หลายวันต่อมา
หลังจากวันนั้นที่แพงขวัญสูญเสียคนเป็นพ่อไปเธอก็เอาแต่นั่งเสียใจทานอะไรไม่ได้นอนไม่หลับจนทุกคนก็หดหู่ไปตามๆกันทั้งห่วงสภาพจิตใจของแพงขวัญและลูกในท้องของเธออีก
จวบจนวันนี้ก็ถึงวันที่แพงขวัญต้องมาลอยอังคารแล้วน้ำตาของเธอก็ยังไม่เคยเหือดแห้งไปเลยแม้แต่วินาทีเดียว
คนที่เจ็บปวดที่สุดตอนนี้ก็เห็นจะเป็นแพทริคที่ทำได้เพียงแค่ตามดูหญิงสาวห่างๆเท่านั้นเพราะไม่อยากทำให้เธอเจ็บปวดใจเมื่อเห็นหน้าของเขา
"ผลสอบสวนออกมาแล้วนะครับแพง" หลังจากที่ลอยอังคารเรียบร้อยแล้วคามินก็พาแพงขวัญมาคุยเรื่องคดีที่บ้านของมนัญชนก
"ว่ายังไงบ้างคะ"
"คุณแพทไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้คนที่ขับรถชนคุณอาเป็นคนเมาที่อยู่แถวนั้น...พี่ว่าแพงลองลดทิฐิคุยกับคุณแพทดูใหม่ดีหรือเปล่า" จากหลายวันที่ผ่านมาที่แพทริคเฝ้าดูแลแพงขวัญอยู่ห่างตลอดทำให้เขารู้ว่าแพทริครักและห่วงใยแพงขวัญอยู่ไม่น้อยเขาจึงอยากให้ทั้งคู่ลองเริ่มต้นกันใหม่อีกสักครั้งเพื่อลูกในท้องที่กำลังจะเกิดมา
"......" แพงขวัญก้มหน้างุดไม่ยอมตอบอะไรแม้นเขาจะไม่ได้ทำร้ายพ่อของเธอจริงแต่เรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั้นเธอก็ยังเจ็บปวดใจไม่หาย
"หม่อนขอโทษนะคะที่ไม่เชื่อใจพี่แพท" มนัญชนกเดินออกจากบ้านมาขอโทษพี่ชายเธอที่ไม่เชื่อใจเขาตั้งแต่แรก
"พี่เข้าใจ" แพทริคเข้าใจน้องสาวของเขาดีหากเป็นเขาเองก็คงจะคิดแบบเธอเป็นธรรมดา
"จะเข้าไปหาคุณแพงหรือเปล่าคะ"
"ไม่หรอกพี่รู้ว่าเธอคงไม่อยากเห็นหน้าพี่ฝากหม่อนดูแลเธอด้วยให้เธอทานอะไรบ้าง"
"ค่ะ.." เมื่อขอร้องน้องสาวจบดวงตาคมก็เหลือบจ้องมองคนในบ้านในบ้านอย่างเป็นห่วงก่อนจะหันหลังกลับไป"
วันต่อมา
ฉันลาก่อนนะคะคุณหม่อนขอบคุณที่ดีกับฉันตลอดมาฉันสัญญาจะดูแลลูกในท้องให้ดีที่สุดไม่ต้องห่วงนะคะ
"ค.. คุณแพง.." มนัญชนกตื่นขึ้นมาในช่วงเช้าก็เห็นโพสอิทแปะไว้ที่ประตูห้องของแพงขวัญข้อความในนั้นทำให้เธอรีบกดมือถือโทรหาพี่ชายเธออย่ารวดเร็ว
ทางด้านแพงขวัญเธอได้ตัดสินใจบินมาที่เชียงใหม่ตั้งแต่ช่วงเช้าตรู่โดยที่ไม่บอกกับใครว่าเธอจะมาที่นี่เพราะต้องการมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ส่วนกิจการทั้งหมดเธอสั่งยื่นเอกสารเซ็นให้คามินดูแลโดยฝากกับเลขาของพ่อเธอเอาไว้ตอนนี้คามินก็คงจะได้รับแล้ว
