Share

ตอนที่สิบแปด ไม่ให้เกียรติ

“คุณก็รู้ว่าคุณไม่มีวันเอาชนะผมได้”  แพทริคกัดฟันกรอดใจกระตุกวูบเมื่อสาวเจ้าเอ่ยว่าจะเอาลูกออกแต่คนอย่างเขาหรือจะให้เธอทำแบบนั้นง่ายๆว่าจบก็รวบอุ้มร่างบางเข้าไปในห้องนอนทันที

“คุณมันโรคจิต”  แพงขวัญต่อว่าแพทริคเสียงฝาดเมื่อเขาจับเธอมาขังไว้ในห้องนอนทั้งยังล่ามขาเธอด้วยโซ่เส้นใหญ่เพื่อให้เธอหนีไปไหนไม่ได้อีก

“จะได้หนีผมไปเอาลูกออกไม่ได้ไง...บอกแล้วไงว่าคุณไม่มีวันเอาชนะผมได้”  

"ฉันเกลียดคุณ...ได้ยินไหมว่าฉันเกลียดคุณ..ไอ้ไบโพล่า...อื้มมมม"  แพทริคไม่ชอบคำว่าเกลียดเขาจากปากของหญิงสาวเท่าไรจึงเข้าไปบดจูบสั่งสอนเธอจนริมฝีปากห้อเลือด

เพี๊ยะ  “สกปรก..” เมื่อหลุดจากพันธนาการได้มือเรียวก็ยกฟาดแก้มสากไปเต็มแรงด้วยความโมโหและรังเกียจ

“จะสกปรกแค่ไหนผมก็ยังเป็นผัวคุณ” 

“ฉันขอหย่า” 

“ได้..แต่วันที่คุณเซ็นใบหย่าพ่อคุณจะไม่เหลืออะไร” แพทริคมองหน้าหญิงสาวด้วยความไม่พอใจก่อนจะย้ำเตือนถึงอำนาจที่อยู่ในมือของเขา

“ฮึก..ฮือๆๆ..อ๊ายยยย..ฮือๆๆๆ..อ๊ายยยยย..”   แพงขวัญอาละวาดอย่างคนเสียสติเธอโมโหมากที่ดูจะเสียเปรียบแพทริคไปเสียทุกทางก่อนจะสลบไปบนเตียงนุ่มเพราะความเครียดและอ่อนเพลียที่ไม่ได้ทานอะไรตั้งแต่เมื่อวาน

“แพง...” แพทริครีบเข้ามาดูอาการของหญิงสาวก่อนจะกดมือถือโทรเรียกหมอให้มาดูอาการของเธอ

“....”  ตอนนี้น้ำตาลูกผู้ชายของเขาไหลออกมาโดยที่ควบคุมไม่ได้เขาเจ็บที่เห็นเธอทรมานแต่เขาก็ยังไม่สามารถที่จะหยุดการแก้แค้นตอนนี้ได้เหมือนกัน

 วันต่อมา

  มนัญชนกขับรถไปรับเพื่อนชายสมัยเรียนของเธอที่สนามบินแต่เช้าตอนนี้ทั้งสองกำลังนั่งทานอยู่ที่ร้านอาหารไม่ไกลจากสนามบินมากนัก

“แล้วนี่มาอยู่กี่เดือนเหรอ”  มนัญชนกถามขณะที่โจเซฟนั่งเคี้ยวแฮมเบอเกอตุ้ยๆด้วยความหิวเธอรู้ว่าเขาจะมาคุมงานไอทีของบริษัทลูกข่ายที่ตั้งอยู่ที่กรุงเทพแต่ไม่รู้ว่าจะมานานเท่าไร

“สองเดือนน่ะ..อ่อ..มีข่าวดีจะบอกด้วยนะ”

“อะไรเหรอ” 

“ฉันจะแต่งงานกับมีร่าหลังจากกลับจากไทย”  

