วันเวลาพ้นผ่านไปอย่างรวดเร็วจวบจนแพงขวัญท้องโตได้หกเดือนกว่าแล้ว
ตอนนี้ดูแพงขวัญและแพทริคจะหวานกันเป็นพิเศษตั้งแต่ปรับความเข้าใจกันได้ก็ตัวติดกันเป็นแตงเม
ในส่วนของมนัญชนกและคามินทั้งคู่ก็จดทะเบียนสมรสกันเงียบๆต่อหน้าคนในครอบครัว
คราแรกคามินต้องการที่จะจัดงานใหญ่โตให้สมเกียรติแต่มนัญชนกเป็นคนไม่ชอบพิธีอะไรมากมายเพราะวุ่นวายเปล่าๆคามินจึงตามใจเธอจนตอนนี้ก็ร่วมเดือนกว่าแล้วที่คามินและมนัญชนกใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน
ชีวิตคู่ของมนัญชนกและคามินไม่ค่อยหวานเหมือนแพทริคและแพงขวัญเท่าไรนักเพราะเวลาหลังจากแต่งงานประจวบเหมาะกับงานที่โรงแรมของคามินกำลังยุ่งมากพอดี
พวกเขาเลยยังไม่มีเวลาฮันนีมูนหลังแต่งงานแถมคามินยังทำงานหามรุ่งหามค่ำข้าวเช้าไม่ได้ทานกลับบ้านมาก็ดึกจนมนัญชนกเหมือนจะใช้ชีวิตคนเดียวอยู่แล้ว
22.00 น.
"ช่วงนี้กลับดึกทุกวันเลยนะคะ" มนัญชนกที่นั่งอยู่บนเตียงนุ่มเอ่ยพูดกับคนเป็นสามีที่พึ่งอาบน้ำเสร็จยอมรับเลยว่าน้อยใจอยู่ลึกๆที่เขากลับดึกแทบทุกวันแต่ต้องเก็บอาการ
"ผมต้องทำงานคนเดียวเลยนะครับเลขาผมลาออกกะทันหัน" คามินแต่งตัวเสร็จก็รีบเข้ามากอดภรรยาตนเอาไว้แน่นด้วยความคิดถึงตอนนี้เขายุ่งกับงานมากไหนจะต้องจัดสรรค์ตารางเวลางานเองเพราะเลขาเขาดันมาลาออกกะทันหันเพราะต้องไปอยู่กับสามีที่ต่างจังหวัด
"ให้หม่อนไปช่วยคุณไหมคะ" มนัญชนกเคยผ่านงานเป็นเลขาให้พี่ชายของเธอมาก่อนคิดว่าเธอน่าจะช่วยแบ่งเบาภาระของเขาได้
"ผมบอกแล้วไงครับว่าผมจะไม่ให้คุณลำบาก" คามินส่ายหัวเบาๆเขาไม่อยากให้มนัญชนกเครียดกับงานอยากให้อยู่บ้านสบายๆมากกว่า
"ไม่ได้ลำบากอะไรเลยนะคะ"
"ตอนนี้เราประกาศรับสมัครเลขาไปแล้วอีกไม่นานผมก็คงมีผู้ช่วยแล้วคุณไม่ต้องห่วงนะครับ"
"ไม่อยากให้หม่อนไปยุ่งกับงานของคุณใช่หรือเปล่าคะ" หญิงสาวเอ่ยด้วยน้ำเสียงน้อยใจเล็กน้อยไม่รู้ว่าช่วงนี้ทำไมเธอจึงชอบคิดเล็กคิดน้อยไปหมด
"อย่าคิดอย่างนั้นสิครับผมไม่อยากให้คุณเหนื่อยไม่อยากให้คุณเครียดกับงานเท่านั้นเข้าใจผมนะครับ" คามินรีบปฏิเสธเพราะสิ่งที่หญิงสาวพูดเขาไม่ได้คิดแบบนั้นสักนิด
"ค่ะ"
"อีกอย่างตอนนี้ผมก็อยากให้คุณอยู่สบายๆเตรียมเป็นแม่ของลูกก็พอครับ" ว่าจบก็โน้มตัวหญิงสาวลงก่อนจะเอื้อมมือปิดไฟช่วงนี้เขาไม่อยากให้หญิงสาวลำบากหรือเครียดอะไรทั้งนั้นเพื่อที่จะให้เธอเตรียมตัวเป็นแม่ของลูกเขานั่นเอง
