แต๊ก... แต๊ก..." เสียงมอไซค์คันเก่า เสียงนั้นดังสนั่นเหมือนเสียงคำรามที่แทรกผ่านความเง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-17
  • 42 คำอธิษฐานบนถนนหลากสี (42 Prayers on the Rainbow Road)   บทที่2.เสียงปลอบโยน

    เมื่อฤดูทำไร่ทำสวนได้ผ่านพ้นไป ความวุ่นวายจากการเก็บเกี่ยวก็ทุเลาลง แต่สำหรับฮันน่า งานยังไม่จบเพียงเท่านั้น วันหยุดของเธอยังคงเต็มไปด้วยงานรับจ้างเล็กๆ น้อยๆ ทุกบาททุกสตางค์ที่ได้มาถูกเก็บหอมรอมริบเพื่อค่าใช้จ่ายในการไปโรงเรียนแต่ในบางวันเสาร์อาทิตย์ที่งานไม่หนักจนเกินไป ฮันน่าก็พอจะมีช่วงเวลาที่ได้ผ่อนคลายบ้าง ช่วงเวลานั้น เธอจะได้นั่งดูรายการโทรทัศน์ในห้องนั่งเล่นเล็กๆ ของบ้าน ความสุขเล็กๆ นี้คือช่วงเวลาที่ฮันน่าได้หลบหนีจากโลกแห่งความรับผิดชอบและความกดดัน เธอจะดูโทรทัศน์ด้วยสายตาเปล่งประกาย ไม่ว่าจะเป็นรายการเกี่ยวกับการ์ตูน นิทาน หรือเรื่องราวจากต่างแดนที่เธอไม่เคยสัมผัส มันทำให้เธอได้เปิดโลกในจินตนาการของเด็กบ้านนอกคนหนึ่งที่ยังคงมีความฝันและความหวังเล็กๆ ซ่อนอยู่ในใจ วันหยุดสัปดาห์ก็มาถึงอีกครั้งวันนี้เป็นวันที่ไม่มีงานจิปาถะใดๆ ที่ต้องทำ ฮันน่ารู้สึกดีใจที่วันนี้เธอได้มีเวลาว่างเป็นของตัวเอง เธอได้นั่งลงอย่างสบายใจบนพื้นไม้เย็นๆ ในห้องนั่งเล่นเล็กๆ โทรทัศน์เก่าเครื่องนั้นที่ตั้งอยู่ตรงมุมห้อง ฮันน่านั่งอยู่หน้าจอโทรทัศน์เก่าๆ มือเล็กๆ ของเธอค่อยๆ หมุนปุ่มปรับช่องไปทีละนิด

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-18
  • 42 คำอธิษฐานบนถนนหลากสี (42 Prayers on the Rainbow Road)   บทที่3.เพื่อนคนหนึ่งที่ห่วงใย

    ในโลกส่วนตัวที่ฮันน่าสร้างขึ้นทุกอย่างเต็มไปด้วยสีสันและจินตนาการอันไร้ขอบเขต โลกใบนี้คือที่ที่เธอได้หลบหนีจากความเหนื่อยล้าและความโดดเดี่ยวในชีวิตจริง ความสุขเล็กๆ ที่เธอเฝ้ารอทุกสัปดาห์คือรายการ “เพื่อนของเด็กๆ”ที่ออกอากาศช่วงบ่ายของทุกเสาร์และอาทิตย์ซึ่งก็ทำให้เธอว่างจากการทำงานในบ้านตอนเช้าแล้วก็ตั้งตารอราวกับเป็นช่วงเวลาที่พิเศษของเธอ รายได้เล็กๆ น้อยๆ จากการรับจ้างที่เธอเก็บหอมรอมริบสำหรับไว้เป็นค่าขนมไปโรงเรียนแต่ก็เพียงพอที่จะให้เธอได้ทำสิ่งหนึ่งที่เธอตั้งใจเธอยอมที่จะอดกินขนมเพื่อใช้เงินที่เก็บไว้ซื้อตราไปรษณียากรและซองจดหมายที่เธอตั้งใจเขียนจ่าหน้าซองถึงตัวเองตามผู้ดำเนินรายการได้แนะนำเพื่อให้ทางรายการจะได้ส่งของขวัญให้กับเด็กๆ ทุกคน ซองเอกสารสีน้ำตาลที่มาพร้อมกับอากรแสตมป์สีสันสดใสถูกส่งมาถึงมือฮันน่า เธอจับมันด้วยมือเล็กๆ ที่สั่นเล็กน้อยจากความตื่นเต้น สายตาจดจ่ออยู่ที่ชื่อของเธอที่เขียนด้วยลายมือบรรจงบนมุมซอง นั่นคือลายมือของเธอเอง... ดวงตากลมโตจับจ้องไปที่ภายใน จนในที่สุด... สิ่งที่เธอเฝ้ารอคอยก็ปรากฏออกมา ภาพนิทานแสนงดงามพร้อมสมุดระบายสีเล่มเล็กๆ ที่มีเรื่องราวเกี่ยว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-18
  • 42 คำอธิษฐานบนถนนหลากสี (42 Prayers on the Rainbow Road)   บทที่4.ปลาน้อยในลำคลอง

