“ตอนแรกแม่ก็ไม่คิดว่าจะมีปัญหาแต่ตอนนี้เจ้าของเดิมเค้าเสียแล้วลูกหลานเค้าก็เลยอยากจะขอที่คืน” ศรีจันทร์เองก็ไม่คิดว่ามันจะมีปัญหาอะไรจึงไม่ได้กังวลเรื่องที่ทางเท่าไรนักแต่เมื่อเจ้าของที่เดิมเสียเธอก็ไม่คิดว่าลูกๆหลานๆของเจ้าของที่จะมาขอที่คืนกะทันหัน
“เดี๋ยวผมจะจัดการเจรจาซื้อที่ที่นี่ให้นะครับแม่ศรีไม่ต้องกังวังวลยังไงเด็กๆก็จะมีที่อยู่แน่นอนครับ” แพทริครับปากศรีจันทร์ด้วยแววตาที่มั่นใจเพราะเขาจะไม่ยอมให้เด็กๆไม่มีที่อยู่เด็ดขาดเจ้าของใหม่อยากจะขายที่นี่แพงเท่าไรเขาก็จะควักเงินจ่ายหากไม่ยอมเขาก็จะซื้อที่ที่อื่นให้เด็กๆอยู่ให้มันรู้แล้วรู้รอดเพราะเขาทนเห็นเด็กเหล่านี้ไม่มีที่อยู่ไม่ได้
ครู่ต่อมา
“เค้ามาที่นี่บ่อยเหรอคะแม่ศรี” แพงขวัญนั่งคุยกันสองคนกับศรีจันทร์ขณะที่แพทริคกำลังสอนเด็กๆเรื่องโปรแกรมในคอมพิวเตอร์
“ไม่หรอกจ่ะ..ส่วนมากแพทริคจะส่งเงินมาเท่านั้นเพราะงานเค้าค่อนข้างยุ่ง” ศรีจันทร์ส่ายหัวก่อนจะตอบด้วยรอยยิ้มอ่อนตั้งแต่ที่แพทริคไปอยู่อังกฤษเขาก็ไม่ค่อยได้มาที่นี่เท่าไร
“แม่ศรีดูแลเด็กตั้งเยอะเลยไม่เหนื่อยบ้างเหรอคะ” แพงขวัญเห็นเด็กๆที่นี่ค่อนข้างเยอะแถมยังมีทุกวัยเธอเห็นแล้วก็เหนื่อยแทนเธอนับถือใจของศรีจันทร์จริงๆ
“เหนื่อยกายแต่สุขใจ...”
“เข้าใจแล้วค่ะ” แววตาของศรีจันทร์ที่มองมายังแพงขวัญทำให้หญิงสาวรู้ว่าความสุขของผู้หญิงตรงหน้านี้มีแค่นี้จริงๆ
“ทำไมเจ้าตัวเล็กนี่ตัวแดงแบบนี้ล่ะคะ” ศรีจันทร์และแพงขวัญเดินคุยกันมาจนถึงห้องของเด็กอ่อนจนแพงขวัญสะดุตาเข้ากับเด็กทารกตัวอ้วนกลมที่แม้จะมีเสื้อผ้าปิดอยู่บ้างแต่ก็ยังเห็นรอยแดงตามตัวเยอะอยู่พอสมควร
“ถูกมดกัดน่ะพอดีมีคนเจอเจ้าหนูนี่อยู่ข้างต้นไม้เมื่อสามสี่วันก่อน”
“ตายจริง” สิ้นเสียงศรีจันทร์แพงขวัญก็ยกมือทาบอกเธออยากจะรู้นักว่าคนที่ทิ้งเด็กทารกตาดำๆได้มีเหตุจำเป็นอะไรนักหนาถึงต้องทิ้งเขาเหล่านี้
ชั่วโมงต่อมา
“เป็นอะไรเหรอคุณทำไมดูซึมๆไป” แพทริคนั่งลงตรงที่โซฟาข้ามหญิงสาวเห็นหญิงสาวนั่งหน้าเศร้าตั้งแต่กลับมาจากที่บ้านเด็กกำพร้าแล้ว
“คนที่ทิ้งลูกได้ลงคอนี่ต้องเป็นคนที่โตมาแบบไหนเหรอ” แพงขวัญน้ำตาคลอยิ่งคิดเธอก็ยิ่งหดหู่