"อืม.. " ริมฝีปากหนาบดจูบริมฝีปากบางของภรรยาตัวเล็กก่าอนจะส่งลิ้นร้ายฉกชิมความหวานจากโพรงปากครู่ใหญ่ไล่ลงมาที่ลำคอระหงส์เขาดูดดึงเนื้อนวลอย่างหลงไหลไม่ว่าตรงส่วนไหนของเธอก็หอมหวานสำหรับเขาไปเสียหมดไม่นานนักทั้งสองก็เปลือยเปล่าเนื้อแนบเนื้อ
“คืนนี้ขอเจ้าตัวน้อยให้ผมหน่อยนะครับ” เสียงแหบพร่าก่ายกระซิบข้างใบหน้านวลในขณะที่มือหนาบีบเค้นเต้างามอวบอูมอยู่อย่างสนุกมือและบดจูบริมฝีปากบางอีกกครั้งก่อนจะสอดใส่เจ้าแท่งร้อนที่ผงาดเต็มที่เข้าไปในช่องทางรักจนหญิงสาวร้องครางเพราะรู้สึกจุก
“อ..อืมม..” เมื่อเจ้าแท่งร้อนเข้าช่องทางรักจนสุดได้สะโพกแกร่งของคามินก็เริ่มทำงานช้าๆเป็นจังหวะนุ่มนวลเพื่อให้คนตัวเล็กใต้ร่างได้ปรับตัวครู่หนึ่งแล้วจึงเปลี่ยนมาเป็นลีลาที่เร่าร้อนดุเดือดเพราะเสียงหวานของภรรยาตัวเล็กปลุกอารมณ์รักของเขาได้เป็นอย่างดี
“อ..อ้ะ..” เสียงหวานครางกระเส่าในขณะที่ร่างเจ้าตัวถูกขย่มจนหัวสั่นหัวครอนมือน้อยปัดป่ายสะเปะสะปะจนบรรจบอยู่ที่แผ่นต้นแขนแกร่งของคนเป็นสามีเล็บงามจิกระบายความเสียวบนเนื้อของคนตัวโตอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัวแต่คามินก็ไม่ได้ถือสา
“อ..อื้มม..” คามินกัดฟันกรอดเมื่อร่องสวาทของภรรยารักกำลังตอดรัดถี่ขึ้น
“อ..อ๊ายยยย..” ไม่นานนักร่างบางก็เสร็จสมบดเร่าครางเสียงหวานหลับตาปี๋รวบกอดคนเป็นสามีเอาไว้แน่น
จุ้บ “...อืม..อ้าสส..” คนตัวโตหยุดการกระทำครู่หนึ่งริมฝีปากหนาพรมจูบหน้าผากมนเหงื่อซิกของมนัญชนกก่อนจะเริ่มบทรักอันร้อนแรงขึ้นอีกรอบจนเสร็จสมปล่อยธารรักขาวขุ่นเข้าช่องทางนักทกหยาดหยดหมายจะให้มีเจ้าตัวเล็กเร็วๆนี้ให้ได้
และคืนนี้ก้เป็นค่ำคืนที่ยาวนานที่คามินมอบบทรักให้กับภรรยาของเขาไม่หยุดไม่หย่อนกว่าจะปล่อยให้ร่างบางได้พักก็เล่นจนเธอไม่มีเรี่ยวแรงแม้นแต่จะลืมตาหรือครางเสียงหวานออกมา
สองวันต่อมา
"หลานหม่อนเป็นยังไงบ้างคะ" วันนี้มนัญชนกมาขลุกอยู่ที่บ้านพี่ชายเธอทั้งวันเพราะไม่อยากรู้สึกเหงาอยู่ที่บ้านคนเดียว
"ดิ้นเก่งที่สุดเลยล่ะค่ะ" ตอนนี้แพงขวัญท้องโตขึ้นมากเพราะแพทริคดูแลอาหารการกินทุกอย่างเป็นอย่างดีเล่นเฝ้าภรรยาไม่ทำงานทำการกันเลยทีเดียว
"นั่นฝีมือพี่แพทสินะคะ" มนัญชนกมองเข้าไปในห้องกระจกที่ติดอยู่ข้างห้องนั่งเล่นด้านในนั้นมีของเล่นสำหรับเด็กที่พร้อมจะเป็นสนามเด็กเล่นได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียวเดาได้ว่าเป็นฝีมือพี่ชายของเธอแน่นอน
"ค่ะ.. ฉันบอกเค้าแล้วว่าอย่าพึ่งแต่ก็ไม่ยอม"