    7 ปีผ่านไป…ฮันน่าโตเป็นสาวน้อยวัยรุ่นที่มีชีวิตเรียบง่ายในชนบท เธอใช้วันหยุดเสาร์อาทิตย์ช่วยปู่ย่าทำไร่ไถนาตามประสาคนในครอบครัวที่หาเช้ากินค่ำ แต่เมื่อกลับมาบ้าน เธอมักจะแอบหลบอยู่ในห้องนอนเล็กๆ ของตัวเอง โลกส่วนตัวที่เธอสร้างขึ้นยังคงเต็มไปด้วยการขีดเขียนนิยายน้ำเน่าเล่มแล้วเล่มเล่าลงบนสมุดเก่าๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวของเจ้าชาย เจ้าหญิง หรือชีวิตแสนสุขที่เธอจินตนาการขึ้นเพื่อหลีกหนีจากความเหงาและความโดดเดี่ยวที่เกาะกินใจในห้องเล็กๆ นั้น เธอรู้สึกเหมือนได้ปลดปล่อยตัวเองจากโลกภายนอก มีเพียงแต่เสียงดินสอขูดขีดบนกระดาษและเรื่องราวในหัวของเธอคือสิ่งเดียวที่ทำให้วันเวลาผ่านไปอย่างมีความหมายแต่แล้ว เสียงของหญิงชราก็ดังขึ้นจากหน้าประตูห้อง "ฮันน่า ได้เวลาออกจากห้องแล้วนะ" เสียงนั้นเข้มงวด เรียกให้เธอออกมาจากโลกส่วนตัว เสียงฝีเท้าของหญิงชราดังชัดเจนขึ้นเมื่อเธอเดินมาเคาะประตูซ้ำฮันน่าเงยหน้าขึ้นจากสมุดที่เธอกำลังเขียน นิ้วเล็กๆ ของเธอยังคงจับดินสอแน่น เธอถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะวางมันลงบนโต๊ะไม้เก่าที่เต็มไปด้วยรอยขูดขีด เธอเดินออกมาพร้อมกับเสื้อผ้าเก่าๆ ที่มีกลิ่นอายของบ้านไร่ติดตัว"ไปหาปูหาป

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-18
  • 42 คำอธิษฐานบนถนนหลากสี (42 Prayers on the Rainbow Road)    บทที่5.คำพิพากษาในห้องสี่เหลี่ยม

    แล้ววันนี้ก็มาถึงครูใหญ่ผู้เข้มงวดนั่งประจำโต๊ะในห้องปกครอง ใบหน้าดุดันและสายตาเย็นชา จับจ้องไปที่ฮันน่า ราวกับทุกคำพูดเป็นคำพิพากษา"เราจะไม่สามารถเก็บเธอไว้ในระบบทุนได้อีกต่อไป" ครูใหญ่พูดเสียงหนักแน่น "การไม่ปฏิบัติตามกฎและความประพฤติที่ไม่เหมาะสมไม่เป็นที่ยอมรับ เธอต้องเข้าใจว่าสิ่งนี้ไม่ใช่แค่เรื่องส่วนตัว แต่เกี่ยวข้องกับภาพลักษณ์ของโรงเรียน"ฮันน่าก้มหน้าลง น้ำตาไหลเงียบๆ ลงบนมือที่วางอยู่บนตัก เสียงของครูใหญ่ที่กล่าวคำตัดสินดังก้องในหูของเธอ ราวกับเสียงฟ้าผ่าที่ทำลายทุกความหวังในใจลงในพริบตา "เราจะไม่สามารถอนุญาตให้ฮันน่าเรียนต่อได้อีก..." คำพูดนั้นจบลง แต่ความหนักหนาของมันยังคงกดทับเธอไว้เธอพยายามจะกลั้นน้ำตา แต่ความเสียใจที่ท่วมท้นเกินจะทนก็ทำให้ไหลพรั่งพรูออกมา ใบหน้าของเธอก้มต่ำ มองเห็นเพียงเงาของตัวเองที่สะท้อนกับพื้นห้อง เงานั้นดูสั่นไหวและพร่าเลือนราวกับสะท้อนถึงหัวใจที่แตกสลาย ความผิดหวังที่ถาโถมเข้ามาซ้ำแล้วซ้ำเล่าเหมือนคลื่นลูกใหญ่ เธอไม่รู้ว่าจะลุกขึ้นจากความรู้สึกนี้ได้อย่างไร เสียงสะอื้นที่เธอพยายามกลั้นไว้กลับหลุดออกมาเป็นระยะ ความรู้สึกอับอาย ผิดหวัง และเสียใจ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-18
  • 42 คำอธิษฐานบนถนนหลากสี (42 Prayers on the Rainbow Road)   บทที่6.หนุ่มน้อยแววตาซื่อ