“ปัญหาแต่ละคนมันมีไม่เหมือนกันหรอกคุณ...คิดในแง่ดีว่าเค้าไม่ฆ่าลูกตัวเองก็พอแล้ว” แพทริคพยายามพูดให้หญิงสาวลองมองในแง่ดีเมื่อก่อนที่เขาเข้าไปช่วยเหลือที่นั่นใหม่ๆสภาพจิตใจของเขาก็ย่ำแย่เหมือนกัน
วันต่อมา
ทางด้านคามินหลังจากมนัญชนกออกจากโรงพยาบาลแล้วเขาก็ตามดูแลเธออยู่ไม่ห่าง
"ขอบคุณนะคะที่คอยดูแลฉัน" มนัญชนกเอ่ยขอบคุณคามินจากใจจริงหากเขาไม่เข้ามาคอยดูแลเธอทุกวันเธอก็คงใช้ชีวิตลำบากแน่เพราะว่าขายังไม่หายเจ็บดี
"ครับ...เรื่องเรียนทำอาหารผมคิดว่าผมน่าจะต้องเป็นคนสอนคุณเองเพราะครัวที่โรงแรมคงต้องปรับปรุงครั้งใหญ่เลย" คามินเห็นว่าช่วงนี้เขาคงต้องสอนหญิงสาวเรื่องการทำอาหารเองเสียแล้วเพราะตอนนี้คนที่โรงแรมค่อนข้างวุ่นวายกันอยู่พอสมควร
"ไม่เป็นไรเลยค่ะฉันไม่อยากรบกวนคุณเท่าไรงานคุณก็ยุ่งพอแล้ว" หญิงสาวรีบตอบปฏิเสธอย่างรวดเร็วเพราะเธอก็ไม่ได้รีบที่อยากจะเรียนอะไรขนาดนั้น
"ไม่เป็นไรครับผมเลิกงานเมื่อไรผมจะมาที่นี่ทุกวันเพื่อมาสอนคุณหม่อนนะครับ"
"ขอบคุณนะคะ" มนัญชนกรู้สึกอบอุ่นไว้ใจคามินอย่างบอกไม่ถูกแอบอิจฉาแพงขวัญที่มีคนรักที่ดีอย่างคามินเพราะเธอเชื่อว่าอนาคตข้างหน้าคามินต้องเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดีแน่นอน
"แล้วคุณหม่อนพอจะทราบหรือเปล่าครับว่าพี่ชายคุณกับแพงพักอยู่ที่ไหน" คามินสีหน้าเจื่อนลงเล็กน้อยเพราะหลังจากที่แพงขวัญไปญี่ปุ่นกับแพทริคเขาก็ติดต่อแฟนสาวของเขาไม่ได้อีกเลย
"ฉันก็ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ..ทำไมเหรอคะ"
"พอดีติดต่อเธอไม่ได้เลย"
"คงงานยุ่งกันอยู่มั้งคะ...คุณมินคะพอดีหม่อนลองอบคุ้กกี้ธัญพืชหม่อนอยากให้คุณมินลองทานดูว่ารสชาติมันเป็นยังไง" หญิงสาวเลือกที่จะเปลี่ยนเรื่องคุยเพราะเห็นสีหน้าของคามินไม่ค่อยดีเท่าไร
“มาแล้วค่ะ”
เพล้งงง “ว้าย..ซุ่มซ่ามจังเลยเรา” มนัญชนกวางจานคุ้กกี้โดยที่ไม่ทันระวังจึงไปถูกแก้วน้ำหล่นแตก
“เดี๋ยวผมช่วยครับ” คามินรีบก้มลงไปช่วยหญิงสาวที่กำลังจะใช้มือจับแก้วที่แตกเพราะกลัวเธอจะบาดเจ็บแต่ดูท่าจะไม่ทันเสียแล้ว
“อืมม..” มนัญชนกกุมมือแน่นเพราะรู้สึกปวดแผล
ครู่ต่อมา
หลังจากที่หญิงสาวบาดเจ็บคามินก็จัดก็จัดการเก็บกวาดเศษแก้วเองทั้งหมดก่อนจะมานั่งทำแผลให้หญิงสาว
"ฉันนี่ซุ่มซ่ามอีกแล้วนะคะ" มนัญชนกรู้สึกเกรงใจชายหนุ่มที่เธอทำตัวเป็นภาระของเขาอีกแล้วทั้งยังแอบลอบมองใบหน้าคมคายอย่างชื่นชมขณะที่ชายหนุ่มนั่งก้มหน้าทำแผลที่มือของเธอ
