อาทิตย์ต่อมา
เย็นของวัน
“ท่านประธานเรียกวีมามีเรื่องอะไรเหรอคะ” วีนาเดินนาวยนาถเข้าห้องของคามินมาด้วยรอยยิ้มกว้างก่อนจะหย่อยก้นลงนั่งตรงหน้าคามินส่งน้ำเสียงหวานถามอีกฝ่าย
“ผมต้องการให้คุณวีไปทำหน้าที่พีอาร์ของโรงแรมน่ะครับ”
“อะไรนะคะ..วีทำงานให้ท่านประธานไม่ดีหรืออะไรบอกวีมาได้เลยนะคะ” รอยยิ้มกว้างเมื่อครู่ของวีนาหุบลงทันทีเมื่อคามินแจ้งความประสงค์ออกมาเพราะตอนนี้เขาหาเลขาคนใหม่ได้แล้วเป็นผู้ชายและจะเริ่มงานอาทิตย์หน้าเขาเลยต้องแจ้งให้หญิงสาวรู้กะทันหันว่าเขาต้องการให้เธอไปทำหน้าที่อื่น
“เปล่าครับคุณทำงานดีมากและบุคลิกของคุณผมว่าเหมาะกับงานด้านนี้มากกว่าแถมเงินเดือนผมก็จะเพิ่มให้คุณด้วยนะครับ”
“เอ่อ..แล้วจะให้วีเริ่มงานพีอาร์ได้เมื่อไรล่ะคะ”
“อาทิตย์หน้าครับคุณเตรียมตัวได้เลยนะครับ”
“ค่ะท่านประธาน” วีนาเดินออกจากห้องของคามินไปด้วยสีหน้าที่ค่อนข้างไม่พอใจพอสมควรไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ๆคามินถึงได้เปลี่ยนให้เธอไปทำงานอื่นกะทันหันทำให้เธอต้องอยู่ห่างเขาไปอีก
เย็นของวัน
ร้านอาหาร
หลังจากเลิกงานได้คามินก็ขับรถไปรับภรรยารักของเขาออกมาทานข้าวเย็นที่ร้านอาหารข้างนอกเพราะอยากเปลี่ยนบรรยากาศกันบ้าง
“ทำไมวันนี้อยากทานข้าวนอกบ้านล่ะคะ”
“ผมอยากพาคุณเปลี่ยนบรรยากาศบ้างไงครับ” คามินพาหญิงสาวเข้ามานั่งในร้านอาหารหรูที่ค่อนข้างมีพื้นที่เป็นส่วนตัวแม้นที่นั่งจะติดกันแต่ก็มีฉากกั้นขึ้นสูงอยู่พอสมควร
“ขอบคุณนะคะ..”
“แล้วเรื่องเลขาคนใหม่ผมได้รับแล้วนะครับเค้าเป็นผู้ชายค่อนข้างมีวุฒิภาวะพอสมควรเริ่มงานอาทิตย์หน้า” คามินรับเลขาคนใหม่มาได้เขาก็รีบรายงานให้คนเป็นภรรยาทราบทันที
“ขอบคุณนะคะที่ทำเพื่อฉัน” มนัญชนกฉีกยิ้มกว้างที่ดูสามีของเธอจะตามใจเธอเป็นพิเศษ
“คุณสำคัญที่สุดสำหรับผมอยู่แล้วล่ะครับ”
คำพูดแสนหวานของคนทั้งสองที่นั่งคุยกระหนุงกระหนิงกันไม่รู้เลยว่าตอนนี้กำลังมีคนแอบฟังอยู่ซึ่งเป็นวีนานั่นเองที่มานั่งรอเพื่อนในร้านอาหารได้พักใหญ่แล้วด้วยฉากกั้นที่สูงท่วมหัวคนทั้งสองจึงไม่เห้รเธอในตอนเดินเข้ามาแต่เธอเห็นคามินและมนัญชนกผ่านกระจกก่อนที่ทั้งสองจะเดินเข้ามาหน้าร้านแล้ว
วีนากัดฟันกรอดที่แท้ที่เธอถูกย้ายไม่ใช่เพราะเรื่องความสามารถในการทำงานหรืออะไรเป็นเพียงแค่ความต้องการของนังภรรยาหน้าจืดของท่านประธานของเธอเท่านั้นหากหวงมากนักเธอก็จะทำให้ได้รู้ว่าคนอย่างเธออยากได้อะไรแล้วก็จะต้องได้ต่อไปนี้เธอจะไม่ชักช้าในการเข้าหาคามินอีกแล้ว
อาทิตย์ต่อมา
เย็นของวัน
"ท่านประธานคะงานเรียบร้อยทุกอย่างแล้วค่ะ" วีนาเดินมาเข้ามาพร้อมกับแฟ้มเอกสารมาวางบนโต๊ะของคามินส่งท้ายการทำงานเลขาวันสุดท้ายของเธอ