    ณ.จังหวัดหนึ่งทางภาคอีสาน บรรยากาศยามเช้าของหมู่บ้านเงียบสงบ เสียงไก่ขันคลอไปกับเสียงพูดคุยในตลาดเล็กๆ ที่ผู้คนมารวมตัวกันจับจ่ายใช้สอยกันตามปกติ แต่ในวันนี้ มีภาพที่แตกต่างออกไป ชายหนุ่มสูงยาวคนหนึ่ง ใบหน้ามีแววตาใสซื่อ แต่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น เขาคือ อาดัม หนุ่มน้อยลูกครึ่งที่พูดไทยไม่ชัดนัก มือข้างหนึ่งถือหนังสือพระธรรม ขณะที่อีกข้างหนึ่งโบกเรียกความสนใจจากผู้คน“คุณ...อยากขึ้นสวรรค์ไหม? พูดตามผม...”อาดัม หนุ่มน้อยใบหน้าสดใสที่สะท้อนความมุ่งมั่น ยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชน น้ำเสียงของเขาแฝงความกระตือรือร้น แม้จะติดสำเนียงแปลกๆ แต่ความจริงใจที่แสดงออกทางแววตาและน้ำเสียงของเขา ก็เพียงพอที่จะทำให้ผู้คนบางคนหยุดเดิน และเริ่มมองไปที่เขาด้วยความสนใจ“พูดตามผมครับ...” เขากล่าวต่อ พลางหยิบหนังสือเล่มเล็กๆ ออกมาจากกระเป๋า “บนโลกนี้ เราอาจมีทั้งความสุขและความทุกข์ แต่บนสวรรค์ จะมีแต่ความสุขที่สมบูรณ์แบบ...”ผู้คนเริ่มรุมล้อมรอบตัวเขา บางคนยิ้มอย่างอ่อนโยน บางคนมองด้วยความสงสัย แต่ไม่มีใครเดินหนีไปไกล อาดัมไม่ใช่เพียงแค่พูด แต่แววตาและท่าทางของเขาบอกชัดว่าเขาเชื่อมั่นในสิ่งที่เขากำลังสื่อสาร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-18
  • 42 คำอธิษฐานบนถนนหลากสี (42 Prayers on the Rainbow Road)   บทที่7.ความฝัน

    กลางกรุงที่พลุกพล่าน ท้องฟ้าสีครามถูกขับเน้นด้วยเส้นขอบฟ้าของตึกสูงรายรอบเสียงรถยนต์และฝูงชนที่เดินขวักไขว่สร้างบรรยากาศที่เต็มไปด้วยพลังของเมืองหลวง ใจกลางความวุ่นวาย สองพ่อลูกยืนอยู่ริมฟุตาบาธในเสื้อผ้าที่เรียบง่าย ฝุ่นจับรองเท้าสะพายกีต้าร์คู่ใจข้างหลัง ดวงตาของอาดัมเปี่ยมไปด้วยความหวัง ลึกซึ้งและสุกใส ราวกับแสงประกายเล็กๆ ที่ส่องผ่านม่านเมฆหมอกแต่เขามองตรงไปข้างหน้าอย่างแน่วแน่ ตึกกระจกสูงระฟ้าที่สะท้อนแสงแดดยามบ่ายดูเหมือนจะเป็นมากกว่าอาคารมันเป็นเป้าหมาย เป็นปลายทางของความฝันที่เขาและพ่อร่วมกันสร้าง ดวงตาคู่นั้นไม่เพียงสะท้อนภาพความทะเยอทะยาน แต่ยังแฝงไว้ด้วยความเชื่อมั่นในพลังของเสียงเพลงและอนาคตที่ยังไม่ถูกกำหนด อาดัมและพ่อก้าวเข้าไปในตึกสูงตระหง่าน ประตูอัตโนมัติเปิดออก ล็อบบี้กว้างขวางที่ปูด้วยหินอ่อนเงาวับ แสงไฟนีออนสาดส่องให้ทุกอย่างดูหรูหราและเต็มไปด้วยความน่าเกรงขาม เสียงรองเท้าของพวกเขากระทบพื้นดังกังวานในพื้นที่ที่ดูจะกว้างใหญ่เกินกว่าที่คุ้นเคย อาดัมเหลือบมองรอบตัวด้วยความตื่นเต้น ขณะที่พ่อมองตรงไปยังแผงปุ่มเรียกลิฟต์ ด้วยใบหน้าที่แฝงความมุ่งมั่นเมื่อประตูลิฟต์เปิ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-19