"จะทำอะไรก็จะให้ได้อย่างใจก็เค้าล่ะค่ะ"
"ฮ่าๆๆ.." แพงขวัญหัวเราะชอบใจกับคำพูดของมนัญชนกเพราะสามีเธอก็เป็นแบบที่หญิงสาวว่าจริงๆ
"เหมือนจะมีใครนินทาพี่นะ" แพทริคเดินออกมาหาสาวๆพร้อมจานผลไม้และคุ้กกี้เพื่อเป็นของว่างให้สองสาว
"เค้าไม่เรียกนินทาค่ะเรียกว่าพูดเรื่องจริง"
"ไม่เจอไม่กี่วันสมบูรณ์ขึ้นนะเรา" มือหนาวางของได้ก็จับเดินกอดอกเพ่งมองร่างกายที่สมบูรณ์ขึ้นของน้องสาวเขาที่ห่างกันไปไม่กี่วันดูเธอจะเจ้าเนื้อขึ้นจนแปลกตา
"จะบอกว่าหม่อนอ้วนงั้นเหรอคะ" มนัญชนกขมวดคิ้วก้มหน้างุด
"ทักนิดหน่อยเองทำน้อยใจไปได้" แพทริคดูออกทันทีว่าอาการแบบนี้ของน้องสาวของเขาคือกำลังน้อยใจแน่นอนไม่คิดว่าน้องเขาจะอ่อนไหวเช่นนี้เพราะน้อยครั้งมากที่เขาจะเห็นน้องสาวของเขามีปฏิกิริยาเพราะคำพูดเล็กน้อย
"ใครเค้าทักผู้หญิงกันแบบนี้ล่ะคะคุณแพท" มือเรียวจับแขนแกร่งของคนเป็นสามีพร้อมดุเบาๆ
"น้อยใจเก่งตั้งแต่เมื่อไรเนี่ยเรา..." ชายหนุ่มง้อคนเป็นน้องที่นั่งหน้ามุ่ยโดยการรวบหัวทุยมากอดพร้อมยีหัวเล่นเบาๆ
เย็นของวัน
"โห.. อาหารเต็มโต๊ะเลย..โทรเรียกคามินมาทานข้าวเย็นที่นี่สิหม่อน" เมื่อถึงเวลาอาหารเย็นแพทริคเก็นว่าสองสาวช่วยกันทำอาหารจนเต็มโต๊ะเลยอยากให้น้องเขยอย่างคามินมาร่วมวงด้วย
"คุณมินกลับดึกทุกวันเลยค่ะหม่อนทานข้าวเย็นคนเดียวตลอดเลย" มนัญชนกหน้าเจื่อนลงทันทีที่เธอมาขลุกอยู่ที่นี่ทั้งวันก็เพราะอยากมีเพื่อนทานข้าวเย็นเป็นเพื่อนบ้าง
"ทำไมล่ะ"
"ตอนนี้คุณมินงานยุ่งน่ะค่ะเลขาก็พึ่งลาออกไป"
"อ่อ..งั้นไม่เป็นไรเราทานกันแค่นี้ก็ได้"
"...." แพงขวัญจ้องหน้าคนเป็นสามีอย่างเอาเรื่องเมื่อเขาคุยกับมนัญชนกจบเพราะไม่น่ามีคำว่าทำไมตั้งแต่มนัญชนกหน้าเสียแล้ว
เธอเข้าใจมนัญชนกเลยว่าหลังแต่งงานควรจะมีเวลาสวีทกับสามีแต่สามียุ่งแต่กับงานคงจะเหงาและน้อยใจน่าดู
หลังจากทานอาหารกันเรียบร้อยแล้วทุกคนก็พึดคุยถามไถ่ความเป็นอยู่กันพักใหญ่ก่อนที่มนัญชนกจะขอกลับเพราะเริ่มดึกแล้วเธอยังต้องกลับไปทำอาหารรอคนเป็นสามีเพราะเขาบังไม่ได้ส่งข้อความมาบอกเธอว่าเขาทานอาหารเย็นที่ทำงานแล้ว
"หม่อนกลับแล้วนะคะ"
"ขับรถดีๆล่ะถึงบ้านแล้วโทรหาพี่ด้วย"
"ค่ะ"
สองสามีภรรยาเดินออกมาส่งน้องสาวที่หน้าบ้านก่อนที่จะจะขับรถกลับไป
"ดูน้องผมท่าจะน้อยใจคามินอยู่นะ" แพทริคพอจะดูออกหลังจากที่ถามคำถามน้องสาวเขาเมื่อเย็น
"เป็นฉันก็น้อยใจเหมือนกันนะคะพึ่งแต่งงานกันแท้ๆแต่สามีก็ยุ่งอยู่แต่กับงาน" แพงขวัญพยักหน้าเบาๆ
