"ก็ได้ค่ะ" คนถูกปฏิเสธมีสีหน้าบอกบุญไม่รับเลยทันที
ใบหม่อน มนัญชนก เนลสัน หญิงสาวที่เป็นน้องสาวบุญธรรมของแพทริคและพ่วงตำแห่งลูกบุญธรรมของโทมัสเนลสัน เธอเป็นสาวไทยแท้ตั้งแต่กำเนิดเมื่อพ่อกับแม่เสียตอนสามขวบกว่าเธอก็ต้องมาอยู่กับหลวงตาที่วัดและมีแพทริคเป็นคนขอรับเธอมาดูแลจนแพทริคได้ย้ายไปอยู่ที่อังกฤษเขาก็พาเธอไปอยู่ด้วย จนเธอได้ร่ำเรียนและใช้ชีวิตที่นั่นหลังเรียนจบเธอก็ช่วยโทมัสและแพทริคทำงานในบริษัทและตอนนี้ก็พ่วงตำแหน่งเลขาของพี่ชายเธอด้วย
มนัญชนกเป็นหญิงสาวร่างเล็กตัวผอมแห้งสูงเพียง 155 ผิวขาวเหลืองใบหน้ากลมรูปไข่พวงแก้มมีรักยิ้มคิ้วบางได้รูปดวงตาคมเหมือนลูกแมว จมูกเป็นสันเล็กริมฝีปากบางอมชมพู เธอเป็นสาวที่ค่อนข้างอ่อนหวานเห็นใจผู้อื่นเป็นที่หนึ่ง ทั้งยังถูกหวงจากโทมัสและแพทริคเหมือนไข่ในหินเพราะเป็นผู้หญิงคนเดียวของตระกูลแถมยังดูหัวอ่อนต่างจากคนทั่วไปอยู่มากแม้จะเติบโตในวัฒนธรรมตะวันตก เธอชอบทำอาหารเป็นชีวิตจิตใจจนตอนนี้พ่อและพี่ชายเธอเห็นว่าให้หญิงสาวลองเรียนรู้การทำงานอีกสักปีสองปีก็จะเปิดกิจการในสิ่งที่เธอชอบทำให้เธอได้บริหารเอาเอง
วันต่อมา
เชียงใหม่
"ค่ะคุณพ่อแพงใกล้ถึงบ้านคุณย่าแล้วค่ะไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ" แพงขวัญรับสายคนเป็นพ่อขณะที่ขับรถเก๋งคันเก่าเข้าไปในหมู่บ้านที่เธอเคยอยู่เมื่อตอนเด็กๆ
แพงขวัญ นันทภิวัฒน์สกุล คุณหนูไฮโซสาวสวยลูกสาวคนเดียวของ พงษ์พัฒน์ นันทภิวัฒน์สกุล นักธุรกิจนำเข้ารถหรูรายใหญ่ของไทย แพงขวัญอายุ21ย่าง22 เป็นสาวสวยใบหน้ารูปไข่คิ้วคมเข้มดวงตากลมโตขนตางอนยาวราวกับตุ๊กตาจมูกโด่งเรียวเล็กเป็นสันปากกระจับอมชมพูผมหยักศกสีน้ำตาลยาวถึงกลางหลังสูง165หุ่นนาฬิกาทราย
แต่งตัวแฟชั่นจ๋าเพราะชอบในเทรนด์แฟชั่นหากพ่อของเธอไม่ได้ทำธุรกิจนำเข้ารถหรูและเธอต้องมาสานงานต่อเธอคงเรียนแฟชั่นดีไซน์ตามที่เธอชอบไปแล้วหญิงสาวพึ่งเรียนจบบริหารธุรกิจจากมหาลัยชื่อดังหมาดๆ เลยอยากจะใช้ชีวิตอิสระตัวคนเดียวก่อนการทำงาน เธอเป็นคุณหนูไฮโซที่ค่อนข้างเอาแต่ใจไม่ค่อยยอมคนเล็กน้อยเพราะถูกเลี้ยงด้วยการตามใจแต่ก็ใช่ว่าเธอจะไม่ใช่คนมีเหตุผล เป็นคนชอบอิสระในการใช้ชีวิตและชอบที่สุดก็คือการได้ขับรถเก๋งเก่าๆของย่าเธอท่องเที่ยวไปในที่ที่อยากไปเพราะเมื่อนั่งอยู่บนรถคันเก่าคันนี้ทำให้เธอนึกถึงความอบอุ่นที่เธอเคยได้รับจากย่าของเธอได้เป็นอย่างดีด้วยตอนที่เกิดมาแม่ก็ดันมาเสียส่วนพ่อก็ทำงานหนักจนไม่ค่อยมีเวลาให้เธอเท่าไรชีวิตวัยเด็กส่วนมากเธอเลยได้อยู่กับย่าเสียส่วนใหญ่
โรงแรมหรู
"ตามไปอย่าให้คลาดสายตา" แพทริคยกหูคุยโทรศัพท์ในขณะที่นั่งอยู่ในโรงแรมหรูทางเหนือของไทยกับคนสนิทที่เขาใช้ให้ไปทำงานสำคัญให้ก่อนจะวางสายลงด้วยสีหน้าที่ค่อนข้างพึงพอใจ
"หึ่...แล้วพวกคุณจะได้รู้ว่าเจ็บปวดมันเป็นยังไง" ว่าจบเขาก็เตรียมตัวออกไปทันที
ทางด้านแพงขวัญที่พึ่งจะเลี้ยวเข้าปากทางหมู่บ้านที่สองข้างทางมีแต่ป่าทึบรถเก๋งคันเก่าสุดที่รักของเธอก็ดันมาดับกลางทางเสียได้
กึกๆ.. กึกๆ..
