“หนูอยากให้ลุงโรมเป็นพ่อหนู... หนูเรียกลุงโรมว่าพ่อโรมได้ไหมคะ”
น้อยหน่าเอ่ยออกมา
“ได้สิ... จะเรียกลุงโรมหรือพ่อโรมก็ได้”
อารมณ์ของโรมสะดุดลงนิดนึง ตอนแรกเขาคิดว่าลูกสาวของเพื่อนกำลังทอดสะพาน แต่คำพูดที่ได้ยินชัดเจนเต็มสองหูเมื่อครู่ก็ทำให้เข้าใจแล้วว่าน้อยหน่าคงรู้สึกกับเขาอย่าง ‘พ่อ’ คนหนึ่งเท่านั้นเอง
โรมตำหนิตัวเองที่แอบคิดไปในทางชู้สาว เพราะเขาเองก็ยอมรับว่าเจ้าชู้ เป็นชายชาตรีทั้งแท่งที่ยังมีความปรารถนาในความรักความใคร่เหมือนคนทั่วๆ ไป
“พ่อโรม... พ่อโรมของน้อยหน่า”
ขณะรถแล่นไปตามทางดินสายเล็กๆ มุ่งสู่หนองน้ำน้อยหน่าสวมกอดเขาแน่นเมื่อโรมอนุญาตให้เรียก ‘พ่อ’
“ถึงแล้วจ้ะ... ”
โรมทอดสายตาไปยังหนองน้ำ แลเห็นบัวสายชูดอกสีแดงสะพรั่งเบ่งบานไปทั้งบึง
“น้อยหน่าอยากเล่นน้ำค่ะพ่อโรม... พ่อโรมขับรถไปจอดใกล้ๆ กระท่อมตรงโน้นได้ไหมคะ”
“ได้สิ”
เหมือนคำสั่งของหญิงสาวนั้นเป็นมนต์สะกด โรมรีบเลี้ยวรถโฟล์คกอล์ฟไปยังกระท่อมร้างใต้ต้นตะแบกร่มครึ้ม แลเห็นดอกสีม่วงร่วงพลิ้วลงมาตามแรงลมราวกับมีมือที่มองไม่เห็นช่วยหว่านโปรยลงมา
“สวยจังค่ะ”
น้อยหน่าทอดสายตามองริ้วน้ำใสแจ๋วในบึงด้วยความรู้สึกอยากลงไปแหวกว่ายจนทนไม่ไหว
“เดี๋ยว... ”
โรมกำลังจะบอกว่าน้ำลึก แต่ช้าไปแล้ว เพราะสาวน้อยเดิ่นลิ่วๆ ลงไปแหวกว่ายทั้งเสื้อผ้า หลังจากดำผุดดำว่ายอยู่ครู่ใหญ่ๆ ก็โผล่ขึ้นมาในสภาพเสื้อผ้าเปียกปอน
“พ่อโรมลงมาเล่นด้วยกันนะคะ”
น้อยหน่ารีบชวน
“ก็อยากเล่นเหมือนกัน... แต่น่าเสียดายที่พ่อโรมไม่ได้เอาเสื้อผ้ามาเปลี่ยน”
“ถอดเสื้อผ้าเลยสิคะพ่อโรมขา เหลือแค่กางเกงในตัวเดียวก็ได้ ไม่ต้องกลัวน้อยหน่าจะมองหรอกค่ะ”
เสียงใสออดอ้อน
“เอาจริงอ่ะ... ”
โรมทำท่าเขินๆ ปกติเขาเคยมาออกกำลังกายด้วยการว่ายน้ำที่นี่บ่อยๆ จนมีร่างกายบึกบึนอย่างที่เห็น และทุกครั้งก็ชอบแก้ผ้าเล่นน้ำเสียด้วย ทำให้มองว่าการแก้ผ้าสำหรับเขานั้นเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว
“นะคะ... มาเล่นด้วยกันค่ะพ่อโรม... เร็วค่ะ”