"ผู้หญิงคิดเล็กคิดน้อยแบบนี้ด้วยเหรอ...มีสามีขยันทำงานไม่ดีหรือไง" แม้นจะรู้ว่าน้องสาวของเขาน้อยใจสามีตัวเองแต่ก็ไม่เข้าใจว่าเธอไม่ชอบหรืออย่างไรกับสามีที่ขยันทำงาน
"งานก็สำคัญนะคะแต่ถ้าเล่นไม่มีเวลาให้ครอบครัวเลยก็ไม่ใช่"
"ต่อจากนี้ผมต้องเรียนรู้ชีวิตครอบครัวให้เยอะแล้วล่ะสิ" ฟังเสียงคนเป็นภรรยาจบแพทริคก็รู้ว่าจากนี้เขาต้องเรียนรู้ชีวิตครอบครัวอีกมากเลยทีเดียวเพราะความคิดการใช้ชีวิตครอบครัวของเขาที่เป็นผู้ชายมันแตกต่างกว่าผู้หญิงที่ขึ้นชื่อว่าเป็นภรรยาอยู่พอสมควร
ไม่นานนักมนัญชนกก็ขับรถมาถึงบ้านแต่ดูท่าว่าสามีของเธอก็ยังไม่กลับมาเสียที
"ยังไม่กลับมาอีกเหรอเนี่ย" สาวเจ้ายืนหน้าละห้อยเล็กน้อยก่อนจะเดินเข้าครัวไปทำอาหารรอสามีของเธอกลับมาเสร็จแล้วจึงขึ้นห้องไปอาบน้ำอาบท่าเตรียมตัวนอน
22.00 น.
แกร๊กกก
"กลับมาพอดีเลยหม่อนทำอาหารไว้ให้คุณแล้วเดี๋ยวไปอุ่นให้นะคะ" มนัญชนกเห็นสามีของเธอกลับมาก็พอจะยิ้มออกและรีบลุกออกจากเตียงหมายจะไปอุ่นข้าวเย็นให้เขาแต่ก็ถูกสามีเธอยืนขวางเอาไว้ก่อน
"เอ่อ.. ผมทานมาแล้วล่ะครับโทษทีที่ไม่ได้บอกคุณก่อน" คามินทำงานจนลืมส่งข้อความบอกใหภรรยาของเขารู้จึงมีสีหน้าที่ค่อยข้างรู้สึกผิดก่อนจะเข้าไปโอบหญิงสาวแต่เธอถอยกรูก้มหน้างุดหนีเขาขึ้นเตียงไปเสียก่อน
"งั้น..คุณไปอาบน้ำให้สดชื่นเถอะค่ะทำงานมาทั้งวันแล้ว" สาวเจ้าพูดเสียงอ่อนโดยที่ไม่ยอมมองหน้าคามินซึ่งนั่นก็ทำให้ชายหนุ่มรู้ได้ทันทีว่าเธอกำลังน้อยใจ
คามินยังคงยืนเงียบถอนหายใจอ่อนอย่างรู้สึกผิดเขาก็ไม่ได้อยากทำงานหามรุ่งหามค่ำแบบนี้แต่งานมันรัดตัวจริงๆ
"เป็นอะไรเนี่ยเราสามีไปทำงานไม่ได้นอกลู่นอกทางซะหน่อย" มนัญชนกก้มหน้านานจนคามินเข้าไปในห้องน้ำหญิงสาวกำมือแน่นบอกกับตัวเองที่ช่างเป็นคนที่ดูงี่เง่ากับคนเป็นสามีเหลือเกินทั้งที่รู้ว่าเขาทำงานหนักก็ยังน้อยใจเขาอยู่ได้แม้นเธอจะรู้ตัวก็จริงแต่ก็ควบคุมความน้อยใจของตัวเองไม่ได้อยู่ดี
ครู่ต่อมา
หลังจากอาบน้ำเรียบร้อยแล้วคามินก็รีบแต่งตัวและเข้ามาสวมกอดร่างบางใต้ผ้านวมผืนหนาแน่น
"คุณไม่น้อยใจผมใช่ไหม" น้ำเสียงทุ้มถามภรรยาในอ้อมกอดด้วยความเป็นกังวล
"ค่ะ...ก็คุณไปทำงานนี่คะ" ร่างบางว่าจบก็พลิกหันหลังให้คามินแม้นปากเธอจะพูดว่าเข้าใจแต่เธอก็บังคับอาการน้อยใจให้หายไปไม่ได้อยู่ดี
"....." คามินได้แต่กอดภรรยารักไว้เงียบๆดีที่พรุ่งนี้เป็นวันหยุดเขาจึงจะได้มีเวลาอยู่กับเธอและปรับจูนกันใหม่บ้าง