“ถือว่าส่งท้ายการทำงานเลขาได้ดีทีเดียวเลยนะครับ” คามินเอ่ยชมที่หญิงสาวไม่เคยบกพร้องต่อหน้าที่แม้แต่น้อย
ติ๊ดๆ
(ฉันกำลังจะเข้าไปหาพร้มพี่แพทกับคุณแพงนะคะ) สายตาของวีนาเหลือบมองเห็นข้อความของมนัญชนกที่ส่งมาให้คามินระหว่างที่ชายหนุ่มมัวแต่สนใจเปิดอ่านข้อความยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ที่ทุกคนจะมาหาพร้อมกันคงไม่พ้นชวนเขาไปสังสรรค์เพราะวันนี้เป็นวันเกิดของเขา
"วันนี้เป็นวันเกิดท่านปประธานนี่คะ...วีนาขอดื่มฉลองให้ท่านประธานนะคะถือว่าส่งท้ายการทำงานเลขาของวีด้วย..สุขสันต์วันเกิดนะคะ" วีนาเดินออกไปหยิบกล่องน้ำผลไม้ที่เธอเตรียมเอาไว้พร้อมแก้วสองใบก่อนจะหย่อนก้นลงนั่งตรงหน้าชวนเขาฉลอง
"ได้สิครับ..ขอบคุณครับ" คามินรับแก้วน้ำผลไม้จากที่หญิงสาวเทให้เมื่อครู่
“....” วีนามองประธานหนุ่มของเธอตรงหน้าด้วยสายตาที่ค่อนข้างพึงพอใจเมื่อเขาดื่มจนหมดและหวังว่ายาในแก้วที่เธอใส่จะออกฤทธิ์พอเหมาะพอเจาะกับเวลาที่มนัญชนกมาที่นี่
ครู่ต่อมา
"เอ่อ...ท่านประธานเป็นอะไรหรือเปล่าคะ" ไม่นานนักคามินก้เริ่มมีอาการร้อนวูบวาบแปลกๆเขาจึงต้องขอตัววีนาไปล้างหน้าล้างตาในห้องน้ำไม่รู้ว่าจู่ๆทำไมถึงเป็นเช่นนี้ได้เหมือนกัน
"ผมขอเข้าห้องน้ำสักครู่นะครับ"
ริมฝีปากแดงฉ่ำด้วยลิปสติกราคาแพงยิ้มกริ่มตามหลังคนตัวโตที่เดินสะเปะสะปะเข้าห้องน้ำไปก่อนจะเดินไปปิดไฟที่มุมห้องข้างๆกับประตูปล่อยให้ไฟสลัวจากแสงด้านนอกเข้ามาเท่านั้น
"วีนา.. กลับไปแล้วงั้นเหรอ" คามินเดินออกมาด้านนอกห้องน้ำหลังจากเข้าไปล้างหน้าล้างตาครู่หนึ่งตอนนี้ใบหน้าของเขาแดงก่ำด้วยอารมณ์กำหนัดที่ควบคุมได้ยากเมื่อเห็นว่าไฟในห้องมืดสนิทก็คิดว่าหญิงสาวกลับไปแล้วจึงรีบเดินมาเปิดไฟที่หน้าประตูแต่ก็ถูกวีนาที่ตอนนี้เปลือยเปล่าท่อนบนโชว์อกอวบอิ่มอยุ่ตรงหน้าก่อนจะยื่นมือเปิดไฟ
"ท่านประธานคะ" เสียงอ่อนหวานเรียกประธานหนุ่มอย่างยั่วยวนก่อนจะโน้มคอของเขาเอาไว้
"ท..ทำอะไรของคุณ" คามินหลับตาปี๋ก่อนจะผลักร่างบางออกจากตัว
"อ..อื้มม.." แม้นอีกฝ่ายจะปฏิเสธแต่มีหรือที่เธอจะยอมหยุดเธอตามรวบกอดคามินก่อนจะผลักเขชาลงที่โซฟาและจู่โจมบดจูบอีกฝ่ายคราแรกคามินมีทีท่าปฏิเสธแต่ด้วยฤทธิ์ยาเขาจึงปล่อยเลยตามเลย
ทางด้านมนัญชนกแพงขวัญและแพทริคเมื่อขึ้นมาถึงหน้าห้องของคามินก็เห็นว่าไฟในห้องปิดจึงแปลกใจว่าคามินหายไปไหนทั้งที่มนัญชนกก็บอกอยู่แล้วว่าเธอจะมาที่นี่พร้อมแพงขวัญและแพทริค
"อ้าวทำไมไฟในห้องดับล่ะ" ว่าจบสาวเจ้าก็รีบเปิดประตูเปิดไฟในห้องทันทีและภาพคนทั้งสองที่แดอจูบกันบนโซฟาก็ทำเอามนัญชนกใจสลายที่เห็นสามีของเธอกำลังนัวเนียกับเม่เลขาสาวสวยนั่น