"เป็นอะไรอีกเนี่ย...ฉันกำลังจะพาแกกลับบ้านนะทำไมมาดับเอาดื้อๆแบบนี้ล่ะ..โอ้ย..มือถือก็แบตหมดอีก" ร่างบางที่อยู่ในชุดเสื้อเกาะอกกางเกงยีนส์กับผ้าใบแบรนด์ดังรีบออกมาจากรถเปิดฝากระโปรงที่มีแต่ควันออกมาก่อนจะยืนเท้าเอวอารมณ์เสียที่เกือบจะถึงบ้านแล้วแท้ๆกลับต้องมารถเสียกลางทางทั้งมือถือที่จะโทรขอความช่วยเหลือก็ดันมาแบตหมดอีก
ครื่นน..ๆๆ
"อย่าพึ่งตกมาตอนนี้เลยนะ...อึก..อื้มม" ใบหน้านวลเงยหน้ามองขึ้นฟ้าที่ตอนนี้ครึ้มมืดท่าว่าฝนจะตกไม่ทันได้ก้มหน้าเธอก็ถูกใครบางคนโปะยาสลบลากเธอไปก่อน
ซ่าาาาา
เสียงพายุฝนซัดสาดดังลั่นแพทริคที่อยู่ในบ้านไม้สักยกสูงชั้นเดียวสไตล์โมเดิร์นหลังไม่ใหญ่มากติดกับลำธารบ้านหลังนี้เขาซื้อเอาไว้นานแล้วตั้งแต่เมื่อสิบปีก่อนและจ้างคนมาทำความสะอาดเป็นระยะที่นี่ค่อนข้างห่างไกลชุมชนเพราะเป็นบ้านหลังเดียวที่อยู่ในป่าลึกและที่นี่ก็เหมาะที่สุดที่เขาจะเริ่มแผนการล้างแค้นคนที่มันทำให้เขาเจ็บ
“....” คนตัวโตนั่งไขว่ห้างบนเก้าอี้หวายตัวใหญ่ข้างเตียงที่แพงขวัญนอนอยู่สายตาอของเขาที่มองเธอตอนนี้มีแต่ความแข็งกร้าวไม่เหลือความอ่อนโยนไว้ในนั้นเลยสักนิดแม้นว่าเธอจะเป็นผู้หญิงที่ดูบอบบาง
"อืม.." แพงขวัญรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาหลังจากที่หลับไปพักใหญ่จวบจนตอนนี้ก็ฟ้ามืดแล้ว
"ฟื้นแล้วเหรอ" แพทริคโผตัวเข้ามารั้งแขนหญิงสาวก่อนจะยื่นใบหน้าของเขาเข้ามาใกล้ๆใบหน้านวลจนเธอต้องก้มหน้าหลบและถดตัวหนีก่อนจะโวยวายออกมาเพราะเธอพอจะจำได้แล้วว่าก่อนที่เธอจะหลับลงไปเกิดอะไรขึ้น
"ค..คุณเป็นใคร..ปล่อยฉันไปเดี๋ยวนี้นะ"
"อย่าคิดแม้แต่จะโวยวาย" มือหนายื่นมีดพกชูตรงหน้าหญิงสาวเพื่อให้เธอเลิกที่จะขัดขืน
"..อย่าทำอะไรฉันเลยนะ..อยากได้เงินเท่าไรฉันจะเอามาให้" ดวงตากลมโตเบิกกว้างก่อนจะทำใจกล้าต่อรองกับอีกฝ่ายเสียงสั่น"แก้ปัญหาทุกอย่างได้ด้วยเงินอย่างงั้นเหรอ..ใครสั่งสอนคุณมาล่ะ..ที่ผมจับคุณมาไม่ได้อยากได้เงินเลยสักนิด" เมื่อเห็นอีกฝ่ายแก้ไขปัญหาด้วยเงินอารมณ์โมโหของแพทริคก็เพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ"ตกลงจับฉันมาต้องการอะไรกันแน่" "ก็คุณเล่นสวยขนาดนี้จะให้ผมทำอะไรดีล่ะ" ดวงตากลมมองไล่ละเรี่ยเนื้อขาวผ่องที่นูนตึงขึ้นมาเด่นสายตาก่อนผลักร่างบางราบไปกับเตียง"ม..ไม่นะอย่ามาแตะตัวฉันนะ..ไอ้บ้า.." แพงขวัญดิ้นหนีสุดชีวิตเมื่ออีกฝ่ายตั้งใจจะล่วงเกินเธอแต่แรงของเธอก็ทำอะไรคนตัวโตไม่ได้อยู่ดี"..อื้ออ." แพทริคบดจูบส่งลิ้นร้ายสำรวจโพรงปากหญิงสาวที่ดีดดิ้นพักใหญ่จนเธอหมดแรงที่จขัดขืนเขาจึงละการฉกชิมความหวานจากโพรงปากของหญิงสาว“เฮ่อ ฟู่วว..” สาวเจ้าเมื่อริมฝีปากได้เป็นอิสระก็รีบสูดลมหายใจเข้าออกยกใหญ่เพราะเมื่อครู่เขาไม่เว้นว่างให้เธอได้หายใจเลยสักนิดจนเธอหมดเรี่ยวแรงที่จะดิ้นต่อสู้“...หึ่..ถึงกับเคลิ้มเลยเหรอ” แพทริคยิ้มเยาะอีกฝ่ายด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์“ไอ้ฝรั่งบ้า..ไอ้บ้าเอ้ย..” แพงขวัญรู้สึกเสียหน้า