“คราวหน้าระวังกับพวกของมีคมหน่อยนะครับ”
“ฉันจะระวังค่ะ” เป็นอีกครั้งที่คำพูดและท่าทีเป็นห่วงเป็นใยของคามินทำให้มนัญชนกหน้าแดงโดยที่เจ้าตัวควบคุมไม่ได้
สามวันต่อมา
กว่าแพทริคและแพงขวัญจัดการธุระเรื่องที่ดินที่บ้านเด็กกำพร้าเสร็จก็เล่นเสียดึกเมื่อกลับมาถึงบ้านได้ทั้งสองก็แยกย้ายกันอาบน้ำพักผ่อน
“ดูแม่ศรีจะดีใจมากเลยนะคะ” หญิงสาวในชุดนอนเดรสแขนสั้นสีขาวเอาแต่นั่งอมยิ้มเพราะวันนี้เธอได้เห็นแววตาของศรีจันทร์ดูสดใสขึ้นมากมากกว่าตอนที่เจอกันวันแรกมาก
“อืม..” แพทริคขยับเข้ามาโอบไหล่มนเอาไว้หลวมๆหลังจากที่ใส่เสื้อผ้าเสร็จบ้านนี้ถึงจะมีสองห้องนอนแต่ชายหนุ่มก็ใช้วิธีเผด็จการตามเดิมเพื่อที่จะนอนห้องเดียวกับเธอจนหญิงสาวเริ่มชินแล้ว
“ก่อนหน้านี้ฉันไม่คิดว่าคนอย่างคุณจะใจดีเป็น” พักหลังมานี้แพงขวัญเริ่มเห็นว่าแพทริคนั้นดีกับคนอื่นเสมอแต่ไม่ยักรู้ว่าทำไมกับเธอถึงได้ชอบบังคับนัก
“ทำไม”
“ก็คุณจ้องแต่จะขู่บังคับฉันตลอด”
“ที่ผมชอบขู่คุณนักก็เพราะว่าผมอยากให้คุณอยู่ในโอวาทอยากให้อยู่ใกล้ๆแล้วก็อยากให้คุณให้ใจผมด้วย” ใบหน้าคมยื่นมาใกล้ๆใบหูของหญิงสาวก่อนจะกระซิบกระซาบเสียงแหบพร่าจนหญิงสาวเริ่มขนลุกและหน้าแดงกับคำพูดของเขาอย่างไม่รู้ตัว
“พ..พูดอะไรของคุณ”
“ที่คุณเริ่มมองผมในแง่เริ่มมีใจให้ผมแล้วใช่หรือเปล่า” มือหนารั้งใบหน้าของหญิงสาวให้เงยหน้ามองที่เขาเมื่อสาวเจ้าเอาแต่ก้มหน้างุดตอนนี้แผนในใจของเขาก็คือต้องการทำให้หญิงสาวมีใจให้เขาให้ได้เพราะแผนต่อไปจะได้ง่ายขึ้น
“ตอบสิ...ไม่ตอบใช่ไหม” เมื่อเห็นหญิงสาวไม่ยอมตอบง่ายๆเขาจึงเลื่อนมือหนามาที่เอวบ้างก่อนจะจี๋ที่เอวแกล้งเธอเล่น
"นี่คุณปล่อยฉันจั๊กกะจี้..ฮ่าๆๆ..ปล่อย.." หญิงสาวที่กำลังดีดดิ้นหัวเราะร่วนรอยยิ้มของเธอสะกดสายตาของแพทริคให้ตกอยู่ในภวังค์จนเขาละสายตาจากหญิงสาวไม่ได้
"....." เมื่อคนตัวโตหยุดเล่นได้ตอนนี้แพงขวัญก็พึ่งจะเห็นว่าใบหน้าของเธออยู่ห่างจากใบหน้าชายหนุ่มไม้ถึงคืบเท่านั้นสายตาอ่อนโยนหยาดเยิ้มที่เขาไม่เคยมองเธอแบบนี้เมื่อหญิงสาวได้มองก็ยิ่งทำให้เธอเกิดความประหม่าในใจเล็กๆและมือไม้ก็ไม่มีทีท่าว่าจะขัดขืนอีกฝ่ายที่กำลังจะก้มลงมาบดจูบ