"ถึงซะทีนะ" แพงขวัญหอบกระเป๋านั่งรถจากสนามบินมาที่หมู่บ้านนแห่งหนึ่งของเชียงใหม่ที่นี่ค่อนข้างติดธรรมชาติและไม่ค่อยเจริญมากนักเพื่อมาที่บ้านหลังเก่าของสายบัวแม่นมของเธอ
เมื่อมาถึงหน้าบ้านหลังสีขาวไม่ใหญ่มากหลังหนึ่งรอบๆรั้วมีอาณาเขตกว้างขวางเธอรีบเดินเข้ามาด้านในด้วยรอยยิ้มแห่งความคิดถึงบ้านหลังนี้เป็นบ้านของสายบัวแม่นมเก่าเธอที่เสียไปแล้วด้วยไม่มีญาติที่ไหนจึงมอบที่นี่ไว้เป็นของเธอเพราะรักและเอ็นดูเหมือนลูกเหมือนหลานคนนึงที่นี่ดูไม่เก่าเพราะแพงขวัญจ้างให้คนมาดูแลเป็นระยะและไม่ค่อยวุ่นวายเนื่องจากบ้านหลังนี้ค่อนข้างห่างจากชุมชนพอสมควร
อาทิตย์ต่อมา
"ได้เรื่องอะไรบ้างหรือเปล่าคะคุณมิน" มนัญชนกถามคามินด้วยความร้อนใจเมื่อเขาเข้าบ้านมาหาเธอแต่เช้า
"ไม่เลยครับรู้แค่ว่าคุณแพงบินไปที่เชียงใหม่ถามจากเลขาคุณอาเธอก็บอกว่าแพงไม่ได้มีญาติอยู่ที่นั่น...คุณแพทริคล่ะครับ"
"เอาแต่ดื่มจนไม่ได้สติค่ะ..ข้าวปลาก็ไม่ยอมทาน" หญิงสาวเหลือบมองเข้าไปในห้องนอนที่แพงขวัญเคยอยู่ตอนนี้พี่ชายเธอเอาแต่ดื่มอยู่ในนั้น
"คงจะเสียใจหนักสินะครับ"
"ค่ะ..." มนัญชนกรู้สึกจู่ๆก็หน้ามืดขึ้นมากะทันหันจึงเกือบจะล้มลงดีที่คามินประคองเธอเอาไว้และพามานั่งคุยกันที่โซฟา
"เอ่อ...คุณหม่อนเป็นอะไรครับ"
"ฉันคงนอนน้อยน่ะค่ะ" หญิงสาวมีอาการแบบนี้สองสามวันแล้วคิดว่าน่าจะเกิดจากสาเหตุที่เธอเครียดเรื่องพี่ชายเธอมากเกินไป
"แพง...อย่าทิ้งผมไป..แพงงงงง...ผมขอโทษ..."
"เป็นแบบนี้ตั้งแต่รู้เรื่องค่ะ" ทั้งสองหันหน้าไปมองคนในห้องเป็นตาเดียวกันเมื่อแพทริคตะโกนเสียงสั่นเครือและดูท่าจะร้องให้ด้วย
"เดี๋ยวผมจะให้เพื่อนที่เป็นตำรวจอยู่ที่นั่นสืบให้นะครับว่าแพงอยู่ที่ไหน" คามินเห็นท่าแพทริคจะเป็นหนักเลยอยากจะช่วยให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
"ขอบคุณนะคะ" มนัญชนกยิ้มอ่อนก่อนที่เธอจะรู้สึกหน้ามืดอีกครั้งและหมดสติไป
"คุณหม่อน..คุณหม่อน"
ครู่ต่อมา
หลังจากมนัญชนกหมดสติไปคามินก็โทรเรียกหมอมาที่บ้านเพื่อมาดูอาการของเธอแพทริคเองเห็นน้องสาวป่วยจนเป็นลมจึงสร่างเมาได้
ตอนนี้สองหนุ่มรออยู่นอกห้องให้หมอและพยาบาบตรวจมนัญชนกตามลำพังอย่างใจจดใจจ่อและคนที่ดูจะกระวนกระวายมากเห็นจะเป็นคามินเพราะแอบคิดในใจว่าที่หญิงสาวอ่อนเพลียและมีอาการหน้ามืดแบบนี้เธออาจจะท้องก็เป็นได้ซึ่งนั่นมันก็เป็นเรื่องที่ดีสำหรับเขาเลยทีเดียว