วันต่อมา"ฮึก..ฮือๆๆ" ตั้งแต่ตื่นมาได้หญิงสาวก็นอนร้องให้สะอึกสะอื้นด้วยความเจ็บปวดรวดร้าวทั้งกายและใจไม่คิดไม่ฝันว่าเธอจะต้องมาเจอเหตุการณ์โหดร้ายอย่างเมื่อคืนนี้"ขอบใจนะที่ให้ผมเป็นคนแรกของคุณ" แขนแกร่งยังคงกอดกุมร่างบางไม่ยอมปล่อยทั้งยังเอ่ยให้หญิงสาวให้เจ็บปวดใจเล่น"หยุดพูดเดี๋ยวนี้นะไอ้โรคจิต" มือเรียวยกกุมริมฝีปากหนาเอาไว้อย่างไม่พอใจ"หึ่..ทำใจเอาไว้เลยว่าคุณจะต้องพบเจอคนโรคจิตอย่างผมอยู่ตลอด.." มือหนายกบีบข้อมือหญิงสาวเอาไว้แน่นก่อนจะดึงมันออกจากปากของเขา"ฮือๆๆ.." สิ้นเสียงแหบพร่าของคนข้างๆแพงขวัญก็ปล่อยก็ร้องให้โฮจนตัวโยนวันต่อมา“กลับไปสิรถนั่นผมให้คนซ่อมให้แล้วขับแล้วขับกลับได้เลยนับว่าผมใจดีกับคุณนะแล้วอย่าคิดแจ้งความเพราะถ้าคุณแจ้งความล่ะก็ตัวคุณเองนั่นแหละที่จะเสียหาย” เช้าของวันนี้แพทริคขับรถมาส่งหญิงสาวจุดเดิมที่เขาจับตัวเธอมา“.....” หลังจากที่แพงขวัญลงรถได้เธอก้เข้ามานั่งในรถคันเก่าของเธอก่อนจะนั่งร้องให้ตัวโยนพักใหญ่และตัดสินใจขับรถกลับกรุงเทพทันทีอยากจะให้เรื่องบ้าๆนี้เป็นเพียงแค่ความฝันแต่มันก็ไม่ใช่22.00 น."ทำไมถึงกลับมากะทันหันล่ะลูก" พงษ์พัฒน์นักธุรกิจนำ
"คุณแพทริคนี่หน้าคุ้นๆนะครับเราเคยเจอกันที่ไหนมาก่อนหรือเปล่าผมว่าจะถามตั้งแต่ทีแรกที่เจอแล้ว" เมื่อนั่งคุยกันได้พงษ์พัฒน์ก็เอ่ยถามเรื่องที่เขาเคยคาใจอยู่ทันที"คงไม่หรอกครับ.." แพทริคตอบกลับด้วยรอยยิ้มก่อนจะเปรยสายตามองไปที่หญิงสาวตรงข้ามที่เอาแต่นั่งก้มหน้างุดไม่ยอมสบสายตากับเขา"คุณพ่อคะเดี๋ยวแพงกับพี่มินขอตัวไปรับลมข้างนอกก่อนนะคะอยู่ในนี้นานเวียนหัวน่ะค่ะเชิญคุณพ่อคุยเรื่องธุรกิจตามสบายนะคะ" "ได้สิลูก" คนเป็นพ่ออนุญาตได้สาวเจ้าก็ลากแฟนหนุ่มของเธอออกไปคุยกันที่ลานด้านนอกของชั้นจัดงานทันทีเพราะรู้สึกอึดอัดเกินจะทน“.....” แพทริคมองตามหลังหญิงสาวด้วยสายตาที่พึงพอใจนับว่าที่หญิงสาวมีอาการแบบนี้ก็คงจะเกรงกลัวเขาอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน ทางด้านแพงขวัญและคามินหลังจากเดินออกมานั่งด้านนอกแล้วคามินจึงพาหญิงสาวมานั่งในโซนวีไอพีที่เป็นส่วนตัวของเขาเอง"ทำไมออกมากะทันหันล่ะ" "แพงไม่ค่อยชอบฟังคนคุยเรื่องธุรกิจไงคะ" "แต่ยังไงแพงก็ต้องหัดฟังไว้นะคะอนาคตแพงคงต้องไปไหนมาไหนกับพี่แล้วก็ฟังพี่คุยเรื่องธุรกิจกับหุ้นส่วนอยู่บ่อยๆ" "หมายความว่ายังไงคะ" แพงขวัญมองคนรักของเธอด้วยแววตาสงสัย"พี่เ
"...คุณต้องการอะไรกันแน่...เข้ามาในชีวิตฉันกับพ่อฉันเพื่ออะไร" แพงขวัญเงยหน้ามองคนตัวโตด้วยความไม่พอใจก่อนจะเอ่ยถามสิ่งที่คาใจอยู่ในตอนนี้"บอกตอนนี้ก็ไม่สนุกน่ะสิ" แพทริคขึงร่างบางไว้กับผนังเขายังไม่เฉลยให้เธอฟังตอนนี้ว่าเขาเข้ามาในชีวิตเธอกับพ่อเธอเพราะอะไรด้วยต้องการปั่นหัวให้เธอเครียดเล่นๆไปก่อนที่จะถึงเวลาบอกความจริง"ปล่อย..""คุณห้ามหมั้นกับคามินถ้าไม่อยากให้บริษัทพ่อคุณพังลงไม่เป็นท่า""ถึงฉันจะไม่รู้ว่าคุณต้องการอะไร...แต่ฉันรู้ว่าคุณมันเลว..เลวเกินคนจริงๆ" แพงขวัญรู้จากคนเป็นพ่อว่าตระกูลเนลสันสามารถทำอะไรได้บ้างและที่เขาพูดเมื่อครู่ก็น่าจะทำได้จริงแต่เธอก็ไม่มีคำไหนที่จะตอกกลับเขาดีไปกว่าด่าว่าเขาในเรื่องจริงที่เขาเป็น"อย่าปากดีให้มันมากนัก" ชายหนุ่มว่าจบก็เหวี่ยงร่างบางนอนราบบนเตียงนอนของเธอก่อนจะกดทับเธอด้วยร่างกายของตัวเองเอาไว้มือหนาทั้งสองขึงข้อมือเล็กของหญิงสาวเอาไว้ข้างตัวลำขาแกร่งแทรกผ่านขาเรียวจนชุดนอนของเธอร่นขึ้นมาอยู่ด้านบนขาอ่อน"ปล่อยฉันนะ.." ใจของแพงขวัญเต้นแรงแทบจะออกมาข้างนอกด้วยความกลัวที่จะเกิดเหตุการณ์เช่นเดิมอีก"มาสนุกกันหน่อยจะเป็นไรล่ะ" และแล้วเธอก็