"อื้มมม..." แพทริคบดจูบแพงขวัญอย่างนุ่มนวลต่างจากครั้งก่อนๆที่ทำไปด้วยแรงโทสะ
ด้วยรสจูบที่เกิดขึ้นด้วยความเสน่ห์หาทำให้หญิงสาวที่ได้ลิ้มรสสัมผัสก็เริ่มโอนอ่อนตามไปง่ายดายโดนที่ไม่มีท่าทีขัดขืนที่เป็นแบบนี้เพราะทั้งสองเริ่มมีใจให้กันโดยที่ไม่รู้ตัว
"อืม.." ตอนนี้ในห้องนอนของทั้งสองร้อนระอุไปด้วยไฟสวาทริมฝีปากหนาขบเม้มเนินเต้างามสบถเสียงสั่นเครืออย่างพึงพอใจในลำคอ
"อื้อ.." ดวงตากลมโตหลับตาพริ้มแอ่นอกอย่างไม่อายเมื่อได้รับรสสัมผัสนุ่มนวลจากคนตัวโตมือเรียวไล่จิกหมอนสลับเล่นหัวทุยของอีกฝ่ายร่างกายร้อนระอุด้วยไฟปรารถนา
"พ..แพทริค..อื้ออ.." เมื่อคนตัวโตไล่โลมเลียลิ้นสากลงมาที่หน้าท้องผ่านมาจนถึงกลีบกุหลาบงามมือหนาทั้งสองก็ยกขาเรียวรั้งขึ้นก่อนจะก้มประกบจูบดูดคลึงระเลงลิ้นร้ายทั่วกลีบกุหลาบและร่องสวาทที่มีน้ำรักไหลหยาดเยิ้มลงมาให้ได้ฉกชิม
"อ้ะ.. อ๊ายย.." สาวเจ้าที่ไม่ประสาเพราะพึ่งจะเคยมีบทรักที่นุ่มนวลเธอร้องครางไม่ได้ศัพท์บิดเร่าอยู่ไม่สุขด้วยความเสียวกระสัน
"อืมมม.." คนตัวโตดูดกลืนน้ำหวานจนพึงพอใจแล้วจึงเริ่มโน้มตัวบดจูบริมฝีปากบางอีกรอบเริ่มสอดใส่แท่งร้อนเข้าไปในร่องสวาทก่อนจะกระแทกกระทั้นสะโพกแกร่งอย่างหนักหน่วงเพราะไฟปรารถนาที่กำลังลุกโชน
"อ.. อะ.. อ๊ายย.." ไม่นานนักร่างบางก็เริ่มบิดเกร็งด้วยเสร็จสมแตะขอบสวรรค์ไปก่อนชายหนุ่ม
"อืม.. อ.. อ้าสส.." สะโพกแกร่งบดเบียดระรัวเพื่อแตะขอบสวรรค์ตามหญิงสาวไปติดๆก่อนจะฟุบหลับด้วยกันไปพักใหญ่
"อืม.. อ๊ายย.." ร่างบางเกิดเสียงครางอีกรอบเมื่อคนที่ยังแรงเหลือพลิกร่างเธอคว่ำก่อนจะใช้สองมือหนายกสะโพกมนของเธอขึ้นแล้วสอดใส่แท่งร้อนไปในร่องสวาทและเริ่มบรรเลงเพลงรักอีกรอบจนแตะขอบสวรรค์ด้วยกันทั้งคู่
เช้าวันต่อมา“เมื่อคืนคุณน่ารักมากเลย” ชายหนุ่มพรมจูบไหล่มนของหญิงสาวที่เปลือยเปล่าอยู่ใต้ผ้าห่มผืนหนาอยู่กับเขา“เมื่อไรคุณจะพาฉันกลับบ้าน” แพงขวัญหน้าแดงเล็กน้อยที่เมื่อคืนเธอเผลอตัวเผลอใจไปกับรสรักของเขาก่อนจะเอ่ยถามว่าเมื่อไรเขาจะปล่อยเธอไป“ผมอยากให้คุณอยู่กับผมก่อนนี่” “คุณให้คำตอบฉันเถอะนะคะว่าจะบังคับฉันแบบนี้ไปเพื่ออะไร” แพงขวัญตั้งคำถามชายหนุ่มรอบที่เกือยร้อยได้ว่าเขาทำแบบนี้กับเธอไปเพื่ออะไรกันแน่“ผมอยากให้คุณเป็นผู้หญิงของผม” เสียงทุ้มเอ่ยพร้อมพลิกร่างบางให้มามองหน้าของเขา“คุณรู้สึกยังไงกับฉันกันแน่” แพงขวัญขมวดคิ้วเล็กน้อยคำพูดของเขาทำเอาใจของเธอสั่นระรัวเพราะเธอเองก็เริ่มมีใจให้กับคนที่เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายคนนี้ไปเสียแล้ว“คำพูดที่ผมพูดคุณก็น่าจะเดาออกนะ...