บทล่าสุด

  • 42 คำอธิษฐานบนถนนหลากสี (42 Prayers on the Rainbow Road)   บทที่31.มือนำทาง

    ท้องฟ้ายามค่ำคืนเงียบสงบ มีเพียงเสียงลมพัดแผ่วเบาลอดผ่านหน้าต่างห้องของอาดัม เขายืนถือโทรศัพท์ไว้แนบหู ปลายสายนั้นคือวิน เพื่อนสนิทที่โทรมาจากต่างแดน เพราะหลังจากเหตุการ์ณ์ที่เกาะทองคำวันนั้นวินได้บินกลับไปอย่างกระทันหัน "นายแน่ใจเหรอ...อาดัม?" เสียงของวินชัดเจนผ่านใบหูของอาดัมในขณะที่ทั้งสองได้คุยกันมาได้สักพักแล้วจนมาถึงช่วงสุดท้ายก่อนจะวางสายลง “แน่ใจสิ…”อาดัมตอบกลับด้วยความมั่นใจขณะที่ดวงตาคมกริบของเขาฉายแววความแน่วแน่มั่นคง ถึงแม้เขาจะรู้จักเธอแค่เพียงหนึ่งสัปดาห์ก็ตาม แต่บางอย่างในตัวเธอทำให้เขาตัดสินใจได้โดยไม่ลังเล เมื่อวินได้ยินคำตอบที่ราวกลั่นออกมาจากหัวใจของอาดัมแล้ว เขาก็เอ่ยด้วยด้วยน้ำเสียงแห่งความยินดี “เมื่อนายมั่นใจและเชื่อมั่นแล้ว ฉันก็เชื่อในตัวนายเช่นกันว่านายนั้นทำได้ดี” วินตอบกลับแล้วหันมองดูเวลาบนข้อมือที่ใกล้เข้ากะทำงานไปทุกที“ ไว้คุยกันใหม่ ฉันต้องเข้าทำงานแล้ว ขอพระเจ้าอวยพร นายกับฮันน่า นะ" “ขอบใจมากเพื่อน ..วิน! แล้วเจอกัน ” .. ตุ๊ด.. ตุ๊ด.. ตุ๊ด..………….เมื่อวางสายไปแล้ว อาดัมถอนหายใจออกมาช้าๆ พลางเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้ายามราตรี แสงดาวระยิบระยับสะท้อ

  • 42 คำอธิษฐานบนถนนหลากสี (42 Prayers on the Rainbow Road)   บทที่30.แสงแห่งคำอธิษฐาน