วันต่อมาร้านอาหารหรู"พาหม่อนมาที่นี่ทำไมคะคุณมิน" มนัญชกถูกคามินเดินจูงมือจากลานจอดรถมาที่น้านอาหารหรูที่ห้อางดังใจกลางเมืองคราแรกเขาบอกกับเธอว่าจะมาทำธุระนิดหน่อยแต่ไม่รู้ว่าเขาจูงเธอเข้ามาในรอานอาหารเพื่ออะไรแถมในร้านนี้ก็ยังไม่มีคนอยู่แม้แต่คนเดียวอีกต่างหาก"ตามผมมาตรงนี้สิครับ" "นี่มัน..." เดินเข้าร้านมาไม่น่นนักคามินก็พาหญิงสาวเดินมาด้านในสุดของร้านที่เป็นโซนที่มองเห็นวิวทิวทัศน์แม่น้ำสายใหญ่ได้ป็นอย่างดีรอบๆรายล้แมไปด้วยลูกโป่งสีชมพูละลานตาและตรงกลางก็มีโต๊ะอาหารที่มีอาหารวางเรียงรายอยู่เต็มโต๊ะตอนนี้เธอพอจะดูออกแล้วว่าเขาคงจะเซอร์ไพรซ์อะไรเธอแน่นอน"ผมปิดร้านนี้เพื่อทานข้าวกับคุณเลยนะครับ..นั่งก่อนสิครับ""ค่ะ" ใบหน้าหวานยิ้มอ่อนเล็กน้อยที่คามินมีเวลาเอาใจเธอบ้าง"ผมขอโทษคุณจริงๆที่ผมไม่มีเวลาทานข้าวเย็นกับคุณเลยผมรู้ว่าคุณอาจจะไม่ชอบแต่จากนี้ผมจะพยายามกลับบ้านมาทานข้าวเย็นกับคุณทุกวันนะครับ" หลังจากหญิงสาวนั่งลงได้คามินก็เปิดกล่องกำมะหยี่สีเทาหยิบสร้อยที่มีจี้เพชรรูปหัวใจมาสวมใส่ให้เธอเพื่อเป็นการปลอบใจก่อนจะหย่อนก้นลงนั่งตรงหน้าหญิงสาวกุมมือเธอเอาไว้หลวมๆสัญญากับเ
อาทิตย์ต่อมาเย็นของวัน“ท่านประธานเรียกวีมามีเรื่องอะไรเหรอคะ” วีนาเดินนาวยนาถเข้าห้องของคามินมาด้วยรอยยิ้มกว้างก่อนจะหย่อยก้นลงนั่งตรงหน้าคามินส่งน้ำเสียงหวานถามอีกฝ่าย“ผมต้องการให้คุณวีไปทำหน้าที่พีอาร์ของโรงแรมน่ะครับ” “อะไรนะคะ..วีทำงานให้ท่านประธานไม่ดีหรืออะไรบอกวีมาได้เลยนะคะ” รอยยิ้มกว้างเมื่อครู่ของวีนาหุบลงทันทีเมื่อคามินแจ้งความประสงค์ออกมาเพราะตอนนี้เขาหาเลขาคนใหม่ได้แล้วเป็นผู้ชายและจะเริ่มงานอาทิตย์หน้าเขาเลยต้องแจ้งให้หญิงสาวรู้กะทันหันว่าเขาต้องการให้เธอไปทำหน้าที่อื่น“เปล่าครับคุณทำงานดีมากและบุคลิกของคุณผมว่าเหมาะกับงานด้านนี้มากกว่าแถมเงินเดือนผมก็จะเพิ่มให้คุณด้วยนะครับ” “เอ่อ..แล้วจะให้วีเริ่มงานพีอาร์ได้เมื่อไรล่ะคะ”“อาทิตย์หน้าครับคุณเตรียมตัวได้เลยนะครับ”“ค่ะท่านประธาน” วีนาเดินออกจากห้องของคามินไปด้วยสีหน้าที่ค่อนข้างไม่พอใจพอสมควรไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ๆคามินถึงได้เปลี่ยนให้เธอไปทำงานอื่นกะทันหันทำให้เธอต้องอยู่ห่างเขาไปอีกเย็นของวันร้านอาหารหลังจากเลิกงานได้คามินก็ขับรถไปรับภรรยารักของเขาออกมาทานข้าวเย็นที่ร้านอาหารข้างนอกเพราะอยากเปลี่ยนบรรยากา