หลังจากที่แพทริคและพงษ์พัฒน์ชวนกันคุยเรื่องธุรกิจสองสาวเลยชวนกันออกมานั่งเล่นด้านนอกและคุยกันตามประสาสาวๆ"คุณแพงนี่สวยน่ารักเหมือนที่พี่ชายฉันพูดให้ฟังเลยนะคะ" มนัญชนกอดชมหญิงสาวตรงหน้าไม่ได้ว่าเธอดูสวยสง่าแบบที่พี่ชายเธอเล่าให้ฟังจริงๆ"ขอบคุณค่ะ" แพงขวัญยิ้มอ่อนนับว่ายังดีที่แพทริคไม่พูดเรื่องที่ไม่สมควรพูดกับน้องสาวของเขา"ตอนที่พี่ชายฉันทำงานเค้าอาจจะมีการดุคุณแพงบ้างอย่าถือสาเค้าเลยนะคะ" มนัญชนกรู้ดีว่าคนที่ทำงานกับพี่ชายของเธอต้องเจอกับอะไรเพราะพี่ชายเธอค่อนข้างเป็นคนที่จริงจังกับการทำงานมาก"นี่ถึงกับต้องบอกกันไว้ก่อนเลยใช่ไหมคะ" "คนอื่นที่ทำงานกับพี่ชายฉันส่วนมากพี่แพทจะถูกมองว่าบ้าอำนาจแต่เค้าเป็นคนที่จริงจังกับการทำงานเท่านั้นเองค่ะเพียงแค่อยากให้ทุกอย่างออกมาดี""แล้วคุณหม่อนล่ะคะโดนดุบ้างหรือเปล่า" "ประจำเลยค่ะ" สาวเจ้าแอบกระซิบเบาๆ"โห.. อย่างนี้แพงต้องเตรียมใจไว้เลยใช่ไหมคะ""ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะคุณแพงเป็นคนเก่งนี่คะเรียนยังได้เกียรตินิยมเลยต่างจากฉันที่กว่าจะเรียนจบได้หนักหนาเอาการอยู่ค่ะ""แล้วคุณหม่อนชอบทำอาหารทำไมเรียนบริหารล่ะคะ""ต้องช่วยพี่แพทกับคุณพ่อน่ะค่ะ...แ
"ฉันเจ็บ..ไอ้บ้า" หญิงสาวเจ็บไปทั้งตัวด้วยการกระทำของคนเอาแต่ใจเนื้อตัวของเธอแดงไปด้วยแรงกระชากของเขาจึงสบถต่อว่าอย่างเหลืออด"ด่าผมอีกสิแล้วพรุ่งนี้คุณจะได้เดินไม่ได้""อื้มมม..." ว่าจบก็บดจูบร่างบางเปลือยเปล่าส่งลิ้นร้ายตวัดฉกชิมความหวานจากโพรงปากหญิงสาวพักใหญ่และรีบถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกอย่างเร่งรีบก่อนจะเริ่มสอดใส่แท่งร้อนที่พร้อมกับศึกรักเต็มที่แล้วไปที่ร่องสวาทของหญิงสาวอย่างรุนแรง"ฉัน.. เจ็บ.. อื้อ.. อ๊ายย.. " สาวเจ้ารู้สึดระบมไปทั้งตัวเมื่อคนตัวโตถาโถมแรงกระแทกเธอจนตัวโยนทั้งยังขบกัดเต้างามเธอเล่นจนเป็นรอยแดงไปทั่ว"อ..อ่าสส..อืมม..." ชายหนุ่มที่กำลังมัวเมากับอารมณ์ที่พลุ่งพล่านไม่ได้สนใจเสียงร้องค้านของคนตัวเล็กใต้ร่างแม้สักนิดยังคงใช้ร่างกายของเธอเป็นที่ระบายอารมณ์อย่างไร้ซึ่งความนุ่มนวลพักใหญ่จนเสร็จสมแตะขอบสวรรค์"ปากก็ว่าขยักแขยงแต่เสียงหวานของคุณครางไม่หยุดเลยนะครับ" เมื่อบทสวาทสงบชายหนุ่มก็ล้มตัวนอนกอดก่ายร่างบางที่นอนน้ำตาไหลอยู่เงียบๆทั้งเอ่ยเย้าหยอกหญิงสาวด้วยน้ำเสียงระรื่น"หยุดพูดไปเลย...ฉันอยากรู้ว่าคุณจะปล่อยฉันกลับบ้านเมื่อไร" ใบหน้านวลหันมามองค้อนชายหนุ่มทีาเ
"ฮือๆๆ. ย่าค้าบบ.. ฮือๆๆ.. ""เจ้าหนู.. อืม.. ออกมากับพี่นะไปหาคุณย่าเรากัน"ปึก "โอ้ยย.." มนัญชนกตามเสียงร้องของเด็กชายไปจนเจอและรีบเอาเสื้อที่เธอชุบน้ำคลุมร่างเด็กชายตัวอ้วนกลมก่อนจะวิ่งฝ่ากองเพลิงออกมาอย่างไม่คิดชีวิตจนขาของเธอถูกอะไรบางอย่างหล่นมากระแทกจนเลือดออกแต่นั่นก็ไม่ทำให้เธอหยุดได้"เห็นผู้หญิงที่ลงมากับผมหรือเปล่า" ทางด้านคามินเมื่อจัดการพื้นที่ให้รถดับเพลิงเสร็จเขาก็เดินออกมาถามหามนัญชนกกับพวกพนักงานเพราะไม่เห็นเธอยืนอยู่ตั้งแต่กลับมาแล้ว"ผู้หญิงตัวเล็กๆที่ใส่ชุดเดรสสีขาวหรือเปล่าครับ""ใช่...""