น้อยหน่าออดอ้อนเสียงหวาน เมื่อเห็นว่าโรมเริ่มออกอาการลังเล
“ก็ได้... งั้นลุงไม่เกรงใจแล้วนะ”
ไม่รู้อะไรดลใจโรมให้มีความกล้าหาญขึ้นมาอย่างที่เห็น หรืออาจเป็นเพราะว่าสีหน้าและแววตาคะยั้นคะยอของหลานสาวสุดเซ็กซี่นั่นเอง ทำให้หนุ่มใหญ่รู้สึกอยากเล่นน้ำ นานมากแล้วที่ไม่มีใครชวนให้เขาทำอะไรสนุกๆ แบบนี้
“น้อยหน่าปิดตาก่อนก็ได้”
บอกพลางยกสองมือขึ้นปิดตา แอบมองลอดรูห่างนะหว่างนิ้วด้วยความอยากเห็น จากนั้นก็รีบหันหลังให้โรม แอบเห็นว่าเขาถอดเสื้อผ้าจนเหลือแต่กางเกงบ็อกเซอร์ตัวเดียว
กระทั่งได้ยินเสียงร่างกำยำของคนตัวใหญ่กระโจนโครมลงน้ำ ตอนนั้นหล่อนจึงหันกลับมามอง เห็นโรมกำลังแหวกว่ายไปกลางเวิ้งน้ำ ตรงรี่ไปยังกอบัวสายที่ชูช่ออวดดอกสีแดงสะพรั่ง
โรมค่อยๆ ขยับเข้าไปใกล้กอบัว เขาเลือกเด็ดดอกซึ่งคิดว่าสวยที่สุด จากนั้นก็แหวกว่ายนำกลับมาให้หญิงสาว
“สำหรับหลานสาวแสนสวยของลุง”
ดอกบัวงามถูกยื่นมาตงหน้า ขณะสายตาของโรมจับจ้องอยู่กับเม็ดบัวน้อยๆ ที่เสียดสีอยู่ภายใต้เนื้อผ้าเปียกน้ำ ที่เห็นเด่นชัดก็เป็นเพราะว่าน้อยหน่าโนบรานั่นเอง ทำให้เนื้อผ้ายืดบางๆ แนบเน้นเต้าทรวงสาวขึ้นมาเป็นรูปเป็นร่างสะดุดตา ความอวบใหญ่ที่เห็นทำเอาคนมองหัวใจเต้นระทึก
“เสียบให้น้อยหน่าสิคะพ่อโรมขา... ”
หญิงสาวออดอ้อน
“เอิ่ม... ”
โรมชะงักไปนิด บ้าจริง... เขาตำหนิตัวเองที่รู้สึกอ่อนไหวกับคำว่า ‘เสียบ’ ขึ้นมาทันที จู่ๆ ก็นิ่งเหมือนทำอะไรไม่ถูก กระทั่งหญิงสาวเอ่ยขึ้นมาอีกครั้ง
“เสียบดอกบัวทัดหูให้น้อยหน่านะคะพ่อโรม”
“ได้จ้ะ... ”
โรมเผลอพรูลมหายใจออกมาด้วยความโล่งอก เพราะว่าดอกบัวสายที่เด็ดมานั้นเป็นพันธ์ดอกเล็ก ทำให้ดอกของมันทัดหูของน้อยหน่าได้พอดิบพอดี
“สวยเหลือเกิน... ”
ลุงโรมทอดสายตามองใบหน้าของหลานสาว เผลอชมออกมาดังๆ เหมือนลืมไปว่าบางคำพูดควรจะเก็บเอาไว้ในใจ
“ดอกบัวหรือน้อยหน่าคะที่สวย”
หญิงสาวทำหน้าอยากรู้
“ดอกบัวสวย... แต่น้อยหน่าของลุงสวยกว่าเป็นร้อยเป็นพันเท่า”
“ลุงโรมปากหวานจัง... ”
คนถูกชมกล่าวอายๆ
“ทำไมคิดว่าลุงปากหวาน... เคยชิมแล้วหรือ?”