"เธอท้องใช่หรือเปล่าครับหมอ" คามินโพร่งถามหมอที่พึ่งออกมาจากห้องทันทีทำเอาแพทริคถึงกับขมวดคิ้วมองหน้าคามินด้วยความสงสัย
"เปล่าครับเธอน่าจะเครียดสะสมแล้วก็พักผ่อนน้อยด้วย...ผมให้ยาบำรุงกับยาคลายเครียดไว้นะครับให้เธอทานให้ตรงเวลาด้วย" หมอหนุ่มส่ายหัวเบาๆและเอ่ยอาการของมนัญชนกก่อนจะเดินกลับไป
"ขอบคุณครับหมอ"
หลังจากหมอและพยาบาลกลับกันไปแล้วแพทริคก็ต้องรั้งแขนคามินที่กำลังจะเข้าไปในห้องนอนของน้องสาวของเขามาถามให้หายคาใจก่อน
"ทำไมถึงคิดว่าน้องผมท้อง"
"คือ..." คามินนั่งคุยกับแพทริคพักใหญ่ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นและรับปากแพทริคว่าเขาจะยอมรับผิดชอบทุกอย่างไม่ใช่เพียงเพราะความรู้สึกผิดแต่เป็นเพราะเขารู้สึกดีกับมนัญชนก
"คุณจะทำอะไรผมก็ได้..." คามินเล่าจบเห็นแพทริคนิ่งไปจนเขาก็เดาไม่ออกว่าอีกฝ่ายคิดอะไรอยู่หากอยากจะทำอะไรเขาเพื่อระบายความโกรธเขาก็ไม่ว่า
"เฮ้อ...เรื่องนี้ผมก็มีส่วนผิด.. เพราะผมทั้งแพงแล้วก็หม่อนถึงเป็นแบบนี้...โถ่โว้ยย" แพทริคถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะฟาดหมัดหนักๆไปที่กำแพงบ้านอย่างโมโหเพราะรู้ดีว่าเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นมันเป็นเพราะเขา
"อย่ามัวโทษแต่ตัวเองเลยครับหาทางแก้ไขกันจะดีกว่า" คามินรั้งแพทริคให้หยุดการกระทำเพราะเขาทำร้ายตัวเองไปมันก็ไม่เกิดผลดี
"อืม..พี่แพทคะ" มนัญชนกรู้สึกค่อยยังชั่วแล้วเธอจึงเดินออกมานอกห้องเห็นพี่ชายของเธอกำลังทำร้ายตัวเองจึงรีบเดินเข้ามากอด
"หม่อน..พี่ขอโทษต่อไปนี้พี่จะไม่ทำให้เราต้องเครียดเพราะพี่อีกแล้ว" แพทริดกอดน้องสาวตัวเล็กของเขาเอาไว้แน่นน้ำตาลูกผู้ชายไหลหยอดลงมาไม่ขาดสายรู้สึกผิดที่ความแค้นของเขามันทำร้ายคนที่เขารักทุกคน
"กลับมาเป็นคนเดิมนะคะพี่แพท"
"พี่สัญญา"
ภาพสองพี่น้องปรับความเข้าใจกันเป็นที่น่าปลื้มใจกับคามินไม่น้อยปัญหาตรงนี้หมดไปแล้วตอนนี้ก็เหลือแค่ตามหาแพงขวัญให้เจอเท่านั้น
วันต่อมา
RrrrRrrrrr
"ได้เรื่องหรือเปล่ารัฐ..โอเคขอบใจมาก" ช่วงเช้าของอีกวันคามินก็ตื่นมาพร้อมกับข่าวดีที่สหรัฐเพื่อนของเขาสืบเสาะจนรู้ที่อยู่ของแพงขวัญในเวลาอันรวดเร็วได้หลังจากที่ได้รู้ข่าวดีนี้แล้วเขาจึงรีบโทรบอกมนัญชนกทันที
สวนสาธารณะ