เธอฝ่ากองไฟเข้าไปช่วยเด็กข้างในครับ" พนัดงานหนุ่มชี้มือเข้าไปในกองเพลิงที่กำลังโหม"แล้วให้เธอเข้าไปได้ยังไง" คามินตัวชาวาบหากหญิงสาวเป็นอะไรไปเขาคงไม่มีหน้าไปสู้กับพงษ์พัฒน์ที่ฝากผฝังเธอให้มาเรียนรู้การทำอาหารจากโรงแรมของเขาแน่"เธอวิ่งเข้าไปเองครับพวกผมห้ามเอาไว้ไม่ทัน.. นั่นไงออกมาแล้ว" พนักงานหนุ่มโล่งอกเมื่อเห็นหญิงสาววิ่งออกมาพร้อมเด็กชายในอ้อมอก"น้องไพร์มหลานย่า.." หญิงชราที่นั่งร้องให้ฟูมหายเมื่อเห็นหญิงสาวอุ้มหลานเธอออกมาได้ก็รีบไปรับอย่างรวดเร็ว"ย่าค้าบบ.." เด็กชายเห
"โถ่โว้ยยยย..."ปึกๆๆแพงขวัญได้ยินเสียงแพทริคโวยวายอยู่ด้านในจึงรีบวิ่งเข้ามาดูเมื่อเห็นว่าเขากำลังสาวหมัดไปที่ผนังจนเลือดออกเธอจึงรีบรั้งตัวเขาเอาไว้ไม่ให้ทำร้ายตัวเองอีก"คุณแพทหยุด..คุณเป็นบ้าอะไรของคุณเนี่ย""ฮึก..ฮือๆๆ..ผมช่วยเค้าไม่ได้..ผมช่วยเค้าไม่ได้.." แพทริคตัวสั่นเทาฟุบกอดเข่าสะอื้นให้ด้วยความปวดใจที่เขาเห็นคนขาดใจตายต่อหน้า"ใจเย็นๆ...คุณทำดีที่สุดแล้ว" แพงขวัญดูท่าชายหนุ่มจะเป็นเอาหนักเธอจึงค่อยๆนั่งลงข้างๆเขาและกอดคนตัวโตที่ตัวสั่นเทาเอาไว้ก่อนจะเอ่ยปลอบเขาด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยสบายใจเท่าไรนัก ครู่ต่อมา"ฉันสั่งอาหารมาแล้วพรุ่งนี้เราค่อยออกข้างนอก.. นี่ของคุณฉันสั่งแซลมอนเกรดพรีเมี่ยมย่างซีอิ๊วมาให้คุณเลยนะทานสิ"หลังจากที่ชายหนุ่มสงบอารมณ์ได้แพงขวัญจึงพาเขาออกมานั่งข้างนอกเพราะเธอสั่งอาหารเอาไว้ตั้งแต่ตอนที่กลับมาถึงแล้ว"คุณทานไปเถอะผมไม่หิว...ถ้าคุณกลัวเหงาผมก็จะนั่งเป็นเพื่อน""อืมก็ได้...โห..ซูชิอร่อยจังเลย...ซุปสาหร่ายนี่ก็รสชาติกลมกล่อมหอมมากด้วยคุณดมดูสิ" สาวเจ้าที่อยากจะให้คนที่นั่งหน้าเศร้าทานอาหารพร้อมกับเธอเพราะเขาไม่ได้ทานอะไรมาตั้งแต่เมื่อกลางวันแล้วเพราะ
อาทิตย์ต่อมาเย็นของวัน“ท่านประธานเรียกวีมามีเรื่องอะไรเหรอคะ” วีนาเดินนาวยนาถเข้าห้องของคามินมาด้วยรอยยิ้มกว้างก่อนจะหย่อยก้นลงนั่งตรงหน้าคามินส่งน้ำเสียงหวานถามอีกฝ่าย“ผมต้องการให้คุณวีไปทำหน้าที่พีอาร์ของโรงแรมน่ะครับ” “อะไรนะคะ..วีทำงานให้ท่านประธานไม่ดีหรืออะไรบอกวีมาได้เลยนะคะ” รอยยิ้มกว้างเมื่อครู่ของวีนาหุบลงทันทีเมื่อคามินแจ้งความประสงค์ออกมาเพราะตอนนี้เขาหาเลขาคนใหม่ได้แล้วเป็นผู้ชายและจะเริ่มงานอาทิตย์หน้าเขาเลยต้องแจ้งให้หญิงสาวรู้กะทันหันว่าเขาต้องการให้เธอไปทำหน้าที่อื่น“เปล่าครับคุณทำงานดีมากและบุคลิกของคุณผมว่าเหมาะกับงานด้านนี้มากกว่าแถมเงินเดือนผมก็จะเพิ่มให้คุณด้วยนะครับ” “เอ่อ..แล้วจะให้วีเริ่มงานพีอาร์ได้เมื่อไรล่ะคะ”“อาทิตย์หน้าครับคุณเตรียมตัวได้เลยนะครับ”“ค่ะท่านประธาน” วีนาเดินออกจากห้องของคามินไปด้วยสีหน้าที่ค่อนข้างไม่พอใจพอสมควรไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ๆคามินถึงได้เปลี่ยนให้เธอไปทำงานอื่นกะทันหันทำให้เธอต้องอยู่ห่างเขาไปอีกเย็นของวันร้านอาหารหลังจากเลิกงานได้คามินก็ขับรถไปรับภรรยารักของเขาออกมาทานข้าวเย็นที่ร้านอาหารข้างนอกเพราะอยากเปลี่ยนบรรยากา