สุ้มเสียงเหมือนท้าทาย
“พูดแบบนี้... จะให้น้อยหน่าลองชิมใช่ไหมคะ”
จัดให้ พูดจบมือเรียวก็โอบใบหน้าครึ้มเคราของลุงโรม ลูบไล้เบาๆ คล้ายจะพิจารณาความหล่อเหลาโดยที่โรมไม่ทันตั้งตัว
“อุ๊ย”
คนกำลังจะโดนจูบตกใจเล็กน้อย แต่ก็เอียงใบหน้าจนได้องศารับริมฝีปากอวบอิ่มของหญิงสาวที่บดนาบเข้ามาประกบกันแนบแน่น
“อ่าห์... ”หลังจากแลกลิ้นกันอย่างดูดดื่มเร่าร้อน โรมเป็นฝ่ายหลุดเสียงครางออกมาก่อน เพราะรสชาติจากปลายลิ้นหวานละมุนของหลานสาวที่สอดล้วงเข้ามาเกี่ยวกระหวัดรัดร้อยดูดเลียลิ้นของกันและกันดื่มด่ำ ทำให้เขาเสียวซ่านเหมือนมีกระแสไฟอ่อนๆ ไชชอนลงไปทั่วร่างถึงปลายเท้า“ซี้ดดด... อ่าห์”น้อยหน่าเผลอครางออกมาเช่นกัน ที่หล่อนและโรมรู้สึกซ่านเสียวเพียงจูบแรกก็เพราะว่าในทุกอณูของลิ้นนั้นเต็มไปด้วยเส้นประสาท การจูบกันอย่างดื่มด่ำด้วยลิ้นจึงสามารถจุดไฟพิศวาสขึ้นโดยง่าย “ลุงโรมจูบเก่งจัง” น้อยหน่ายอมรับว่ารู้สึกร้อนวูบวาบ ครั้นแล้วหล่อนก็ร้องออกมาเสียงดังลั่น “ว้าย... ช่วยด้วยค่ะ... ตะคริวค่ะ... อ๊อย” โรมผวาเข้าคว้าร่างของหลานสาวเข้ามากอดเอาไว้ “ไม่ต้องกลัว... กอดลุงไว้แน่นๆ” โรมบอกให้รู้ว่าหล่อนจะปลอดภัยอย่างแน่นอนเมื่ออยู่ใกล้เขา รีบช้อนร่างอวบอัดของหลานสาวขึ้นอุ้มเอาไว้ในอ้อมแขน สองแขนน้อยๆ ของน้อยหน่าโอบรัดอยู่รอบลำคอบึนหนาของโรม “อากาศเย็น... น้ำเย็น... หนูคงยังไม่คุ้นกับที่นี่” เขาอุ้มร่างระทดระทวยของหลานสาวเข้ามาในกร
นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องที่สมมติขึ้นไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องจริงแต่อย่างใด ชื่อบุคคลและสถานที่ที่ปรากฏในเนื้อเรื่อง ไม่มีเจตนาอ้างอิงหรือก่อให้เกิดความเสียหายใดๆ“น้อยหน่า... จากนี้ต่อไปหนูต้องดูแลตัวเองนะลูก หนูต้องเป็นเด็กดี อย่าดื้อให้ลุงโรมเพื่อนพ่อต้องหนักใจ จากนี้ไปลุงโรมจะเป็นคนดูแลหนูแทนพ่อ”ยุทธนาบอกลูกสาวด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง สั่นเครือ แต่ก็ไม่ยอมร้องไห้ แค่ขยับปากพูดก็เหนื่อย ในวันที่รู้ตัวแล้วว่าวาระสุดท้ายของตนกำลังใกล้เข้ามาทุกที หลังจากทรมานกับการรักษาตัวเพราะป่วยเป็นมะเร็งในสมองขั้นสุดท้าย ก้อนเนื้อร้ายอยู่ในตำแหน่งที่ยากยิ่งต่อการผ่าตัด“คุณพ่อจะต้องไม่เป็นอะไรนะ... ฮือๆ”น้อยหน่าน้ำตาซึม ก่อนที่หยาดน้ำตากลมเกลี้ยงจะกลิ้งลงมาอาบนวลแก้มแม้ว่าหล่อนจะถูกเลี้ยงดูให้เป็นคนเข้มแข็ง แต่วันนี้น้อยหน่าก็อดร้องไห้ไม่ได้จริงๆ สิ้นบิดาสักคนหล่อนก็คงไม่เหลือใครแล้ว ความรู้สึกเหมือนเรือที่ล่องลอยเคว้งคว้างในท่ามกลางหมาสมุทรเพียงลำพัง เพราะว่ามารดาก็เสียไปตั้งแต่ตอนที่หล่อนมีอายุได้เพียงขวบเศษๆ“หนูต้องเข้มแข็ง... ต่อให้ไม่มีพ่อ... หนูก็ต้องดำเนินชีวิตต่อไปให้ได้... ไม่ต้องห่วง