"ค..คุณมิน" มนัญชนกวิ่งหนีออกไปอย่างรวดเร็วเพราะไม่อยากดูต่อให้เจ็บปวดหัวใจ
"หม่อน.." คามินที่เห็นไฟสว่างได้เขาก็เนิ่มได้สติเมื่อเห็นว่าภรรยาของเขาเห็นพฤติกรรมที่เขากำลังควบคุมตัวเองไม่ได้จึงรีบตะเกียกตะกายหมายจะวิ่งตามมนัญชนกแต่ก็ถูกแพทริคขวางเอาไว้ด้วยสีหน้าไม่พอใจอย่างมาก
"พี่มินคุยกับแพงก่อน...คุณไปดูคุณหม่อนเร็วค่ะ" แพงขวัญดึงคามินเอาไว้ก่อนจะให้สามีเธอวิ่งไปดูมนัญชนก
"เดี๋ยวผมจะกลับมาเคลียกับคุณ" แพทริคชี้หน้าคามินอย่างเอาเรื่องก่อนจะวิ่งตามน้องสาวของเขาไป
"ทำไมพี่มินทำแบบนี้...เธอก็เหมือนกันรู้ว่าพี่มินมีเมียแล้วก็ยังจะยุ่งอีก" แพงขวัญมองหน้าคามินด้วยสายตาขุ่นเคืองเล็กน้อยก่อนจะหันไปต่อว่าวีนาที่กำลังนั่งสวมเสื้อผ้าอยู่ด้วยสีหน้าที่ดูจะไม่รู้ร้อนรู้หนาว
"พี่ไม่รู้แพง... พี่ร้อน" คามินนั่งฟุบลงกับพื้นเพราะตอนนี้เขาเริ่มควบคุมตัวเองไม่ได้อีกแล้ว
"พี่มิน..ทานอะไรไปหรือเปล่าคะ" แพงขวัญขมวดคิ้วสงสัย
"เปล่าครับ..พี่ดื่มแค่ย้ำผลไม้ที่วีนาเอามาให้" คามินส่ายหัวก่อนจะเอ่ยบอกกับแพงขวัญเสียงสั่นเพราะรู้สึกว่าตอนนี้หัวใจของเขาเต้นเร็วผิดปกติ
"หืม..ยัยวีนาเธอทำอะไรพี่มิน" แพงขวัญได้ยินดังนั้นจึงรู้ได้ทันทีว่าที่คามินเป็นแบบนี้เป็นเพราะวีนา
“เปล่านี่คะ” วีนายังตีหน้าซื่อ
“ฉันจะพาพี่มินไปตรวจหากรู้ว่าถูกวางยาล่ะก็ฉันจะให้สามีของฉันจัดการกับเธอเอาให้เหลือแต่ชื่อเลยเป็นไง” แพงขวัญตวาดใส่วีนาอย่างเหลืออด
“ย่ามาขู่คนอย่างฉันเพราะฉันไม่เคยกลัวอะไรทั้งนั้น” วีนาเดินกอดอกลอยหน้าลอยตามายืนประชันหน้ากับแพงขวัญ
“สามีฉันคือแพทริคเจ้าของบริษัทส่งออกเรือยอร์ชXXXแล้วเมียพี่มินก็เป็นน้องสาวของเค้า...เธอทำน้องสาวของสามีฉันเสียใจถ้าเค้าจะเก็บเธอก็คงจะไม่ยาก” แพงขวัญเอ่ยทีละคำเน้นเสียงดังฟังชัดให้วีนาได้รู้ว่าคนที่เธอเห็นเมื่อครู่เป็นใคร
“อ..อะไรนะ” เมื่อได้ยินชื่อบริษัทยักษ์ใหญ่ของอังกฤษวีนาจึงตัวชาวาบเธอไม่รู้จริงๆว่ามนัญชนกจะเป็นน้องสาวของมหาเศรษฐีที่มีอิทธิพล
“บอกมาว่าเธอเอายาอะไรให้พี่มิน” แพงขวัญเห็นวีนาหน้าเสียไปจึงบีบหัวไหล่วีนาและเค้นถามเธอเสียงแข็งแม้นเธอจะท้องโตก็ไม่ได้แปลว่าเธอจะไม่สู้คน
ยิ่งผู้หญิงที่หน้าด้านไร้ยางอายแบบนี้เธอยิ่งอยากจะสั่งสอนให้รู้สำนึกนี่ถือว่าเป็นเรื่องของคนอื่นหากคนที่วีนายุ่งเป็นสามีของเธอล่ะก็มีหวังตอนนี้คงนอนจมกองเลือดไปแล้ว
“อื้อ..” วีนารีบโยนขวดยาที่เธอมอมคามินลงกับพื้นก่อนจะก้าวเท้าหนีออกไปอย่างรวดเร็วเพราะไม่รู้ว่าหากอยู่นานกว่านี้เธอจะเจออะไรบ้าง
ในส่วนของมนัญชนกตอนนี้ก็ร้องห่มร้องให้กอดพี่ชายของเธอแน่นเป็นอีกครั้งที่เธอต้องมาผิดหวังในตัวของคามิน
"ฮึก..ฮือๆๆ.."
