Share

ตอนที่ 2

“ย่างสิบเก้าแล้วค่ะ”

ในวัยย่างสิบเก้าปีน้อยหน่าช่างดูสวยสะพรั่งเกินตัว ผิวพรรณของหล่อนขาวผ่องและเปล่งปลั่งไปด้วยเลือดเนื้อของวัยสาว ทว่าสิ่งที่โรมแอบสังเกตเห็นอีกอย่างก็คือแววตาคมสวย แต่แฝงประกายเร่าร้อนวูบวับอยู่เบื้องหลังความสดใส

          “หนูโตขึ้นมาก... ”

โรมย้อนระลึกกลับไปในอดีตเมื่อแปดปีที่ผ่านมา ตอนที่เขาตัดสินใจย้ายไปอยู่อเมริกา

“เมื่อก่อนคุณลุงเคยเห็นหนูด้วยหรือคะ?”

น้อยหน่าแปลกใจ หัวคิ้วโค้งราวคันศรขมวดชิดเข้าหากัน

“เคยเห็นจ้ะ... ตอนนั้นลุงแวะมาหายุทธนาพ่อของหนู เคยเห็นหนูวิ่งเล่นอยู่หน้าบ้าน บังเอิญวันนั้นลุงรีบมาก มีธุระด่วนเลยต้องรีบกลับ ทักทายกันเดี๋ยวเดียวเท่านั้นเอง วันนั้นลุงซื้อตุ๊กตาหมีมาฝากหนูด้วย จำได้ว่าเป็นวันเกิดของหนูพอดี”

น้อยหน่ารู้สึกตกใจ หล่อนเพิ่งรู้ก็ตอนนี้เอง ว่าเจ้าหมีขาวขนยาวปุกปุยตัวใหญ่ที่นอนกอดมาตั้งแต่เล็กๆ จนถึงทุกวันนี้... ที่แท้ก็ลุงโรมนั่นเองที่เป็นคนซื้อให้

“ตุ๊กตาตัวนั้นทุกวันนี้ยังอยู่ค่ะลุงโรม... น้อยหน่าเอาไปด้วยค่ะ”

หล่อนเหลือบมองกระเป๋าสัมภาระที่วางรวมอยู่หน้าบ้าน โรมทอดสายตาไปยังข้าวของที่น้อยหน่าขนออกมาเตรียมรอเอาไว้ที่หน้าบ้าน เดาว่าตุ๊กตาหมีขาวที่หญิงสาวเอ่ยถึงคงกำลังนอนนิ่งอยู่ในกระเป๋าเดินทางใบไหนสักใบ

“ถ้าพร้อมแล้วเราไปกันเลยดีกว่า”

โรมก้าวเข้ามาช่วยยกกระเป๋าเดินทางขึ้นซ้อนกันแล้วลากเอามาใส่ไว้ที่ด้านหลังของรถกระบะคันใหญ่

“น้อยหน่าช่วยยกนะคะคุณลุง”

หญิงสาวเกรงใจ ทำท่าว่าจะเข้ามาช่วย

“ไม่ต้องครับ เดี๋ยวลุงจัดการเองครับ... กระเป๋าใหญ่ๆ ทั้งนั้น แขนน้อยๆ แบบนี้หนูยกไม่ไหวหรอก”

จริงอย่างที่ลุงโรมบอก เพราะว่ากระเป๋าเดินทางแต่ละใบถูกบรรจุเอาไว้ด้วยข้าวของจนเต็มแน่น สาเหตุที่สัมภาระค่อนข้างเยอะก็เพราะว่ามันเป็นการย้ายบ้านครั้งแรกของน้อยหน่า

“อาทิตย์หน้าจะมีคนมาซื้อบ้านหลังนี้”

โรมบอก หลังจากยุทธนาสั่งเอาไว้ว่าให้ช่วยขายบ้านหลังนี้ให้ที เงินที่ได้จากการขายบ้านให้เก็บเอาไว้เป็นทุนรอนของน้อยหน่าผู้เป็นลูกสาว

“ทำไมขายได้เร็วจังคะ”

น้อยหน่าสงสัย

“ลุงมีเพื่อนเป็นนายหน้าขายบ้านกับที่ดินอยู่หลายคน ฝากบอกไปไม่กี่วันก็มีคนสนใจ”

“ขอบคุณลุงโรมมากค่ะ”