“ย่างสิบเก้าแล้วค่ะ”ในวัยย่างสิบเก้าปีน้อยหน่าช่างดูสวยสะพรั่งเกินตัว ผิวพรรณของหล่อนขาวผ่องและเปล่งปลั่งไปด้วยเลือดเนื้อของวัยสาว ทว่าสิ่งที่โรมแอบสังเกตเห็นอีกอย่างก็คือแววตาคมสวย แต่แฝงประกายเร่าร้อนวูบวับอยู่เบื้องหลังความสดใส “หนูโตขึ้นมาก... ”โรมย้อนระลึกกลับไปในอดีตเมื่อแปดปีที่ผ่านมา ตอนที่เขาตัดสินใจย้ายไปอยู่อเมริกา“เมื่อก่อนคุณลุงเคยเห็นหนูด้วยหรือคะ?”น้อยหน่าแปลกใจ หัวคิ้วโค้งราวคันศรขมวดชิดเข้าหากัน“เคยเห็นจ้ะ... ตอนนั้นลุงแวะมาหายุทธนาพ่อของหนู เคยเห็นหนูวิ่งเล่นอยู่หน้าบ้าน บังเอิญวันนั้นลุงรีบมาก มีธุระด่วนเลยต้องรีบกลับ ทักทายกันเดี๋ยวเดียวเท่านั้นเอง วันนั้นลุงซื้อตุ๊กตาหมีมาฝากหนูด้วย จำได้ว่าเป็นวันเกิดของหนูพอดี”น้อยหน่ารู้สึกตกใจ หล่อนเพิ่งรู้ก็ตอนนี้เอง ว่าเจ้าหมีขาวขนยาวปุกปุยตัวใหญ่ที่นอนกอดมาตั้งแต่เล็กๆ จนถึงทุกวันนี้... ที่แท้ก็ลุงโรมนั่นเองที่เป็นคนซื้อให้“ตุ๊กตาตัวนั้นทุกวันนี้ยังอยู่ค่ะลุงโรม... น้อยหน่าเอาไปด้วยค่ะ”หล่อนเหลือบมองกระเป๋าสัมภาระที่วางรวมอยู่หน้าบ้าน โรมทอดสายตาไปยังข้าวของที่น้อยหน่าขนออกมาเตรียมรอเอาไว้ที่หน้าบ้าน เดาว่
สัปดาห์ต่อมา“ลุงจะพาไปเที่ยวทุ่งนาด้านหลัง... ดีมั้ย ถ้าหนูอยากสูดอากาศบริสุทธิ์”“ดีค่ะ... น้อยหน่าอยากเห็นค่ะลุงโรม”ท่าทางของสาวน้อยดูตื่นเต้น“มีเสื้อกันหนาวมาด้วยมั้ย... ”เสียงของโรมบอกความห่วงใย ขณะสายตาจับอยู่ที่พวงแก้มนวลปลั่งของหลานสาวแสนสวย ตอนนี้ใกล้จะค่ำแล้ว อากาศเริ่มเย็นลงทุกที“มีค่ะ... ”น้อยหน่าตอบพลางเงยหน้าขึ้นสบตาลุงโรมขณะยกนิ้วขึ้นเกลี่ยช่อผมบางส่วนที่ปลิวลงมาเคลียแก้ม เกี่ยวด้วยนิ้วขึ้นไปทัดเอาไว้หลังใบหู“ลุงโรมหล่อจัง”แสงแดดลำสุดท้ายที่สาดมากระทบโครงร่างสูงใหญ่สุดสมาร์ทของเจ้าของบ้าน ทำให้น้อยหน่ามองเห็นความหล่อเหลาของโรมได้อย่างชัดเจนเต็มตา“นึกยังไงมาชมลุง”โรมขัยบเข้ามาใกล้ร่างเอิบอิ่ม ยกมือขึ้นลูบศีรษะของน้อยหน่าด้วยความรู้สึกเอ็นดู ยิ่งเข้ามาใกล้หล่อนเขายิ่งรู้สึกตื่นเต้น“มองอะไรจ๊ะ”โรมถามเมื่อเห็นน้อยหน่าตะลึงจ้องหน้าเขาไม่วางตา ผิวสีทองแดงคร้ามแดดยิ่งเสริมส่งให้โรมดูคมเข้มสมชายชาตรี เนื้อตัวกำยำไปด้วยมัดกล้าม ใบหน้าคมคร้ามไร้ที่ติติง แพหนวดดกหนาเหนือริมฝีปากทำให้ยิ่งแลดูน่าครั่นคร้าม แต่ในสายตาของน้อยหน่ากลับมองว่าน่ารัก“ถามก็ไม่ตอบ”“มองลุงโรมนั่น