" ร้องออกมาให้พอเลยนะหม่อน.." แพทริคคิดว่าเขามองคามินออกและคิดว่าเขาเป็นคนดีขยันทำงานไม่นอกลู่นอกทางเสียอีกแต่ตอนนี้เหมือนเขาจะคิดผิด
Rrrr
"มีอะไรเหรอครับ" แพทริคกดรับสายของแพงขวัญได้เขาก็รีบเข้ามาดูอาการของคามินทันที
ชั่วโมงต่อมา
แพทริคได้รับสายจากแพงขวัญว่าคามินถูกวงยาปลุกอารมณ์เขาจึงต้องรีบพาคามินและทุกคนกลับมาที่บ้านเมื่อกลับมาถึงแพทริคก็ลากคามินเข้าห้องน้ำถอดเสื้อผ้าเสื้อผ่อนเหลืองเพียงแค่กางเกงขาสั้นตัวเดียวตอนนี้แพทริคก็ยืนรดน้ำให้คามินได้ผ่อนคลายลง
"ผมไม่ได้ตั้งใจหม่อนผมขอโทษ" ระหว่างที่นั่งอยุ่ในห้องน้ำคามินก็เอาแต่ตะดกนหามนัญชนกว่าขอโทษตลอดเป็นระยะจนแพทริคเองก็อดเห็นใจไม่ได้
"ฮือๆๆ..." มนัญชนกนั่งร้องให้สะอื้นอยุ่กับแพงขวัญพักใหญ่เธอรู้ความจริงแล้วว่าสามีของเธอถูกวางยาแต่ที่ห้ามน้ำตาไม่ได้ตอนนี้ก็เพราะภาพที่คามินนัวเนียกับวีนายังติดตาของเธออยู่ไม่หาย
"คุณหม่อนใจเย็นๆนะคะทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะยัยเลขานั่น" แพงขวัญกอดปลอบมนัญชนกที่นยังร้องให้ไม่หยุดทั้งยังพูดถึงวีนาด้วยความไม่พอใจ
"ล.. เลือด.. " พลันสายตาของแพงขวัญก็สะดุดกับหยดเลือดที่ไหลออกมาที่ขาของมนัญชนก
ครึ่งชั่วโมงต่อมา
โรงพยาบาล
"เธอตั้งครรภ์อ่อนๆน่ะครับที่เลือดออกก็เกิดจากความเครียดมดลูกเลยบีบตัวแต่ตอนนี้ไม่ต้องห่วงนะครับปลอดภัยแล้ว" หลังจากที่พามนัญชนกมาโรงพยาบาลให้หมอตรวจได้พักใหญ่ตอนนี้เธอก็ไม่เป็นอันตรายอะไรแล้วทุกคนเลยโล่งใจได้
"ขอบคุณครับหมอ" คามินรีบขอบคุณหมอยกใหญ่ด้วยความดีใจที่ช่วยภรรยาและลูกของเขาเอาไว้ได้คราแรกคิดว่าจะเสียลูกไปทั้งที่พึ่งรู้เสียแล้วเพราะความไว้ใจคนผิดของเขาแท้ๆ
“คุณโอเคขึ้นมากแล้วใช่หรือเปล่า” แพทริคเอ่ยถามคามินให้แน่ใจก่อนที่เขาจะพาแพงขวัญกลับเพราะนี่ก็ดึกแล้วภรรยาของเขาจะได้พักผ่อน
“ครับ”
“งั้นเดี๋ยวผมพาแพงกลับก่อนคุณก็อยู่ดูแลน้องผมดีๆล่ะ” แพทริคยื่นมือหนาลูบไรผมน้องสาวที่นอนหลับปุ๋ยเบาๆก่อนจะลาคามินและพาแพงขวัญกลับบ้านเพราะหากมนัญชนกตื่นมาเขาคิดว่าทั้งคู่คงจะมีเรื่องต้องคุยกันตามลำพัง
“ครับ”
หลังจากแพทริคและแพงขวัญกลับไปได้คามินก็เอาแต่นั่งเฝ้ากุมมือเรียวของมนัญชนกอยู่ไม่ห่าง
"ผมขอโทษนะครับ" ดวงตาคมมองคนที่นอนหลับด้วยน้ำตาเจ็บใจที่ตัวเองทำให้หญิงสาวเครียดจนแทบจะเสียลูกในท้องไป
วันต่อมา
"ตื่นแล้วเหรอครับ" คามินรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเมื่อคนบนเตียงขยับตัว
"ฉันเป็นอะไรคะ" มนัญชนกสีหน้าไม่ค่อยดีนักเพราะรู้สึกหน่วงที่ท้องน้อยพอสมควร
"คุณกำลังตั้งท้องลูกของเราไงครับตอนนี้คุณต้องห้ามขยับตัวนะเดี๋ยวเจ้าตัวเล็กจะเป็นอันตราย" คามินเอ่ยด้วยรอยยิ้มอ่อนในขณะที่มือของเขายังกอบกุมเธออยู่ไม่ยอมคลาย
"ท้องเหรอคะ" ร่างบางตัวชาวาบไม่นึกเลยว่าตัวเองจะตั้งท้องคิดไปคิดมาเธอลืมคิดเรื่องประจำเดือนเสียสนิทว่ามาขาดมานานแล้ว
"ครับหมอบอกว่าคุณเครียดเลยมดลูกบีบตัว"
"......" เมื่อฟังคำจากสามีจบมนัญชนกก็ก้มหน้างุดเพราะเธอเกือบเสียลูกน้อยในท้องเพราะความคิดมากของเธอแท้ๆ
