แก่นของนิยายเรื่องนี้คือ “รักต่างวัย” เน้นความรักของคู่รักที่มีวัยแตกต่างกันมาก ทว่าโชคชะตาก็เล่นตลกเหลือเกิน ที่ลิขิตให้สองชีวิตต่างวัยต้องมาพานพบประสพสวาท ดำเนินเรื่องราวของคู่รักต่างวัยสุดฟิน โคแก่ชอบกินหญ้าอ่อน... และหญ้าอ่อนก็ร้อนรักสุดๆ
View Moreโชว์ลีลาชิวหาพาเพลินเบิร์นกุหลาบงามของหล่อนได้อย่างถึงอกถึงใจ“อีกนิดนะจ๊ะ... ”คนชอบดูด ชอบเลียอยากลิ้มรสเม็ดทับทิมแดงๆ ที่ปูดเป่งขึ้นมาเหนือรอยแยกของร่องสวาท“โห... สวยเหลือเกิน”เขาแบะบีบกลีบเสียวจนปลิ้นขึ้นมาจากพุ่มขนสีดำ ก่อนจะกระหน่ำด้วยปลายลิ้นตั้งเป็นลำกระแทกทิ่มลงมาถี่ๆ บางครั้งก็ตะแคงลิ้นเสียดสีไล้เลียเม็ดกระสัน นั่นอาจจะเป็นเทคนิควิธีที่ทำให้ปลายลิ้นของโรมเคลื่อนไหวส่ายสั่นไปในทิศทางใหม่ๆ ถูกอกถูกใจจนเมียรักร้องคราง“อ๊อยยย... ”น้อยหน่าสะดุ้งเมื่อติ่งกระสันโดนขบกัดเบาๆ สลับดูดแรงๆ แล้วรวบเอาไว้ด้วยปลายลิ้น ส่งผลให้ปุ่มเนื้อเม็ดน้อยนูนเด่นแดงเรื่ออยู่ในอุ้งปากของพ่อโรมที่ขบเม้มเมามัน ไม่นานน้ำหล่อลื่นก็แตกซ่านออกมาอีกคำรบ “ไม่ไหวแล้วค่ะ... อูย” มือเรียวของหล่อนขยุ้มศีรษะของพ่อโรมเอาไว้แน่น แผ่นหลังบอบบางแอ่นระแน้ขึ้นจากพนักหัวเตียง ขณะปลายลิ้นของโรมรู้สึกได้ถึงอาการตอดตุบรุนแรง“อูย... เนื้อเต้นตุบๆ เชียว”หนุ่มใหญ่สายเบิร์นรับรู้ได้ถึงอาการตอบสนองรุนแรง กลีบสวาทของเมียรักหนีบแน่นอยู่กับปลายลิ้นของเขาที่ชอนไชเข้ามากวาดเลียความนุ่มอ่อนเหมือนใจกลางของเกลีย
มีเพศสัมพันธ์กันได้ทันทีเสียเมื่อไหร่ คงต้องรอให้ภรรยาได้พักฟื้นร่างกายจนกว่าจะพร้อม“ขอพ่อเข้าไปทักทายลูกนะครับ”คนดื้อไม่หยุดอ้อน“ไม่ได้ค่ะ... ” น้อยหน่ารีบห้าม อันที่จริงหล่อนกับพ่อโรมก็งดร่วมรักตลอดช่วงสามเดือนแรกที่รู้ว่าท้อง หมอสั่งว่าควรงดเพื่อความปลอดภัย เพราะในช่วงสามเดือนแรกครรภ์ยังอ่อน จะมีโอกาสเสี่ยงต่อการแท้ง“วันนี้ขอพ่อเข้าไปทักทายลูกนะจ๊ะ”“ไม่ได้ค่ะ... ของพ่อโรมทั้งใหญ่ทั้งยาว”น้อยหน่าส่ายหน้า เพราะรู้ว่าจะเป็นอันตรายกับลูก“พ่อไม่ได้หมายความว่าจะเอาน้องชายของพ่อใส่เข้าไปเมื่อไร... แต่พ่อโรมจะใช้ลิ้น... นะจ๊ะ”เพียงแค่สามีแลบลิ้นออกมาตวัดเลียริมฝีปาก น้อยหน่าก็รู้สึกร้อนวูบวาบไปทั้งช่องท้อง “จะดีหรือคะ?”