“จริงเหรอดีใจด้วยนะ...แล้วนี่พักที่ไหนล่ะ”   มนัญชนกยิ้มแก้มปริเธอเห็นเพื่อนเธอสองคนรักกันมาตั้งแต่สมัยเรียนแล้ววันนี้ก็ได้ยินข่าวดีเสียทีกอ่นจะถามโจเซฟว่าเขานั้นพักที่ไหนเพราะเธอจะได้ไปส่งถูก

“โรงแรมXXXไม่ไกลจากที่นี่หรอก...อ่อมีร่าฝากของมาให้เธอด้วยนะไปที่โรงแรมแล้วเดี๋ยวฉันเอาออกจากกระเป๋าให้ถ้าค้นตอนนี้คงต้องรื้อเสื้อผ้าออกมาหมด”

“อ่อ...โอเค” มนัญชนกยิ้มเจื่อนเล็กน้อยก็เพราะโรงแรมที่ชายหนุ่มเข้าพักมันเป็นโรงแรมของคามินแต่ก็ไม่ได้ตอบปฏิเสธเพื่อนของเธอว่าจะไม่เข้าไปเพราะคิดว่าคามินคงไม่ออกมาเดินเพล่นพล่านตามโรงแรมง่ายๆคงจะนั่งอยู่ในห้องผู้บริหารเท่านั้น

 ชั่วโมงต่อมา

“ทราบหรือเปล่าว่าผู้หญิงคนนี้มาที่นี่ทำไม...”  คามินเข้ามาในโรงแรมเมื่อช่วงสายเพราะเขามีคุยงานกับลูกค้าเมื่อช่วงเช้าพอเข้ามาจอดรถที่ลานจอดรถได้เขาก็เห็นรถเบนซ์สีขาวซึ่งจำได้ว่าคันนี้เป็นของมนัญชนกด้วยความอยากรู้จึงเดินเข้าไปถามพนักงานที่ประสัมพันธ์เปิดรูปมนัญชนกให้พนักงานดูจนได้ความว่าเธอเข้ามาพร้อมเพื่อนชายต่างชาติที่มาเปิดห้องที่นี่

“นานหรือยัง”

“พักใหญ่แล้วค่ะ”

“งั้นเหรอ”  คำตอบของพนักงานสาวทำเอาคามินกัดฟันกรอดไม่พอใจอย่างมากที่รู้ว่าหญิงสาวเข้าไปในห้องกับผู้ชายสองต่อสองนานสองนาน

“ไปแล้วนะมีอะไรก็โทรมาล่ะ”

“โอเค..ขอบคุณมาก”  โจเซฟลงมาส่งมนัญชนกด้านล่างหลังจากขึ้นไปอยู่บนห้องกันพักใหญ่เพราะโจเซฟต้องรื้อของเพื่อหยิบเสื้อที่มีร่าฝากมาให้มนัญชนกหลังจากนั้นก็คุยskypeกับมีร่ากันอีกนานสองนานกว่าจะหายคิดถึงกัน

“....” ภาพที่หญิงสาวพูดคุยสนิทสนมกับชายหนุ่มต่างชาติทำเอาคามินที่ยืนดูอยู่ห่างๆกำมือแน่น

“ไปกับผม”

“คุณมิน..”   หลังจากที่โจเซฟกลับไปแล้วคามินก็เดินตามมนัญชนกก่อนจะดึงมือเธอให้เดินตามเข้าไปขึ้นรถ

“ปล่อยนะคุณจะพาฉันไปไหน”

“ถ้าคุณไม่ไปกับผมดีๆเรื่องเราถึงหูพี่ชายคุณแน่”  คำขู่ของคามินทำให้ใบหม่อนต้องยอมนั่งรถออกไปกับคามินแต่โดยดีเธอคิดว่าวันนี้จะไม่เจอเขาอยู่แล้วเชียวแต่ก็ต้องมาเจอจนได้

“จะพาฉันไปไหนกันแน่คะ”  มนัญชนกเห็นว่าคามินพาเธอขับรถออกมานานสองนานแล้วแต่ไม่เห็นจะพูดอะไรกับเธอสักคำว่าจะพาเธอไปไหนแถมตอนนี้เขายังขับรถพาเธอออกนอกเมืองมามากแล้วด้วย