"ทำไมต้องนัดผมมาคุยกันข้างนอกด้วยล่ะครับ" คามินวางสายจากมนัญชนกก็รีบขับรถมาที่สวนสาธารณะใกล้บ้านของหญิงสาวไม่รู้ว่าทำไมเธอต้องนัดเขามาที่นี่ด้วย
"หม่อนอยากทำอะไรบางอย่างน่ะค่ะ" มนัญชนกอยากจะคุยอะไรบางอย่างที่ไม่ให้พี่ชายเธอรู้ก่อนที่เธอและคามินจะเดินทางไปตามหาแพงขวัญ
เช้าวันต่อมา
เชียงใหม่
"เจ้าต้นไม้โตไวๆนะรู้ไหม" แพงขวัญเดินออกมารดน้ำต้นไม้หน้าบ้านยามเช้าเมื่อมาอยู่ที่นี่ได้ร่วมอาทิตย์สภาพจิตใจของแพงขวัญก็ดีขึ้นพอสมควรแต่ก็ยังแอบมีนึกถึงแพทริคอยู่บ้างเพราะถึงเธอจะโกรธเขาแต่ก็ยังรักเขามากอยู่ดี
"คุณแพงคะ"
"คุณหม่อน...พี่มิน" แพงขวัญยืนตัวแข็งทื่อไม่คิดไม่ฝันว่าคามินและมนัญชนกจะหาเธอเจอทั้งตอนนี้ยังมองซ้ายมองขวาเพราะคิดว่าหากมนัญชนกอยู่ที่นี่ไม่วายแพทริคคงมาด้วยเป็นแน่
ครู่ต่อมา
เมื่อแพงขวัญรู้ว่าแพทริคไม่ได้มาด้วยและไม่รู้ว่าเธออยู่ที่นี่หญิงสาวจึงโล่งใจและเดินเข้ามาคุยกันในบ้านสองคนกับมนัญชนกส่วนคามินก็ขอเดินสูดอากาศข้างนอกปล่อยให้มนัญชนกได้พูดคุยกับแพงขวัญตามลำพัง
"คุณแพทไม่รู้แน่นะคะว่าแพงอยู่ที่นี่"
"แน่นอนค่ะ...หม่อนเอาหัวเป็นประกัน"
"ค่ะ..."
"คุณแพงยังรักพี่แพทอยู่หรือเปล่าคะหม่อนถามจริงๆ" มนัญชนกกุมมือแพงขวัญเอาไว้หลวมๆ
"แต่เค้าไม่ได้รักฉันนี่คะ" แพงขวัญก้มหน้างุดเธอไม่อยากโกหกว่าเธอไม่ได้รักแพทริคแล้วและพูดออกมาได้เพียงพ่นคำที่รู้สึกน้อยใจขึ้นมาเท่านั้น
"ตอนที่คุณแพงหายไปพี่แพทไม่เป็นผู้ไม่เป็นคนเลยนะคะ...แล้วที่เค้ายอมอ่อนลงได้ก็เพราะความรักที่พี่แพทมีต่อคุณแพงมันมากกว่าความแค้นในใจของเค้า"
"แต่ก่อนหน้านั้นเค้าก็ทำทุกอย่างเพราะความแค้นอยู่ดี" แม้นจะรู้สึกดีกับเรื่องที่ได้ยินจากปากของมนัญชนกแต่หญิงสาวก็นังรู้สึกขุ่นเคืองใจในเรื่องที่เขาทำกับเธอก่อนหน้าอยู่ดี
"หม่อนเข้าใจค่ะว่าตอนนี้คุณแพงยังโกรธพี่แพทอยู่เรามาระบายความโกรธหน่อยเป็นไงคะ"
"ยังไงคะ" แพงขวัญขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะมองหน้ามนัญชนกด้วยท่าทีสงสัยว่าที่หญิงสาวพูดหมายความว่าอย่างไร