แล้วคุณล่ะตอนนี้รู้สึกยังไงกับผมพอจะมองผมดีขึ้นจากแต่ก่อนหรือเปล่า” แพทริครู้อยู่แก่ใจแล้วว่าหญิงสาวคิดกับเขาอย่างไรไม่อย่างนั้นตื่นมาคงพยศเขาไปแล้วไม่อ่อนลงแบบนี้แต่ก็อยากจะฟังคำตอบจากปากของเธอ“....” สาวเจ้าหลบสายตาก้มหน้างุดซุกลงกับอกแกร่งคิดว่ากิริยาของเธอก็พอจะทำให้เขาเข้าใจได้“..ผมดูจากความน่ารักของคุณเมื่
ห้างสรรพสินค้า"จะซื้อเสื้อผ้าเหรอคะ" แพงขวัญเดินเข้ามาในร้านเสื้อผ้าแบรนด์ดังพร้อมแพทริคที่กำลังเดินจูงมือเธออยู่"ครับ...คุณว่าแบบไหนเหมาะกับผม" แพทริคชี้ไปที่เสื้อเชิ้ตหลากสีสันที่อยู่ในราว"อืม...ก็แบบนี้สิ..รุ่นนี้ใหม่ล่าสุดของแบรนด์นี้เลยนะ" แม้นว่าโซนนี้จะเป็นของผู้ชายแต่คนที่ชอบแฟชั่นอย่างแพงขวัญก็รู้ว่าเสื้อผ้าเหล่านี้เป็นแบบใหม่หรือแบบเก่า"นับว่าผมพาคนช่วยเลือกมาถูกคน...งั้นคุณเลือกให้ผมสักสองสามชุดนะครับเดี๋ยวผมมา" "คุณจะไปไหนคะ""ทำธุระนิดหน่อยครับ""โอเคค่ะ" สาวเจ้ามองตามหลังคนที่พึ่งเดินออกไปแต่ก็ไม่ได้สนใจมากนักว่าเขาจะไปไหนเพราะมีความสุขกับการเลือกเสื้อผ้ามากกว่าครู่ต่อมาร้านอาหารหังจากที่แพงขวัญเลือกเสื้อผ้าให้ชายหนุ่มเรียบร้อยแล้วทั้งคู่ก็มานั่งทานอาหารในร้านอาหารสุดหรูของห้างที่นี่"นี่ที่หายไปมาจองที่นี่เหรอคะ" แพงขวัญนั่งลงที่โต๊ะอาหารในโซนไพรเวทและเป็นมุมที่สวยที่สุดในร้านตอนนี้ที่นี่มีเพียงแค่เธอกับแพทริคแค่สองคนกับอาหารที่เต็มโต๊ะเธอจึงคิดว่าเมื่อครู่ที่แพทริคหายไปคงเป็นเพราะมาจัดการเรื่องที่ร้านเป็นแน่"เปล่าครับที่นี่ผมจองไว้สองวันแล้ว...ที่หายไปเพราะ
"......" คามินแทบยืนไม่อยู่เนื้อตัวชาวาบไปหมดเมื่อจู่ๆคนที่เขาคิดจะสร้างครอบครัวด้วยกลับเลือกคนที่มาทีหลังได้ไม่นานตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมเขาถึงติดต่อเธอลำบากยากเย็นเหลือเกิน"แพงขอโทษนะคะที่แพงเป็นคนรักที่ไม่ได้เรื่อง" แพงขวัญสะอึกสะอื้นเธอยอมรับผิดทุกอย่างเพราะเธอเผลอให้ใจกับแพทริคไปอย่างง่ายดาย"พี่เข้าใจแล้ว.." คามินเอ่ยเสียงสั่นก่อนจะกดวางสายของแพงขวัญตอนนี้ความรู้สึกมันเจ็บจุกอยู่ในอกเหมือนอยากจะร้องให้แต่มันก็ร้องไม่ออก"แพงขอโทษค่ะพี่มิน..