โรมรู้ว่าถ้าภรรยาถามแบบนี้แสดงว่า ‘โอเค’ เพราะนานแล้วที่เขากับหล่อนไม่ได้ร่วมรักกัน น้อยหน่าเองก็ต้องอยากเป็นธรรมดา แต่การที่ต้องอุ้มท้องทำให้หล่อนเป็นกังวลทุกวันนี้โรมเฝ้าดูแลแม่ของลูกมิได้ห่าง อายุครรภ์เจ็ดเดือนเป็นช่วงที่เด็กทารกเติบโตอย่างรวดเร็ว ทำให้ท้องของน้อยหน่าโตขึ้นมากพ่อโรมคอยช่วยบีบนวดให้เป็นประจำเมื่อเห็นหล่อนแสดงอาการอึดอัด แน่นท้อง ปวดหลังปวดเ
ที่คลินิกในเมืองเชียงใหม่ ในตอนสายของวันเดียวกันนั้น ด้วยความตื่นเต้นดีใจจนออกนอกหน้า ใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงพ่อเลี้ยงโรมก็ขับรถพาน้อยหน่าเดินทางมาถึงคลินิกแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ในตัวเมืองเชียงใหม่“พ่อรออยู่ข้างนอกนะจ๊ะ”เสร็จจากพยุงร่างเอิบอิ่มของน้อยหน่าเข้ามาส่งในห้องตรวจซึ่งมีคุณหมอนั่งรออยู่ข้างใน พ่อโรมก็ก้าวกลับออกมาทรุดร่างสูงใหญ่ลงนั่งรออยู่ที่เก้าอี้หน้าห้องตรวจ จิตใจเอาแต่จดจ่อว้าวุ่นกระวนกระวายรอฟังว่าภรรยาจะท้องหรือเปล่า? ครู่ใหญ่ๆ ต่อมา น้อยหน่าเดินออกมาจากห้องตรวจด้วยใบหน้าซีดเซียว พ่อโรมรีบลุกขึ้นจากเก้าอี้ ตรงรี่เข้าประคองร่างของภรรยายสุดที่รัก ก่อนจะเหลือบไปเห็นว่าคุณหมอถือแฟ้มเดินตามออกมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม“ผลตรวจเป็นยังไงบ้างครับคุณหมอ”โรมถาม“ครับ... ลูกสาวคุณกำลังตั้งครรภ์ครับ ยินดีด้วยนะครับ... คุณกำลังจะมีหลานแล้วครับ”คุณหมอตอบ คำว่า ‘ลูกสาวคุณ’ และ ‘คำว่า ‘หลาน’ บอกให้รู้ว่าคุณหมอคิดว่าโรมเป็นพ่อของน้อยหน่าอย่างไม่ต้องสงสัยที่คุณหมอเข้าใจไปอย่างนั้นก็เป็นเพราะว่าได้ยินโรมแทนตัวเองว่า ‘พ่อ’ ทุกคำตอนที่พูดกับน้อยหน่า“ขอบคุณมากนะครับคุณหมอ”สี