"ทำไมพี่แพทพาหม่อนมาไทยกะทันหันเหรอคะ" ใบหม่อนหญิงสาวร่างเล็กใบหน้าจิ้มลิ้มที่วัย23ย่าง24อยู่ในชุดเดรสสีชมพูหวานเดินตามพี่ชายที่สูงใหญ่อย่างเร่งรีบเข้าไปในบ้านพักหลังใหญ่ในชานเมืองของกรุงเทพมหานครที่ต้องรีบสับขาให้รวดเร็วเพราะเธอก้าวไม่ค่อยทันพี่ชายที่สูงราวสองเมตรเธอเท่าไร"ก็ไม่ได้กะทันหันนี่นาพี่เคลียงานที่นี่ทุกอย่างจบแล้วก็อยากจะกลับไปลงทุนธุรกิจที่ไทย" แพทริคหนุ่มลูกครึ่งไทยอังกฤษวัย34อยู่ในชุดสูทที่สั่งตัดจากแบรนด์หรูเดินเด่นสง่าเข้ามาในบ้านหลังใหญ่ก่อนจะหย่อนก้นลงนั่งพักที่โซฟาราคาแพงที่ห้องนั่งเล่นด้วยท่าทีเหนื่อยล้าเนื่องจากเดินทางมานานดีที่มาถึงเขาก็เข้สพักผ่อนในบ้านได้เลยเพราะสสั่งให้คนเตรียมจัดแจงทำความสะอาดไว้ก่อนหน้านี้แล้วแพทริค เนลสันลูกครึ่งไทยอังกฤษเป็นลูกชายคนเดียวของโทมัส เนลสันเจ้าของบริษัทผลิตเรือยอร์ชส่งออกที่อังกฤษเจ้าใหญ่ที่สุดในประเทศ ชายหนุ่มเป็นทายาทคนเดียวที่ถูกจับตามองจากสังคมเซเลปคนดังมากที่สุด เพราะจะเป็นคนเดียวที่สืบทอดกิจการของเนลสันแถมตอนนี้ยังเป็นหนุ่มโสดเนื้อหอมที่สาวๆก็อยากจะเข้าหามากที่สุดอีกด้วยติดอยู่ที่ว่าเขานั้นค่อนข้างเข้าถึงยากสื่อทุกสื่
"ก็ได้ค่ะ" คนถูกปฏิเสธมีสีหน้าบอกบุญไม่รับเลยทันที ใบหม่อน มนัญชนก เนลสัน หญิงสาวที่เป็นน้องสาวบุญธรรมของแพทริคและพ่วงตำแห่งลูกบุญธรรมของโทมัสเนลสัน เธอเป็นสาวไทยแท้ตั้งแต่กำเนิดเมื่อพ่อกับแม่เสียตอนสามขวบกว่าเธอก็ต้องมาอยู่กับหลวงตาที่วัดและมีแพทริคเป็นคนขอรับเธอมาดูแลจนแพทริคได้ย้ายไปอยู่ที่อังกฤษเขาก็พาเธอไปอยู่ด้วย จนเธอได้ร่ำเรียนและใช้ชีวิตที่นั่นหลังเรียนจบเธอก็ช่วยโทมัสและแพทริคทำงานในบริษัทและตอนนี้ก็พ่วงตำแหน่งเลขาของพี่ชายเธอด้วย มนัญชนกเป็นหญิงสาวร่างเล็กตัวผอมแห้งสูงเพียง 155 ผิวขาวเหลืองใบหน้ากลมรูปไข่พวงแก้มมีรักยิ้มคิ้วบางได้รูปดวงตาคมเหมือนลูกแมว จมูกเป็นสันเล็กริมฝีปากบางอมชมพู เธอเป็นสาวที่ค่อนข้างอ่อนหวานเห็นใจผู้อื่นเป็นที่หนึ่ง ทั้งยังถูกหวงจากโทมัสและแพทริคเหมือนไข่ในหินเพราะเป็นผู้หญิงคนเดียวของตระกูลแถมยังดูหัวอ่อนต่างจากคนทั่วไปอยู่มากแม้จะเติบโตในวัฒนธรรมตะวันตก เธอชอบทำอาหารเป็นชีวิตจิตใจจนตอนนี้พ่อและพี่ชายเธอเห็นว่าให้หญิงสาวลองเรียนรู้การทำงานอีกสักปีสองปีก็จะเปิดกิจการในสิ่งที่เธอชอบทำให้เธอได้บริหารเอาเอง วันต่อมาเชียงใหม่"ค่ะคุณพ่อแพงใกล้ถึงบ้า