วันต่อมาร้านอาหารหรู"พาหม่อนมาที่นี่ทำไมคะคุณมิน" มนัญชกถูกคามินเดินจูงมือจากลานจอดรถมาที่น้านอาหารหรูที่ห้อางดังใจกลางเมืองคราแรกเขาบอกกับเธอว่าจะมาทำธุระนิดหน่อยแต่ไม่รู้ว่าเขาจูงเธอเข้ามาในรอานอาหารเพื่ออะไรแถมในร้านนี้ก็ยังไม่มีคนอยู่แม้แต่คนเดียวอีกต่างหาก"ตามผมมาตรงนี้สิครับ" "นี่มัน..." เดินเข้าร้านมาไม่น่นนักคามินก็พาหญิงสาวเดินมาด้านในสุดของร้านที่เป็นโซนที่มองเห็นวิวทิวทัศน์แม่น้ำสายใหญ่ได้ป็นอย่างดีรอบๆรายล้แมไปด้วยลูกโป่งสีชมพูละลานตาและตรงกลางก็มีโต๊ะอาหารที่มีอาหารวางเรียงรายอยู่เต็มโต๊ะตอนนี้เธอพอจะดูออกแล้วว่าเขาคงจะเซอร์ไพรซ์อะไรเธอแน่นอน"ผมปิดร้านนี้เพื่อทานข้าวกับคุณเลยนะครับ..นั่งก่อนสิครับ""ค่ะ" ใบหน้าหวานยิ้มอ่อนเล็กน้อยที่คามินมีเวลาเอาใจเธอบ้าง"ผมขอโทษคุณจริงๆที่ผมไม่มีเวลาทานข้าวเย็นกับคุณเลยผมรู้ว่าคุณอาจจะไม่ชอบแต่จากนี้ผมจะพยายามกลับบ้านมาทานข้าวเย็นกับคุณทุกวันนะครับ" หลังจากหญิงสาวนั่งลงได้คามินก็เปิดกล่องกำมะหยี่สีเทาหยิบสร้อยที่มีจี้เพชรรูปหัวใจมาสวมใส่ให้เธอเพื่อเป็นการปลอบใจก่อนจะหย่อนก้นลงนั่งตรงหน้าหญิงสาวกุมมือเธอเอาไว้หลวมๆสัญญากับเ
วันเวลาพ้นผ่านไปอย่างรวดเร็วจวบจนแพงขวัญท้องโตได้หกเดือนกว่าแล้วตอนนี้ดูแพงขวัญและแพทริคจะหวานกันเป็นพิเศษตั้งแต่ปรับความเข้าใจกันได้ก็ตัวติดกันเป็นแตงเมในส่วนของมนัญชนกและคามินทั้งคู่ก็จดทะเบียนสมรสกันเงียบๆต่อหน้าคนในครอบครัวคราแรกคามินต้องการที่จะจัดงานใหญ่โตให้สมเกียรติแต่มนัญชนกเป็นคนไม่ชอบพิธีอะไรมากมายเพราะวุ่นวายเปล่าๆคามินจึงตามใจเธอจนตอนนี้ก็ร่วมเดือนกว่าแล้วที่คามินและมนัญชนกใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันชีวิตคู่ของมนัญชนกและคามินไม่ค่อยหวานเหมือนแพทริคและแพงขวัญเท่าไรนักเพราะเวลาหลังจากแต่งงานประจวบเหมาะกับงานที่โรงแรมของคามินกำลังยุ่งมากพอดีพวกเขาเลยยังไม่มีเวลาฮันนีมูนหลังแต่งงานแถมคามินยังทำงานหามรุ่งหามค่ำข้าวเช้าไม่ได้ทานกลับบ้านมาก็ดึกจนมนัญชนกเหมือนจะใช้ชีวิตคนเดียวอยู่แล้ว22.00 น."ช่วงนี้กลับดึกทุกวันเลยนะคะ" มนัญชนกที่นั่งอยู่บนเตียงนุ่มเอ่ยพูดกับคนเป็นสามีที่พึ่งอาบน้ำเสร็จยอมรับเลยว่าน้อยใจอยู่ลึกๆที่เขากลับดึกแทบทุกวันแต่ต้องเก็บอาการ"ผมต้องทำงานคนเดียวเลยนะครับเลขาผมลาออกกะทันหัน" คามินแต่งตัวเสร็จก็รีบเข้ามากอดภรรยาตนเอาไว้แน่นด้วยความคิดถึงตอนนี้เขายุ่งกับง
"ผมจะไม่ยอมปล่อยคุณไปไหนอีกแล้วผมรักคุณได้ยินหรือเปล่าว่าผมรักคุณ" แพทริคเดินเข้ามารวบกอดร่างบางแน่นด้วยความคิดถึง"ปล่อยฉัน""ผมคิดถึงคุณจนจะบ้าอยู่แล้วรู้หรือเปล่าคุณไม่คิดอยากจะติดต่อหาผมบ้างหรือไง""ไม่คิดค่ะเพราะไม่อยากติดต่อ" แพงขวัญยังคงต้องการจะกวนประสาทของอีกฝ่ายต่อก่อนจะเดินหนีเข้าห้องหมายจะปิดประตูหนีแต่ก็ถูกอีกฝ่ายตามเข้ามาจนได้"ไม่ติดต่อกับผมแต่ติดต่อกับน้องผมได้งั้นสิ..แสบกันนักนะ" ว่าจบสองมือหนาก็รวบใบหน้านวลให้เงยขึ้นก่อนจะบดจูบไปที่ริมฝีปากบาง"อื้ออ.. คุณแพท" มือเรียวทั้งสองผลักใบหน้าคมของเขาออกที่จู่มาถึงก็กระทำเอาแต่ใจกับเธอทันที"ผมจะจูบคุณให้ปากเปื่อยโทษฐานที่แกล้งผม""คุณอยากร้ายใส่ฉันก่อนทำไมล่ะคะ" ดวงตาหกลมโตมองค้อนคนเป็นสามีเล็กน้อย"ผมขอโทษ...ต่อจากนี้ผมจะเป็นคนดีของคุณกับลูกผมสัญญา" แพทริครีบเอ่ยขอโทษหญิงสาวกับเรื่องราวที่ผ่านมาเขารู้ว่าเธอยังรักเขาก่อนจะสัญญากับเธอว่าเขาจะไม่ทำให้เธอต้องเสียใจอีกเพี๊ยะ "สำหรับที่คุณหลอกฉัน" เพี๊ยะ "สำหรับที่คุณไปนอนกับผู้หญิงคนอื่น" แพงขวัญเงื้อมมือฟาดไปที่แก้มสากของแพทริคสองทีเพื่อที่เธอจะได้ไม่รู้สึกติดค้าง