น้อยหน่าน้ำตาคลอ ทั้งที่ดีใจที่ขายบ้านได้ก็จริง ทว่าก็อดไม่ได้ที่จะต้องเหลียวกลับไปพึมพำคล้ายสั่งลาบ้านที่เคยอาศัยอยู่มานานกว่าสิบแปดปี

“ไปกันเถอะ... ไปอยู่บ้านลุง จากนี้ไปลุงจะดูแลหนูเอง”

โรมบอกพลางเดินนำหน้ามาขึ้นรถ น้อยหน่าเดินตามมานั่งเคียงข้างกับร่างสูงใหญ่ของเพื่อนบิดา พากันมุ่งหน้าสู่อำเภอแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ ตั้งอยู่กลางหุบเขาซึ่งเป็นจุดหมายปลายทาง

ในเวลาต่อมา ที่อำเภอแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขาด้านทิศตะวันตกของจังหวัดเชียงใหม่

โรมเป็นลูกครึ่งต่างชาติก็จริง แต่ช่างน่าแปลกที่เขาหลงใหลในชีวิตเกษตรกรจนลงทุนซื้อที่ดินมากมายเพื่อใช้ทำไร่ทำนา

ทุกวันนี้เขาปลูกข้าวกินเอง โดยจ้างแรงงานในพื้นที่ตั้งแต่หว่านดำจนมาถึงเก็บเกี่ยวและสีข้าวออกมาเป็นเมล็ดในขั้นตอนสุดท้าย

ทุกวันนี้เขากลายเป็นผู้ส่งออกข้าวไรซ์เบอร์รี่เป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ รองมาจากกาแฟที่ปลูกเอาไว้หลายร้อยไร่

ทั้งที่โรมย้ายมาอยู่ในอำเภอนี้ได้ไม่กี่ปี แต่ด้วยความที่เป็นคนมีวิสัยทัศน์และบุคลิกภาพความเป็นผู้นำเด่นชัด ก็ทำให้เขาได้รับเลือกตั้งเป็นกำนัน ทุกวันนี้ผู้คนในแถบถิ่นนี้ต่างก็รู้จักเขาดีในชื่อ ‘กำนันโรม’ และ ‘พ่อเลี้ยงโรม’  

การเข้ามาของโรมทำให้เกิดการจ้างงานในพื้นที่มากมาย เขาริเริ่มโครงการโน่นนี่มากมายไม่ได้หยุด ทั้งรับซื้อผลผลิตทางการเกษตรของชาวบ้านที่นำมาขายโดยไม่กดราคาเพราะเขามีฐานะร่ำรวยอยู่แล้ว รวยมากเข้าขั้นเศรษฐีก็ว่าได้ คงไม่แปลกหากผู้คนจะตั้งฉายาให้เขาว่า ‘เศรษฐีภูธร’

โรมแนะนำน้อยหน่ากับผู้คนในบ้านว่าหล่อนเป็น ‘หลาน’ เป็นลูกสาวของเพื่อนรักที่ฝากฝังให้ช่วยดูแล และจากนี้ไปทุกคนต้องให้ความเคารพน้อยหน่าเหมือนอย่างที่ให้ความเคารพเขา

“บ้านลุงโรมสวยจังค่ะ”

น้อยหน่ากวาดสายตาแลสำรวจไปรอบๆ อาณาบริเวณบ้านหลังใหญ่ของลุงโรม เบื้องหลังรั้วรอบขอบชิดของกำแพงศิลาแลงก้อนใหญ่โอบล้อมไปด้วยไร่นาเขียวขจี สภาพแวดล้อมรอบๆ กายชวนให้ตื่นตาตื่นใจไปหมด

บ้านหลังใหญ่ของโรมปลูกสร้างด้วยปูนเปลือยผสมผสานกับอิฐและไม้ ตั้งตระหง่านอยู่บนเนินหญ้าเขียวขจีเหมือนภูเขาเตี้ยๆ

“ทีแรกลุงเกรงว่าหนูอาจจะไม่ชอบที่นี่... เพราะมันบ้านนอกเหลือเกิน ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็มีแต่ป่าแต่เขา”

“ชอบสิคะคุณลุง... ชอบมาก”

น้อยหน่าบอกพลางทอดสายตามองไปรอบๆ แลเห็นทุ่งนาข้าวเขียวขจีพลิ้วไสวอยู่ในสายลม วัวควายเดินลัดเลาะอยู่ริมหนองน้ำหลังบ้าน ดวงตะวันลอยต่ำเกือบแตะทิวเขาทาบทะมึนทอดเป็นแนวยาวโอบหมู่บ้านเอาไว้ในอ้อมกอด

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status