"ผมขอโทษนะครับที่ทำให้คุณเจ็บ" คามินรวบกอดร่างบางเอาไว้ด้วยความรู้สึกผิด
"คุณอย่าให้เหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้นอีกได้หรือเปล่า" หญิงสาวเงียบไปครู่หนึ่งเห็นว่าหากรื้อฟื้นเรื่องเก่ามาพูดคงไม่มีประโยชน์อะไรแค่ขอให้เขาให้คำมั่นกับเธอว่าจะไม่มีเหตุการณ์ที่ทำให้เธอช้ำใจเกิดขึ้นก็พอ
"ได้สิครับผมรับปากผมจะไม่ให้เธอมาทำงานที่บริษัทผมอีกแล้ว" คามินยิ้มทั้งน้ำตาดีใจที่หญิงสาวไม่ถือโทษโกรธเขาที่เผลอควบคุมตัวเองไม่ได้แล้ว
"ฉันไม่อยากเห็นภาพแบบนั้นอีก"
"ผมขอโทษนะครับ..ขอโทษจริงๆ" คามินรู้ว่าภาพที่เธอเห็นเขาเมื่อคืนคงจะปวดใจมากและเขาเองก็จะไม่ยอมให้เหตุการณ์ทำร้ายจิตใจภรรยาตัวน้อยของดขาเกิดขึ้นอีกเช่นกัน
หลังจากที่เรื่องร้ายๆจบไปวันเวลาก็พ้นผ่านมาจวบจนตอนนี้แพงขวัญคลอดลูกชายได้สี่เดือนกว่าแล้วในส่วนของมนัญชนกตอนนี้ก็ท้องโตใกล้คลอดเต็มที
"เจ้าก้อนของอาหม่อนทำไมถึงน่าฟัดแบบนี้ล่ะครับ" มนัญชนกอุ้มฟัดเด็กชายตัวกลมวัยสี่เดือนพักใหญ่ตั้งแต่มาก็ยังฟัดไม่หยุดเพราะหมั่นเขี้ยวหลานตัวกลมที่น่ารักน่าชังสำหรับเธอเสียเหลือเกิน
“แอ้..แอ้” เจ้าก้อนกลมส่งเสียงประท้วงยกใหญ่เมื่อถูกคนเป็นอาฟัดครั้งแล้วครั้งเล่า
"ตาเหนือช้ำหมดแล้วครับ" คามินต้องปรามภรรยาของเขาที่ดูจะกวนใจหลานตัวกลมเกินไป
"อีกไม่นานเราก็จะมีเจ้าก้อนแบบนี้ฟัดเป็นของตัวเองแล้วนึกถึงอนาคตแล้วหม่อนก็อยากจะให้มันเกิดขึ้นเร็วๆจังเลยค่ะ”
“ผมก็เหมือนกัน” คามินสวมกอดเอวมนัญชนกพร้อมลูบหน้าท้องกลมไปมาด้วยความเอ็นดู
“ดูท่าสองคนคงอยากให้ลูกในท้องออกมาเต็มแก่แล้วนะคะ” แพงขวัญยืนมองมนัญชนกกับคามินอยู่ห่างๆกับแพทริคเพราะตอนนี้เธอแทบจะไม่ต้องทำอะไรมนัญชนกและคามินมาจัดการเลี้ยงลูกเธอตลอดทั้งวันที่เป็นวันหยุดทำงานของคามิน
“ก็เหมือนผมตอนที่คุณท้องโตอยู่ไงครับตั้งหน้าตั้งตารอทุกวันเลย” แพทริคยิ้มร่ารู้สึกเหมือนเก็นตัวเองเมื่อมองคามินและน้องสาวของเขาก่อนจะสวมกอดแพงขวัญเอาไว้หลวมๆ
ทุกวันนี้ความสุขของพวกเขาทังสี่ไม่ใช่การใช้ชีวิตหรูอยู่สบายแต่เป็นการใช้ชีวิตเรียบง่ายกับครอบครัวแพทริคคิดว่าหากเขาย้อนเวลากลับไปได้เขาก็คงไม่อยากแก้ไขอะไรเพราะเรื่องทุกอย่างที่เป็นอุปสรรคบททดสอบมันนำพาให้เขาทำอะไรคิดมากขึ้นและมีความสุขกับครอบครัวอย่างทุกวันนี้
จบแล้วค่า
"ทำไมพี่แพทพาหม่อนมาไทยกะทันหันเหรอคะ" ใบหม่อนหญิงสาวร่างเล็กใบหน้าจิ้มลิ้มที่วัย23ย่าง24อยู่ในชุดเดรสสีชมพูหวานเดินตามพี่ชายที่สูงใหญ่อย่างเร่งรีบเข้าไปในบ้านพักหลังใหญ่ในชานเมืองของกรุงเทพมหานครที่ต้องรีบสับขาให้รวดเร็วเพราะเธอก้าวไม่ค่อยทันพี่ชายที่สูงราวสองเมตรเธอเท่าไร"ก็ไม่ได้กะทันหันนี่นาพี่เคลียงานที่นี่ทุกอย่างจบแล้วก็อยากจะกลับไปลงทุนธุรกิจที่ไทย" แพทริคหนุ่มลูกครึ่งไทยอังกฤษวัย34อยู่ในชุดสูทที่สั่งตัดจากแบรนด์หรูเดินเด่นสง่าเข้ามาในบ้านหลังใหญ่ก่อนจะหย่อนก้นลงนั่งพักที่โซฟาราคาแพงที่ห้องนั่งเล่นด้วยท่าทีเหนื่อยล้าเนื่องจากเดินทางมานานดีที่มาถึงเขาก็เข้สพักผ่อนในบ้านได้เลยเพราะสสั่งให้คนเตรียมจัดแจงทำความสะอาดไว้ก่อนหน้านี้แล้วแพทริค