สองสาวคุยกันอยู่พักใหญ่ถึงแผนการที่มนัญชนกคิดเอาไว้มนัญชนกไม่ยอมให้แพทริครู้เรื่องว่าแพงขวัญอยู่ที่ไหนเพราะเธอเองก็อยากจะเห็นว่าพี่ชายเธอมานะที่จะตามหาแพงขวัญจริงๆหรือไม่โดยที่หลังจากนี้เธอกับคามินจะไม่บอกข้อมูลและไม่ช่วยเหลืออะไรแพทริคทั้งนั้น“คุณแพงว่าดีหรือเปล่าคะ”“ดีเหมือนกันค่ะถือซะว่าแพงเอาคืนแล้วกันนะคะ” แพงขวัญยิ้มอ่อนเห็นว่าวิธีแก้เผ็ดแพทริคที่มนัญชนกเสนอก็ดีเหมือนกันและเธอก็จะได้เห็นด้วยว่าเขาจะพยายามตามหาเธอได้ไวเท่าไร“แต่ว่าถ้าพี่ชายหม่อนหาคุณแพงเจอแล้วหม่อนขอร้องนะคะอย่าหันหน้าหนีกันอีกเพื่อเจ้าตัวเล็กที่กำลังจะเกิดมา”“ค่ะ” แพงขวัญเงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่จะตอบตกลงกับมนัญชนกไปหากเขารักเธอจริงและเธอเองก็รักเขา...มันก็ไม่ได้ยากที่เธอจะให้อภัยแต่หากมีโอกาสเอาคืนเขาบ้างเธอก็อยากจะทำเพื่อดัดนิสัยคนที่เจ้าแผนการให้เจ็บปวดเล่นดูบ้าง เย็นของวัน"นี่ตามสูตรที่คุณมินเคยสอนฉันเลยนะคะ" คามินกับมนัญชนกง่วนกันอยู่ในครัวเรื่องการทำอาหารเย็นส่วนแพงขวัญเธอนั่งเล่นอยู่ด้านนอกเพราะได้กลิ่นอาหารมากไม่ได้เดี๋ยวจะอาเจียนออกมาอีกตอนนี้เธอถูกกับอาหารจำพวกผลไม้เท่านั้น"ผมมีสูตรอาหารอีกหลา
"อืม.." คามินยิ้มกริ่มที่มนัญชนกเผลอไผลไปกับรสสัมผัสของเขาได้เขาค่อยๆละจูบเงยหน้ามองใบหน้านวลที่แก้มแดงเปล่งเป็นลูกตำลึงและกำลังหันหน้าหลบสายตาของเขาอยู่อย่างเอียงอายเขายิ่งมองเธอแบบนี้ก็ยิ่งหลงไหลเวลาปกติเธอน่ารักแล้วแต่เมื่ออยู่ใกล้ชิดกับบนเตียงแบบนี้เธอยิ่งน่ารักกว่าปฏิกิริยาที่ไร้การปฏิเสธทำให้เขาไม่ต้องถามเธอเลยว่าเธอรู้สึกอย่างไรกับเขาใจเธอกับเขาตอนนี้คงรู้สึกไม่ต่างกันเท่าไร"คุณน่ารักที่สุดเลย" เสียงแหบพร่าพ่นอยู่ข้างๆแก้มนวลก่อนจะยื่นมือหนาปิดไฟที่หัวเตียง"อื้มม.." สองมือหนาประสานกับมือเรียวของหญิงสาวขึงเอาไว้แนบกับเตียงนุ่มก่อนจะโน้มตัวลงบอดจูบนุ่มนวลสอดส่ายลิ้นร้ายฉกชิมความหวานจากปากคนตัวเล็กอีกครั้งเนิ่นนานเสียจนริมฝีปากบางชาและห้อเลือดเล็กน้อยไม่นานนักคนตัวโตก็จัดการเปลื้องผ้าทั้งเขาและเธอออกไปจนหมดให้หลงเหลือแต่ความอบอุ่นใต้ผ้าห่มจากการที่เนื้อแนบเนื้อเท่านั้น".. อ๊ะ.. อืม.." มนัญชนกแอ่นอกรับริมฝีปากของคนตัวโตอย่างลืมอายเพราะเมื่อปลายลิ้นสัมผัสกับยอดอกอิ่มของเธอก็รู้สึกวาบหวิวไปทั้งตัวจนควบคุมร่างกายตัวเองไม่ได้"อืม.." คามินก้มฟัดอกอิ่มสลับกับบดจูบริมฝีปากบางด้วยอาร