ฮือๆๆ..." หลังจากวางสายได้แพงขวัญก็สะอึกสะอื้นเพราะความรู้สึกผิด"......" แพทริคยืนมองหญิงสาวอยู่ห่างๆด้วยสายตาที่คาดเดาอารมณ์ไม่ถูกในใจลึกๆไม่ชอบที่จะเห็นหญิงสาวร้องให้แต่อีกใจก็ดีใจที่แผนการดำเนินไปได้ด้วยดีหลังจากนี้คนที่น้ำตาตกจะไม่ใช่แค่แพงขวัญเพียงคนเดียวจะเป็นพงษ์พัฒน์ที่ต้อเจ็บกว่าแพงขวัญหลายเท่าเมื่อเห็นแพงขวัญตกอยู่ในความทุกข์เย็นของวัน มนัญชนกเตรียมตัวรอคามินตั้งแต่ห้าโมงเย็นแต่นี่ก็หกโมงกว่าจนเกือบจะมืดแล้วแต่เขาก็ไม่ยักจะมาเสียทีทั้งโทรหาเท่าไรเขาก็ไม่ยอมรับ"วันนี้ไม่มาสอนหม่อนเหรอคะคุณมิน" หญิงสาวตัดสินใจส่งข้อคว
"อืม..." คามินงัวเงียตื่นขึ้นมาในช่วงสายเขาพยุงร่างเปลือยเปล่าลุกนั่งก่อนจะกุมขมับเพราะรู้สึกปวดหัวหนักพอสมควรสายตาของเขาเพ่งมองรอบๆห้องที่เละเทะทั้งฟูกนอนก็ยังมีรอยหยดเลือดภาพตรงหน้าเหล่านี้ทำให้เขาพยายามนึกถึงเรื่องเมื่อวานและไม่นานนักเขาก็จำทุกอย่างได้“คุณหม่อน...” เมื่อภาพความจำเมื่อวานกลับมาได้เขาก็รีบหยิบผ้าขนหนูพันท่อนล่างก่อนจะเข้าไปหาหญิงสาวในห้องทันที(หวังว่าเราจะไม่ได้เจอกันอีกนะคะ) “โถ่เอ้ย...ทำบ้าอะไรลงไปเนี่ย” คามินหยิบจดหมายของใบหม่อนขึ้นมาอ่านจบก็นั่งฟุบลงกับพื้นกุมขมับโมโหที่ตัวเองเผลอทำร้ายหญิงสาวลงกับมือสามวันต่อมา"เป็นอะไรครับนอนซมทั้งวันเลย” แพทริคเข้ามาซุกผ้าห่มนอนบนเตียงนุ่มกับหญิงสาวหลังเห็นเธอนอนซมมาตั้งแต่หลังทานอาหารเช้าแล้ว“เพลียๆค่ะ..” “ผมทำให้หายเพลียเอาไหม” ชายหนุ่มพรมจูบแก้มนวลของหญิงสาวเพราะตอนนี้อะไรๆของเขามันตื่นขึ้นแล้วเพียงแค่สัมผัสเนื้อตัวของเธอได้ไม่นานไม่รู้ว่าทำไมเขาควบคุมตัวเองไม่ได้ทุกครั้งเมื่อต้องใกล้ชิดสาวเจ้าบนเตียงสองต่อสองแบบนี้“ทำยังไงคะ” ดวงตาปรือมองคนที่กำลังพรมจูบด้วยความสงสัย“..ฉันจะเพลียกว่าเดิมมากกว่ามั้งคะ...อื