น้อยหน่าถึงสวรรค์อย่างรุนแรง ยังคงโยกบั้นท้ายบดโม่หมุนวนก้นกอยเนิบนาบอยู่บนหน้าตักของเขาตอนนั้นโรมยังกระเด้าไม่หยุดสลับค้อมใบหน้าลงมาดูดสองเต้าเสียงดังจ๊วบจั๊บ สองมือเกร็งขยำบั้นท้ายของเมียรักเอาไว้แน่น แอ่นสะโพกกระเด้า กด เกร็งกล้ามเนื้อทุกส่วนเพื่อถ่ายเทน้ำรักฝากเอาไว้ในกายของภรรยาทุกหยดหยาดอีกสัปดาห์ต่อมาแผลของโรมเริ่มหายสนิทเป็นปกติ หลังจากตัดไหมเรียบร้อยแล้วเขาก็เริ่มออกตรวจงานในไร่ในนาตามปกติโรมทอดสายตาไปกลางทุ่ง ข้าวเหลืองเต็มนาที่ถูกเก็บเกี่ยวออกมาเป็นเมล็ดกว่าร้อยไร่เริ่มนำออกมาตากแดดให้แห้ง เพื่อนำส่งเข้าสู่กระบวนการสีออกมาเป็นเมล็ดข้าวต่อไป เช่นเดียวกับเมล็ดกาแฟในไร่ที่ถูกเก็บมาตากไว้กลางลานกว้าง โรมประเมินคร่าวๆ ด้วยสายตาก็พอจะรู้ว่าปีนี้ผลผลิตทั้งไร่ทั้งนาได้เกินกว่าเป้าที่ตั้งเอาไว้เมื่อกลับเข้ามาถึงบ้าน“น้อยหน่า”โรมเรียกภรรยาในทันทีที่ผลักประตูเข้ามาแล้วไม่เห็นหล่อน“คะ... พ่อโรมเรียกน้อยหน่าทำไมคะ”คนที่กำลังก้มหน้าอาเจียนอยู่ที่อ่างล้างหน้ารีบหันมาขานรับ“เป็นอะไร... ไม่สบายหรือยังไง?”โรมตกใจ เสียงอาเจียนดังลั่นทำให้เขารู้สึกเป็นห่วง“ไม่รู้ค่ะ... น้
“ถ้าอยากกินน้อยหน่าก็ได้... แต่หลังจากกินข้าวกินยาก่อนนะคะ... ค่อยกินน้อยหน่า”ภรรยารีบต่อรอง“วันนี้มีอะไรมาให้พ่อโรมกิน”“ข้าวต้มกุ้งค่ะ”หล่อนรู้ว่าพ่อโรมชอบ“เดี๋ยวนี้รู้ใจพ่อไปซะทุกอย่าง... น่ารักจัง”โรมเหลือบมองภรรยายกถ้วยข้าวต้มขึ้นจากถาด นำมาวางลงใกล้เตียง ใช้ช้อนคนเบาๆ ระบายควันร้อนที่ลอยขึ้นมาจากปากถ้วย“น้อยหน่าป้อนให้นะคะ”“จ้ะ... ”โรมรู้ว่าหญิงสาวคงอยากตอบแทน เพราะว่าถ้าเมื่อวานเขาไม่เสี่ยงชีวิตเข้าช่วยเอาไว้ หล่อนก็คงไม่มีโอกาสมานั่งป้อนข้าวต้มให้เขา“ขอบคุณพ่อโรมนะคะ”“เรื่องอะไร”“ก็ที่พ่อโรมเสี่ยงชีวิตช่วยหนู”“ก็หนูเป็นดวงใจของพ่อ... ไม่มีหนูพ่อโรมก็ไม่รู้ว่าจะอยู่ยังไง”น้อยหน่าเหลือบมองหน้าสามีแวบหนึ่ง โรมเห็นประกายซาบซึ้งในดวงตา“ทานข้าวแล้วเดี๋ยวทานยานะคะ”“จ้ะ”โรมอมยิ้ม รู้สึกได้เลยว่ายาแก้ปวดใดๆ ก็ไม่ดีไปกว่าการที่มีน้อยหน่านั่งเคียงข้างเอาอกเอาใจอยู่ใกล้ๆ“เมื่อวานหนูตกใจแทบช็อค... กลัวพ่อโรมถูกยิง... คราวหลังพ่อโรมอย่าทำอะไรเสี่ยงแบบนั้นอีกนะคะ”“แต่ก็คุ้มค่ากับการเสี่ยง” เสียงของพ่อโรมตอบกลับมาอย่างคนที่มีความดื้อรั้นอยู่ในตัว“คุ้มยังไง”“คุ้มสิจ๊ะ...