    ยามหัวค่ำในห้องพักฟื้น อากาศเย็นจากเครื่องปรับอากาศแผ่ซ่านลึกเข้าไปถึงกระดูก ฮันน่า นอนนิ่งอยู่บนเตียง แม้ร่างกายยังคงเจ็บปวดจากบาดแผลที่ยังไม่หายดี แต่ถึงกระนั้นความเจ็บปวดจากร่างกายนั้นเทียบไม่ได้เลยกับสิ่งที่กัดกินเธออยู่ภายในความกลัว ที่เหมือนเงาดำซึ่งคืบคลานเข้ามารัดแน่นจนหายใจแทบไม่ออกเธอรู้ดีว่าการหนีจาก ลินลี่ ไม่ใช่เรื่องง่าย... ไม่สิ มันเป็นไปไม่ได้เลย เพราะที่นี่ไม่ใช่ที่สำหรับคนอย่างเธอ นี่คือเมืองที่ลินลี่ครอบครองทุกสิ่งหญิงผู้มีอิทธิพล ผู้ทรงพลังยิ่งกว่ากฎหมายและความยุติธรรม ไม่มีมุมใดของเมืองนี้ที่จะหลบพ้นสายตาของเธอได้หัวใจของฮันน่าเต้นแรงในอก ดวงตาจ้องมองเงาตรงประตูหน้าห้องที่ดูเหมือนจะขยับเคลื่อนไหวตามเสียงฝีเท้าในจินตนาการของเธอ ทุกวินาทีราวกับกำลังรอคอยหายนะที่จะมาถึงโดยไม่มีวันเลี่ยงได้เธอไม่ได้หวังปาฏิหาริย์อีกต่อไป... ในเมืองของลินลี่ คนที่หนีไปได้ มีเพียงเงา หรือซากศพตึก... ตึก...ตึกเสียงรองเท้าส้นสูงดังสะท้อนก้องมาตามทางเดินยาวนอกห้อง ทุกก้าวการเดินนั้นราวกับกำลังย้ำเตือนถึงชะตากรรมที่กำลังจะมาถึง ทุกก้าว ยิ่งกระชั้นชิด เสมือนเสียงของนาฬิกาเรือนใหญ่ที่น

  • 42 คำอธิษฐานบนถนนหลากสี (42 Prayers on the Rainbow Road)   บทที่29..เคียงข้าง...แม้วันอ่อนแอ

    ภายในห้องพักฟื้นของโรงพยาบาล บรรยากาศเงียบงัน แสงไฟนวลตาส่องกระทบผนังสีขาวสะอาดตา ทว่ากลับให้ความรู้สึกโดดเดี่ยว อากาศอบอวลด้วยกลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อเจือจาง เตียงคนไข้ถูกจัดไว้อย่างเป็นระเบียบ ม่านสีขาวกั้นเป็นสัดส่วน อาดัมก้าวเข้ามาอย่างช้าๆสายตาของเขามองไปยังหญิงสาวที่นอนนิ่งอยู่บนเตียง ผ้าพันแผลสีขาวพันรอบศีรษะของเธอ และขาของเธอถูกดามไว้อย่างแน่นหนา ร่องรอยบาดแผลและรอยฟกช้ำปรากฏให้เห็นบนผิวกายซีดเซียว ร่างกายของเธอดูเปราะบางราวกับอาจแตกสลายได้ทุกเมื่อ เสียงลมหายใจแผ่วเบาของเธอยืนยันว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ แต่ก็เป็นชีวิตที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด อาดัมรู้สึกเหมือนมีก้อนหินหนักๆ กดทับอยู่ในอก ราวกับแบกรับความรู้สึกผิดที่มองไม่เห็น เขายืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่งแล้วถอนหายใจเบาๆ สายตาไล่มองไปตามร่างของเธอ พลางครุ่นคิดถึงเหตุการณ์ที่ทำให้เธอต้องเจ็บหนักขนาดนี้ เขารู้ว่าเธอรอดมาได้ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเธอจะผ่านมันไปได้โดยง่าย เสียงฝีเท้าของเขาเบาลงขณะก้าวถอยหลัง สุดท้ายอาดัมเลือกจะหมุนตัวเดินออกจากห้องแม้ความกังวลยังคงฝังแน่นอยู่ในใจ... เขาตรงกลับมาบ้านที่อบอุ่นเสียงฝีเท้าดังก้องทั่วห้องโถ่งทางเด

  • 42 คำอธิษฐานบนถนนหลากสี (42 Prayers on the Rainbow Road)   บทที่28.เงาแห่งโชคชะตา

    กลางมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ เรือสปีดโบ๊ทแล่นตัดผ่านเกลียวคลื่นอย่างรวดเร็ว เสียงเครื่องยนต์คำรามกลบความเงียบของท้องฟ้ายามเย็นที่กำลังมืดลง อาดัมนั่งเงียบอยู่ข้างฮันน่า ดวงตาของเขามองไปยังใบหน้าของฮันน่าที่เปื้อนไปด้วยเลือด เธอดูอ่อนล้าและไร้เรี่ยวแรงและในแววตาของเธอนั้นช่างเต็มไปด้วยความเจ็บปวด“คุณ…เข้มแข็งไว้นะ” อาดัมเอ่ยขึ้น ด้วยน้ำเสียงที่แฝงด้วยความห่วงใยลึกซึ้ง ขณะที่นันย์ตาเขามองเธอราวกับต้องการส่งกำลังใจทั้งหมดที่เขามีให้กับเธอ ปลายนิ้วของเขาแตะลงบนแขนของเธอเบา ๆ สัมผัสแผ่วเบาที่ไม่ได้ต้องการอะไร นอกจากให้เธอรู้ว่าเธอไม่ได้เผชิญกับสิ่งนี้เพียงลำพัง ฮันน่ามองอาดัม ก่อนพยักหน้าแม้ไม่มีคำพูดใดออกมา แต่แววตาของเธอนั้นรับรู้ถึงความห่วงใยของเขา และเธอจะพยายามอดทน ให้ถึ่งฝั่งเรือสปีดโบ๊ทเข้าใกล้ฝั่งมากขึ้น ทุกวินาทีเต็มไปด้วยความเร่งด่วน ไฟสีแดงของรถพยาบาลที่จอดรออยู่ที่ท่าเรือสะท้อนบนผิวน้ำ ราวกับประกาศความสำคัญของชีวิตที่กำลังแขวนอยู่บนเส้นด้ายทันทีที่เรือจอดเทียบที่ท่า คนขับเรือและเจ้าหน้าที่รีบเข้ามาช่วยอาดัมพยุงฮันน่าขึ้นไปยังรถพยาบาล เสียงไซเรนดังก้องเมื่อรถพุ่งออกจากท่าเรือ

  • 42 คำอธิษฐานบนถนนหลากสี (42 Prayers on the Rainbow Road)   บทที่27.อุบัติเหตุไม่คาดฝันพลิกชีวิต

    ท้องฟ้าเริ่มแปรเปลี่ยนจากใสป็นสีดำครึ้มคลุมเคลือ บรรยากาศในหุบเขาข้างทะเลช่างเงียบสงบดูเหมือนทุกสิ่งหยุดนิ่งแต่มีเพียงเสียงเครื่องยนต์มอเตอร์ไซค์ของฮันน่าที่ดังก้องสะท้อนในความว่างเปล่า เธอบิดเร่งความเร็วขึ้นทางลาดชัน เสียงลมหายใจถี่กระชั้นของเธอผสมผสานกับเสียงไซเรนรถสายตรวจที่ดังแว่วมาไกลๆ ทุกเสียงเหมือนเหล็กปลายแหลมทิ่มแทงหัวใจ สร้างความกดดันให้เธอจนแทบระเบิด ความหวาดระแวงไหลเวียนในสายเลือดอย่างไม่มีสิ้นสุดจนมาถึงริมผาสูง เบื้องหน้าคือมหาสมุทรที่กว้างสุดลูกหูลูกตา ฮันน่าจอดมอเตอร์ไซค์และทอดสายตามองลงไปยังน้ำทะเลที่นิ่งเงียบ และไร้ขอบเขต ในขณะที่หัวใจเธอกลับเต็มไปด้วยความวุ่นวายราวพายุหมุน เสียงข้อความ "ติ้ง ติ้ง" ดังจากโทรศัพท์มือถือในมือ เป็นข้อความจากลินลี่ที่เหมือนเสียงเรียกครั้งสุดท้ายดึงเธอกลับมาสู่ความจริง“พอกันที ลินลี่” เธอเอ่ยเสียงเบา แต่เต็มไปด้วยความเด็ดเดี่ยว พลางมือขว้างโทรศัพท์ในมือออกไปสุดแรง มันพุ่งผ่านอากาศแล้วหายลับลงสู่ทะเลลึก ราวกับตัดสายใยสุดท้ายที่ผูกเธอไว้กับชีวิตเดิมดวงตาเลื่อนไปที่กระเป๋าสัมภาระข้างตัวด้วยแววตาแน่วแน่ ก่อนจะคว้ามันขึ้นและโยนมันลงไปตามโทรศ

  • 42 คำอธิษฐานบนถนนหลากสี (42 Prayers on the Rainbow Road)   บทที่26.การผจญภัยบนเกาะทองคำ