“นั่นแฟนคุณเหรอ”

“ใคร”

“ผู้ชายต่างชาติคนนั้น....คุณเข้าไปทำอะไรในห้องกับเค้านานสองนาน”  คามินเอ่ยเสียงแข็งขณะที่เลี้ยวรถเข้ามาในบ้านหลังเล็กริมแม่น้ำของเขาที่ซื้อเอาไว้นานแล้ว

“คุณจะมายุ่งอะไรกับฉันล่ะคะ” มนัญชนกเริ่มขมวดคิ้วไม่พอใจเมื่ออีกฝ่ายทำตัวเริ่มสอบสวนเธอเหมือนกับเรื่องที่เธอทำมันผิด

“แต่คุณเป็นของผมคุณจะไปนอนกับคนอื่นได้ยังไง” 

“.....”  หญิงสาวมองค้อนชายหนุ่มอย่างไม่พอใจเธอรีบถอดเบลออกเมื่อรถจอดสนิทก่อนจะเปิดประตูรถหรูเดินหนีชายหนุ่มที่กำลังพูดจาไม่ให้เกียรติเธอ

“จะไปไหน”  คามินดึงมือหญิงสาวให้ตามเขาเข้ามาในบ้านของเขา

“ปล่อยฉัน” 

เพล้งง “โอ้ยย...”  มนัญชนกสลัดมือได้ก็ผลักชายหนุ่มที่ไม่ทันได้ตั้งตัวจนล้มลงไปถูกโต๊ะวางแจกันจนหางคิ้วแตก

“ค..คุณมิน” ใบหน้าหวานตกใจจนอ้าปากค้างเมื่อพลั้งมือทำชายหนุ่มเจ็บตั้งสติได้จึงรีบพยุงเขาขึ้นและเป็นเธอที่ต้องนั่งทำแผลให้คามินเอง

ครู่ต่อมา

“ทำไมต้องโกรธกับคำถามของผมขนาดนี้ด้วย”  คามินเอ่ยถามในขณะที่มนัญชนกนั่งทำแผลให้เขา

“เข้าไปในห้องด้วยกันคือต้องนอนด้วยกันเท่านั้นเหรอคะ..คุณคิดได้แค่นี้จริงๆเหรอ” ดวงตากลมโตไหววูบด้วยความน้อยใจ

“คุณก็ตอบผมมาสิว่าคุณเข้าไปทำอะไรผมจะได้เข้าใจถูก” 

“นั่นโจเซฟเพื่อนฉันตั้งแต่สมัยเรียน...แค่นี้คุณก็น่าจะเข้าใจนะคะ”

“เพื่อน..เอ่อ..คือผมต้องขอโทษคุณด้วยแล้วกันที่เข้าใจผิด” เมื่อได้รับคำตอบจาหญิงสาวอารมณ์โมโหก่อนหน้าก็ค่อนข้างเย็นลงก่อนที่จะเอ่ยปากขอโทษหญิงสาวที่เขาใส่อารมณ์กับเธอขนเกินไป

“คุณยุ่งเรื่องของคนอื่นแบบนี้ทุกครั้งหรือเปล่าคะ”

“คุณไม่ใช่คนอื่น”  คามินจ้องไปในดวงตากลมโตตอนนี้เธอไม่ใช่คนอื่นสำหรับเขาและไม่อยากให้หญิงสาวคิดแบบนั้น

“เมื่อไรคุณจะพาฉันกลับ”  มนัญชนกก้มหน้าหลบสายตาของชายหนุ่มเล็กน้อยหลังจากปิดแผลให้เขาเสร็จไม่อยากให้เขาพูดอะไรที่ทำให้จิตใจของเธอหวั่นไหวต่อ