“อย่านะเสี่ย... ก็ไหนเสี่ยบอกว่าจะไม่ทำอันตรายคุณน้อยหน่า ถ้ากำนันโรมไม่พาคนบุกมา”สิ้นเสียงของคำแก้วหลังมือของเสี่ยเบิ้มก็สะบัดใส่หน้าของหล่อนเสียงดังฉาด ปรามว่าอย่ายุ่ง ทำให้คำแก้วจำต้องนิ่งอยู่ในอาการสะกดเก็บความโกรธ กัดฟันมองเสี่ยเบิ้มเดินกลับเข้าไปในแค้มป์เพื่อจัดการกับน้อยหน่าโรมได้โอกาสก็ไม่รอรี่ เขาปรี่ออกมาจากพุ่มไม้ที่ซ่อนดูเหตุการณ์อยู่เงียบๆ“ใครวะ... ”ปังๆ ๆ ๆ ๆ ๆเสียงปืนอูซี่ในมือลูกสมุนเสี่ยเบิ้มสาดเข้ามาที่ร่างของกำนันโรม เขาสามารถตีลังกาหลบหลีกห่ากระสุนได้อย่างเหลือเชื่อ“รู้จักกูน้อยไปแล้ว”โรมกระเสือกกายหลบอยู่หลังขอนไม้ เมื่อสุดปลาย ของที่กำบังเขาก็ผงาดขึ้นมากราดปืนใส่ร่างสมุนเสี่ยเบิ้มทั้งห้าคนจนงายหลังตกไปยังซอกเหวที่อยู่ด้านหลังโรมพุ่งเข้ามาในแค้มป์คนงานซึ่งตอนนั้นมีเพียงไอ้เสี่ยเบิ้มกับน้อยหน่า เสี่ยเบิ้มกำลังจะแก้มัดให้น้อยหน่าเพื่ออุ้มขึ้นมาปลุกปล้ำขืนใจบนเตียงโรมยกเท้าขึ้นถีบหน้าต่างดังโครมแล้วพุ่งเข้าตัวเข้ามาในห้อง“ไอ้เสี่ยนรก... อย่าแตะต้องเมียกูแม้แต่เส้นผม”เสี่ยเบิ้มซึ่งตอนนั้นกำลังเงอะงะ ทำอะไรไม่ถูกเพราะเสียงปืนที่ดังขึ้นจากภายนอก“ตายเสียเถอะม
คำแก้วตกใจ อันที่จริงหล่อนตั้งใจว่าจะหนีไปเงียบๆ เพียงลำพัง แต่สถานการณ์กลับพลิกผันไปสู่ความวุ่นวายซึ่งคำแก้วเชื่อว่าต้องบานปลายใหญ่โตแน่ๆ“เอ็งนี่โง่ไปได้... ก็เอาไว้ต่อรองสิวะ ต่อรองกับคนของกำนันโรมว่าอย่างเพิ่งบุกเข้ามาที่แค้มป์คนงาน ขอเวลาให้คนของเราขนย้ายของลงเรือสักชั่วโมง”มีสายส่งข่าวให้เสี่ยเบิ้มรู้เช่นกัน ว่ากำนันจะพาคนบุกเข้ามาทลายแค้มป์คนงานที่แอบตั้งอยู่กลางป่าเพื่อตัดไม้ ด้วยความเสียดายไม้บางส่วนที่ตัดโค่นเอาไว้แล้ว เสี่ยเบิ้มตัดสินใจว่าจะล่องไม้ไปตามลำน้ำที่อยู่ด้านหลังของชายป่า ใช้เวลาชั่วโมงเดียวคงชักลากกันเสร็จ ถ้าไม้ล่องเข้าเขตพม่าเสียแล้วก็ยากที่ทางการจะตามจับ“เสี่ยอย่าทำอะไรคุณน้อยหน่าเลยนะ”คำแก้วเป็นห่วง อันที่จริงหล่อนไม่ใช่คนที่เลวร้ายโดยกมลสันดาน