    เรือเฟอร์รี่เคลื่อนเทียบเข้าฝั่งอย่างช้าๆ เสียงคลื่นกระทบกับท่าเรือดังราวจังหวะกลอง สอดประสานกับเสียงนกนางนวลร้องที่ลอยตัวอยู่เหนือชายฝั่ง อาดัมและวินก้าวลงจากเรือด้วยใบหน้าที่เริงร่า วิญญาณและร่างสัมผัสได้ถึงพลังแห่งธรรมชาติของเกาะทองคำ ทันทีที่เท้าลงบนผืนดิน กลิ่นลมทะเลสดชื่นอบอวลอยู่ในอากาศ พัดพาเอาความสบายใจมาสู่พวกเขา แสงแดดอ่อนๆ สาดส่องกระทบกับผิวน้ำทะเลเป็นประกายระยิบระยับ เกาะแห่งนี้ดูเหมือนจะโอบรับพวกเขาด้วยความอบอุ่นอาดัมยืดตัวขึ้น สูดลมหายใจลึก รู้สึกถึงความบริสุทธิ์ของอากาศบนเกาะที่ราวดั่งสวรรค์แห่งนี้ เขาหันมาทางวินด้วยใบหน้าตื่นเต้นแล้วเอ่ยขึ้นว่า“เราเช่ารถมอไซค์กันวิน มีร้านเช่าตรงที่หน้าท่าเรือ จะได้ขับรถชมรอบๆเกาะ”เสียงพูดของอาดัมฟังดูสดใสและเต็มไปด้วยพลัง วินพยักหน้าด้วยรอยยิ้มกว้าง แล้ว ทั้งคู่มุ่งหน้าไปยังร้านเช่ามอเตอร์ไซค์ ใกล้ๆ ท่าเรือที่เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ ที่กำลังหารถเช่าหรือมองหาไกด์นำเที่ยวหลังจากจัดการเรื่องการเช่ามอเตอร์ไซค์เรียบร้อยแล้ว ทั้งสองขี่มันออกไปบนถนนเล็กๆ ที่ตัดผ่านชายฝั่ง น้ำทะเลสีฟ้าใสสะท้อนอยู่ที่ปลายสายตา สายลมพัดผ่านใบหน้าขอ

  • 42 คำอธิษฐานบนถนนหลากสี (42 Prayers on the Rainbow Road)   บทที่25.การเช็กอินที่ตึงเครียด

    บรรยากาศที่เปิดโล่งของล็อบบี้รีสอร์ตกลางสวนปาล์ม สียงคลื่นกระทบฝั่งดังแว่วมาไกลๆราวกับคำทักทายของมหาสมุทร เสียงลมพัดผ่านกิ่งใบของต้นไม้เกิดเป็นเสียงกระซิบที่แผ่วเบา คล้ายดนตรีธรรมชาติที่บรรเลงประสานกันอย่างลงตัว แสงแดดอุ่นยามสายลอดผ่านเพดานกระจกใสด้านบน สาดส่องลงมา ทอดเงาเป็นลวดลายอ่อนช้อยบนพื้นหินขัดสีเทาที่เปี่ยมด้วยความประณีตเฟอร์นิเจอร์ไม้สีน้ำตาลถูกจัดวางไว้อย่างมีสไตล์และลงตัว ที่สะท้อนถึงความกลมกลืนระหว่างธรรมชาติและความทันสมัย เสียงรองเท้าของฮันน่ากระทบพื้นเบาๆ ในจังหวะที่มั่นคง ตรงไปยังที่เคาน์เตอร์รับรองกลางล็อบบี้ พนักงานสาวสวมเสื้อสูทสีขาวสะอาดทับเสื้อเชิ้ตเนื้อเบาสีฟ้าอ่อน ใบหน้าผ่องใสถูกแต่งแต้มด้วยรอยยิ้มต้อนรับอย่างอ่อนน้อม เธอยืนสง่างามหลังเคาน์เตอร์ไม้เรียบหรู มือวางพร้อมบริการฮันน่าหยุดอยู่ด้านหน้าเค้าน์เตอร์ สูดลมหายใจลึกเพื่อรวบรวมสมาธิ ขณะที่หัวใจเต้นแรงขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่มั่นใจแต่ยังแฝงด้วยความตื่นเต้น“สวัสดีค่ะ ฉันฮันน่าเข้าเช็กอินค่ะ”“สักครู่นะคะ” เสียงของเธอราวกับสายลมเย็นที่พัดผ่านกลางฤดูร้อน ก่อนหยิบเอกสารเช็กอินมาตรวจสอบอย่างต

  • 42 คำอธิษฐานบนถนนหลากสี (42 Prayers on the Rainbow Road)   บทที่24.กับดักบนเกาะทองคำ