เนลสันลูกครึ่งไทยอังกฤษเป็นลูกชายคนเดียวของโทมัส เนลสันเจ้าของบริษัทผลิตเรือยอร์ชส่งออกที่อังกฤษเจ้าใหญ่ที่สุดในประเทศ ชายหนุ่มเป็นทายาทคนเดียวที่ถูกจับตามองจากสังคมเซเลปคนดังมากที่สุด เพราะจะเป็นคนเดียวที่สืบทอดกิจการของเนลสันแถมตอนนี้ยังเป็นหนุ่มโสดเนื้อหอมที่สาวๆก็อยากจะเข้าหามากที่สุดอีกด้วยติดอยู่ที่ว่าเขานั้นค่อนข้างเข้าถึงยากสื่อทุกสื่
"ก็ได้ค่ะ" คนถูกปฏิเสธมีสีหน้าบอกบุญไม่รับเลยทันที ใบหม่อน มนัญชนก เนลสัน หญิงสาวที่เป็นน้องสาวบุญธรรมของแพทริคและพ่วงตำแห่งลูกบุญธรรมของโทมัสเนลสัน เธอเป็นสาวไทยแท้ตั้งแต่กำเนิดเมื่อพ่อกับแม่เสียตอนสามขวบกว่าเธอก็ต้องมาอยู่กับหลวงตาที่วัดและมีแพทริคเป็นคนขอรับเธอมาดูแลจนแพทริคได้ย้ายไปอยู่ที่อังกฤษเขาก็พาเธอไปอยู่ด้วย จนเธอได้ร่ำเรียนและใช้ชีวิตที่นั่นหลังเรียนจบเธอก็ช่วยโทมัสและแพทริคทำงานในบริษัทและตอนนี้ก็พ่วงตำแหน่งเลขาของพี่ชายเธอด้วย มนัญชนกเป็นหญิงสาวร่างเล็กตัวผอมแห้งสูงเพียง 155 ผิวขาวเหลืองใบหน้ากลมรูปไข่พวงแก้มมีรักยิ้มคิ้วบางได้รูปดวงตาคมเหมือนลูกแมว จมูกเป็นสันเล็กริมฝีปากบางอมชมพู เธอเป็นสาวที่ค่อนข้างอ่อนหวานเห็นใจผู้อื่นเป็นที่หนึ่ง ทั้งยังถูกหวงจากโทมัสและแพทริคเหมือนไข่ในหินเพราะเป็นผู้หญิงคนเดียวของตระกูลแถมยังดูหัวอ่อนต่างจากคนทั่วไปอยู่มากแม้จะเติบโตในวัฒนธรรมตะวันตก เธอชอบทำอาหารเป็นชีวิตจิตใจจนตอนนี้พ่อและพี่ชายเธอเห็นว่าให้หญิงสาวลองเรียนรู้การทำงานอีกสักปีสองปีก็จะเปิดกิจการในสิ่งที่เธอชอบทำให้เธอได้บริหารเอาเอง วันต่อมาเชียงใหม่"ค่ะคุณพ่อแพงใกล้ถึงบ้า
"..อย่าทำอะไรฉันเลยนะ..อยากได้เงินเท่าไรฉันจะเอามาให้" ดวงตากลมโตเบิกกว้างก่อนจะทำใจกล้าต่อรองกับอีกฝ่ายเสียงสั่น"แก้ปัญหาทุกอย่างได้ด้วยเงินอย่างงั้นเหรอ..ใครสั่งสอนคุณมาล่ะ..ที่ผมจับคุณมาไม่ได้อยากได้เงินเลยสักนิด" เมื่อเห็นอีกฝ่ายแก้ไขปัญหาด้วยเงินอารมณ์โมโหของแพทริคก็เพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ"ตกลงจับฉันมาต้องการอะไรกันแน่" "ก็คุณเล่นสวยขนาดนี้จะให้ผมทำอะไรดีล่ะ" ดวงตากลมมองไล่ละเรี่ยเนื้อขาวผ่องที่นูนตึงขึ้นมาเด่นสายตาก่อนผลักร่างบางราบไปกับเตียง"ม..ไม่นะอย่ามาแตะตัวฉันนะ..ไอ้บ้า.." แพงขวัญดิ้นหนีสุดชีวิตเมื่ออีกฝ่ายตั้งใจจะล่วงเกินเธอแต่แรงของเธอก็ทำอะไรคนตัวโตไม่ได้อยู่ดี"..อื้ออ." แพทริคบดจูบส่งลิ้นร้ายสำรวจโพรงปากหญิงสาวที่ดีดดิ้นพักใหญ่จนเธอหมดแรงที่จขัดขืนเขาจึงละการฉกชิมความหวานจากโพรงปากของหญิงสาว“เฮ่อ ฟู่วว..” สาวเจ้าเมื่อริมฝีปากได้เป็นอิสระก็รีบสูดลมหายใจเข้าออกยกใหญ่เพราะเมื่อครู่เขาไม่เว้นว่างให้เธอได้หายใจเลยสักนิดจนเธอหมดเรี่ยวแรงที่จะดิ้นต่อสู้“...หึ่..ถึงกับเคลิ้มเลยเหรอ” แพทริคยิ้มเยาะอีกฝ่ายด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์“ไอ้ฝรั่งบ้า..ไอ้บ้าเอ้ย..” แพงขวัญรู้สึกเสียหน้า