"ผมจะไม่ยอมปล่อยคุณไปไหนอีกแล้วผมรักคุณได้ยินหรือเปล่าว่าผมรักคุณ" แพทริคเดินเข้ามารวบกอดร่างบางแน่นด้วยความคิดถึง"ปล่อยฉัน""ผมคิดถึงคุณจนจะบ้าอยู่แล้วรู้หรือเปล่าคุณไม่คิดอยากจะติดต่อหาผมบ้างหรือไง""ไม่คิดค่ะเพราะไม่อยากติดต่อ" แพงขวัญยังคงต้องการจะกวนประสาทของอีกฝ่ายต่อก่อนจะเดินหนีเข้าห้องหมายจะปิดประตูหนีแต่ก็ถูกอีกฝ่ายตามเข้ามาจนได้"ไม่ติดต่อกับผมแต่ติดต่อกับน้องผมได้งั้นสิ..แสบกันนักนะ" ว่าจบสองมือหนาก็รวบใบหน้านวลให้เงยขึ้นก่อนจะบดจูบไปที่ริมฝีปากบาง"อื้ออ.. คุณแพท" มือเรียวทั้งสองผลักใบหน้าคมของเขาออกที่จู่มาถึงก็กระทำเอาแต่ใจกับเธอทันที"ผมจะจูบคุณให้ปากเปื่อยโทษฐานที่แกล้งผม""คุณอยากร้ายใส่ฉันก่อนทำไมล่ะคะ" ดวงตาหกลมโตมองค้อนคนเป็นสามีเล็กน้อย"ผมขอโทษ...ต่อจากนี้ผมจะเป็นคนดีของคุณกับลูกผมสัญญา" แพทริครีบเอ่ยขอโทษหญิงสาวกับเรื่องราวที่ผ่านมาเขารู้ว่าเธอยังรักเขาก่อนจะสัญญากับเธอว่าเขาจะไม่ทำให้เธอต้องเสียใจอีกเพี๊ยะ "สำหรับที่คุณหลอกฉัน" เพี๊ยะ "สำหรับที่คุณไปนอนกับผู้หญิงคนอื่น" แพงขวัญเงื้อมมือฟาดไปที่แก้มสากของแพทริคสองทีเพื่อที่เธอจะได้ไม่รู้สึกติดค้าง
วันเวลาพ้นผ่านไปอย่างรวดเร็วจวบจนแพงขวัญท้องโตได้หกเดือนกว่าแล้วตอนนี้ดูแพงขวัญและแพทริคจะหวานกันเป็นพิเศษตั้งแต่ปรับความเข้าใจกันได้ก็ตัวติดกันเป็นแตงเมในส่วนของมนัญชนกและคามินทั้งคู่ก็จดทะเบียนสมรสกันเงียบๆต่อหน้าคนในครอบครัวคราแรกคามินต้องการที่จะจัดงานใหญ่โตให้สมเกียรติแต่มนัญชนกเป็นคนไม่ชอบพิธีอะไรมากมายเพราะวุ่นวายเปล่าๆคามินจึงตามใจเธอจนตอนนี้ก็ร่วมเดือนกว่าแล้วที่คามินและมนัญชนกใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันชีวิตคู่ของมนัญชนกและคามินไม่ค่อยหวานเหมือนแพทริคและแพงขวัญเท่าไรนักเพราะเวลาหลังจากแต่งงานประจวบเหมาะกับงานที่โรงแรมของคามินกำลังยุ่งมากพอดีพวกเขาเลยยังไม่มีเวลาฮันนีมูนหลังแต่งงานแถมคามินยังทำงานหามรุ่งหามค่ำข้าวเช้าไม่ได้ทานกลับบ้านมาก็ดึกจนมนัญชนกเหมือนจะใช้ชีวิตคนเดียวอยู่แล้ว22.00 น."ช่วงนี้กลับดึกทุกวันเลยนะคะ" มนัญชนกที่นั่งอยู่บนเตียงนุ่มเอ่ยพูดกับคนเป็นสามีที่พึ่งอาบน้ำเสร็จยอมรับเลยว่าน้อยใจอยู่ลึกๆที่เขากลับดึกแทบทุกวันแต่ต้องเก็บอาการ"ผมต้องทำงานคนเดียวเลยนะครับเลขาผมลาออกกะทันหัน" คามินแต่งตัวเสร็จก็รีบเข้ามากอดภรรยาตนเอาไว้แน่นด้วยความคิดถึงตอนนี้เขายุ่งกับง