"..อย่าทำอะไรฉันเลยนะ..อยากได้เงินเท่าไรฉันจะเอามาให้" ดวงตากลมโตเบิกกว้างก่อนจะทำใจกล้าต่อรองกับอีกฝ่ายเสียงสั่น"แก้ปัญหาทุกอย่างได้ด้วยเงินอย่างงั้นเหรอ..ใครสั่งสอนคุณมาล่ะ..ที่ผมจับคุณมาไม่ได้อยากได้เงินเลยสักนิด" เมื่อเห็นอีกฝ่ายแก้ไขปัญหาด้วยเงินอารมณ์โมโหของแพทริคก็เพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ"ตกลงจับฉันมาต้องการอะไรกันแน่" "ก็คุณเล่นสวยขนาดนี้จะให้ผมทำอะไรดีล่ะ" ดวงตากลมมองไล่ละเรี่ยเนื้อขาวผ่องที่นูนตึงขึ้นมาเด่นสายตาก่อนผลักร่างบางราบไปกับเตียง"ม..ไม่นะอย่ามาแตะตัวฉันนะ..ไอ้บ้า.." แพงขวัญดิ้นหนีสุดชีวิตเมื่ออีกฝ่ายตั้งใจจะล่วงเกินเธอแต่แรงของเธอก็ทำอะไรคนตัวโตไม่ได้อยู่ดี"..อื้ออ." แพทริคบดจูบส่งลิ้นร้ายสำรวจโพรงปากหญิงสาวที่ดีดดิ้นพักใหญ่จนเธอหมดแรงที่จขัดขืนเขาจึงละการฉกชิมความหวานจากโพรงปากของหญิงสาว“เฮ่อ ฟู่วว..” สาวเจ้าเมื่อริมฝีปากได้เป็นอิสระก็รีบสูดลมหายใจเข้าออกยกใหญ่เพราะเมื่อครู่เขาไม่เว้นว่างให้เธอได้หายใจเลยสักนิดจนเธอหมดเรี่ยวแรงที่จะดิ้นต่อสู้“...หึ่..ถึงกับเคลิ้มเลยเหรอ” แพทริคยิ้มเยาะอีกฝ่ายด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์“ไอ้ฝรั่งบ้า..ไอ้บ้าเอ้ย..” แพงขวัญรู้สึกเสียหน้า
วันต่อมา"ฮึก..ฮือๆๆ" ตั้งแต่ตื่นมาได้หญิงสาวก็นอนร้องให้สะอึกสะอื้นด้วยความเจ็บปวดรวดร้าวทั้งกายและใจไม่คิดไม่ฝันว่าเธอจะต้องมาเจอเหตุการณ์โหดร้ายอย่างเมื่อคืนนี้"ขอบใจนะที่ให้ผมเป็นคนแรกของคุณ" แขนแกร่งยังคงกอดกุมร่างบางไม่ยอมปล่อยทั้งยังเอ่ยให้หญิงสาวให้เจ็บปวดใจเล่น"หยุดพูดเดี๋ยวนี้นะไอ้โรคจิต" มือเรียวยกกุมริมฝีปากหนาเอาไว้อย่างไม่พอใจ"หึ่..ทำใจเอาไว้เลยว่าคุณจะต้องพบเจอคนโรคจิตอย่างผมอยู่ตลอด.." มือหนายกบีบข้อมือหญิงสาวเอาไว้แน่นก่อนจะดึงมันออกจากปากของเขา"ฮือๆๆ.." สิ้นเสียงแหบพร่าของคนข้างๆแพงขวัญก็ปล่อยก็ร้องให้โฮจนตัวโยนวันต่อมา“กลับไปสิรถนั่นผมให้คนซ่อมให้แล้วขับแล้วขับกลับได้เลยนับว่าผมใจดีกับคุณนะแล้วอย่าคิดแจ้งความเพราะถ้าคุณแจ้งความล่ะก็ตัวคุณเองนั่นแหละที่จะเสียหาย” เช้าของวันนี้แพทริคขับรถมาส่งหญิงสาวจุดเดิมที่เขาจับตัวเธอมา“.....” หลังจากที่แพงขวัญลงรถได้เธอก้เข้ามานั่งในรถคันเก่าของเธอก่อนจะนั่งร้องให้ตัวโยนพักใหญ่และตัดสินใจขับรถกลับกรุงเทพทันทีอยากจะให้เรื่องบ้าๆนี้เป็นเพียงแค่ความฝันแต่มันก็ไม่ใช่22.00 น."ทำไมถึงกลับมากะทันหันล่ะลูก" พงษ์พัฒน์นักธุรกิจนำ