"อืม.." คามินยิ้มกริ่มที่มนัญชนกเผลอไผลไปกับรสสัมผัสของเขาได้เขาค่อยๆละจูบเงยหน้ามองใบหน้านวลที่แก้มแดงเปล่งเป็นลูกตำลึงและกำลังหันหน้าหลบสายตาของเขาอยู่อย่างเอียงอายเขายิ่งมองเธอแบบนี้ก็ยิ่งหลงไหลเวลาปกติเธอน่ารักแล้วแต่เมื่ออยู่ใกล้ชิดกับบนเตียงแบบนี้เธอยิ่งน่ารักกว่าปฏิกิริยาที่ไร้การปฏิเสธทำให้เขาไม่ต้องถามเธอเลยว่าเธอรู้สึกอย่างไรกับเขาใจเธอกับเขาตอนนี้คงรู้สึกไม่ต่างกันเท่าไร"คุณน่ารักที่สุดเลย" เสียงแหบพร่าพ่นอยู่ข้างๆแก้มนวลก่อนจะยื่นมือหนาปิดไฟที่หัวเตียง"อื้มม.." สองมือหนาประสานกับมือเรียวของหญิงสาวขึงเอาไว้แนบกับเตียงนุ่มก่อนจะโน้มตัวลงบอดจูบนุ่มนวลสอดส่ายลิ้นร้ายฉกชิมความหวานจากปากคนตัวเล็กอีกครั้งเนิ่นนานเสียจนริมฝีปากบางชาและห้อเลือดเล็กน้อยไม่นานนักคนตัวโตก็จัดการเปลื้องผ้าทั้งเขาและเธอออกไปจนหมดให้หลงเหลือแต่ความอบอุ่นใต้ผ้าห่มจากการที่เนื้อแนบเนื้อเท่านั้น".. อ๊ะ.. อืม.." มนัญชนกแอ่นอกรับริมฝีปากของคนตัวโตอย่างลืมอายเพราะเมื่อปลายลิ้นสัมผัสกับยอดอกอิ่มของเธอก็รู้สึกวาบหวิวไปทั้งตัวจนควบคุมร่างกายตัวเองไม่ได้"อืม.." คามินก้มฟัดอกอิ่มสลับกับบดจูบริมฝีปากบางด้วยอาร
สองสาวคุยกันอยู่พักใหญ่ถึงแผนการที่มนัญชนกคิดเอาไว้มนัญชนกไม่ยอมให้แพทริครู้เรื่องว่าแพงขวัญอยู่ที่ไหนเพราะเธอเองก็อยากจะเห็นว่าพี่ชายเธอมานะที่จะตามหาแพงขวัญจริงๆหรือไม่โดยที่หลังจากนี้เธอกับคามินจะไม่บอกข้อมูลและไม่ช่วยเหลืออะไรแพทริคทั้งนั้น“คุณแพงว่าดีหรือเปล่าคะ”“ดีเหมือนกันค่ะถือซะว่าแพงเอาคืนแล้วกันนะคะ” แพงขวัญยิ้มอ่อนเห็นว่าวิธีแก้เผ็ดแพทริคที่มนัญชนกเสนอก็ดีเหมือนกันและเธอก็จะได้เห็นด้วยว่าเขาจะพยายามตามหาเธอได้ไวเท่าไร“แต่ว่าถ้าพี่ชายหม่อนหาคุณแพงเจอแล้วหม่อนขอร้องนะคะอย่าหันหน้าหนีกันอีกเพื่อเจ้าตัวเล็กที่กำลังจะเกิดมา”“ค่ะ” แพงขวัญเงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่จะตอบตกลงกับมนัญชนกไปหากเขารักเธอจริงและเธอเองก็รักเขา...มันก็ไม่ได้ยากที่เธอจะให้อภัยแต่หากมีโอกาสเอาคืนเขาบ้างเธอก็อยากจะทำเพื่อดัดนิสัยคนที่เจ้าแผนการให้เจ็บปวดเล่นดูบ้าง เย็นของวัน"นี่ตามสูตรที่คุณมินเคยสอนฉันเลยนะคะ" คามินกับมนัญชนกง่วนกันอยู่ในครัวเรื่องการทำอาหารเย็นส่วนแพงขวัญเธอนั่งเล่นอยู่ด้านนอกเพราะได้กลิ่นอาหารมากไม่ได้เดี๋ยวจะอาเจียนออกมาอีกตอนนี้เธอถูกกับอาหารจำพวกผลไม้เท่านั้น"ผมมีสูตรอาหารอีกหลา