วันต่อมาร้านอาหารหรู"พาหม่อนมาที่นี่ทำไมคะคุณมิน" มนัญชกถูกคามินเดินจูงมือจากลานจอดรถมาที่น้านอาหารหรูที่ห้อางดังใจกลางเมืองคราแรกเขาบอกกับเธอว่าจะมาทำธุระนิดหน่อยแต่ไม่รู้ว่าเขาจูงเธอเข้ามาในรอานอาหารเพื่ออะไรแถมในร้านนี้ก็ยังไม่มีคนอยู่แม้แต่คนเดียวอีกต่างหาก"ตามผมมาตรงนี้สิครับ" "นี่มัน..." เดินเข้าร้านมาไม่น่นนักคามินก็พาหญิงสาวเดินมาด้านในสุดของร้านที่เป็นโซนที่มองเห็นวิวทิวทัศน์แม่น้ำสายใหญ่ได้ป็นอย่างดีรอบๆรายล้แมไปด้วยลูกโป่งสีชมพูละลานตาและตรงกลางก็มีโต๊ะอาหารที่มีอาหารวางเรียงรายอยู่เต็มโต๊ะตอนนี้เธอพอจะดูออกแล้วว่าเขาคงจะเซอร์ไพรซ์อะไรเธอแน่นอน"ผมปิดร้านนี้เพื่อทานข้าวกับคุณเลยนะครับ..นั่งก่อนสิครับ""ค่ะ" ใบหน้าหวานยิ้มอ่อนเล็กน้อยที่คามินมีเวลาเอาใจเธอบ้าง"ผมขอโทษคุณจริงๆที่ผมไม่มีเวลาทานข้าวเย็นกับคุณเลยผมรู้ว่าคุณอาจจะไม่ชอบแต่จากนี้ผมจะพยายามกลับบ้านมาทานข้าวเย็นกับคุณทุกวันนะครับ" หลังจากหญิงสาวนั่งลงได้คามินก็เปิดกล่องกำมะหยี่สีเทาหยิบสร้อยที่มีจี้เพชรรูปหัวใจมาสวมใส่ให้เธอเพื่อเป็นการปลอบใจก่อนจะหย่อนก้นลงนั่งตรงหน้าหญิงสาวกุมมือเธอเอาไว้หลวมๆสัญญากับเ
อาทิตย์ต่อมาเย็นของวัน“ท่านประธานเรียกวีมามีเรื่องอะไรเหรอคะ” วีนาเดินนาวยนาถเข้าห้องของคามินมาด้วยรอยยิ้มกว้างก่อนจะหย่อยก้นลงนั่งตรงหน้าคามินส่งน้ำเสียงหวานถามอีกฝ่าย“ผมต้องการให้คุณวีไปทำหน้าที่พีอาร์ของโรงแรมน่ะครับ” “อะไรนะคะ..วีทำงานให้ท่านประธานไม่ดีหรืออะไรบอกวีมาได้เลยนะคะ” รอยยิ้มกว้างเมื่อครู่ของวีนาหุบลงทันทีเมื่อคามินแจ้งความประสงค์ออกมาเพราะตอนนี้เขาหาเลขาคนใหม่ได้แล้วเป็นผู้ชายและจะเริ่มงานอาทิตย์หน้าเขาเลยต้องแจ้งให้หญิงสาวรู้กะทันหันว่าเขาต้องการให้เธอไปทำหน้าที่อื่น“เปล่าครับคุณทำงานดีมากและบุคลิกของคุณผมว่าเหมาะกับงานด้านนี้มากกว่าแถมเงินเดือนผมก็จะเพิ่มให้คุณด้วยนะครับ” “เอ่อ..แล้วจะให้วีเริ่มงานพีอาร์ได้เมื่อไรล่ะคะ”“อาทิตย์หน้าครับคุณเตรียมตัวได้เลยนะครับ”“ค่ะท่านประธาน” วีนาเดินออกจากห้องของคามินไปด้วยสีหน้าที่ค่อนข้างไม่พอใจพอสมควรไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ๆคามินถึงได้เปลี่ยนให้เธอไปทำงานอื่นกะทันหันทำให้เธอต้องอยู่ห่างเขาไปอีกเย็นของวันร้านอาหารหลังจากเลิกงานได้คามินก็ขับรถไปรับภรรยารักของเขาออกมาทานข้าวเย็นที่ร้านอาหารข้างนอกเพราะอยากเปลี่ยนบรรยากา