แต่เป็นเพราะความริษยาที่นำพาชีวิตไปสู่ทางต่ำ“ถ้าไอ้กำนันโรมมันยอมฟังข้อต่อรอง... บางทีเสี่ยอาจจะไว้ชีวิตเมียมัน”เสี่ยเบิ้มเจ้าเล่ห์ คำตอบที่ได้ยินไม่ได้ทำให้คำแก้วรู้สึกโล่งใจเลยสักนิด“เอาโทรศัพท์มานี่”เสี่ยเบิ้มกระชากโทรศัพท์มาจากมือของคำแก้ว ยกขึ้นถ่ายภาพน้อยหน่าที่นอนสลบอยู่บนเบาะด้านหลังของรถตู้“เอ็งรีบส่งภ
นั่นก็เป็นเสน่ห์ที่ทำให้ ‘กำนันโรม’ คนนี้แตกต่างจากผู้ชายคนอื่น “แสดงว่าหอมขี้เต่าพ่อกระมัง... แบบนี้หลงกลิ่นฟีโรโมนพ่อโรมเข้าแล้วใช่ไหม?” โรมบีบจมูกสาวน้อยเบาๆ แกล้งใช้รักแร้ซึ่งเต็มไปด้วยขนรักแร้หนีบศีรษะของภรรยาอ่อนเยาว์เอาไว้แน่น “อ๊อย... พ่อโรมบ้า... ชอบแกล้งน้อยหน่าอ่ะ” กำปั้นน้อยๆ ทุบรัวอยู่ที่แผงอกแกร่งของสามีรุ่นราวคราวพ่อ ก่อนจะเอื้อมมือเรียวขึ้นมาลูบคลำใบหน้าคมคร้าม กระเสือกกายขึ้นมาจูบแก้มกำนันโรมเสียงดังฟอดใหญ่เหมือนให้รางวัล “น้อยหน่ารักพ่อโรมค่ะ... รักที่สุด พ่อโรมยอดรักของน้อยหน่า”หล่อนยอมรับว่าหลงรักรอยยิ้มของเขา หลงรักดวงตาสีสนิมเหล็กและผิวสีทองแดงคร้ามแดด พ่อโรมคนนี้ทำให้น้อยหน่าคลั่งใคล้หลงใหลในทุกๆ อย่างที่เป็นเขา“อย่าแกล้งหลอกให้คนแก่ดีใจนะ”โรมทำทีเป็นพริ้มตาชื่นใจที่ภรรยาบอกว่ารัก“หลอกคนแก่บาปน๊า... ”มือใหญ่เชยคางน้อยๆ ขึ้นมาจูบ“ไม่ได้หลอกนะคะ... น้อยหน่ารักพ่อโรมหมดหัวใจแล้วค่ะ... ชีวิตนี้น้อยหน่าคงรักใครไม่ได้อีกแล้ว”“ปลื้มจัง”หัวใจของกำนันโรมพองโตกับคำพูดของภรรยาที่ได้ยิน น้อยหน่านึกในใจว่าพ่อโรมจะรู้ต
มือเรียวพลักบ่าของพ่อโรมเป็นเชิงห้าม ยิ่งเขากระแทกลิ้นและริมฝีปากดูดเลียลงมาหนักๆ ก็ยิ่งทำให้น้อยหน่าอ่อนระทวย “ชอบจัง” หล่อนรู้สึกถึงความเต็มตื้นในอารมณ์รักใคร่ที่พ่อโรมกำลังปรนเปรอให้ ภายในช่องท้องกำลังแขม่วเกร็งเพราะเกิดความตื่นเต้นขึ้นมาอย่างประหลาดล้ำ “เปียกเยิ้มหมดแล้ว”โรมดูดเลียจนน้ำหล่อลื่นสาดทะลักออกมา เขาใช้ปลายลิ้นเคล้นคลึงติ่งกระสันจนน้ำหวานหลั่งออกมาเป็นระลอกที่สอง “พ่อโรมทนไม่ไหวแล้ว... วันนี้ของพ่อแข็งเป็นหินเลยจ้ะ หนูลองจับดูนะจ๊ะ... พ่ออยากให้หนูจับ”คำขอของพ่อโรมทำให้หัวใจของน้อยหน่าเต้นแรง นิ้วมืองุ่มง่ามไร้ประสบการณ์ค่อยๆ ลูบล้วงเข้ามาคลำแก่นกายผงาดกล้าระหว่างหน้าขาของเขา ความใหญ่ยาวขนาดเท่าๆ ท่อนแขนทำให้น้อยหน่ารู้สึกหวาดกลัว“พ่อโรมค่อยๆ นะคะ... น้อยหน่ากลัวเจ็บ”“จ้ะ... พ่อจะใส่ช้าๆ ค่อยๆ เบาๆ เจ็บแค่นิดเดียวเท่านั้น เหมือนมดกัด จากนั้นหนูจะมีแต่ความสุข”บอกแล้วพ่อโรมก็เแทรกลำตัวเข้ามาระหว่างง่ามขาที่เปิดรับอย่างฝืนๆบอกแล้วพ่อโรมก็เแทรกลำตัวเข้ามาระหว่างง่ามขาที่เปิดรับอย่างฝืนๆโรมค่อยๆ ส่ายเสียดส่วนปลายแดงก่ำ
นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องที่สมมติขึ้นไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องจริงแต่อย่างใด ชื่อบุคคลและสถานที่ที่ปรากฏในเนื้อเรื่อง ไม่มีเจตนาอ้างอิงหรือก่อให้เกิดความเสียหายใดๆ“น้อยหน่า... จากนี้ต่อไปหนูต้องดูแลตัวเองนะลูก หนูต้องเป็นเด็กดี อย่าดื้อให้ลุงโรมเพื่อนพ่อต้องหนักใจ จากนี้ไปลุงโรมจะเป็นคนดูแลหนูแทนพ่อ”ยุทธนาบอกลูกสาวด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง สั่นเครือ แต่ก็ไม่ยอมร้องไห้ แค่ขยับปากพูดก็เหนื่อย ในวันที่รู้ตัวแล้วว่าวาระสุดท้ายของตนกำลังใกล้เข้ามาทุกที หลังจากทรมานกับการรักษาตัวเพราะป่วยเป็นมะเร็งในสมองขั้นสุดท้าย ก้อนเนื้อร้ายอยู่ในตำแหน่งที่ยากยิ่งต่อการผ่าตัด“คุณพ่อจะต้องไม่เป็นอะไรนะ... ฮือๆ”น้อยหน่าน้ำตาซึม ก่อนที่หยาดน้ำตากลมเกลี้ยงจะกลิ้งลงมาอาบนวลแก้มแม้ว่าหล่อนจะถูกเลี้ยงดูให้เป็นคนเข้มแข็ง แต่วันนี้น้อยหน่าก็อดร้องไห้ไม่ได้จริงๆ สิ้นบิดาสักคนหล่อนก็คงไม่เหลือใครแล้ว ความรู้สึกเหมือนเรือที่ล่องลอยเคว้งคว้างในท่ามกลางหมาสมุทรเพียงลำพัง เพราะว่ามารดาก็เสียไปตั้งแต่ตอนที่หล่อนมีอายุได้เพียงขวบเศษๆ“หนูต้องเข้มแข็ง... ต่อให้ไม่มีพ่อ... หนูก็ต้องดำเนินชีวิตต่อไปให้ได้... ไม่ต้องห่วง
Comments