วันต่อมา ตั้งแต่โทมัสรู้เรื่องของแพทริคจากมนัญชนกตั้งแต่เมื่อวานเขาก็เคลียทุกอย่างแล้วรีบบินมาที่เมืองไทยเพื่อมาคุยกับแพทริคทันที"เราต้องการทำอะไรกันแน่แพทริค" โทมัสโทรนัดแพทริคให้มาคุยที่โรงแรมที่เขาพักหลังจากที่ลงเครื่องเรียบร้อยแล้วเขารู้ดีว่าพงษ์พัฒน์เป็นคนที่ขับรถชนภรรยาของเขาเสียชีวิตและเขาก็รู้ว่าที่แพทริคเลือกที่จะยุ่งกับลูกสาวของพงษ์พัฒน์เพราะอะไร"เปล่านี่ครับพ่อผมก็แค่จะแต่งงาน" แพทริคยังคงปากแข็งไม่ยอมรับความจริงกับคนเป็นพ่อ"พ่อรู้แต่เมียเราเป็นลูกของคนที่ขับรถชนแม่เรา...ไม่ได้คิดจะใช้เธอเป็นเหยื่อใช่ไหม" โทมัสรู้ดีว่าแพทริคเกลียดพงษ์พัฒน์มากแค่ไหนและตอนนี้แพงขวัญก็เกิดตั้งท้องขึ้นมาแล้วหากลูกชายของเขาจะให้เธอเป็นเหยื่อเพื่อแก้แค้นคงไม่ดีแน่"ผมทำอะไรผมรู้ดีครับพ่อ" ว่าจบแพทริคก็เดินหนีคนเป็นพ่อไปคนอย่างเขาคิดอะไรแล้วต้องทำให้ได้เพราะชีวิตของแม่เขาคนผิดต้องเป็นคนชดใช้ความผิดให้สาสม“เฮ้อ...” โทมัสรู้ว่าลูกชายของเขาเป็นคนหัวแข็งและหากจะห้ามไม่ให้แพทริคยุ่งกับแพงขวัญคงไม่ได้เพราะตอนนี้หลานของเขากำลังจะเกิดมาแล้วยิ่งคิดเขาก็ยิ่งปวดหัวอาทิตย์ต่อมา วันนี้เป็นวันแต่
หลายวันต่อมา ตอนนี้แพทริคและแพงขวัญกลับมาอยู่ที่เรือนหอของพวกเขาแล้วบ้านที่แพทริคซื้อเอาไว้หลังไม่ใหญ่มากนักแต่ก็ร่มรื่นน่าอยู่ซึ่งแพงขวัญก็ไม่ได้ติดอะไรเพราะที่นี่ก็อยู่ใกล้กับบ้านของพ่อเธอพอสมควรขับรถไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็ถึงกันแล้ว"คุณจะไปไหนเหรอคะ" แพงขวัญที่รอทานข้าวเย็นพร้อมกับแพทริคเมื่อเห็นว่าเขาแต่งตัวกำลังจะออกไปข้างนอกก็ต้องรีบลุกมาถามเพราะเขาไม่ได้บอกเธอก่อนหน้าว่าจะไปไหน"คุยงานนิดหน่อยคืนนี้คุณไม่ต้องรอผมนะนอนก่อนได้เลย" "ค่ะ" แพงขวัญมองตามหลังคนเป็นสามีที่ไม่รู้ว่าเขาจะมีการคุยงานวันนี้ทั้งที่ก่อนหน้าเขาเป็นคนบอกเธอเองว่าจะละเรื่องงานมาดูแลเธอก่อนแต่ก็ไม่ได้ใส่ใจที่จะคิดมากเพราะคิดว่าเขาอาจจะมีงานด่วนที่จะต้องคุยจริงๆก็ได้โดยไม่ตะหงิดใจอะไรมากนักเพราะไว้เนื้อเชื่อใจไปเต็มร้อยแล้วทางด้านมนัญชนก หลังจากที่มนัญชนกขนของกลับจากหัวหินได้เธอก็มาเช่าบ้านหลังเดิมที่เคยเช่าอยู่ไม่มากนักเพราะเธอค่อนข้างชอบที่นี่ไม่ไกลเมืองมากนักและก็ดูเงียบสงบร่มรื่นตอนนี้เธอคิดว่าคามินน่าจะไม่มาหาเธอที่นี่แล้วเพราะเธอก็ขาดการติดต่อกับเขาไปนานแล้วเหมือนกัน“เฮ้อ..เมื่อยจังเลย” มนัญชนกเดิน