วันต่อมา"ฮึก..ฮือๆๆ" ตั้งแต่ตื่นมาได้หญิงสาวก็นอนร้องให้สะอึกสะอื้นด้วยความเจ็บปวดรวดร้าวทั้งกายและใจไม่คิดไม่ฝันว่าเธอจะต้องมาเจอเหตุการณ์โหดร้ายอย่างเมื่อคืนนี้"ขอบใจนะที่ให้ผมเป็นคนแรกของคุณ" แขนแกร่งยังคงกอดกุมร่างบางไม่ยอมปล่อยทั้งยังเอ่ยให้หญิงสาวให้เจ็บปวดใจเล่น"หยุดพูดเดี๋ยวนี้นะไอ้โรคจิต" มือเรียวยกกุมริมฝีปากหนาเอาไว้อย่างไม่พอใจ"หึ่..ทำใจเอาไว้เลยว่าคุณจะต้องพบเจอคนโรคจิตอย่างผมอยู่ตลอด.." มือหนายกบีบข้อมือหญิงสาวเอาไว้แน่นก่อนจะดึงมันออกจากปากของเขา"ฮือๆๆ.." สิ้นเสียงแหบพร่าของคนข้างๆแพงขวัญก็ปล่อยก็ร้องให้โฮจนตัวโยนวันต่อมา“กลับไปสิรถนั่นผมให้คนซ่อมให้แล้วขับแล้วขับกลับได้เลยนับว่าผมใจดีกับคุณนะแล้วอย่าคิดแจ้งความเพราะถ้าคุณแจ้งความล่ะก็ตัวคุณเองนั่นแหละที่จะเสียหาย” เช้าของวันนี้แพทริคขับรถมาส่งหญิงสาวจุดเดิมที่เขาจับตัวเธอมา“.....” หลังจากที่แพงขวัญลงรถได้เธอก้เข้ามานั่งในรถคันเก่าของเธอก่อนจะนั่งร้องให้ตัวโยนพักใหญ่และตัดสินใจขับรถกลับกรุงเทพทันทีอยากจะให้เรื่องบ้าๆนี้เป็นเพียงแค่ความฝันแต่มันก็ไม่ใช่22.00 น."ทำไมถึงกลับมากะทันหันล่ะลูก" พงษ์พัฒน์นักธุรกิจนำ
"คุณแพทริคนี่หน้าคุ้นๆนะครับเราเคยเจอกันที่ไหนมาก่อนหรือเปล่าผมว่าจะถามตั้งแต่ทีแรกที่เจอแล้ว" เมื่อนั่งคุยกันได้พงษ์พัฒน์ก็เอ่ยถามเรื่องที่เขาเคยคาใจอยู่ทันที"คงไม่หรอกครับ.." แพทริคตอบกลับด้วยรอยยิ้มก่อนจะเปรยสายตามองไปที่หญิงสาวตรงข้ามที่เอาแต่นั่งก้มหน้างุดไม่ยอมสบสายตากับเขา"คุณพ่อคะเดี๋ยวแพงกับพี่มินขอตัวไปรับลมข้างนอกก่อนนะคะอยู่ในนี้นานเวียนหัวน่ะค่ะเชิญคุณพ่อคุยเรื่องธุรกิจตามสบายนะคะ" "ได้สิลูก" คนเป็นพ่ออนุญาตได้สาวเจ้าก็ลากแฟนหนุ่มของเธอออกไปคุยกันที่ลานด้านนอกของชั้นจัดงานทันทีเพราะรู้สึกอึดอัดเกินจะทน“.....” แพทริคมองตามหลังหญิงสาวด้วยสายตาที่พึงพอใจนับว่าที่หญิงสาวมีอาการแบบนี้ก็คงจะเกรงกลัวเขาอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน ทางด้านแพงขวัญและคามินหลังจากเดินออกมานั่งด้านนอกแล้วคามินจึงพาหญิงสาวมานั่งในโซนวีไอพีที่เป็นส่วนตัวของเขาเอง"ทำไมออกมากะทันหันล่ะ" "แพงไม่ค่อยชอบฟังคนคุยเรื่องธุรกิจไงคะ" "แต่ยังไงแพงก็ต้องหัดฟังไว้นะคะอนาคตแพงคงต้องไปไหนมาไหนกับพี่แล้วก็ฟังพี่คุยเรื่องธุรกิจกับหุ้นส่วนอยู่บ่อยๆ" "หมายความว่ายังไงคะ" แพงขวัญมองคนรักของเธอด้วยแววตาสงสัย"พี่เ
"...คุณต้องการอะไรกันแน่...เข้ามาในชีวิตฉันกับพ่อฉันเพื่ออะไร" แพงขวัญเงยหน้ามองคนตัวโตด้วยความไม่พอใจก่อนจะเอ่ยถามสิ่งที่คาใจอยู่ในตอนนี้"บอกตอนนี้ก็ไม่สนุกน่ะสิ" แพทริคขึงร่างบางไว้กับผนังเขายังไม่เฉลยให้เธอฟังตอนนี้ว่าเขาเข้ามาในชีวิตเธอกับพ่อเธอเพราะอะไรด้วยต้องการปั่นหัวให้เธอเครียดเล่นๆไปก่อนที่จะถึงเวลาบอกความจริง"ปล่อย..""คุณห้ามหมั้นกับคามินถ้าไม่อยากให้บริษัทพ่อคุณพังลงไม่เป็นท่า""ถึงฉันจะไม่รู้ว่าคุณต้องการอะไร...แต่ฉันรู้ว่าคุณมันเลว..