"คุณแพทริคนี่หน้าคุ้นๆนะครับเราเคยเจอกันที่ไหนมาก่อนหรือเปล่าผมว่าจะถามตั้งแต่ทีแรกที่เจอแล้ว" เมื่อนั่งคุยกันได้พงษ์พัฒน์ก็เอ่ยถามเรื่องที่เขาเคยคาใจอยู่ทันที"คงไม่หรอกครับ.." แพทริคตอบกลับด้วยรอยยิ้มก่อนจะเปรยสายตามองไปที่หญิงสาวตรงข้ามที่เอาแต่นั่งก้มหน้างุดไม่ยอมสบสายตากับเขา"คุณพ่อคะเดี๋ยวแพงกับพี่มินขอตัวไปรับลมข้างนอกก่อนนะคะอยู่ในนี้นานเวียนหัวน่ะค่ะเชิญคุณพ่อคุยเรื่องธุรกิจตามสบายนะคะ" "ได้สิลูก" คนเป็นพ่ออนุญาตได้สาวเจ้าก็ลากแฟนหนุ่มของเธอออกไปคุยกันที่ลานด้านนอกของชั้นจัดงานทันทีเพราะรู้สึกอึดอัดเกินจะทน“.....” แพทริคมองตามหลังหญิงสาวด้วยสายตาที่พึงพอใจนับว่าที่หญิงสาวมีอาการแบบนี้ก็คงจะเกรงกลัวเขาอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน ทางด้านแพงขวัญและคามินหลังจากเดินออกมานั่งด้านนอกแล้วคามินจึงพาหญิงสาวมานั่งในโซนวีไอพีที่เป็นส่วนตัวของเขาเอง"ทำไมออกมากะทันหันล่ะ" "แพงไม่ค่อยชอบฟังคนคุยเรื่องธุรกิจไงคะ" "แต่ยังไงแพงก็ต้องหัดฟังไว้นะคะอนาคตแพงคงต้องไปไหนมาไหนกับพี่แล้วก็ฟังพี่คุยเรื่องธุรกิจกับหุ้นส่วนอยู่บ่อยๆ" "หมายความว่ายังไงคะ" แพงขวัญมองคนรักของเธอด้วยแววตาสงสัย"พี่เ
"...คุณต้องการอะไรกันแน่...เข้ามาในชีวิตฉันกับพ่อฉันเพื่ออะไร" แพงขวัญเงยหน้ามองคนตัวโตด้วยความไม่พอใจก่อนจะเอ่ยถามสิ่งที่คาใจอยู่ในตอนนี้"บอกตอนนี้ก็ไม่สนุกน่ะสิ" แพทริคขึงร่างบางไว้กับผนังเขายังไม่เฉลยให้เธอฟังตอนนี้ว่าเขาเข้ามาในชีวิตเธอกับพ่อเธอเพราะอะไรด้วยต้องการปั่นหัวให้เธอเครียดเล่นๆไปก่อนที่จะถึงเวลาบอกความจริง"ปล่อย..""คุณห้ามหมั้นกับคามินถ้าไม่อยากให้บริษัทพ่อคุณพังลงไม่เป็นท่า""ถึงฉันจะไม่รู้ว่าคุณต้องการอะไร...แต่ฉันรู้ว่าคุณมันเลว..เลวเกินคนจริงๆ" แพงขวัญรู้จากคนเป็นพ่อว่าตระกูลเนลสันสามารถทำอะไรได้บ้างและที่เขาพูดเมื่อครู่ก็น่าจะทำได้จริงแต่เธอก็ไม่มีคำไหนที่จะตอกกลับเขาดีไปกว่าด่าว่าเขาในเรื่องจริงที่เขาเป็น"อย่าปากดีให้มันมากนัก" ชายหนุ่มว่าจบก็เหวี่ยงร่างบางนอนราบบนเตียงนอนของเธอก่อนจะกดทับเธอด้วยร่างกายของตัวเองเอาไว้มือหนาทั้งสองขึงข้อมือเล็กของหญิงสาวเอาไว้ข้างตัวลำขาแกร่งแทรกผ่านขาเรียวจนชุดนอนของเธอร่นขึ้นมาอยู่ด้านบนขาอ่อน"ปล่อยฉันนะ.." ใจของแพงขวัญเต้นแรงแทบจะออกมาข้างนอกด้วยความกลัวที่จะเกิดเหตุการณ์เช่นเดิมอีก"มาสนุกกันหน่อยจะเป็นไรล่ะ" และแล้วเธอก็