"ทำไมพี่แพทพาหม่อนมาไทยกะทันหันเหรอคะ" ใบหม่อนหญิงสาวร่างเล็กใบหน้าจิ้มลิ้มที่วัย23ย่าง24อยู่ในชุดเดรสสีชมพูหวานเดินตามพี่ชายที่สูงใหญ่อย่างเร่งรีบเข้าไปในบ้านพักหลังใหญ่ในชานเมืองของกรุงเทพมหานครที่ต้องรีบสับขาให้รวดเร็วเพราะเธอก้าวไม่ค่อยทันพี่ชายที่สูงราวสองเมตรเธอเท่าไร"ก็ไม่ได้กะทันหันนี่นาพี่เคลียงานที่นี่ทุกอย่างจบแล้วก็อยากจะกลับไปลงทุนธุรกิจที่ไทย" แพทริคหนุ่มลูกครึ่งไทยอังกฤษวัย34อยู่ในชุดสูทที่สั่งตัดจากแบรนด์หรูเดินเด่นสง่าเข้ามาในบ้านหลังใหญ่ก่อนจะหย่อนก้นลงนั่งพักที่โซฟาราคาแพงที่ห้องนั่งเล่นด้วยท่าทีเหนื่อยล้าเนื่องจากเดินทางมานานดีที่มาถึงเขาก็เข้สพักผ่อนในบ้านได้เลยเพราะสสั่งให้คนเตรียมจัดแจงทำความสะอาดไว้ก่อนหน้านี้แล้วแพทริค เนลสันลูกครึ่งไทยอังกฤษเป็นลูกชายคนเดียวของโทมัส เนลสันเจ้าของบริษัทผลิตเรือยอร์ชส่งออกที่อังกฤษเจ้าใหญ่ที่สุดในประเทศ ชายหนุ่มเป็นทายาทคนเดียวที่ถูกจับตามองจากสังคมเซเลปคนดังมากที่สุด เพราะจะเป็นคนเดียวที่สืบทอดกิจการของเนลสันแถมตอนนี้ยังเป็นหนุ่มโสดเนื้อหอมที่สาวๆก็อยากจะเข้าหามากที่สุดอีกด้วยติดอยู่ที่ว่าเขานั้นค่อนข้างเข้าถึงยากสื่อทุกสื่
"ก็ได้ค่ะ" คนถูกปฏิเสธมีสีหน้าบอกบุญไม่รับเลยทันที ใบหม่อน มนัญชนก เนลสัน หญิงสาวที่เป็นน้องสาวบุญธรรมของแพทริคและพ่วงตำแห่งลูกบุญธรรมของโทมัสเนลสัน เธอเป็นสาวไทยแท้ตั้งแต่กำเนิดเมื่อพ่อกับแม่เสียตอนสามขวบกว่าเธอก็ต้องมาอยู่กับหลวงตาที่วัดและมีแพทริคเป็นคนขอรับเธอมาดูแลจนแพทริคได้ย้ายไปอยู่ที่อังกฤษเขาก็พาเธอไปอยู่ด้วย จนเธอได้ร่ำเรียนและใช้ชีวิตที่นั่นหลังเรียนจบเธอก็ช่วยโทมัสและแพทริคทำงานในบริษัทและตอนนี้ก็พ่วงตำแหน่งเลขาของพี่ชายเธอด้วย มนัญชนกเป็นหญิงสาวร่างเล็กตัวผอมแห้งสูงเพียง 155 ผิวขาวเหลืองใบหน้ากลมรูปไข่พวงแก้มมีรักยิ้มคิ้วบางได้รูปดวงตาคมเหมือนลูกแมว จมูกเป็นสันเล็กริมฝีปากบางอมชมพู เธอเป็นสาวที่ค่อนข้างอ่อนหวานเห็นใจผู้อื่นเป็นที่หนึ่ง ทั้งยังถูกหวงจากโทมัสและแพทริคเหมือนไข่ในหินเพราะเป็นผู้หญิงคนเดียวของตระกูลแถมยังดูหัวอ่อนต่างจากคนทั่วไปอยู่มากแม้จะเติบโตในวัฒนธรรมตะวันตก เธอชอบทำอาหารเป็นชีวิตจิตใจจนตอนนี้พ่อและพี่ชายเธอเห็นว่าให้หญิงสาวลองเรียนรู้การทำงานอีกสักปีสองปีก็จะเปิดกิจการในสิ่งที่เธอชอบทำให้เธอได้บริหารเอาเอง วันต่อมาเชียงใหม่"ค่ะคุณพ่อแพงใกล้ถึงบ้า