เลวเกินคนจริงๆ" แพงขวัญรู้จากคนเป็นพ่อว่าตระกูลเนลสันสามารถทำอะไรได้บ้างและที่เขาพูดเมื่อครู่ก็น่าจะทำได้จริงแต่เธอก็ไม่มีคำไหนที่จะตอกกลับเขาดีไปกว่าด่าว่าเขาในเรื่องจริงที่เขาเป็น"อย่าปากดีให้มันมากนัก" ชายหนุ่มว่าจบก็เหวี่ยงร่างบางนอนราบบนเตียงนอนของเธอก่อนจะกดทับเธอด้วยร่างกายของตัวเองเอาไว้มือหนาทั้งสองขึงข้อมือเล็กของหญิงสาวเอาไว้ข้างตัวลำขาแกร่งแทรกผ่านขาเรียวจนชุดนอนของเธอร่นขึ้นมาอยู่ด้านบนขาอ่อน"ปล่อยฉันนะ.." ใจของแพงขวัญเต้นแรงแทบจะออกมาข้างนอกด้วยความกลัวที่จะเกิดเหตุการณ์เช่นเดิมอีก"มาสนุกกันหน่อยจะเป็นไรล่ะ" และแล้วเธอก็
หลังจากที่แพทริคและพงษ์พัฒน์ชวนกันคุยเรื่องธุรกิจสองสาวเลยชวนกันออกมานั่งเล่นด้านนอกและคุยกันตามประสาสาวๆ"คุณแพงนี่สวยน่ารักเหมือนที่พี่ชายฉันพูดให้ฟังเลยนะคะ" มนัญชนกอดชมหญิงสาวตรงหน้าไม่ได้ว่าเธอดูสวยสง่าแบบที่พี่ชายเธอเล่าให้ฟังจริงๆ"ขอบคุณค่ะ" แพงขวัญยิ้มอ่อนนับว่ายังดีที่แพทริคไม่พูดเรื่องที่ไม่สมควรพูดกับน้องสาวของเขา"ตอนที่พี่ชายฉันทำงานเค้าอาจจะมีการดุคุณแพงบ้างอย่าถือสาเค้าเลยนะคะ" มนัญชนกรู้ดีว่าคนที่ทำงานกับพี่ชายของเธอต้องเจอกับอะไรเพราะพี่ชายเธอค่อนข้างเป็นคนที่จริงจังกับการทำงานมาก"นี่ถึงกับต้องบอกกันไว้ก่อนเลยใช่ไหมคะ" "คนอื่นที่ทำงานกับพี่ชายฉันส่วนมากพี่แพทจะถูกมองว่าบ้าอำนาจแต่เค้าเป็นคนที่จริงจังกับการทำงานเท่านั้นเองค่ะเพียงแค่อยากให้ทุกอย่างออกมาดี""แล้วคุณหม่อนล่ะคะโดนดุบ้างหรือเปล่า" "ประจำเลยค่ะ" สาวเจ้าแอบกระซิบเบาๆ"โห.. อย่างนี้แพงต้องเตรียมใจไว้เลยใช่ไหมคะ""ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะคุณแพงเป็นคนเก่งนี่คะเรียนยังได้เกียรตินิยมเลยต่างจากฉันที่กว่าจะเรียนจบได้หนักหนาเอาการอยู่ค่ะ""แล้วคุณหม่อนชอบทำอาหารทำไมเรียนบริหารล่ะคะ""ต้องช่วยพี่แพทกับคุณพ่อน่ะค่ะ...แ
"ฉันเจ็บ..ไอ้บ้า" หญิงสาวเจ็บไปทั้งตัวด้วยการกระทำของคนเอาแต่ใจเนื้อตัวของเธอแดงไปด้วยแรงกระชากของเขาจึงสบถต่อว่าอย่างเหลืออด"ด่าผมอีกสิแล้วพรุ่งนี้คุณจะได้เดินไม่ได้""อื้มมม..." ว่าจบก็บดจูบร่างบางเปลือยเปล่าส่งลิ้นร้ายตวัดฉกชิมความหวานจากโพรงปากหญิงสาวพักใหญ่และรีบถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกอย่างเร่งรีบก่อนจะเริ่มสอดใส่แท่งร้อนที่พร้อมกับศึกรักเต็มที่แล้วไปที่ร่องสวาทของหญิงสาวอย่างรุนแรง"ฉัน.. เจ็บ.. อื้อ.. อ๊ายย.. " สาวเจ้ารู้สึดระบมไปทั้งตัวเมื่อคนตัวโตถาโถมแรงกระแทกเธอจนตัวโยนทั้งยังขบกัดเต้างามเธอเล่นจนเป็นรอยแดงไปทั่ว"อ..อ่าสส..อืมม..." ชายหนุ่มที่กำลังมัวเมากับอารมณ์ที่พลุ่งพล่านไม่ได้สนใจเสียงร้องค้านของคนตัวเล็กใต้ร่างแม้สักนิดยังคงใช้ร่างกายของเธอเป็นที่ระบายอารมณ์อย่างไร้ซึ่งความนุ่มนวลพักใหญ่จนเสร็จสมแตะขอบสวรรค์"ปากก็ว่าขยักแขยงแต่เสียงหวานของคุณครางไม่หยุดเลยนะครับ" เมื่อบทสวาทสงบชายหนุ่มก็ล้มตัวนอนกอดก่ายร่างบางที่นอนน้ำตาไหลอยู่เงียบๆทั้งเอ่ยเย้าหยอกหญิงสาวด้วยน้ำเสียงระรื่น"หยุดพูดไปเลย...ฉันอยากรู้ว่าคุณจะปล่อยฉันกลับบ้านเมื่อไร" ใบหน้านวลหันมามองค้อนชายหนุ่มทีาเ