    ใกล้เกาะทองคำ บรรยากาศเหนือผืนน้ำสงบแต่แฝงไปด้วยความตึงเครียด บนเรือสายตรวจ เจ้าหน้าที่ทุกคนปฏิบัติหน้าที่อย่างเงียบงัน เสียงคลื่นกระทบตัวเรือดังก้องเป็นจังหวะสม่ำเสมอ แต่ในหัวของพวกเขาเต็มไปด้วยความกังวลและข้อสงสัยเรือสปีทโบ๊ตต้องสงสัยที่ได้รับรายงานถูกตรวจค้นอย่างละเอียด ทุกช่องเก็บของ และมุมเล็กมุมน้อยถูกเปิดออกเพื่อตรวจสอบ เอกสารทุกแผ่นถูกอ่านอย่างถี่ถ้วน แต่ผลลัพธ์ที่ได้คือความว่างเปล่าไม่มีสิ่งของผิดกฎหมายหรืออะไรที่ชวนให้คิดว่าเรือลำนี้เกี่ยวข้องกับการลักลอบเลยแม้แต่น้อยเสียงถอนหายใจดังขึ้นเบา ๆ ท่ามกลางความผิดหวัง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งหันไปหาหัวหน้าทีม “ข้อมูลผิดพลาด…ครับหัวหน้า” เขาพูดขึ้นอย่างไม่แน่ใจด้วยน้ำเสียงที่สับสนและความรู้สึกสิ้นหวังหัวหน้าทีมยืนนิ่งอยู่ตรงสะพานเรือ ดวงตาของเขามองไกลออกไปยังผืนทะเลที่ทอดยาวสุดสายตา ใบหน้าเรียบนิ่ง แต่ภายในเขากำลังประมวลผลข้อมูล “ไม่ใช่ความผิดพลาด…” เขาเอ่ยในที่สุด น้ำเสียงหนักแน่นของเขาทำให้ทุกคนหยุดนิ่งและหันมาฟังอย่างตั้งใจ “พวกเขาเปลี่ยนแผนแล้ว เราถูกเบี่ยงเบนความสนใจ”คำพูดนั้นทำให้ทั้งทีมตกอยู่ในความเงียบ ทุกคนเริ่มตระหนักว่าภ

  • 42 คำอธิษฐานบนถนนหลากสี (42 Prayers on the Rainbow Road)   บทที่23.รอยต่อแห่งท้องทะเล

    บรรยากาศในบ้านอาดัมเริ่มเงียบสงบลง หลังจากเสียงหัวเราะและความสนุกสนานของปาร์ตี้วันขอบคุณพระเจ้าค่อยๆ จางหายไป กลิ่นหอมอ่อนๆ ของอาหารที่ยังหลงเหลือในอากาศผสมกับความอบอุ่นจากแสงไฟในบ้าน เพื่อนๆ หลายคนทยอยกันกลับ บางคนช่วยคุณแม่ของอาดัมเก็บจานชาม บางคนกวาดบ้านพร้อมพูดคุยเรื่องราวในค่ำคืนที่เพิ่งผ่านไปวิน เพื่อนสนิทของอาดัม เดินเข้ามาพร้อมหยิบเสื้อคลุมที่วางพาดเก้าอี้ขึ้นมา ก่อนจะหันไปพูดกับอาดัมด้วยน้ำเสียงจริงจังแต่แฝงด้วยความคาดหวัง"อาดัม พรุ่งนี้นายว่างไหม? เราข้ามเกาะไปเที่ยวที่เกาะทองกันสักคืนดีไหม? ฉันอยากรำลึกถึงวันเก่าๆ เพราะเดี๋ยวอีกสองสามวันฉันต้องกลับแล้ว"อาดัมที่กำลังเก็บกีตาร์ใส่กระเป๋าหยุดมือชั่วครู่ เขาเงยหน้าขึ้นมองวินด้วยรอยยิ้มกว้าง แววตาฉายชัดถึงความยินดีที่เพื่อนสนิทเอ่ยปากชวน"ได้สิเพื่อน วิน ฉันว่างอยู่ งั้นเราขึ้นเรือรอบแรกกันเลยไหม? รอบ 8 โมงเช้า เจอกันที่ท่าเรือ"วินหัวเราะเบาๆ ขณะสวมเสื้อคลุม "ตกลง งั้นเจอกันพรุ่งนี้!" เขายื่นมือไปหาอาดัม ทั้งสองยกมือประกบกันอย่างแน่นหนา ก่อนที่เสียงหัวเราะและรอยยิ้มของพวกเขาจะเติมเต็มห้องที่เงียบสงบ"งั้นฉันไปก่อนนะ พรุ่งนี้

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status