หลายวันต่อมา หลังจากวันนั้นที่แพงขวัญสูญเสียคนเป็นพ่อไปเธอก็เอาแต่นั่งเสียใจทานอะไรไม่ได้นอนไม่หลับจนทุกคนก็หดหู่ไปตามๆกันทั้งห่วงสภาพจิตใจของแพงขวัญและลูกในท้องของเธออีกจวบจนวันนี้ก็ถึงวันที่แพงขวัญต้องมาลอยอังคารแล้วน้ำตาของเธอก็ยังไม่เคยเหือดแห้งไปเลยแม้แต่วินาทีเดียวคนที่เจ็บปวดที่สุดตอนนี้ก็เห็นจะเป็นแพทริคที่ทำได้เพียงแค่ตามดูหญิงสาวห่างๆเท่านั้นเพราะไม่อยากทำให้เธอเจ็บปวดใจเมื่อเห็นหน้าของเขา"ผลสอบสวนออกมาแล้วนะครับแพง" หลังจากที่ลอยอังคารเรียบร้อยแล้วคามินก็พาแพงขวัญมาคุยเรื่องคดีที่บ้านของมนัญชนก"ว่ายังไงบ้างคะ""คุณแพทไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้คนที่ขับรถชนคุณอาเป็นคนเมาที่อยู่แถวนั้น...พี่ว่าแพงลองลดทิฐิคุยกับคุณแพทดูใหม่ดีหรือเปล่า" จากหลายวันที่ผ่านมาที่แพทริคเฝ้าดูแลแพงขวัญอยู่ห่างตลอดทำให้เขารู้ว่าแพทริครักและห่วงใยแพงขวัญอยู่ไม่น้อยเขาจึงอยากให้ทั้งคู่ลองเริ่มต้นกันใหม่อีกสักครั้งเพื่อลูกในท้องที่กำลังจะเกิดมา"......" แพงขวัญก้มหน้างุดไม่ยอมตอบอะไรแม้นเขาจะไม่ได้ทำร้ายพ่อของเธอจริงแต่เรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั้นเธอก็ยังเจ็บปวดใจไม่หาย"หม่อนขอโทษนะคะที่ไม่เชื
“แพง” คามินเข้ามาหามนัญชนกในช่วงเย็นเมื่อเข้าบ้านมาได้เห็นแพงขวัญนั่งเหม่ออยู่ที่หน้าบ้านจึงเอ่ยทักขึ้นไม่รู้ว่าหญิงสาวจะอยู่ที่นี่ด้วย“พี่มิน..” ไม่ใช่แค่คามินตกใจที่แพงขวัญอยู่ที่นี่แต่เป็นแพงขวัญก็ตกใจที่คามินมาที่บ้านของมนัญชนกเหมือนกัน“พี่มินสบายดีนะคะ...ที่แผลไปโดนอะไรมาคะ” แพงขวัญชวนคามินข้ามานั่งคุยกันในห้องรับแขกในบ้านตอนนี้เธอไม่ค่อยกล้าที่จะมองหน้าคามินเท่าไรเพราะยังรู้สึกผิดกับเขาอยู่ไม่น้อยแต่ก็แอบสงสัยว่าชายหนุ่มไปทำอะไรมาถึงได้มีพลาสเตอร์ปิดที่หางคิ้ว“ครับพี่สบายดี..อุบัติเหตุนิดหน่อย” ตอนนี้คามินยิ้มให้หญิงสาวได้อย่างไม่มีอะไรตะขิดตะขวงใจแล้วเพราะเขาไม่อยากยึดติดอยู่กับอดีต“แพงขอโทษกับเรื่องที่..” “ไม่ต้องขอโทษพี่หรอกครับพี่เข้าใจต่อไปนี้เรามาเป็นพี่น้องกันนะครับ” คามินไม่อยากให้แพงขวัญพูดเรื่องเก่าขึ้นมาเพราะเขาก็ไม่อยากพูดถึงมันเหมือนกัน“ขอบคุณนะคะพี่มิน” สาวเจ้าพอจะยิ้มออกได้บ้างเมื่อเรื่องที่รู้สึกผิดต่อคามินผ่อนคลายลงด้วยคำพูดของเขาคามินยังคงเป็นพี่ชายที่แสนดีของเธอเสมอไม่เปลี่ยนไปเลยจริงๆ“แล้วทำไมแพงถึงมาอยู่ที่นี่ล่ะครับ” คามินอยากจะรู้มากกว่าว่าทำไ
RrrrrRrrrrr มนัญชนกรีบกดรับสายคนเป็นพ่อ“ค่ะคุณพ่อ...ค่ะหม่อนจะรีบกลับนะคะ” “มีอะไรเหรอ” “คุณพ่ออยู่ที่บ้านค่ะท่านจะมาทานข้าวเย็นกับฉัน” หญิงสาวไม่รู้ว่าทำไมพ่อเธอถึงมาหากะทันหัน“อืม...แล้วเรื่องเรา”“ค่ะ...ฉันจะไม่หลบหน้าคุณ” มนัญชนกรับปากชายหนุ่มเธอก็อยากจะพิสูจน์ด้วยเวลาต่อจากนี้เหมือนกันว่าที่เขาพูดกับเธอมามันจริงแค่ไหน“ขอบคุณนะครับ” คามินยิ้มอ่อนอย่างพึงพอใจอย่างน้อยต่อไปนี้เขาก็จะได้เจอเธอเหมือนเดิมแล้วแม้เธอจะไม่ไว้ใจเขาเหมือนเดิมก็ตามเขาจะพิสูจน์ให้เธอได้เห็นว่าคำพูดของเขาไม่ใช่เพียงลมปากแต่จะทำให้เธอได้เห็นจริงๆว่าเขานั้นจริงใจกับเธอชั่วโมงต่อมา ร่วมชั่วโมงกว่าคามินจะมาส่งมนัญชนกถึงบ้านเมือมาถึงหญิงสาวก็เหนว่าคนเป็นพ่อยืนรออยู่หน้าบ้านกับคนสนิทอีกสองสามคนแล้วจึงถือโอกาสนี้แนะนำให้คามินได้รู้จักพ่อของเธอเอาไว้หลังจากรู้จักกันเพียงแค่ชื่อมานานแล้ว“คุณพ่อฉันค่ะ...คุณพ่อคะนี่คุณคามินที่สอนฉันทำอาหาร” “สวัสดีครับยินดีที่ได้รู้จักนะครับ” คามินยื่นมือทักทายโทมัสอย่างเป็นมิตรเคยได้ยินชื่อเสียงทางธุรกิจของเขามานานวันนี้ก็ได้เจอตัวจริงเสียทีนับว่าเขายังดูหนุ่มแน่นกว่าที่เ