“ผมไม่ชอบเวลาเห็นคุณอยู่กับคนอื่น..รู้ไหมตอนที่ผมไม่มีคุณอยู่ในชีวิตมันเหงาแค่ไหน”  คามินตัดสินใจเอ่ยความรู้สึกจากในหัวใจตลอดเวลาหลายวันที่ผ่านมาเขาคิดทบทวนกับความรู้สึกของตัวเองดีแล้ว

“คืออะไรคะ” 

“ผมว่าผมชอบคุณ”  คำพูดของคามินทำให้แพงขวัญใจสั่นขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ได้เธอกลัวการอยู่ใกล้เขาเพราะรู้ว่าตัวเองจะเผลอใจให้เขาอีกครั้งทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าเขาไม่ได้รักเธอ

“ถ้าจะพูดเพื่ออยากจะรับผิดชอบฉันบอกแล้วไงคะ.ว...”  หญิงสาวยังพุดไม่ทันจบคามินก็เอ่ยขัดขึ้นมาก่อนเพราะเขาไม่ได้อยากให้หญิงสาวคิดแบบนั้นที่เขาต้องการจะรับผิดชอบเธอไม่ใช่เพียงแค่รู้สึกผิดแต่เขารู้สึกดีกับเธอจริงๆ

“ผมพูดจริงๆ..ผมพึ่งมานั่งทบทวนเวลาที่ผมอยู่กับคุณผมสบายใจมากทุกครั้งที่ได้ใกล้คุณตอนนั้นผมก็แค่คิดว่าผมเจอเพื่อนที่ดีคนนึงแต่วันที่คุณหนีผมไปมันก็ทำให้ผมรู้ว่าผมเสียความสุขของผมไปไม่ได้”

“แต่คุณรักคุณแพง”  มนัญชนกเงียบอยู่ครู่หนึ่งหลังจากที่คามินพูดจบและเธอก็ยอมปริปากเรื่องที่คาในใจอยู่ออกมาได้

“ผมว่าตอนนั้นผมเจ็บใจที่ถูกแย่งคนรักเหมือนถูกหยามหน้ามากกว่าผมถึงบ้าได้ขนาดนั้นอันที่จริงผมก็ดูแลแพงเป็นเหมือนน้องสาวคนนึงตลอดมาที่อยากแต่งงานกับเธอเพราะเห็นว่าเธอเป็นคนที่เหมาะสมแล้วก็รู้จักกันมานานตอนนี้ผมก็ยังรักและหวังดีกับแพงเสมอแต่ในฐานะพี่น้องเท่านั้นแต่กับคุณผมยอมเสียคุณไปไม่ได้...คุณจะเชื่อหรือไม่ก็แล้วแต่ผมแค่ผมอยากพูดให้ฟัง”

คามินไม่ได้โกหกหัวใจตัวเองก่อนหน้านี้เขาเลือกแพงขวัญเพราะเป็นคนที่คิดว่าเหมาะสมและไม่เคยเลยสักครั้งที่จะเคยอยู่ใกล้ชิดกับแพงขวัญเหมือนอยู่กับมนัญชนกความรู้สึกเวลาอยู่กับผู้หญิงทั้งสองคนที่แตกต่างกันทำให้เขารู้ว่าความรักแบบคู่รักจริงๆคืออะไรและที่เขาบ้าระห่ำในวันนั้นเพราะคับแค้นใจที่เหมือนถูกหยามหน้าจากแพทริคมากกว่า

“.....”  มนัญชนกฟังชายหนุ่มพูดจบเธอก็เริ่มสับสนในใจเล็กน้อยว่าจะเชื่อในคำที่ชายหนุ่มพูดตอนนี้หรือจะรอดูสถาณการณ์ต่อไปก่อนดี

“คุณไม่ต้องคุยดีเหมือนเดิมกับผมตอนนี้ก็ได้แค่คุณอย่าหลบหน้าผมและหายไปก็พอ..”  คามินอยากให้หญิงสาวไม่หลบหน้าเขาเหมือนที่ผ่านมาเพื่อที่ต่อไปนี้เขาจะได้มีโอกาสแก้ตัวกับเธอทำให้เธอได้เห็นว่าเขาไม่ได้โกหก

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status