“คุณก็รู้ว่าคุณไม่มีวันเอาชนะผมได้” แพทริคกัดฟันกรอดใจกระตุกวูบเมื่อสาวเจ้าเอ่ยว่าจะเอาลูกออกแต่คนอย่างเขาหรือจะให้เธอทำแบบนั้นง่ายๆว่าจบก็รวบอุ้มร่างบางเข้าไปในห้องนอนทันที“คุณมันโรคจิต” แพงขวัญต่อว่าแพทริคเสียงฝาดเมื่อเขาจับเธอมาขังไว้ในห้องนอนทั้งยังล่ามขาเธอด้วยโซ่เส้นใหญ่เพื่อให้เธอหนีไปไหนไม่ได้อีก“จะได้หนีผมไปเอาลูกออกไม่ได้ไง...บอกแล้วไงว่าคุณไม่มีวันเอาชนะผมได้” "ฉันเกลียดคุณ...ได้ยินไหมว่าฉันเกลียดคุณ..ไอ้ไบโพล่า...อื้มมมม" แพทริคไม่ชอบคำว่าเกลียดเขาจากปากของหญิงสาวเท่าไรจึงเข้าไปบดจูบสั่งสอนเธอจนริมฝีปากห้อเลือดเพี๊ยะ “สกปรก..” เมื่อหลุดจากพันธนาการได้มือเรียวก็ยกฟาดแก้มสากไปเต็มแรงด้วยความโมโหและรังเกียจ“จะสกปรกแค่ไหนผมก็ยังเป็นผัวคุณ” “ฉันขอหย่า” “ได้..แต่วันที่คุณเซ็นใบหย่าพ่อคุณจะไม่เหลืออะไร” แพทริคมองหน้าหญิงสาวด้วยความไม่พอใจก่อนจะย้ำเตือนถึงอำนาจที่อยู่ในมือของเขา“ฮึก..ฮือๆๆ..อ๊ายยยย..ฮือๆๆๆ..อ๊ายยยยย..” แพงขวัญอาละวาดอย่างคนเสียสติเธอโมโหมากที่ดูจะเสียเปรียบแพทริคไปเสียทุกทางก่อนจะสลบไปบนเตียงนุ่มเพราะความเครียดและอ่อนเพลียที่ไม่ได้ทานอะไรตั้งแต่เมื่
RrrrrRrrrrr มนัญชนกรีบกดรับสายคนเป็นพ่อ“ค่ะคุณพ่อ...ค่ะหม่อนจะรีบกลับนะคะ” “มีอะไรเหรอ” “คุณพ่ออยู่ที่บ้านค่ะท่านจะมาทานข้าวเย็นกับฉัน” หญิงสาวไม่รู้ว่าทำไมพ่อเธอถึงมาหากะทันหัน“อืม...แล้วเรื่องเรา”“ค่ะ...ฉันจะไม่หลบหน้าคุณ” มนัญชนกรับปากชายหนุ่มเธอก็อยากจะพิสูจน์ด้วยเวลาต่อจากนี้เหมือนกันว่าที่เขาพูดกับเธอมามันจริงแค่ไหน“ขอบคุณนะครับ” คามินยิ้มอ่อนอย่างพึงพอใจอย่างน้อยต่อไปนี้เขาก็จะได้เจอเธอเหมือนเดิมแล้วแม้เธอจะไม่ไว้ใจเขาเหมือนเดิมก็ตามเขาจะพิสูจน์ให้เธอได้เห็นว่าคำพูดของเขาไม่ใช่เพียงลมปากแต่จะทำให้เธอได้เห็นจริงๆว่าเขานั้นจริงใจกับเธอชั่วโมงต่อมา ร่วมชั่วโมงกว่าคามินจะมาส่งมนัญชนกถึงบ้านเมือมาถึงหญิงสาวก็เหนว่าคนเป็นพ่อยืนรออยู่หน้าบ้านกับคนสนิทอีกสองสามคนแล้วจึงถือโอกาสนี้แนะนำให้คามินได้รู้จักพ่อของเธอเอาไว้หลังจากรู้จักกันเพียงแค่ชื่อมานานแล้ว“คุณพ่อฉันค่ะ...คุณพ่อคะนี่คุณคามินที่สอนฉันทำอาหาร” “สวัสดีครับยินดีที่ได้รู้จักนะครับ” คามินยื่นมือทักทายโทมัสอย่างเป็นมิตรเคยได้ยินชื่อเสียงทางธุรกิจของเขามานานวันนี้ก็ได้เจอตัวจริงเสียทีนับว่าเขายังดูหนุ่มแน่นกว่าที่เ